ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #34 : Rule 26 : รักน้องต้องแท็คทีม (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 24.55K
      71
      10 ม.ค. 56

    09/01/13
    Update : 10/01/13

    Rule 26 : รักน้องต้องแท็คทีม



    ไอ : "สวัสดีครับผม  ผมไอคร้าบบบบ ^3^ คนอะไรก็ไม่รู้ หล่อเนอะ กร๊ากกก"

     


     

    “ผมถามอีกหน่อยได้ไหม...?” ผมถามเสียงอ่อนอย่างเกรงใจกับคำถามที่กำลังจะถามออกไป  พี่ลันพยักหน้า “พี่มีปัญหาอะไรกับพี่ลุกซ์เหรอครับ?”

    “...”



     

    พี่ลันคลายอ้อมกอดนิดๆ พลางนิ่งไปนานไม่ยอมตอบคำถามและไม่ยอมสบตา  ผมใจสั่นระรัว  อยากจะตบปากตัวเองเหลือเกินที่ดันพูดทำลายบรรยากาศเอาตอนนี้  ถ้าพี่แกโกรธขึ้นมาผมควรจะทำอย่างไรดีล่ะเนี่ย

    “พี่ลันครับ...ถ้าลำบากใจก็ไม่เป็นไรนะครับ” ผมรีบบอกเพราะกลัวพี่มันจะโมโห  เวลาพี่ลันนิ่งๆ ไม่พูดอะไรนี่แหละน่ากลัว  เป็นพายุเงียบที่สร้างความเสียหายได้มากทีเดียว

    “...” พี่ลันนิ่งขมวดคิ้ว  ไม่ยอมสบตาเหมือนเคย  ผมกำมือแน่นกลัวพี่ลันจะโกรธ

    “พี่ลัน...อย่าเงียบสิครับ  อย่างน้อยก็หันมามองผมหน่อยนะครับ” ผมขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้  อยากจะร้องอยู่หรอกแต่มันร้องไม่ออก  น้ำตาผมมันไหลยากไหลเย็นมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะครับ

    พี่ลันเบนสายตามามองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจ “ไอ้ลุกซ์มันชอบแย่งของของฉัน” พี่ลันพูดแค่นั้น  ผมเอียงหน้างง  แค่แย่งของกันทำไมถึงต้องตัดความเป็นพี่เป็นน้องล่ะ

    “ทำไมพี่ลันถึงต้องโกรธขนาดนั้นด้วยล่ะครับ?” ผมถามต่อ  ถ้าพี่มันเปิดปากพูดแสดงว่าพี่มันเองก็อยากจะบอกเหมือนกันสินะ

    “แย่งมาตลอด...ตั้งแต่เด็ก  พอเบื่อก็คืนให้” พี่ลันพูดพลางขมวดคิ้ว  คงจะเจ็บใจสินะ  แต่ทำไมพี่ลุกซ์ต้องแย่งด้วยล่ะในเมื่อพี่ลุกซ์รักพี่ลันมาก  ตอนที่พี่ลุกซ์มาคุยกับผมเรื่องพี่ลันแววตาของพี่ลุกซ์หม่นหมองไม่เหมือนเวลาอยู่ต่อหน้าพี่ลันที่เอาแต่ทำท่าทียียวนกวนส้นตีนจนน่าโมโห

    “...” ผมเม้มปากมองหน้าพี่ลันด้วยสายตาเห็นใจ

    “แม้กระทั่งแฟน...มันก็เอาไปนอนด้วย...” ไอ้พี่ลันกระชับแขนแน่นขึ้นเหมือนกำลังเจ็บปวดที่ถูกแย่งแฟนไปแบบนั้นและเหมือนกับว่า...พี่ลันไม่อยากเสียผมไป “ฉันทนไม่ได้  สองคนนั้นหักหลังฉันทำให้ฉันทำตัวเสเพลประชดชีวิต ถูกพ่อเกลียดจนได้ออกจากบ้าน...” พี่ลันกัดฟันพูดเสียงแผ่ว  ผมซุกหน้าลงบนอกกว้างและกอดพี่ลันแน่นเพื่อจะปลอบ

    “แฟนพี่ลันคนนั้นคือพี่น้ำใช่ไหมครับ?” ผมถาม  แอบเจ็บแปลบๆ ที่พี่น้ำเป็นคนสำคัญถึงขั้นทำให้พี่ลันยอมตัดพี่ตัดน้องกับพี่ลุกซ์

    “แค่เคยเป็น” พี่ลันพูดเสียงเรียบนิ่งเหมือนไม่คิดอะไร

    “แล้วทำไมเขาถึงมาหาพี่ลันได้ล่ะครับ?” ผมถามอย่างสงสัย  พี่ลันไม่ได้ทำท่าโกรธอะไรเวลาเจอพี่น้ำ  มันอาจจะมีอยู่สองเหตุผลก็คือ...พี่ลันรู้สึกเฉยชากับผู้หญิงคนนั้นและไม่คิดอะไร กับ พี่ลันยังรักและแคร์ พอเขามาหาเข้าหน่อยก็เลยหายโกรธ  แต่น่าจะเป็นอย่างแรกเพราะพี่ลันไม่ได้แสดงท่าทีว่าแคร์ผู้หญิงคนนั้นสักเท่าไหร่  ที่ยอมให้กอดแขนก็เพราะเขาไปกอดเอง  พี่ลันคงเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่สะบัดแขนผู้หญิงทิ้งท่ามกลางคนเยอะแยะมากมาย

    “ไม่รู้เหมือนกัน  ก่อนหน้านี้ก็เคยมาหาที่คณะเหมือนกันแต่ฉันไม่ได้สนใจ” พี่ลันพูดก่อนผมจึงค่อยๆ เงยหน้ามองพี่ลันและพบว่าพี่ลันกำลังมองผมอยู่เช่นกัน  ผมหลบตาวูบเพราะรู้สึกร้อนที่หน้าผะผ่าวเมื่อได้สบสายตาจริงจังนั่น

    “ถ้าเขามาขอคืนดีล่ะครับ?” ผมถาม

    “คงจะกลับไปคืนดีล่ะมั้ง” พี่ลันตอบผมจึงรีบถลึงตามองพี่ลันทันที  แววตาเป็นประกายวิบวับอย่างล้อเลียนของไอ้พี่ลันทำให้ผมต้องก้มหน้างุดๆ โดนแกล้งเลยเรา “เออ...ยังมีอีกหนึ่งคดีที่ยังไม่ได้เคลียร์” ไอ้พี่ลันพูดอย่างนึกขึ้นได้

    “อะไรครับ?” ผมเอียงหน้างงๆ

    “ทำไมนายดูจะสนิทกับไอ้ลุกซ์ซะขนาดนั้น!?!” ไอ้พี่ลันถามเสียงขุ่น

    “ผมก็แค่คิดว่า...พี่ลุกซ์เป็นรุ่นพี่ที่ดีคนหนึ่งเท่านั้นเอง อีกอย่างพี่เขาก็เป็นพี่รหัสด้วย” ผมตอบเสียงแผ่วเพราะกลัวไอ้พี่ลันจะโกรธ

    “ฮึ!” ไอ้พี่ลันแสยะปากเหมือนกำลังหมั่นไส้ไอ้พี่ลุกซ์

    “แต่มันบังเอิญจังนะครับที่พี่ลันได้เป็นน้องรหัสของพี่ลุกซ์” ผมพูด  มันบังเอิญมากจริงๆ

    “บังเอิญอะไรล่ะ? ดูก็รู้ว่ามันใช้อำนาจในการควบคุมฉัน  ถ้ามันสั่งอะไรฉันก็ต้องทำเพราะมันเป็นรุ่นพี่” พี่ลันพูดเสียงแข็ง  อย่างนี้นี่เอง...พี่ลุกซ์คงอยากจะดูแลพี่ลันก็เลยใช้อำนาจของตนเองเพื่อให้ได้พี่ลันเป็นน้องรหัสสินะ

    ผมจะไม่บอกพี่ลันหรอกเรื่องที่พี่ลุกซ์มาคุยกับผม  พี่ลุกซ์เองก็คงมีเหตุผลของตัวเองถึงได้เอาแต่แกล้งจนพี่ลันเจ็บปวด   พี่ลุกซ์อาจจะแค่แสดงความรักต่อคนที่ตัวเองรักไม่เป็นก็ได้

    “ถ้าพี่ลุกซ์เขาตั้งใจจะแกล้งพี่ลันเพื่ออยากให้พี่ลันเข้มแข็งขึ้นล่ะครับ? พี่จะยังโกรธอยู่ไหม?” ผมถามลองเชิง

    “น้ำหน้าอย่างมันทำได้แค่แกล้งเพื่อความสะใจส่วนตัวเท่านั้นแหละ” พี่ลันพูดแค้นๆ

    “ฮะๆ นั่นสินะครับ  พี่ลุกซ์โรคจิตชอบแกล้งคนอื่นผมก็เลยกลัว” ผมหัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงครั้งแรกที่เจอกัน  ไอ้พี่ลุกซ์โหดซะไอ้เมฆน้ำตาไหลพรากๆ  แต่ก็เพราะพี่ลุกซ์...ผมกับพี่ลันก็เลยกลายมาเป็นแบบนี้

    “ไอ...”

    “ครับ?” ผมขานรับอย่างสงสัยที่พี่ลันเรียกชื่อผม  พอถูกเรียกชื่อแบบนี้ผมรู้สึกเขินๆ แฮะ  เพราะไม่บ่อยหรอกที่พี่มันจะเรียกชื่อผม  ส่วนมากชอบเรียกตอนที่ผมสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

    “...” พี่ลันไม่พูดอะไรต่อทำแค่เพียงกอดผมให้แน่นขึ้นและกดศีรษะของผมให้ซุกอกตัวเองนิ่งๆ และเนิ่นนาน  ถึงพี่ลันไม่พูดอะไรผมก็รู้ว่าพี่ลันไม่ต้องการให้ผมไปยุ่งกับพี่ลุกซ์  ถ้าพี่ลันรู้ว่าพี่ลุกซ์รักพี่ลันมากจนยอมที่จะถูกเกลียดพี่ลันจะว่าอย่างไรนะ?  ผมอยากให้พี่ลุกซ์บอกพี่ลันจริงๆ ว่าแท้จริงแล้วพี่ลุกซ์ทั้งรักทั้งเป็นห่วงพี่ลันมากแค่ไหน



     

    ผมผล็อยหลับซบอกไอ้พี่ลันไปตอนไหนก็ไม่รู้แต่ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่ไอ้เมฆมันโทรเข้ามา  ผมละล้าละลังไม่กล้ารับโทรศัพท์เพราะไม่รู้จะแก้ตัวกับไอ้เมฆอย่างไรดี

    “ไอ้ไอ!! มึงหายหัวไปอยู่ที่ไหนวะ!?!” ทันทีที่ผมกดรับไม่จำเป็นที่ผมจะต้องพูดเสียงไอ้เมฆก็ดังแทรกเข้ามาจนผมต้องรีบยกโทรศัพท์ออกห่างจากหู

    “ใจเย็นๆ นะมึง ใจเย็นๆ” ผมทำหน้าเหยเกก่อนจะพูดเพื่อให้ไอ้เมฆสงบลง

    “ไม่ต้องมาบอกให้กูใจเย็น  เมื่อวานมึงหอบเสื้อผ้าหนีไปกับครีมแต่ทำไมวันนี้มึงไม่มาที่คณะวะ!?! กูไปหาครีมที่ตึกคอมฯ ครีมบอกว่าเมื่อวานพี่ลันพามึงไปอยู่ด้วย  มึงอธิบายมาให้หมดเดี๋ยวนี้!!” ไอ้เมฆทำเสียงโหดขู่  นี่มันลงทุนไปหาครีมถึงตึกวิศวะคอมฯเลยเหรอเนี่ย  ตายห่าแน่กู

    “เอิ่ม...เดี๋ยวกูกลับไปเล่าให้ฟังนะ  เล่าตอนนี้กูกลัวเปลืองเงินโทรศัพท์มึงไง” ผมแถเพื่อที่จะหาเวลาคิดข้อแก้ตัว

    “ไม่! ถ้าคุยตอนกลับหอมึงก็จะเอาเวลาไปคิดข้อแก้ตัว   บอกกูมาเดี๋ยวนี้!” ไอ้เมฆเค้น  ผมหันไปมองไอ้พี่ลันที่เพิ่งตื่น  ผมทำหน้าแหยๆ ก่อนจะทำขยับปากว่าบอกขอโทษที่ทำให้ตื่น  พี่มันโบกมือบอกว่าไม่เป็นอะไรก่อนจะลุกเดินเข้าไปในครัว

    “เอ่อ...คือว่ากู...เอ้อ คือ...พี่ลันไปเจอกูตอนที่อยู่กับครีมพอดีก็เลยให้กูไปอยู่ด้วย จะให้ไปอยู่กับผู้หญิงมันก็ดูไม่ดีใช่ไหมล่ะ ฮะๆๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อนน้ำเสียงพิรุธ

    “แล้วทำไมมึงต้องไปอยู่ที่อื่น? ไหนจะเรื่องประตูห้องมึงอีก!” ไอ้เมฆตะคอก  น้องเมฆที่น่ารักของพี่ไอครับ...อย่าตะคอกเป็นนางมารสิลูก พี่ไอเห็นน้องเมฆเป็นนางฟ้ามาโดยตลอดนะครับ T^T

    “เอ่อ...พอดีทะเลาะกันกับพี่ลันนิดหน่อย  พี่มันโมโหก็เลยพังประตูห้องกูน่ะ  แต่ตอนนี้เคลียร์กันแล้ว” ผมป้องปากพูดเพราะไม่อยากให้ไอ้พี่ลันได้ยินแต่พอมองไปที่ประตูห้องครัวก็พบว่าพี่มันยืนพิงสันประตูกอดอกมองหน้าผมนิ่งๆ  ผมรีบหันไปยิ้มแหยๆ ให้ทันที

    “มึงนี่น้า...เฮ้อ” ไอ้เมฆคลายเสียงโมโหลงก่อนจะถอนหายใจยาว “กูก็แม่งเป็นห่วงกลัวว่าจะเป็นอะไร  ยิ่งเดี้ยงๆ อยู่ด้วย” อ้อ ที่โมโหก็เพราะเป็นห่วงนี่เอง  แหม...นางฟ้าตัวน้อยๆ ของพี่ไอ คึๆ

    “ขอโทษนะเว้ยที่ไม่ได้บอกก่อน  เดี๋ยววันนี้กูจะกลับแล้วแหละ” ผมบอก  ขืนอยู่ค้างที่นี่ไม่รู้ว่าจะเสียตัวไปอีกกี่รอบถึงจะสมใจพี่หื่นหน้าตายอย่างไอ้พี่ลัน

    “เออ” ไอ้เมฆพูดแค่นั้นก่อนสายจะตัดไป  ผมหันกลับไปมองพี่ลันนิดๆ ก่อนที่พี่แกจะเดินถือแก้วน้ำเข้ามาให้ดื่ม  รู้ด้วยว่าเราคอแห้ง >///<

    “นั่นเพื่อนหรือแม่?” ไอ้พี่ลันถาม ฮ่าๆๆๆ ดูพี่มันถามเข้า  แต่จะว่าไปก็เหมือนแฮะ  ผมเหมือนลูกที่ดื้อเลยทำให้แม่ต้องคอยดุด่าว่ากล่าวเสมอ  และผมก็เหมือนพ่อขี้หวงที่เวลามีผู้ชายมาจีบไอ้เมฆแล้วผมก็มักจะปกป้องมันอยู่เสมอ

    “ฮะๆ ก็เพราะพี่เตี้ยนั่นแหละไอ้เมฆเลยเป็นห่วงขนาดนี้” ผมพูดยิ้มๆ ก่อนจะกรอกน้ำในแก้วลงคอรวดเดียวหมด

    “อ้าว? ผิดอีกแล้วเหรอเนี่ย?” พี่ลันส่ายหน้าไปมาก่อนจะเอนตัวพิงพนักพิงพลางกอดอก  รู้สึกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับผมล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับไอ้พี่ลันทั้งนั้น  บางทีพี่ลันก็ไม่ได้ก่อขึ้นแต่มันดันเกี่ยวกับพี่แกซะงั้นผมก็เลยยกให้เป็นความผิดพี่ลันซะเลย

    แต่ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้เสียงกดออดก็ดังขึ้นพี่ลันจึงลุกเดินไปเปิดประตู

    “พี่ลันขา!!” เสียงหวานหูของผู้หญิงดังขึ้นทำให้ผมต้องรีบหันไปมองก่อนจะหน้าตึงเมื่อไอ้พี่ลันถูกหญิงสาวตัวเล็กกอดไว้แน่น  พี่ลันชะงักเล็กน้อยก่อนจะโน้มตัวลงกอดผู้หญิงคนนั้นอย่างอ่อนโยน

    “เป็นอะไรไป?” เสียงทุ้มเจือความเป็นห่วงถามเมื่อรู้ว่าหญิงสาวร้องไห้จนตัวสั่นเทิ้ม  อะไรกันน่ะ? ไหนพี่ลันบอกว่าไม่มีใครไงวะ  แล้วผู้หญิงที่กอดกันไม่อายฟ้าอายดินนั่นมันใครกันฟะ!!??

    50% left




    “ฮึก ฮือ ไลลาทะเลาะกับพี่ลุกซ์  พี่ลุกซ์ใจร้าย ฮือๆๆ” เสียงสั่นเครือดังขึ้นพร้อมกับสะอื้นไห้แลดูทรมาน  เกี่ยวอะไรกับพี่ลุกซ์? หรือผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนพี่ลุกซ์?

    “เข้ามาก่อนมาไลลา  เล่าให้พี่ฟัง” ไอ้พี่ลันเดินประคองผู้หญิงร่างบางเข้ามาในห้องก่อนจะตรงมาที่โซฟา  ผมขยับไปนั่งโซฟาตัวเล็กเพื่อที่จะให้ไอ้พี่ลันพาผู้หญิงคนนั้นมานั่งคุยกันที่โซฟาตัวยาวอย่างรู้งาน  แม้จะรู้สึกงงๆ ก็ตาม

    พอผู้หญิงคนนี้เอามือที่ปิดใบหน้าออกก็ทำให้ผมรู้ว่าเธอเป็นเพียงเด็กนักเรียนเท่านั้นและเธอเป็นคนที่หน้าตาน่ารักมาก  ตอนแรกที่ผมไม่รู้ว่าเธอยังเป็นเด็กนักเรียนก็เพราะเธอสวมชุดไปรเวท  ไอ้พี่ลุกซ์กินเด็กเหรอเนี่ย?

    “พี่ลุกซ์ ฮึก! ดุไลลา  หาว่าไลลาพาผู้ชายเข้าบ้านแล้วก็ต่อยรุ่นพี่ของไลลา ฮือ รุ่นพี่ของไลลาเขาเป็นตุ๊ดนะ  เขาเป็นพี่ที่โรงเรียนของไลลานะ! ฮือ ทำไมพี่ลุกซ์ถึงชอบดุชอบด่าตลอดเลย โฮ” เด็กสาวปล่อยโฮออกมาโดยไม่สนใจว่าผมจะนั่งมองเธออยู่  เอ...ผมว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แฟนพี่ลุกซ์แล้วล่ะ  มาอีหรอบนี้คงเป็นน้องสาวของไอ้พี่สองตัวนี่แน่เลย  แต่หน้าไม่ยักกะเหมือนกันเลยแฮะ

    “ไม่เอานะไลลา  ไม่ร้องนะไม่ร้อง” ไอ้พี่ลันดึงเด็กสาวเข้าไปกอดพลางลูบหัวเบาๆ  พี่ลันมีมุมที่อ่อนโยนขนาดนี้ด้วยเหรอเนี่ย? แลดูเป็นผู้ชายอบอุ่นแต่หน้าตายเนอะ

    “ไลลาเกลียดพี่ลุกซ์แล้ว! ไลลาคิดเสมอว่าที่พี่ลุกซ์ชอบดุก็เพราะเป็นห่วง  แต่วันนี้พี่ลุกซ์ทำเกินไป  พี่คนนี้เขาเป็นรุ่นพี่จากแผนกม.ปลายเขาจะมาแนะนำเรื่องการเลือกสายการเรียนแต่พี่ลุกซ์ไม่เข้าใจ  เอาแต่ด่าๆๆแล้วก็ต่อยหน้าด้วย  รุ่นพี่เขาบอบบางจะตายทำไมต้องทำป่าเถื่อนแบบนั้น ฮือ” น้องไลลาระบายออกมาอย่างอึดอัด

    “ถ้าเรื่องเลือกสายการเรียนทำไมไม่ปรึกษาไอ้ลุกซ์มันล่ะ  หรือจะโทรมาหาพี่ก็ได้” ไอ้พี่ลันพูดเสียงอ่อน

    “ก็พี่ลุกซ์ไม่อยู่ที่บ้านนี่คะ! พอพี่ลันออกจากบ้านไปพี่ลุกซ์ก็ออกไปเหมือนกัน  ทุกวันนี้ไลลาเหมือนไม่มีพี่ชายเลย ฮือๆ” ไลลางอแงก่อนจะทุบอกของพี่ลันดังอั่ก  น่าสงสารแฮะ มีพี่ชายแต่ก็เหมือนไม่มี ผมเข้าใจว่ามันเหงามากแค่ไหนที่ต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีพี่น้อง  ผมเป็นลูกคนเดียว  เวลาเพื่อนพูดถึงพี่น้องของตัวเองผมก็มักจะเงียบฟังทั้งๆ ที่ปกติผมเป็นคนพูดมาก  ก็ผมไม่มีเรื่องพี่น้องจะเล่าให้ใครฟังนี่ครับ

    “เรื่องนั้นช่างมันก่อนนะไลลา  แล้วตอนนี้รุ่นพี่ของเราอยู่ที่ไหนล่ะ? กลับบ้านหรือยัง?” พี่ลันกัดริมฝีปากเมื่อได้ยินคำตัดพ้อก่อนจะถามถึงรุ่นพี่ที่ทำให้น้องไลลาต้องทะเลาะกับพี่ชายคนโต

    “ยังค่ะ ที่ไลลามานี่ได้ก็เพราะพี่เขามาส่ง  ไลลาโกรธก็เลยหนีพี่ลุกซ์มา” น้องไลลาพูดก่อนจะผละออกมาจากอ้อมแขนของคนเป็นพี่

    “มายังไง? แล้วแม่รู้เรื่องนี้ไหม?” พี่ลันรีบถามทันที

    “พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านเพราะติดงานทั้งคู่เลยค่ะ  พี่ลุกซ์บังเอิญกลับบ้านมาพอดีก็เลยเป็นเรื่อง  ดูพี่ลุกซ์หัวเสียมาจากไหนก็ไม่รู้แล้วก็มาลงใส่ไลลา  นิสัยแย่ที่สุดเลย” ไลลาเม้มปากทำท่าจะปล่อยน้ำตาอีกระลอก

    “แล้วทำไมไลลาอยู่กับพี่ผู้ชายทั้งๆ ที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้านล่ะ!?!” ไอ้พี่ลันข่มตาดุมองจนไลลาสะดุ้งเบ้หน้าร้องไห้อีก

    “บอกแล้วไงว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย  พี่ลันก็เป็นเหมือนพี่ลุกซ์!! ทำไมไม่มีใครเชื่อใจไลลาเลย! เขาไม่ทำอะไรไลลาหรอกเพราะเขาชอบผู้ชายด้วยกันไง!” ไลลาตะโกนแข่งกับเสียงดุๆ ของพี่ลัน

    “ไลลารู้จักรุ่นพี่ของตัวเองดีแค่ไหนกัน? เขาอาจจะมาหลอกเราก็ได้!” ไอ้พี่ลันบีบแขนเล็กๆ จนน้องเริ่มห่อตัวเพราะความเจ็บ  ผมมองอย่างช่วยอะไรไม่ได้เพราะไม่อยากถูกหาว่าเข้าไปเสือกเรื่องของครอบครัว

    “พี่ลัน!! พี่ลันพูดเหมือนพี่ลุกซ์ไม่มีผิด! ไลลาบอกว่าเขาเป็นเพื่อนก็เพื่อนสิ!! ไลลาไม่น่ามาหาพี่ลันเลย ฮือ!” ไลลาแกะมือของพี่ชายออกจากนั้นก็รีบวิ่งออกจากห้อง  ผมกับไอ้พี่ลันรีบวิ่งตามไปทันที

    น้องไลลาเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดปิดลิฟต์อย่างรวดเร็วจนผมกับไอ้พี่ลันตามไปไม่ทัน

    “เหี้ยเอ๊ย!!” ไอ้พี่ลันสบถอย่างหัวเสียพลางเร่งกดลิฟต์

    “พี่ลัน! ผมจะตามไปดูน้องก่อน  พี่รีบไปเอากุญแจรถเถอะครับ” ผมบอกอย่างมีสติ  ถ้าเพื่อนของน้องไลลามาส่งเขาอาจจะรอรับอยู่ข้างล่างก็ได้

    พี่ลันพยักหน้าก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องพอดีกับลิฟต์มาผมจึงรีบเข้าไป  พอถึงที่หมายผมก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาดูลาดเลาว่าน้องไลลาไปอยู่ที่ไหนแล้ว  ผมมองตามรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก่อนจะพบว่าน้องไลลาขึ้นซ้อนโดยมีผู้ชายใส่เครื่องแบบชุดนักเรียนเป็นคนขี่  ผมจ้องตามไปเพื่อจดจำว่าพวกเขาไปทางไหน

    เอี๊ยดดดด!!

    เสียงล้อรถยนต์เสียดสีกับพื้นถนนดังสนั่นจนคนแถวนั้นหันมามอง  เจ้าของรถที่มาจอดเทียบท่าตรงหน้าผมเปิดประตูลงมาจากรถด้วยสีหน้าถมึงทึง

    “นี่! น้องสาวผมได้มาหาไอ้ลันที่นี่ไหม!?!” ไอ้พี่ลุกซ์ตะคอกถามผมอย่างหัวเสียแต่ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิ้ลยูคันเท่ก็มาจอดข้างหน้ารถของไอ้พี่ลุกซ์  คนบนรถสุดเท่คันนั้นเปิดหน้ากากหมวกกันน็อคขึ้นทำให้ผมเห็นว่าคนคนนั้นคือไอ้พี่ลันนั่นเอง  แม่ง...เท่ว่ะ!

    พี่ลันก้าวลงจากรถก่อนจะเดินตรงมากระชากคอเสื้อไอ้พี่ลุกซ์  หน้าของสองคนนี้แลดูโกรธจนดูเหมือนกับว่าพวกเขากำลังจะตีกันเลยล่ะครับ

    “มึงทำอะไรน้อง!?!” ไอ้พี่ลันตะคอกถาม

    “กูต่อยหน้าไอ้ผู้ชายเหี้ยๆ ที่น้องมันพาเข้าบ้านไง!!” ไอ้พี่ลุกซ์ตะคอกกลับ  ผมรู้สึกกระสับกระส่ายกลัวพวกพี่มันต่อยกัน  อยากจะเข้าไปบอกเหลือเกินว่าถ้าพวกมึงเป็นห่วงน้องควรรีบตามน้องไปแต่ผมกลัวจะถูกด่าสวนกลับมาเพราะพี่สองคนนี้กำลังเดือดได้ที่เลยล่ะครับ

    “มึงไปต่อยเพื่อนน้องทำไมล่ะ? ไลลาโกรธมากนะรู้ไหม!!

    “เมื่อวันก่อนกูเห็นไอ้เหี้ยนั่นนัวเนียกับผู้หญิงแล้ววันนี้กูเสือกเห็นมันอยู่ในบ้านกับน้องแค่สองคน  เป็นมึงมึงจะทำยังไงล่ะ!?!” ไอ้พี่ลุกซ์พูด  ผมตกใจรีบหันไปมองถนนที่พวกน้องๆ ขี่รถไปทันที  ห่างออกไปประมาณ 500 เมตรผมเห็นรถที่น้องไลลานั่งกำลังติดไฟแดงอยู่  แม่ง  น้องไลลาดันไปกับตัวอันตรายซะแล้ว

    “กระทืบมันไง!” ไอ้พี่ลันพูดก่อนจะปล่อยพี่ลุกซ์แล้ววิ่งไปขึ้นรถของตัวเอง

    “เมื่อกี้ผมเห็นเขาขี่รถไปด้านโน้นครับ  เร็วๆ เถอะ ไฟเขียวแล้ว!” ผมบอกก่อนจะชี้ไปที่สี่แยกข้างหน้า  พี่ลันโยนหมวกกันน็อคอันเล็กให้ผมก่อนที่ผมจะเดินกะเผลกๆ ไปนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่  ไอ้พี่ลุกซ์เองก็รีบขึ้นรถและบึ่งออกไป  แต่เนื่องจากรถติดทำให้เราคลาดสายตากับพวกน้องๆ

    ไอ้พี่ลุกซ์ขับเบียดคนอื่นๆ ขึ้นมาเทียบเคียงกับรถของพี่ลันก่อนจะเปิดกระจกเพื่อส่งสัญญาณให้กัน  ไอ้พี่ลุกซ์พยักหน้าไปด้านซ้ายก่อนที่พี่ลันจะเลี้ยวรถไปด้านซ้ายส่วนพี่ลุกซ์ก็ขับตรงไปด้วยความเร็วสูง  ผมจับเบาะแน่นเพราะกลัวตกเนื่องจากไอ้พี่ลันขับเร็วมากอีกทั้งเวลาเลี้ยวยังเลี้ยวได้น่าหวาดเสียวสุดๆ

    “แยกกันทำไมครับ?” ผมตะโกนถามแข่งกับเสียงลม  ทางที่ไอ้พี่ลันมารถติดพอสมควรครับแต่พี่มันขี่ฉวัดเฉวียนปาดไปปาดมาโดยที่ความเร็วแทบไม่ลดลงเลย ดีนะเนี่ยที่พี่ลันเลือกเอามอเตอร์ไซค์ออกมา

    “แถวนี้มีโรงแรมม่านรูด  ไอ้เหี้ยนั่นคงหลอกว่าจะพาไลลาไปหลบแน่ๆ!” ไอ้พี่ลันกัดฟันพูด  ท่าทางจะโกรธมาก  แต่ผมดีใจนะครับ  พี่ลันกับพี่ลุกซ์ยังไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำแต่กลับรู้ความคิดของอีกฝ่ายเพียงแค่มองตากันเท่านั้น  สายสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องยังไม่ได้ขาดไปเสียหน่อย

    ไอ้พี่ลันเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด  อีกด้านหนึ่งไอ้พี่ลุกซ์ก็ขับรถเข้ามา  ทั้งสองคนขับรถตรงเข้าหากันด้วยความเร็วสูงก่อนจะเบรกอย่างรุนแรงจนเสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนดังหวีดหวิวแสบแก้วหู  รถไอ้พี่ลุกซ์ไถลดริฟต์จนรถหมุม 90 องศาก่อนจะหยุดลง  ไอ้พี่ลันเองก็เบรกแรงๆ จนล้อหลังตวัดไถลเข้าหารถไอ้พี่ลุกซ์แต่รถทั้งสองไม่ได้ชนกันอย่างที่ผมกลัว  ทั้งสองคนจอดรถก่อนจะก้าวลงจากรถพร้อมกัน  ส่วนผมต้องปีนลงครับ  รถทั้งสองคันจอดแทบชิดกันโดยที่หัวรถชี้เข้าไปที่ห้องที่ถูกปิดด้วยผ้าใบห้องหนึ่งเหมือนกับว่าคำนวณไว้ก่อนแล้ว 

    ไอ้สองพี่นี่ตั้งใจโชว์เท่ใช่ไหมถึงขับรถพุ่งเข้าหากันแบบนั้น  ไอ้คนซ้อนอย่างผมหัวใจแทบวาย  ตอนที่พี่ลันเบรกแล้วล้อหลังไถลเข้าไปหารถพี่ลุกซ์ผมแทบจะกัดลิ้นตายก็เพราะตำแหน่งที่ผมนั่งมันตรงกับล้อหลัง  ตัวผมถูกกระชากให้สะบัดไปตามแรงเหวี่ยงของรถทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกกระชากวิญญาณไปด้วย  ขอบอก...รู้สึกเหมือนวินาทีเฉียดตายอย่างไรก็ไม่รู้

    100%

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    มาอัพตามสัญญา คึๆๆๆ
    สองพี่นี่มันก็เข้าใจกันดีไม่ใช่เหรอวะ  แล้วทำไมพวกมึงแม่งไม่เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่ายฟะ!
    อิลุกซ์ก็ชอบแกล้ง  อิลันก็แม่มแค้นฝังหุ่น ชาติไหนพวกมึงจะลดทิฐิฟร้าาาาา (<<ก็ต่อเมื่อมึงแต่งนั่นแหละ เหอๆๆ)

    ปล.เห็นคำผิดบอกด้วยนะจ๊ะ ^O^ 
    รีดเดอร์หลายคนอาจจะยังไม่รู้แต่นิยายเรื่องนี้ติด Top 5 ด้วยนะ >O< ฮ่าๆๆ



    นอกจากเรื่องของพี่ลันจะติดแล้วเรื่องของพี่ลุกซ์ก็ติดเหมือนกัน  ติดในหมวดนิยายหักมุม คึๆ


    รูปใหญ่เนอะ ฮ่าๆๆ

    ยังไงไรเตอร์ก็ขอฝากเรื่องนี้และเรื่องของพี่ลุกซ์ไว้ในใจรีดเดอร์ทุกคนตลอดไปนะคะ ^3^


    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×