กลรักวังหลวง [서현]

โดย สุสานทางช้างเผือก

"ออกมานะ" "โอ๊ย" "นี่เจ้า... เจ้าเป็นผู้ชายรึ นี่มันที่พักของนางใน เจ้ากล้าบุกรุกเข้ามาได้อย่างไร ออกไปนะ ออกไปเดี๋ยวนี้" นางลากตัวเขาออกมาบริเวณที่มีแสงสว่างและทำให้เห็นฉลองพระองค์ซึ่งเขาสวมใส่อยู่ "น่ะ... นี่มันชุดองค์ชายนี่" "ใช่ ข้าคือองค์ชาย" "โกหก เจ้าขโมยชุดองค์ชายมาใส่ใช่รึไม่" องค์ชายกุมขมับ

อ่านนิยาย

รีวิวจากนักอ่าน

รีวิว

วีรสตรีหาญกล้า ปริศนาวังหลวง คำลวงกับอำนาจ และไฟแค้นที่อาจผลาญชีพ [วิจารณ์นิยายสไตล์ DarkFerret]

รีวิวถึงลำดับตอนที่ 65

เยี่ยมมาก

กลรักวังหลวง เป็นนิยายที่เล่าถึงหญิงสาวนาม ซอฮยอน ซึ่งโชคชะตานำพาให้เข้าวังหลวง จุดประสงค์หลักเพื่อแก้แค้นให้พี่สาวที่โดนใส่ร้ายและถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แต่ทว่าการเข้าวังหลวงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญภายในวังหลวงก็มีความลับดำมืดมากมาย อีกทั้งปริศนาต่างๆ ที่คอยให้เธอแก้ไข

มาเริ่มอ่านบทวิจารณ์กันเถอะ!

โครงเรื่อง

จากที่อ่านมาถึงปัจจุบัน เราว่าโครงเรื่องของกลรักวังหลวง ผู้เขียนได้วางแผนล่วงหน้าไว้จนจบแล้ว ปมต่างๆ ทั้งปมในใจของตัวร้าย การกระทำของตัวละครต่างๆ อย่างเชวซังกุงที่แรกๆ ชอบบ่นและด่าทอซอฮยอนก็มีเหตุผล หรือแม้แต่ตัวซอฮยอนเอง ที่เข้าวังมาก็มีจุดประสงค์หลักเพื่อจะแก้แค้น

แต่ครั้งนี้เราจะไม่พูดถึงข้อดีกัน จะมากล่าวถึงข้อเสียกันตรงๆ นะขอรับ

คือแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่สนุกและน่าติดตาม และประเด็นหลังของเรื่องนั้นก็คือนางเอกเข้าวังเพื่อมาแก้แค้นให้พี่สาวของตัวเอง แต่แทนที่ส่วนนี้จะกลายเป็นพล็อตหลังของเรื่องที่ดูเด่นชัด ทว่ากลับถูกพล๊อตรองอย่างการไขคดีต่างๆ ในวังหลวงมากลบจนเกือบลืมไปเลยว่านางเอกเข้าวังมาจริงๆ นั้นมีจุดประสงค์อย่างไร แต่ถึงกระนั้นผู้เขียนก็ยังพยายามเขียนบอกเราเรื่อยๆ ถึงความแค้นของนางเอกที่มาเป็นช่วงๆ เป็นการเตือนสติผู้อ่าน แต่มันก็ยังคงไม่เด่นอยู่ดี

ข้อต่อมา ในส่วนที่ตระกูลคิมกับตระกูลซินนั้นเป็นศัตรูกัน ตอนแรกๆ เรื่องนี้เด่นชัดมาก แต่หลังๆ ก็โดนกลบด้วยการสืบสวนและช่วยเหลือวังหลวงของซอฮยอนเช่นกัน

อย่างสุดท้ายคือความรัก เรื่องนี้แม้ชื่อเรื่องจะเป็น กลรักวังหลวง แต่เรื่องความรักนั้นสำหรับผู้วิจารณ์ไม่ใช่เรื่องหลักเลย แต่หลักๆ จะเป็นการแย่งชิงอำนาจและการแก้ไขเรื่องต่างๆ เสียมากกว่า ใครที่หวังเรื่องความรักหวานแหววนั้น ถึงจะมีให้ฟินจิกหมอน แต่ก็ไม่ได้มีมาตั้งแต่ตอนแรกๆ แน่นอน แต่ขอบอกว่าบทจะฟินก็ฟินจริงๆ

สำหรับในส่วนการสืบสวนนั้นผู้เขียนทำออกมาได้ดีมาก มีการวางแผนต่างๆ อย่างลงตัว

ตัวละคร

ข้อดีของเรื่องนี้คือ ตัวละครล้วนมีอารมณ์หลากหลายตามสถานการณ์ ทั้งรัก โลภ โกรธ หลง ทำให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ในตัวละครนั้นๆ และตัวละครก็ไม่ใช่โง่เง่าเต่าตุ่น ที่จะรักกันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่ส่วนใหญ่จะฉลาดหลักแหลมจนบางทีก็คาดไม่ถึง

ข้อเสีย ตัวละครนั้นมีเยอะมากและบางตัวละครนั้นอารมณ์และนิสัยสุดขั้วเกินไป อย่างซงฮวัน ตัวร้ายขวัญใจ(?)ของเหล่าผู้อ่าน ที่แน่ใจได้ว่าขึ้นแท่นเป็นนางร้ายอันดับ 1 ของเรื่อง นางเป็นตัวละครที่ร้ายสุดขั้ว คือร้ายจนเกินไปชนิดที่ว่าแทบมองไม่เห็นความดีเลย (ยกเว้นความภักดีที่มีให้เซจีกับเจ๊คิม) ซึ่งตอนแรก คนอ่านจะคิดว่าคิมซังกุงนั้นร้ายมากแล้ว แต่คิมยังมีพื้นหลังที่สั่งสมมาจนเกิดความร้ายในปัจจุบัน แต่สำหรับซงฮวันคือเหมือนร้ายมาแต่กำเนิดอย่างไรอย่างนั้นเลย

ข้อเสียอีกอย่างคือหน้าตา กับลักษณะต่างๆ ของตัวละคร จะมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่บอกเจาะจงว่าลักษณะเป็นยังไง อย่างองค์ชายยิมโฮ ซึ่งบอกถึงสีผิวและหน้าตา แต่ตัวละครอื่นกลับไม่ค่อยบอกเลย โดยเฉพาะสาวๆ อาจจะทำให้คนอ่านจินตนาการภาพไม่ออกนัก แต่ก็ยังมีข้อดีมาหักล้างกัน นั่นคือเครื่องแต่งกายที่บรรยายให้เห็นเด่นชัด ซึ่งถือว่าดีมากๆ

การใช้ภาษา

สำหรับการใช้ภาษาจะไม่ขอติเตียนอะไรมาก เพราะไรต์คนนี้พัฒนาการการเขียนดีขึ้นมาจากเรื่องก่อนๆ การบรรยายลื่นไหล แต่บทพูดในบางตอนอาจจะเยอะกว่าบทบรรยายไปบ้าง และในบางตอนอาจจะบรรยายเยอะจนเกินไป มีมุกตลกสอดแทรกตลอดด้วย

ส่วนการจัดหน้านิยายนั้นดีแล้ว ขอให้ทำแบบนี้ต่อไปนะ

แต่เราจะมาพูดถึงคำผิดกันสักนิด ตอนหลังๆ เราพบว่ามีคำผิดเยอะขึ้น แต่ไม่ได้เยอะจนน่าเกลียด มีไม่ถึง 5 จุดด้วยซ้ำ ขอให้คงการเขียนให้มีคำผิดน้อยๆ ต่อไปนะครับ

ในด้านภาษา เรื่องนี้จะไม่ผิดหวังเลย

แก่นเรื่อง

โดยส่วนตัว หลังจากที่อ่านมากว่า 60 ตอนแล้ว เราคาดว่าผู้เขียนอยากจะสื่อถึงวัฒนธรรมของเกาหลีในยุคโชซอน ซึ่งทำออกมาได้ดีแล้วละ ทั้งวัฒนธรรมของนอกวังและในวังที่แตกต่างก็เห็นได้ชัด อย่างเรื่องวรรณกรรม ซึ่งคนในวังไม่สามารถอ่านหนังสือของไพร่ได้ และระเบียบอันเคร่งครัดต่างๆ ของวังหลวง อ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู้เพิ่มเติมมากมายเลย

ท้ายที่สุด อีกอย่างที่เราได้จากเรื่องนี้คือการกระทำของตัวเรา นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการกระทำนั้นมีผลต่ออนาคตเสมอ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันจะส่งผลถึงเราเสมอนั่นแหละ รวมถึงสอนให้เราระวังตัวตลอดเวลาในสังคม วังหลวงอาจเปรียบได้เหมือนสังคมในปัจจุบัน ที่ทั้งอันตรายและต้องเอาตัวรอดให้ได้นั่นเอง

จบไปแล้วกับบทวิจารณ์สไตล์ DarkFerret Studio (A.H.Apyn) ทั้งนี้ทั้งนั้น มีข้อผิดพลาดอะไร ขออภัยด้วยนะ~

ป.ล. ใจจริงอยากให้ 9.5 คะแนน แต่มันมีแค่ 9 เอา 9 ไปก่อนนะจ๊ะ

reviewer author
@เพียงพอนสีหมอก
15 ก.ค. 62 / 08:11 น.

0