ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Baramos :Another Story (Fan Fic)

    ลำดับตอนที่ #43 : [Special 1-shot] Just....

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.24K
      4
      25 มี.ค. 54

     

     

     [Special 1-shot] Just...

     

     

     

     

     

    เฮ้อ แล้วอย่างนี้จะไปรอดกันไหมนี่

     

    มาทิลด้าเอ่ยอย่างหนักใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่อาจรู้ พลางยกน้ำอุ่นขึ้นจิบแก้ระคายคอ หลังจากทุ่มเทพลัง (?) ในการติวหนังสือให้เพื่อนร่วมหอมาตลอดทั้งวัน

    ...สู้ให้เธอไปสอนลิงอ่านหนังสือ คงง่ายกว่าจับเจ้าพวกทะโมนป้อมอัศวินมานั่งติวเป็นกอง


    เอาน่า มาทิลด้าจ๊ะ อย่างน้อยเพื่อน ๆ ก็พอจะได้ทบทวนไปบ้างแล้ว ก็ต้องจำได้บ้างล่ะจ้ะ ส่วนพวกเราก็ตั้งใจทำส่วนของตัวเองให้ดีที่สุดแล้วกัน

     

    เป็นคำปลอบของเรนอนคนงาม นางฟ้าที่ดูจะสมฉายาที่สุดใน สามนางฟ้าป้อมอัศวิน

     

    นั่นสิ มาทิลด้า อีกอย่าง ถ้าไม่นับเจ้านักรบบ้าจอมขี้เกียจตัวเป็นขนอย่างครี้ด ธันเดอร์ส แล้ว ข้าว่าป้อมเราก็ไม่ใช่พวกหัวขี้เลื่อยนักหรอก ภาคทฤษฎีน่าจะผ่านกันได้ไม่ยาก

     

    แองเจลิน่าสำทับอย่างเห็นด้วยพลางนวดแขนอันแสนเมื่อยขบของตัวเองไปพลาง ๆ หากไม่วายส่งสายตาจิกกัดไปยังครี้ด ธันเดอร์สที่กำลังนอนเล่นอยู่บนโซฟาอย่างสบายอกสบายใจที่ไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งท่องหนังสือมหาโหด (ตามที่เจ้าตัวว่า)

     

    อ้าว แองจี้จ๋า ไหงว่าแต่ข้าล่ะ ทีคนอื่นล่ะ อย่างไอ้คิล ไอ้เฟรินมันอู้เสียขนาดนั้น เจ้าไม่เห็นจะว่าพวกมันบ้างเลย แองจี้ใจร้าย

     

    เด็กหนุ่มแห่งไนล์เอ่ยน้ำเสียงตัดพ้อ พร้อมทั้งแสดงท่าทางประกอบที่ถ้าคนทำไม่ใช่นักรบสูงใหญ่อย่างเขา แต่เป็นเด็กตัวเล็ก ๆ คงจะดูน่ารัก น่าเอ็นดูไม่น้อย

     

    ก็เจ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นี่ ครี้ด อีกอย่าง ใครบอกว่าสองคนนั้นอู้ล่ะ เฟรินน่ะข้าเห็นไปติวกับคาโลที่หลังโรงเลี้ยงสัตว์พาหนะแน่ะ ได้ยินแว่ว ๆ เหมือนจะให้คาโลสอนใช้เวทมนตร์อยู่

     

    ห๊ะ ใครสอนใครนะ

     

    ครี้ดผุดลุกขึ้นนั่งพลางอุทานอย่างไม่เชื่อหู ดวงตาที่เหลือข้างเดียวเบิกกว้างราวกับแองเจลินากำลังเอ่ยเรื่องมหัศจรรย์

     

    คาโลกับเฟรินไง ส่วนคิลน่ะ เพิ่งมาให้เรนอนติววิชาประวัติศาสตร์ให้เมื่อเช้านี่เอง

     

    คิล! ติว! ไม่จริง...

     

    เด็กหนุ่มร่างใหญ่ครางออกมาอย่างไม่เชื่อหู ก่อนที่สมองซึ่งถูกกล่าวหาว่าเต็มไปด้วย “ขี้เลื่อย” ของเขาจะสะกิดใจในข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับ

     

    เดี๋ยวนะแองจี้ที่รัก...ข้าไม่เรียกเจ้าอย่างนั้นก็ได้ วางคทาลงเถอะนะ เจ้าเจ็บแขนอยู่ไม่ใช่เหรอ...เจ้าบอกว่า ไอ้คิลมาให้เรนอนติวให้เหรอ

     

    แอบปาดเหงื่อเล็กน้อยยามเห็นสาวเจ้าขยับตัวคล้ายจะส่งคทามาฟาดศีรษะงาม ๆ เข้าให้

     

    อื้ม ใช่ไหมเรนอน

     

    แองเจลิน่าว่าพลางหันไปพยักเพยิดกับเด็กสาวที่กำลังช่วยเธอทายาแก้ปวดเมื่อยที่แขนให้

     

    เอ่อ จ้ะ

     

    เรนอนคล้ายชะงักมือที่กำลังทายาไปนิดนึงก่อนตอบราวกับเป็นเรื่องธรรมดา

     

    “เห็นไหม มีแต่เจ้านั่นล่ะ ตัวใหญ่เสียเปล่า....”

     

    แองเจลิน่าเอ่ยต่อไปอย่างยืดยาว หากไม่ได้เข้าหูของคนที่กำลังโดนบ่นแม้แต่น้อย เพราะดวงตาคมกริบ (ที่เหลือเพียงข้างเดียวนั่นล่ะ) กำลังจับจ้องไปที่ใบหน้าที่ระบายไปด้วยสีชมพูจาง ๆ ของเด็กสาวที่ดูจะตั้งอกตั้งใจนวดแขนให้เพื่อนเป็นพิเศษ มุมปากนักรบแห่งไนล์ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มกริ่มพลางหัวเราะในลำคอเสียงดังหึ หึ

     

    ...หนอยแน่ะ เห็นเงียบ ๆ อย่างนี้ ร้ายไม่ใช่เล่นนะ ไอ้คุณคิลมัส

     


     

    บรรยากาศทะมึนรอบตัวกับใบหน้าถมึงทึงของนักฆ่าที่ยังติดจะแดงเรื่อ ๆ คล้ายเจ้าตัวจะอยู่ในอารมณ์โกรธอย่างมาก ทำให้หลายคนไม่กล้าแม้แต่จะเฉียดไปใกล้เด็กหนุ่ม ต่างพากันหลบแหวกเป็นทางให้คิลเดินฉับ ๆ ผ่านไปแต่โดยดี โดยที่เจ้าตัวไม่ได้สังเกตปฏิกิริยาเหล่านั้นแม้แต่น้อย เพราะในหัวยังมีแต่ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่

     

    ...ไอ้บ้านั่น มันน่าจับมาเชือดทิ้งนัก

     

    เขาบ่นงึมงำ พลันเด็กหนุ่มก็นึกถึงใบหน้าแดงเรื่อของเด็กสาว และเรือนกายนุ่มนิ่มที่แม้จะได้สัมผัสไม่นาน หากยังติดตรึงในความรู้สึกถึงบัดนี้

     

    ...ไม่ได้ ๆ ข้าคิดอะไรอยู่นี่ ตั้งสติหน่อย คิลมัส ฟีลมัส เจ้าไม่ได้คิดอกุศลอะไรกับนาง เจ้าเพียงแต่ช่วยนาง ก็แค่นั้น

     

    ทันทีที่คิดอย่างนั้น เขาก็รู้สึกคล้ายจะได้กลิ่นหอมจากเรือนกายของเด็กสาวที่ยังหอมติดจมูกไม่คลายเสียที เด็กหนุ่มสะบัดหัวแรง ๆ ก่อนจะตบหน้าตัวเองดังเผียะเพื่อเรียกสติกลับคืนมา

     

     “คะ...คุณคิลคะ

     

    คิลสะดุ้งก่อนหันขวับตามเสียงเรียกทันที เด็กหนุ่มตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างบางในชุดนักเรียนหญิงพอดีตัวยืนอยู่ตรงหน้าเขา เรือนผมหยักศกสีชมพูสะบัดน้อย ๆ ตามแรงลม

     

    เรนอน!!”

     

    เขาเรียกชื่อเด็กสาวเสียงดัง เพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่ากลิ่นหอมเมื่อครู่นั้นไม่ใช่เพราะเขาคิดไปเอง แต่เพราะเด็กสาวอยู่ด้านหลังเขานี่เอง

     

    เด็กสาวเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อย ๆ จนห่างกันเพียงสองก้าวเท่านั้น เมื่ออยู่ในระยะสายตาเพียงแค่นี้ คิลจึงเพิ่งสังเกตว่า เรนอนกำลังหายใจหอบน้อย ๆ ตามหน้าผากมนและไรผมสีชมพูนั้นมีเหงื่อผุดพราย ทำให้เขารู้ว่าเด็กสาววิ่งตามเขามาตลอดทาง

     

    ในที่สุดก็ตามทันเสียที คุณคิลนี่เดินเร็วจริง ๆ นะคะ

     

    เธอพูดเสียงกลั้วหัวเราะปนหอบ หากพอเห็นสีหน้าที่แสดงความเป็นห่วงของคิล เธอก็รีบบอก

     

    ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เหนื่อยแค่นี้เดี๋ยวเดียวก็หาย

     

    เรนอนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนผ่อนออกมาช้ า ๆ พลางส่งยิ้มราวกับจะบอกว่า เห็นไหม

     

    คิลยกมือเกาหัวยุ่ง ๆ ของเขาแกร่ก ๆ เขาไม่เข้าใจว่าเด็กสาวจะวิ่งตามเขามาทำไมให้เหนื่อยเปล่า ๆ ครั้นจะถาม แค่เห็นหน้าเขาก็พูดไม่ออกเสียแล้ว ถึงได้แต่เสมองไปทางซ้ายที ขวาที ไม่กล้ามองเรนอนตรง ๆ เสียที

     

    คุณคิลมองหาอะไรหรือคะ

     

    เรนอนถามซื่อ ๆ นักฆ่าหนุ่มสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะด่าตัวเองในใจว่า จะมาขวัญอ่อนอะไรตอนนี้ ก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบ หากสายตายังแอบกลอกซ้ายขวา หาใครสักคนมาพาเขาออกจากสถานการณ์อันกระอักกระอ่วนนี่เสียที แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่เห็นใครสักคน สุดท้ายจึงได้แต่กลั้นใจถามออกไป

     

    ว่าแต่...เอ่อ เจ้า มีธุระอะไรกับข้าเหรอ...ขอรับ

     

    ท่าทางหลุกหลิกที่ดูไม่เข้ากับตัว แถมคำรับอย่างเป็นทางการนั่นก็อีก บวกกับใบหน้าที่ยังเป็นสีแดงยิ่งกว่าเด็กสาว ยิ่งทำให้เรนอนหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

     

    แม้จะไม่เข้าใจว่าเด็กสาวตรงหน้าหัวเราะอะไร แต่วินาทีนั้นคิลทำได้เพียงจ้องมองคนตรงหน้าอย่างลืมหายใจ

     

    ...สว่าง สดใสเหลือเกิน

     

    “คุณคิลนี่ ตลกจังเลยนะ”

     

    ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะคิด หรือทำอะไรต่อไป ใบหน้าหวานก็ขยับเข้ามาใกล้จนเห็นดวงตากลมโตสุกใสอย่างชัดเจน

    เขาผงะไปเล็กน้อยพลางก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว หากเด็กสาวยึดแขนไว้เสียก่อน

     

    “ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องเมื่อกี้ แล้วก็...”

     

    เรนอนเอ่ยค้างไว้ก่อนพาตัวเองเข้ามาใกล้ ใกล้จนคิลสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ข้างแก้ม

     

    “...”

     

     

     

     

    เด็กสาวจากไปแล้ว หากนักฆ่าหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม


    หัวใจของเขากระตุกและเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น หากมันไม่เจ็บปวด


    นอกจากไม่เจ็บปวดแล้ว เขายังรู้สึกเหมือนกับอะไรบางอย่างมันพองโตอยู่ในหัวใจดวงนั้น....

     

     

     

     

     

    “...จริง ๆ แล้ว ข้าก็...ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของคุณคิลหรอกนะคะ”

     






    -------------------------------------------------------------------------------

    สั้นเนาะ....สั้นจริง ๆ นั่นล่ะ


    เอาตอนพิเศษมาแปะแก้ตัว แหะ ๆ ยังไม่สายไปใช่ไหมคะ (คนอ่านเขาหนีแกไปหมดแล้วล่ะ/ ห๊ะ!)
    ได้โปรดอย่าถือโทษกันเลยนะฮ้า อ่านตอนนี้รอไปพลาง ๆ แล้วกันน้า


    อาทิตย์ได้โอกาสลาพักร้อนมาแอ่วเมืองเหนือ 2-3 วันค่ะ (โอ้วววว วันหยุดฉันคิดถึงเธอว์ T^T)
    แต่กระนั้น....ก็ยังมีงานมาเป็นเงาติดตัว (ฮือ)


    ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะเคอะ


    Thorongil

    2011.03.24



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×