คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chap.VI แทรกแซง
CHAPTER VI.
แทรกแซง
สรรพสิ่งล้วนมีจุดเริ่มต้น ชีวิตก่อกำเนิดจากชีวิต
ไร้ชีวิตก่อกำเนิดจากวัฏฏะ เฉกเช่นทุกสิ่งล้วนมีจุดจบ
น้ำกำเนิดจากไฟ หากไร้ซึ่งน้ำก็ไร้ซึ่งไฟ
หากไร้ซึ่งจิตวิญญาณ ก็ไร้ซึ่งชีวิต
เปลวไฟแห่งชีวิต แผดเผาจิตวิญญาณ
สรรพสิ่งล้วนสูญสลาย
คำโองการดังขึ้นจากเรธิเซียเสียงนั้นก้องกังวานราวกับจะป่าวประกาศให้ทุกสรรพสิ่งทั่วหล้าได้รับรู้ ใบหน้าของเธอเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ดวงตามีเพียงความว่างเปล่าเหมือนกับตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต เมื่อคำโองการนั้นจบลงวงเวทก็เริ่มเปล่งแสงสีทอง แสงสีฟ้าในตอนแรกนั้นได้หายไปแล้วเหลือเพียงแสงที่สว่างจ้าราวกับจะดูดกลืนทุกสิ่งเข้าไปก่อนเกิดการระเบิดขึ้นทุกสิ่งมีชีวิตในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรนั้นสลายไปไม่เหลือกระทั่งเศษธุลีเสียงระบบดังขึ้นบอกค่าประสบการณ์และจำนวนเงินอย่างต่อเนื่อง ในความวินาศนั้นมีเพียงเรธิเซีย เทรซิสและคิเมร่าที่ไม่ได้รับผลกระทบใด
การใช้เวทมนตร์ที่รุนแรงย่อมมีผลกระทบที่รุนแรงเช่นกัน แถบเวทมนตร์ของเรธิเซียหมดเกลี้ยงและลามไปถึงแถบเลือดซึ่งลดมาอยู่ในระดับอันตราย เธอดึงพลังชีวิตมาใช้ร่วมกับพลังเวทมนตร์เพื่อเพิ่มความรุนแรงของวงเวทซึ่งได้ผลมหาศาล เมื่อจบการระเบิดแล้วเธอจึงใช้ยาเพิ่มพลังชีวิตที่ได้จากสัตว์อสูร
ผู้เล่น เรย์นา และ ผู้เล่น เทรซิส ได้ทำการสังหารสัตว์อสูร บอสโกเลม ชนชั้น ขุนนาง คลาส 1 ระดับ 70
เนื่องจากสามารถสังหารสัตว์อสูรต่างชนชั้น มีโอกาสได้รับอาวุธระดับ B ขึ้นไป 20%
ผู้เล่น เรย์นา ได้รับประสบการณ์จากสัตว์อสูร เลื่อนระดับมาอยู่ที่ คลาส 1 ระดับ 43
ผู้เล่น เทรซิส ได้รับประสบการณ์จากสัตว์อสูร เลื่อนระดับมาอยู่ที่ คลาส 1 ระดับ 51
ผู้เล่น เรย์นา และผู้เล่น เทรซิส ได้รับ คัมภีร์ผนึกการเคลื่อนไหว ระดับ A
ผู้เล่น เรย์นา และผู้เล่น เทรซิส ได้รับ เกราะเงิน ระดับ B 1 ชุด
ผู้เล่น เรย์นา และผู้เล่น เทรซิส ได้รับ ชุดคลุมราตรี ระดับ B 1 ชุด
ผู้เล่น เรย์นา และผู้เล่น เทรซิส ได้รับ หน้ากากอักขระ ระดับ A 1 อัน
เนื่องจากผู้เล่นสามารถสังหารบอสและสัตว์อสูรในเขตแดนได้ภายในเวลาที่กำหนด จึงผ่านเงื่อนไข
สัตว์อสูร….
ไม่ทันที่ระบบจะประกาศจบทั้งเรย์นาและเทรซิสก็ใช้คัมภีร์กลับเมืองทันที ประกาศอันสุดท้ายของระบบทำให้เขารู้สึกว่าตัวอะไรก็ตามที่จะปรากฏตัวเมื่อผ่านเงื่อนไขต้องหินกว่าบอสโกเลมแน่ๆ ส่วนคิเมร่านั้นเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายออกจากอาณาเขตไปแล้วจึงใช้ทักษะของผู้ติดตามเพื่อตามเธอไป เมื่อ เปิดดูประวัติการประกาศของระบบก็พบว่าตัวเองคิดถูกแล้วที่ชิงใช้คัมภีร์กลับเมืองกลับมาก่อนเพราะสัตว์อสูรที่จะปรากฏตัวในตอนนั้นคือ โกเลมหินผา ชนชั้น ขุนนาง ระดับ 180 พวกเธอคงกลายเป็นแสงก่อนจะได้เริ่มร่ายเวทด้วยซ้ำ สิ่งแรกที่ทั้งคู่ทำคือเช็คของที่ได้จากบอสโกเลม การสังหารบอสทำให้ได้เงินมามากพอสมควรเมื่อรวมกับสัตว์อสูรที่โดนลูกหลงทำให้ทั้งคู่มีเงินใช้ได้อีกนาน
เกราะเงิน ระดับ B
- เพิ่มพลังป้องกันทางกายภาพ 40%
- เพิ่มพลังป้องกันเวทมนตร์ 15%
- เพิ่มค่าเลือด 20%
- เพิ่มพลังป้องกันโดยรวม 10%
ชุดคลุมราตรี ระดับ B
- เพิ่มพลังเวทมนตร์ 30%
- เพิ่มพลังป้องกันเวทมนตร์ 25%
- เพิ่มพลังโจมตีด้วยเวทมนตร์ 40%
หน้ากากอักขระ ระดับ A
- ปิดบังตัวตนของผู้ใช้โดยสมบูรณ์
- เสริมพลังให้เครื่องประดับชิ้นอื่น 20%
- ทักษะพิเศษ : ปิดบังค่าสถานะของบุคคลที่ผู้ครอบครองต้องการชั่วคราว
ดูจากคุณสมบัติแล้วเกราะเงินจึงเป็นของเทรซิส ส่วนชุดคลุมราตรีและหน้ากากอักขระนั้นเหมาะสมกับเรย์นาที่สุด ส่วนคิเมร่านั้นมีความสามารถในการปกปิดตัวเองจึงไม่เป็นปัญหาเมื่อปรากฏตัวในเมืองเพราะแม้ว่าผู้เล่นจะมีทักษะการตรวจสอบที่สูงก็ไม่สามารถตรวจสอบสถานะของมันได้ สิ่งที่เรย์นาพอใจที่สุดในการต่อสู้คือทักษะที่เพิ่มขึ้น
การต่อสู้กับโกเลมทำให้ทักษะปลดผนึกของเธออยู่ที่ระดับสิบเจ็ด ทักษะเนตรมนตราระดับสิบ และทักษะอัญเชิญเวทระดับหก ส่วนของเทรซิสนั้นระดับการหลบหลีกอยู่ที่ยี่สิบ ทักษะการใช้ดาบระดับสิบสี่ นอกจากนี้ทั้งคู่ยังได้อาวุธระดับ C มาสองชิ้น ของเทรซิสนั้นเป็นดาบคู่ ส่วนของเรย์นาเป็นมีดสั้น ส่วนคัมภีร์นั้นเนื่องจากเป็นปาร์ตี้จึงได้มาสองม้วน
ผู้เล่น เรย์นา และ ผู้เล่น เทรซิส ได้ทำการเปิดคัมภีร์ผนึกการเคลื่อนไหว ระดับ A
คัมภีร์ผนึกการเคลื่อนไหว ระดับ A
คำอธิบาย : คัมภีร์ที่ผนึกความเร็วในการเคลื่อนไหวของบอสโกเลมไว้ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้บอสโกเลมเคลื่อนไหวได้ช้า ผู้ครอบครองจะได้รับความเร็วของบอสโกเลม
ความสามารถ :
- เพิ่มทักษะการเคลื่อนไหวพริบตาเป็นระดับ 20
เมืองที่ทั้งคู่อยู่คือเมืองอัลทราส เป็นเมืองที่รวมผู้เล่นเริ่มต้นถึงผู้เล่นที่มีความสามารถระดับกลาง ของที่ขายในเมืองนั้นจึงไม่ใช่ของระดับสูงซึ่งมีราคาแพง เรย์นาและเทรซิสตระเวนซื้อยาเพิ่มพลังชีวิตและเวทมนตร์สำรองไว้ในการต่อสู้ครั้งอื่น
มีเสียงเอะอะดังขึ้นที่อีกฝั่งของเมืองผู้เล่นส่วนใหญ่ไปมุงกันที่บริเวณนั้น เรย์นาจึงสั่งให้คิเมร่าไปที่อื่นก่อนสิงโตยักษ์ค่อนข้างจะเป็นที่สนใจเกินไปหากพวกเธอจะไปดู ส่วนเทรซิสนั้นไม่ได้พูดอะไรอีกเพียงแค่คอยตามเรย์นาเท่านั้น กลางวงล้อมของเหล่าผู้เล่นนั้นมีผู้เล่นใส่ชุดเกราะเบาและผู้เล่นที่สวมชุดเกราะเต็มยศสีดำคาดแดงสู้กันอย่างดุเดือด ไม่มีใครกล้าสอดมือเข้าไปยุ่งมีเพียงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดังขึ้นจากเหล่าผู้เล่นที่ไปมุงกันเท่านั้น
"เกิดอะไรขึ้นหรอ สองคนนั้นเป็นใคร" เรย์นาหันไปถามผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ
"เธอเป็นผู้เล่นเริ่มต้นใช่มั้ย สองคนนั้นเป็นคนของกิลด์ความมืดกับกิลด์นักรบ" เธอชี้ให้ดูก่อนอธิบายต่อ "คนที่ใส่เกราะดำน่ะ อยู่กิลด์ความมืดเห็นว่าไปรีดไถกับผู้เล่นที่เข้ามาในเมืองนี้ บอกว่าไม่ยอมจ่ายค่าผ่านทางอะไรสักอย่างนี่แหละ คราวนี้คนที่อยู่กิลด์นักรบเลยไปช่วยผู้เล่นคนนั้นก็เลนมีเรื่องกัน”
"แล้วไม่มีใครไปช่วยเลยหรอ" ผู้หญิงคนเดิมส่ายหัวแล้วพูดต่อ "ไม่มีใครกล้าหรอก นั่นน่ะหัวหน้ากิลด์ความมืดกับรองหัวหน้ากิลด์นักรบเลยนะ"
ได้ยินดังนั้นเรย์นาก็เลิกถามและหันไปสนใจการต่อสู้แทน ทั้งคู่มีทักษะอยู่ในระดับดีทีเดียวทั้งความรวดเร็วและความหนักหน่วงในการกวัดแกว่งดาบ แต่สำหรับเธอสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่ทักษะพวกนั้นหากแต่เป็นทักษะในเกมซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพบได้ในชีวิตจริง ถ้าย้อนกลับไปดูสมัยก่อน ฝีมือดาบแค่นี้ยังจัดอยู่ในระดับธรรมดา ไม่ได้อยู่ในระดับน่าสนใจด้วยซ้ำแต่ถ้าดูจากตอนนี้ซึ่งเป็นยุคที่ไม่มีการรบราฆ่าฟัน เธอก็จัดว่าเป็นมีฝีมืออยู่ในเกณฑ์ดี
ชายในชุดเกราะดำมีทักษะของธาตุน้ำส่วนอีกคนไร้ธาตุ การโจมตีของชายเกราะดำนั้นเน้นการรุกเขาใช้ดาบแทงไปที่ท้องซึ่งมีพลังโจมตีมากกว่าการฟัน ชายอีกคนใช้ดาบปัดการโจมตีแต่ด้วยความแรงของดาบที่พุ่งเข้ามาทำให้ดาบของเขาเป็นรอยร้าว
"ดาบของเขาแพ้ธาตุน้ำ" เสียงผู้เล่นคนหนึ่งดังขึ้น สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลง ความต่างของฝีมือและอาวุธทำให้โอกาสที่สถานการณ์จะพลิกกลับนั้นแทบจะเป็นศูนย์ ชายในชุดเกราะหนักยังรุกอย่างต่อเนื่องจนอีกฝ่ายเริ่มจะกันไม่อยู่ทำได้เพียงแค่เบี่ยงวิถีดาบออกไปเพื่อลดแรงปะทะเท่านั้น ในขณะที่รองหัวหน้ากิลด์นักรบใช้สมาธิจดจ่อกับการดูทิศทางที่ดาบของฝ่ายตรงข้ามจะโจมตี หัวหน้ากิลด์ความมืดก็ใช้ช่องโหว่นั้นถีบเข้าที่ท้องเต็มแรงจนรองหัวหน้าเสียการทรงตัว ชายชุดดำแสยะยิ้มและเริ่มใช้สกิลปิดฉากการต่อสู้
"วารีคลั่ง!!"
เสียงเรียกใช้ทักษะดังขึ้น เขาสะบัดดาบออกไป มีน้ำจำนวนมากออกมาจากวิถีดาบนั้นและก่อตัวในรูปของดาบวารี ทักษะวารีคลั่งของเขาไม่ได้เน้นที่การโจมตีแต่เป็นการบดบังการมองเห็นของศัตรูจากการหักเหของละอองน้ำ ในจังหวะที่ชายจากกิลด์นักรบใช้ดาบของเขาทำลายดาบวารี ผู้ใช้ทักษะตั้งใจจะอาศัยจังหวะนั้นแทงดาบไปที่ที่ศีรษะของศัตรู และเมื่อดาบวารีถูกทำลายดาบเล่มนั้นก็จะสังหารเขาในทันที เป็นไปตามที่หัวหน้ากิลด์ความมืดวางแผนไว้ รองหัวหน้ากิลด์นักรบเลือกใช้วิธีทำลายดาบวารีทั้งหมดในการจัดการทักษะวารีคลั่งของอีกฝ่าย รองหัวหน้ากิลด์นักรบที่ทำลายดาบวารีแล้วก็ใช้จังหวะนั้นในการโจมตีต่อ แต่เขากลับเห็นดาบของคู่ต่อสู้พุ่งมาอย่างรวดเร็วปิดทางหนีของเขาทั้งหมด แต่ก่อนที่ดาบเล่มนั้นจะได้ทำหน้าที่ของมันก็มีเงาปริศนาพุ่งเข้ามาพาร่างของรองหัวหน้ากิลด์นักรบหลบจากวิถีดาบ
ความคิดเห็น