คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : [Special 1-shot] Just....
[Special 1-shot] Just...
“เฮ้อ แล้วอย่างนี้จะไปรอดกันไหมนี่”
มาทิลด้าเอ่ยอย่างหนักใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่อาจรู้ พลางยกน้ำอุ่นขึ้นจิบแก้ระคายคอ หลังจากทุ่มเทพลัง (?) ในการติวหนังสือให้เพื่อนร่วมหอมาตลอดทั้งวัน
...สู้ให้เธอไปสอนลิงอ่านหนังสือ คงง่ายกว่าจับเจ้าพวกทะโมนป้อมอัศวินมานั่งติวเป็นกอง
“เอาน่า มาทิลด้าจ๊ะ อย่างน้อยเพื่อน ๆ ก็พอจะได้ทบทวนไปบ้างแล้ว ก็ต้องจำได้บ้างล่ะจ้ะ ส่วนพวกเราก็ตั้งใจทำส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดแล้วกัน”
เป็นคำปลอบของเรนอนคนงาม นางฟ้าที่ดูจะสมฉายาที่สุดใน ‘สามนางฟ้าป้อมอัศวิน’
“นั่นสิ มาทิลด้า อีกอย่าง ถ้าไม่นับเจ้านักรบบ้าจอมขี้เกียจตัวเป็นขนอย่างครี้ด ธันเดอร์ส แล้ว ข้าว่าป้อมเราก็ไม่ใช่พวกหัวขี้เลื่อยนักหรอก ภาคทฤษฎีน่าจะผ่านกันได้ไม่ยาก”
แองเจลิน่าสำทับอย่างเห็นด้วยพลางนวดแขนอันแสนเมื่อยขบของตัวเองไปพลาง ๆ หากไม่วายส่งสายตาจิกกัดไปยังครี้ด ธันเดอร์สที่กำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟาอย่างสบายอกสบายใจที่ไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งท่องหนังสือมหาโหด (ตามที่เจ้าตัวว่า)
“อ้าว แองจี้จ๋า ไหงว่าแต่ข้าล่ะ ทีคนอื่นล่ะ อย่างไอ้คิล ไอ้เฟรินมันอู้เสียขนาดนั้น เจ้าไม่เห็นจะว่าพวกมันบ้างเลย แองจี้ใจร้าย”
เด็กหนุ่มแห่งไนล์เอ่ยน้ำเสียงตัดพ้อ พร้อมทั้งแสดงท่าทางประกอบที่ถ้าคนทำไม่ใช่นักรบสูงใหญ่อย่างเขา แต่เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ คงจะดูน่ารัก น่าเอ็นดูไม่น้อย
“ก็เจ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นี่ ครี้ด อีกอย่าง ใครบอกว่าสองคนนั้นอู้ล่ะ เฟรินน่ะข้าเห็นไปติวกับคาโลที่หลังโรงเลี้ยงสัตว์พาหนะแน่ะ ได้ยินแว่ว ๆ เหมือนจะให้คาโลสอนใช้เวทมนตร์อยู่”
“ห๊ะ ใครสอนใครนะ”
ครี้ดผุดลุกขึ้นนั่งพลางอุทานอย่างไม่เชื่อหู ดวงตาที่เหลือข้างเดียวเบิกกว้างราวกับแองเจลินากำลังเอ่ยเรื่องมหัศจรรย์
“คาโลกับเฟรินไง ส่วนคิลน่ะ เพิ่งมาให้เรนอนติววิชาประวัติศาสตร์ให้เมื่อเช้านี่เอง”
“คิล! ติว! ไม่จริง...”
เด็กหนุ่มร่างใหญ่ครางออกมาอย่างไม่เชื่อหู ก่อนที่สมองซึ่งถูกกล่าวหาว่าเต็มไปด้วย “ขี้เลื่อย” ของเขาจะสะกิดใจในข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับ
“เดี๋ยวนะแองจี้ที่รัก...ข้าไม่เรียกเจ้าอย่างนั้นก็ได้ วางคทาลงเถอะนะ เจ้าเจ็บแขนอยู่ไม่ใช่เหรอ...เจ้าบอกว่า ไอ้คิลมาให้เรนอนติวให้เหรอ”
แอบปาดเหงื่อเล็กน้อยยามเห็นสาวเจ้าขยับตัวคล้ายจะส่งคทามาฟาดศีรษะงาม ๆ เข้าให้
“อื้ม ใช่ไหมเรนอน”
แองเจลิน่าว่าพลางหันไปพยักเพยิดกับเด็กสาวที่กำลังช่วยเธอทายาแก้ปวดเมื่อยที่แขนให้
“เอ่อ จ้ะ”
เรนอนคล้ายชะงักมือที่กำลังทายาไปนิดนึงก่อนตอบราวกับเป็นเรื่องธรรมดา
“เห็นไหม มีแต่เจ้านั่นล่ะ ตัวใหญ่เสียเปล่า....”
แองเจลิน่าเอ่ยต่อไปอย่างยืดยาว หากไม่ได้เข้าหูของคนที่กำลังโดนบ่นแม้แต่น้อย เพราะดวงตาคมกริบ (ที่เหลือเพียงข้างเดียวนั่นล่ะ) กำลังจับจ้องไปที่ใบหน้าที่ระบายไปด้วยสีชมพูจาง ๆ ของเด็กสาวที่ดูจะตั้งอกตั้งใจนวดแขนให้เพื่อนเป็นพิเศษ มุมปากนักรบแห่งไนล์ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มกริ่มพลางหัวเราะในลำคอเสียงดังหึ หึ
...หนอยแน่ะ เห็นเงียบ ๆ อย่างนี้ ร้ายไม่ใช่เล่นนะ ไอ้คุณคิลมัส
บรรยากาศทะมึนรอบตัวกับใบหน้าถมึงทึงของนักฆ่าที่ยังติดจะแดงเรื่อ ๆ คล้ายเจ้าตัวจะอยู่ในอารมณ์โกรธอย่างมาก ทำให้หลายคนไม่กล้าแม้แต่จะเฉียดไปใกล้เด็กหนุ่ม ต่างพากันหลบแหวกเป็นทางให้คิลเดินฉับ ๆ ผ่านไปแต่โดยดี โดยที่เจ้าตัวไม่ได้สังเกตปฏิกิริยาเหล่านั้นแม้แต่น้อย เพราะในหัวยังมีแต่ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่
...ไอ้บ้านั่น มันน่าจับมาเชือดทิ้งนัก
เขาบ่นงึมงำ พลันเด็กหนุ่มก็นึกถึงใบหน้าแดงเรื่อของเด็กสาว และเรือนกายนุ่มนิ่มที่แม้จะได้สัมผัสไม่นาน หากยังติดตรึงในความรู้สึกถึงบัดนี้
...ไม่ได้ ๆ ข้าคิดอะไรอยู่นี่ ตั้งสติหน่อย คิลมัส ฟีลมัส เจ้าไม่ได้คิดอกุศลอะไรกับนาง เจ้าเพียงแต่ช่วยนาง ก็แค่นั้น
ทันทีที่คิดอย่างนั้น เขาก็รู้สึกคล้ายจะได้กลิ่นหอมจากเรือนกายของเด็กสาวที่ยังหอมติดจมูกไม่คลายเสียที เด็กหนุ่มสะบัดหัวแรง ๆ ก่อนจะตบหน้าตัวเองดังเผียะเพื่อเรียกสติกลับคืนมา
“คะ...คุณคิลคะ”
คิลสะดุ้งก่อนหันขวับตามเสียงเรียกทันที เด็กหนุ่มตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างบางในชุดนักเรียนหญิงพอดีตัวยืนอยู่ตรงหน้าเขา เรือนผมหยักศกสีชมพูสะบัดน้อย ๆ ตามแรงลม
“เรนอน!!”
เขาเรียกชื่อเด็กสาวเสียงดัง เพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่ากลิ่นหอมเมื่อครู่นั้นไม่ใช่เพราะเขาคิดไปเอง แต่เพราะเด็กสาวอยู่ด้านหลังเขานี่เอง
เด็กสาวเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อย ๆ จนห่างกันเพียงสองก้าวเท่านั้น เมื่ออยู่ในระยะสายตาเพียงแค่นี้ คิลจึงเพิ่งสังเกตว่า เรนอนกำลังหายใจหอบน้อย ๆ ตามหน้าผากมนและไรผมสีชมพูนั้นมีเหงื่อผุดพราย ทำให้เขารู้ว่าเด็กสาววิ่งตามเขามาตลอดทาง
“ในที่สุดก็ตามทันเสียที คุณคิลนี่เดินเร็วจริง ๆ นะคะ”
เธอพูดเสียงกลั้วหัวเราะปนหอบ หากพอเห็นสีหน้าที่แสดงความเป็นห่วงของคิล เธอก็รีบบอก
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เหนื่อยแค่นี้เดี๋ยวเดียวก็หาย”
เรนอนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนผ่อนออกมาช้ า ๆ พลางส่งยิ้มราวกับจะบอกว่า เห็นไหม
คิลยกมือเกาหัวยุ่ง ๆ ของเขาแกร่ก ๆ เขาไม่เข้าใจว่าเด็กสาวจะวิ่งตามเขามาทำไมให้เหนื่อยเปล่า ๆ ครั้นจะถาม แค่เห็นหน้าเขาก็พูดไม่ออกเสียแล้ว ถึงได้แต่เสมองไปทางซ้ายที ขวาที ไม่กล้ามองเรนอนตรง ๆ เสียที
“คุณคิลมองหาอะไรหรือคะ”
เรนอนถามซื่อ ๆ นักฆ่าหนุ่มสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะด่าตัวเองในใจว่า จะมาขวัญอ่อนอะไรตอนนี้ ก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบ หากสายตายังแอบกลอกซ้ายขวา หาใครสักคนมาพาเขาออกจากสถานการณ์อันกระอักกระอ่วนนี่เสียที แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่เห็นใครสักคน สุดท้ายจึงได้แต่กลั้นใจถามออกไป
“ว่าแต่...เอ่อ เจ้า มีธุระอะไรกับข้าเหรอ...ขอรับ”
ท่าทางหลุกหลิกที่ดูไม่เข้ากับตัว แถมคำรับอย่างเป็นทางการนั่นก็อีก บวกกับใบหน้าที่ยังเป็นสีแดงยิ่งกว่าเด็กสาว ยิ่งทำให้เรนอนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
แม้จะไม่เข้าใจว่าเด็กสาวตรงหน้าหัวเราะอะไร แต่วินาทีนั้นคิลทำได้เพียงจ้องมองคนตรงหน้าอย่างลืมหายใจ
...สว่าง สดใสเหลือเกิน
“คุณคิลนี่ ตลกจังเลยนะ”
ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะคิด หรือทำอะไรต่อไป ใบหน้าหวานก็ขยับเข้ามาใกล้จนเห็นดวงตากลมโตสุกใสอย่างชัดเจน
เขาผงะไปเล็กน้อยพลางก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว หากเด็กสาวยึดแขนไว้เสียก่อน
“ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องเมื่อกี้ แล้วก็...”
เรนอนเอ่ยค้างไว้ก่อนพาตัวเองเข้ามาใกล้ ใกล้จนคิลสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ข้างแก้ม
“...”
เด็กสาวจากไปแล้ว หากนักฆ่าหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
หัวใจของเขากระตุกและเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น หากมันไม่เจ็บปวด
นอกจากไม่เจ็บปวดแล้ว เขายังรู้สึกเหมือนกับอะไรบางอย่างมันพองโตอยู่ในหัวใจดวงนั้น....
“...จริง ๆ แล้ว ข้าก็...ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของคุณคิลหรอกนะคะ”
-------------------------------------------------------------------------------
สั้นเนาะ....สั้นจริง ๆ นั่นล่ะ
เอาตอนพิเศษมาแปะแก้ตัว แหะ ๆ ยังไม่สายไปใช่ไหมคะ (คนอ่านเขาหนีแกไปหมดแล้วล่ะ/ ห๊ะ!)
ได้โปรดอย่าถือโทษกันเลยนะฮ้า อ่านตอนนี้รอไปพลาง ๆ แล้วกันน้า
อาทิตย์ได้โอกาสลาพักร้อนมาแอ่วเมืองเหนือ 2-3 วันค่ะ (โอ้วววว วันหยุดฉันคิดถึงเธอว์ T^T)
แต่กระนั้น....ก็ยังมีงานมาเป็นเงาติดตัว (ฮือ)
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะเคอะ
Thorongil
2011.03.24
ความคิดเห็น