ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Great Warrior Online สงครามมหาราชันย์

    ลำดับตอนที่ #12 : Chap.IX ไฮเอ็นชานท์เตอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 842
      11
      14 มิ.ย. 57

     CHAPTER IX.



      

     

    ไฮเอ็นชานท์เตอร์

     

     

                เรย์นาไปยังวิหารทางตะวันตกตามที่เทพีรีอากล่าวทางไปยังวิหารแห่งนั้นเป็นป่าต่างจากทางไปวิหารอื่นซึ่งมักจะอยู่ในสถานที่สำคัญของเมือง ระหว่างทางแทบไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนออกมาให้เห็นจึงทำให้เรย์นาไปถึงวิหารแห่งนั้นได้ในเวลาไม่นานนัก วิหารที่องค์เทพีพูดถึงนั้นถูกขนานนามว่า วิหารแห่งการนิทรา วิหารแห่งนี้มีสีขาวสลักลวดลายด้วยสีทอง มีผู้เล่นจำนวนมากรวมกลุ่มกันเข้าไปตีสัตว์อสูรข้างใน เท่าที่ถามจากผู้เล่นคนอื่นมาสัตว์อสูรในวิหารแห่งนี้นั้นอยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างสูง คือระดับทหารคลาส 2 ถึงคลาส 3 กลางๆ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้เล่นในเมืองนี้ตีได้ไม่ยากนักและยังได้รับค่าประสบการณ์สูงจึงทำให้วิหารแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้เล่นมักมาเก็บระดับกัน

     

                ภายในวิหารนั้นมีสัตว์อสูรหลากหลายเผ่าพันธุ์รวมกันอยู่มีทั้งก็อบลิน ซาลามันเดอร์และสัตว์อสูรประเภทอื่นอีกพอสมควรแต่จุดประสงค์ของเรย์นาของเรย์นาไม่ใช่การเก็บระดับหากแต่เป็นการปลดผนึกบางสิ่ง ที่องค์เทพีได้กล่าวถึง หากท่านพูดว่าจะปลดผนึกหรือไม่ก็แล้วแต่ เรย์นาก็คิดว่าควรจะปลดผนึกไม่ว่าอะไรก็ตามที่จะถูกปลดผนึกนั้นจะดีหรือไม่ แต่การที่ได้ทำอะไรสักอย่าง ย่อมดีกว่าไม่ลงมือทำอะไร นั่นคือสิ่งที่เรย์นายึดมาโดยตลอด สัตว์อสูรส่วนมากจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มและกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ถ้าหลบดีๆ ก็สามารถเข้าไปยังส่วนที่ลึกกว่านี้ของวิหารได้ จุดที่เรย์นาสนใจมากที่สุดคือส่วนถัดไปของวิหารซึ่งมีเสาค้ำแบ่งโซนไว้ จากที่สังเกตภายในนั้นน่าจะเป็นห้องโล่งขนาดใหญ่เมื่อถามผู้เล่นคนอื่นก็ได้คำตอบมาว่า มีแต่ก้อนหินพังๆ สัตว์อสูรก็ไม่มี ไม่รู้จะเข้าไปทำไม

     

                เรย์นานึกถึงคำพูดของเทพีรีอาที่ว่ามีเพียงมนุษย์ครึ่งเทพเช่นเธอเท่านั้นที่คลายผนึกได้ ซึ่งอาจรวมถึงมีเพียงเธอเท่านั้นที่เห็นผนึกด้วยเช่นกัน เรย์นาเดินเนียนๆ ไปกับผู้เล่นกลุ่มอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะจนเมื่อเข้าไปใกล้เสาแบ่งเขตก็มีสัตว์อสูรตัวหนึ่งโจมตีเธอ มันเป็นก็อบลินคลาส 2 ระดับ 36 เรย์นาสะบัดมีดสั้นแสกกลางหน้าผากของมัน แต่อะไรๆ กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อมีก็อบลินตัวหนึ่งถูกสังหารเหล่าญาติโกของก็อบลินตัวนั้นกว่าสิบตัวก็พากันตรงมาหาเรย์นาทันที แทบไม่ต้องคิดเรย์นาหันหลังให้พวกนั้นแล้ววิ่งไปยังส่วนลึกของวิหารทันที ดูเหมือนก็อบลินที่เรย์นาสังหารไปจะเป็นลูกรักของเหล่าก็อบลินทั้งหลาย สัตว์อสูรเผ่าพันธ์นี้จึงเพ่งเล็งและไล่ล่าเธอเป็นพิเศษและความวุ่นวายก็เกิดขึ้น เรย์นาหนีก็อบลินตามทั้งผู้เล่นทั้งสัตว์อสูรจึงชุลมุนกันไปหมด สัตว์อสูรพันธุ์อื่นเมื่อขวางทางก็ถูกก็อบลินที่บ้าคลั่งกลุ่มนั้นสังหารกลายเป็นว่าสัตว์อสูรตีกันเองบ้างตีกับผู้เล่นบ้าง

     

                แต่ทันทีที่เรย์นาก้าวผ่านเสาค้ำที่แบ่งห้องที่มีสัตว์อสูรกับห้องโล่ง ก็อบลินเหล่านั้นก็เลิกตามเธอทันทีจึงทำให้ห้องนั้นกลับไปอยู่ในสภาวะปกติอีกครั้ง เป็นอย่างที่เธอคิดผู้เล่นคนอื่นเห็นห้องนี้มีเพียงซากปรักหักพังที่ไม่มีอะไรน่าสนใจแต่เธอกลับเห็นว่าตามผนังของห้องนี้นั้นถูกถูกสลักด้วยสีทองเช่นเดียวกับตัววิหารเป็นสัญลักษณ์และตัวอักษรในภาษากรีก กลางห้องนั้นมีผลึกสีน้ำเงินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ผลึกนั้นสูงเกือบสามเมตร ตรงนี้ผลึกนั้นมีแท่งหินเล็กๆ ตั้งอยู่ แท่งหินนั้นถูกจารึกไว้แต่ตัวอักษรส่วนมากเลือนรางไปพอสมควร

     

    จงอย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น

     

    นี่คือคำจารึกบนแท่นหินนั้น เรย์นาเดินดูคำจารึกที่กำแพงทั่วห้องมีหลายคำที่เธออ่านออกเพราะเป็นภาษากรีกที่เธอใช้เป็นประจำ แต่บางคำนั้นก็เลือนรางจนจับใจความแทบไม่ได้ มีบางคำที่เธอสะดุดใจเป็นพิเศษ แม้จะมีคำมากมายสลักอยู่ตามกำแพงหรือแม้กระทั่งบนพื้นแต่คำเหล่านี้นั้นกลับเรียงกันเป็นห้าเหลี่ยม เรย์นาอ่านคำที่สลักเอาไว้ตามหิน

     

    ธาตุ    จิต       วิญญาณ        สายเลือด         พลัง

     

                ตัวอักษรทั้งห้าสว่างวาบไปทั่วห้องมีคำพูดดังขึ้นก้องกังวานขึ้น ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากทิศทางใด

     

     

    เจ้าคือสายเลือดแห่งราชันย์ใช่หรือไม่

     

    ใช่ เรย์นาตอบกลับ

     

    เจ้าคือผู้สืบโลหิตสีทองใช่หรือไม่

     

    ข้าคือธิดาแห่งโพไซดอน

     

    ธิดาแห่งท้องสมุทรเอ๋ย จงขานนามของเจ้า

     

    ข้ามีนามว่า เรย์นา

     

    ข้ามิได้หมายถึงนามสมมติ หากแต่เป็นนามที่แท้จริงของเจ้า ธิดาแห่งองค์ราชันย์

     

    ข้าก็คือข้า

     

    สิ่งที่เจ้าจะทำต่อไปนี้เกินขอบเขตของมนุษย์หากเข้าไร้จิตใจที่กล้าแข็งมันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตัวเจ้า เจ้าแน่ใจรึ

     

    ข้าแน่ใจ ปลดผนึก

     

                สิ้นคำสั่งตัวอักษรเหล่านั้นก็เชื่อมกันเป็นห้าเหลี่ยมภายในห้าเหลี่ยมนั้นดำมืด ราวกับหลุมดำที่ไร้จุดสิ้นสุดมีเพียงเปลวไฟสีแดงที่ใกล้จะมอดดับอยู่ใจกลางของสิ่งนั้น เรย์นาเอื้อมมือไปยังไฟดวงนั้นทันทีที่มือของเธอสัมผัสเปลวไฟเธอก็รู้สึกถึงแรงมหาศาลที่ดึงเธอเข้าไปในวงเวทนี้ เธอไม่รู้สึกร้อนแต่อย่างใดแต่กลับเป็นความรู้สึกที่บอกเธอว่าถ้าหากเธอถูกดึงเข้าไปมันจะต้องเป็นอะไรที่มืดมิดและไร้ซึ่งหนทางเสียยิ่งกว่าความตาย เรย์นารวบรวมแรงทั้งหมดกำเปลวไฟนั้นและฝืนแรงดึงดูดกระชากเปลวไฟดวงนั้นออกมา

     

                เมื่อเปลวไฟนั้นพ้นจากวงเวท เรย์นาก็กระเด็นไปไกลถึงสามเมตรจากแรงกระชากของตนและแรงผลักของวงเวท เปลวไฟที่เรย์นาดึงออกมานั้นบัดนี้ได้หลอมเข้ากับมือเธอแล้วมือของเรย์นานั้นมีแสงสีแดงเรืองรองออกมาถึงจะไม่ชัดเจนมากนักแต่ก็พอเดาได้ว่าเป็นสีเดียวกับเปลวไฟในวงเวท ในขณะเดียวกันผลึกสีน้ำเงินในตอนแรกก็เปล่งแสงออกมา เรย์นาเดินไปยังผลึกนั้นและใช้มือข้างที่เปลวไฟหลอมเข้าไปนั้นแตะที่ผลึก ทันใดนั้นผลึกก็ค่อยๆ ละลายทีละน้อย จารึกในแท่นหินสว่างวาบก่อนจะดับไปพร้อมกับตัวอักษรในแท่นหินที่หายไปด้วย ที่มือซ้ายของเรย์นาสว่างวาบด้วยแสงสีทองอีกครั้งแต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกเหมือนมีคนเอามีดมากรีด เมื่อแสงนั้นหายไปก็เป็นปรากฏรอยสลักสีทอง

     

    ผู้เล่น เรย์นา ได้ทำการปลดผนึกพลังแห่งอัคคี

     

    ผู้เล่น เรย์นา ได้รับธาตุอัคคี ต้องการรวมธาตุหรือไม่

     

    ต้องการ เธอตอบ

     

    ผู้เล่น เรย์นา ได้ทำการรวมธาตุวารีและอัคคี ได้รับสายพลัง Element Resist ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ที่มีธาตุวารี และธาตุอัคคีได้ในตอนนี้

     

    การรวมธาตุประสบความสำเร็จ ผู้เล่นสามารถรับอาชีพพิเศษ

     

    ผู้เล่น เรย์นา ได้รับอาชีพพิเศษ ไฮเอ็นชานท์เตอร์

     

     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×