ลำดับตอนที่ #35
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : Chapter30 : Meeting [100%]
:Meeting:
"ห้ะ! เอาจริงหรอครับ!?" ผมถามอย่างตกใจ
"ขอโทษนะ คือพี่ติดธุระข้างนอกพอดีเลยเเถมดูเเล้วดาร์กเหมาะที่สุดเเล้วล่ะ"พี่เฟรย์รีบขอโทษขอโพยประกบมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน
"เอาจริงๆผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เเค่รู้สึกมันกระทันหันไปนิดนึง ฮะๆ "ผมยิ้มเเห้งๆส่ายมือส่ายหน้าเป็นพัลวันเมื่อเห็นพี่เขายกมือไหว้
"งั้นที่เหลือพี่ฝากเราด้วยนะ พี่ขอโทษนะที่ผลักภาระมาให้เเบบนี้"
"ไม่เป็นไรครับๆ ไม่ต้องขอโทษก็ได้ เเค่ผมกังวลว่าจะไปเงอะงะๆในฐานะตัวเเทนกิลด์นี่ครับ"ผมเกาท้ายทอยอย่างประหม่า อยู่ๆพี่เฟรย์ก็บอกให้ผมเข้าร่วมประชุมเเทนเฉยเเถมมาบอกก่อนที่จะเริ่มประชุมสองชั่วโมง! ดีหน่อยที่สถานที่ประชุมเขาเลือกไม่ไกลจากที่นี่นักเลยไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทาง
"ไม่ต้องห่วงหรอก พี่เชื่อว่านายทำได้อยู่เเล้วดาร์กซะอย่าง พี่รู้สึกไม่ดีจริงๆนะเจอกันครั้งเเรกก็บังคับให้นายเข้ากิลด์เเถมยังปล่อยให้นายไปกับผู้เล่นอันตรายคนนั้นง่ายๆอีก.."เฟรย่าพูดเเววตามีความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม ผมยิ้มเเหยๆก่อนจะส่ายหัวให้อีกรอบ
"ผมไม่คิดอะไรหรอกครับ ส่วนเรื่องนี้เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจัดการให้อีกอย่างถ้าช้ากว่านี้พี่จะไปไม่ทันธุระเเล้วนะครับ"ผมเหลือบมองนาฬิกาตรงมุมขวาของร้านก่อนจะเอ่ยปากเตือน
"จริงด้วย! ขอบใจนะจ้ะพี่ฝากด้วยหล่ะ"เฟรย่าทำท่าเหมือนนึกได้ก่อนจะล็อกเอ้าท์ออกไป
'อีกสองชั่วโมงเจ้าอ่านรายละเอียดทั้งหมดรึยัง'เสียงของเอเธนท์ดังขึ้นมา
'อ่านเเล้วครับ เเต่ยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อยผมจะอ่านซ้ำอีกครั้งเพื่อความเเน่นอนละกัน'ผมคิด พลางเปิดเอกสารในมือที่ได้รับมาเมื่อไม่นานนี้อีกครั้ง เอาจริงๆผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองจำได้เกือบร้อยเปอร์เซ็น ผมค่อนข้างจะโอเคในเรื่องความจำหล่ะนะ
เเต่ผมเริ่มอยากไปประชุมนี่ไวๆซะเเล้วสิ
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในร้านกาแฟครับ ไม่ใหญ่มากเเต่ก็ไม่เล็กมากมีคนนั่งอยู่ประปรายเเละดูเหมือนมันจะเริ่มแออัดขึ้นเรื่อยๆซะเเล้วสิ อย่างที่บอกไอหูเนี่ยมันช่วยให้ประสาทสัมผัสดีขึ้นก็จริง เเต่บางครั้งมันก็ทำเอาผมปวดประสาทไปบ้างไม่มากก็น้อยเเหละ
เเล้วก็ไม่ใช่เเค่ผมที่รู้สึกไม่ชินกับมันดูเหมือนทุกคนที่เดินผ่านไปมาก็คงยังไม่ชินตาม
แชะ!
นั่นไงครับมันมาเเล้ว ผมหันมาตามเสียงเเต่ก็ไม่พบใคร ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นเหลือบดูเวลาก่อนจะกะประมาณ ถ้าออกเดินทางตอนนี้คงไปถึงก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย
ผมเก็บเอกสารลงกระเป๋าสะพายข้างก่อนจะเดินออกมาจากร้าน แอบเห็นคนเดินตามเเต่ก็ไม่ได้ใส่ใจคงเเค่จะสนใจของเเปลก
เเล้วก็อย่างที่คิดไว้ผมถึงที่หมายก่อนเวลานัดประชุมประมาณห้านาทีได้ มันเป็นภัตตาคารที่ค่อนข้างหรูหราเเละใหญ่มากทีเดียวเหมือนพวกเเนวหน้าเขามาประชุมที่นี้ประจำโดยการขอเช่าร้านชั้นสองไว้ อ่า..เรียกว่าเช่าคงไม่ถูกคงจะเป็น 'ยืม' ซะมากกว่าเหมือนเคยได้ยินมาว่าเจ้าของร้านเป็นรองหัวหน้ากิลด์ดังๆซักกิลด์หนึ่งคงจะอยู่ในเเนวหน้าเนี่ยเเหละผมว่านะ
กริ้ง~
เสียงกระดิ่งหน้าร้านบอกถึงผู้มาใหม่ เหล่าผู้ที่อยู่ก่อนหน้าเหลือบมองด้วยความสนใจเล็กน้อย ผมสบตากับสายตาทุกคู่ที่มองมาเหมือนกำลังประเมินอะไรบางอย่าง
"เห~นี่มันเเม่หนูหูเเมวนิ"เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดความเงียบ ชายผมทองหยักศกที่ถูกรวบไปข้างหลัง ใบหน้ามาเคราบางๆมียกยิ้มมุมปากให้เห็น ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลมองมาที่ผมอย่างนึกสนุก
ฝรั่ง! นี่มันฝรั่งเเท้ๆไม่ใช่ลูกครึ่งเเน่นอนผมฟันธงเลย
ผมคุ้นหน้าของหลายคนอยู่นะ อาจจะเป็นเพราะผมเพิ่งเริ่มเล่นเกมส์นี่ได้อาทิตย์เดียวเลยไม่รู้จักใครถึงเเม้จะไปศึกษาหาความรู้มาบ้าง แต่คงไม่มีใครสามารถจำหน้าคนที่ไม่รู้จักเป็นสิบๆร้อยๆภายในไม่กี่วันได้หรอกครับ
"อ่า..ครับ"ผมเเจกยิ้มบางๆตามมารยาทก่อนจะหาโต๊ะว่างๆที่ค่อนข้างห่างไกลผู้คนนั่ง
ผมคิดว่าเขาน่าจะนั่งรอเวลากันอยู่นะ ว่างๆผมก็นั่งมองบรรยากาศในร้านดู ร้านถูกตกเเต่งไปทางสไตล์ยุโรบเเบบโมเดิลแฝงความหรูหราอยู่บ้าง โต๊ะก็ทำเป็นโต๊ะไม้เเถมจัดร้านให้ดูไม่เเออัดเเต่ละโต๊ะห่างกันมากอยู่ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกค้ามั้งครับ
"ผมขอนั่งด้วยได้ไหม?" เสียงของคนเเปลกหน้าผมเงยหน้าขึ้นมองพอเห็นว่าเป็นไอฝรั่งหน้าหนวดเมื่อกี้เลยพยักหน้าส่งๆเป็นเชิงอนุญาต
"ผมถามตรงๆนะ คุณเป็นทอมใช่รึเปล่า?"ผมเกิดอาการคิ้วกระตุกเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบ
"เเล้วคุณคิดว่าไงหล่ะ'ครับ'" ผมย้ำไปยังพยางสุดท้ายเเบบเน้นของโคตรเน้นถ้ามันไม่เข้าใจก็ควายเเล้วหล่ะ
"อืม...ทอมสินะ"มันว่าเเถมยังหันมายักคิ้วหลิ่วตาใส่
"มองหน้าผมนะครับ มีส่วนไหนที่เหมือนทอมไม่ทราบ"ถึงจะยอมรับว่าหน้าตาตัวเองจะติดหวานเเต่คนตาไม่บอดมองเเล้วมันก็ต้องดูออกป่ะว่านี่เพศอะไร ถึงตาบอดก็เถอะฟังเสียงก็เเยกได้เเล้วถ้าผู้หญิงก็กระเทยควายเเล้ว
"อืมม..ไหนดูสิ.."มันกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ขึ้น มือหนาเลื่อนมาจับคางผมก่อนจะดันไปซ้ายทีขวาที ผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรปล่อยให้มันทำ คิ้วของอีกคนขมวดมุ่นเหมือนคำถามที่ผมให้ไปนั้นมันยากมาก ก่อนที่เขาจะกลับไปนั่งที่ตัวเองดีๆเเล้วตอบ
"ทุกตรง"
ขอบคุณสำหรับคำตอบ..
"อ่า..งั้นช่างมันเถอะครับเอาเป็นว่าผมชายเเท้ มีทุกอย่างเหมือนคุณ"ผมเบื่อที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเขาดูจากเเนวเเล้วคงมีฝีปากที่ไม่ธรรมดาอยู่เเน่
"จริงหร๊อ..มีหลักฐานรึเปล่าเเม่หนูน้อย"
"จะคิดยังไงก็ตามสบายเลยครับ"ผมบอกปัด ตาก็เหลือบดูนาฬิกาเพื่อดูเวลา อยากประชุมเร็วๆจะได้ไปทำอย่างอื่น พูดมากๆมันเมื่อยปากนะครับ
"แหม..เย็นชาจังเลยนะ"
"อีก1นาทีจะเริ่มประชุมขอให้ขึ้นไปรวมกันที่ห้องรับรองชั้นสองกันได้เเล้ว ไอคุณมึงเจ้าของร้านครับ ช่วยหยุดเต๊าะเด็กเเล้วย้ายตัวเองขึ้นไปข้างบนด้วยครับ"เสียงเรียกของชายคนนึงเรียกความสนใจของคนที่นั่งอยู่ได้ไม่น้อยรวมทั้งไอคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมด้วย
"เออๆ กำลังไป"ไอฝรั่งมันตะโกนกลับไปก่อนจะลุกขึ้นยืน
"เเล้วเธอก็รีบขึ้นมาด้วยนะเดี๋ยวไม่ทันเริ่มประชุมเอา"มันว่าก่อนจะเดินนำไปก่อน
เดี๋ยวนะ..
ไอนี่อะนะเจ้าของร้านอาหาร! หน้าไม่ให้อย่างเเรง!
ผมสะบัดหัวเอาความคิดไร้สาระออกไปจากสมอง สูดลมหายใจเข้าลึกๆเเล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องประชุม
ข้างบนต่างจากชั้นล่างเล็กน้อยตรงที่พื้นที่ถูกเเบ่งเป็นห้องๆอย่างชัดเจน คงเป็นพวกวีไอพีอะไรอย่างนี้ละมั้ง ผมเดินเข้าไปตามทีมีห้องขนาบอยู่สองฝั่งก่อนที่จะถึงห้องที่อยู่สุดทางเดินซึ่งได้มีการเปิดประตูอ้าไว้
มันเป็นโต๊ะยาวๆครับนั่งได้ฝั่งละสิบคนกับหัวโต๊ะอีกด้านละหนึ่ง ผมเลือกที่นั่งซึ่งอยู่มุมสุดของปลายโต๊ะ เอาจริงๆมันมีให้เลือกไม่เท่าไหร่หรอกครับเหมือนตอนที่ผมนั่งอยู่ข้างล่างจะมีบางส่วนขึ้นมาอยู่ในนี้ก่อนเเล้ว
"นี่มาครบกันเเล้วใช่ไหม งั้นเริ่มกันเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา"ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างหน้าๆพูดขึ้นมา ผมดูเขาจากไกลๆก็พอมองออกว่าน่าจะเป็นคนจริงจังไม่ใช่น้อย เขาดันเเว่นทรงสี่เหลี่ยมของตนเองขึ้นพลางกวาดตามองหน้าของคนรอบโต๊ะ
ก่อนจะมาหยุดที่ผม เเล้วละสายตาไป
"ฉันเห็นด้วยกับคุณเฟยนะคะ เพียงเเต่ว่าคนสำคัญของวันนี้ยังไม่มาเลย"ป้าผมลอนสีเเดงไวน์นั่งไขว่ห้าง ตาเรียวที่ถูกเเต่งเเต้มด้วยเครื่องสำอางปราดมองไปยังที่นั่งตรงหัวโต๊ะ
พวกนี้เป็นมืออาชีพ..
ทั้งการพูด ท่าทาง กริยามารยาท จริตต่างๆถึงจะดูสุภาพนอบน้อมต่อกัน ถ้าคนที่เคยเจรจาธุรกิจอะไรเเนวๆนี้คงดูออก
นี่มันสงครามประสาทชัดๆ
"นั่นสิรอเขาสักหน่อยดีไหม? เขาอาจจะติดธุระสำคัญก็ได้"ไอฝรั่งหน้าหนวด(ซึ่งผมก็ยังคงไม่รู้จักชื่อใครเลย) มันพูดด้วยน้ำเสียงไม่ซีเรียส
"คุณเกรย์ครับ ผมเกรงว่าถ้ารอมากกว่านี้จะไม่ได้ คนเราควรมีความตรงต่อเวลานะครับ"คนที่ถูกเรียกว่าเฟยว่า มือทั้งสองข้างที่ถูกวางประสานไว้ที่หน้าตัก
นี่มันเหมือนสังคมพวกผู้ดีชัดๆ ดูเเต่ละคนเเต่งหน้าเเต่งตัวอย่างจะไปงานเลี้ยง ทุกอย่างอยู่ในสายตาผม ทุกอริยาบถทุกถ้อยคำ ไม่รู้ว่าผมกลายเป็นคนช่างสังเกตุตั้งเเต่เมื่อไหร่เเต่ผมชอบทำมานานเเล้วครับ ไอการวิเคราะห์คนเนี่ย
"คนที่มีหูประหลาดตรงนั้น มีปัญหาอะไรกับหน้าผมรึเปล่า"ไอคนระเบียบจัดปรายตามาเเถวๆนี้
ผมหรอ?
"ถามเเล้วไม่ตอบ ไม่ทราบว่าเป็นตัวเเทนจากไหนครับเนี่ยทำไมมารยาทถึงเเย่เเบบนี้"คิ้วผมกระตุก ผมระงับอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ก่อนจะหันไปฉีกยิ้มกว้างเเบบนางงามยังอายไปให้ก่อนจะเริ่มพูด
"ผมต้องขอโทษด้วยสำหรับกริยามารยาทที่คุณเห็นมันว่า'แย่' ส่วนที่ผมไม่ตอบเพราะคุณไม่ระบุให้เเน่ชัดนะครับ เเล้วทีหลังคนมารยาท'ดี'แบบคุณช่วยเรียกใครให้เกียรติเขาด้วยนะครับ"
"ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะครับ"เขายิ้มกลับมา ตาตี่ๆของเขาจ้องมองมาที่ผมเเบบมีความหมายเเฝง ถือว่ายังดีที่เขาเป็นมืออาชีพพอที่จะเก็บอารมณ์ตัวเองไว้
"อ่า...ผมต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับที่มาช้าพอดีเกิดเหตุการณ์อะไรนิดหน่อยระหว่างทางมา ต้องขอโทษด้วยนะครับ"ผมหันไปทางเสียงที่อยู่เหนือหัวผมเยื้องๆไปด้านหลัง เสียงทุ้ทนุ่มน่าฟังเอ่ยออกมาอยากกระสับกระส่ายเหมือนรู้สึกผิดเต็มที่ ผมไม่ได้หันหลังไปมองเเต่เหลือตามองเล็กน้อย
"คุณนี่ตลอดเลยนะคะ..ประชุมใหญ่ทีไรมีเหตุด่วนทุกที"ผู้หญิงผมสีน้ำเงินเข้มที่ถูกรวบตึงเป็นหางม้าไว้ข้างหลัง ชุดรัดรูบสีดำมีอาวุธเหน็บไว้บ้าง เจ้าหล่อนทักหลังจากที่เงียบมาตลอด
"แหม..โทษทีๆ มาๆเริ่มกันดีกว่า"เขาย้ายตัวเองจากทางเข้าเดินไปยังหัวโต๊ะซึ่งมีไว้สำหรับกิลด์ที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นกองกำลังหลักในสงครามครั้งนี้
ร่างสูงเดินผ่านด้านหลังผมไปผมมองตามเห็นเเค่ด้านหลังของเขา
แผ่นหลังกว้างที่ผมคุ้นอย่างหน้าประหลาด
"ครับ..งั้นเรามาเริ่มกันดีกว่า"ร่างหนาประจำที่ตนเองก่อนจะกวาดตามองโฉมหน้าผู้ร่วมประชุมทั้งหมด เเล้วมาสบตากับผม..
นี่มัน..!!
80% loading..
อาเรส..!?
เขาเหมือนจะตกใจเหมือนกันที่เห็นผมที่นี่ เขายิ้มมาให้ซึ่งผมก็ยิ้มตอบ
"ไม่เจอกันนานเลยนะดาร์ก"อาเรสทัก ดวงตาสีน้ำตาลอัลมอนต์คู่นั้นมองมายังผมอย่างเจาะจง เรียกความสนใจจากคนที่เหลือได้อย่างดี ผมอ้าปากเตรียมตอบก็มีคนขัดขึ้นซะก่อน
"รู้จักเด็กนั่นด้วยหรอคะอาเรส"ผู้หญิงที่ทักอาเรสในตอนเเรกพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย
"อ่อครับ พอดีผมชอบเลยกะว่าจะจีบหน่ะครับ"
ห้ะ?
ทั้งห้องเงียบกริบไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาเกือบนาทีก่อนจะมีคนขัดขึ้น
"อู้ว..คุณยังเป็นคนตรงไปตรงมาเหมือนเดิมนะ ฮ่าๆ"ไอฝรั่งนั่นพูดติดตลก ผมนั่งหน้าเอ๋อพยายามคิดว่าไอที่ได้ยินเป็นเพียงเพราะหูฝาดหูเฝื่อนไปเองเเต่พอดูสีหน้าของคนอื่นๆที่มีท่าทางก็อึ้งปนตกใจเหมือนผม
"ไอเด็กนี่อ่ะนะ!!"ยัยเจ๊ผมหางม้ายืนขึ้นวีนเสียงเเหลม หล่อนชี้นิ้วมาทางผม ผมนิ่วหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจในกริยาเเบบนั้นเเต่ก็ไม่ได้เเสดงอะไรออกไป ในใจยังคงสับสนกับประโยคที่ได้ยินมาเมื่อครู่
"ผมว่าผมไม่ได้จะมาดูละครหลังข่าวทำนองนี้หรอกนะคุณอาเรส"เฟยที่นั่งเงียบมานาน เขาเหลือบไปมองคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
"โทษทีๆ มาๆเรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า.."
"เฮ้อ..!"ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจเพื่อไล่ความเมื่อยล้าจากการนั่งอยู่เฉยๆมานานติดกันนับสามชั่วโมง
"ไม่เจอกันนานเลยนะ น่ารักขึ้นนะเรา"อาเรสเดินเข้ามาทักเขายิ้มเหมือนเอ็นดู
"เอ่อคือ...เรื่องคุณพูดก่อนหน้านี้.."ผมเกาเเก้มเหมือนไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี เขาหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะเอามือมายีหัวผมเล่น
เคลิ้มเหมือนกันเเหะ
"คิดมากหน่า ไม่ได้ตั้งใจพูดซักหน่อย"ผมได้ยินอย่างนั้นก็โล่งอกขึ้นมาหน่อย ถึงเขาจะรุ่นเดียวกับผมก็เถอะเเต่ด้วยนิสัยที่ดูผู้ใหญ่เเละดูเอ็นดูผมมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีพี่ชายที่เหมือนพี่ชายจริงๆ(พี่ฮันนี่อย่าเรียกว่าพี่ชายเลยครับ)
"ไม่ได้ตั้งใจ เเต่ไม่ได้แปลว่าไม่จริงนะ"เขาพูดเสียงเบา
"ห้ะ?"
"นี่อะไรเนี่ย?"เขาเปลี่ยนจากที่ยีหัวผมเล่นมาจับหมับเข้าที่หูที่ไม่น่าจะมีบนหัวของคนได้ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกจั๊กจี้เเปลกๆ
"อย่าจับเล่นสิครับ"ผมหยุดมือของเขาที่เริ่มซนไปทั่ว เขาก็ยอมปล่อยจากง่ายๆก่อนจะอมยิ้ม
"ยิ้มอะไรครับ?"ผมเหลือบมองอย่างไม่เข้าใจ ยิ้มได้ทั้งวี่ทั้งวันไม่เมื่อยบ้างรึไง ปกติผมยิ้มเเค่ตามมารยาทเเค่นั้นเเหละ
"ก็...น่ารักดี"
100% loading succeed!
-----
20เปอร์หลังมันไม่เต็มนะ เเหะๆ คงรู้สึกว่า เห้ย! ทำไมมันสั้นงี้
ฉะนั้น.. พรุ่งนี้ดึกๆจะมาอัพตอนต่อไปให้เลยนะ จุ้บๆ
👉รอเม้นอยู่นะ //เริ่มโลภ วะฮ่าฮ่า 👈
ปล.ช่วงนี้เม้นมันอืดตามนิยาย555
แก้ไขคำผิด: 19/3/58
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น