คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : 1-07 Episode 6
Chapter 1 – Land of Rebirth
Episode 6 การเจรจาครั้งสำคัญ
หญิงสาวกึ่งแมวที่เรียกตัวเองว่า มิยะ
นำทางผมมายังห้องหัวหน้ากิลด์ มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้คาดคิดไว้
ผมเลยรู้สึกทั้งยินดีและเสียใจนิดๆเกี่ยวกับมัน
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
เริ่มจากก่อนหน้านี้ วันที่เท็นไกอธิบายถึงความแตกต่างของโลกที่พวกเรากำลังอยู่กับโลกเดิมของพวกเรา
“…ถ้างั้น แล้วยังไงละ?”
ผมหลุดคำถามนั้นออกไป
สรุปแล้ว ผมที่คิดว่าน่าจะตายไปแล้วจากอุบัติเหตุ
อาจจะเกิดใหม่หรือไม่ก็กลับคืนชีพในร่างตัวละครที่ผมเคยเล่นในเกม!
แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมอดคิดไม่ได้จริงๆเลยว่าความเป็นจริงทั้งหมดนี้จะเป็นเกม
บางทีอาจเป็นเพราะธรรมชาติของโลกนี้จะคล้ายกัน?
ที่นี้อาจจะมีธาตุที่มากกว่า? ด้วยความสัตย์จริง ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถ้อยคำที่ไร้ความระมัดระวังนั้นหลุดออกมาจากปากผม
… อา แย่แล้วสิ! อย่างที่คิดเลย! เท็นไกกับคนอื่นๆต่างแสดงสีหน้าตะลึงออกมาในทันที
ต่อมา ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มกว้าง เขาโค้งตัวลงอย่างรู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
“แน่นอนขอรับ! นั่นเป็นเรื่องที่ถูกต้องอย่างแน่นอน!
ที่ของพวกเราคือข้างกายขององค์หญิงไม่ว่าจะเป็นที่ใดในจักรวาลนี้
เพราะฉะนั้น หน้าที่ของพวกเราคือผู้ช่วยของท่าน
พวกเราจะสังหารศัตรูทุกคนที่ขวางทาง! ต้องขออภัยด้วยองค์หญิง
ที่ท่านต้องมาเห็นการกระทำที่ไม่น่าดูของกระผม ผู้ไม่สามารถตระหนักถึงตรรกะอันชัดเจนนี้!” (TL: ดูเหมือนเจ้าตัวจะเข้าใจว่าฮิยูกิไม่แยแสที่ย้ายมาโลกใหม่
เพราะจะสู้แล้วขึ้นปกครองเหมือนที่เคยทำในเกม)
“ด้วยเลือด ด้วยลมหายใจ ด้วยวิญญาณ
ทุกสิ่งแด่องค์หญิง! พวกเราจะทุ่มเททุกสิ่งเพื่อฆ่าล้างศัตรูของท่าน!!!”
เหล่าผู้บัญชาการปีศาจร้องตะโกนเป็นเสียงเดียว
นะ นี่ มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน…?
เพราะไม่รู้ว่าโลกใบนี้เป็นยังไง
เลยตัดสินใจที่จะลองบุกเข้าไปดู จะได้รู้ว่าที่นี้มีมนุษย์แบบไหนอาศัยอยู่บนโลก
ความคิดแบบนี้อีกแล้ว!!
มันคงไม่ดีเท่าไร
ถ้าผมไม่เปลี่ยนทิศทางที่พวกเรากำลังจะมุ่งไป หรือถ้าผมไม่ระวังให้มากพอ โลกใบนี้อาจจะถูกทำลายลงไปได้
ซึ่งผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
สวิตซ์ระเบิดที่สามารถทำลายโลกได้อยู่ในมือผมแล้วสิ
“จะว่าไป
มันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆที่อารยธรรมของโลกนี้อย่างภาษาจะใกล้เคียงกับโลกเดิมของพวกเรา”
“ใช่
เกี่ยวกับเรื่องนั้นพวกเราได้ลองสืบดูแล้ว แต่ช่างน่าเสียดายที่มันไม่ได้คืบหน้าเท่าไร
กระผมรู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถรายงานสิ่งที่เป็นรูปธรรมแด่ท่านได้
องค์หญิง อย่างไรก็ตามด้วยความสัตย์จริง
มันเป็นจุดอ่อนของพวกเราในการแฝงตัวเข้าไปสืบค้นในสังคมมนุษย์ …”
ฟังคำของเขาแล้วผมก็ตระหนักได้ นี้ไงละ!
ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยโอกาสนี้ไปแน่
“เราเข้าใจแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะลงไปตรวจสอบความสามารถของมนุษย์กับปีศาจบนโลกนี้เอง”
“-ห๊ะ?!?”
เท็นไก มิโคโตะ อุสึโฮะ
ทั้งสามคนที่อยู่ใกล้ฉันถึงกับลืมคำพูดกันไปเลยทีเดียว
โคคุโย ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงจ้องมาที่ผมเงียบๆ
ความไม่เห็นด้วยฉายชัดบนใบหน้าเขา
“อย่าตื่นตกใจไปเลยน่า เรานะเคยอยู่กับพวกมนุษย์มาก่อน
เป็นแนวหน้าในการต่อสู้อยู่บ่อยๆด้วย เราไม่เหมาะสมที่จะไปกว่าหรืออย่างไร?”
ด้วยเหตุผลเท่านั้นน่าจะพอที่จะซื้อเวลาสักหน่อย
คนอย่างหัวหน้ากิลด์หรือกษัตริย์คงจะไม่ได้เข้าพบได้ง่ายๆ
และสำหรับผม
จะได้ออกห่างจากปีศาจพวกนี้สักหน่อย รู้สึกเหมือนได้ตะโกนว่า “ยะฮู!” ไม่มีผิด (อะ
อย่างน้อยนี้ก็คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ละ ผมคิด)
“ตะ แต่…”
“อย่ากังวลไป
เราแค่ต้องการยืนยันความสามารถของหัวหน้ากิลด์ไม่ก็กษัตริย์เท่านั้น มันไม่ได้ยากลำบากอะไรนักหรอก...
หรือว่าพวกเจ้าไม่เชื่อในความสามารถของเรารึ?”
◆◇◆◇
ด้วยเหตุผลนั้น
ผมจึงอยู่ระหว่างทางไปยังห้องหัวหน้ากิลด์
ห้องของคนที่มีอิทธิพลที่สุดในเมืองอาระแห่งนี้ มันช่างง่ายดายอย่างแท้จริง…
『อย่างที่คาดไว้เลย
องค์หญิง!
เป็นการเข้ามาในที่ซ่อนของศัตรูที่ง่ายดายถึงเพียงนี้ กระผม เท็นไก
ไม่อาจหยุดความรู้สึกชื่นชมที่มีต่อท่านได้เลยจริงๆ!』
เท็นไกที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับผมด้วยการใช้ฟังก์ชั่น pet
unison สรรเสริญผมอย่างกึกก้องอยู่ในตัวผม
… เพราะว่าเขาพูดอะไรอย่าง 『ที่ซ่อนของศัตรู』
ผมเลยอดสงสัยไม่ได้ว่าผมควรจะทำยังไงดี ถึงแม้จะไม่ได้พูด
ผมก็รู้ดีว่าเขาอยากจะฆ่าทุกคนที่นี้
เขาช่างเป็นคนที่ไม่น่ารักและรักสงบเอาซะละเลย
ไม่ว่าใครยกเว้นสหายของเจ้าหญิงคือศัตรู
และทางเลือกเพียง 2 ทางสำหรับศัตรูคือ
ยอมสยบหรือถูกทำลาย
ผมต้องแก้ไขความเข้าใจของเขาโดยเร็วที่สุด
แต่มาคิดดูอีกที มันเป็นเหตุผลในการดำรงอยู่ของสัตว์เลี้ยง
บางทีการแก้ไขมันอาจจะเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก เหมือนบอกให้สุนัขหยุดทำตัวเหมือนสุนัข
『เท็นไก
ตอนนี้เรากำลังตรวจสอบกำลังความสามารถของศัตรูให้มากที่สุด เราหวังว่าเจ้าจะระวังในคำพูดและการกระทำที่หุนหันพลันแล่นมากกว่านี้』
ถึงอย่างนั้น
ผมก็เตือนเขาในเรื่องนี้อย่างละม่อม
『ขอรับ!
เดิมพันด้วยดวงตาคู่นี้กระผมจะไม่กระทำสิ่งที่เป็นการเสื่อมเสียเกียรติของท่านอย่างแน่นอน!』
…ผมรู้สึกว่าความหมายของคำเตือนของผมจะส่งไปไม่ถึงเขา
แต่บางทีผมอาจจะคิดไปเอง
ลองคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ความรับผิดชอบย่อมตกเป็นของผม
ดังนั้นการพูดว่า 『อย่าทำตัวหุนหันพลันแล่น』ก็เป็นเรื่องที่รับได้
แต่ถ้าผมพูดว่า 『คุณไม่เป็นมิตรเกินไป』เขาคงไม่คิดว่าผมกำลังหวาดระแวงและตั้งคำถามเกี่ยวกับความยับยั้งชั่งใจของเขาหรอกหรือ?
ภายในห้องหัวหน้ากิลด์ มีโต๊ะสำนักงาน
ชั้นหนังสือและโซฟารับแขกตั้งอยู่ด้านหน้า ห้องนี้ดูเรียบร้อยอย่างคาดไม่ถึง
เมื่อผมเข้าไป ผมก็สังเกตเห็นที่ทั้งสองข้างของประตูมีคนท่าทางแข็งแรงยืนอยู่
2
คนดูท่าทางจะเป็นยาม
และที่ด้านหน้าของโต๊ะสำนักงานมีใครบางคนที่ให้ความรู้สึกว่า 『เขานี่ละคือหัวหน้ากิลด์』ชายคนนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและแผลเป็นบนใบหน้าดูแล้วน่าจะประมาณ
50
ปี ส่วนชายหนุ่มร่างบางที่ดูประมาณ 35 ปีที่สวมแว่นดูเหมือนจะเป็นเลขาของเขา
“หัวหน้า ฉันพาแขกมาแล้ว”
พยักหน้าให้กับคำทักทายของมิยะ
ก่อนชายร่างบางจะก้าวออกมาพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้
“ยินดีที่ได้พบนะ คุณหนู ผมชื่อ คอนราด หัวหน้ากิลด์เมือง”
ส่วนตาลุงกล้ามก้าวตามมาทีหลัง
“เช่นกัน ฉันเป็นรองหัวหน้ากิลด์ เกาว์ ”
โอ ฉันคิดว่าเขาเป็นหัวหน้ากิลด์ซะอีก
ดูเหมือนฉันจะเผลอแสดงสีหน้าประหลาดใจออกไป
รองหัวหน้ากิลด์ เกาว์ จึงปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก
“ดูเหมือนเธอจะเข้าใจผิดแล้วละ คุณหนู
กิลด์เป็นงานที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับข้าราชการ ดังนั้นคนที่เติบโตมากับภาคสนามแบบฉัน
อย่างดีก็เป็นได้แค่รองหัวหน้ากิลด์เท่านั้นละ”
“อา มันก็ไม่เชื่อจริงๆนั่นละ ฉันเองก็เพียงแค่เด็กคนหนึ่ง
ดูเหมือนว่าการดูแลกิลด์จะค่อนข้างหนักเกินไป ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ
เกาว์-ซังแท้ๆที่ทำให้ผมสามารถทำได้นะ”
“ฮะฮะฮะ” -หัวหน้ากิลด์ คอนราด ยิ้มออกมาอย่างเขินๆ
ถ้าจะให้พูดความรู้สึกของผมในตอนนี้ละก็
นี้คงเป็นสถานการณ์ที่ผมควรรู้สึกสะเทือนใจ
หรือไม่ก็ผมควรจะรู้สึกสงสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่สามารถหลอกผมได้หรอก
เพราะผมมองดูไปที่หน้าต่างสถานะของเขาแล้ว คอนราดเป็นนักเวทย์เพราะอย่างนั้นเขาถึงอาจจะล้มรองหัวหน้ากิลด์ได้
ถ้าพวกเขาสู้กัน
อา สำหรับตอนนี้ผมรู้สึกสบายจริงๆ
หมายถึงตอนนี้ผมนั่งอยู่บนโซฟารับแขก
ถัดจากผมไปคือโจอี้
ที่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความตึงเครียด ด้านตรงข้ามของโต๊ะกาแฟสีขาวคือที่นั่งของหัวหน้ากิลด์
คอนราด และรองหัวหน้ากิลด์ เกาว์
“อา ต้องขอโทษด้วยสำหรับคำเชิญด่วนแบบนี้
มันมีปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับ....” “โจอี้” “คำขอของโจอี้-คุง”
มิยะ-ซังรีบพูดแทรกคำพูดของหัวหน้ากิลด์ คอนราด
“ฉันทำอะไรผิดงั้นหรอ?”
แสดงออกไปทื่อ
ผมถามคำถามอย่างจงใจให้มองว่าเป็นเพียงเด็กน้อยไร้เดียงสาที่ไม่เคยรู้อะไรเลย
“จากสิ่งที่ได้ยินมา
คำขอของเธอคือคุ้มครองจากดินแดนร้างทางทิศตะวันตกของเมืองอาระและพาชมภายในเมืองนี้สินะ....
เธอคิดไว้ว่าจะใช้เวลาเท่าไรสำหรับมัน?”
ตอนนั้นผมเหลือบมองไปด้านหลังของเขาแล้วหยักไหล่เบาๆเป็นคำตอบ
“อืม บางทีอาจจะ 2-3 วัน”
“…ตามที่ว่า รางวัลคือ 10 เหรียญทองกับอีกหนึ่งเหรียญโฮริฮารูกอน?”
“มากเกินไปแล้ว!!”
รองหัวหน้ากิลด์ เกาว์ งึมงำ ถัดจากผม โจอี้ตัวสั่นเทา
“เจ้าหนุ่ม นายยังอยู่ Rank F สินะ? ตอนนี้รางวัลสำหรับ Rank นี้อยู่ประมาณ… ” “รางวัลโดยเฉลี่ยคือ 2 เหรียญเงินและรางวัลเพิ่มเติมตกอยู่ประมาณ 80 หรือมากกว่าเหรียญทองแดง”
รองหัวหน้ากิลด์
เกาว์หยักหน้าแข็งๆให้คำอธิบายของมิยะ-ซัง
“นายเข้าใจหรือเปล่า เจ้าหนุ่ม?!
นี่มัน 10เหรียญทองกับอีกหนึ่งเหรียญโฮริฮารูกอนเลยนะ!
มันเป็นรางวัลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เงินขนาดเท่านี้สามารถซื้อดินแดนเล็กๆกับข้ารับใช้ได้มากมายเลยนะ!”
“เอ๋?…เห้…???”
สถานการณ์เช่นนี้ โจอี้ไม่เข้าใจคำอธิบายเลย
เขาทำได้เพียงแค่ตะโกนออกมาด้วยเสียงสูงๆ เหงื่อเย็นไหลลงมาจากใบหน้าที่เปลี่ยนสี
หัวหน้ากิลด์ คอนราดพูดต่ออย่างใจเย็น
“ไม่ต้องห่วงมันไม่ได้ส่งผลอะไรต่อกิลด์
มันแค่อาจจะถูกจัดเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีและแสดงพวกเราในแง่ไม่ดีต่อสายตาสังคมประมาณว่า
กิลด์นักผจญภัยหลอกเอาเงินก้อนโตจากคุณหนูที่ไร้เดียงสา และโดยปราศจากข้อยกเว้น
มันจะแพร่กระจายชื่อเสียงที่ไม่ดีออกไป
เมื่อถึงตอนนั้นฉันเชื่อว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นักกับโจอี้-คุงเช่นกัน นายคงไม่สามารถอาศัยอยู่กับกิลด์ได้ถ้าทำอะไรที่ส่งผลต่อชื่อเสียงแบบนั้น
บางทีอาจจะมีคนเล็งไปที่เงินหรืออย่างแย่ที่สุด อาจรวมถึงชีวิตด้วย”
เมื่อพูดในลักษณะที่โจอี้เข้าใจได้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือกในทันที
“ด้วยเหตุผลนั้น ด้วยความหวังดีของกิลด์
ฉันหวังว่าโจอี้-คุงจะคืนค่าจ้างแก่คุณหนูและให้คุณหนูแจ้งคำขอใหม่ในราคาที่เหมาะสม
ถ้าเป็นกรณีนี้คุณหนูก็จะให้เป็นคะแนนกิลด์แก่โจอี้-คุงแทน ถ้าคุณหนูไม่พอใจกับเรื่องนี้
เธอสามารถมาหาเราและตกลงใหม่ได้ ว่าอย่างไรบ้างครับ?”
“-ฉะ ฉันจะคืนมัน! ฉันไม่ได้มีข้อชัดแย้งอะไร…ฮิ-ฮิยูกิ ขอโทษนะ ฉัน…”
ทั้งน้ำตานองหน้า
โจอี้เอาเหรียญออกมาจากกระเป๋าอย่างหวาดกลัวแล้ววางมันลงบนโต๊ะ
ทันใดนั้นผมเห็นดวงตาของคอนราดกับเกาว์เปล่งแสงอันตรายหลังจากเห็นประกายของเหรียญเหล่านั้นที่หลอมขึ้นด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน
“โจอี้เข้าใจดีแล้วเธอจะเอาอย่างไรละ
คุณหนู?”
คอนราดพูดจาด้วยเสียงสุภาพนุ่มนวลไม่เปลี่ยน
คิดถึงจุดประสงค์ของเขาแล้ว ผมก็แสดงท่าทีขบคิดด้วยการวางกำปั้นไว้ใต้คาง
“สำหรับฉัน ฉันได้ให้คำพูดไปแล้ว
การรับเงินคืนก็เหมือนเป็นการกลับคำพูด ซึ่งเป็นการทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรีของฉัน
เพราะอย่างนั้นฉันคงต้องปฏิเสธละนะ”
คนเราไม่ควรกลับคำพูด
แต่อย่างไรก็ตอนนี้มันก็คือการยกเลิกทางธุรกิจ คิดว่านะ
ฟังคำพูดผมแล้ว โจอี้ก็เปิดปากพะงาบๆ
ท่าทางจวนจะเป็นลมเหมือนปลาขาดออกซิเจน ทั้งคอนราดและเกาว์จมสู่ความเงียบ
ใบหน้าแข็งทื่อ
“…ไม่มีทางที่เธอจะเปลี่ยนการตัดสินใจเลยหรือ?
ฉันเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งกับคนที่ถือสถานะทางสังคมแบบเธอ
อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ยอมเสียคำพูดนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกนะ”
『กรอด!
พวกเจ้ากล้าหมิ่นเกียรติองค์หญิง!』
ผมจำเป็นต้องหยุดเท็นไกที่กำลังจะใช้กำลัง
『การเจรจาเพิ่งเริ่มต้น
เราไม่โกรธกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้หรอก เท็นไก』
“หืม ฟังดูแล้ว มันค่อนข้างจะหยาบคายกับฉันที่เป็นหนี้บุญคุณโจอี้
ถ้าหากว่าเขาไม่ได้รับอะไรเลย …”
“ถ้าสำหรับเรื่องนั้น…”
มิยะ-ซังกล่าวแทรกขึ้นมาหลังจากเงียบฟังการสนทนามาโดยตลอด
“โจอี้-คุงไม่ได้รับการฝึกฝนของนักผจญภัยหรือศาสตร์การใช้ดาบมากนัก
ถ้าหากว่าเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้าโรงเรียนฝึกฝนนักผจญภัยแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย คิดว่าเป็นยังไง?”
“ห๊ะ? เธอหมายความว่าไงนะ?”
เกาว์นิ่วหน้าด้วยความงุนงง
“นี่คือหนทางที่เป็นไปได้
ในเมื่อคุณหนูท่านนี้ไม่ต้องการรับเงินรางวัลคืน
เงินส่วนนั้นก็จะตกอยู่ในการดูแลของธนาคารกิลด์เรา
ดอกเบี้ยจากเงินจำนวนนั้นคงจะมากอยู่ไม่ใช่น้อย
เพื่อชดเชยแทนเงินรางวัลตามปกติ
โจอี้สามารถเข้ารับการฝึกที่โรงเรียนฝึกฝนของกิลด์จนกว่าเขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ได้
ค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าฝึกนั้นให้ใช้ดอกเบี้ยจากรางวัลที่ว่า
เมื่อเวลามาถึงตอนที่เขาโตเป็นผู้ใหญ่- แน่นอนว่าเป็น Rank D
พวกเราจะคืนเงินรางวัลแก่คุณหนู ถ้าเป็นเงื่อนไขแบบนี้
เธอจะพอตัดสินใจตกลงไหม?”
“เข้าใจแล้ว นั่นไม่เลวเลย”
สัญญานี้ไม่เลวเลย
มิยะ-ซังดูจะเป็นพวกคิดเร็วไม่น้อย ช่างน่าเสียดายจริงๆ
หัวหน้ากิลด์ คอนราด
เองก็แสดงท่าทีเห็นด้วยเช่นกัน
“พวกเราไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น
แล้วโจอี้-คุงคิดว่ายังไง?”
“นะ แน่นอน ฉันตกลง!”
“เจ้าหนุ่ม อย่ายอมแพ้ในการฝึกซะละ!
สู้เข้าไว้!”
โจอี้พยักหน้ารั่วๆ รองหัวหน้ากิลด์ เกาว์ พูดกับเขาพลางยิ้ม
“เอาละ
ในที่สุดเรื่องทั้งหมดก็จบลงด้วยดี ฉันรู้สึกโล่งอกจริงๆ อา จริงสิ
แล้วนี่คุณหนูมีที่พักแรมสำหรับคืนนี้หรือยังละ?”
“ไม่ ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ”
“นั่นไม่ค่อยดีเท่าไร มิยะ-ซัง
อาจเป็นการรบกวน แต่ช่วยจัดที่พักให้คุณหนูท่านนี้หน่อยแล้ว”
“-เอ๋!?”
“ทำไมถึงร้อง「เอ๋」อย่างนั้นละ?
อย่าบอกนะว่านายคิดจะให้คุณหนูท่านนี้ไปพักในโรงแรมถูกๆนะ?”
“เอ๋?! เออ ไม่...
นั่นมัน …”
ดูเหมือนว่าโจอี้จะวางแผนไว้อย่างนั้นจริงๆ เขาก้มหน้าลงขณะพูดติดอ่าง
“นายจะโง่หรือไง!? นายคิดว่าจะปกป้องเธอได้ยังไงเมื่อนายเป็นคนพาเธอไปอยู่ในที่อันตรายแบบนั้นนะหา?!
แน่นอนว่าไม่ได้! นายไม่สามารถทำอะไรแบบนั้นได้หรอก!
…อา พอเถอะ ที่พักคืนนี้ของคุณหนูให้มิยะ-ซังจัดการแล้วกัน
กลับบ้านแล้วค่อยมาทำขั้นตอนร้องขอใหม่พรุ่งนี้!”
ได้ฟังเสียงรองหัวหน้ากิลด์ เกาว์สั่งแล้ว
โจอี้ก็ลุกขึ้นและโค้งให้คอนราดกับเกาว์
จากนั้นเขาก็หันมาหาผมด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้
“แล้วเจอกันนะ ฮิยูกิ
ขอโทษสำหรับวันนี้ด้วยนะ พรุ่งนี้ฉันจะมาพาเธอไปดูรอบๆแน่นอน”
“อืม ฉันจะคอยนะ”
โจอี้ก้มหัวของเขาอีกครั้งแล้วเดินจากไปพร้อมมิยะ-ซังที่ได้รับมอบหมายให้จัดที่พักให้ผม
หลังจากทั้งสองคนเดินหายไป
รองหัวหน้ากิลด์ เกาว์ก็ลุกขึ้นเดินไปล๊อคประตูห้องจากด้านใน
เอาละ
ในที่สุดก็ได้เวลาคุยธุระจริงๆกันซะที …
End
Author Notes
ฮิยูกิรู้สึกว่าการที่เธอเถียงไปเถียงมากับคุณหัวหน้ากิลด์เป็นอะไรที่น่าขำมาก
ดังนั้นเธอเลยนั่งขำเกือบตลอดการเจรจา
ในตอนแรกฉันวางแผนให้ฮิยูกิอยู่กับโจอี้ที่โรงแรมราคาถูก
ที่มีเตียงแค่เตียงเดียว ให้ความต้องการทางเพศสู้กับความอยากอาหาร
แต่ฉันก็เปลี่ยนใจ
ความคิดเห็น