ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♛ ИOT REΛL BUT SPECIΛL ; (B.A.P)

    ลำดับตอนที่ #14 : - 34N6CH4N ✖ Picture of U

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 677
      0
      13 ธ.ค. 55

     T itle :: Picture of U

    Author :: toreraC

    Couple :: BangChan

    Rate :: PG-13

    Talk :: น่ารักอะ บอกแค่นี้ว่าต้องเองชอบเอง เขินอิบังตาย แหม ไม่สปอยละ.. 


















     

    ภาพถ่าย

     

     

     

     

     

     

     

     

         เสียงรัวชัตเตอร์จากกล้องคุณภาพดียังคงดังไม่หยุดเช่นเดียวกับนายแบบที่โพสท่าแล้วท่าเล่าให้กับกล้อง ร่างบางในชุดไหมพรมสีขาวกดยิ้มมุมปากพร้อมๆกับส่งสายตาเย้ายวน ยกมือขึ้นมาปิดหน้าข้างหนึ่งพอเป็นพิธีเป็นท่าสุดท้ายก่อนที่ช่างภาพจะละกล้องลงและเอ่ยขอบคุณ

     

    “ขอบคุณที่ทำงานหนักครับ”

         เอ่ยเสียงสดใสพลางฉีกยิ้มกว้างให้กับทีมงานที่ไม่มากนักและเจ้าของงานที่มาดูเอง เจ้าของร่างเน็ตไอดอลชื่อดังคิม ฮิมชานโค้งศรีษะให้ก่อนจะพูดคุยเรื่องงานในคืนนี้กับเจ้าของงานแล้วร่ำลากันไป ร่างโปร่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนแต่กระนั้นริมฝีปากกลับไม่หุบยิ้มสักทีเพราะดีใจจนแทบจะสำลักความสุขตายน่ะสิ ฮิมชานชอบที่จะอยู่ต่อหน้าช่างกล้อง ชอบที่จะโพสท่าขยับนู้นขยับนี้ ชอบที่จะเห็นรูปมากมายของตนเองตามเว็บไซต์ชื่อดัง ชอบที่มีคนตั้งแฟนเพจมากมายแล้วต่างชื่นชมเขา เขาชอบพบปะผู้คนเยอะๆ

     

     

     

     

    ชอบที่จะเป็นที่รักของทุกๆคน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

        

     

    “พี่น้องกันป่ะ ?”

     

     

    “เออก็พี่น้องไง แต่ไม่อยากไป”

     

     

     

     

         ยงกุกส่ายหน้าปฏิเสธให้กับความตื้องี่เง่าของพี่ชายฝาแฝดอย่างรำคาญ ยงนัมถามเค้าร้อยครั้งยงกุกก็ปฏิเสธร้อยครั้งเพราะว่าเค้าไม่อยากจะทำตามที่อีกฝ่ายขอนัก.. เรื่องอะไรที่จะให้เค้าออกโรงไปถ่ายรูปท่ามกลางฝูงชนเยอะแยะขนาดนั้น ก็ยงนัมน่ะขอให้น้องชายที่เป็นถึงเจ้าของแกลอรี่ภาพถ่ายไปช่วยงานถ่ายรูปนายแบบที่ผับเปิดใหม่ของตนเองในคืนนี้ แล้วคนที่ชื่นชอบถ่ายภาพธรรมชาติแบบยงกุกนี่คิดว่าจะไปหรอ.. ไม่มีทาง

     

     

     

     

     

    ชอบรูปภาพสวยๆที่ไม่มีคนมากกว่า

     

     

     

     

     

    “ช่วยแค่นี้ไม่ได้ใช่มั้ยละ”

     

    “คนอื่นมีเยอะแยะก็ไปจ้างมาทำสิ เงินก็มียังจะงก”

     

     

     

     

    “ก็งกไงวะถึงขอมึงช่วยเนี่ย! มึงไม่ถ่ายก็ส่งเด็กในร้านมึงมาก็ได้ โอเคป่ะ ?”

     

    “ไม่เว้ย”

     

     

         ยังยืนกรานคำเดิมว่าจะไม่ยอมร่วมเด็กขาด ถึงจะบอกว่าให้เด็กในร้านของเขาไปถ่ายแทนก็เถอะแต่ทำอย่างนี้เสียเครดิตร้านหมด ก็ร้านของเขานั้นน่ะขึ้นชื่อว่าถ่ายแต่วิวธรรมชาติๆ ขืนให้ปถ่ายรูปคน ถ่ายนายแบบนางแบบ มีหวังเสียประวัติร้านหมด ไม่เอาหรอก!

     

    “โว้ะ!

     

     

     

     

     

     

     

     

    “หน่านะยงกุก ช่วยฉันเถอะ... ฉันจะโปรโมตร้านทั้งที นี่อุตส่าไว้ใจมึงให้ช่วยนะเนี่ย”

     

     

     

    “กะ..ก็เอางี้ดิ! ไม่ต้องไปในนามของร้านมึงก็ได้ แค่มึงไปช่วยกู”

     

         ยงกุกเหล่มองใบหน้าพี่ชายฝาแฝดของตนที่ทำตาแวววับส่งมาให้อย่างน่าขนลุก ก่อนจะดันหน้ามันออกไปแล้วพยักหน้ารับส่งๆ ..ก่อนจะได้ยินเสียงโหวกเหวกดีใจของไอ้คนขี้ตื้อกับแรงรัดที่คอที่กอดเค้าอย่างขอบคุณ ก็ไม่ได้อยากช่วยเท่าไหร่แต่รำคาญมันตื้อ

     

     

     

     

    ยงกุกละเสียก็ตรงนี้ เขาใจแข็งไม่พอ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

         แสงไฟวิบวับเปิดสลับไปมากับเสียงเพลงหนักๆทำให้ยงกุกเบ้หน้าอย่างนึกรำคาญหู เขาไม่ชอบอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่นัก.. ผู้คนแสนวุ่นวาย เสียงโหวกเหวกทั้งของคนหลายสิบกับดนตรีริทึ่มหนักๆ บรรยากาศน่าอึดอัดจนแทบอยากจะมุดหนีออกไปจากตรงนี้

     

     

     

     

     

    เขาไม่ชอบมันเอาซะเลย

     

     

     

     

    “เห้ย ใกล้ถึงเวลาละ ไปเตรียมตัวหน้าเวทีเลยมึง”

         เสียงที่คล้ายกันเอ่ยข้างหูเขาให้ไปเตรียมตัวเพื่อถ่ายภาพบรรยากาศของงานโปรโมตผับใหม่ในวันนี้ ยงกุกพยักหน้ารับคำพูดของพี่ชายก่อนจะกระชับกล้องตัวใหญ่คุณภาพดีในมือเดินดุ่มๆผ่านผู้คนที่เบียดเสียดกันอยู่ในร้านไปแสตนบายที่หน้าเวที ก่อนเสียงของพิธีก่อนบนเวทีจะดังขึ้นพร้อมๆกับเพลงจังหวะน่ารำคาญจะค่อยๆเบาลงเรียกให้ร่างสูงยกกล้องขึ้นมาเก็บภาพ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่นานก็ถึงเวลา

     

     

     

     

         นายแบบและนางแบบแต่ละคนทยอยขึ้นไปเดินแบบกันบนเวทีตามลำดับทำให้ยงกุกยิ่งทำงานหนักเพิ่ม ด้วยควาที่ตัวคนเดียวและบวกกับนายแบบนางแบบทั้งหลายเดินขึ้นเดินลงกันไม่เว้นช่วงยิ่งทำให้ยงกุกไม่ได้พัก เกลียดการถ่ายงานแบบนี้ก็เพราะอย่างนี้ละ.. เมื่อยแขนโคตรครับ

     

     

    “เห้ย คนต่อไปถ่ายเยอะๆเลยนะเว้ย คนนี้กำลังบูม ดีไม่ดีตอนเอาไปโฆษณาคนอาจจะแห่กันมาเยอะขึ้นก็ได้” ยงนัมพูดยาวเหยียดกับน้องชายที่ยังคงถ่ายรูปนายแบบนางแบบอย่างไม่วางมือ ได้ยินเพียงเสียงตอบรับห้วนๆกลับมาตบบ่ายงกุกสักทีสองทีก่อนจะไปนั่งชมงานอยู่ที่เดิม

     

     

     

         ร่างโปร่งบางสาวเท้าเดินมาตามทางยาวอย่างมั่นใจ ยงกุกรัวชัตเตอร์แทบจะทุกท่วงท่าที่ร่างโปร่งบางขยับแอบลอบมองใบหน้านั้นผ่านเลนส์กล้องเล็กน้อยด้วยความอยากจะรู้ว่าออลซังชื่อดังนี่เป็นยังไง.. แต่ว่านะหน้าแบบนั้นมันคุ้นๆเกินไปแล้ว ใบหน้านั้นชัดเจนกว่าเดิมตอนมาถึงหน้าเวที ใบหน้าหวานผิดกับร่างกายยามอยู่ภายใต้กลุ่มผมสีบลอนด์ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นดูดีกว่าเดิม ปฏิเสธไม่ได้ว่าออลซังคนที่ว่าทั้งสวยและหล่ออยู่ในร่างเดียวกัน ดวงตากลมโตนั้นสบมาที่เขาทันทีและราวกับมนต์สะกดทำให้ยงกุกลดระดับกล้องลงมาสบตาจริงๆจังๆกับดวงตาคู่นั้น

     

     

     

     

     

     

    ไม่คิดเลยว่าเค้าจะได้เจอฮิมชานตัวเป็นๆที่นี่!

     

     

     

     

     

     

    เผลอเงยหน้าขึ้นมามองจนไม่ได้ถ่ายตามที่ยงนัมบอกไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ต้องขอโทษจริงๆนะครับ”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกพี่ครับ เรื่องแค่นี้เอง”

         ฮิมชานรีบปฏิเสธรับคำขอโทษนั้นพลางส่ายมือส่ายหน้าอย่างน่ารัก รอยยิ้มที่ใครๆมักจะชื่นชมยิ้มกว้างเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าเค้าไม่ได้เดือดร้อนอะไรถ้าจะให้มาถ่ายซ้ำอีกรอบนึงเพื่อเป็นนายแบบโฆษณาร้าน เจ้าของงานอย่างยงนัมอดยิ้มกับความใจดีของอีกฝ่ายเสียไม่ได้จนต้องยิ้มตาม.. ดีนะที่คิม ฮิมชานเน็ตไอดอลชื่อดังไม่ได้มีนิสัยโวยวายเหมือนพวกเซเลปเพียงแค่ขอให้มาถ่ายรูปใหม่ ก็เพราะยงกุกน่ะ.. บอกใหมันถ่ายเยอะๆมันก็ดันยืนแข็งทื่อจนได้รูปเพียงไม่กี่ใบ เลยทำให้ยงนัมต้องมาตามพ่อออลซังชื่อดังให้ไปถ่ายแบบอีกครั้ง

     

     

     

    “เห้ย ดีๆนะเว้ยคราวนี้” ทันทีที่เจอน้องชายตัวดีก็เข้าไปตบหัวอย่างฝากเรื่องด้วย ยงกุกหันมาแยกเขี้ยวให้พี่ชายก่อนจะเสหน้ามองนายแบบนั้นที่เดินตามมาข้างหลังเล็กน้อย.. อย่ายิ้มแบบนั้นได้มั้ย คนอะไรน่ารักโคตรๆเลยครับ

     

     

     

     

     

         ฮิมชานยังคงขยับกายอย่างเป็นธรรมชาติให้ช่างภาพที่กำลังถ่ายเค้าอยู่ บ้างก็หันไปจิบแอลกอฮอล์ บ้างก็หันมาโฟกัสที่กล้องทำเอายงกุกถึงกับชะงักกับสายตาหยาดเยิ้มแบบนั้น มีหลายครั้งที่ร่างสูงแอบใจเต้นแรงยามที่อีกฝ่ายหันมายิ้มบางๆให้กล้อง.. บ้าชะมัด ก็เคยเห็นเค้าในรูปถ่ายหลายครั้งแล้วนี่หว่าทำไมพอมาเจอสามดีแบบนี้มันถึงตื่นเต้นขนาดนี้วะ

     

     

    “เอ่อ.. ดีมาก!! แค่นี้ละฮิมชาน” เสียงยงนัมดังขึ้นมาก่อน มองจากสถานการณ์แล้วดูไอ้ตากล้องน้องชายของเค้าจะไม่ค่อยมีสติถ่ายรูปเท่าไหร่ เห็นบางครั้งเอาแต่ดูร่างนั้นผ่านเลนส์จนลืมกดชัตเตอร์

     

     

    “ครับ ขอบคุณที่ทำงานหนักนะ ขอบคุณครับคุณยงนัม” ยิ้มจนตาปิดให้กับเจ้าของงานก่อนจะหันมายิ้มให้กับตากล้องที่ลดระดับกล้องลงแล้ว

     

          ร่างโปร่งสาวเท้ามาหายงกุกที่อยู่ไม่ไกลนักก่อนจะยื่นมือไปหวังจะจับมืออีกคนเพื่อกล่าวขอบคุณและฝากตัวไว้ด้วย ยงกุกมองมือสลับกับใบหน้าหวานนั้นอย่างลังเลก่อนจะรีบส่งๆมือไปเพื่อจับกับมือเรียวนั้นพลางเสหน้าไปทางอื่นอย่างเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก อะไรวะไอ้อาการที่จังหวะหัวใจมันเต้นเร็วขึ้นตอนได้จับมือนุ่มนิ่มนี้มันคืออะไรวะ ?

     

     

     

     

    โอ๊ย ได้จับมือด้วย

     

     

    “ขอบคุณมากนะครับคุณ....”

     

    “ยงกุก”

     

     

     

     

     

     

    “ขอบคุณมากนะยงกุก อ๊า ..ว่าแต่คุณเป็นฝาแฝดกับคุณยงนัมหรอ หน้าเหมือนกันมากๆเลย” คนตัวเล็กกว่าไม่มากเบิกตาถามอย่างตะลึงเมื่อได้มองหน้าช่างภาพใกล้ๆ ยงกุกหัวเราะในลำคอน้อยๆก่อนจะพยักหน้ารับว่าเป็นไปตามจริงที่อีกฝ่ายคาดเดาไว้

     

     

     

     

     

     

    “อือ.. จะเป็นไรมั้ยถ้า..”

     

    “อะไร ?” ถึงจะพูดด้วยน้ำเสียงห้วนแต่ในใจของยงกุกกลับเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น มองใบหน้าหวานที่กัดริมฝีปากอย่างชั่งใจนั้นยิ่งทำให้เค้าอยากจะจับคนตรงหน้ามาฟัดสักรอบสองรอบ

     

     

     

     

    “คือ จะเป็นอะไรมั้ย ถ้าผมจะขอรูปที่ถ่ายวันนี้น่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ให้ตายสิ เค้าดูไม่เป็นตัวของตัวเองยังไงไม่รู้

     

     

         ร่างสูงกำลังมองเงาที่สะท้อนจากกระจกเป็นเวลาร่วมหลายชั่วโมงแล้ว จับนู้นเซตนี้จนแทบคิดว่าไม่มีที่ติ มองร่างตัวเองที่อยู่ในเสื้อแขนยาวสีเทากับกางเกงขายาวแล้วแอบตะหงิดใจไม่ได้ว่าทำไมต้องแต่งตัวให้ดูดีถึงขนาดนี้.. เพียงแค่เพราะว่าคิม ฮิมชานจะมาที่แกลอรี่ของเขา

     

     

    ส่ายหน้าให้กับตัวเองก่อนจะสาวเท้าไปประจำอยู่หน้าร้านเพื่อรอเวลาให้อีกฝ่ายมาถึง

     

     

     

     

    “อยากเจอแล้วโว้ย”

     

     

     

     

    นี่จะเป็นครั้งที่สองที่เค้าจะได้เจอกับคนที่เค้า

     

     

     

     

     

    แอบชอบ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

         ในที่สุดฮิมชานก็มาถึงร้านแกลอรี่เล็กๆที่ได้ชื่อว่ายงกุกเป็นเจ้าของกิจการอยู่ ร่างโปร่งของออลซังชื่อดังเดินเข้าไปผลักประตูกระจกเข้าไป ทันทีที่เค้าเข้ามาก็ต้องเบิกตาโตอย่างตื่นเต้น เพราะทั้งร้านนี้ดูอบอุ่นและสงบเหมือนกับลุคของยงกุกเอามากๆ ทั้งร้านประดับไปด้วยภาพถ่ายเล็กภาพถ่ายน้อยแปะเรียงกันเต็มผนังร้าน ถึงจะไม่ค่อยเรียบร้อยแต่พอมาอยู่รวมกันเยอะๆแล้วมันสวยสุดๆไปเลยละ ยิ่งสังเกตทีละรูปยิ่งชื่นชมเจ้สของกิจการนี้

     

     

     

     

     

    รู้ทุกรูปล้วนแต่เป็นรูปธรรมชาติ ถนน ต้นไม้ หรือพื้นที่เปล่าๆ

     

     

     

     

     

     

    ไม่มีคนอยู่บนรูปเลยสักใบ

     

     

     

     

     

    “อะ..อ้าว ทางนี้ครับคุณฮิมชาน”

     

         ฮิมชานหันไปตามเสียงเรียกก่อนจะยิ้มจนตาหยีเมื่อคนที่กำลังเอ่ยชื่อเขาไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจากคนที่นัดเค้ามาที่นี่เพื่อมาเอารูปในงานเมื่อคืน ร่างโปร่งเดินไปหายงกุกอย่างอารมณ์ดี

     

    “รูปทั้งหมดนี้.. ถ่ายเองหมดเลยหรอ”

     

     

         ยงกุกมองไปตามสายตาของร่างบางที่กวาดมองไปทั่วร้านก่อนที่ฮิมชานจะมาหยุดที่หน้าเขาอีกครั้ง ยงกุกพยักหน้ารับอย่างเขินอาย ก็ดูเข้าสิ..คนน่ารักของเขาทำตาโตอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กๆ

     

    “สวยจัง.. ยงกุกนี่เก่งมากๆเลย”

     

     

     

    แล้วดูทำเข้าสิ ยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว.. พี่จะละลายแล้วรู้มั้ยเบบี้

     

     

     

     

     

     

    “เอ่อ.. ไปเลือกรูปเลยดีมั้ย” ร่างสูงกว่าว่าพลางบุ้ยหน้าไปทางเคาท์เตอร์ของร้านก่อนจะเดินนำตามไปแล้วนั่งแหม่ะลงที่หน้าจอคอมเพื่อทำการเลือกรูปให้อีกฝ่าย

     

         ร่างโปร่งนั่งลงที่ที่นั่งของเคาท์เตอร์ที่อยู่ตรงข้ามหน้าจอคอมของทางร้านอย่างว่าง่าย สายตาเค้าจับจ้องไปยังใบหน้าหล่อคมของอีกฝ่ายไม่ทิ้งระยะให้ยงกุกได้เป็นตัวของตัวเอง จนตอนนี้ร่างสูงทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้ว.. มือใหญ่รีบหมุนหน้าจอคอมให้กับร่างโปร่งที่นั่งตรงข้ามกัน

     

    “ละ..เลือกได้เลยนะ”

     

    “อื้อ เอาไม่กี่รูปหรอก ..แค่อยากเก็บไว้”

     

     

     

     

     

         ดวงตากลมโตจดจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมอย่างสนอกสนใจ มือเรียวนั้นก็คลิกที่เม้าท์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อเลือกรูปที่ดีที่สุดสัก 4 -5 รูปของตนเอง จนไม่รู้เลยว่ายังมีสายตาอีกครู่นึงจดจ่อมาที่เค้าอย่างไม่วางตา ยงกุกมองใบหน้านั้นอย่างหลงใหล ดวงตาโตๆที่เบิกขึ้นอย่างน่ารักทุกครั้งที่ตื่นเต้นหรือดีใจอะไร จมูกเป็นสันรับกับริมฝีปากน้อยๆสีชมพู เห็นแล้วมันน่า..

     

     

     

     

    โอ้ย นี่เค้ากลายเป็นคนแบบนั้นไปตั้งแต่เมื่อไหร่

     

     

     

     

     

    คงตั้งแต่ตอนเผลอไปกดเข้าเว็บออลซังละมั้ง

     

     

     

     

     

    เอ่อ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “เสร็จแล้วละ~

     

    “อะ..อ่าครับๆ เห้ยแดฮยอน! เอารูปไปปริ้นท์ดิ”

     

     

     

     

         ร่างของเด็กพนักงานเดินเร็วมาตามเสียงนั้นก่อนจะรีบรับไฟล์รูปนั้นไปจัดการ แล้วทิ้งให้ยงกุกกับฮิมชานอยู่เพียงสองคนอีกเช่นเคย.. แล้วพอไม่มีอะไรคุยมันเลยยิ่งเงียบ แต่มันก็ไม่ได้น่าอึดอัดขนาดนั้นเท่าไหร่หรอก..

     

    “อื้ม ว่าจะถามตั้งนานละ”

     

    “อะไร ?”

     

     

     

     

    “ทำไมภาพที่ยงกุกถ่ายถึงมีแค่บรรยากาศละ ไม่เห็นมีคนอยู่ในรูปซักใบ”

     

     

     

     

         ฮิมชานถามออกไปด้วยความสงสัย เท่าทีสังเกตแล้วเค้าแทบจะไม่เห็นรูปคนอยู่บนภาพถ่ายทั้งหมดนั้นเลย.. ยงกุกพยักหน้ารับอย่างเข้าพลางหัวเราะน้อยๆกับความขี้สงสัยของอีกฝ่าย

     

    “แล้วจะถ่ายรูปคนไปทำไมละ มันไม่เห็นมีประโยชน์อะไร แถมดูรกหูรกตาแปลกๆด้วย..”

     

     

     

     

    “อ่า ไม่รู้สิ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน..”

     

         ฮิมชานพยักหน้ารับรู้กับคำตอบนั้น บางทียงกุกอาจจะเป็นพวกติสท์แตก โลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่กับบรรยากาศเพียงคนเดียวก็ได้ ก็นะ.. มีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยหรอ มันตลกมากนะที่ไม่มีคนปรากฏอย่ในรูปถ่ายเหล่านั้นซักรูปเดียว

     

     

    “อ่าว แล้วอย่างนี้ทำไมถึงยอมถ่ายผม.. เมื่อคืนนี้น่ะ ?”

     

    “อืม..”

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ไม่รู้สิ”

     

    “ไม่รู้ได้ไง ?”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ก็เพราะชอบละมั้ง”

     

     

     

     

     

    ใครบอกละว่าเค้าไม่มีรูปคนอยู่ในภาพถ่ายของเขา

     

     

     

     

          อาจจะจริงที่ยงกุกไม่ชอบให้มีมนุษย์มาโผล่อยู่ในรูปถ่ายของเขาแม้แต่ใบเดียว แต่ว่านะ.. สำหรับฮิมชานนั้นขอเป็นข้อยกเว้น เพราะถ้าเป็นคนๆนี้แล้วละก็เขาจะยอมทุกอย่างเพื่อให้ร่างนั้นได้ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายของเขา ยังไงดีละ.. อย่าบอกฮิมชานนะว่ายงกุกเองน่ะมีรูปฮิมชานแปะไว้ทั่วทุกมุมห้องนอนของเขาเลยก็ว่าได้ ฟังดูโรคจิตแต่ว่าเค้าน่ะแอบชอบฮิมชานมาตั้งนานแล้ว..

     

     

     

     

     

    ฮิมชานจะเป็นข้อยกเว้นในทุกๆอย่างที่เค้าไม่ชอบ

     

     

     

     

     

     

     

    ฮิมชานคือคนๆเดียวที่ได้ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายของเขา

     

     

     

     

    และอยากจะให้อีกฝ่ายรับรู้เหลือเกินว่าเขานั้นสำคัญสำหรับยงกุกมากแค่ไหน

     

     

     

     

     

     

     

     


     


     
    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×