ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อาณาจักรพฤกษามหาเวท (ออนไลน์)

    ลำดับตอนที่ #5 : การต่อสู้ของแต่ละคน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.48K
      28
      5 ก.ย. 56

    การต่อสู้ของแต่ละคน

     


     

              ทุกคนที่เห็นจะต้องมองแล้วซุบซิบอย่างแปลกใจ แต่ถ้าคนไหนรู้จักเขาก็จะเข้ามาทักทาย ซึ่งก็มีน้อยคนนักเพราะอนันต์จะเป็นที่รู้จักเฉพาะระดับหัวหน้าหน่วยของกิลด์ดังๆ ขึ้นไปเท่านั้น แต่ทำไมเขาต้องซุบซิบด้วยละ ก็แหงละใครเขาจะเลี้ยงหมาป่าเลือดซึ่งมีเลเวลไม่สูงนักเป็นสัตว์เลี้ยงกัน มันต้องตัวเก่งๆ หรือไม่ก็ต้องบอส แล้วเวลาเข้าเมืองส่วนใหญ่เขาก็มักจะผนึกสัตว์อสูรกัน เพื่อเก็บไว้เป็นความลับไม้ตายไม่ให้ใครรู้ นอกจากผู้ที่มีสัตว์อสูรระดับบอสที่ต้องการโชว์และไม่กลัวใครจะรู้ ไม่ค่อยมีใครปล่อยให้เดินตามเป็นฝูงอย่างนี้ แต่แน่ละเขาจะผนึกมันได้อย่างไรมันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของเขาสักหน่อย


     

              เขาเข้าเมืองมาในวันเริ่มแข่งขันพอดี โดยวันก่อนหน้าวันแข่งเขาเดินเก็บสมุนไพรอยู่บริเวณนอกเมืองใกล้ๆ บางครั้งก็ทดลองเวทย์ง่ายๆ กับสัตว์อสูรแถวนั้น ตกเย็นๆ ก็นำเอาไอเทมที่ผลิตจากพืชอสูรออกจำหน่าย ซึ่งราคาที่ไม่แพงมากนักและคุณภาพเข้าขั้นดีมาก ทำเอาลูกค้าแย่งกันซื้อแบบไม่ต้องมีการจ้องมองให้เสียเวลา


     

              ผู้สมัครที่ลงชื่อไว้ ขอให้มารวมกันที่นี่นะคะ อีกประเดี๋ยวเราจะเริ่มแข่งขันกัน โดยผู้สมัครที่อยู่ที่นี่เท่านั้นจะถูกเคลื่อนย้ายไปเข้าสนามประลอง ทุกสิ่งสามารถนำเข้าไปในสนามประลองได้ แต่เฉพาะการโจมตีด้วยเวทย์เท่านั้นที่จะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บ และเวทย์ที่จะใช้ได้ก็จะถูกจำกัดให้ใช้ได้แต่เฉพาะเวทย์ตามคลาสที่กำหนดไว้เท่านั้นนะคะ และท่านใดสามารถเอาชนะผู้อื่นได้ครบ 10 คนจะถือว่าผ่านรอบนี้ จะถูกส่งตัวออกไปอยู่ที่ห้องรับรองผู้แข่งขัน ขอให้ทุกท่านเตรียมความพร้อมไว้ตลอดเวลานะคะ” พนักงานลงทะเบียนอธิบายเงื่อนไขเสียงดังได้ยินไปทั่ว ทุกคนต่างพากันชักดาบ กระชับไม้เท้า บางคนก็ร่ายเวทย์เตรียมไว้ อนันต์ส่งกระแสความคิดบอกไม้เท้าเวทย์มนต์ และหนามให้เตรียมตัว


     

              ฟุ่มๆๆ” เสียงทุกคนที่ร่วมแข่งประเภทบุคคลทั่วไป สุ่มปรากฏบนพื้นที่ขนาดใหญ่ มีผู้ชมแน่นขนัดรายล้อมอยู่บนอัฐจรรย์ พวกเขาแต่ละคนจะถูกสุ่มให้อยู่ห่างกันไม่น้อยกว่า 10 เมตร อนันต์เปลี่ยนกระแสวิญญาณแห่งพิภพให้กลายเป็นหมอก พลางหลีกออกไปจากตำแหน่งเดิม รับรู้ถึงกระแสพลังเวทย์จากสามทิศทาง กระแทกใส่พื้นบริเวณที่เขายืนอยู่เดิมอย่างแม่นยำ


     

              ตูมๆ เปรี้ยะๆๆ ครืดดด” ไม่ทันสิ้นเสียงโจมตี หมาป่าเลือดที่ถูกควบคุมทั้งแปดตัวก็พุ่งตัวออกไปรอบข้างกระโจนคร่อมตัวผู้เล่นรอบข้างให้ล้มเสียหลัก หรือไม่ก็กัดเพื่อให้อีกฝ่ายใช้เวทย์ไม่ได้ ชายหนุ่มในหมอกทึบเสกตัวต่อออกมาทีละตัวอย่างรวดเร็วและชำนาญ มันพุ่งเข้าไปต่อยทุกคนที่อยู่รอบข้างในระยะ ทำให้บ้างก็ติดพิษ บ้างก็โดนยาสลบ บ้างก็โดนไฟ สายฟ้า น้ำแข็ง บางคนคิดจะเข้ามาหลบในหมอก แต่คิดไม่ถึงว่าในหมอกมียาสลบ จึงกลายเป็นลูกแกะรอให้เชือดอย่างง่ายดาย ไม่นานอนันต์ก็กำจัดผู้เล่นคนอื่นได้ครบ 10 คน เขาถูกเคลื่อนย้ายออกมาในทันที


     

              ฟุ่บ” อนันต์พบตัวเองอยู่ในห้องพักรับรอง พร้อมหมาป่าทั้งแปด มีผู้เล่นบางคนยืนอยู่ก่อนหน้าแล้ว ไม่นานก็มีผู้เล่นโผล่เข้ามาเรื่อยๆ จนเต็มห้อง บางคนก็เข้ามาในสภาพบาดเจ็บหนักซึ่งก็จะฟื้นฟูสภาพอย่างรวดเร็วด้วยประสิทธิภาพของห้องรับรอง


     

              ผู้เข้ารอบส่วนใหญ่กำลังมองผ่านวงเวทย์ถ่ายทอด ซึ่งกำลังถ่ายทอดการต่อสู้ในสนามของผู้เล่นคลาสอื่นๆ ให้ชม เวทย์ที่แต่ละคลาสใช้นั้นยิ่งคลาสสูงยิ่งอลังการ และยิ่งมีคนน้อยลง ส่วนที่พวกเขานี้ มีผู้เข้าร่วมกว่าหมื่นคนซึ่งขณะนี้ก็เหลือกันเพียงประมาณพันกว่าคนจากการคัดเลือกสุดมั่วนี้ อนันต์เห็นผู้เล่นที่ใช้เนโครโกเลมทำร้ายเขาที่เมืองฟอร์มเข้าแข่งขันในคลาสสุดท้ายด้วย แน่ละคนผู้นี้เป็นคนหนึ่งที่เข้ารอบต่อไปอย่างง่ายดาย


     

              สวัสดีค่ะ ขอแสดงความยินดีกับท่านนักเวทย์สมัครเล่นทุกท่านที่ผ่านเข้ารอบค่ะ มีผู้ผ่านเข้ารอบนี้ 1,153 คน กติกาในรอบนี้ก็คือ ทุกท่านจะต้องจัดการกับผู้เข้าแข่งขันอื่นให้ครบ 10 คนเช่นเดิมจึงจะถูกนำตัวกลับมาในห้องรับรองแห่งนี้ มีเวลาจำกัด 3 ชั่วโมง การแข่งขันรอบนี้พื้นที่เป็นเกาะขนาดใหญ่ ภูมิประเทศเป็นป่าและภูเขา มีสัตว์อสูรระดับต่ำอยู่ประปราย การต่อสู้ด้วยเวทย์มนต์เท่านั้นที่มีผลต่อคู่ต่อสู้ ยกเว้นการโจมตีของสัตว์อสูรบนเกาะที่จะเป็นเวทย์มนต์หรือไม่ก็ได้


              ทุกท่านจะถูกส่งเข้าไปบนเกาะด้วยชุดมือใหม่ ยาฟื้นพลังชีวิตระดับต่ำ 10 ขวด ไม่มีอาวุธและสิ่งใดที่จะพาเข้าไปได้ การแข่งขันจะเริ่มใน 10 นาที ดูจากเวลาที่นับถอยหลังบนจอภาพได้ค่ะ ขอให้โชคดีทุกท่านค่ะ” เสียงเจื้อยแจ้วอธิบายอย่างต่อเนื่องและชัดเจนทำเอาผู้แข่งขันหลายคนถึงกับเครียด มีบางคนที่เคยเข้าร่วมแข่งขันมาในครั้งก่อน ที่ดูเฉยๆ อนันต์นั่งเงียบตั้งสติเดินพลังปราณธรรมชาติอยู่เงียบๆ


     

              เมื่อเวลามาถึง ทุกคนก็ถูกส่งตัวออกจากห้องพร้อมๆ กัน เกาะมีขนาดใหญ่มากพอที่จะทำให้คนกว่าพันคนแทบจะไม่พบเจอกัน ยกเว้นบางคนที่ถูกสุ่มส่งตัวมาอยู่ใกล้ๆ กันเท่านั้น


     

              อนันต์ถูกส่งตัวมาบริเวณชายหาดแห่งหนึ่ง เขาเห็นสองสามคนที่ชายหาดไกลตา แน่นอนว่าพวกนั้นก็ต้องเห็นซึ่งกันและกันด้วย ต่างฝ่ายต่างพากันวิ่งเข้าฝั่งลับหายไปกับแมกไม้ อนันต์เมื่อหลบเข้าในป่าแล้วก็ส่งกระแสวิญญาณพิภพสร้างหมอกบางเบาแฝงไปด้วยพิษยาสลบ สร้างฝูงต่อพิษขึ้น และค่อยเดินไปพร้อมกับค้นหาเมล็ดพืชรอบตัว เมื่อเขารับรู้ถึงเมล็ดพืชที่มีพลังที่ตกหล่นอยู่ก็จะเข้าไปเก็บและสร้างตัวตนให้เมล็ดพืชเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว


     

              เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเขาก็ได้ลูกมะพร้าวที่กลายสภาพเป็นตัวลิ่นขนาดยาว 2 เมตร คอยเดินตามเขาอยู่ไม่ห่าง และนกนางแอ่นจากเมล็ดลิ้นฟ้าบินสอดส่องมองผู้เล่นอยู่เบื้องล่าง


     

              เขาค่อยๆ เคลื่อนกายโดยไม่ให้มีเสียง และใช้หมอกบางพรางร่างไว้ เข้าไปใกล้ชายคนหนึ่งในระยะ 15 เมตรด้านหลัง ส่งตัวลิ่นออกไปโจมตีเพื่อเบนความสนใจ ชายผู้นั้นใช้พลังจิตอัดกระแทกตัวลิ่นกระเด็นออกไปกว่า 7 เมตร อสูรเวทย์ตัวลิ่นที่มีเกล็ดแข็งไม่สนใจการโจมตีของชายคนนั้น ม้วนตัวเป็นลูกบอลกลมพุ่งเข้าชน แต่ก็ถูกพลังจิตอัดกระแทกออกไปเรื่อยๆ อนันต์แอบเข้าไปในระยะ 10 เมตรจนสำเร็จ ฝูงต่อเวทย์พุ่งเข้ารุมโจมตีอย่างรวดเร็วจนชายผู้นั้นติดพิษ และถูกตัวลิ่นพุ่งเข้ากระแทกจนเสียหลัก การถูกรุมจากฝูงสัตว์อสูรทำให้เขากลายเป็นแสงหายไปอย่างรวดเร็ว


     

              อนันต์ใช้วิธีนี้โจมตีผู้เล่นอีก 3 คน จนกลายเป็นแสงหายไป ขณะนี้เขากำลังพรางร่างตามชายคนหนึ่ง เมื่อตัวลิ่นพุ่งเข้าไปใกล้ ชายผู้นั้นก็ตวัดเท้าเตะด้วยพลังปราณอันรุนแรง ส่งผลให้ตัวลิ่นกระเด็นออกไปแตกสลายกลายเป็นลูกมะพร้าว


     

              ฮึ ลูกมะพร้าว ใครกัน? ไม่ต้องหลบแล้ว มาสู้กันซึ่งๆ หน้า” ชายผู้นั้นท้าทาย มองไปโดยรอบและเอะใจกลุ่มหมอกที่ซ่อนอนันต์อยู่


     

              อยู่ตรงนั้นละสิ ศรสายฟ้า บอลไฟ หอกน้ำแข็ง” ชายผู้นั้นร่ายเวทย์ติดต่อกันแล้วส่งมากลางกลุ่มหมอก อนันต์หลบไปด้านข้างแต่ก็ไม่พ้นเสียทีเดียว บอลไฟเมื่อตกกระทบพื้นก็ระเบิดลุกไหม้ไอหมอกของเขาจนสลายไปทั้งหมด


     

              เห็นตัวละ ตาย” ชายผู้นั้นผนึกหมัดสองข้างจนเพลิงลุกไหม้ ดีดตัวเข้าหาอนันต์ด้วยพลังปราณ เงื้อหมัดเพื่อที่จะต่อย แต่ฝูงต่อจำนวนมากพุ่งเข้ามาจึงทำให้ชายผู้นั้นชะงักใช้หมัดต่อยทำลายฝูงต่ออย่างรวดเร็ว


     

              ...พวกยอดยุทธสายปราณ..ตัวต่อของเราคงถูกทำลายหมดสิ้นแน่..ไม่ได้การ...หนีก่อนดีกว่า... อนันต์ไม่รอช้าสาวเท้าอย่างรวดเร็ว พยายามใช้กระแสวิญญาณพิภพทำการบิดเบือนเส้นทางการหลบหนี พร้อมกับสร้างหมอกกลุ่มใหม่ออกมาอย่างรวดเร็ว


     

              เชอะ ข้าเห็นกลุ่มหมอกของแกแล้ว จะหนีไปไหนพ้น ย๊าก” ชายผู้นั้นกระโจนเข้ามาหาอย่างรวดเร็วด้วยวิชาตัวเบา อนันต์ตกใจที่ไม่สามารถหนีพ้นได้ สมองเขาคิดหาวิธีการจนได้วิธีหนึ่ง


     

              หมอกพลันหนาหนักในพื้นที่ขนาด 400 ตารางเมตร หรือ 1 งาน แม้กระทั่งยื่นมือออกไปก็ยังมองไม่เห็นมือของตัวเอง อาณาเขตนี้เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ชายผู้หลงพลัดเข้ามาเดินสะดุดตอไม้ล้มกลิ้งลงบนพื้น


     

              บัดซบ นี่มันกลิ่นยาสลบ ฮึบบบบ” ชายผู้นอนแผ่อยู่บนพื้นสะกดพลังปราณ แล้วระเบิดพลังออกมา


     

              บรึมๆๆๆ” ร่างอวตารเพลิงลุกขึ้นจากพื้น กระแสเพลิงเผาไหม้ยาสลบและหมอกหนาจนกระจัดกระจาย อนันต์ถอยกรูดด้วยความตกใจ รีบสาวเท้าไปยังทิศทางที่เล็งเอาไว้อย่างรวดเร็ว


     

              บรึมๆๆๆ” ร่างอวตารเพลิงนั้นสะบัดมือใส่กลุ่มหมอก ปรากฏลูกบอลไฟหลายลูกปลิวตกลงในกลุ่มหมอกจนจางหายไปหลายส่วน ก่อนที่ร่างนั้นจะพุ่งตัวตามติดมาอย่างรวดเร็ว


     

              ฉึก อุ๊บ” ความชะล่าใจรีบร้อนติดตามทำให้ร่างอวตารเพลิงพุ่งเข้าชนหอกน้ำแข็งที่ปักอยู่บนพื้นซึ่งแปรสภาพมาจากกระแสวิญญาณพิภพ ด้วยสัมผัสของอนันต์ที่สามารถรับรู้ได้แม้ในหมอกหนาหนัก เขารู้ว่าชายคนนี้โดนหอกน้ำแข็งปักเข้าที่ท้องน้อยแบบเบี่ยงๆ แม้ว่าจะไม่สาหัสหรือตายเพราะเบี่ยงตัวหลบทัน แต่ก็บาดเจ็บมากพอดู ในเกมนี้ไฟกับน้ำแข็งเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันอย่างมาก แต่ใครจะแพ้ใครนั้นขึ้นกับพลังที่เหนือกว่าไม่ได้กำหนดตายตัวเหมือนเกมอื่น หอกน้ำแข็งที่แทงเข้าไปในท้องน้อยนั้น เมื่อทำหน้าที่เสร็จแล้วก็ละลายหายไปในพลังไฟอย่างรวดเร็ว แต่แทนที่จะเป็นผลดีกลับทำให้เลือดทะลักออกมามากกว่าเดิมและลุกไหม้เป็นไฟด้วยอำนาจของอวตารเพลิง ร่างอวตารเพลิงหยุดติดตามอนันต์ในทันใด


     

              คลื่นลมผสานมีดสายลม” หมอกของอนันต์ถูกลมแรงพัดออกไปอย่างรวดเร็วจนเห็นร่างอนันต์เหมือนเป็นกลุ่มก้อนกระแสหมอก และเห็นร่างอวตารเพลิงที่ถูกคมมีดสายลมเฉือนอยู่เป็นเงารางๆ


     

              โชคดีของอนันต์ที่รู้ว่าผู้เล่นอีกคนหนึ่งที่เขาพยายามพาอวตารเพลิงมาหานั้นเข้ามาร่วมต่อสู้ด้วยแล้ว ทันทีที่ผู้เล่นคนนี้ใช้คมมีดสายลมเข้ามาในรัศมี 3 เมตร เขาก็รับรู้ได้ผ่านกระแสวิญญาณพิภพจึงทำให้สามารถสร้างเกราะดินจากกระแสวิญญาณพิภพได้ทัน พร้อมกับเบี่ยงเบนกระแสลมและคมมีดสายลมไปพร้อมกัน จนคมมีดสายลมไม่สามารถสลายหมอกรอบตัวเขาไปได้หมด อนันต์เดินทางมาที่นี่เพื่อให้ผู้เล่นทั้งคู่เป็นหอยกาบนกกระเรียนซึ่งเขาคิดจะคอยเป็นชาวประมงคอยเก็บเกี่ยวในตอนท้าย


     

              ร่างอวตารเพลิงไม่กล้าผลีผลามโจมตีอนันต์ จึงหันไประบายโทสะกับผู้เล่นที่มาใหม่ทันที ร่างที่ลุกท่วมไปด้วยเปลวเพลิงพุ่งปราดไปด้วยความเร็ว ผู้เล่นที่มาใหม่ดูเหมือนจะเก่งพอตัวกระโดดหลบไปด้านข้างด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกับร่างอวตารเพลิง พร้อมสะบัดคมมีดสายลมเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง


     

              อวตารเพลิงไม่ค่อยกลัวคมมีดสายลมนักเพราะกระแสลมจะหนุนพลังไฟเช่นเดียวกับไฟที่หนุนให้ลมพัดรุนแรงขึ้น คมมีดสายลมเมื่อเกือบปะทะกับร่างของเขาก็จะสลายไปแทบหมดสิ้น เขาสะบัดมือให้เกิดเป็นบอลไฟพุ่งเข้าหาชายผู้นั้นทันที


     

              อีกฝ่ายก็แยกแขนออกไปทั้งสองข้าง เกิดเป็นกระแสลมแรงพุ่งออกมาต้านบอลไฟให้พุ่งเข้าไปช้าลง ก่อนที่จะพุ่งตัวแทรกช่องว่างของบอลไฟเข้าใส่ร่างอวตารเพลิง ร่างเพลิงเห็นดังนั้นก็แสยะยิ้มต่อยหมัดออกไป แต่อีกฝ่ายกลับแฉลบหลบเลี่ยงออกไปด้านข้างราวกับกระแสลมที่พัดผ่านช่องเขา พึมพัมพอได้ยินเสียง


     

              ร่างอวตารลม ฟู่มมม” แรงลมอัดกระแทกร่างอวตารไฟออกไปด้านข้างในทันที ร่างอวตารลมพุ่งดุจพายุเข้าไปหาร่างอวตารไฟอย่างรวดเร็ว


     

              ...ถ้ารอคู่นี้สู้จบ เราอาจจะจัดการได้ไม่ครบ 10 คน ไปหาคนอื่นน่าจะดีกว่า... อนันต์คิด พื้นที่ที่ครอบคลุมไปด้วยหมอกบริเวณนั้นจึงค่อยจางหายไปในเวลาไม่นานนัก


     

              ด้วยประสบการณ์ที่ได้จาก 2 ผู้เล่นนั้น เขาจึงจัดการผู้เล่นฝีมืออ่อนไปได้อีก 2 คน ขณะที่เวลาเหลือเพียงชั่วโมงครึ่ง ช่วงเวลาที่เดินตามหาผู้เล่นอื่นเขาก็สร้างฝูงตัวต่อเวทย์ขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบเมล็ดผักบุ้งทะเลและเปลี่ยนมันให้กลายเป็นแมงกระพรุนไฟ ร่มมันกางกว้างครึ่งเมตร หนวดพิษยาวกว่า 4 เมตร ล่องลอยไปบนอากาศได้อย่างน่าพิศวง ปล่อยให้มันล่องลอยไปทำร้ายผู้เล่นอื่นด้วยตนเอง


     

              เจ้านกนางแอ่นพบผู้เล่นคนหนึ่งคอยดักจัดการผู้อื่นที่เข้าไปใกล้ทะเล ร่างของเขาเป็นอวตารน้ำเมื่ออยู่ในทะเลจึงเป็นสิ่งอันตรายสำหรับทุกคนที่เดินไปริมทะเลบริเวณนั้น อนันต์ต้องเดินหลีกเลี่ยงลึกเข้าไปในเกาะ แต่ไม่นานนักเขาก็พบว่ามีร่างโปร่งใสแฝงตัวเข้ามาอยู่ในรัศมี 3 เมตรของกระแสวิญญาณพิภพ แน่นอนว่าเมื่อเขารู้ฝูงต่อทั้งหมดก็ต้องรู้ ชายผู้มีความสามารถในการล่องหนต้องแปลกใจเมื่อถูกฝูงต่อรุมโจมตีราวกับว่ามันเห็นตัวเขาอย่างชัดเจน และในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นแสงหายไป


     

              กึง” อนันต์สร้างเกราะน้ำแข็งขึ้นมาป้องกันลูกธนูเวทย์ที่ถูกยิงมาจากระยะกว่า 30 เมตรได้ทันท่วงที เมื่อเขาพยายามเดินเข้าไปหาผู้เล่นคนหนึ่ง ผู้ใช้ธนูคนนี้น่าจะมีวงเวทย์ที่เกี่ยวกับการมองเห็นระยะไกลและมองฝ่าม่านหมอกได้ด้วย เมื่ออนันต์พยายามเดินตาม ชายผู้นี้ก็จะเดินหนี จนอนันต์คิดว่าเขาคงตามตัวผู้ยิงได้ยาก จึงพยายามหลีกไปทิศทางอื่น ลูกธนูเวทย์ถูกยิงออกมาอีก 2 ดอก อย่างไรก็ตามอนันต์สามารถป้องกันได้ นกนางแอ่นรายงานว่าชายคนนั้นคอยเดินตามอนันต์อยู่ที่ระยะ 30 - 40 เมตร ถึงแม้ว่าจะยังไม่ยิงศรออกมาอีกก็ตาม อนันต์จึงเดินลัดเลาะหลอกให้ชายผู้ใช้ธนูเดินไปใกล้ชายหาด


     

              ครืน ซ่า” เสียงคลื่นพุ่งเข้ามาหาชายฝั่งอย่างแรง ชายผู้ถือธนูไม่เห็นร่างอวตารน้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในน้ำ จึงต้องตกใจเมื่อเห็นกระแสน้ำพุ่งเข้ามากระแทกแบบผิดปกติ หันมาสนใจกับคลื่นและร่างอวตารทันที ขณะที่พยายามถอยหนีให้ไกลจากน้ำอย่างรวดเร็ว


     

              ฉึก หึ่งๆๆๆ ฉึกๆๆๆๆ” เสียงเข็มน้ำแข็งเล่มเล็ก พุ่งปักเข้าที่ท้ายทอยของชายผู้ถือธนูที่กำลังวิ่ง เมื่อชายคนนั้นถูกสะกัดจุดจนร่างเป็นอัมพาตฝูงต่อทั้งหลายก็พากันฮือออกมาต่อยทันทีจนกลายเป็นแสงหายไป นี่คือการเอาคืนของอนันต์ที่แอบซ่อนตัวหลังต้นไม้ยกเลิกกระแสหมอก พร้อมสั่งให้บรรดาต่อเวทย์ไปเกาะกระจายกันไปบนพื้นหญ้าและอาศัยกระแสวิญญาณพิภพสร้างเข็มน้ำแข็งเล่มเล็กไว้หลายสิบเล่ม แต่ตอนนี้อนันต์กำลังเผชิญหน้ากับร่างอวตารน้ำแล้ว


     

              ร่างอวตารน้ำไม่พูดอะไร สะบัดมือ หยดน้ำคล้ายฝนนับพันหยดถูกเหวี่ยงออกมาครอบคลุมพื้นที่กว้างสุดที่ใครจะหลบได้ อนันต์รีบกางโล่หินขึ้นมารับหยดน้ำไว้ แต่หยดน้ำเมื่อไหลพ้นขอบโล่มันก็พุ่งเข้ามาหาเขาได้อีกอย่างน่าอัศจรรย์ อนันต์สร้างเกราะน้ำแข็งขึ้นบริเวณผิวที่หยดน้ำพุ่งใส่ เมื่อน้ำหยดโดนเกราะน้ำแข็งก็แข็งตัวหนาขึ้น


     

              อนันต์ยิ้มออกเมื่อค้นพบวิธีจัดการกับร่างอวตารน้ำ เขาเคลื่อนตัวเข้าไปหาร่างอวตารน้ำที่ฉีดกระแสน้ำรุนแรงเข้ามาแทนเมื่อเห็นว่าหยดน้ำไม่ได้ผล อนันต์ผนึกกระแสวิญญาณพิภพให้อุณหภูมิลดต่ำอย่างรวดเร็วจนกระแสน้ำที่เข้ามากระทบกลายเป็นแท่งน้ำแข็งต้านทานกระแสน้ำที่พุ่งต่อเนื่องตามหลังจนกลายเป็นแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่


     

              เมื่อร่างอวตารเข้ามาในระยะ อนันต์ก็ผนึกพื้นให้กลายเป็นน้ำแข็งลุกลามไปบนร่างอวตารน้ำที่ไม่สามารถขยับหนีไปได้ เขาขว้างหอกน้ำแข็งเข้าใส่ร่างอวตารน้ำอีก 2 แท่ง พุ่งเข้าปักกลางอกแล้วแช่แข็งลุกลามไปทั่วตัวจนกลายเป็นปฏิมากรรมน้ำแข็ง สุดท้ายก็แตกเป็นก้อนเล็กๆ จากการถูกฟาดด้วยแท่งหินที่สร้างขึ้นมาจากวิญญาณพิภพ


     

              ...ขาดอีก 3 คนสินะ ยังเหลือเวลาอีก 40 นาที... อนันต์คิด ทันใดนั้นเองเขาก็รับรู้ผ่านกระแสความคิดได้ว่า แมงกระพรุนไฟจัดการผู้เล่นได้อีก 1 คน


     

              เขาเริ่มได้ยินเสียงการต่อสู้รุนแรงมาจากบริเวณต่างๆ รอบตัว มีเสียงตะโกนเรียกให้ศัตรูออกมาสู้กันตรงๆ จากแหล่งต่างๆ เพราะเวลาที่ใกล้จะหมดทำให้ผู้เล่นหลายคนที่ยังล้มคู่ต่อสู้ได้ไม่มากต้องการเสี่ยงสู้ นางแอ่นรายงานสภาพการต่อสู้รอบตัวมาให้เขารับทราบ เขามุ่งหน้าเข้าด้านหลังชายคนหนึ่งที่กำลังแอบเข้าไปยังวงต่อสู้ของหญิงหนึ่งคนและชายอีกสามคนที่ต่อสู้กันอย่างชุลมุน


     

              อนันต์จัดการชายคนนั้นด้วยเข็มพิษที่เขาสร้างปักไว้บนพื้น เมื่อชายคนนั้นเหยียบลงไป พิษอัมพาตอันร้ายแรงก็แล่นไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว เมื่ออนันต์เดินไปถึงชายคนนั้นก็ทำได้เพียงกรอกตาไปมาเท่านั้น อนันต์ช่วยด้วยการใช้เข็มพิษทำลายประสาทปักลงไปกลางกระหม่อมส่งให้อีกฝ่ายสลายเป็นแสงไปอย่างง่ายดาย


     

              มีผู้ค่อยๆ ย่องเข้าวงต่อสู้อีก 3 คน อนันต์เพียงวางเข็มพิษไว้รอบตัวระยะ 10 เมตร และไม่ใช้หมอกบังตัว หญิงคนหนึ่งเมื่อเห็นอนันต์ ก็ย่องเข้ามาอย่างเงียบเชียบพร้อมผนึกฝ่ามือน้ำแข็งไว้ กว่าที่เธอจะรู้ตัวว่าชายที่ยืนหันหลังให้นั้นจริงๆ แล้วเป็นเหยื่อล่อ เธอก็เสียหลักล้มลงไปกลางดงเข็มพิษเสียแล้ว พิษบนเข็มนั้นหลากหลายจนแม้กระทั่งอนันต์เจ้าของพิษเองก็ไม่รู้ว่าจะรักษาได้อย่างไร เขามองเธอแวบหนึ่ง เธอผู้นั้นและอนันต์ก็สลายเป็นแสงหายไปพร้อมๆ กัน


     

              อนันต์ปรากฏตัวในห้อง มีคนอยู่ก่อนหน้าเขาประมาณ 5 คน หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนทะยอยมาเรื่อยๆ จนกระทั่งหมดเวลา นับได้ทั้งหมดเพียง 32 คน หลายคนปรากฏตัวในร่างอวตาร เมื่อถึงห้องรับรองแล้วจึงสลายร่างอวตารทิ้งเพื่อฟื้นฟูพลังเวทย์ อนันต์ส่งกระแสความคิดไปยังนางแอ่นให้บินมาอยู่เหนือมหานครมนตรา และแมงกระพรุนให้ลอยตัวสูงๆ มาอยู่ในป่าอสูรเวทย์


     

              การแข่งขันสำหรับวันนี้สนุกมากค่ะ และยินดีกับทุกท่านที่ผ่านเข้ารอบถัดไปนะคะ เราจะเริ่มการแข่งขันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เวลา 9:00 . เช่นเดิมนะคะ อย่าลืมมายืนยันตัวตนก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมงนะคะ ขอให้ทุกท่านกลับบ้านพักผ่อนโดยสวัสดิภาพนะคะ สวัสดีค่ะ” เสียงของพนักงานสาวกล่าวปิดการแข่งขันประจำวัน ประตูห้องรับรองเปิดออกให้ผู้เล่นทยอยออกจากห้อง ท่ามกลางเพื่อนฝูงพี่น้องคนรู้จักที่มารอรับหน้าห้อง ยกเว้นบางคนที่โดดเดี่ยวขาดคนรู้จักอย่างอนันต์ แต่ก็มีผู้ชมรอบข้างหลายคนที่มองตามเขาด้วยสายตาแปลกๆ บางคนก็หันกลับไปซุบซิบกับเพื่อนที่เป็นคู่แข่งของอนันต์


     

              อนันต์เดินถือไม้เท้าออกไป พร้อมกับหมาป่าเลือดทั้ง 8 ตัว ไปยังร้านสมุนไพรประจำเมืองเพื่อหาวัตถุดิบไปสร้างไอเทม และสัตว์อสูรสำหรับใช้งาน เงาหลังของนักเดินทางถือไม้เท้าผู้โดดเดี่ยว มีฝูงหมาเดินตามหลังนั้น ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบข้างของเขามีความรู้สึกแตกต่างกันไปไม่มากก็น้อย

    ปล. ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้บอกว่าจะลงเมื่อไร ขอเป็นวันเว้นวันนะครับ น่าจะลงได้ช่วงบ่าย 4-5 น.
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×