คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : - 34N6CH4N ✖ Muddle
Title :: Muddle
Author :: toreraC
Couple :: BANGCHAN
Rate :: PG-13
Talk :: ดราม่าอีกแล้วไม่ค่อยมีใครอ่าน 5555555555555555555555. แต่นะเมื่อวานแต่งฟิคเคาท์ดาวน์ไว้แต่ลงไม่ทัน เดี๋ยวเอาไว้ลงปีหน้านะนะ <3 รอป่ะละ 555555555555555555555555555555555555 ฟิคเรื่องนี้แต่งเมื่อตอนพี่กุกเล่นเอ็มวีนั้นอะ อะไรก็ไม่ได้จำชื่อละ แบบโหดมาก ลองอ่านดู
ถ้าหากนี่เป็นความฝัน
ขอให้ผมรีบตื่นขึ้นมาเร็วๆ
ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความดำมืดที่ปกคลุมอยู่รอบตัว ยงกุกจ้องมองเพดานห้องอย่างเหม่อลอยด้วยใจที่ไม่มีความรู้สึกใดๆหลงเหลืออยู่ เสียงเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาสด้านนอกไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงกว้างสนใจมันเลยสักนิด แสงไฟไม่ได้สอดส่องมาถึงห้องเขาแม้แต่น้อย ผ้าม่านถูกปิดสนิท ไม่อยาก.. ไม่อยากรับรู้อะไร
ทุกอย่างมันมืดจนน่าใจหาย
แต่จู่ๆกลับมีบุคคลบุกรุกเข้ามาในห้องของเขาโดยไม่ได้อนุญาตและแน่นอนมันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนที่พึ่งออกไปจากห้องนี้เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว คนที่มาใหม่นั้นไม่ได้มีอารมณ์ฉุนเฉียวอะไรกลับกันมันใจเย็น และทำทุกอย่างอย่างค่อยๆเป็นค่อยไป ยงกุกรีบกระเด้งตัวไปหาอีกฝ่ายก่อนจะคว้าหมับเอาแขนเรียวที่กำลังเปิดตู้เสื้อผ้าที่เขาใช้ร่วมกันมา.. และจากนี้ไปมันคงเป็นแค่ของที่เคยร่วมใช้กัน
“ปล่อย”
“ฮิมชาน..”
ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอนทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาอย่างตัดพ้อ ท่ามกลางความมืดแต่ว่าเค้ายังแอบเห็นไม่หน้าเฉยชาที่ไม่มักจะเห็นจากอีกฝ่ายมาก่อน ฮิมชานมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจก่อนจะรีบสะกัดมือที่กอบกุมนั้นแล้วรีบจัดการเอาเสื้อผ้าของเขาออกมาให้หมด
เค้ากำลังจะจากไปจากที่แห่งนี้
เค้ากำลังจะวิ่งหนีหัวใจออกไป
เพื่อจะได้.. ไม่เจ็บไปมากกว่านี้
ยงกุกมองการกระทำที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าของร่างโปร่งตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ แม้อยากจะยื้อรั้งมากเท่าไหร่แต่ในหัวกลับมีแต่คำว่า หน้าด้าน แทรกเข้ามาทำร้ายเค้า ใช่แล้ว เค้าทุเรศมากที่เป็นฝ่ายทำให้ฮิมชานเสียใจก่อนแล้วยังจะหน้าด้านไปรั้งเค้าอีก.. มันเป็นการกระทำที่โง่มากใช่มั้ยละ
“ฮิมชาน”
“ฮิมชาน”
“อย่าเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงแบบนั้นอีก”
ฮิมชานพูดออกมาอย่างเฉยชาทั้งๆที่ตนเองยังคงง่วนอยู่กับการเก็บเสื้อผ้าเข้ากระเป๋าเป้ใบใหญ่อยู่ เกลียด.. เกลียดน้ำเสียงเว้าวอนที่มันคอยยื้อรั้งหัวใจเค้าไม่ให้ไปไหน เค้าไม่อยากจะได้ยินน้ำเสียงแบบนั้นเพราะรู้ดีว่าถ้ามากกว่านี้มันอาจจะทำให้เค้าใจอ่อนได้
แต่ถ้าอยู่ต่อก็คงเจ็บมากกว่านี้
“ยกโทษให้กัน...ไม่ได้หรอ”
ร่างสูงหลุบตาต่ำมองฝ่ามือตนเองที่กุมเข้าหากันไว้แน่น หลุดปากพูดประโยคเห็นแก่ตัวออกไป การกระทำของร่างสูงที่ผ่านมามันส่งผลต่อความรักของเขาและฮิมชานไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ยิ่งทำมากก็ยิ่งบั่นทอนไปทีละนิด ..เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าจะรักฮิมชานมากถึงขนาดนี้ จนมาถึงตอนนี้ยงกุกแทบไม่อยากจะปล่อยมือนั้นไป ไม่อยากจะให้ร่างตรงหน้าหายไปจากชีวิตเค้า
ได้โปรด.. หัวใจของฉัน
“กล้าพูดอยู่อีกหรอ!! ..ฉันอุตส่าเป็นคนถอยออกมาแล้วนะ”
“ไปหาเค้าสิ!! คิดถึงมาก รักมากไม่ใช่หรอ!!!!”
ฮิมชานตะโกนรัวและเร็วออกมาอย่างเหลืออด ร่างโปร่งนั้นหอบหายใจถี่เมื่อความโกรธและความน้อยใจ รวมทั้งความเสียใจมันตีอยู่ในตัวเค้าไปหมด มันอึดอัดจนแทบจะกระอักออกมา ดวงตาร้อนผ่าวรีบหลุบลงทันทีเมื่อรู้ว่าน้ำใสๆจะหยดลงมาจากดวงตาในไม่ช้า
“อย่าพึ่งไปได้มั้ย”
“อึก ..อย่าเลยยงกุก อย่ามากกว่านี้เลย”
“ทำแบบนี้....... เด็กนั่นจะยิ่งเสียใจเอา”
เอ่ยถึงบุคคลที่สามอย่างลำบากนัก เมื่อนึกถึงบุคคลที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องบอกเลิกกับยงกุกน้ำตามันก็พลานหยดลงมาอีกครั้ง ฮิมชานเสหน้าไปอีกฝั่งเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นน้ำตาของเขา นึกๆดูแล้วเค้าก็โง่เหมือนกันนะ ตลกดีที่ตัวเองเป็นแฟนกับยงกุกแต่กลับเป็นคนปล่อยมือเสียเองแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายได้ไปหาคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่า
“ฉันไม่ได้รักจุนฮง”
“หยุดพูดเลย!! ปากก็บอกว่าไม่ แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร!!”
ฮิมชานตะคอกขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้เค้าหันกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่กำลังจะเป็นอดีตคนรักอย่างไม่เกรง ไหวบางสั่นเทาด้วยแรงสะอื้นบวกกับอารมณ์โมโหที่มีอยู่ข้างใน ที่ผ่านมายงกุกแสดงพฤติกรรมที่สวนทางกับคำพูดอย่างมาก.. พูดว่าไม่ได้คิดถึงแต่กลับไปหาทุกวัน พูดว่าไม่ได้รักแต่กลับโอบกอดและจูบร่างนั้นอย่างไม่อายใคร
นี่หรอ.. ที่บอกว่าไม่ได้รักกัน
“ลาก่อน”
ฮิมชานพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือพลางยกหลังมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลราวกับเขื่อนแตกอย่างลวกๆ ก่อนจะรีบกระชับกระเป๋าใบใหญ่รีบออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด พอแล้ว พอกันทีกับความทรงจำบ้าๆนี้.. ไม่อยากจะรับรู้อีกแล้วว่าตอนนี้เขาเจ็บปวดมากแค่ไหน อยากจะลืมมันเมื่อเค้าผ่านพ้นห้องนี้ไปได้
หากแต่กลับร่างสูงเองไม่ยอมให้ร่างนั้นจากไปง่ายๆ ยงกุกกระชากแขนนั้นแล้วลากไปยังเตียงของห้องนอน ดวงตาคมที่แฝงไปด้วยโทสะลึกๆทำให้ร่างบางที่ถูกพันธนาการอยู่สั่นด้วยความกลัวราวกับลูกไก่ที่กำลังตกอยู่ในกำมือของคนชั่วร้าย เพราะเค้ารู้ดีว่ายงกุกไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูงนัก.. แล้วตอนนี้ยงกุกกำลังอยู่ในอารมณ์โมโห
“ทำไม!! ทั้งๆที่ฉันก็รักนาย แต่ทำไมยังจะไปจากฉันอีก!!!!”
“ฮึก..ปล่อย!”
นี่ไม่ใช่ยงกุกคนเดิมแล้ว
“ตอบสิฮิมชาน ทั้งๆที่ฉันพยายามรั้งนายไว้แต่นายกลับเอาแต่เดินหนีออกไป!!!!”
“ฮือ..”
ฮิมชานสะอื้นออกมาอย่างรุนแรง หัวน้อยๆนั้นส่ายปฏิเสธ มือเรียวพยายามแกะมือใหญ่กว่าที่พันธนาการแขนของเขาไว้ราวกับโซ่เหล็กที่ไม่มีวันเอาออกมันไปโดยง่าย ตอนนี้ยงกุกน่ากลัวกว่าครั้งไหนๆ.. ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยงกุกโมโหขนาดนี้ แต่หากว่าครั้งนี้มันร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆจนถึงขั้นทำร้ายเค้า ยงกุกไม่เคยบีบท่อนแขนของเขาแบบนี้ ไม่เคยแสดงแววตาแสนน่ากลัว ไม่เคนตะคอกเสียงดังขนาดนี้
กลัว
“เจ็บ.. ยงกุกปล่อยเถอะนะ ฮือ!”
อ้อนวอนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำหูน้ำตาที่ไหลราวอย่างไม่หยุดแสดงได้ชัดเจนว่าฮิมชานเสียใจและกลัวร่างตรงหน้ามากแค่ไหน ภาพที่ฮิมชานร้องไห้อย่างหนักสะท้อนอยู่ในดวงตาสีเข้มของยงกุกทันทีราวกับว่าเค้าพึ่งเห็นภาพนั้น ราวกับว่าเมื่อครู่เค้าโกรธจนไม่ลืมหูลืมตา ไม่รับรู้ถึงความรู้สึกของความกลัวของร่างบางเลยสักนิด
เค้าพลาดแล้ว
ยงกุกมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของฮิมชานด้วยความรู้สึกผิด มือแกร่งรีบปล่อยท่อนแขนนั้นให้เป็นอิสระและทันทีที่เค้าปล่อยร่างตรงหน้าก็ทรุดลงกับเตียงของเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง ฮิมชานกอดตัวเองพร้อมๆกับสะอื้นไห้ออกมาอย่างหนักราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้เค้าเสียใจมากที่สุดในชีวิต ไหล่สั่นเทานั้นไม่แพ้กับมือยงกุกที่สั่นไม่แพ้กัน
ตาคมมองใบหน้าหวานสลับกับฝ่ามือของเขา ..เขาทำอะไรลงไป เค้าทำให้ฮิมชานร้องไห้ขนาดนี้เลยหรอ ? ทั้งๆที่ตอนแรกคิดแต่เพียงแค่ว่าจะรั้งร่างตรงหน้าเอาไว้ให้ได้แต่กลับเหมือนความมืดเข้าครอบงำจิตใจของเขาให้เขาลงมือทำร้ายฮิมชานลงไป ให้เขาเอ่ยน้ำเสียงแสนน่ากลัวออกไป
เกลียดตัวเองนัก
ผิดหวังกับตัวเอง
ยงกุกยกมือขึ้นกุมหัวของตัวเองด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบไปหมด เพราะในหัวของเขาตอนนี้มันมีหลายคำถาม หลายคำด่าทอตนเองตีไปตีมาในหัวไปหมด เขาไม่สามารถทนความรู้สึกนี้ได้เลย.. เค้าทำฮิมชานเสียใจอีกแล้ว สุดของความอดทนร่างสูงเหวี่ยงหมัดของตนเองลงไปที่กระจกบานใหญ่
เพล้ง!!!
“ฮึก..! ยงกุก!!” ฮิมชานร้องออกมาด้วยความตกใจ ราวกับว่าร่างบางลืมความเสียใจเมื่อครู่ไปชั่วขณะรีบเด้งตัวไปหาร่างสูงตรงหน้า น้ำตาก็ยังคงไหลไม่หยุด ดวงตาพล่ามัวนั้นมองกำปั้นที่เต็มไปด้วยเลือดจากการเหวี่ยงหมัดลงกับกระจกเมื่อครู่ ทำไม ทำร้ายตัวเองทำไม.. มือที่สั่นเทาของฮิมชานเลื่อนไปยกมือใหญ่นั้นขึ้นมาดู
ฝ่ามือนี้ที่คอยกุมมือของเขา
“ทำแผลให้นะ”
สุดท้าย.. ฮิมชานก็ไม่อาจจะหนียงกุกไปได้ ร่างบางยังคงเป็นห่วงคนตัวสูงที่คิดทำร้ายตัวเอง ฮิมชานนั่งบนเตียงสีขาวมองใบหน้าหล่อเหลาที่หลับพริ้มไปเมื่อครู่จากคำขอร้องของเขา.. ยงกุกปฏิเสธที่จะนอนเพราะเกรงว่าตื่นมาจะไม่เจอฮิมชาน เค้าเลยโกหกว่าจะไม่ไปไหนและยังให้อีกฝ่ายกุมมือของเขาไว้ตลอดเวลาที่เขานอนพักผ่อน
พรูลมหายใจออกมาอีกครั้ง
ความกลัวในตอนนั้นหายไปสนิทตั้งแต่มีความเป็นห่วงแทรกซ้อนเข้ามา ฮิมชานไม่อาจปล่อยให้ยงกุกอยู่คนเดียวได้ในคืนนี้.. แต่ไม่ใช่ว่าเค้าจะเปลี่ยนใจและไม่ยอมหนีไป แค่ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เค้าจะได้อยู่กับคนรัก
ใบหน้าเรียวก้มลงประทับจูบกับริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาหากแต่เนิ่ดนาน.. ราวกับความฮิมชานพยายามจะจำสัมผัสนั้นให้มากที่สุด ..
ติ้ด ติ้ด..
ฮิมชานละออกมาจากริมฝีกปากนั้นทันทีที่ได้ยินเสียงเตือนข้อความขาเข้าจากโทรศัพท์ที่วางข้างๆ ก่อนมือเรียวจะหยิบมันขึ้นมาดู.. นั่นไม่ใช่โทรศัพท์ของเขาหากแต่เป็นของคนที่นอนหลับอยู่ต่างหาก
ฮยองสัญญาว่าจะมาหาผมในคืนคริสต์มาส
แต่ก็ผิดสัญญาตลอด
ครราวหน้าอย่าได้หวังช็อกโกแลตจากผมเลย
แบร่ คนโกหก!
- จุนฮง –
เค้าไม่ควรยุ่งใช่มั้ย เค้าควรปิดแล้ววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมใช่มั้ย
ในเมื่อยงกุกไม่หยุด ฮิมชานจะเป็นคนหยุดเอง
จนมาถึงตอนนี้เค้าก็ยังคงเจ็บ
ยงกุก มันคงถึงเวลาแล้ว จากนี้ไปนายคงจะมีความสุขกับเด็กนั่นโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีฉันคอยจับผิด
นายไม่ต้องห่วง นายจะมีจุนฮงคอยดูแล
และฉันจะไม่มาเจอนายอีก
“ลาก่อน หัวใจ..”
เฮือก!!!
ยงกุกลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืด เหงื่อกาฬไหลเต็มตัวไปหมดเหตุด้วยห้วงแห่งความฝันเมื่อครู่ เมื่อกี้.. มันเป็นแค่ความฝันใช่มั้ย มือใหญ่ยกขึ้นมาต่างหน้าของตนก่อนจะรีบตบหน้าตัวเองราวกับเช็คว่าเมื่อครู่มันไม่ใช่ความจริง
มันไม่ใช่ความจริงใช่มั้ย
ตอนนี้ฮิมชานแค่กำลังจะกลับมาจากทำงานใช่มั้ย
แต่จู่ๆแสงไฟที่ลอดส่องมาจากการเปิดประตูของคนมาใหม่ก็ทำให้ยงกุกชะงัก.. ก่อนจะเด้งตัวเดินไปหาร่างบางที่เดินดุ่มๆมาถึงตู้เสื้อผ้า แล้วโอบกอดอย่างรักใคร่ โอบกอดด้วยความคิดถึง
“กลับมาแล้วหรอ.. คิดถึงจัง”
“ปล่อย”
ยงกุกขมวดคิ้วทันทีกับประโยคแสนคุ้นเคยนั้น มันเหมือนในฝันเลยแฮะ.. แล้วจากนั้นร่างบางก็เริ่มจัดการเก็บเสื้อผ้าลงใส่กระเป๋าใบใหญ่.. ทุกๆการกระทำ น้ำเสียง และท่าทางมันเหมือนกับในความฝันของเขา
จะเป็นไปได้ยังไง ?
น้ำเสียง ท่าทาง ประโยคซ้ำๆ ยังคงดำเนินเหมือนกับในความฝันของเขาราวกับว่าฉายหนังซ้ำ
ไม่จริงนี่เค้ากำลังฝันไปหรือเปล่า ???????
มันงงไปหมด
“ลาก่อน หัวใจ..”
เฮือก!!!!!!!
มันคือความฝัน!
ยงกุกลอบยิ้มอย่างดีใจอีกครั้งก่อนจะเดินไปหาร่างบางของคนรักและเข้าไปกอดด้วยความรักใคร่ ..ดีแล้วที่มันเป็นแค่ความฝัน ดีเท่าไหร่แล้ว
หากแต่ว่า
ในเวลาต่อมาทุกอย่างกลับดำเนินไปเหมือนเดิม!!
ไม่จริงหน่า ..นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน คนเราจะฝันซ้อนฝัน ซ้อนไปซ้อนมาได้ขนาดนี้ได้ยังไงกัน.. ยงกุกสับสนวุ่นวายไปหมดในขณะที่ยังมองภาพของร่างบางที่ดำเนินไปตามเหมือนความฝันที่เค้าเคยฝันทุกอย่างด้วยแววตาสับสน... ทำไมทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้
ทำไมมัน... ทำไม!!!
“อ้ากกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ใครก็ได้เอาเค้าออกไปจากตรงนี้ที!
ถ้าหากนี่เป็นความฝัน
ขอให้ผมรีบตื่นขึ้นมาเร็วๆ
แต่ว่าสิ่งที่คุณคิดว่ามันเป็นเพียงความฝัน
ยิ่งคุณคิดถึงมันมากเท่าไหร่ ความเจ็บปวดนั้นน่ะ..
มันก็จะย้อนกลับมาทำร้ายคุณเหมือนความฝันที่ไม่จบไม่สิ้น
.
.
.
.
มีแต่คุณเองเท่านั้นที่ทำตัวของคุณเอง
“ฮิมชาน.. กลับมาได้มั้ย”
ความคิดเห็น