ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #3 : Rule 3 : รักน้องต้องจับจูบ!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27.97K
      90
      19 มิ.ย. 61


    Rule 3 : รักน้องต้องจับจูบ!

    ตอนนี้ไอ้เมฆเมาหลับไปแล้วครับ  มันกินเหล้าที่พี่เทคของมันชงให้ได้เพียงแค่สองแก้วมันก็ฟุบแล้ว  สงสัยต้องติวเข้มให้มันเสียแล้วเพราะขืนมันเมาง่ายแบบนี้มันอาจจะถูกหลอกพาเข้าโรงแรมก็ได้  ไอ้บ้านี่เป็นผู้ชายประสาอะไรวะน่ารักฉิบหาย  ยิ่งตอนเมานะ...อื้อหือ พวกรุ่นพี่มองกันตาเยิ้มเลย

                “อึ๊ก! เอาอีกดิ๊พี่  เร็ว!” ผมที่กำลังกึ่มๆ หลังจากซัดเหล้าเกือบเพียวไปสี่แก้ว  พลังอึดของกูมันใช้ได้นี่หว่า  แต่ตอนนี้ผมมึนจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วล่ะครับ  ไม่รู้ทำไมยิ่งเมายิ่งอยากอัดเหล้าเข้ากระเพาะ

                “ฮันนี่ เยอะไปแล้วนะเว้ย  แม่.งน้องมันเมาแล้วว่ะ  มึงพอเถอะเชี่ยลัน” พี่ขลุ่ยแย่งแก้วเหล้าไปจากมือผมซึ่งผมก็เริ่มโวยวาย  กูแดกของกูดีๆ มาแย่งไปทำไมวะ

                “มันขอเอง  กูไม่ได้บังคับซักหน่อย” พี่ลันยักไหล่ก่อนจะชงเหล้าให้ผมอีก  แต่คราวนี้มันเติมน้ำลงไปเยอะพอสมควร  เหล้าสี่แก้วที่ผมกรอกลงคอนี่ล้วนเป็นฝีมือการชงของไอ้พี่ลันทั้งนั้น  จะเรียกว่าชงคงไม่ถูกเพราะมันแค่รินเหล้าให้ผมเท่านั้นมันไม่ได้เติมน้ำลงไปให้ผมเลย

                “พี่! เร็วๆ เซ่  นี้ดอย่างแรงเลย” ผมแย่งแก้วเหล้าว่างเปล่าของผมออกจากมือพี่ขลุ่ยก่อนจะทุบแก้วลงบนโต๊ะเพื่อเร่งให้พี่ลันเอาเหล้ามาให้ผมอีก  ก็แบบ...เหล้าที่พี่แกชงเมื่อกี้ถูกไอ้พี่ขลุ่ยเททิ้งหมดเลยน่ะสิ  แม่.ง เสียดายว่ะ

                “สุดที่รัก  พอได้แล้ว” ไอ้พี่เสือจับมือพี่ลันที่กำลังจะชงเหล้าให้ผมเอาไว้  เฮ้ย! ไอ้พี่บ้านี่จะห้ามทำไมวะ  ทีโต๊ะอื่นเขายังมอมเหล้าน้องจนอ้วกแตกอ้วกแตน  กูยังไม่ได้เมาถึงขนาดนั้นแล้วพวกมึงจะห้ามกูทำไมครับ(เมาไม่รู้ตัว ปากมันเลยหมาผิดปกติ)

                “ใครสุดที่รักมึงวะไอ้พี่เสือ  โด่ แค่จูบกันนิดเดียวสะเออะเรียกกูสุดที่รัก  ถ้าได้กันมึงไม่เรียกกูเมียเลยเหรอวะ อึ๊ก อย่าให้กูได้ยินอีกนะมึง ไม่งั้นกูเตะไส้แหกเลยแม่.ง” ผมพูดเสียงยาน

                “เฮ้ย โหดว่ะ!!” ไอ้พี่เสือทำตาโตพลางส่งเสียงอู้อ้าอย่างตื่นเต้น  กูด่ามึงเนี่ยมึงดีใจเหรอวะ

                “ไอ้พี่เตี้ยหน้าหล่อ!! รีบชงเหล้ามา เอาเข้มๆ นะเว้ย” ผมเบือนหน้าหนีจากไอ้พี่เสือก่อนจะหันไปหาไอ้พี่ลันซึ่งตอนนี้กำลังทำหน้าอึ้งๆ กับคำพูดคำจาของผม  เมื่อรู้ว่าผมเมาแล้วปากหมาไอ้พี่ลันก็ไม่ชงเหล้าให้ผมอีก

                ผมจ้องหน้าไอ้พี่ลันด้วยสายตาปรือๆ เพราะเมา  ยิ่งมองไอ้พี่นี่ยิ่งหล่อว่ะ  ใบหน้ารูปไข่เรียวยาวรับกับดั้งโด่งๆ  คิ้วเข้มๆ แอบโก่งเล็กน้อยพอให้ดูดี  ตาก็เรียวคม ประกายในตาวิบวับน่ามองแถมขนตายังยาวอีกด้วย  ปากพี่แกเป็นสีชมพูอ่อนอมส้มรูปกระจับน่าจูบ  คอก็ขาว...น่าไซ้เป็นบ้าเลยว่ะ  ถ้าไม่ติดว่าไอ้พี่หล่อนี่ร่างล่ำเป็นหมีควายล่ะก็ผมลากเข้าห้องแล้วนะ  คนห่.าอะไรวะดูดีอย่างกับรูปวาด  หมอนี่ไม่ใช่คนแล้วล่ะ เป็นเทวดาปลอมตัวลงมาแน่ๆ

                มองพี่แกจากฝั่งตรงข้ามแบบนี้ไม่สะใจเลยว่ะ  ว่าแล้วผมก็ลุกเดินเซๆ เข้าไปนั่งข้างพี่แกโดยไล่ยัยผู้หญิงที่นั่งนัวเนียพี่แกออกไป  ผู้หญิงคนนั้นร้องวี้ดว้ายอย่างตกใจก่อนจะรีบกระเถิบหนีเมื่อคนเมาอย่างผมไปไล่หล่อนออก

                “พี่ ทำไมมึงหล่อจังวะ” ผมลามปามเอาแขนพาดคอแกเหมือนสนิทสนมกันมาแต่ชาติปางก่อน

                “คุณสูงครับ  ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะครับ” ไอ้พี่ลันยืดตัวตรงจนแขนผมต้องยกสูงขึ้นอีกพลางพูดเสียงเข้มหน้าตานิ่งสนิท

                “เอ้า  แล้วใครบอกว่ามึงเป็นเพื่อนเล่นกูวะ  มึงเป็นรุ่นพี่กูต่างหาก ใช่ไหมล่า ฮ่าๆ เอิ๊ก!” หัวเราะไปสะอึกไปครับ  ตอนนี้ไอ้พี่ลันหน้าดุมาก  สงสัยจะโกรธที่ถูกปีนเกลียวแต่ตอนนี้กูเมาครับ  เขาว่ากันว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา เพราะงั้นมึงอย่าตีกูนะพี่นะ

                “ถ้ารู้ว่าผมเป็นรุ่นพี่ทำไมคุณถึงกล้าลามปามผม!” ไอ้พี่ลันขึ้นเสียง

                “ปัดโธ่! ไม่พูดกูมึงก็ได้คร้าบ  เอาเป็นว่าทำไมพี่หล่อจังวะ เป็นเทวดาปลอมตัวลงมาเปล่าวะหรือพี่ไปทำศัลยกรรมมา  อืม...ก็บิดจมูกได้นี่หว่า” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ไอ้พี่ลันก่อนจะบัดจมูกมันไปซ้ายทีขวาทีอย่างสนุกสนาน

                “ถ้าไม่หยุดผมจะสั่งทำโทษคุณ!!” ไอ้พี่ลันคำรามเสียงต่ำ  ตอนนี้กูเมา กูไม่กลัวหรอกครับ ฮ่าๆๆ

                “ปากก็น่าจูบว่ะ  ไม่เหมือนปากไอ้พี่เสือเลย ฮุ! นุ่มนะเนี่ย  น่าหม่ำจังเลย” ผมพูดพลางปีนขึ้นไปบนตักไอ้พี่ลันก่อนจะเอานิ้วชี้จิ้มๆ ปากพี่แกอย่างเมามัน

                “ใครวะพี่เสือ? กูชื่อไทนี่หว่า” ผมได้ยินเสียงไอ้พี่เสียดังแว่วๆ มา

                “ไทเกอร์ไง ฮ่าๆ เสือเคราแพะซะด้วย” เสียงไอ้พี่ขลุ่ยดังตามมาอย่างล้อเลียนก่อนเสียงเหมือนวัตถุบางอย่างกระทบกันจะดังขึ้น  ถ้าผมเดาไม่ผิดเสียงนั้นเกิดจากมือพี่เสือที่ฟาดลงกลางกบาลพี่ขลุ่ยแน่ๆ

                “เฮ้ย ไอ้ขลุ่ย  มึงเอามือถือมาถ่ายรูปไว้ดิ๊มันกำลังจะจูบกันแล้วนั่น เร็วๆๆ” เสียงไอ้พี่เสือดังขึ้นพี่ขลุ่ยจึงกุลีกุจอค้นหามือถือมาเตรียมตั้งกล้อง

                ส่วนผมน่ะหรือ...ตอนนี้ไม่รู้อะไรเป็นอะไรรู้แต่ว่าริมฝีปากที่เม้มแน่นตรงหน้ามันน่าจูบมาก  กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ที่แผ่ออกมายิ่งดึงดูดให้อยากจูบเข้าไปใหญ่  ผมเผยอปากเล็กน้อยก่อนจะงับริมฝีปากล่างของไอ้พี่ลันเบาๆ  ผมนิ่งแช่อยู่อย่างนั้นเพราะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป  แค่สัมผัสกันแค่นี้ผมก็รู้สึกดีจนไม่สามารถถอยออกไปได้

                ผ่านไปสักพักดูเหมือนว่าพี่ลันจะรู้ว่าผมรุกไม่เป็นแกจึงค่อยๆ เปิดริมฝีปากและงับปากผมคืน  แกดูดริมฝีปากผมเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ อ้าปากผ่อนลมหายใจ  ผมทำตามเพราะเริ่มรู้สึกว่าลมหายใจมันติดขัด  มือหนาหยาบกร้านดันคางผมให้เชิดขึ้นก่อนลิ้นร้อนๆ จะค่อยๆ ละเลียดชิมรสที่ริมฝีปากของผม  รสแอลกอฮอล์ที่ปลายลิ้นของแกหวานเหลือเกินจนผมอยากจะกินมันไปเรื่อยๆ

                “อื้ม” ผมส่งเสียงในลำคอเบาๆ เมื่อพี่ลันเริ่มรุกหนักขึ้น  แกกวาดลิ้นเข้ามาในโพรงปากก่อนจะสูบเอารสชาติจากข้างในปากผมเหมือนเครื่องดูดฝุ่น(ดูกูเปรียบสิ)  ริมฝีปากผมถูกขบเบาๆ จนเกรงว่าเลือดจะไหลถึงจะเจ็บแต่กลับรู้สึกดี  ผมสอดมือประสานกันไว้ที่ท้ายทอยของพี่ลันก่อนจะกดหัวแกให้ต่ำลงเพราะผมเมื่อยคอ  ผมหายใจไม่ออกเพราะผ่อนลมหายใจไม่เป็นแต่ดูเหมือนว่าพี่ลันแกจะรู้ว่าผมไม่เชี่ยวแกก็เลยชักนำผมให้รู้จักการผ่อนลมหายใจ

                ผมไม่รู้เมื่อไหร่ที่ร่างผมค่อยๆ เอนลงบนโซฟา  มือของพี่ลันที่ประคองหน้าผมอยู่เลื่อนลงมาสัมผัสกับหน้าอกของผมจากนั้นแกก็สะดุดไป  แกถอนริมฝีปากออกก่อนจะค่อยๆ ดึงตัวผมขึ้นไปนั่งดีๆ  รู้สึกว่าหลังจากที่จูบเสร็จผมก็มึนๆ งงๆ จำอะไรไม่ค่อยจะได้

                “หยุดทำไมวะลัน  กำลังมันเลยว่ะ” เสียงไอ้พี่เสือดังขึ้นอย่างตื่นเต้น

                “ไม่มีนมว่ะ” ไอ้พี่ลันตอบเสียงเซ็งๆ ก่อนจะเบ้หน้าเหยเก  อ้าว...ก็กูเป็นผู้ชายนี่หว่า  ถ้ามีนมก็แปลกสิวะ!!

                ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นรู้แต่ว่าผมง่วงเหลือเกิน

     

                แสงแดดยามเช้าส่องผ่านเข้าตาผมจึงเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้น  หนังตามันหนักอึ้งจนไม่อยากจะลืมตาแต่ด้วยความสงสัยว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนผมจึงค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาและมองไปรอบๆ  ตอนแรกๆ ตาผมมัวผมจึงกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสภาพ

                ผมลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปข้างตัวก็พบไอ้เมฆนอนฟุบอยู่บนเตียงเดียวกันด้วยสภาพไม่ใส่เสื้อ  เมื่อเห็นอย่างนั้นก็ก็รีบสังเกตตัวเอง  เฮ้ย!! ผมก็ไม่ได้ใส่เสื้อว่ะ  ซวยแล้ว!! ผมทำอะไรไอ้เมฆหรือเปล่าวะ  ถึงมันจะน่ารักมากแค่ไหนแต่ผมคงไม่หน้ามืดหรอกมั้งเพราะผมก็มีอะไรๆ เหมือนกับไอ้เมฆมัน  แต่ว่า...ผมเมานี่หว่า  ผมอาจจะไม่ได้สนก็ได้ว่าไอ้เมฆมันจะมีเหมือนผมหรือไม่  อ๊ากกกก!! กูปล้ำเพื่อนคนแรกของกูหรือนี่!! เมฆ! กูขอโทษ!!

                แต่แล้วการโวยวายภายในใจของผมก็ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงของใครคนหนึ่ง  ผมรีบหันไปมองไอ้คนที่มาเยือนอย่างตกใจ  เฮ้ย!! มาเจอผมกับไอ้เมฆในสภาพแบบนี้เขาจะคิดอย่างไรวะ  ขนาดผมยังคิดลึกแล้วไอ้คนที่เจอมันจะเหลือเหรอ  โฮ  อยากร้องไห้!

                “ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงไอ้พี่ลันนั่นเองที่ขัดการโวยวายในใจของผม

                “พะ...พี่เตี้ย...” ผมมองหน้าพี่แกพลางเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้  กูอยากร้องไห้  นอกจากจูบแรกกูจะเสียให้กับผู้ชายแล้วครั้งแรกกูยังเป็นผู้ชายอีก  พระเจ้า!!

                “ทำหน้าแบบนั้นคิดว่าตัวเองมีอะไรกับเพื่อนล่ะสิ” ถูกเป๊ะเลยพี่!!

                ผมพยักหน้าเบาๆ ฮือ  ถ้าไม่ติดว่าตัวเองจะน่าสมเพชล่ะก็ผมร้องไห้ไปแล้วนะครับ  ผมโคตรรู้สึกผิดเลยที่ไปบังคับให้เพื่อนมีอะไรด้วยตอนเมา  ผมได้แต่ภาวนาไม่ให้ไอ้เมฆมันรู้ว่าผมปล้ำมันเพราะไหนๆ ผมก็ไม่ได้ฝากรอยไว้บนตัวมันนี่หว่า (จะฝากได้ไงฟะกูทำไม่เป็น)  ถ้ามันตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกแปลกๆ ผมก็จะแถไปให้เป็นอย่างอื่นเพราะไอ้เมฆมันคงไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของมัน  มันทึ่มจะตายไปมันคงจะเชื่อผม

                “คุณไม่ได้มีอะไรกับเขาหรอก  ผมเป็นคนถอดเสื้อให้พวกคุณเองเพราะพวกคุณเมาจนอ้วกใส่กัน” ไอ้พี่ลันกอดอกพูดเสียงเย็น  นอกจากโหมดโหดแล้วแกยังมีโหมดเย็นชาอีกหรือนี่  อยากจะเห็นไอ้พี่คนนี้อยู่ในโหมดร่าเริงจริงๆ

                “โฮ่ย! ค่อยโล่งหน่อย” ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก  ไอ้เมฆเว้ย! กูไม่ได้ปล้ำมึงว่ะ  ฮ่าๆๆ โล่งโว้ยโล่ง! “เอ่อ...แล้วนี่ผมอยู่ที่ไหนครับ?” ผมถามเพราะสภาพห้องไม่คุ้นเลย  ห้องเหมือนเป็นห้องของโรงแรมห้าดาวอย่างไรอย่างนั้น

                “โรงแรม” ไอ้พี่ลันตอบนิ่งๆ

                “เฮ้ย! โรงแรมอะไรครับพี่  แพงเปล่าอ่ะ?” ผมถาม  กูไม่มีเงินนะครับพี่  บ้านผมไม่ได้จนก็จริงแต่ถ้าเป็นโรงแรมในเมืองหลวงแบบนี้ผมไม่อยากจะจ่ายเลยว่ะ  มันรีดเลือดผมจริงๆ

                “ไม่ต้องจ่าย  มันเป็นธรรมเนียมที่รุ่นพี่ต้องดูแลรุ่นน้องอยู่แล้ว” ไอ้พี่ลันพูดนิ่งๆ โอ้โห ใจพี่หล่อมากครับ!

                “เฮ้ย ผมเกรงใจครับพี่” ผมพูด  ที่จริงแอบดีใจ เหอๆ

    “ไม่เป็นไรเพราะผมก็ไม่ได้จ่ายเหมือนกัน” อ้าว...ไอ้พี่บ้านี่  ไอ้เราอุตส่าห์ซึ้งในน้ำใจ

                “แล้วใครจ่ายอ่ะพี่?” ผมถามงงๆ

                “ไม่มีใครจ่าย  ที่นี่เป็นโรงแรงของบ้านผมเพราะฉะนั้นไม่ต้องจ่าย  เอาล่ะ  ปลุกเพื่อนคุณขึ้นมาแล้วไปอาบน้ำให้เรียบร้อย  ถ้าไปเรียนสายตั้งแต่วันแรกมันคงไม่ดี” ไอ้พี่ลันพูดก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมปิดประตูให้ด้วย  โห ไอ้พี่นี่รวยว่ะ  โรงแรมนี้ท่าทางจะแพงซะด้วยเพราะมันสวยมาก  นอกจากจะหล่อแล้วยังรวยอีก แหม...เพอร์เฟ็คท์

                ผมมองไอ้เมฆก่อนจะเขย่าตัวมันแรงๆ เพื่อให้มันตื่น “เมฆ! ตื่นได้แล้ว เร็ว เดี๋ยวไปเรียนสาย”

                “อือ” ไอ้เมฆครางเสียงเบาก่อนจะพลิกตัวแล้วขยี้ตา  ขนาดท่าตื่นของไอ้หมอนี่มันยังทำได้ซะน่ารัก  แต่ผมก็แน่ใจแล้วแหละครับว่าผมไม่ได้พิศวาสไอ้หมอนี่  มันก็เป็นผู้ชายเหมือนผมมีหวมเหมือนผมผมพิศวาสมันไม่ลงหรอกครับ

                ผมไล่ไอ้เมฆไปอาบน้ำก่อนที่ผมจะอาบต่อจากมันโดยที่พวกเราใส่ชุดนักศึกษาชุดเดิม  เสื้อนักศึกษาของเราถูกซักเรียบร้อยส่วนกางเกงก็คงต้องใส่ตัวเดิม  หลังจากที่ผมออกจากห้องน้ำมาได้เพียงหนึ่งนาทีไอ้พี่ลัน พี่เสือ แล้วก็พี่ขลุ่ยก็เข้ามาตามเรา

                ผมกับไอ้เมฆบอกที่อยู่เพราะพวกพี่แกบอกว่าจะไปส่ง  มันบังเอิญมากที่ผมกับไอ้เมฆอยู่หอเดียวกันและดันอยู่ห้องข้างกันอีกต่างหาก  สบายล่ะงานนี้  ผมจะได้ชวนมันไปไหนมาไหนได้ง่ายๆ หน่อย

                พวกผมรวมทั้งพี่ๆ ยืนรอให้ไอ้พี่ลันไปเอารถมารับ  แกเป็นถึงลูกเจ้าของโรงแรมสงสัยจะเอารถหรูๆ มารับแน่ๆ  รูปหล่อพ่อรวยแบบนี้มันน่าอิจฉาเป็นบ้าเลยว่ะ  อยากเป็นแบบนี้มั่งจัง  ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวๆ ถึงชอบแกนัก  แต่มันก็เสียอยู่หนึ่งอย่างคือไอ้พี่คนนี้มันหน้าตายโคตรเลยว่ะแถมดุมากอีกต่างหาก

                บรืน! บรืน!! เสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้ผมตื่นเต้น  ฮู่ว! ท่าทางจะแต่งรถด้วยว่ะเสียงเครื่องดังเชียว  ผมรีบหันไปมองรถที่กำลังจะมารับเราด้วยความตื่นเต้น

                .

                .

                .

                .

                โอ้แม่เจ้า!! ไอ้เราก็อุตส่าห์หวังจะได้นั่งรถแพงๆ แต่ไอ้ที่มาจอดเทียบท่านั้นไม่ใช่รถเจ๋งๆ แต่อย่างใด  มันเป็นรถกระบะสองประตูสีเขียวเข้มแถมยังเก่าสุดๆ ผมกลัวเหลือเกิน  กลัวว่าหัวรถกับกระบะมันจะหลุดออกจากกันจริงๆ  แล้วไอ้รถคันนี้ของพี่แกจะวิ่งถึงหอผมไหมเนี่ย

                ผมมุดไปนั่งเบียดกับไอ้พี่เสือและไอ้เมฆอยู่แค็ปหลังก่อนไอ้พี่ลันตีนผีจะเหยียบคันเร่งจนหัวผมเหวี่ยงไปมาเพราะรถมันไม่นิ่มเอาซะเลย  ไอ้พี่คนนี้ทำตัวไม่สมรวยเลยว่ะ  แต่ก็ดีแล้วล่ะคนที่ไม่อวดรวยแบบนี้ผมชอบดีแฮะ

     

                เมื่อคืนที่ผมเมาผมจำไม่ได้เลยว่าผมทำอะไรลงไปบ้าง  สายตาแปลกๆ ที่พวกพี่มองมามันทำให้ผมสงสัยแต่ไม่กล้าถาม  กลัวรู้ความจริงว่าตัวเองเมาเหมือนหมาแล้วทำอะไรทุเรศๆ ต่อหน้าพวกพี่ๆ เขา  ก็แบบ...มันอายนี่ครับ

                “ขอบคุณที่มาส่งนะครับ” ผมกับไอ้เมฆไหว้ขอบคุณพวกพี่ๆ ก่อนจะเดินเข้าหอไปด้วยกัน  ตอนนี้ก็สายแล้วผมกับไอ้เมฆคงต้องรีบหยิบกระเป๋าแล้วออกไปมหาวิทยาลัย  คงไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล่ะครับ

     

                ผมเดินเซๆ ออกจากห้องเรียนคาบสุดท้าย  บอกตามตรง จนถึงตอนนี้ผมยังมีอาการเมาค้างอยู่เลยแต่ก็ยังดีที่วันนี้ไม่ค่อยได้เรียนเท่าไหร่  ที่จริงคืนนี้พวกพี่ๆ มันนัดไปก๊งเหล้าอีกแล้วครับ  เป็นรุ่นน้องจะปฏิเสธก็ไม่ได้แล้วที่ไปด้วยเนี่ยส่วนมากมีแต่พี่ปกครองเลยครับ  ดุเป็นกระทิงป่ากันทุกคนเลยทีเดียวโดยเฉพาะไอ้พี่ลัน  คือตอนนี้ผมรู้จักประธานปกครองแล้วล่ะครับจากการถามรุ่นพี่นั่นเองเพราะผมไม่อยากเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับพวกมีอิทธิพลเยอะๆ แบบนั้น  คือถ้าผมไม่รู้ว่าประธานปกครองคือใครแล้วล่ะก็ผมคิดว่าไอ้พี่ลันนี่แหละคือประธานปกครอง  นายคนนี้ดุยิ่งกว่ากระทิงป่าอีกครับ  ตวัดสายตามองกูแต่ละทีเล่นเอาเข่าอ่อนกันไปข้าง  ถึงจะพูดหยอกเล่นกับแกเรื่องส่วนสูงในตอนแรกแต่พอรู้ว่าเขาโหดสัดผมก็ไม่กล้าล้อเล่นอะไรต่ออีกเลย(แต่ก็ยังเรียกพี่เตี้ยตราบใดที่พี่แกเรียกผมว่าน้องสูง)

                “ฮันนี่! สองทุ่มเจอกันร้านเดิมนะ” ขณะที่ผมกับไอ้เมฆกำลังเดินโต๋เต๋ออกจากคณะไอ้พี่ขลุ่ย(ผู้เป่าขลุ่ยไม่เป็น)ก็ตะโกนบอกพลางโบกมือหย็อยๆ

                “คร้าบ” ผมโบกมือกลับ  หวังว่าคราวนี้จะได้ดื่มกันแบบสนุกๆ นะ  ไม่อยากโดนมอมเหล้าแล้วเพราะผมกลัวว่าจะทำตัวเมาเป็นหมาให้อายพวกรุ่นพี่อีก

                “สุดที่รักจะกลับหอใช่ไหม  ให้พวกพี่ไปส่งป่ะล่ะทางผ่านพอดี” ไอ้พี่เสือที่ยืนพิงรถกระบะบุโรทั่งโดยมีคนขับนั่งหน้านิ่งพลางเอามือค้ำคางสบายอารมณ์ตะโกนถาม

                “เกรงใจอ่ะพี่” ผมตะโดนบอก  ที่จริงไม่อยากนั่งไปด้วยเพราะไอ้พี่ลันขับรถได้ตีนผีมาก  ขับเร็วไม่ดูสังขารรถตัวเองไอ้ผมก็กลัวเหลือเกินว่านั่งอยู่ดีๆ หัวกับท้ายรถมันอาจจะแยกออกจากกัน

                “ไม่ต้องเกรงใจหรอก มาเถอะจะได้ประหยัดค่ารถเมล์” ไอ้พี่ขลุ่ยเสริมอีกแรงก่อนจะยัดตัวโตๆ ของตัวเองเข้าไปนั่งหลังแค็ปที่ประจำ  อืม...ข้อเสนอไม่เลว  ค่ารถเมล์ออกจากมหาลัยไปถึงหอของผมมันก็ไม่แพงหรอกแต่ประหยัดไว้ก่อนก็ดี  แล้วค่อยเอาเงินค่ารถเมล์ไปหยอดกระปุกดีกว่า

                “งั้นรบกวนด้วยนะครับ” ผมพยักหน้าก่อนจะเดินไปที่รถพร้อมไอ้เมฆ

                “สุดที่รักนั่งด้านหน้าเลย  พี่เห็นเราทำหน้าเหมือนคนเมารถตอนที่มาส่งเมื่อเช้าเพราะฉะนั้นนั่งข้างหน้าน่าจะดีกว่า” ไอ้พี่เสือพูดยิ้มๆ ก่อนจะเนรเทศตัวเองเข้าไปหลังแค็ป  น่าสงสารแฮะ  ลำพังสองพี่นั่งก็เต็มแล้วนี่ยังจะมีไอ้เมฆอีก  แต่ผมสงสารตัวเองก่อนดีกว่าเพราะถ้าขืนผมนั่งหลังแค็ปต่อไปผมอาจจะอ้วกใส่รถไอ้พี่ลันก็ได้เพราะผมเมารถคันนี้จริงๆ

                “พี่เตี้ย...ขับช้าๆ นะ  กลัว” ผมหันไปบอกไอ้หน้าตายข้างๆ ก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัย  เซฟไว้ก่อนล่ะวะ  เกิดประตูหลุดขึ้นมาผมจะได้ไม่ตกรถ

                ไอ้พี่ลันหรี่ตามมองผมเล็กน้อยก่อนจะเหยียบคันเร่งซะแทบมิดเล่นซะหน้าผมเกือบจะโขกกับคอนโซล  ดีนะเนี่ยที่เราคาดเข็มขัดหัวเราเลยไม่โขก  แต่ในขณะที่ผมกำลังภูมิใจกับความฉลาดในการนั่งรถของตัวเองไอ้พี่ลันก็หักพวงมาลัยเลี้ยวรถอย่างรุนแรงจนตัวผมเหวี่ยงไปมาก่อนหัวผมจะโขกกับกระจกประตูรถเสียงดังสนั่น  ผมหันไปมองคนขับอย่างโกรธๆ ก่อนจะพบว่ามุมปากของพี่ลันยกขึ้นเล็กน้อย  ฮึ่ม!! สนุกกับการแกล้งกูจริงนะไอ้พี่ลัน!

     

                ก่อนที่จะถึงหอพักผมก็บอกให้พี่ลันจอดส่งพวกเราที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ หอเพราะผมจะพาไอ้เมฆไปซื้อบ็อกเซอร์ซึ่งเป็นความบังเอิญอย่างยิ่งที่พวกพี่ๆ กำลังจะไปกินข้าวในห้างนั่นพอดี  ผมถามพวกพี่เขาอย่างสงสัยว่าทำไมต้องมากินข้าวเอาตอนบ่ายสามแบบนี้พวกพี่แกเลยให้เหตุผลว่าก่อนกินเหล้าต้องกินข้าวเพราะเหล้านั้นเป็นตัวกระตุ้นให้น้ำย่อยกัดกระเพาะของเรา  แต่พอผมถามต่อว่ากว่าจะกินเหล้ามันตั้งสองทุ่มไม่ใช่เหรอ พวกพี่ๆ ก็ได้แต่หัวเราะแล้วบอกว่า...หิว! (พี่มันหัวเราะกันอยู่สองคนส่วนไอ้พี่ลันนั้นหน้าตาไม่ได้มีความรู้สึกกับเขาเอาซะเลย)

                “ไปกินด้วยกันสิ  เดี๋ยวพวกพี่เลี้ยงเอง” ไอ้พี่เสือชวน  ผมเพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่าพี่ปกครองเขาก็ใจดีเป็นเหมือนกัน

                “จะดีหรือครับ?” ผมถาม เล่นตัวนิดนึงเดี๋ยวเขาจะหาว่าเราเห็นแก่กิน

                “ไปสิ น้องเมฆเขาหิวจนท้องร้องแล้วเนี่ย” ไอ้พี่ขลุ่ยหัวเราะพลางก้มลงไปเอาหูแนบพุงไอ้เมฆ มิน่าล่ะ เมื่อกี้ถึงได้ยินเหมือนเสียงเครื่องซักผ้าเสีย  เสียงท้องไอ้เมฆร้องนี่เอง

                ในที่สุด  ผมสองคนก็ไปกินข้าวกับพวกพี่ปกครองที่โหดดุแต่ใจดี ^^

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    เอาล่ะค่ะ  กระจ่างแล้วนะคะว่าใครคู่ใคร โฮะๆ
    น้องสูงของเราดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเอาซะเลยว่าตัวเองเคะแค่ไหนเล่นซะพี่ลัน(ผู้ชอบนม)เคลิ้มไปเลยทีเดียว
    และ...จูบแรกที่แท้จริงของน้องสูงมิได้เป็นของไอ้พี่เสือแต่อย่างใด(อันนั้นแค่ปากแตะปาก)แต่เป็นของไอ้พี่ลันต่างหาก!!
    ดูเหมือนว่าการพบกันครั้งนี้ของพี่เตี้ยและน้องสูงจะทำให้ไอ้พี่เตี้ยมีงานอดิเรกเพิ่มขึ้นมา...นั้นคือการแกล้งน้องสูงนั่นเอง โฮะๆ

    อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ติดตามด้วยนะคะ

     

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×