ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #39 : Rule 30 : รักน้องต้องหึง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26.11K
      80
      26 ม.ค. 56

    26/01/13
    Rule 30 : รักน้องต้องหึง


    ลัน : "คนของกู  กูหวงเว้ย!"



    ไอ : "บ้า! ผมเขินนะ >///< #ทุบตีๆๆ"

     


    พวกเราฉลองกันต่อจนดึกดื่น  น้องไลลาถูกไอ้สองพี่บังคับให้ไปนอนส่วนพวกเราก็เริ่มหนักเรื่องแอลกอฮอล์  ไอ้พี่เสือกับไอ้พี่ขลุ่ยกอดคอกันร้องคาราโอเกะไปเต้นไปด้วยท่าทางรั่วๆ  ผมมองพี่สองคนนั้นก่อนจะหันมามองพี่ลันพลางยิ้มออกมา

    พี่สามคนนี้ดูไม่ค่อยจะเข้ากันเท่าไหร่เลยแฮะ  คนหนึ่งหล่อมาดนิ่ง ท่าทางเย็นชาไม่พูดไม่จาแต่ถ้าได้ว้ากล่ะก็น่ากลัวฉิบหาย(ที่สำคัญหื่นมาก!)  อีกคนหล่อหน้าโหด  ชอบแกล้งโหดกับคนที่ไม่รู้จักโดยเฉพาะรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่แต่ใครจะรู้ว่าพี่มันแม่งรั่วสุดตีน  อีกคนหนึ่งก็หล่อทะเล้น  เหมือนจะเจ้าชู้แต่ที่จริงไม่เลยสักนิด ชอบทำตัวปัญญาอ่อนและทำตัวสะดิ้งไม่ดูหนังหน้า ฮ่าๆ  ดูสิครับ  พวกพี่มันต่างกันมากทีเดียว

    “ไอ พี่รหัสคุณล่ะ?” พี่ลุกซ์เดินมานั่งด้านซ้ายมือของผมก่อนจะถาม(ด้านขวามือเป็นใครคงไม่ต้องบอกนะครับ ฮึๆ)  พี่ลุกซ์นี่ก็นะ...พี่เปอร์มันกลับไปตั้งนานแล้วเพิ่งจะสังเกตหรือไง

    “กลับไปแล้วครับ?” ผมบอก

    “ทำไม?” พี่มันขมวดคิ้วถาม

    “เห็นบอกว่าอยู่นานไม่ได้หรืออะไรนี่แหละครับ  ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่” ผมพูด  ไอ้พี่ลุกซ์ถอนหายใจยาวก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

    “มึงมีเรื่องอะไรกับไอ้เปอร์กันแน่ลุกซ์?” พี่ลันชะโงกหน้ามาถาม  ผมเอียงตัวหลบให้พี่น้องคุยกันได้สะดวกๆ

    “เออ มึงนี่ก็เสือกเนอะ” ไอ้พี่ลุกซ์ทำหน้ากวนตีนต่างจากสีหน้ากังวลเมื่อครู่

    “อ้าวไอ้ห่า” พี่ลันถลึงตามองพี่ลุกซ์ที่ยังคงยิ้มกวนๆ ใส่  เฮ้อ เข้าใจกันแล้วแท้ๆ แต่ทำไมยังทะเลาะกันอีกเนี่ย  ไอ้พี่ลุกซ์มีอะไรก็แม่งไม่ยอมบอกน้อง  เดี๋ยวก็ได้ตีกันอีกหรอกพี่น้องคู่นี้

    “มึงไม่ต้องสนใจเรื่องของกูหรอกน่า  สนใจหลานรหัสที่น่ารักของตัวเองดีกว่า ถ้าไม่ระวังเดี๋ยวกูแย่งไปไม่รู้ด้วยนะ ฮึๆ” ไอ้พี่ลุกซ์พูดพลางแกล้งเอานิ้วมาไล้คางผมเบาๆ ไอ้พี่ลันจึงรีบปัดมือพี่ลุกซ์ออกอย่างหมั่นไส้  แหม...ถึงจะทำไปเพราะโมโหพี่ชายแต่ผมก็เขินนะครับ เอิ๊ก

    “คึๆ อะไรน่ะคร้าบ  รักสามเศร้าเราพี่น้องหรือนั่น? ฮ่าๆๆ มึงดูสิขลุ่ย  พี่น้องจะตีกันแย่งผู้ชาย ก๊ากๆๆ” ไอ้พี่เสือพูดใส่ไมค์ก่อนจะหันไปหาลูกคู่

    “ฮิ้วววว  ตีกันให้ตายทั้งคู่เลยนะกระผมจะได้พาฮันนี่ไปอยู่ด้วย กร๊ากกก!” ไอ้พี่ขลุ่ยแย่งไมค์จากไอ้พี่เสือก่อนจะหัวเราะเอิ๊กอ๊าก  นี่พวกมึงเมาหรือเกรียนครับพี่? ได้ข่าวว่ายังดื่มไม่เยอะไม่ใช่หรือไง

    “ผมจะฟ้องไอ้เมฆ” ผมพูดขู่

    “อุ๊ย! ขอโทษครับพี่  ผมผิดไปแล้ว” ไอ้พี่ขลุ่ยรีบไหว้ปลกๆ ทันทีที่ผมอ้างถึงไอ้เมฆ ฮ่าๆๆ พี่แกน่าขำชะมัดเลย  ดูท่าจะชอบไอ้เมฆมากซะด้วยสิ  แหมๆ แต่นั่นเป็นถึงลูกสาวของกระผมเพราะฉะนั้นคงยากหน่อยแล้วล่ะ ฮึๆ

    หลังจากนั้นพวกเราก็ปาร์ตี้กันต่ออีกพักใหญ่ๆ แต่ก็ไม่มีใครดื่มจนเมาก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนที่ห้องที่แม่บ้านได้จัดไว้ให้  ตอนแรกไอ้พี่ลันว่าจะพาผมกลับคอนโดแต่พี่ลุกซ์ห้ามไว้เพราะนานๆ ทีจะได้อยู่ด้วยกันสามพี่น้องพวกเราจึงต้องอยู่ที่นี่และผมก็ถูกบังคับให้ไปนอนที่ห้องเดิมของพี่ลัน



     

    ทันทีที่ประตูปิดลงร่างของผมก็ถูกกดให้แนบกับประตูก่อนริมฝีปากจะถูกช่วงชิงไปโดยริมฝีปากหยักได้รูปของอีกคน  ผมเอียงคอให้ลงล็อคก่อนจะยกมือขึ้นโอบรอบคอของคนตัวสูงกว่าแน่น  มือหนาซุกซนที่โอบเอวผมเอาไว้เริ่มอยู่ไม่สุขลูบไล้ไปทั่ว  ต้นขาของผมถูกบีบเค้นทำให้หวิวจนยืนแทบไม่อยู่  ให้ตายเถอะ...พรุ่งนี้ผมจะได้เข้าเรียนไหมเนี่ย?

    “อื้อ พี่ลัน  เจ็บขา” ผมพูดเสียงเบาชิดกลีบปากสีสวย  เนื่องจากผมตัวเตี้ยกว่าพี่ลันเวลาจูบกันถ้าพี่มันไม่โน้มตัวลงมาผมก็ต้องเขย่งและนั่นก็ทำให้สะเทือนถึงแผล

    “โทษทีนะ” พี่มันย่อตัวลงนิดๆ ก่อนจะมองผมด้วยแววตาพราวระยับในระยะประชิดจนผมต้องเบนสายตาหลบ  ถูกมองด้วยสายตาเซ็กซี่แบบนั้นผมก็เขินสิครับ

    “วันนี้ไม่ทำไม่ได้เหรอครับ?” ผมถามพลางบีบตาอ้อน  เออ...กูนี่ก็สะดิ้งเนอะ  รู้จักอ้งรู้จักอ้อนตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

    ที่จริงแล้วถ้าจะถามว่าตอนนี้ผมต้องการไหม  ผมตอบได้อย่างไม่อายเลยว่าผมต้องการ  แต่ว่า...การที่ผมกับพี่มันร่วมรักกันตลอดแบบนี้มันทำให้แผลที่ขามันไม่หายเสียที  ถึงพี่มันจะพยายามไม่ให้สะเทือนถึงแผลมากก็ตามแต่สุดท้ายมันก็สะเทือนจนได้  อีกอย่าง...ก่อนมาที่นี่ก็เพิ่งทำไปแล้วด้วย  ผมคนนะครับ ไม่ใช่ตุ๊กตายาง

    “ไม่ไหวเหรอ?” พี่มันถามเสียงเบาพลางจูบปลายจมูกผม  ไอ้พี่เวรนี่! อย่าทำหน้าอ่อยกูเซ่ กูยิ่งไม่มีภูมิคุ้มกันอยู่ด้วย

    “ครับ” ผมตอบเสียงเบาก่อนจะตอบรับจูบที่พี่มันมอบให้เบาๆ

    “ฉันก็ไม่ไหวเหมือนกัน” พี่มันจ้องตาผมก่อนจะจับมือผมไปวางทาบที่เป้ากางเกงของตัวเองผมจึงรีบดึงมือออก  ไม่ไหวบ้าอะไรเล่า! นี่มันคนละความหมายเลยนะเว้ย!

    “ทำไมถึงหื่นแบบนี้นะ” ผมบ่นเบาๆ ก่อนจะทำปากยื่นและทันใดนั้นพี่มันจูบปากยื่นๆ ของผมแรงๆ แล้วผละออกไปพลางทำหน้าล้อๆ ผมถลึงตามองพี่มันก่อนจะทุบอกพี่มันแรงๆ ด้วยความเขินแต่ทำเป็นไม่เขิน

    “มีแฟนน่ารักใครจะอดใจไหวล่ะ” ผมอึ้งกับคำพูดของพี่มันไปสิบวิก่อนจะกรีดร้องในใจ  พ่อง!! ถ้าจะพูดแบบนี้มึงลากกูขึ้นเตียงเหอะพี่!  ร้อยวันพันปีเคยพูดแบบนี้ที่ไหนล่ะ  พอได้เป็นแฟนล่ะทำตัวหวานอย่างกับรถน้ำตาลมาคว่ำแถวนี้เลยวุ้ย  โอ๊ย! นับวันไอ้หน้าตายนี่ยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆ แถมยังเริ่มยิ้มได้กว้างขึ้นอีก  แบบนี้ผมจะไปไหนรอดเนี่ย

    “บ้า น่ารักอะไรเล่า หล่อต่างหาก” ผมอมยิ้มก่อนจะเถียงกลับ  อ๊าก! กูเขิน!

    “ฮึๆ นายทำให้ฉันมีความสุขจริงๆ นะไอ” พี่มันหัวเราะนิดๆ ก่อนจะประคองหน้าผมเอาไว้และโน้มหน้าลงมาให้หน้าผากเราแตะก่อนพร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้ผมมีความสุขแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

    “ผมก็มีความสุขที่ได้อยู่กับพี่นะครับ” ผมยิ้มก่อนจะจับมือเพื่อมันออกจากหน้าแล้วเข้าไปกอดพี่มันเอาไว้  ผมแนบแก้มลงกับไหล่แกร่งพลางยิ้มบางๆ  ทั้งๆ ที่ชอบทำตัวเย็นชาแต่ทำไมอ้อมกอดถึงได้อุ่นขนาดนี้นะ

    “ไอ ฉันระ...”

    ก๊อกๆๆ

    ขณะที่พี่ลันกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น  ผมสะดุ้งก่อนจะรีบผละออกจากพี่ลันพลางทำหน้าเลิ่กลั่ก  ฉิบหายแล้วไง  ใครมาเอาตอนนี้วะ?

    ไอ้พี่ลันทำหน้าหมดอารมณ์ก่อนจะเปิดประตูออกไปดูว่าใครมา

    “เฮ้ยนี่! พวกมึงจะขัดอารมณ์กูไปถึงไหนวะ” ไอ้พี่ลันสบถทำให้ผมรู้ว่าคนที่มาหาในเวลาแบบนี้คือใคร  ไม่ต้องโผล่หน้าออกไปดูก็รู้ครับว่าเป็นไอ้พี่เสือกับไอ้พี่ขลุ่ย

    “โทษทีนะเพื่อน  แบบว่า...พวกกูเปลี่ยวอ่ะ” ไอ้พี่สองคนนั้นพูดพร้อมกันก่อนจะเบียดแทรกตัวเข้ามาในห้องอย่างเนียนๆ ก่อนจะมองหน้าผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม  ผมว่าพวกพี่มันต้องแกล้งเข้ามาขัดจังหวะแน่เลย  แต่ก็ดี  ขืนมาช้ากว่านี้อีกนิดผมถูกไอ้หื่นหน้าตายนั่นเขมือบแน่เลย

    “ถ้าเปลี่ยวนักก็เอากันเองสิวะ แม่ง จะเข้ามาทำห่าอะไรเนี่ย” พี่ลันขมวดคิ้วพูดเซ็งๆ  ฮึๆ ท่าทางพี่ลันตลกเป็นบ้า  ดูเหมือนคนกำลังหัวเสียสุดๆ เลยแฮะ

    “หยึย! ขนลุก!” ไอ้พี่เสือกับพี่ขลุ่ยมองหน้ากันด้วยสายตาแหยงๆ ก่อนจะรีบกระโดดออกให้ห่างจากกันด้วยท่าทางรังเกียจ  ถ้าพี่มันได้กันจริงๆ คงจะแปลกพิลึกแฮะ  ผู้ชายตัวควายสองคน...แค่คิดก็ขนลุกแล้วครับ

    “แล้วพวกมึงเอาหมอนมาทำไม?” พี่ลันถามเสียงขุ่นพลางมองหมอนในอ้อมแขนแกร่งๆ ของทั้งสองคน

    “มาขอนอนด้วยไง” พวกพี่มันยิ้มกวนตีน

    “อะไรวะ!? ไม่ให้นอนโว้ย  ออกไปๆ” ไอ้พี่ลันสบถก่อนจะรุนหลังของสองคนนั้นไปที่ประตูแต่พวกเขาก็ขืนเอาไว้ไม่ยอมออกไปแถมยังเดินเข้ามากอดแขนผมไว้คนละข้างอีกต่างหาก  ผมทำหน้าเลิ่กลั่กอย่างตกใจและไม่รู้จะทำอย่างไรดี  จะสะบัดแขนออกหรือยืนให้พวกพี่มันกอดนิ่งๆ?

    “กูไม่ยอมให้มึงกินสุดที่รักของกูหรอกเว้ย  เมียกูนะเนี่ย” ไอ้พี่เสือย่อตัวลงก่อนจะเอาแก้มถูไหล่ผม  ผมตกใจพลางมองหน้าไอ้พี่ลันอึ้งๆ ซึ่งพี่มันก็กำลังทำหน้าโมโหสุดกู่

    “ใช่ๆ ฮันนี่ที่น่ารักของกูต้องไม่ถูกไอ้หื่นอย่างมึงล่อลวง  พี่จะปกป้องฮันนี่เองนะ” ไอ้พี่ขลุ่ยก็ทำอย่างไอ้พี่เสือบ้าง  ผมอ้าปากค้างก่อนจะหัวเราะขำๆ เมื่อเห็นไอ้พี่ลันหน้าแดงก่ำด้วยอารมณ์โมโห

    “คิกๆ ผมว่านอนด้วยกันทั้งหมดนี่ก็น่าสนุกดีเหมือนกันนะครับ  เตียงพี่ลันออกจะกว้าง  นอนเบียดๆ กันนิดหน่อยก็น่าจะโอเคนะ” ผมพูดเสียงกลั้วหัวเราะเพื่อยั่วให้พี่ลันโมโหบ้าง  ผมเข้าใจเลยล่ะครับว่าทำไมพี่สองคนนี้ถึงชอบยั่วโมโหพี่ลัน  ก็เพราะท่าทางพี่ลันเวลาโมโหแบบนี้มันน่าขำนี่ครับ ฮ่าๆๆ

    “พี่นอนข้างสุดที่รักนะครับ  สามีต้องอยู่ใกล้ๆ ภรรยาเนอะ” ไอ้พี่เสือกะพริบตาปริบๆ กวนโมโหพี่ลัน

    “งั้นอนุสามีอย่างพี่ขอนอนข้างซ้ายนะ  ไท...กูสัญญาว่าจะให้มึงกอดเยอะกว่าโอเคมะ?” พี่ขลุ่ยพูด  ผมหัวเราะขำๆ กับท่าทีพวกพี่มัน  คิดได้ไงเนี่ย

    “งั้นคนเป็นผัวอย่างกูคงต้องปล้ำเมียให้คุณสามีกับอนุสามีดูซะแล้วล่ะมั้ง” คำพูดของพี่ลันทำให้พวกผมทั้งสามคนอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก  เอ่อ...ถ้าผมจะเขินตอนนี้จะยังทันไหมครับ?

    “เอ่อ...ผมว่า...ขอผมเป็นคนธรรมดาไม่มีผัวไม่มีเมียดีกว่าเนอะ” ผมยิ้มแหยๆ  รู้สึกเหมือนถูกพี่ลันมันแกล้งยังก็ไม่รู้แฮะทั้งๆ ที่ตอนแรกผมกะจะแกล้งพี่มันแท้ๆ

    พี่ขลุ่ยกับพี่เสือปล่อยผมก่อนจะยืนตัวตรงๆ เหมือนจะยังช็อคไม่หายที่ได้ยินพี่ลันพูดแบบนั้น  พอผมเป็นอิสระไอ้พี่ลันก็ดึงผมเข้าไปกอดไหล่เอาไว้เสียเองเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ  ผมเหลือบตามองหน้าไอ้สองพี่อย่างอายๆ ก่อนจะพบว่าพวกพี่มันยืนนิ่งหน้าแดงกันถ้วนหน้า  ตายห่า! อย่ามาเขินใส่กูสิเว้ย! คนที่ควรเขินน่ะมันกูต่างหาก!

    “ตายห่า! กูอยากกดน้องเมฆฉิบหาย” ไอ้พี่ขลุ่ยพูดออกมาเหมือนจะเพ้อ  เฮ้ย! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับลูกผมเนี่ย?

    “ไม่ได้นะพี่ขลุ่ย!” ผมถลึงตามองพี่มันทำให้พี่มันสะดุ้งก่อนจะเกาแก้มแก้เก้อ

    “แย่ล่ะ กูอยากจะหาผู้ชายมาทำเมียมั่งว่ะ  ไปหาที่ไหนดี” ไอ้พี่เสือพูด  พวกผมมองหน้าพี่มันก่อนจะขำพรืด  ผมว่าพี่มันก็ดูเหมาะกับผู้ชายดีนะ  ดูโหดๆ เถื่อนๆ ท่าทางชอบใช้ความรุนแรงแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้หญิงน่ารักๆ หรอก ฮ่าๆ

    “กูแนะนำให้คนหนึ่งเอาไหม? ถ้าเป็นไปได้ช่วยกดให้มันลืมเพศไปเลยยิ่งดี” ไอ้พี่ลันพูดเสียงเข้มๆ ผมหันหน้าไปมองพี่มันงงๆ  พูดเหมือนจะให้เพื่อนตัวเองไปข่มขืนศัตรูหัวใจอย่างไรอย่างนั้น

    “ใครวะ?”

    เมื่อได้ยินคำถามว่าเป็นใครไอ้พี่ลันก็หรี่ตามองผมทันที “มันชื่ออะไร?” พี่ลันถาม  ผมทำหน้างง  กูจะรู้กับมึงไหมครับพี่

    “ใครครับ?” ผมเอียงหน้างงๆ

    “ไอ้เด็กเวรที่มันจีบนายอยู่ที่ร้านเจ๊ดาด้าไง  มันชื่ออะไร!?” ไอ้พี่ลันข่มเสียงดุเมื่อพูดถึงเด็กคนนั้น  ผมแอบสะดุ้งนิดๆ เมื่อเห็นว่าท่าทางพี่มันจะโมโหไอ้เด็กคิมนั่นมาก  แค่เด็กมันกวนทำไมต้องโกรธขนาดนั้นด้วยเล่า  หึง(?)เกินเหตุไปหรือเปล่าเนี่ย >///<

    “เอ่อ...ชื่อคิมครับ  ฮ่าๆ แต่ผมว่าพี่ไทคงไม่สนใจหรอกเนอะเพราะเด็กมันไม่ได้น่ารักหรือตัวเล็กเลยนะ” ผมพูดเสียงอ่อน  แอบเป็นห่วงไอ้เด็กคิมแฮะ

    “มันหล่อป่ะ?” ไอ้พี่เสือถามอย่างสนใจ

    “ได้แค่ครึ่งของกู” ไอ้พี่ลันยืดนิดๆ  ผมหยิกหน้าท้องพี่มันเบาๆ อย่างหมั่นไส้

    “หลงตัวเอง” ผมว่าก่อนจะมองพี่มันค้อนๆ

    “อืม...ถ้าหล่อกูไม่เอา  กูชอบแบบน่ารักๆ ว่ะ  อย่างสุดที่รักนี่แหละสเป็กเลย” ไอ้พี่เสือพูดพลางมองผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม  ผมมองขำๆ แต่ดูเหมือนพี่ลันจะไม่ขำด้วยเพราะพี่มันดึงผมไปหลบด้านหลังพลางทำหน้าดุขู่ไอ้พี่เสือ “ทำเป็นหวง  ฮึ! หมั่นไส้โว้ย”

    “กูว่าเราไปนอนห้องเดิมดีกว่าว่ะไท  กูกลัวหมาบ้าแถวนี้มันตกมัน คึๆ” ไอ้พี่ขลุ่ยมองพี่ลันด้วยสายตาล้อๆ ก่อนจะดึงแขนไอ้พี่เสือออกจากห้องไป  จะว่าไปหมาบ้ามันตกมันได้ด้วยเหรอครับ?

    พอเหลือกันแค่สองคนมันก็เป็นอย่างที่คิดนั่นแหละครับ  ไอ้พี่หื่นมันจับผมกดลงบนเตียงอย่างไม่รีรอพลางปล้ำจูบจนผมหายใจแทบไม่ทัน  มาถึงขั้นนี้แล้วเรื่องจูบหรือเรื่องเซ็กส์ผมก็เก่งขึ้นมากพอตัว  พี่มันสอนเก่งครับ  สอนซะผมไม่กล้าที่จะไปกดใครเลยทีเดียว

    “โอ๊ยพี่ลัน  บอกว่าไม่เอาไง” ผมพูดพลางดันหน้าพี่มันที่ก้มลงซุกไซร้ซอกคอผมออก  ผมก็เล่นตัวไปงั้นแหละพอให้ไม่ดูง่ายจนเกินไปเดี๋ยวพี่มันจะได้ใจแล้วกดผมบ่อยๆ  แค่สองสามวันที่ผ่านมาไม่รู้ว่าทำไปกี่รอบต่อกี่รอบ

    “...” พี่มันไม่พูดอะไรเพียงแค่มองหน้าผมดุๆ เท่านั้นเอง  ผมแอบกลัว  พี่มันโกรธอะไรเนี่ย? หรือว่าโกรธที่ผมเล่นกับพี่เสือพี่ขลุ่ย

    “โมโหอะไรครับ? นั่นเพื่อนพี่นะ” ผมขมวดคิ้วถาม  ท่าทางไอ้พี่ลันจะเป็นพวกขี้หึงสุดๆ เลยสิเนี่ย  ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนหรือพี่ชายตัวเอง

    “ตอนที่ไอ้ไทมันบอกว่านายเป็นเมียฉันทำไมนายถึงปฏิเสธ  แต่พอมันบอกว่านายเป็นเมียมันนายกลับไม่ปฏิเสธอะไรเลย” ไอ้พี่ลันพูดเสียงแข็งสายตาแข็งกร้าวจนผมกลัว  พี่ลันตอนโมโหมันก็ตลกอยู่หรอกแต่พอโมโหแบบจริงๆ จังๆ แล้วมันน่ากลัวเป็นบ้า  คิดผิดคิดถูกวะเนี่ยที่ยอมคบกับไอ้โหดขี้หึงแบบนี้

    “ก็แค่พูดเล่นกันนี่ครับ  ส่วนเรื่องเป็นเมียใครอะไรนั่นผมไม่รู้หรอกเพราะผมไม่ได้เป็นเมียใครทั้งนั้น  ผมเป็นผู้ชายนะครับ” ผมพูดพลางเบือนหน้าหนี

    “คำว่าเมียจะผู้ชายหรือผู้หญิงมันก็ใช้ได้หมดนั่นแหละ! ขอแค่นายครางอยู่ใต้ร่างฉันทุกๆ วันนายก็เป็นเมียของฉันแล้ว!” ไอ้พี่ลันพูดด้วยน้ำเสียงโมโหผมรีบตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจทันที  พี่มันพูดเหมือนดูถูกผมเลย  คำว่าเมียสำหรับพี่ลันมันเป็นได้แค่เครื่องบำเรอความใคร่งั้นเหรอ?

    “...” ผมเบือนหน้าหนีอีกครั้งก่อนจะเม้มปากแน่นไม่พูดอะไร  ถ้าหากผมไม่สามารถทำอะไรกับพี่มันได้พี่มันจะยังเรียกผมว่าเมียได้อีกหรือเปล่าถ้าพี่มันให้ความหมายของคำว่าเมียแค่เซ็กเท่านั้น

    “ไอ...” พี่มันเรียกผม

    “ครับ” ผมขานรับแต่ไม่ยอมหันไปมองหน้าคนเรียก

    “ฉันโมโหมากไปหน่อย  ขอโทษนะ” พี่มันพูดเสียงอ่อนลงก่อนจะโน้มหน้าลงจูบปลายจมูกผมเบาๆ

    “ถ้าพี่ขอคบกับผมเพียงเพราะอยากให้ผมมาเป็นเด็กในสังกัดพออยากก็เรียกมาแบบนั้นผมว่าไม่ต้องคบกันเลยดีกว่า  ถ้าเมียคือคนที่ต้องมาครางเรียกชื่อพี่ผมว่าใครๆ ก็เป็นเมียพี่ได้ทั้งนั้นแหละ” ผมพูดโกรธๆ  คนที่ครางเรียกชื่อพี่มันน่ะไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวเสียหน่อย  ก่อนหน้าผมก็มีอีกตั้งหลายต่อหลายคนไม่ใช่หรือไง

    “ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น” พี่มันรวบตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่นก่อนจะพูดเสียงเบาอย่างรู้สึกผิด

    ผมมุดหน้าลงซบไหล่พี่มันก่อนจะยกแขนขึ้นกอดตอบ  ถึงจะยังเคืองๆ แต่ถ้าพี่มันยอมขอโทษผมก็พร้อมที่จะให้อภัย  ตอนนี้พี่มันดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ  เมื่อก่อนโกรธอะไรก็ไม่ยอมพูด มีปัญหาอะไรก็ไม่ยอมบอกตรงๆ แถมเวลาทะเลาะกันพี่มันก็ไม่เคยจะขอโทษผมทันทีแบบนี้สักครั้ง

    “ผมไม่อยากให้พี่ทำตัวเป็นเจ้าของจนเกินไปนะครับ  เป็นพี่ลันโหดๆ เหมือนเดิมดีกว่าเพราะผมเองก็ทำตัวไม่ค่อยจะถูก” ผมพุดเสียงอู้อี้เพราะไหล่หนาปิดปากอยู่

    “ถ้าอะไรที่เป็นของฉันแล้วฉันจะไม่ยอมให้มันหลุดมือไปอีก” พี่มันผละออกไปก่อนจะจ้องตาผมด้วยสายตาจริงจัง  ผมเม้มปากแน่นก่อนจะโผเข้ากอดคอพี่มันแน่น

    “ถ้าปล่อยให้หลุดมือไปล่ะก็ผมเตะคอหักแน่” ผมพูดขู่พลางกระชับอ้อมแขนที่โอบอยู่รอบคอแกร่ง  พี่มันหัวเราะในลำคอนิดๆ ก่อนจะพลิกตัวล้มลงไปนอนทำให้ผมที่กอดคอพี่มันอยู่ล้มตามลงไปนอนทับอยู่บนอกกว้าง

    พี่มันจูบขมับผมก่อนจะกอดผมเอาไว้แน่น  และคืนนั้นทั้งคืนพวกเราก็ทำแค่เพียงนอนกอดกันเท่านั้น  ผมจะทำให้พี่มันรู้ว่าความรักไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเซ็กเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอไป



     

    ผมไปมหาวิทยาลัยพร้อมกับพวกพี่ๆ และพอไปเจอไอ้เมฆกับไอ้วิทผมก็ถูกสวดยับ  ทั้งภาษากลางภาษาอีสานถูกรัวออกจากปากเพื่อนทั้งสองคนจนผมทำได้แค่เพียงกะพริบตาปริบๆ เพื่อให้พวกมันสงสารแล้วหยุดกันไปเอง  ผมยังไม่ได้บอกพวกนี้ว่าผมคบกับพี่ลันเพราะผมรู้สึกละลายใจที่จะพูด

    “นายไอ!!” ขณะที่ผมกำลังนั่งรวมกลุ่มกับพวกพี่ๆ และเพื่อนๆ ครีมที่อยู่คนละสาขาก็วิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับผู้ชายสวมชุดนักเรียนม.ปลาย  ผมอ้าปากค้างก่อนจะหันไปมองพี่ลันซึ่งพี่มันก็กำลังกอดอกทำหน้าถมึงทึง

    “อะ...คะ...ครีม” ผมยิ้มแหยๆ ส่งให้ครีม

    “พี่ไอคร้าบ คิดถึงจังเลย” ไอ้เด็กคิมยิ้มแป้นแล้นเข้ามาหาผม  ผมยิ้มค้างพลางมองหน้าไอ้พี่ลันอีกรอบ

    “คิม! หุบปากไปเลยนะ  โทษทีนะนายไอแต่ไอ้เด็กนี่มันตื๊อจะมาหานายให้ได้น่ะ  อะ...นี่ของที่นายลืมไว้ที่ร้าน” ครีมตบหัวน้องชายก่อนจะยื่นกระเป๋าของผมคืนให้  ผมรับมาก่อนจะยิ้มขอบคุณ

    “โธ่พี่  ก็ผมคิดถึงคนที่เป็นพรหมลิขิตของผมนี่นา” ไอ้เด็กคิมกระเง้ากระงอดก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากแล้วหันไปมองพี่ลันนิดๆ เหมือนจะกวนโมโห  ผมแอบเห็นไอ้พี่ลันกับพี่เสือซุบซิบอะไรบางอย่างก่อนที่ไอ้พี่เสือมันจะยิ้มโรคจิตๆ 

    มึงซวยแน่ไอ้คิม

    ครีมมองน้องชายด้วยสายตาเซ็งๆ ก่อนจะลากผมออกไปคุยที่อื่นโดยไม่ลืมที่จะช่วยพยุงผมด้วยเนื่องจากขาที่เจ็บทำให้ผมเดินไม่ถนัดนัก

    “นี่นายไอ  นายเป็นอะไรกับพี่ลัน?” ครีมกระซิบถามด้วยสีหน้ายุ่งๆ  ผมแอบสะดุ้ง

    “ทำไมเหรอ?” ผมถาม

    “ก็รูปนี้น่ะสิ  ฉันจำได้นะว่าคนคนนี้คือนาย  นึกอยู่แล้วเชียวว่ามันแปลกๆ” ยัยครีมพูดพลางยกโทรศัพท์ที่เปิดรูปของผมกับไอ้พี่ลันค้างไว้ให้ดู  ผมนิ่งไปไปสักพัก

    “ผมน่ะไม่สนหรอกนะว่าพี่จะเป็นของใครแต่ผมจะแย่งมาให้ดู” ไอ้เด็กคิมยิ้มพลางยักคิ้วกวนๆ  กูว่ามึงห่วงประตูหลังมึงดีกว่านะไอ้หนูเพราะมีคนกำลังเล็งมึงอยู่

    “พี่ลันมันแกล้งฉันน่ะ  มันเห็นว่าฉันแต่งตัวตลกดีก็เลยแกล้ง” ผมแก้ตัว  ผมยังไม่กล้าบอกใครหรอกครับว่าผมกับพี่มันเป็นแฟนกัน  พี่มันเป็นคนดัง ผมไม่อยากให้ชื่อเสียงพี่มันเสื่อมเสีย

    “แกล้งกันขนาดนี้มันจะไม่แปลกไปหน่อยเหรอ  ถึงขั้นจูบกันมันไม่น่าจะเป็นการแกล้งกันเลยนะ” ครีมพูด

    “พี่ลันธรรมดาที่ไหนล่ะ  เออนั่นแหละ  แค่แกล้งกันน่ะ  พวกพี่ๆ มันยังล้อฉันไม่เลิกเลยเนี่ย” ผมโกหกไปแบบเนียนๆ

    “ถ้างั้นผมจีบพี่นะครับ” ไอ้เด็กคิมยิ้มแป้น

    “โทษทีนะแต่กูชอบพี่มึงว่ะไอ้หนู” ผมยกยิ้มยักคิ้วใส่มัน  ยัยครีมหน้าแดงก่ำไอ้เด็กคิมหน้าเหวอ  อ่า...ถ้าครีมเกิดชอบผมขึ้นมาจริงๆ ผมคงจะบาปหนาเพราะดันไปพูดหยอดทั้งๆ ที่มีแฟนอยู่แล้ว

    ผมปล่อยให้สองพี่น้องยืนอึ้งก่อนจะเดินกะเผลกๆ กลับมาที่โต๊ะที่คนอื่นๆ นั่งรวมกันอยู่  พี่ลันมองหน้าผมนิ่งๆ  ผมยิ้มแหยๆ ก่อนจะแอบจับมือพี่มันแล้วบีบเบาๆ

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    พี่ลันขี้หึงเว่อร์อ่ะ
    เขินเลย >///<

    ปล.มีคำผิดเตือนด้วยจ้า

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×