ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    secret world online (S.W.O) {yaoi}

    ลำดับตอนที่ #47 : Chapter41 : The consequence of curse [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 861
      8
      13 ก.ค. 58



    Chapter41

    The consequence of curse

    ผลที่ตามมาของคำสาป

     


    "ยูกิ..!!"ผมเรียกชื่ออีกฝ่ายพร้อมทั้งปรี่ตัวเข้าไปหา สภาพของเขาตอนนี้ไม่ต่างจากศพเท่าไหร่นัก ผิวขาวที่ว่าขาวเเล้วตอนนี้กลับซีดลงจนเหมือนกระดาษ ผิวหนังเเห้งจนเห็นเป็นกระดูกชัดเจน

     

     

     

    "ยูกิ?"อาเรสทวนชื่อเบาๆ เเต่ผมก็ไม่ได้สนใจมากนักใช้มือสั่นๆของตัวเองปัดผมที่ปรกดวงตาข้างขวาออกเผยให้เห็นมวลพลังงานสีดำ ที่อยู่ในตากลวงโบ๋นั่น

     

     

     

    "อุ้บ!"ผมรีบชักมือออก ใช้มือปิดปากเอาไว้ก่อนที่จะได้ขย้อนของเก่าออกมาซะก่อน มันเป็นภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่นักเลยได้เเต่หลับตานิ่งๆ

     

     

    ผมสงสารเขา

     

     

    ถึงเเม้จะรู้จักกันได้ไม่กี่วันเเต่สิ่งมี่เขาเผชิญมันหนักหนาสาหัสกว่าผมมาก ผมรู้ว่าคนที่ทำให้ผมตายคือเขา เเต่ผมไม่โกรธเขาเลยเพราะเขาก็เเค่อยากเอามันไปเติมเต็มสิ่งที่เขาใฝ่หามาโดยตลอด

     

     

     

    "เขาจะไม่เป็นไร"ร่างสูงข้างกายพูดด้วยเสียงอ่อนโยน อาเรสดึงผมให้หันออกจากภาพเบื้องหน้าเเล้วลูบหัวผมเบาๆเหมือนผมเป็นเด็กน้อยๆ เเต่เขาคงไม่รู้ว่าเขานั่นเเหละที่เป็นเด็ก ทั้งที่ใบหน้ายิ้มเเต่คิ้วเข้มกับขมวดลงอย่างที่เจ้าตัวคงไม่รู้

     

     

    "เรสไปเจอเขาได้ยังไงกันครับ?"

     

     

    "หลังจากที่นายหายตัวไปไม่กี่วัน ผมเห็นเขาเดินไปเดินมาพูดเเต่ขอโทษๆ เห็นสภาพไม่ดีเลยเข้าไปถามตอนนั้นเขาก็สลบไปเลย พอตื่นขึ้นมาก็ถามหาเเต่ดาร์ก เป็นเเบบนี้อยู่หลายวันผมให้เพื่อนที่เป็นหมอมาดูเเล้วเเต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย"ผมพยักหน้าตามช้าๆ เเต่ก็คงยังไม่หายเคลือบแคลงใจ มันจะบังเอิญไปไหมถ้าเขากลายเป็นเเบบนี้หลังจากที่ผมตาย ผมก็ไม่รู้ว่าตอนที่เขาจูบผมเขาตั้งใจจะทำอะไรกันเเน่

     

     

     

    "ผม..ผมควรจะทำยังไงดี?"

     

     

     

    "ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรอกนะ ก่อนหน้านั้นพวกนายได้ไปทำอะไรกันรึเปล่า?"ผมพยักหน้าลงเเทนคำตอบก่อนจะเริ่มเล่า

     

     

    "เขาจูบผม เเต่ไม่ใช่จูบเเบบเชิงชู้สาวไรงี้นะครับ เหมือนเขามาหาอะไรซักอย่างเเล้วก็ดึงออกไป ผมก็จำไม่ค่อยได้รู้สึกตัวอีกทีผมก็โผล่ไปในนรกซะเเล้ว"

     

     

     

    "นรก..!?"เขาพูดด้วยเสียงไม่น่าเชื่อ

     

     

     

    "ก็นะ..ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น"ร่างสูงเจ้าของผมสีหน้าตาลไหม้ทิ้งตัวนั่งลงบนโต๊ะทรงยาว คิ้วเข้มกดลงอย่างใช้ความคิด ผมก็ไม่ขัดเงียบตามจรกลายเป็นต่างคนต่างจมลงไปในความคิดของตัวเองเสียเเล้ว

     

     

     

    "ก่อนหน้านี้นายขึ้นมาจากนรกยังไง?"อาเรสเป็นคนขัดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

     

     

     

    "ผมเจอกับไนท์โดยบังเอิญ รู้ตัวอีกทีก็โผล่มาในบ้านเขาซะเเล้ว"

     

     

     

    "งั้นคนที่พอจะช่วยได้ก็คงเป็นเขา"ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย อาเรสกดหน้าต่างขึ้นมาซึ่งให้เดาคงติดต่อไปหาไนท์ ผมนั่งมองอย่างเงียบๆ เดินมาหาคนที่นอนซมอีกครั้งเเล้วก็ทำในสิ่งที่คิดว่าน่าจะช่วยอะไรได้บ้างแต่ยังไม่ทันจะได้ขยับตัวไปไหนก็มีเสียงในหัวดังขึ้นซะก่อน

     

    'ผู้เล่นออนไลน์ครบเวลาที่กำหนดเเล้ว ระบบจะทำการล็อกเอาท์อัตโนมัติค่ะ'

     

     

     

     

     

     

     

    การกลับมาในโลกจริงครั้งนี้รู้สึกเหมือนการเดินทางที่ผ่านมามันจะยาวนานที่สุดเลยตั้งเเต่เล่นมา ผมลุกขึ้นลงจากเตียงบิดขี้เกียจเล็กน้อย มองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้อยู่ในช่วงเวลาสายๆ ซึ่งหมายความว่าตอนนี้ผมได้พลาดมือเช้าไปเรียบร้อยเเล้วจึงไม่เเปลกใจเลยว่าอาการปวดท้องที่เเล่นจี๊ดขึ้นมาเกิดจากอะไร

     

     

     

    "อรุณสวัสดิ์ค่ะนายท่าน รับอะไรเพิ่มเติมไหมคะ?"ทันทีที่เดินออกมาเอไอประจำห้องก็เริ่มทักทายทันที

     

     

     

    "ไม่ครับ"

     

     

     

    "รับทราบค่ะ"

     

     

    เมื่อเสียงเงียบหายไปเเน่นอนว่าผมตรงปรี่ไปเปิดตู้เย็นก็พบว่ามัน

     

     

    ว่างเปล่า..

     

     

    ไม่เคยคิดว่าจะมีวันไหนซวยเท่าวันนี้ ผมไม่เคยคำนวณพลาดว่าของจะหมดเมื่อไหร่ ส่วนเอไอมันสะดวกก็จริงเเต่การสั่งซื้อของสดมันต้องรอเป็นวัน ปกติ เพราะฉะนั้นทุกอาทิตย์ผมจะไม่ลืมที่จะสั่งไอริสให้ซื้อตุนไว้เเต่เป็นเพราะช่วงนี้ผมหมกมุ่นอยู่กับเกมมากเกินจนทำให้หลงๆลืมๆกับอะไรหลายๆอย่าง

     

     

     

    ช่วยไม่ได้สินะ..

     

     

     

    ผมหยิบหมวกเเก็บสีตุ่นหนึ่งใบมาใส่ทับหัวฟูๆที่เกิดจากการเพิ่งลุกออกจากที่นอน เสื้อพงเสื้อผ้าก็ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ตอนนี้เรื่องกินสำคัญที่สุดครับ ไส้จะขาดอยู่เเล้ว

     

     

     

     

    พลั่ก!

     

     

     

    เเละความซวยยังไม่หมดเท่านั้น ด้วยความไม่ดูตาม้าตาเรือของตัวเองพอก้าวพ้นประตูคอนโดก็ชนเข้าเต็มๆกับใครซักคน ด้วยที่ว่าผมตัวเล็กกว่าเลยเหมือนเสียสมดุลเซเหมือนจะหงายหลัง

     

     

     

    "ขอบคุณครับ"ผมกล่าวขอบคุณที่เขาช่วยฉุดผมไว้ก่อนจะได้เอาหัวโขกพื้นเล่นจริงๆ

     

     

     

    "เดินระวังๆด้วย"เขาพูดเพียงเเค่นั้นเเล้วก็เดินผ่านไปเพื่อเข้าคอนโด ผมมองตามก็อดสงสัยไม่ได้

     

     

     

    ผมจำไม่ได้ว่ามีคนเเบบนี้อยู่ในคอนโดด้วย

     

     

     

     

    ผมโคลงหัวเบาๆไล่ความสงสัยเเปลกๆในหัวออกไป ถึงผมจะความจำดีเเต่ก็ใช่ว่าผมจะจำคนได้ทุกคนนี่เนอะ ยิ่งไม่ค่อยได้ออกมาข้างนอกอีก

     

     

     

                    หมับ

     

     

    "พี่ซิล?"ผมมองไปตามแขนที่จับไหล่ผมอยู่  ก็พบกับคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา  ร่างสูงอยู่ในชุดสูทดูภูมิฐาน มีหวกแก็บสีเข้มและหน้ากากอนามัยที่ดูไม่ค่อยเข้าเซ็ทซักเท่าไหร่ถึงจะมองเห็นหน้าไม่ชัดเจนแต่ผมก็มั่นใจได้เกินครึ่งเลยว่าเป็นพี่ซิลเวอร์แน่นอน

     

     

     

    "พี่ขอเวลาซักเเปปได้ไหม"ซิลเวอร์พูดด้วยเสียงตึงเครียด ผมพยักหน้าเเทนคำตอบ ถ้าพี่เขาถ่อมาหาผมถึงที่นี่ต้องมีเหตุด่วนเหตุร้ายอะไรซักอย่างเเน่นอน

     

     

    ซึ่งมันคงไม่พ้นเรื่องของพี่ฮัน พี่ชายของผม

     

     

     

    ปึก!

     

     

                   

    พี่ซิลดันผมให้เข้ามาในรถคันหรูที่ถูกจอดอยู่ไม่ไกล ก่อนที่พี่ซิลจะอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ

     

     

     

    "เฮ้อ..!"ทันทีที่ประตูรถปิดสนิทก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมหันมองเสี้ยวหน้าของพี่เขา ที่ไร้หน้ากากอนามัยและหมวก เผยให้เห็นผิวสีแทนตัดกัยผมสีเงินเงาธรรมชาติ

     

     

     

    "เอ่อ..มีอะไรกับผมรึเปล่าครับ?"ถึงจะเป็นคนสนิทของพี่ชายเเต่บอกเลยว่าผมค่อนข้างจะเกร็งๆกับเขา  พี่ซิลหันมามองด้วยใบหน้านิ่งๆผมสีเงินที่ปกติจะเรียบกริบอย่างคนระเบียบจัดกลับดูยุ่งเหยิงกว่าปกติ

     

     

     

    "พี่ขอโทษที่มารบกวนด้วยนะ เเต่ก่อนหน้านี้ดาร์กได้เจอไอเด็ก..เอ่อ..ฮันเตอร์บ้างรึเปล่า"ถึงเเม้ใบหน้าจะยังคงความนิ่งไปได้เเต่น้ำเสียงนี่บอกว่าเหนื่อยเต็มที ผมได้เเต่ยิ้มเเห้งๆ สงสัยว่าพี่ฮันจะสร้างวีรกรรมอะไรมาเเน่ๆ

     

     

     

    "ผมเจอในเกมน่ะครับ"

     

     

     

    "ในเกม? กะเเล้วเชียว.."พี่เขาพูดเบาๆเหมือนรำพึงรำพันกับตัวเอง

     

     

     

    "เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ?"ผมถามอย่างสงสัย

     

     

     

    "ที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"ผมพยักหน้ารับ เพราะคำพูดเหมือนจะบอกผมกลายๆว่าไม่ให้ยุ่ง

     

     

     

    "พี่จะมาถามเเค่นี้หรอครับ?"ผมถามขึ้นอย่างสงสัย งานพี่เขาก็ล้นมือมากพออยู่เเล้ว ถ้าจะถามเเค่นี้ใช้โทรมาก็ได้ไม่จำเป็นต้องมาหาผมที่อยู่คนละมุมเมืองขนาดนี้

     

     

     

    "พกอันนี้ติดตัวไว้ เเล้วช่วงนี้ระวังตัวด้วยล่ะ"ผมยื่นมือไปรับอย่างงงๆ มันเป็นสร้อยคอสีเงินมีเเผ่นชิบเล็กๆไว้เเทนจี้ ส่วนเรื่องระวังตัว..

     

     

     

    "ช่วงนี้มีอะไรรึเปล่าครับ ทำไมต้องเอาจีพีเอสมาให้ผมด้วย"ถึงจะถามอย่างนั้นเเต่ผมก็หยิบมันมาคล้องคอไว้อยู่ดี ถ้าพี่ซิลพูดมาถึงขนาดนี้เเล้วจะต่อต้านไปเพื่ออะไร

     

     

     

    "เพื่อความปลอดภัย จริงๆเเล้วฮันบอกพี่ว่าเอามาให้นายหลายครั้งเเล้วเเต่นายไม่รับ พี่ไม่คิดว่านายจะยอมง่ายๆเหมือนกัน"จะว่าไปก็จริง เหมือนว่าพี่ฮันเอามาให้ผมหลายรอบเเต่ผมก็ยืนกรานว่าดูเเลตัวเองได้ เหอๆ ตอนนั้นคงคิดว่าพี่ฮันคิดว่าผมเป็นเด็กมั้งเลยทำตัวต่อต้านไปงั้น

     

     

     

    "เกมน่ะ อย่าไปจริงจังมากนะ"แล้วซิลเวอร์ก็ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะขับรถออกไป แม้จะเป็นประโยคสั้นๆที่ไม่น่ามีอะไรแต่ผมรู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร...

     

     

     

    75% loading. . .


     

    "เเล้วมันมีวิธีรักษาบ้างรึเปล่าครับ"ผมหันไปถามคนข้างกายที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด บรรยากาศรอบๆเต็มไปด้วยความตรึงเครียดเสียจนผมเริ่มหวั่นใจ

     

     

    ผมออนไลน์มาอีกครั้งเมื่อจัดการตัวเองเสร็จ พอเข้ามาก็รีบตรงดิ่งมายังร้านอาหารที่เป็นจุดสุดท้ายก่อนที่ผมจะออฟไลน์ไป พอถึงก็พบไนท์กำลังคุยอะไรบางอย่างกับอาเรสอยู่ ที่น่าเเปลกใจคือไนท์ไม่ได้มาเพียงคนเดียวเเต่ดันพาสเวนมาด้วย

     

     

     

    "จริงๆฉันยินดีช่วยนะ เเต่นายจะโอเคกับวิธีการไหมดาร์ก"ไนท์ว่าหน้าเครียด

     

     

    "ผมว่าอย่าเลย"อาเรสรีบค้าน

     

     

    "ถ้ามันช่วยยูได้จะวิธีไหนผมก็ยินดีครับ เเต่ช่วยอธิบายก่อนได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่"

     

    "คืองี้ ไอนี่มันขโมยวิญญาณของนายไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งครึ่วนึงนั่นเป็นส่วนพลังของซาตานที่มีอยู่ในร่างกายนาย เเล้วร่างกายเขาคงรับไม่ไหวเลยโดนพลังมันกัดกินเอา"ดวงตาคมมรกตปรายตามองร่างบนเตียงจำเป็นนิ่ง ออกเเนวไม่พอใจเสียมากกว่า ผมยิ้มเเห้งๆเเต่ก็พยักหน้าเข้าใจ

     

     

    "รู้อย่างนี้จะช่วยมันอีกหรอ มันทำให้นายต้องตกอยู่ในสภาพเเบบนั้น"ไนท์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เพราะถ้าเป็นเขาคงฆ่าทิ้งตั้งเเต่มันคิดจะทำอะไรเเบบนี้เเล้ว

     

     

    "เขาก็เเค่โหยหาในสิ่งที่เขาต้องการน่ะครับ ผมไม่โกรธหรอกเพราะมันไม่ผิดเลยซักนิด"ผมยิ้มบางๆก่อนจะพูดต่อ

     

     

    "เเล้วผมต้องทำยังไงบ้างครับ?"

     

     

     

    "จูบฉัน"ผมเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยถึงจะน่าตกใจเเต่ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายเเต่อีกฝ่ายนี่สิ..ทั้งๆที่เป็นคนพูดออกมาเองเเท้ๆ

     

     

    ไนท์เบือนหน้าหนีผิวขาวเกรียมเเดดขึ้นสีเล็กน้อย พอเห็นผู้ชายห่ามๆร่างควายเเบบคนตรงหน้าทำท่าทางเเบบนั้นมันออกจะดูตลกแปลกๆ เเต่ผมกลับมองว่ามันน่ารักดีซะนี่

     

     

    "งั้นก็เอาเลยสิครับ"ผมว่าง่าย ไนท์หันขวับมองผมอย่างไม่เชื่อ เขาคงไม่คิดว่าผมจะยอมง่ายขนาดนี้ล่ะมั้ง

     

     

    "งั้นผมออกไปรอข้างนอกก็เเล้วกัน"บุคคลที่เริ่มเหมือนเป็นส่วนเกินไปทุกทีอย่างอาเรสรีบบอกทั้งคู่เเบบยิ้มๆโดยไม่ลืมที่จะลากร่างสูงของสเวนให้ตามออกไปด้วย ทิ้งให้คนทั้งสองอยู่ด้วยกันสองต่อสอง

     

     

    "ฉ..ฉันจะเริ่มเเล้วนะ"

     

     

    "ครับ"ผมหลับตาลง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเผยอปากออกหน่อยเผื่อเขาจะทำอะไรได้สะดวกขึ้น ไนท์โน้มหน้าลงมาด้วยใจที่เต้นระรัวด้วยความประหม่า ปากสีพีชซีดที่ลอยยู่ตรงหน้าเหมือนเชิญชวนให้เขาไปลิ้มลอง

     

     

    พรึ่บ

     

    ไนท์ใช้เเขนท้ามลงบนโต๊ะข้างหลังผม เเล้วโน้มหน้าลงมาเรื่อยๆ ผมได้เเต่หลับตาปี๋ด้วยความประหม่าเมื่อสัมผัสได้ถึงบมหายใจอุ่นที่เป่ารดหน้านวล เเต่ในจังหวะที่ริมฝีปากทั้งสองจะประกบกัน เเขนที่ถูกใช้ท้าวโต๊ะไว้ก็สัมผัสโดนสีข้างของผมเบาๆ

     

     

    "อึ่ก!" ไนท์สะดุ้งตัวโยง จนผมเผลอเบิกตาโผลงอย่างตกใจ ร่างสูงถอยหลังไปสองสามก้าวจนเสียหลักล้มลงบนพื้น ดวงตาสีมรกตฉายเเววตระหนกอย่างที่ไม่เคยเห็น

     

     

     

    "เป็นอะไรไหมครับ!?"ผมรีบเดินเขาไปหวังจะช่วยประคองเขาขึ้น

     

     

    เพี้ยะ!

     

     

    "ทะ..โทษที...เเต่ช่วยเรียกสเวนให้ทีได้ไหม?"ผมค่อนข้างตกใจที่ไนท์ปัดมือผมออกอย่างไม่ไยดี เหมือนเขาทำไปด้วยความตกใจพอเริ่มตั้งสติได้เขาจึงใช้มือข้างนึงปิดหน้าตัวเองไว้เเล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา

     

     

    "ได้ครับ"ผมตอบรับ ไม่ได้นึกโกรธเขาเพียงเเค่สงสัยเเละนึกห่วง

     

     

     

     

     

     

    "เป็นอะไรไปครับ?มันไม่ราบลื่นหรอครับ?"ทันทีที่ผมเดินออกมาจากห้องก็พบอาเรสยืนอยู่ไม่ไกล ผมพยักหน้าให้เป็นคำตอบเเล้วหันไปมองร่างสูงใหญ่ที่นั่งหน้านิ่งอยู่ไม่ไกล

     

     

    "ไนท์บอกให้นายเข้าไปน่ะครับ"ผมบอกเเล้วยิ้มบางๆให้เขา สเวนยิ้มกลับเล็กน้อยพยักหน้ารับรู้เเล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องไป

     

     

    "เอ้ะ..?"

     

     

    "มีอะไรรึเปล่าครับ?"อาเรสถามเมื่ออยู่ๆผมก็หลุดอุทานออกมาเบาๆ ผมเลยหันไปยิ้มเเหะๆให้กับเขา

     

    "อะ..อ่อ..ไม่มีอะไรหรอกครับ"

     

     

     

    เมื่อกี้สเวนยิ้มงั้นหรอ..

     

     

     

     

     

     

    Nightmare's part

     

     

     

    "เป็นอะไรไป"เสียงต่ำนิ่งดังขึ้นเหนือหูพร้อมมือที่ถูกยื่นออกมา ผมรีบคว้าหมับทันทีเพราะต้องการยืนยันอะไรบางอย่าง

     

     

    ไม่เกิดอะไรขึ้น?

     

     

     

    "เมื่อกี้ฉันรู้สึกแปลกๆตอนสัมผัสโดนดาร์ก"ผมว่าเสียงเครียด เมื่อกี้เพียงเเค่โดนเบาๆเเต่จู่ๆก็รู้สึกเหมือนเลือดสูบฉีด หัวใจเต้นรัวๆพร้อมกับอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นอย่างรวดเร็ว

     

     

    "หรือว่า.."

     

     

    "หรือว่าอะไร!"ผมขึ้นเสียงเล็กน้อยหันไปจับไหล่อีกฝ่ายอย่างคาดคั้น นี่มันไม่ตลกเลยนะ การเจอดาร์กในเกมนี่มันเป็นปฏิหารย์สำหรับผมเลยก็ว่าได้ เพราะในชีวิตจริงผมอาจจะไม่มีวันได้เจอเขาอีก ตอนนี้ใจผมมันว้าวุ่นเเถมยังกังวลไปมากมายว่าผมอาจยะสัมผัสโดนตัวดาร์กไม่ได้อีก

     

     

    "คำสาป..คำสาปของพลังที่นายรับจากฉันไป.."สเวนว่าด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ความรู้สึกผิดมันตื้นขึ้นมาอยู่เต็มอก

     

     

    "คืนมันมาให้ฉันเถอะ"

     

     

    "ไม่ๆ..ฉันเป็นคนตัดสินใจรับมันมาเอง.."ตอนนี้ผมกำลังทะเลาะกับตัวเอง ใจจริงผมอยากจะโทษพลังบ้าบอนี้เเล้วรีบๆยกมันคืนให้คนข้างตัว เเต่จิตใต้สำนึกมันบอกผมว่าทำอย่างนั้นมันไม่ถูกต้องผมรับมันมาด้วยความเต็มใจ

     

     

    "คำสาปนี้จะมีผลต่อไปเรื่อยๆจนกว่านายจะหาคนมารับมันไปได้"

     

     

    "เเล้วคำสาปนี้มันคืออะไรกันเเน่ ฉันจับคนอื่นก็ไม่ยักกะเป็น"ผมเปรยขึ้นมาจริงๆเเล้วก็มีคำตอบในใจอยู่เเล้วเเต่ก็ถามเผื่อมันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

     

     

    "บาปของฉันคือราคะ..นายเองก็รู้เเก่ใจ"ผมหลับตาลงเหมือนต้องการข่มอารมณ์ของตัวเอง เมื่อมันไม่เป็นตาที่หวังไว้เเล้วก็ได้ถอนหายใจอย่ายอมรับชะตากรรม

     

     

    เเล้วต่อจากนี้จะเอายังไงกับร่างบนเตียงนี่ดี

     

     

    เเละที่สำคัญที่สุดผมจะไปบอกดาร์กได้ยังไงว่าผมสัมผัสตัวเขาไม่ได้เนื่องจากว่าพอสัมผัสเเล้วดันเกิดอารมณ์ขึ้นมาซะได้นี่สิ

     

     

     

    เเล้วมันก็ดันเป็นเฉพาะกับคนที่ผมรักเสียด้วย..

     

     

     

     

    End Nightmare's part



    -----------------------------------

    ในที่สุดก็ครบค่า หายไปสี่วันถ้วน 

    ไรท์สู้ต่อไปไม่ถอยอยู่เเล้ว ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ;A;

    ก็จะหายไปประมาณ3-5วันนี่เเหละค่ะถ้าเกินกว่านั้นไรท์จะมาเเจ้งก่อนตลอดเนอะ

    สามารถติชมได้น๊า มีคำผิดก็สะกิดเเรงๆซักทีสองที หายไปนานก็สะกิดเเรงๆ5555

    เจอกันต่อในตอนหน้าค่าาาา 

    {คาดว่าจะถึงครึ่งเรื่องตอนประมาณchapter50 ค่ะ หรือประมาณอีกเกือบ10ตอน}


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×