ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Great Warrior Online สงครามมหาราชันย์

    ลำดับตอนที่ #6 : Chap.III หนูน้อยน่ารัก นาม 'คิเมร่า'

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.56K
      13
      23 ก.ย. 66

     

    CHAPTER III .

     

    หนูน้อยน่ารัก นาม 'คิเมร่า'

     

    เรย์นาสาบานในใจว่าจะไม่มีทางเข้าไปเล่นในอะไรก็ตามที่หมุนได้อีกเด็ดขาด ตั้งแต่ถูกส่งเข้าเกมมาท้องไส้ของเธอก็ปั่นปวนไปหมดเหมือนถูกพวกตัวเขียวเขย่า ..เรียกว่าอะไรกันนะ? อ่อ ออร์ค.. เรย์นาแทบจะคิดว่าอวัยวะภายในของเธอสลับที่กันไปหมดแล้ว ผ่านไปสักพักแรง.. สะเทือน? หมุน? ..อะไรก็ตาม.. ก็เริ่มเบาลงตามด้วยเสียงวี้ในหัวแทน เรย์นาลืมตาขึ้นสังเกตรอบข้างก่อนจะรู้สึกว่าที่นี่ไม่ชอบมาพากลสักนิด รอบตัวเธอเต็มไปด้วยสีฟ้า มีปะการัง สาหร่ายทะเล ปลาอีกนิดหน่อย อ้อ มีฉลามด้วย ..มหาสมุทร.. คำนี้น่าจะใกล้เคียงที่สุด

     

    ฉลามขาวขนาดยี่สิบฟุตมองเรย์นาราวกับเรย์นาเป็นอาหารชั้นเลิศ ตลกล่ะ เรย์นาถลึงตาใส่มันเตรียมจะหยิบมีด ..เธอไม่สนหรอกนะว่ามันจะดูออกรึเปล่าว่านี่คือการถลึงตา เอาเป็นว่าเเธอพอใจก็พอแล้ว.. ฉลามตัวนั้นแยกเขี้ยวใส่เรย์นา ..เธอไม่แน่ใจ มันเรียกว่าแยกเขี้ยวรึเปล่านะ.. เรย์นาก็แยกเขี้ยวตอบ บางทีมันอาจจะงงล่ะเพราะมันไม่เข้ามาใกล้อีก ไม่นานฉลามตัวนั้นก็ว่ายหนีไป ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะแรงดันน้ำทำให้ลูกตาเธอแทบถลนออกมาและลมหายใจก็ใกล้หมดเต็มทน เรย์นายังไม่อยากจมน้ำตาย แต่ก่อนที่เธอจะขึ้นไปบนผิวน้ำก็รู้สึกถึงแรงกระชากที่ขา พอเรย์นาหันไปมองก็ได้แต่คิดว่า 'โอ้! ให้ตายเถอะ' หมึกยักษ์ก็ยักษ์สมชื่อชนิดที่ว่าฉลาดขาวดูตัวเล็กเหมือนเด็กน้อยไปเล เรย์นากระชับมีด ..ที่มีอานุภาพประมาณเศษเหล็ก..ของผู้เล่นเริ่มต้นในมือ พยายามนึกถึงอาวุธชิ้นอื่น ธนูไม่มีประโยชน์ในน้ำ ดังนั้นตัดข้อนี้ทิ้งไปได้เลย สรุปว่ามีแค่มีดที่พอใช้ได้

     

    ผู้เล่น เรย์นา พบสัตว์อสูร คราเคน ชนชั้น อัศวิน คลาส 4 ระดับ 150 ผู้ที่ถูกสังหารจะถูกลด 150 ระดับ ติดสถานะแพ้อาหารชนิดปลาหมึกเป็นเวลา 1 เดือน

     

    วิเศษ! กินปลาหมึกไม่ได้ งี่เง่าสิ้นดี ที่เรย์นายังไม่เข้าไปตะลุมบอนกับอัศวินปลาหมึกผู้น่าเกรงขามมีเหตุผลอยู่สองข้อ ข้อแรก เธอจับจิตสังหารของมันไม่ได้ บางทีมันอาจไม่ต้องการฆ่าเรย์นา.. บางทีนะ ข้อสอง เรย์นาไม่คิดว่าผู้เล่นเริ่มต้นอย่างเธอจะทำอะไรสัตว์อสูรระดับนี้ได้หรอก ไม่ใช่ว่ากลัวแต่เป็นการประมาณตน เรย์นารู้ขีดจำกัดของตัวเอง เว้นเสียแต่ใช้เวทมนตร์ในโลกจริงซัดมัน ถ้าอย่างนั้นอาจจะพอได้ลุ้นขึ้นมาสักนิด แต่เรย์นาไม่คิดจะทำอย่างนั้น มันใช้หนวดน่าขยะแขยงดึงเรย์นาลงไปใต้ผืนน้ำอย่างนุ่มนวลเท่าที่ปลาหมึกยักษ์ขนาดเท่าตึกจะนุ่มนวลได้ มันอาจเอาเรย์นาลงไปกินก็ได้หรืออาจเอาไปเป็นเครื่องประดับ 'พระเจ้า แค่คิดก็ขนลุกไปหมดแล้ว' เอาเถอะ เธอไม่รู้หรอก มันดึงเรย์นาลึกลงไปเรื่อยๆ แล้วก็.. ตูม สติของเรย์นาหนีออกจากร่างไป

     

    เรย์นารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าเธอหายใจได้แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเรย์นาขึ้นไปอยู่บนบกก็คงเพราะร่างกายของเธอปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ..อย่างมีเหงือกหรือพังผืด.. 'โอ้ ข้อแรกฟังดูดีกว่ากันเยอะเลย' เรย์นาลุกขึ้นและมองไปรอบๆ เธออยู่ในห้องสีขาวที่ประดับไปด้วยเปลือกหอยนานาชนิด อาวุธของเธอถูกแขวนอยู่มุมห้อง หน้าต่างในห้องเป็นสีฟ้า เรย์นาชะงักกึก ไม่ใช่หน้าต่างที่เป็นสีฟ้าแต่เป็นนอกห้องต่างหาก มีปลาด้วย ..แสดงว่าเป็นข้อสอง.. เรย์นาก้มลงมองมือตัวเองและแตะบริเวณหน้ากับคอ 'อย่างน้อยก็ไม่มีพังผืดกับเหงือก' ชุดของเธอแห้งแล้ว มีดกับธนูก็ด้วย เรย์นาเหน็บมีดไว้ที่เอว ผ่านไปพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ก่อนประตูจะถูกเปิดออก ตัวประหลาดตัวหนึ่งเดินเข้า พูดด้วยใบหน้าที่เรย์นาแยกไม่ออกว่ากำลังแสดงสีหน้าแบบไหน ต้องขอโทษด้วยที่เธอเป็นมนุษย์
     

    "ท่านเทพต้องการพบแขก" จากนั้นก็มีผู้ชายอีกคนเดินตามมา ตัวประหลาดในตอนแรกหันไปทำความเคารพให้และเดินจากไป

     

    ชายคนนั้นส่งสายตาให้เรย์นาเดินตามไป ส่วนเขาก็เดินเงียบๆ จนถึงหน้าห้องๆ หนึ่ง มันเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เรย์นาเคยเจอ ..และเธอเคยเป็นเจ้าหญิงของจักรวรรดิมาก่อน.. แค่ประตูห้องก็สูงอย่างน้อยสิบห้าฟุต ขณะที่เรย์นากำลังคิดอะไรเพลินๆ จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เมื่อมีการเคลื่อนไหวอย่างไม่ทันตั้งตัวเรย์นาก็ยิงธนูออกไปตามสัญชาตญาณ  ลูกธนูพุ่งไปอย่างรวดเร็วแต่ราวกับมีพลังที่มองไม่เห็นกั้นไว้ มันหยุดลงและสลายไป ชายที่มากับเรย์นาหน้าซีดเผือดส่วนเรย์นาถอนหายใจอย่างโล่งอก ตกใจไม่แพ้กัน

     

    ทั้งคู่เดินเข้าไปข้างใน เบื้องหน้ามีบัลลังก์ที่ใหญ่พอให้คนสูงสิบฟุตนั่งได้สบายๆ เขาก้มลงทำความเคารพเรย์นาจึงทำตาม ชายสูงสิบฟุตพูดขึ้น "ปฏิกิริยาของเจ้าไม่เลว พรานแห่งอาร์เทมีส"

     

    "ข้าแต่เทพเจ้า ขอบคุณสำหรับคำชม ข้าไม่ใช่พรานแห่งอาร์เทมีส และขออภัยสำหรับการล่วงเกิน" เรย์นาตอบ

     

    "เจ้ารู้ด้วยรึว่าข้าเป็นใคร" เขามองเรย์นาด้วยสายตาชื่นชม

     

    "อยู่ในมหาสมุทรคงไม่ใช่ซุสหรอกค่ะ" เรย์นาพูดตามที่คิด โพไซดอนหัวเราะชอบใจส่วนคนที่มาด้วยกันกับเรย์นากุมขมับ

     

    "ฮ่าๆๆ เด็กเอยเจ้าพูดถูก พวกนั้นส่งคนมาถูกใจข้าจริงๆ" ปกติแล้วเรย์นาไม่ชอบให้ใครมาเรียกว่าเด็กเท่าไหร่ แต่กับเทพเจ้าอายุหลายพันปีนี่ข้อยกเว้น ถ้าอยู่ต่อหน้าโพไซดอนแล้วไม่ใช่เด็กก็คงจะแก่เกินไปหน่อย ..ไม่หน่อยด้วยซ้ำ แก่ไปมาก.. เรย์นาสะดุดใจกับคำว่า'ส่งคน' มันหมายความว่ายังไง

     

    "ส่งคนหมายความว่ายังไงคะ" เรย์นาโพล่งออกไป เด็กช่างเรียนรู้อย่างเธอไม่เคยปล่อยให้คำถามลอยอยู่ในหัวเกินห้าวินาที คุณเตรียมใจไว้ได้เลย เพราะมีโอกาสสูงมากที่เรย์นาจะพูดอะไรไปโดยไม่คิด
     

     

    "พวกนั้น ที่นักเดินทางเช่นเจ้าเรียกว่า npc น่ะ ทำข้อตกลงกับข้า หากคนที่ซื้อ ..เกมหรืออะไรสักอย่างรุ่นลิมิเต็ดอีดิชั่นจะต้องผ่านฝูงหมาป่าโลหะซึ่งน่ารำคาญที่สุด ข้าเดาว่าเจ้ารู้อยู่แล้วล่ะ"

     

    "ฉันว่าพวกมันน่ารักดีออก" เรย์นาพึมพำเบาๆ

     

    "ถ้าผ่านมาได้จะถูกส่งมายังอาณาจักรของข้า และถ้ามาที่นี่ได้โดยไม่ตาย.." สมุทรเทพชี้ลงที่พื้นที่นี่ของเขาคงหมายถึงที่นี่ที่ห้องนี้ตามความหมายจริงๆ ส่วนเรย์นาคืดในใจ อืม คำว่า ถ้า ชักจะเยอะเกินรึเปล่านะ แน่นอนเรย์นาไม่ได้พูดออกไป แต่กลับถามอีกคำถามแทน

     

     

    "การมาที่นี่ยากมีอะไรยากกัน แค่ต้องรอให้ปลาหมึกตัวเท่าวิหารลากลงไปก้นสมุทร และอาจไม่ได้กินพวกปลาหมึกไปหนึ่งเดือน โอ น่าเศร้าจริงๆ" ประโยคหลังเรย์นาพูดเบาๆ แต่ก็ดังพอที่จะให้ชายที่มาด้วยกันได้ยิน เขาถลึงตาใส่เรย์นาและพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับกินปลาหมึก ..หรืออาจไม่ใช่.. ท่าทางของเขาเหมือนสาปแช่งให้เรย์นาถูกมันกินเสียมากกว่า แต่ขอโทษทีเถอะ เรย์นาดีเกินกว่าที่จะเป็นอาหารของสัตว์ทะเล ..หมึกยักษ์นับเป็นสัตว์ใช่มั้ยนะ

     

     

    "คราเคน ..หรือที่เจ้าเรียกว่าปลาหมึก.. จะไม่ทำอันตรายหากเจ้าไม่ขัดขืน แต่ถ้าคิดจะสู้เมื่อไหร่มันก็จะสู้เช่นกัน แล้วข้าก็ไม่คิดว่าคราเคนจะจับธิดาแห่งโพไซดอนกินเป็นอาหาร จริงมั้ย ไทรทัน" โอเค เรย์นาพอจะเข้าใจวิถีชีวิตของครา ..อะไรนะ  แต่ช่างมันเถอะ.. เธอจะบอกว่า เธอพอจะเข้าใจวิถีชีวิตของเจ้าสิ่งนั้นขึ้นมาบ้าง แล้วก็เข้าใจด้วยว่าคนที่มาด้วยกันชื่อ ไทรทัน แต่นั่นไม่สำคัญ เพราะคำที่ลอยในหัวเรย์นามีเพียงคำว่า ธิดาแห่งโพไซดอน

     

     

    "เมื่อกี้ข้าพูดถึงเรื่องไหนแล้วนะ" สมุทรเทพถามขึ้น เรย์นาจึงต้องเก็บคำถามนั้นไว้ชั่วคราว เพราะยังมีเรื่องที่อยากรู้มากกว่า

     

     

    "ถ้ามาที่นี่ได้โดยไม่ตาย"

     

     

    "อา ใช่ๆ ถ้ามาที่นี่ได้โดยไม่ตาย ข้าต้องรับมนุษย์ผู้นั้นเป็นธิดา และในกรณีนี้ก็คือเจ้า" เรย์นารู้สึกเหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบหัว ตอนนั้นสมองของเรย์นาประมวลความเป็นไปได้ทุกอย่าง ประมวลความหมายทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจ

     

     

    "เจ้าคิดจนข้าจะเห็นฟันเฟืองในสมองอยู่แล้ว อาธีน่าคงถูกชะตากับเจ้า" เขาถอนหายใจ พร้อมกับเสียงระบบที่ดังขึ้น


     

    ผู้เล่น เรย์นา ได้รับการยอมรับ ได้รับตำแหน่ง ธิดาแห่งโพไซดอน

     

     

    ผู้เล่น เรย์นา ได้รับภารกิจ ธิดาแห่งทวยเทพ 1/16

     


     

    "นี่มันไร้เหตุผลสุดๆ ไปเลย" เรย์นาแย้งหลังจากที่จัดข้อมูลในสมองจนมันเริ่มเข้าที่เข้าทาง

     

     

    "เรย์นา เหล่าเทพเจ้าไม่เคยมีเหตุผล ครั้งนี้ก็เช่นกัน ข้าเพียงทำตามคำขอเท่านั้น" โพไซดอนพูด เขารู้ชื่อเธอได้ยังไงกันนะ ใช่สิ! เขาเป็นเทพเจ้านี่

     

    "ภารกิจธิดาแห่งทวยเทพหมายความว่ายังไง" เรย์นาถามออกไป โพไซดอนยิ้มอย่างใจดี

     

    "น้อยคนนักที่จะได้รับภารกิจนี้ ผู้ที่บรรลุภารกิจนี้จะได้รับพลังมหาศาลอย่างที่เจ้าคาดไม่ถึง ส่วนความหมายของภารกิจนี้ก็ตรงตัว เจ้าต้องได้รับการยอมรับจากเทพโอลิมเปียนทั้งหมด ซึ่งถ้านับดูดีๆ แล้วจะมีทั้งหมดสิบหกองค์ เทพที่เจ้าสามารถได้รับการยอมรับอย่างง่ายๆ คือ อะโฟรไดต์ ..จะว่าง่ายก็ไม่เชิง หากนางตัดสินใจว่าเจ้างดงามนางก็จะยอมรับ หากนางตัดสินว่าไม่ เจ้าก็ต้องทำใจ " 

     

    วิเศษ! เรย์นาต้องไปทำให้เทพผู้ไร้ซึ่งเหตุผลสิบหกองค์ยอมรับด้วยวิธีอะไรก็ไม่รู้ ..พระเจ้า ทุกคนก็รู้กันหมดว่าเหล่าเทพเจ้าเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้.. ในขณะที่เธอกำลังบ่นในใจ ประตูก็เปิดผัวะเต็มแรง เธออดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีใครสักคนยืนอยู่ในรัศมีล่ะก็ ..เลิกคิดดีกว่า.. ทันทีที่ประตูเปิดออก สัตว์ครึ่งสิงโต ครึ่งแพะ ครึ่งงู ..หรือบางทีอาจเป็นมังกร.. อะไรก็ตาม ก็วิ่งเข้ามา เธอไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไรแค่พอจะคุ้น ๆ หน้าบ้างเหมือนกับเคยเจอในหนังสือเทพปกรณัม ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ให้ตายเถอะ พระเจ้ารู้ได้ยังไงนะว่าเธอชอบของแปลก เสียงในหัวตอบเธอว่า ก็เพราะเขาเป็นพระเจ้าน่ะสิ!

     

    "ลูกรัก! แม่อยู่นี่ มาหาแม่เร็วหนูน้อยน่ารักของแม่" เรย์นาตะโกน และกางแขนทั้งสองข้าง อสุรกายสูงเจ็ดฟุตกระโดดชาร์จแล้วเรย์นาก็ล้มลงไป มันคร่อมเรย์นาพร้อมกับสอดส่องส่ายตาอย่างซุกซน หางของมันส่ายไปมาราวกับสุนัข มันออกจะน่าขยะแขยงไปหน่อยเมื่อเห็นว่าหางนั่นเป็นงู แต่ด้วยรสนิยมที่พิเศษเกินไปสักนิดเรย์นามองว่ามันน่ารัก และเรย์นาก็รักมัน สตรีสีเขียววิ่งเข้ามา เธอหน้าซีด ..เรย์นาคิดว่าอย่างนั้น มันยากที่จะรู้ว่าเธอหน้าซีดหรือไม่ในเมื่อเธอเขียวทั้งตัว ผมเขียว ผิวเขียว หน้าเขียว ชุดเขียว และอะไรต่อมิอะไรเขียว

     

     

    "เรย์นา ลูกไม่ควรเรียกคิเมร่าว่าหนูน้อยน่ารัก และคิเมร่าก็ไม่ใช่ลูกรัก" โพไซดอนเตือนทั้งที่ยังอมยิ้มอยู่ คิเมร่าก้มหัวลงมามองเรย์นาอย่างสงสัย เรย์นาเอื้อมมือไปลูบหัวมันและมันก็ถูหัวของมันกับมือเรย์นา ให้ตาย เขาเป็นอสุรกายที่น่ารักที่สุดในโลกเลย

     

     

    "หนูน้อยลงไปก่อน" มันทำตามอย่างว่าง่าย เรย์นาลุกขึ้นมาปัดตามตัวนิดหน่อย ผู้หญิงสีเขียวเดินผ่านเธอไป เธอโค้งให้โพไซดอนโดยไม่ลืมถลึงตาใส่เรย์นา เรย์นาฉีกยิ้มแบบที่ชอบทำเวลาประชดใคร และเธอก็ถลึงตาใส่เรย์นาอีกรอบ ..หรือบางทีตาของเธออาจจะถลนออกมาตลอดเวลาอยู่แล้ว จนเรย์นาเข้าใจผิดว่าเธอถลึงตาใส่ก็ได้

     

     

    "เรย์นา นี่แอมฟริไทรที เป็นเอ่อ.. ภรรยาของข้า" เขาแนะนำ ไม่เหนือความคาดหมายเท่าไหร่ ใคร ๆ ก็รู้ว่าบรรดาเทพเจ้ามีเมียมากพอ ๆ กับมีลูก

     

     

    "นี่เรย์นา เป็นธิดาของข้า" โพไซดอนแนะนำเรย์นาบ้าง แอม..อะไรสักอย่าง แค่นเสียงอย่างดูถูก โทษทีเถอะ นั่นดูน่าขนลุกขึ้นทันตาเพราะแม้แต่จมูกของเธอก็เป็นสีเขียว บางทีผมนั่นอาจเป็นสาหร่ายทะเลก็ได้ใครจะรู้

     

     

    "ไทรทัน! แม่ไม่ชอบให้เจ้าอยู่ในร่างของพวกมนุษย์ชั้นต่ำ เจ้าก็รู้" เน้นเกินไปรึเปล่า บางทีคาแร็คเตอร์ของมิสแอมอะไรสักอย่างนี่อาจจะเอามาจากนางร้ายในละครหลังข่าวภาคค่ำ เรย์นาเปลี่ยนไปสนใจคิเมร่าแทน และมันก็ไม่ยากเลยเพราะอสุรกายครึ่งสารพัดสัตว์ สูงเจ็ดฟุตเป็นอะไรที่น่าสนใจกว่าสตรีสีเขียวนั่นเยอะ

     

     

    "ฉันเข้าใจว่าคิเมร่าจะตัวใหญ่กว่านี้นะ" การหันไปพูดกับโพไซดอนทำให้หางตาเรย์นาเห็นไทรทันไปด้วย ตอนนี้เขาอยู่ในร่างเงือกแล้วซึ่งไม่น่าดูเท่าไหร่ ขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ พื้นห้องก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มีหรือที่คนใฝ่รู้อย่างเรย์นาจะไม่หันไปมอง เรย์นารู้ได้ทันทีว่าเธอถามอะไรที่ไม่ควรถามออกไป

     

     

    คิเมร่าขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนอีกนิดเดียวก็จะติดเพดาน เธอยังไม่ได้บอกสินะว่าเพดานห้องนี่สูงราว ๆ สี่สิบฟุต และลูกรักของเรย์นาก็สูงสามสิบฟุต

     

     

    "โดยปกติแล้ว คิเมร่าจะไม่เปลี่ยนขนาดของตัว เว้นแต่ใครบางคนที่มันให้ความสำคัญจะต้องการ ตามที่ลูกคิด มันตัวใหญ่กว่านั้น และนี่คือขนาดจริงของมัน" โพไซดอนว่าอย่างงั้น หมายความว่าเธอเป็นคนสำคัญสินะ น่าปลาบปลื้มอะไรอย่างนี้ เคยได้ยินมาว่าสุนัขจะรู้ว่าใครชอบมันเธอคิดว่าคิเมร่าก็คงมีสัมผัสที่หกประเภทนั้นเหมือนกัน

     

     

    "เอาขนาดเท่าเดิมน่ะดีแล้ว"

     

     

    "คิเมร่าไม่เคยเชื่องขนาดนี้ ก่อนหน้านี้มันยังจะฆ่าข้าอยู่เลยตอนข้าย้ายกรง" สตรีสีเขียวพูดด้วยน้ำเสียงอัศจรรย์ใจ

     

     

    "แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งก็ไม่ได้หรอกนะ แล้วมันดุร้ายขนาดนั้นตามที่ แอม.. มิสแอมบอกเชียว?"

     

    "นี่!!" บอกตามตรงว่าเธอไม่ค่อยปลื้มนิสัยชอบตวาดของสตรีสีเขียวผู้นี้เท่าไหร่
     

     

    "แอมฟริไทรที และใช่ คิเมร่าเป็นสัตว์ที่ดุร้ายมาก เราใช้เวลาอยู่นานกว่าจะจับมันได้ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครกำราบมันได้ ไม่มีใครที่มันยอมรับ...นอกจากลูก และพ่อก็ไม่ขัดข้องหากลูกต้องการมันเป็นสหายร่วมเดินทาง"

     

     

    ผู้เล่น เรย์นา ได้รับการยอมรับจากสัตว์อสูร คิเมร่า

     

     

    ผู้เล่น เรย์นา ได้รับสัตว์อสูร คิเมร่า ชนชั้น จักรพรรดิ คลาส 4 ระดับ 170 เป็นผู้ติดตาม 

     

    "ครั้งหนึ่งมันเคยถูกเบลเลอโรฟอนสังหารเนื่องจากมีความเกี่ยวพันกับเคลเบรอส และมันได้คืนชีพอีกครั้งหลังทำพันธสัญญา อสุรกายแห่งนรก ซึ่งจะทำให้มีจิตใต้สำนึกที่เชื่อมอยู่กับเคลเบรอสตลอดเวลา หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย อีกฝ่ายก็จะตายตาม แต่นั่นไม่สำคัญหรอก ลูกจงระวัง อสุรกายไม่ใช่อะไรที่ลูกสามารถควบคุมได้ง่ายๆ"

     

    "บางทีมันอาจจะสำคัญสำหรับเคลเบรอสก็ได้นะคะ"

     

    แน่นอนเรย์นาไม่คิดจะพูดดังพอให้สตรีสีเขียวถลึงตาใส่เรย์นาอีกสักสิบรอบ เธอบอกโพไซดอนไปว่าต้องการออกเดินทาง เรียกว่าเป็นโชคดีดีมั้ยนะ ที่ได้สัตว์อสูรระดับสูงมาตั้งแต่เริ่มเกม แต่อะไรบางอย่าง บอกเรย์นาว่าถ้าเธอเลือกได้ การเดินทางโดยไม่มีคิเมร่าไปด้วย และไม่สามารถทำให้มันเชื่องได้ อาจปลอดภัยกว่า คงเป็นเพราะคำพูดที่ไทรทันเผลอหลุดปากออกมา คำพยากรณ์มักไม่ใช่เรื่องดี ครั้งนี้ก็เช่นกัน


     

    'วีรชนผู้ถูกสาปจักเอาชนะปีศาจแห่งโลกันต์' 

     

    ถ้าแปลดูแล้ว ปีศาจแห่งโลกันต์ คงหมายถึงคิเมร่า คำว่า เอาชนะ ก็หมายถึงทำให้มันยอมสยบ ความหมายมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าไม่มีคำว่า วีรชนผู้ถูกสาป แต่เอาเถอะ เธอก็ไม่ค่อยจะเจอโชคดีอยู่แล้ว เรย์นากลัวว่าถ้าเข้าเมืองมาโดยมีอสุรกายสูงเท่าตึกเดินตามจะทำให้ผู้เล่นคนอื่นแตกตื่นเลยขอให้คิเมร่ากลายร่างให้ตัวเล็กลงหน่อย เล็กที่ว่าคือมีขนาดเท่าสิงโตและอยู่ในรูปร่างของสิงโตขนทองแซมเงิน ดูดีกว่าเดิมเยอะ พูดกันตามตรง เธออยากสะสมอสุรกายในปกรณัมมากกว่าทำให้เทพโอลิมเปียนยอมรับซะอีก 
     

     

    พวกเธอออกมาจากวังใต้สมุทรของโพไซดอนโดยมาโผล่ที่ชายฝั่งนอกเมืองเริ่มต้น แล้วเดินค่อยต่อจนถึงประตูเมือง

     

    เมืองผู้เล่นเริ่มต้นนับว่าน่าอยู่ทีเดียว มีการจัดตกแต่งสไตล์กรีกโบราณ ให้ความรู้สึกเก่าแก่ ผู้คนส่วนใหญ่แต่งตัวด้วยชุดเกราะยกเว้นพ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งแผงขาย พวกนั้นจะใส่เป็นผ้าคลุมสีเบจเสียส่วนใหญ่ ชาวเมืองดูไม่แปลกใจเท่าที่ควรเมื่อเห็นสิงโตเดินตามเรย์นาเข้ามา สิ่งแรกที่เรย์นาคิดจะทำหลังจากหาอะไรเติมพลังก็คือการเก็บระดับ ถึงแม้จะได้พลังแปลก ๆ อย่างพลังของมนุษย์กึ่งเทพมา แต่ความจริงก็คือความจริง เธอยังคงมีระดับแค่หนึ่งเท่านั้น เงินของผู้เล่นเริ่มต้นเพียงพอให้เธอซื้ออาหารระดับต่ำสำหรับคนเดียวเท่านั้น โชคยังดีที่ก่อนแอมฟริไทรทีจะทำคิเมร่าหลุดออกจากกรง เธอก็ให้อาหารมันไปแล้ว และจนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหิวอีก

     

    เรย์นาเป็นคนที่ไม่เรื่องมากกับการกินจึงซื้อแค่อาหารประทังชีวิตมานั่งกินข้างทาง เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อไปเลยที่เธอเคยเป็นถึงเจ้าหญิง แต่ช่วยไม่ได้สมัยทำสงครามเธอก็ต้องนอนกลางดินกินกลางทรายจนชินไปแล้ว ระหว่างที่เรย์นากิน คิเมร่าก็นอนหมอบกับพื้นไม่สร้างความวุ่นวาย จนกระทั่งได้ยินเสียงโครมครามดังขึ้นไม่ไกลนักมีชาวบ้านกับกลุ่มผู้เล่นไปมุงดูด้วยความสนใจ คิเมร่าหันมามองเรย์นาราวกับจะขออนุญาต ที่จริงไม่ต้องขอเรย์นาก็กะจะไปดูอยู่แล้ว หลังจากจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุทันที

     

     

    ท้าพนันการแข่งขันผู้ติดตามที่เป็นสัตว์อสูร

     

     


     

    รีไรท์+หั่นตอนนะคะ เดี๋ยวจะเอาไปรวมกับตอนถัดไปไว้ก่อนแล้วจะไล่เกลาภาษาอีกรอบ

     

    ห่างหายไปหลายปี+ไม่ค่อยได้อ่านวรรณกรรมเยาวชนเลยปรับโทนยากเลยค่ะ5555 กลับมาอ่านแล้วรู้สึกว่า อื้อหือ นางเอกเรานี่แปลกมาก หมายถึงรสนิยมแปลก555


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×