ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกร็ดความรู้นิดๆหน่อยๆ

    ลำดับตอนที่ #26 : เครื่องสำอางจากเปลือกเงาะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 298
      0
      16 ก.ย. 52

    เครื่องสำอางจากเปลือกเงาะ

    นักวิจัยค้นพบเปลือกเงาะมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระตัวต้นเหตุความแก่ชรา

    เดินหน้าพัฒนาเทคนิคสกัดสารให้บริสุทธิ์ป้อนโรงงานเครื่องสำอาง

    ฝีมือครั้งนี้เป็นของ รศ.ดร.ศิริพร โอโกโนกิ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของงานวิจัยเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระจากสมุนไพรไทย เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ในการสกัดสารอนุมูลอิสระจากเปลือกผลไม้ ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เปิดเผยว่า จากการศึกษาในเบื้องต้นพบเปลือกเงาะมีสารสำคัญซึ่งมีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระสูงสุด และมีพิษต่อเซลล์ร่างกายน้อยมากเมื่อเทียบกับเปลือกผลไม้ชนิดอื่นๆ

    "สาเหตุที่เลือกทำวิจัยกับเปลือกผลไม้ เพราะต้องการแก้ปัญหาขยะล้นเมืองซึ่งทางแก้ส่วนใหญ่ในขณะนี้มักจะนำไปทำปุ๋ยหมัก แต่เราคิดว่าน่าจะสามารถสกัดสารจากเปลือกผลไม้มาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ จึงทดลองศึกษาในเปลือกผลไม้หลายชนิดที่มีการบริโภคมากที่สุดได้แก่ มะพร้าว มังคุด แก้วมังกร ลองกอง กล้วยน้ำว้า เงาะ เสาวรส และทับทิม" หัวหน้าทีมวิจัยกล่าว

    สารสำคัญที่นักวิจัยพบในเปลือกผลไม้เป็นสารประกอบในกลุ่มโพลีฟีโนลิก (polyphenolic) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันการสะสมสารอนุมูลอิสระโดยหากร่างกายมีการสะสมสารอนุมูลอิสระมากเกินไป ก็จะก่อให้เกิดภาวะแก่ก่อนวัย หรือบางรายร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งได้ เนื่องจากสารอนุมูลอิสระเมื่อไปจับกับเซลล์ชนิดอื่นๆ ในร่างกายก็จะทำลายเซลล์นั้นๆ หรือเกิดภาวะการแบ่งตัวมากผิดปกติ เช่น หากไปจับกับเซลล์โปรตีนหรือคอลลาเจนที่ผิวหนัง ก็จะเกิดการแบ่งเซลล์มากผิดปกติ จนทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น เป็นต้น

    ในการวิจัยพบว่าสารสกัดจากเปลือกผลไม้แต่ละชนิดมีฤทธิ์ในการต้านสารอนุมูลอิสระแตกต่างกัน โดยเปลือกมังคุด เปลือกทับทิม และเปลือกเงาะ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด และผลจากการตรวจสอบในขั้นต้นพบว่าสารอนุมูลอิสระที่พบในเปลือกผลไม้ทั้ง 3 ชนิด นั้นอยู่ในกลุ่มโพลีฟีโนลิก แต่เมื่อนำมาทดสอบความเป็นพิษกับเซลล์เม็ดเลือดขาวปกติในหลอดทดลอง พบว่าเปลือกมังคุดมีสารที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ปกติอยู่มาก ส่วนเปลือกทับทิมจะมีสารที่เป็นอันตรายรองลงมา และเปลือกเงาะพบสารที่เป็นอันตรายต่อเซลล์ปกติน้อยมาก

    ทั้งนี้ การที่เปลือกมังคุดมีสารที่เป็นพิษอยู่มากอาจเพราะตัวทำละลายเอทานอลได้สกัดเอาสารส่วนอื่นๆ ซึ่งไม่ต้องการออกมาด้วย

    ดังนั้น ทีมวิจัยจึงกำลังพัฒนากระบวนการสกัดเพื่อให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระที่บริสุทธิ์มากขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนตัวทำละลาย และเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดและคัดแยก คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2549

    "ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวิจัยเบื้องต้น ยังไม่เสร็จทั้งโครงการ แต่เชื่อได้ว่าสามารถใช้สารตัวนี้ทดแทนสารนำเข้าได้ เพราะสารที่มีฤทธิ์เหมือนกันนี้น้ำหนักเพียง 1 มิลลิกรัม มีราคาเกือบหมื่นบาท ขณะที่วัตถุดิบเปลือกเงาะของเราได้มาฟรีๆ เป็นขยะที่ไม่มีใครต้องการแล้ว" รศ.ดร.ศิริพรกล่าว

    เมื่อวันที่ 2006-07-04  โดย designcolumn

    ที่มา http://www.pookpun.com/phpfile/showsearch.php?bkid=18&groupb=3
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×