ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Great Warrior Online สงครามมหาราชันย์

    ลำดับตอนที่ #20 : Chap.XVI ถ้ำศิลา +ชี้แจง**

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 741
      7
      6 เม.ย. 58

    CHAPTER XVI.

     

     

     

     

    ถ้ำศิลา

     

     






     

    "ถ้าใช่ แกก็คือคนที่เข้ามาขวางการต่อสู้ของหัวหน้าของพวกเรา ฉันจะฆ่าแกซะ!"

     

    "โห.." เรย์นาหรี่ตาลงและกระตุกรอยยิ้มชวนขนลุก ซึ่งทำให้ชายคนเดิมเลือดขึ้นหน้า

     

    "นั่นมันรองหัวหน้ากิลด์ความมืดนี่"

     

    "ผู้หญิงคนนั้นตายแน่" เสียงอุทานจากผู้เล่นที่มีชีวิตรอดจากสกิลหมู่ของเรย์นาและอัซลานดังขึ้นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าขณะนี้ยังอยู่ในระยะเวลาทำเควสจึงกลับไปสนใจการต่อสู้ของตัวเองอีกครั้ง อาการบาดเจ็บจากการสู้กับอันเดธยังไม่หายดีถึงตัวยาที่เธอใช้จะช่วยสมานแผลไปได้มากแต่ก็ยังไม่พอสำหรับการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ เธอเข้าใจจุดอ่อนข้อนี้ดี เพราะฉะนั้น..

     

    "จะหนีรึไง!!" ชายชุดเกราะตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดต่างจากเรย์นาที่เบ้ปากอย่างรำคาญส่งนขาทั้งสองข้างก็ยังคงก้าวต่อไปเรื่อยๆ ใช่ เธอทำกลังวิ่ง แต่ไม่ใช่เพื่อหนี ในเมื่อสู้กันตรงๆ ไม่เป็นผลดีกับเธอก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องฝืน ยังไงซะการสู้แบบที่ตนถนัดก็ย่อมได้เปรียบกว่า

     

     

    ทางด้านของรองอัศวินกิลด์ความมืดที่ไม่รู้จุดประสงค์ของเรย์นาจึงได้แต่วิ่งตามอย่างหงุดหงิด ในขณะที่เขาไม่ระวังตัวนั้นเองความรู้สึกเย็นแปลบก็ถากหน้า ถ้าเบี่ยงตัวหลบช้ากว่านี้เพียงนิดเดียวก็ได้กลายเป็นแสงกลับเมืองไปแล้ว มีดสั้นที่เรย์นาซัดมาปักเข้ากับต้นไม้และจมลึกเข้าไปในเนื้อไม้เกือบสองนิ้ว ชายหนุ่มหน้าซีด เขาดูถูกเธอเกินไปความแม่นยำจากการซัดมีดบ่งบอกระดับของเธอได้เป็นอย่างดี แต่รองหัวหน้ากิลด์ความมืดก็พลาดอีกครั้งเมื่อเขาเผลอละสายตาจากเธอ เรย์นาหายไปแล้ว

     

     

    ช่องเก็บของของเรย์นาและอัซลานนั้นเชื่อมกัน เป็นเรื่องปกติของเกมที่ผู้เล่นกับผู้ติดตามจะใช้อาวุธหรือของใช้ทั่วไปร่วมกันได้ มันเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลสำหรับคนที่สามารถใช้อาวุธได้แทบทุกรูปแบบอย่างเธอเพราะอัศวินชนเผ่าเฟราส์คนนี้เป็นพวกเก็บทุกสิ่งที่ขวางหน้า ดังนั้นช่องเก็บของของเรย์นาจึงเรียกได้ว่าคลังอาวุธดีๆ นี่เอง ทั้งอาวุธที่ดรอปจากมอนสเตอร์และที่ได้จากการสังหารผู้เล่นมาอยู่ในนี้ทั้งหมด รวมถึงอาวุธที่เธอต้องการที่สุดในขณะนี้ก็มีด้วยเช่นกัน

     

     

     

    ทัศนวิสัยในตอนนี้เหมาะสำหรับการซุ่มโจมตีที่สุด ปกติแล้วเวลาแบบนี้ก็มืดมากพอจะบดบังการมองเห็นของคนส่วนใหญ่ยิ่งเมื่อหมอกและควันที่ไม่รู้ที่มาจึงทำให้มองเห็นได้ยากขึ้น ถัดจากตำแหน่งที่รองหัวหน้ากิลด์ความมืดยืนอยู่ไปสิบเมตร เรย์นาได้ขึ้นธนูเล็งไว้เป็นที่เรียบร้อย ความมืดไม่เป็นผลกับเธอเท่าไหร่นักด้วยความที่เคยชินกับการอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ สถานการณ์ในปัจจุบันจึงแทบไม่เป็นผลเสียกับเธอ

     

    ลูกธนูดอกแรกถูกยิงออกไปโดยเล็งตำแหน่งไว้ที่หัวใจ แต่ชายในชุดเกราะไหวตัวทันเขาเบี่ยงหลบได้ในวินาทีสุดท้ายถึงอย่างนั้นลูกศรก็ฝากรอยแผลไว้ที่ต้นแขนด้านขวาซึ่งเป็นข้างที่ใช้ถือหอก เสียงสบถดังลั่นพร้อมกับที่ตำแหน่งของเรย์นาถูกเปิดเผย แม้แขนจะมีรอยแผลเหวอะแต่รองหัวหน้ากิลด์ความมืดก็สมเป็นผู้เล่นที่อยู่ในระดับต้นๆ ของเมือง หอกเวทมนตร์ถูกซัดมาหาเธออีกครั้ง เรย์นากระโดดหลบได้อย่างไม่ลำบากนัก นอกจากพลังทำลายล้างแล้วหอกเล่มนี้ก็ไม่มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ถึงอานุภาพการทำลายจะกว้างและรุนแรงแค่ไหนแต่ถ้าไม่โดนก็ไม่ต้องห่วง

     

     

    แม้จะคิดอย่างนั้นแต่เธอก็รำคาญอาวุธประเภทนี้อยู่ดี ถ้าเทียบจากความประณีตในการสร้าง หอกเวทมนตร์ของรองหัวหน้ากิลด์ความมืดน่าจะอยู่ที่ระดับ B ถือเป็นของหายากของเกมเลยทีเดียว หอกที่พลาดเป้าหมายตกลงมาอยู่ข้างเรย์นา เมื่ออาวุธไม่อยู่ในมือเจ้าของจึงไม่กล้าผลีผลาม เขากวักมือเพื่อเรียกอาวุธกลับมา ซึ่งเป็นระบบพิเศษสำหรับอาวุธระดับ B ขึ้นไป แต่แทนที่มันจะกลับไปหาเจ้าของ หอกเวทมนตร์ยังคงอยู่ที่เดิม

     

    "แก.." ชายร่างยักษ์ตาลุกวาวเมื่อเห็นว่าเธอคิดจะทำอะไร เรย์นาเหยียบหอกไว้ไม่ให้มันสามารถกลับไปได้ก่อนจะหยิบเรเปียร์ออกมา


    เคร้ง!!

     
     

    หอกระดับ B แตกกระจายเมื่อถูกเรเปียร์ของเรย์นาฟันเข้าเต็มแรง เศษซากกระจัดกระจายอยู่บนพื้นแต่เพียงไม่กี่วินาทีถัดมาร่องรอยเหล่านั้นก็กลายเป็นแสงไปจนหมด ผู้เล่นที่เห็นเหตุการณ์อ้าปากค้างไปตามๆ กันเช่นเดียวกับเจ้าของที่เบิกตากว้างขยับไปไหนไม่ได้และถูกมีดสั้นระดับ C ซัดเข้ากลางหน้าอกตำแหน่งเดียวกับหัวใจในเวลาไล่เลี่ยกับที่อาวุธคู่กายถูกทำลาย ในเวลาชั่วพริบตาร่างของรองหัวหน้ากิลด์ความมืดก็กลายเป็นแสงไปโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว

     
     

    "เลิกเล่นได้แล้วอัซลาน เวลาเรามีจำกัด" เรย์นาพูดกับอัซลานด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายต่างจากคนถูกเตือนที่ตาวาวอย่างนึกสนุก

     
     

    "ไม่เอาน่า นานๆ ทีจะได้ยืดเส้นยืดสาย" คำตอบที่ทำเอาเธอเบ้ปากรับ คำว่ายืดเส้นยืดสายของอัศวินคนนี้มีความรุนแรงพอๆ กับคำว่าล้างบางในความหมายของคนทั่วไปเลยทีเดียว

     
     

    "ตามใจเถอะ งั้นที่เหลือฝากจัดการให้ด้วยแล้วกัน" คำพูดบอกปัดดังขึ้นอย่างรู้นิสัยคนขี้เล่นก่อนเจ้าของเสียงจะมองหาที่สำหรับฟื้นพลังเวท การจัดการแวร์วูล์ฟซึ่งเป็นสัตว์อสูรคลาส 4 จำเป็นต้องใช้เวทมนตร์มหาศาล ยาฟื้นพลังที่เรย์นากว้านซื้อมาจากเมืองพึ่งจะมีประโยชน์เข้าจริงๆ ก็ตอนนี้

     
     

    "รับทราบ" น้ำเสียงยานคางขานรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย ประกายแปลกๆ ในดวงตาของอัซลานทำเอาผู้เล่นรอบข้างหนาวไปตามๆ กัน

     
     

    "ช่วยไม่ได้ มาสเตอร์ว่ามาอย่างนั้น อัศวินอย่างฉันจะไปขัดอะไรได้ โทษทีนะ แต่พวกนายช่วยตายไปให้หมดแล้วกัน"

     

    ทั้งที่ความดังของเสียงอยู่ในระดับธรรมดา แต่ผู้เล่นทุกคนในบริเวณนั้นกลับได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ อัซลานดีดนิ้วดังเป๊าะ! ทันใดนั้นวงเวทสีแดงจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นจากทั่วทิศทาง ลาวาทะลักออกจากวงเวทโถมเข้าใส่ทุกพื้นที่โดยรอบ เพียงพริบตาเดียวพื้นดินที่เคยมีผู้เล่นก็กลายเป็นทะเลเพลิงที่เผาผลาญทุกสิ่งที่ขวางทางมัน


     

    รอบตัวเรย์นามีม่านเวทมนตร์ที่อัซลานสร้างไว้ก่อนจะล้างบางผู้เล่นในบริเวณนี้จนไม่เหลือแม้กระทั่งต้นไม้ เธออดคิดไม่ได้ว่าถ้าภารกิจนี้ไม่มีข้อยกเว้นที่อนุญาตให้ผู้เล่นฆ่ากันเองเพื่อให้เหลือเพียงคนสุดท้ายที่สามารถเข้าไปยังถ้ำศิลา เธอคงกลายเป็นผู้เล่นหัวแดงคนแรกที่มีค่าหัวระดับท็อปของเกมแต่ยังระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่ เรย์นามองความเสียหายที่เกิดจากเวทมนตร์ของอัซลานก่อนจะพูดกับอัศวินชาวเฟราส์ด้วยความระอาใจ

     

     

    "ฉันว่าฉันเคยเตือนเรื่องปัญหาโลกร้อนแล้วนะ.."

     

     

    ด้วยความที่เป็นธิดาแห่งโพไซดอนเรย์นาจึงสามารถเดินหรือควบคุมน้ำได้ไม่เว้นแม้กระทั่งลาวา เพียงแต่ระดับความยากในการควบคุมลาวานั้นต้องใช้สมาธิสูงกว่ากันมาก ระยะทางจากตำแหน่งที่เรย์นายืนอยู่และปากถ้ำนั้นไม่ไกลนัก ทั้งน้ำและสัตว์อสูรใต้น้ำที่ล้อมรอบถ้ำแห่งนี้อยู่ระเหยไปกับลาวาของอัซลานจนหมด ยังนับว่าเป็นโชคดีที่ระดับพื้นดินของถ้ำศิลาสูงกว่าระดับน้ำโดยรอบ ลาวาจึงไม่ท่วมเข้าไปคร่าชีวิตตัวประกันภายในถ้ำไม่เช่นนั้นภารกิจคงล้มเหลวก่อนจะได้เจอแวร์วูลฟ์ซึ่งตว์อสูรหลักของอีเว้นท์นี้

     

     

    "ภารกิจของจริงจะเริ่มแล้ว พร้อมใช่มั้ยคุณมาสเตอร์"




    "นายควรจะถามฉันก่อนเดินเข้าไปนะ.. อัซลาน"

     

     



     

                ทางด้านเทรซิสและคิเมร่าที่แยกกับเรย์นานั้นก็ได้เดินทางไปยังเมืองเรเวนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีอัตราการเจือปนของเวทมนตร์ในบรรยากาศอยู่ในระดับต่ำที่สุดเหมาะสำหรับการฝึกฝนแบบอัศวิน..อย่างน้อยก็ตามที่องค์เทพีกล่าว..การเดินทางไร้ซึ่งบทสนทนาใดๆ ซึ่งก็ควรจะเป็นอย่างนั้นเมื่อคำนึงว่านักเดินทางมีเพียงอัศวินและสัตว์ประหลาดในตำนานกรีก

     

                เทรซิสสามารถเดินทางร่วมกับคิเมร่ามาได้โดยสวัสดิภาพ ด้วยอะไรก็ตามทั้งคู่เหมือนจะสื่อสารกันผ่านกระแสจิตอะไรประมาณนั้น  กลายเป็นว่าแท็คทีมชั่วคราวที่จัดตั้งโดยเรย์นานั้นเข้าขากันได้ดีไม่มีปัญหา เส้นทางสู่เมืองเรเวนนั้นต้องผ่านเมืองทีฟหรือรู้จักกันในนาม เมืองแห่งโจรสลัด..บางทีชื่อเมืองก็คงมีสาเหตุมาจากโจรสลัดนั่นล่ะ..เพื่อนั่งเรือไปยังส่วนของอาณาจักรหลวง          

     

                เด็กหนุ่มมองทิวทัศน์ของเมืองนี้ผ่านๆ บ้านเมืองไม่ใกล้เคืองกับคำว่าเจริญหูเจริญตาแม้แต่น้อยทั้งตึกรามบ้านช่องทรุดโทรม แหล่งมั่วสุมอบายมุขที่มีแทบทุกๆ สิบเมตร ซ่องที่เปิดกลางวันแสกๆ และยังนักเลงที่มองเขาอย่างหาเรื่อง เป็นเมืองที่ไม่ควรให้ผู้เล่นไม่บรรลุนิติภาวะผ่านมา ไม่รู้ว่าเมืองแบบนี้กลายเป็นเมืองท่าสำคัญได้อย่างไร

     

     

     

                ท่าเรือซึ่งเป็นสถานที่สำหรับจำหน่ายตั๋วไปสู่อาณาจักรหลวงก็ไม่ได้มีสภาพต่างจากบาร์เหล้าทั่วไปนัก ทั้งชาวเมืองขี้เหล้าและเจ้าของร้านที่วางท่าใหญ่โตต่างมองเขาอย่างไม่เป็นมิตร เทรซิสเดาว่าคิเมร่าคงเตะตาน่าดู สิงโตขนทองแซมเงินกับเขา..ผู้เล่นวัยรุ่น คงเป็นเหยื่อสำหรับการปล้นที่คุ้มค่ามาก แต่แน่ล่ะ..เขาไม่สน เทรซิสและคิเมร่าเดินไปยังเคาน์เตอร์อย่างไม่สนใจสายตาที่มองมา เจ้าของเคาน์เตอร์กอดอกหรี่ตามองทั้งคู่อย่างดูถูกก่อนจะแค่นเสียงอย่างไม่มีสาเหตุ

     

    ซื้อตั๋วไปอาณาจักรหลักสำหรับหนึ่งคนกับ เอ่อ..สิงโตอีกตัว เท่าไหร่ครับเขาค่อนข้างจนปัญญากับสถานะของคิเมร่า มันไม่ใช่สิงโตแน่ๆ อาจจะมีส่วนผสมแต่ก็ไม่ใช่ อย่างน้อยค่าโดยสารของสัตว์ก็คงไม่ได้แยกประเภทอ้างว่าเป็นสิงโตก็คงไม่เป็นไร

     

    จ่ายมาทั้งหมด ชายร่างยักษ์ตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายพลางกลอกตามองเหล่านักเลงในร้านเหมือนจะให้สัญญาณ

     

    “….” เขาเงียบ เสียงเบาๆ จากการขยับเก้าอี้เพื่อลุกขึ้นข่มขู่เริ่มดังให้ได้ยิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนพวกนี้คิดจะทำอะไร

     

    บอกให้จ่ายมาฟังไม่รู้เรื่องรึไงวะ! มีเท่าไหร่ก็จ่ายมาให้หมด!! แต่ถ้าไม่จ่าย...คราวนี้ลูกค้าที่นั่งก๊งกันอยู่ในร้านลุกขึ้นมาล้อมพวกเขาไว้หมด อาวุธมีตั้งแต่ท่อนไม้ไปจนถึงขวานอาวุธพื้นฐานของโจรปลายแถว

     
     

    โครม!

     

                เคาน์เตอร์ไม้ที่กั้นระหว่างเทรซิสและคนขายตั๋วพังเละด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว ดาบอัศวินระดับ B ที่เรย์นาไปหาจากทุกซอกทุกมุมของเมืองเพื่อให้กับอัศวินประจำตัวก่อนจะแยกกันชั่วคราวถูกดึงออกมาจากฝักเป็นครั้งแรก ใบดาบและโกร่งสีเงินวาววับตัดกับด้ามและฝักดาบที่เป็นสีดำสนิท มันเป็นดาบที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้จากโซนเริ่มต้น

     

    ค่าตั๋วสำหรับพวกเราเท่าไหร่ครับ เด็กหนุ่มพูดกับชายร่างยักษ์ที่ยืนหลังอดีตเคาน์เตอร์ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่มันกลับทำให้พวกที่ยืนล้อมอยู่ถอยหลังอย่างไม่ต้องคิด หัวโจกไซส์จัมโบ้มองหน้าเขาสลับกับพรรคพวกเลิ่กลั่กก่อนจะตอบอย่างตะกุกตะกัก

     

    มะ..ไม่ต้องจ่ายก็ได้ อะ..อีกยี่สิบนาทีเรือจะออกจากท่าแล้ว ท่านระ..รีบไปก่อนดีกว่า เทรซิสสงสัยว่าท่าทางหยิ่งผยองในตอนแรกคงจะถูกทำลายไปพร้อมๆ กับเคาน์เตอร์หากิน เขาเก็บดาบเข้าฝักดังกริ๊ก! พร้อมกับอาการสะดุ้งอย่างพร้อมเพรียงกันของคนในร้าน เจ้าของร้านยื่นตั๋วสองใบให้เขาทั้งที่ยังสั่น

     

    ขอบคุณครับ เทรซิสรับตั๋วไปด้วยท่าทีไม่ต่างจากตอนแรกคือนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะหันหลังกลับและเดินออกจากร้านพร้อมคิเมร่าที่ไม่ได้ลงมือแม้แต่น้อย นักเลงที่เคยมีท่าทางวางก้ามแหวกทางให้เขาโดยอัตโนมัติ

     

     

     

    ถ้าเจ้าหญิงอยู่ด้วยคงไม่จบแค่นี้แน่ เปรยกับตัวเองแล้วก็ส่ายหัวกับพวกนักเลงที่อยู่ดีไม่ว่าดี ที่ว่าเป็นเมืองแห่งโจรสลัดก็คงเพราะพวกนี้ด้วยส่วนหนึ่งหรือไม่ก็ประเด็นหลักเลย คนขายตั๋วเป็นโจรเทรซิสนึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่าผู้โดยสารจะไปถึงอาณาจักรหลวงโดยไม่โดนปล้นได้อย่างไร

     

     

                ท่าเรือและเรือดูปกติดี..อย่างน้อยก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น ลังไม้ขนาดต่างๆ ถูกลำเลียงผ่านสะพานเรือขึ้นไป ให้บรรยากาศเรือโดยสารในยุคโบราณ...แน่นอนว่าเทรซิสไม่รู้สึกอย่างนั้นขณะที่เขากำลังประเมินความปลอดภัยคร่าวๆ ของเรือโดยสารลำนี้เด็กหนุ่มก็สังเกตเห็นชายผอมเก้งก้างที่กำลังเดินมาหาเขาอย่างกลัวๆ "ขอโทษนะครับ คือว่า..ถ้าจะเอาสัตว์ขึ้นเรือเราคงต้องขออนุญาตกักบริเวณด้วยครับ"

     

    คิเมร่าคำรามเบาๆ ราวกับฟังรู้เรื่อง ซึ่งก็คงจะฟังรู้เรื่องจริงๆ เทรซิสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "กักบริเวณ? กักบริเวณที่ว่านี่จำกัดพื้นที่ขนาดไหนครับ"

     

    "กักไว้ในกล่องสำหรับขนส่งสัตว์ใต้ท้องเรือรวมกับสัมภาระและสัตว์ตัวอื่นครับ แล้วทางเราจะคืนให้อีกครั้งเมื่อเทียบชายฝั่ง" เมื่อเขาพูดจบเท่านั้นคิเมร่าก็กระโจนคร่อมร่างผอมแห้งของลูกเรือที่บัดนี้หน้าซีดเผือดในทันที เขี้ยวคมๆ ของอสุรกายจากทาทารัสอยู่ห่างจากคอไม่ถึงหนึ่งนิ้ว ชายหนุ่มตัวสั่นกึกๆ เสียจนเทรซิสกลัวว่าจะหัวใจวายในไม่ช้าและคงเป็นเช่นนั้นหากอัศวินหนุ่มผมเงินไม่แยกคิเมร่าออกมาก่อน

     

     

    นับว่าโชคดีที่คิเมร่ายอมผละออกมาจากลูกเรือแต่โดยดีถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงแสดงท่าทางกระฟัดกระเฟียดเหมือนกับพร้อมเข้าไปขย้ำชายผู้น่าสงสารคนนั้นอยู่ตลอดเวลา เทรซิสพยุงชายผอมแห้งที่นอนแผ่หมดสภาพอยู่บนท่าเรือขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะสงสารที่ถูกสิงโตยักษ์เกือบเขมือบไปเคี้ยวเล่นดีหรือจะนับถือที่ยังมีสติพอจะพูดคุยให้รู้เรื่องได้ดี

     

    ขอโทษนะครับ แต่ผมคงอนุญาตให้คุณกักบริเวณเขาไม่ได้ พอดีว่าสัตว์เลี้ยงของ..เอ่อ ของผมค่อนข้างที่จะไม่ชอบการจำกัดพื้นที่เท่าไหร่ ลูกเรือพยักหน้าอย่างเหม่อลอยราวกับว่าวิญญาณได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว เทรซิสถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพึมพำอย่างเหนื่อยใจ เจ้านายกับสัตว์เลี้ยงนี่พอๆ กันเลย อยู่ด้วยกันคงพังเมืองไปข้าง

     


     


     



    ***ช่วงนี้ไรท์ว่างแล้วคงได้มาอัพบ่อยขึ้น ตอนนี้เอาไปแค่นี้ก่อนละกัน 5555

    ***กลับมายุ่งๆอีกแล้ว พอมีเวลาแต่งแต่แทบไม่ได้แตะโน๊ตบุ๊คเลย ปกติไรท์จะพิมพ์ในโทรศัพท์แล้วค่อยมาลงเวิร์ดอีกทีแต่กว่าจะได้ลงเวิร์ดนี่คงนานพอสมควร จะให้ไรท์อัพในเฟซเพจก่อนดีมั้ยเพราะไม่ต้องจัดฟอนต์แล้วไรท์จะบอกในนี้ให้ว่าอัพถึงไหน หรือจะรอเอาลงเวิร์ดแล้วค่อยอ่านในDek-Dทีเดียว เม้นท์ตอบด้วยนะจะได้รู้ว่าเอาแบบไหน




    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×