ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [{Fic iKon} BOBBY x YOU (ft.iKON)] MY LOVE MY SLAVE

    ลำดับตอนที่ #26 : ตอนที่ 23 : คนในความทรงจำ (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.25K
      12
      31 ธ.ค. 59

    My Love My Slave




    ตอนที่ 23 : คนในความทรงจำ



          เมื่อตะวันที่เคยสาดแสงค่อยๆลับขอบฟ้า เป็นเวลาเดียวกับที่ทายาทธุรกิจใหญ่ของเกาหลีใต้เดินทางกลับบ้าน สองมือซ้ายขวากำพวงมาลัยรถยนต์คันหรูพลางเคาะนิ้วอย่างอารมณ์ดี ชั่วโมงเร่งด่วนยามเย็นทำให้เขากลับบ้านล่าช้ากว่าที่หวังไว้มาก แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขากังวลหรือร้อนรนแต่อย่างไร ขายาวค่อยๆก้าวขึ้นบันไดหินอ่อนไปยังชั้นสองของบ้าน มือซ้ายและขวาช่วยกันปลดเนคไทที่ใส่มาทั้งวันก่อนจะปลดกระดุมคอออกหนึ่งเม็ดทำให้เขาหายในได้สบายขึ้น ในที่สุดเท้าทั้งสองจึงหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอนบานของตนเอง ไม่รอช้าให้เสียเวลาเขาล้วงหยิบกุญแจห้องออกจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะใช้มันปลดล็อกห้องนอนของตัวเองเข้าไป



          หญิงสาวหนึ่งเดียวในห้องนอนใหญ่รู้ถึงการมาของเจ้าของห้องผู้ซึ่งกักขังและล่ามโซ่เธอเอาไว้ เธอนั่งอยู่บนเตียงใหญ่และหันหลังให้ประตู มือขาวที่ถือตุ๊กตาหมีพูห์ที่เก่าจวนขาดบีบจิกตุ๊กตาแน่ด้วยโทสะที่มีต่อเจ้าของตุ๊กตาตัวนี้



          อาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันที่ถูกยกมาให้หญิงสาวที่ถูกคุมขังราวกับนักโทษไม่ได้ลดลงจากเดิม แถมยาลดไข้ยังอยู่ครบทุกเม็ด น้ำเปล่าในแก้วไม่ได้พร่องลงแม้แต่น้อย คิดจะอดข้าวประท้วงเหรอ ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก คิดว่าเขาจะยอมรึไง ถ้าไม่ยอมกินเขาก็จะเป็นคนป้อนให้เอง และถ้ายังดื้อรั้นไม่ยอมกินอีกเขาจะเป็นฝ่ายกินเธอแทนมื้อเย็น



          ชายหนุ่มเจ้าของห้องเดินไปยังเตียงหนานุ่มที่มีคนดื้อรั้นนั่งตัวตรงไม่ยอมขยับไปไหนตั้งแต่เขามาถึงก่อนจะเอ่ยถาม



          ทำไมไม่กินข้าว" คำถามที่ดูเหมือนห่วงใยแต่ทว่าไร้ซึ่งเสียงตอบกลับใดๆ



          ฉันถามว่าทำไมไม่กินข้าว" คราวนี้ไม่พูดเพียงอย่างเดียว มือหนากระชากแขนอีกคนให้ลุกยืนตอบคำถามเขา



          จองดาจองยังคงไม่ตอบคำถาม หญิงสาวมองหน้าของอีกฝ่ายแต่ไม่ใช่ด้วยความเกลียดชัง เธอกำลังพิจารณาใบหน้าของเขาด้วยความสงสัย ความสงสัยที่ก่อตัวขึ้นหลังจากได้เห็นตุ๊กตาหมีพูห์ตัวนั้นและตอนนี้เธอยังคงถือมันไว้อยู่ในมือ คิมจีวอนจ้องตอบอีกฝ่าย ถึงแววตาจะดุดันและดูโมโหแต่ทว่าความจริงแล้วเขาเป็นห่วงเธออยู่ไม่น้อยและจากการที่ได้สัมผัสเธอในตอนนี้เขารู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอยังคงสูงอยู่ไม่ต่างจากเมื่อวาน



          ตุ๊กตาตัวนี้คุณเอามันมาจากไหน" เธอไม่ได้ตอบคำถามของเขาแต่เป็นฝ่ายถามเขาบ้างพร้อมกับชูตุ๊กตาตัวเก่าให้คิมจีวอนดู



          สายตาดุดันเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นสงสัยและเกรี้ยวกราดในที่สุด เขาเก็บตุ๊กตาตัวนี้ไว้ในลิ้นชักข้างเตียงนอนโดยไม่คิดว่าเธอจะละลาบละล้วงเปิดดูและหยิบมันออกมา เธอบังอาจแตะต้องของมีค่าของเขาทั้งๆที่มือของเธอไม่มีค่าพอจะสัมผัสมันด้วยซ้ำ คิมจีวอนหัวเสียก่อนจะฉวยเอาตุ๊กตาตัวนั้นมาจากมือของหญิงสาว



          ใครให้เธอแตะต้องตุ๊กตาตัวนี้" คิมจีวอนไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับตะคอกใส่เธอด้วยความโมโห สายตาของดาจองวูบไหวด้วยความกลัวชั่วขณะก่อนจะเปลี่ยนเป็นเกลียดชังเหมือนกับที่เธอมองเขามาตลอด



          ฉันถามว่าคุณไปเอาตุ๊กตาตัวนี้มาจากไหน" จองดาจองยังคงย้ำคำถามเดิม เธอต้องการคำตอบและหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด



          ฉันจะเอาตุ๊กตาตัวนี้มาจากไหนก็เรื่องของฉัน แต่ถ้าฉันเห็นว่าเธอแตะต้องตุ๊กตาตัวนี้อีก เธอเดือดร้อนแน่" ชายหนุ่มเน้นหนักเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเอาจริงแน่กับเรื่องนี้ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทิ้งให้หญิงสาวยังคงสงสัยในที่มาที่ไปของตุ๊กตาตัวนั้น



          เป็นไปไม่ได้หรอกดาจอง ตุ๊กตาตัวนั้นจะเป็นตัวเดียวกันได้ยังไง ก็ในเมื่อจินฮวานโอปป้าเป็นคนบอกเองนี่ว่าเขา...” หญิงสาวทรุดลงนั่งลงที่เตียงและพึมพำกับตัวเองก่อนที่ห้วงความคิดจะสะดุดลง มันจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมันชัดเจนว่าเป็นคิมจีวอนแต่คิมจินฮวานก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกเธอเลย เรื่องนี้มันเกี่ยวของกับความรู้สึกของเธอ เธอต้องรู้ความจริงให้ได้ว่าใครกันแน่ ใครกันแน่คือเด็กผู้ชายคนนั้น

    .

    .

    .

    .

    .


          ชายหนุ่มที่จากมาตัดสินใจทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานในห้องทำงานที่อยู่ห่างจากห้องนอนไปไม่ไกล มือทั้งสองข้างถือตุ๊กตาตัวเก่าที่มีค่ายิ่งอย่าทะนุถนอมราวกับว่ามันอาจจะสลายได้ถ้าเขาทำรุนแรงกับมัน ตาคมจ้องที่ตุ๊กตาราวกับกำลังสื่อสารกับมัน นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้หยิบตุ๊กตาตัวนี้ขึ้นมาทบทวนความหลังในวัยเยาว์ คงจะตั้งแต่ที่จองดาจองเข้ามาในชีวิตของเขาเห็นจะได้



          คิมจีวอนจ้องมองตุ๊กตาด้วยแววตาอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเห็นเขาแสดงออกเช่นนี้กับใครมาก่อน ยกเว้นจองดาจอง มุมปากยกขึ้นคล้ายกำลังยิ้ม เขากำลังนึกถึงเด็กผู้หญิงในชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนเจ้าของเดิมของเจ้าตุ๊กตาหมีพูห์ตัวนี้ เวลาผ่านไปนานนับสิบปีแแล้วแต่รอยยิ้มของเธอยังคงฝังไว้ในหัวใจของเขา รักแรกในวัยเด็กของคิมจีวอน ความทรงจำในวันนั้นกลับกลายเป็นรักฝังใจทั้งที่เขาไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้เจอกับเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกหรือไม่



          เมื่อนึกถึงคนที่หยิบตุ๊กตาตัวนี้ขึ้นมาเตือนความทรงจำใบหน้าที่เคยเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที เธอกล้าดีอย่างไรแตะต้องของสำคัญของเขา ยิ่งคิดยิ่งโมโห เขาเก็บตุ๊กตาตัวเก่าไว้ในลิ้นชักและเดินลงไปยังชั้นล่างของบ้าน ก่อนจะขับรถคันหรูที่เพิ่งจะขับกลับเขามาได้ไม่ถึงชั่วโมงออกไปอีกครั้ง



          สถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คนแต่ส่วนของ VVIP นั้นถูกกั้นพื้นที่ไว้เป็นพิเศษ สองชายหนุ่มนั่งกระดกดื่มน้ำสีอำพันกันอย่างเพลิดเพลินก่อนจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาร่วมวงด้วย มิโนและยุนฮยองส่งสายตาไปยังผู้มาใหม่อย่างสงสัย เวลานี้เขาควรจะกลับบ้านและใช้เวลาอยู่บนเตียงกับผู้หญิงที่เขาช่วยออกมาจากห้องขังเมื่อวานมากกว่าจะนั่งทำหน้าบูดอยู่ตรงนี้ หลังจากกระดกน้ำสีอำพันไปสองสามแก้วคิมจีวอนเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากคนทั้งสอง



          ฉันอยากตามหาคน" คนที่ได้ฟังเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย




          ใครวะ" มิโนไม่รอช้ารีบถามเพื่อคลายความสงสัย




          คิมจีวอนลังเลอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะตอบกลับ




          เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง"




          เด็กผู้หญิงเหรอ" ยุนฮยองทวนคำ เขาสนิทกับคิมจีวอนมากเรียกได้ว่าตัวติดกันแทบจะตลอดและเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเพื่อนของถึงต้องการตามหาตัวเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเขาจะไม่สงสัยเลย หรือว่าบางทีเพื่อนของเขาอาจจะเปลี่ยนรสนิยมเข้าสมาคมคนกินเด็กแล้วก็เป็นได้



          ไม่รู้สิ ตอนนี้คงไม่เด็กแล้วแหละมั้ง" พูดพลางยกยิ้มก่อนจะดื่มบรั่นดีเข้าไปอีกอึกใหญ่




         มิโนและยุนฮยองมองหน้ากันไปมา




          เอาให้ชัดดิ ตกลงเด็กหรือผู้ใหญ่" มิโนย้ำ




          เคยเจอกันตอนเป็นเด็ก แต่ตอนนี้น่าจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จำตุ๊กตาหมีพูห์ที่ฉันเก็บไว้ได้มั๊ย เธอเป็นคนให้ฉันตอนเด็ก" พูดเพียงเท่านี้ทั้งสองคนก็พอจะรู้แล้วว่าคิมจีวอนหมายถึงใคร เด็กผู้หญิงที่เป็นรักแรกในวัยเด็ก แต่ที่น่าแปลกคือทำไมเขาเพิ่งคิดจะตามหาเธอตอนนี้




          ตั้งนานทำไมไม่หา ทำไมเพิ่งจะมาหาเอาปานนี้" ยุนฮยองถาม




          ก็...ฉันกลัวว่าอะไรๆมันจะเปลี่ยนไปมากกว่านี้" ตอบคำถามเสร็จก็ยกแก้วขึ้นกระดกใส่ปากอีกรอบ




          'อะไรๆ' ที่ว่านี่คงจะเป็นความรู้สึกของเจ้าตัว คงเพราะกลัวจะถล้ำลึกมีความรู้สึกบางอย่างกับผู้หญิงที่ตัวเองย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นแค่ของเล่นราคา 2000 ล้านวอนที่พอเมื่อเบื่อแล้วก็จะโยนทิ้งไปไม่ใยดี แต่ไม่รู้เพราะอะไรยิ่งเล่นเท่าไหร่จากของเล่นที่ตั้งใจจะโยนทิ้งมันกลับกลายเป็นของมีค่าที่ไม่อยากให้ห่างจากสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว ถึงขนาดต้องล่ามโซ่ไว้เพราะกลัวเธอจะหายไปจนเขาไม่สามารถตามเจอได้อีก




          เข้าใจแล้ว เดี๋ยวฮยองจะให้คนตามสืบให้ ว่าแต่...ถ้าเจอแล้วนายจะทำยังไง" มิโนรับปากจะช่วยตามหาให้พร้อมกับตั้งคำถามถึงอนาคต




          ก็...” คิมจีวอนไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ ถ้าเจอเธอแล้วเขาจะทำอย่างไร จะขอคบกับเธอหรือขอเธอแต่งงาน หรือบางทีเธออาจจะมีแฟนหรือกลายเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เรื่องต่างๆเหล่านี้เขาไม่เคยคิดถึงมันมาก่อน เขาเองไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขายังรู้สึกกับเด็กผู้หญิงคนนั้นเหมือนกับวันนั้นอยู่หรือไม่ เวลามันผ่านมานานและเขาเริ่มไม่แน่ใจตัวเอง ถ้าเป็นก่อนที่จะเจอจองดาจองเขาสามารถตอบได้ทันทีเลยว่าเขายังรู้สึกกับเธอเหมือน ทว่าในเวลานี้แววตาของชายหนุ่มมีความไม่มั่นใจแอบซ่อนอยู่ ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาอยากพบกับเด็กผู้ญิงคนนั้นอีกครั้งเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิดกับเธอ และหวังว่าเธอจะช่วยให้เขาไม่รู้สึกอะไรๆกับผู้หญิงที่ชื่อจองดาจองมากกว่านี้





          ฉันขอเตือนนายในฐานะเพื่อนนะ...ฉันว่านายรักษาสิ่งที่มีอยู่ไว้ให้ดีจะดีกว่า อย่ามามัวตามหาสิ่งที่ไม่รู้ว่ามันจะมีอยู่จริงรึเปล่าเลย เพราะถ้าวันไหนนายเสียสิ่งที่มีอยู่ไปนายนั่นแหละจะเสียใจ" ยุนฮยองตบบ่าเพื่อนสนิท ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเพื่อนสนิทของเขาคิดยังไงกับจองดาจอง ใครๆเขาก็มองออกกันทั้งนั้น มีแค่เจ้าตัวนี่แหละที่ยังสมองตื้นมองตัวเองไม่ออก




          คนมากประสบการณ์อย่างมิโนเองก็มองออกว่าคิมจีวอนเองยังคงสับสนระหว่างคนในความทรงจำกับคนที่มีเลือดเนื้อที่อยู่ตรงหน้า คนที่ทำให้คิมจีวอนแทบคลั่งได้ตลอดเวลา เพื่อเรียกสติคิมจีวอนและทำให้ชายหนุ่มรู้หัวใจตัวเองเสียทีแผนการบางอย่างผุดขึ้นในสมอง




          ฮยองจะรีบตามหาให้เลย แต่ว่างานนี้ต้องมีค่าตอบแทนนะ" เขายิ้มอย่างมีแผนการ




          ได้ อยากได้อะไรบอกมาเลย ฉันจะจัดการให้"




          เอาไว้เสร็จงานแล้วจะบอก รับรองไม่เกินสองสัปดาห์ แล้วอย่าลืมสัญญาหล่ะ" มิโนกระดกน้ำอำพันในแก้วของตัวเองอย่างผู้มีชัยแม้ยังจะไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย งานนี้คิมจีวอนต้องกระอักแน่




          คิมจีวอนไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่ยกแก้วขึ้นดื่มอีกสองสามครั้งแล้วขอตัวกลับ

    .

    .

    .

    .

    .



          แสงไฟที่ลอดออกมาจากประตูห้องนอนทำให้คนที่เพียงกลับมาถึงบ้านหลังจากออกไปดื่มข้างนอกรู้ว่าคนข้างในยังไม่เข้าสู่ห้วงนิทรา ชายหนุ่มยังไม่อยากเข้าไปตอนนี้ เขายังจำแววตาของคนข้างในได้ดี เขาไม่อยากเข้าไปแล้วต้องพบเจอกับแววตาแห่งความเกลียดชังเพราะเขาล่ามโว่เธอไว้แบบนั้น ชายหนุ่มตั้งใจรอให้หญิงสาวด้านในหลับเสียก่อนแล้วค่อยย่องเข้าไปนอน แต่รอนานเท่าไหร่ก็ดูไม่มีทีท่าว่าคนข้างในจะปิดไปนอนเลย และตอนนี้ก็เกือบตีสามแล้ว เปลือกตาของคิมจีวอนเริ่มต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลกไม่ไหว เขาจึงตัดสินใจเข้าไปในห้องหลังจากที่รออยู่ข้างนอกกว่าสองชั่วโมง




          เมื่อเปิดประตูเข้ามากลับไม่พบหญิงสาวภายในห้อง เขาคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงจะอยู่ในห้องแต่งตัวไม่ก็ห้องน้ำ คิดได้ดังนั้นสองเท้าจึงก้าวไปยังจุดหมาย แต่แทนที่จะเห็นอีกคนยื่นอยู่กลับพบว่าเธอนอนสลบอยู่ตรงประตูหน้าห้องน้ำ ไม่รอช้าคิมจีวอนรีบเข้ามาพยุงร่างของจองดาจองทันที



          

         จองดาจอง จองดาจอง!!” คิมจีวอนร้องเรียกอีกฝ่าย น้ำเสียงของเขาตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เมื่อไม่มีเสียงตอบรับเขาจึงรีบอุ้มคนที่หมดสติไปวางไว้บนเตียงทันที



          

         มือหนาวางทาบลงบนหน้าผากทำให้รู้ว่าอาการไข้ของเธอไม่ได้ดีขึ้นเลย มันดูเหมือนจะแย่ลงด้วยซ้ำ ดื้อดึงไม่ยอมกินข้าวกินยาจนกลายเป็นแบบนี้ รู้อย่างนี้เขาน่าจะบังคับเธอเสียตั้งแต่แรก คิมจีวอนล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบกุญแจเพื่อปลดพันธนาการที่ข้อเท้าของเธอออก รอยเขียวช้ำตรงข้อเท้าทำให้ชายหนุ่มใจกระตุกวูบ เขารู้สึกว่าตัวเองทำเกินกว่าเหตุ ความจริงแค่ขังเธอไว้ก็พอแล้วไม่จำเป็นต้องล่ามโซ่เธอไว้แม้แต่น้อย ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องที่เธอโกหกบรรดาพ่อบ้านแม่บ้านแล้วหนีไปข้างนอกเพื่อให้คนอื่นตบตีทำร้ายแบบนั้นเขากลับรู้สึกว่าตัวเองทำถูกต้องแล้ว




          คิมจีวอนค่อยๆเช็ดตัวดาจองเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายของเธอ จากนั้นเขาพยายามป้อนยาลดไข้แต่มันไม่เป็นผลชายหนุ่มจึงทำได้เพียงแค่นำแผ่นเจลลดไข้แปะไว้ที่หน้าผากเธอ ก่อนจะหันมาให้ความสนใจข้อเท้าที่เขียวช้ำ มือหนาบรรจงทายาแก้ฟกช้ำให้อีกฝ่าย เขาคอยดูแลเธออยู่ทั้งคืนไม่ยอมห่างไปไหนจนกระทั่งพระอาทิตย์ได้สาดแสงทักทาย แต่อาการไข้ของเธอดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น คิมจีวอนจึงตัดสินใจพาดาจองไปโรงพยาบาล



       

            ดาจอง นั่นมันดาจองนิ" เสียงหนึ่งพึมพำกับตัวเองหลังจากเห็นชายร่างสูงคนหนึ่งอุ้มหญิงสาวที่หลับไม่ได้สติวางบนเตียงพยาบาลก่อนจะถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป




          คิมฮันบินที่กำลังเข็นรถเข็นเหลียวมองไปตามสายตาของน้องสาวที่นั่งอยู่บนรถเข็น เช้านี้คิมฮันบินพาน้องสาวของเขามาทำกายภาพตามปกติ น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เห็นอย่างที่น้องสายของเขาเธอ




          แน่ใจนะซูบิน" คิมฮันบินถามย้ำ




          แน่ใจค่ะ ผู้ชายคนนั้นเป็นคนอุ้มดาจองมา"




          งั้นเดี๋ยวเราลองเข้าไปถามดีมั๊ย" ฮันบินเสนอความคิดก่อนจะเข็นรถของซูบินตรงไปยังชายหนุ่มที่พาดาจองมายังโรงพยาบาล



          

         ขอโทษนะครับ เมื่อกี้ผมเห็นคุณพาคุณดาจองมา ไม่ทราบว่าคุณดาจองเป็นอะไรเหรอครับ"




          คิมจีวอนที่เป็นกังวลเกี่ยวกับอาการของหญิงสาวในตอนแรกหันไปตามเสียงของใครบางคน เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนถามเขาเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะตอบกลับไป




          เสือก"




          สองพี่น้องได้แต่ยืนอึ้งกับคำตอบ มันเป็นคำตอบที่ทั้งสองคนไม่คาดว่าจะได้รับ




          ขอโทษนะครับ แต่ผมถามคุณดีๆ ทำไม..”




          รีบไสหัวไปก่อนที่กูจะหมดความอดทน ถ้ามึงยังอยากมีชีวิตอยู่อย่ามายุ่งกับผู้หญิงคนนี้อีก" คิมจีวอนกระชากคอเสื้อของคิมฮันบินพร้อมทั้งจะขู่เอาชีวิตเขา เมื่อจบประโยคเขาเหวี่ยงคิมฮันบินให้เซถลาไปกระแทกกำแพง ญาติผู้ป่วยคนอื่นที่ยืนรอหน้าห้องฉุกเฉินต่างให้ความสนใจในเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่ก่อนที่จะมีเรื่องราวปานปลายใหญ่โต พนักงงานต้อนรับของโรงพยาบาลได้เดินมาเชิญคิมจีวอนไปพักที่ห้องพักรับรองสำหรับคนของตระกูลคิมเสียก่อน ไม่อย่างนั้นอาจมีการวางมวยเกิดขึ้นหน้าห้องฉุกเฉินก็เป็นได้ เพราะดูท่าทางแล้วคิมฮันบินเองดูไม่พอใจคิมจีวอนเหมือนกัน




          เลว" เสียงเล็กๆบนรถเข็นดังขึ้น สายตาเกลียดชังคนที่พึงเดินจากไปฉายชัดในตาคู่สวย คิมฮันบินจึงเดินกลับไปหาน้องสาวคนเดียวของเขา




          ไปเถอะ เดี๋ยวค่อยว่ากัน ใกล้จะถึงเวลาทำกายภาพแล้วนะ"




          ฝ่ายคนที่ถูกเชิญมารอไม่สามารถสงบใจได้ ไหนจะห่วงคนที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน ไหนจะโมโหที่เจอผู้ชายคนนั้น เขาจำได้ดีว่าผู้ชายคนนั้นคือผู้ชายคนเดียวกันกับที่เขาเจอที่เกาะเชจู ถ้าวันนั้นเขาไม่ตามไปคงไม่ได้เห็นว่าทั้งสองมีความสุขกันมากแค่ไหน ยิ่งคิดยิ่งโมโหความจริงเขาน่าจะปล่อยหมัดใส่หมอนั่นซักสองสามหมัดเพื่อระบายอารมณ์




          ไม่นานนักจองดาจองถูกนำตัวมายังห้องพักฟื้น แพทย์สั่งให้เธออยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสองวันเนื่องจากกลัวว่าเธอจะติดเชื้อ หลังจากพยาบาลจัดการวัดความดันและอุณหภูมิร่างกายของดาจองเรียบร้อยแล้วทั้งคู่จึงมีเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง




          เป็นไงบ้าง"




          ออกไป"




          คิมจีวอนกัดฟันกรอด เธอกล้าดีอย่างไรไล่เขา เขาเป็นคนพาเธอมาส่งโรงพยาบาลแท้ๆ




          ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ" คิมจีวอนประชดประชัน ดาจองมองอีกฝ่ายอย่างเฉีือดเฉือน




          แล้วเพราะใครทำให้ฉันต้องมาอยู่ในสภาพนี้หล่ะ ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก" ดาจองเบือนหน้าหนี เธอแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่อยากเห็นหน้าเขา และนั่นทำให้คิมจีวอนหัวเสีย สุดท้ายเมื่อไม่มีทางเลือกทายาทแห่งชินกิกรุ๊ปจึงจำใจจากไป




          มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาที่นองหน้า ที่เบือนหน้าที่เพราะไม่อยากเห็นหน้าเขาและไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาแห่งความอ่อนแอของเธออีกครั้ง กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เขาทรมานเธอจนต้องเข้าโรงพยาบาลแบบนี้ ถึงอยากจะหนีไปให้ไกลแต่สุดท้ายเขาก็ทำทุกอย่างให้เธอต้องกลับมา ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเธอทำเวรทำกรรมอะไรเอาไว้กันแน่ และเมื่อไหร่เธอจะหลุดพ้นจากผู้ชายที่ชื่อคิมจีวอนเสียที




          หลังจากปล่อยให้จองดาจองพักผ่อนอยู่ครู่ใหญ่ คิมจีวอนจึงแอบย่องเข้าไปในห้องคนป่วยอย่างระมัดระวัง เขาแค่อยากเข้ามาดูให้แน่ใจว่าเธอไม่เป็นไรไม่ใช่เพราะเป็นห่วงคนที่นอนหลับหันหลังให้อยู่บนเตียง เขาเดินอ้อมมาอีกด้านเพื่อให้เห็นหน้าเธอชัดๆ รอยบวมบริเวณแปลกตาทำให้คนต้นเรื่องหัวใจอ่อนยวบทันที เธอคงร้องไห้อยู่นานจนหลับ คิมจีวอนถอนหายใจพลางคิดในใจว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไปดี จะตามหาคนที่อยากเจอแล้วปล่อยจองดาจองไป หรือจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นอดีตแล้วสนใจคนที่อยู่ตรงหน้ามากกว่านี้ แต่ถ้าคำตอบที่ได้มันไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากทำแล้วเขาจะทำเช่นไรกับเรื่องนี้


    .

    .

    .

    .

    .


          อาจเป็นเพราะกำลังป่วยอยู่ทำให้จองดาจองหมดความอยากอาหาร อาหารเย็นที่พยาบาลนำมาให้ถูกกลืนลงคอไปเพียงสองคำก่อนที่เธอจะดื่มน้ำตามอีกเล็กน้อย ดาจองปิดฝาจานอาหารและกำลังนั่งรอพยาบาลนำยามื้อเย็นมาให้ เสียงเปิดประตูดังขึ้นเรียกความสนใจของหญิงสาว แต่แทนที่จะเป็นพยาบาลสาวที่นำยามาให้กลับเป็นร่างเล็กๆที่รีบวิ่งเข้ามาเกาะเตียงของเธอ



          หม่ามี้" คิมซารังร้องเรียก




          ซารังอา มาได้ยังไงคะ" ดาจองใช้มือข้างหนึ่งลูบศีรษะเด็กน้อยอย่างรักใคร่ รอยยิ้มละมุนปรากฏขึ้นบนใบหน้า นี่คงเป็นรอยยิ้มแรกตั้งแต่ที่เธอกลับมาจากเกาะเชจู



          

         จีวอนพามา" นิ้วเล็กชี้ไปที่ชายร่างสูงที่เดินตามเข้ามาภายหลัง ดาจองเงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่แต่ไม่ได้เอ่ยทักทาย




          เป็นไงบ้างคะ ฮ่องกงสนุกมั๊ย"




          คิมซารังส่ายหน้าพร้อมกับทำปากยู่ดูน่ารักน่าชัง




          ทำไมคะ ไม่สนุกเหรอ"




          คิดถึงหม่ามี้" เพียงคำพูดของซารังทำให้ดาจองถึงกับน้ำตาซึม เธอเองก็คิดถึงเด็กน้อยคนนี้เหมือนกัน




          หม่ามี้ก็คิดถึงซารังเหมือนกัน"




          อุ้ม อุ้ม" สองแขนน้อยๆชูขึ้นเพื่อให้หญิงสาวบนเตียงอุ้มเธอขึ้นไปกอด ถึงจะอยากทำแต่ตอนนี้แขนข้างหนึ่งของเธอมีสายน้ำเกลือรั้งไว้จำไม่สามารถอุ้มเด็กน้อยได้ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่างจึงจัดการอุ้มคิมซารังขึ้นไปนั่งบนเตียงกับดาจอง เช่นนี้เองจึงทำให้เด็กน้อยได้กอดหม่ามี้ของเธอสมใจ




          คืนนี้นอนกับหม่ามี้" คิมซารังพูดขึ้นในขณะที่ยังกิดรัดคนป่วยอยู่




          ไม่ได้นะคะ ที่นี่โรงพยาบาล นอนไม่สบาย กลับไปนอนที่บ้านกับพี่ๆตุ๊กตานะคะ" เด็กน้อยส่ายหน้า แถมมีแววว่าจะร้องไห้โยเยอีกต่างหาก ดาจองจึงส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคิมจีวอน




          คิมจีวอนไม่ได้พูดอะไร เขาทำเพียงจัดการแกะลูกลิงที่เกาะหญิงสาวแล้วอุ้มออกไปนอกห้อง เสียงร้องไห้ดังระงมอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหายเงียบไป ไม่นานคิมจีวอนจึงเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยหญิงสาวจึงนอนตะแคงหันหลังให้คนที่เดินเข้ามาอีกครั้ง




          ตาคมทอดมองแผ่นหลังของคนป่วยบนเตียง ก่อนจะถูกดึงดูดด้วยจานอาหารของคนป่วยที่อยู่ไม่ไกล เขาเดินไปสำรวจก่อนจะพบว่ามันเหลือเยอะจนดูเหมือนไม่ได้ถูกแตะต้องเลยแม้แต่น้อย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะหายป่วย




          ลุกขึ้นมากินข้าวให้หมด" ชายหนุ่มออกคำสั่งแต่กลับไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวจะทำตามแม้แต่น้อย



          ฉันบอกให้ลุกขึ้นมากินข้าว"




          ฉันอิ่มแล้ว เชิญคุณออกไปได้แล้วฉันจะพักผ่อน" คนป่วยตอบเสียงเรียบ




          ฉันบอกให้ลุกขึ้นมา" ครั้งนี้ไม่ใช่แค่คำพูดแต่เขาดึงแขนข้างหนึ่งของคนที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นมาโดยไม่รู้ว่ามันสร้างความเจ็บปวดให้เธอ  แขนข้างที่เจาะให้น้ำเกลือถูกกระชากทำให้เข็มที่ปักคาไว้แทงทะลุเส้นเลือด น้ำสีแดงเริ่มไหลซึมออกมาพร้อมกับเสียงร้องของร่างบางบนเตียง




          เมื่อเห็นว่าตัวเองทำอะไรลงไปชายหนุ่มจึงอ่อนลงทันที แต่ปากหนักของเขาไม่มีแม้แต่คำขอโทษ เขาเดินออกไปตามพยาบาลให้เข้ามาจัดการทำแผล พยาบาลสาวเข้ามาพร้อมอุปกรณ์ทำแผลก่อนจะจัดการทำแผลและถอดเข็มออกเนื่องจากเธอไม่จำเป็นต้องได้น้ำเกลือแล้ว คิมจีวอนยืนดูอยู่ไม่ห่าง เมื่อพยาบาลทำแผลเรียบร้อยเธอจึงขอตัวออกไป




          เสียงเปิดดประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นนักโภชนาการที่เข้ามาเปลี่ยนอาหารเย็นของดาจอง ตอนที่ออกไปตามพยาบาลเมื่อครู่คิมจีวอนได้สั่งให้เอาอาหารเย็นชุดใหม่มาให้หญิงสาวเพราะอาหารเย็นที่ดาจองไม่ยอมแตะนั้นเย็นชืดแล้ว หญิงสาวบนเตียงทำหน้าสงสัยแต่ไม่ได้ถามอะไร คิมจีวอนเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างเตียงพร้อมกับถ้วยซุปในมือ




          อ้าปาก"




          ฉันไม่หิว" คนป่วยยังคงดื้อรั้น




          ฉันบอกให้อ้าปาก จะอ้าดีๆหรือจะให้ฉันอ้าให้ แต่รับรองว่าฉันไม่แค่อ้าปากเธอแน่แต่จะอ้าอย่างอื่นด้วย" คำพูดชวนให้คิดไปไกลทำให้หญิงสาวบนเตียงหน้าเปลี่ยนสี คิมจีวอนยกยิ้มมุมปาก




          ฉันกินเองได้ คุณออกไปได้แล้ว" มือเรียวยื่นออกไปหมายจะคว้าถ้วยซุปแต่คิมจีวอนดึงหนีได้ทัน




          เดี๋ยวฉันป้อนเอง มือเธอเจ็บอยู่" ถึงจะไม่ได้ขอโทษเธอตรงๆแต่คิมจีวอนคิดจะไถ่โทษด้วยการป้อนซุปให้เธอเพราะเขาเป็นคนทำให้มือเธอเจ็บ




          ไม่เป็นไรมันไม่ได้เจ็บขนาดนั้น ฉัน..”




          อย่าดื้อ ถ้าขัดฉันอีกครั้งเดียว ฉันจะไม่ใช้ช้อนป้อนแต่จะใช้ปากป้อนแทน เอามั๊ย"




          จองดาจองแทบจะกลืนคำพูดทั้งหมดลงคอก่อนจะยอมอ้าปากให้คนเอาแต่ใจส่งช้อนซุปเข้ามาในปากอย่างระมัดระวังโดยไม่ลืมเบาให้อุณภูมิของซุปพอเหมาะ ไม่ร้อนจนเกินไป




          เป็นไง ร้อนรึเปล่า" ดาจองส่ายหน้า คิมจีวอนยกยิ้มก่อนจะบรรจงป้อนเธอต่อไปเรื่อยๆ




          ฉันอิ่มแล้ว" หญิงสาวร้องบอกเมื่อคิมจีวอนป้อนเธอต่อเป็นคำที่ห้า




          จะอิ่มได้ไง เพิ่งจะกินไปไม่กี่คำเอง"




          มันไม่อร่อย จืดจะตาย" ดาจองบ่นอุบแต่คิมจีวอนได้ยินมันชัดเจน ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากกินต่อแต่ซุปนี้รสชาติจืดชืดเสียเหลือเกิน เขาตักซุปขึ้นมาชิมและมันเป็นจริงอย่างที่หญิงสาวว่า จืดราวกับน้ำเปล่า เขาวางถ้วยซุปลงก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง ดาจองคิดว่าเขาคงไปหาเครื่องปรุงหรืออะไรซักอย่างมาเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่เมื่อตระหนักได้ว่าเขาคือคิมจีวอนเธอจึงโยนความคิดเหล่านั้นออกจากหัวก่อนจะล้มตัวลงนอน




          เวลาผ่านไปประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้กลิ่นหอมของบางอย่างโชยมาแตะจมูกคนป่วยเข้าอย่างจัง มันหอมมากจนทำให้คนที่ได้กลิ่นถึงกับน้ำลายสอจนต้องลุกขึ้นนั่งบนเตียงอีกครั้ง คิมจีวอนกลับมาพร้อมกับโจ๊กหมูสับในมือ ดาจองมองเขาด้วยความสงสัย




          ฉันถามพยาบาลแล้ว เขาบอกว่าเธอกินโจ๊กได้"




          คุณก็เลยให้พวกเขาลำบากทำมาให้ฉันเหรอ" หญิงสาวกล่าวคล้ายจะตำหนิโดยหารู้ไม่ว่าคนที่ขับรถด้วยความรถสูงออกไปซื้อโจ๊กเจ้าดังที่กำลังจะปิดร้านและรีบกลับมาให้เร้วที่สุดเพราะกลัวว่าคนป่วยจะหิวคือคิมจีวอนทายาทแห่งชินกิกรุ๊ป




          คิมจีวอนไม่ได้แก้ตัวอะไร เขาเพียงแค่ตักโจ๊กขึ้นมาเป่าก่อนจะยื่นมันไปจ่อปากของดาจอง กลิ่นหอมของมันนั้นเกินต้านทาน คนดื้อบนเตียงยอมเปิดปากโดยไม่อิดออด




          ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีโจ๊กหมูร้อนที่เคยเต้มชามตอนนี้พร่องไปจนเกือบหมด คิมจีวอนพยายามจะป้อนให้ดาจองอีกคำแต่หญิงสาวส่ายหน้า ตอนนี้เธออิ่มมากแล้้ว เมื่ออีกฝ่ายทานได้มากตามที่เขาต้องการเขาจึงไม่อยากฝืนเธอ มือหนาเอื้อมหยิบน้ำเปล่าที่รินไว้แล้วให้เธอดื่ม หลังจากนั้นจึงเรียกให้พยาบาลเอายามาให้ หญิงสาวรับยามาแล้วจัดการใส่ปากอย่างว่าง่าย เธอนั่งเอนตัวอยู่ซักพักก่อนเปลือกตาทั้งสองข้างจะต้านทานแรงโน้มถ่วงไม่ไหว ดูเหมือนยานอนหลับที่คิมจีวอนขอให้หมอสั่งให้กำลังออกฤทธิ์ ไม่นานคนป่วยบนเตียงก็หลับสนิท คิมจีวอนปรับเตียงให้เอนลงเพื่อให้หญิงสาวได้นอนราบอย่างสบาย เขากระชับผ้าห่มเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะอุ่นเพียงพอ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยร่างสูงจึงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกมานอนเฝ้าหญิงสาว




          คิมจีวอนอยากจะนอนบนเตียงกับอีกคนแต่กลัวว่าจะเบียดหญิงสาวจนนอนไม่สบายถึงแม้ว่าเตียงผู้ป่วยห้องวีไอพีสำหรับคนตระกูลคิมจะใหญ่มากกว่าปกติก็ตาม ร่างสูงทิ้งตัวลงบนโซฟาที่อยู่ไม่ไกลออกไปที่มีหมอนกับผ้าห่มผืนบางถูกเตรียมไว้แล้ว ความเหนื่อยล้าทำให้เขาหลับในที่สุด




          แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกห้องกระทบใบหน้าหวานที่กำลังเพลิดเพลินกับฝันดี เธอค่อยๆกระพริบตาเพื่อปรับม่านตารับแสงสว่าง ก่อนจะลุกขึ้ินนั่งและบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยล้าก่อนสายตาจะสะดุดเข้ากับร่างใหญ่ที่นอนคู้ตัวอยู่บนโซฟา เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะอยู่เฝ้าเธอที่นี่ด้วย




          จองดาจองลุกออกมาเตียงและเดินมายังโซฟาเงียบๆ ชายหนุ่มที่สูงว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบางบนโซฟาแคบๆ หญิงสาวมองด้วยความเห็นใจก่อนจะเดินไปยังส่วนของตู้เสื้อผ้าแล้วจึงหยิบผ้าห่มออกมาอีกผืน เธอห่มมันให้กับเขาเพราะกลัวว่าอีกคนจะหนาวและเป็นหวัด ดาจองนั่งลงมองใบหน้าของคิมจีวอนอย่างพิจารณา ตาคู่เรียวที่ทรงพลังและดุดันปิดสนิท สันจมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้าคมและสันกราม ยามที่เขานอนหลับแบบนี้เขาก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีพิษภัยใดๆ แต่ทำไมเวลาเขาตื่นขึ้นมาถึงได้โหดร้ายกับเธอแบบนั้น จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่เขาจะเป็นเด็กผู้ชายคนนั้น ในใจของดาจองได้แต่ภาวนาว่าจะไม่ใช่เขาขอให้เป็นคิมจินฮวาน แต่ถ้าเป็นเขาขึ้นมาจริงๆเธอจะทำอย่างไร ตอนนี้เธอสับสนไปหมดแล้ว




          ดาจองตัดสินใจกลับไปที่เตียงโดยไม่ได้ปลุกชายหนุ่ม ตอนนี้ยังเช้าอยู่ให้เขาได้นอนหลับอีกเสียหน่อยแล้วถ้าใกล้เวลาที่ต้องไปทำงานแล้วเขายังไม่ตื่น ถึงเวลานั้นค่อยปลุกเขาก็ยังไม่สาย แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวคงไม่ต้องลงมือปลุกเขาให้เสียเวลาเพราะหลังจากนั้นไม่นานคิมจีวอนก็ตื่นขึ้น เขามองผ้าห่มผืนที่สองที่คลุมตัวเขาอยู่พลางยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ถ้าไม่ใช่คนบนเตียงนั่นแล้วจะเป็นใครที่มีน้ำใจห่มผ้าให้เขาเพราะกลัวว่าเขาจะหนาว คิมจีวอนปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะเอ่ยถามหญิงสาว




          ตื่นแล้วเหรอ" ดาจองที่นอนเอนตัวอยู่บนเตียงหันมองตามเสียงก่อนจะพยักหน้า




          ดีขึ้นรึยัง ยังไม่สบายตรงไหนอยู่รึเปล่า" หญิงสาวส่ายหน้า คิมจีวอนจึงพยักหน้าตอบรับก่อนจะลุกไปล้างหน้าแต่งตัว




          พรุ่งนี้หมอถึงจะให้กลับบ้าน งั้นเดี๋ยวเย็นๆฉันจะพาซารังมาเยี่ยมนะ" คิมจีวอนกล่าวหลังจากจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ดาจองพยักหน้ารับ เมื่อเห้นว่าเธอดูแข้งแรงขึ้นกว่าเมื่อวานชายหนุ่มจึงวางใจและออกไปทำงานตามปกติ

    .

    .

    .

    .

    .


          เสียงเปิดประตูดังขึ้นหลังจากดาจองรับประทานอาหารและยามื้อแรกของวันเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ใบหน้าคุ้นเคยจะปรากฏให้เห็น ดาจองยิ้มทักทาย




          คุณฮันบิน มาได้ยังไงคะ" ดาจองถามชายหนุ่มหน้าหวานในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินที่กำลังเดินเข้ามาข้างเตียง




          พอดีเมื่อวานผมเห็นดาจองถูกพามาห้องฉุกเฉินผมเลยรู้หน่ะครับว่าดาจองไม่สบาย"




          งั้นเหรอคะ"




          ว่าแต่คนที่เขามาส่งคุณเขาเป็นใครเหรอครับ ดูเขาหวงคุณมาก"




          คำถามนี้ทำให้ดาจองหน้าถอดสี ก่อนจะตอบเสียงรีบ




          เจ้านายค่ะ"




          แค่เจ้านายจริงๆเหรอครับ"




          ว่าแต่คุณฮันบิน...” ดาจองไม่ได้ตอบคำถามแต่เปลี่ยนไปคุยเรื่องของคิมฮันบินแทน




         ฮันบินครับ แค่ฮันบินเฉยๆ" คิมฮันบินขัดก่อนที่ดาจองจะพูดจบ




          ว่าแต่ฮันบินมาโรงพยาบาลเป็นอะไรรึเปล่าคะ ไม่สบายเหรอ"




          เปล่าครับ ผมพาซูบินมาทำกายภาพ" ชายหนุ่มยิ้ม




          แต่หน้าคุณดูเหมือนเพิ่งไปชกต่อยกับใครมาเลยนะคะ" ดาจองสังเกตเห็นแผลฟกช้ำที่ใบหน้ากับรอยแตกที่มุมปากจึงอดเป็นห่วงไม่ได้




          ไม่มีอะไรหรอกครับ อย่าห่วงไปเลย" เมื่อคิมฮันบินพูดตัดบทดาจองไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม




          หลังจากคุยกันได้ไม่นานดาจองตัดสินใจไปหาซูบินที่มาทำกายภาพบำบัด เมื่อสองสาวอยู่ด้วยกันตามลำพังซูบินจึงเริ่มซักไซร้เรื่องราวของดาจอง




          ตกลงผู้ชายคนนั้นเป็นแค่เจ้านายจริงๆเหรอ ถ้าไม่บอกฉันนึกว่าเขาเป็น...เอ่อ...ขอโทานะดาจอง ฉันคิดว่าเขาเป็นแฟนหรือสามีเธอซะอีก" เมื่อได้ยินคำถามแบบนี้ดาจองหัวใจหล่นวูบ




          ไม่ใช่หรอก...แค่เจ้านายจริงๆ"




          อย่าโกหกเลยดีกว่า เจ้านายที่ไหนจะหวงลูกน้องขนาดนี้ แถมยังขู่ฮันบินโอปป้าด้วยว่าถ้าไม่อยากตายอย่ายุ่งกับเธออีก" คิมซูบินเล่าไปตามที่เธอเห็นเมื่อวาน ดาจองเริ่มมีสีหน้าเป้นกังวล




          ไม่ได้โกหกนะ เขาเป็นแค่เจ้านายจริงๆ" ดาจองย้ำ




          ฉันมีพี่ชายคนเดียวนะดาจอง ฉันอยากให้พี่ฉันมีความสุข ฮันบินโอปป้าเขาชอบเธอ เธอรู้ใช่มั๊ย แต่ถ้าเจ้านายของเธอขู่จะฆ่าฮันบินโอปป้า แถมยัง...”




          ยังอะไร"




          ดูแผลบนหน้าฮันบินโอปป้าซิ   ฝีมือเจ้านายเธอทั้งนั้น"




          จริงเหรอ"




          อื้ม ฉันขอพูดในฐานะเพื่อนนะ ฉันว่าผู้ชายคนนั้นอันตรายมาก ถ้าเธอไม่อยากเป็นอันตราย เธอเลิกทำงานกับเขาดีกว่า ฉันรู้ว่าฮันบินโอปป้าเขาเคยชวนเธอมาทำงาน ถ้าเธอมาทำงานกับโอปป้าฉันรับรองว่าเธอจะปลอดภัย" ดาจองมีสีหน้าลังเล เธอจะปลอดภัยจากคิมจีวอนจริงๆเหรอ



          ดาจอง ฉันเป็นห่วงเธอนะ แล้วก็เป็นห่วงฮันบินโอปป้าด้วย ฉันกลัวว่าเขาจะทำอย่างที่พูด"




          แล้วฉันจะลองคิดดูนะ" ดาจองแบ่งรับแบ่งสู้ คิมซูบินพยักหน้ารับ

    .

    .

    .

    .

    .



          หม่ามี้" เสียงเล็กๆดังขึ้นแทบจะทันทีที่คิมจีวอนเปิดประตูห้องพักของดาจอง คิมซารังส่งสัญญาณการมาถึงของตนเองก่อนที่ร่างน้อยๆจะปรากฏต่หน้าจองดาจองเสียอีก




          มาแล้วเหรอคะ" ดาจองยิ้มตอบ




          อุ้มๆ" แขนป้อมๆสองข้างยืดออกหมายจะให้คนบนเตียงอุ้มเธอขึ้นไปนั่งด้วย ดาจองเอือมแขนจะอุ้มเด็กน้อยแต่คิมจีวอนไวกว่า เขาอุ้มคิมซารังขึ้นไว้บนเตียงของดาจอง




          กินข้าวกัน" หลังจากคลอเคลียหม่ามี้ของเธอจนหายคิดถึงเด็กน้อยจึงชักชวนให้คนป่วยทานมื้อเย็นด้วยกัน




          คิมจีวอนเป็นคนนำอาหารมื้อเย็นมา   ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อตอนกลางวันเขายังสั่งให้คนนำอาหารมาส่งให้คนป่วยถึงเตียงด้วย พยาบาลที่อยู่ด้านนอกจัดการนำอาหารทั้งหมดใส่จานและยกขึ้นตั้งโต๊ะในส่วนของโซฟารับแขกที่อยู่ไม่ไกล จองดาจองลุกขึ้นจากเตียงและพยายามจะอุ้มซารังลงจากเตียงแต่ถูกจีวอนตัดหน้าอุ้มซารังไปอีกครั้ง ร่างสูงพาคนตัวเล็กไปนั่งบนโซฟาก่อนจะกวักมือเรียกให้คนป่วยมานั่งด้วยกัน




          บัดนี้บนตักของดาจองมีร่างน้อยๆของคิมซารังครอบครองอยู่ มือข้างหนึ่งของดาจองถือช้อนอีกข้างถือจานข้าว ซารังชี้นิ้วป้อมๆของเธอเลือกอาหารตรงหน้าที่มีอยู่หลายหลายก่อนที่ดาจองจะป้อนอาหารใส่ปากของเธอตามความต้องการจนลืมไปว่าตัวเองก็ต้องทานมื้อเย็นเหมือนกัน




          คิมจีวอนเห็นพฤติกรรมของสองคนนั้นพลันส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ เขาใช้ตะเกียบคีบไข่ม้วนก่อนจะจ่อมันไปที่ปากของดาจอง



          อ้าปาก"




          ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกินเองได้" ดาจองปฏิเสธ แต่คิมจีวอนยังไม่ยอมแพ้




          จะกินดีๆหรืออยากจะให้ฉันป้อนด้วยวิธีอื่น" หญิงสาวค้อนควับ



          

         ในที่สุดดาจองก็ยอมให้จีวอนป้อนไข่ม้วนใส่ปาก กลายเป็นว่าตอนนี้ดาจองป้อนซารัง   ส่วนจีวอนก็ป้อนข้าวดาจองต่ออีกทอดหนึ่ง พร้อมกับตักอาหารใส่ปากตัวเองเป็นครั้งคราว ถ้าใครได้มาเห็นภาพนี้คงคิดว่านี่คือครอบครัวสุขสันต์เป็นแน่




          เป็นอีกวันที่คิมซารังพยายามจะนอนค้างคืนกับหม่ามี้ของเธอที่โรงพยาบาลแต่ไม่สามารถทำได้ เด็กหญิงร้องไห้โยเยไม่ยอมกลับบ้านท่าเดียว จนจีวอนต้องอุ้มออกไปส่งให้แม่บ้านที่ตามมารับเธอกลับบ้านเช่นเมื่อวาน




          พรุ่งนี้หมอให้เธอกลับบ้านได้ เดี๋ยวฉันจะให้คนไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านเธอมาให้" เขาพูดโดยไม่มองหน้าหญิงสาว สมาธิเพ่งไปที่โทรศัทพ์สมาร์ทโฟนที่กำลังเลื่อนหาเบอร์โทรศัทพ์ของใครบางคน



          

         ไม่ค่ะ" ดาจองตอบเสียงเรียบ  คิมจีวอนพยักหน้าเป็นอันรับรู้ก่อนจะปลีกตัวไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก



          จองดาจองนึกถึงคำพูดของคิมซูบิน 'ผู้ชายคนนั้นอันตรายมาก' เธอพูดถูก กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ตัวเธอและคนรอบข้างเธอต้องเข้าออกโรงพยาบาล  เฉพาะตัวเธอเองก็นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ไหนจะคิมจินฮวาน และร่องรอยบนใบหน้าคิมฮันบินหรือคิมดงฮยอกที่ต่างก็เคยถูกเขาทำร้าย   ดาจองหวั่นใจว่าต่อไปภายภาคหน้าอาจจะเป็นแม่หรือน้องชายของเธอที่ถูกเขาทำร้าย  ถึงจะกลัวแต่หญิงสาวก็อยากลองดู  เธอต้องการปกป้องตัวเองและปกป้องคนที่เธอรัก จองดาจองรวบรวมความกล้าเพื่อจะบอกบางอยากกับคิมจีวอน




          คุณคิมจีวอน ฉันอยากลาออก ฉันไม่อยากไปทำงานที่บ้านคุณแล้ว" คิมจีวอนจ้องหน้าหญิงสาว




          ฉันไม่ให้เธอลาออก" เขาบอกเสียงแข็ง




          แต่ฉันไม่อยากทำงานกับคุณแล้ว ฉันไม่อยากอยู่ที่บ้านคุณแล้ว"




          ถ้าเธอไม่อยู่บ้านฉัน แล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน" คิมจีวอนพยายามระงับความโกรธไว้เพราะเห็นว่าเธอยังป่วยอยู่ ถึงแม้จะดูแข็งแรงและกล้าต่อปากต่อคำกับเขาแล้วก็ตาม




          ฉันจะกลับไปอยู่ที่บ้าน แล้วจะหางานอื่นทำ   ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคุณอีกต่อไปแล้ว ทุกคนที่ฉันรู้จักต้องเจ็บตัวเพราะคุณ ฉันไม่อยากเป็นสาเหตุให้คนอื่นต้องเดือดร้อน"




          แต่เธอก็กำลังทำอยู่" คิมจีวอนพูดเสียงเรียบ ตอนนี้เขาโกรธมาที่เธอกำลังจะไปจากเขาอีกครั้ง สงสัยกลับไปคราวนี้เขาคงต้องล่ามโซ่และใส่กุญแจให้แน่นหนากว่าเก่า  ไม่อย่างนั้นเธอคงจะพยายามหนีเขาไปตลอดเวลาแน่




          ฉันทำอะไร"




          ทำให้ฉันโมโห และคนแรกที่จะเจ็บตัวคือผู้ชายที่มาหาเธอวันนี้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่ามีคนแอบอ้างชื่อฉันเข้ามาเยี่ยมเธอ   แถมพากันออกไปข้างนอกสองต่อสอง นี่ขนาดป่วยอยู่ยังมาหากันลับหลังฉัน ไม่รู้ว่าพากันออกไปทำอะไรบ้าง"



    เพี๊ยะ!!




          ความคิดคุณมันสกปรกที่สุด ฉันถามคุณจริงๆเถอะ ถ้าคุณไม่ได้ทำร้ายคนอื่นซักวันนี่คุณจะตายใช่มั๊ย คุณฮันบินเขาเป็นเพื่อนฉัน  แล้วเขาก็เป็นห่วงเพราะเห็นว่าฉันไม่สบาย   แต่คุณยังไปทำร้ายเขาอีก   คุณนี่มันเลวแบบหาที่ติไม่ได้เลยจริงๆ" ตอนนี้หญิงสาวมีน้ำตานองหน้าเพราะคำพูดดูถูกเธอ  เธอไม่สามารถชินชากับมันได้จริงๆ ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม หัวใจเธอเจ็บปวดราวกับมีมีดมากรีดให้มันเป็นรู




          ฉันยังไม่ได้ทำอะไรหมอนั่นซักหน่อย รีบปกป้องมันใหญ่เลยนะ"




          โกหก  แผลที่หน้าคุณฮันบินมันฟ้องอยู่แบบนั้นยังจะมาบอกว่าไม่ได้ทำอีก ไม่ใช่คุณแล้วใครทำ" ตอนนี้คิมจีวอนเริ่มไม่เข้าใจแล้วว่าหญิงสาวพูดถึงเรื่องอะไร จริงอยู่เขาไม่พอใจที่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาวุ่นวายกับดาจอง แต่ช่วงนี้เขาทำงานยุ่งทุกวัน พอเลิกงานก็วนไปรับซารังที่บ้านแล้วตรงดิ่งมาโรงพยาบาลเลย จะเอาเวลาไหนไปทำร้ายหมอนั่น แล้วอีกอย่างตั้งแต่วันที่พาดาจองมาส่งที่โรงพยาบาลเขายังไม่ได้พบผู้ชายคนนั้นอีกเลย




          เธอพูดเรื่องอะไรของเธอ"




          ก็พูดเรื่องจริงไง"




          เหรอ งั้นให้ฉันพูดเรื่องจริงบ้างเอามั๊ย พูดกับใครดีหล่ะ แม่เธอ น้องเธอ เพื่อนเธอ หรือผู้ชายทุกคนของเธอ เขาจะได้รู้ความจริงกันบ้าง เป็นไงเธอว่าดีมั๊ย" คิมจีวอนเหยียดยิ้ม เขารู้ว่าสุดท้ายแล้วดาจองจะต้องยอม




    เพี๊ยะ




          ดาจองตบหน้าอีกฝ่ายอย่างแรง ความอดทนของจีวอนสิ้นสุดลง เขากระชากเธอเข้ามาในอ้อมกอดก่อนจะกดจูบลงบนปากบาง บดขยี้และกัดริมฝีปากล่างของเธอจนอีกฝ่ายไม่อาจต่อต้านได้ มือน้อยทุบหลังแกร่งอย่างอ่อนแรงเพื่อประท้วงการกระทำต่ำทรามครั้งนี้ คิมจีวอนปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระชั่วอึดใจก่อนจะฉวยโอกาสที่หญิงสาวกอบโกยอากาศประกบจูบเธออีกครั้ง ลิ้นซากสอดแทรกเข้าไปยังโพรงปากที่แสนหวานพร้อมตักตวงความหวานหอมไม่หยุดหย่อนจนร่างเล็กแทบจะยื่นไม่อยู่ มือหนาโอบรอบเอวเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายทรุดลงไปกองกับพื้น เขากระชับเธอแน่นขึ้นจนหน้าอกเธอเบียดเข้ากับอกแกร่ง เขาโอบรัดเธอแน่นขึ้นไปอีกพร้อมกับมอบจูบให้เธออย่างไม่หยุดหย่อน มาถึงตรงนี้ดาจองรู้ดีว่าเธอไม่อาจหลีกหนี้สิ่งที่จะต้องเจอพ้น ยิ่งถูกเขาจูบมาเท่าไหร่หัวสมองก็ยิ่งเบลอและสูญเสียความตั้งใจที่จะขัดขืนมากเท่านั้น ปากหนาเริ่มไล้โลมกกหูและซอกคอขาวเนีย ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่างกายและเรียกสติของดาจองคืนมา



          อื้อ.. ปล่อ ปล่อยนะ" คิมจีวอนยังไม่ยอมหยุด เขาประกบปากเธออีกรอบ ในเมื่อมีแรงพูดได้เขาก็จะทำให้เธอเงียบเสียงอีกรอบ และเปลี่ยนจากคำว่าปล่อยเป็นเสียงครางหวานหู 

    70%



          ก่อนที่มือหนาจะปลดกระดุมชุดคนป่วยไปมากกว่านี้เสียงเปิดประตูดังขึ้นขัดจังหวะ ตามมาด้วยเสียงของหล่นแตก



          พยาบาลนำยามื้อเย็นมาให้ได้พบกับภาพที่ไม่คาดฝัน   มือไม้อ่อนแรงจนยาที่ถือมาตกแตกเรียกสติของชายหนุ่มที่กำลังพึงใจกับริมฝีปากแสนหวาน   คิมจีวอนหยุดการกระทำทุกอย่างก่อนจะกวาดสายตาไปยังพยาบาลที่ยังคงตกตะลึงกับภาพตรงหน้า



          รีบเก็บสิ ยืนเฉยอยู่นั่นแหละ" ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ พยาบาลคนนั้นจึงรีบก้มลงเก็บถาดยาและเศษแก้วทันที



          ดาจองอาศัยจังหวะนี้ผละออกจากคิมจีวอนและเขาเองก็ยอมปล่อยเธอออกจากอ้อมแขนเขาอย่างง่ายดาย   ดาจองจัดการติดกระดุมและจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะเดินกลับไปที่เตียง  หลังจากนั้นไม่นานพยาบาลคนเดิมกลับมาพร้อมกับยาชุดใหม่  ดาจองรีบกินยาโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าพยาบาลคนนั้น   หญิงสาวอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีแต่คิมจีวอนยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น



          ฉันง่วงจะนอนแล้ว คุณกลับไปนอนที่บ้านเถอะ" หญิงสาวพูดพร้อมล้มตัวลงนอนหันหลังให้ชายหนุ่ม เธอห่มผ้าเสียมิดชิดตั้งแต่คอจนถึงปลายเท้า  จีวอนเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้   คิดว่าผ้าแค่นั้นจะหยุดความต้องการของเขาได้รึไงกัน เมื่อกี้ถ้าไม่มีคนมาขัดจังหวะเขาคงได้ขัดคำสั่งหมอเป็นแน่



          'ช่วงนี้หมอแนะนำให้งดกิจกรรมบนเตียงด้วยนะคะ หมออยากให้เธอได้พักผ่อน' เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาทำได้เพียงเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำระบายความร้อนที่มันก่อตัวขึ้นตั้งแต่ริมฝีปากของเขาประกบเข้ากับริมฝีปากของเธอ   ก่อนจะพาตัวเองมานอนที่โซฟาตัวเดิมเหมือนเช่นคืนก่อน

    .

    .

    .

    .

    .


          เพราะต้องรอผลตรวจบางอย่างทำให้ดาจองต้องออกจากโรงพยาบาลในช่วงบ่าย   คิมจีวอนที่ติดประชุมไม่สามารถมารับเธอกลับบ้านได้แต่เขายังอุตส่าห์มีน้ำใจส่งมิโนมารับหญิงสาวกลับบ้าน   ตอนแรกเธอตั้งใจจะขอร้องมิโนให้ไปส่งเธอที่บ้านหรือถ้าเขาไม่ยอมจริงๆเธอจะฉวยโอกาสหนีเขากลับบ้านให้ได้  แต่ความจริงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น   มิโนมาพร้อมกับลูกน้องร่างยักษ์อีกสี่คนซึ่งคอยเดินประกบเธอซ้ายขวา  ความคิดที่จะหนีมิโนกลับไปที่บ้านจึงสิ้นสุดลง   ในที่สุดเธอก็มาอยู่ในที่ที่เธอไม่ต้องการอีกครั้ง



          จีวอนบอกว่าให้ส่งคุณจนถึงห้องนอน"



          และขังฉันไว้ในนั้นด้วยใช่มั๊ยคะ" หญิงสาวต่อจนจบประโยค



          อย่าเรียกว่าขังเลยครับ เรียกว่าให้อยู่นิ่งๆจนกว่าเขาจะกลับดีกว่า" มิโนพูดเพื่อให้ดาจองผ่อนคลายเพราะเห็นสีหน้าของเธอเครียดๆตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว



          ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่ไปรับฉันออกจากโรงพยาบาล" หญิงสาวยิ้มให้



          มิโนรู้สึกสงสารดาจองเหลือเกิน  เขาอยู่บนโลกนี้มานาน   เจอคนหลากหลายรูปแบบ   เขารู้ว่ารอยยิ้มแบบไหนคือรอยยิ้มที่มาจากใจ  รอยยิ้มไหนคือยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจและดาจองกำลังยิ้มแบบนั้นให้เขา   แต่ถึงอย่างนั้นเขาไม่ได้นึกโกรธเธอเลยแม้แต่น้อย  เขากลับเห็นใจเธอมากขึ้นด้วยซ้ำ



          มิโนอยากจะช่วยดาจองให้หลุดพ้นจากคิมจีวอน แต่ตัวเขาเองไม่สามารถต่อกรกับคิมจีวอนได้ หรือต่อให้เขา ยุนฮยอง และจุนฮเวร่วมมือกันก็ไม่สามารถช่วยเธอให้พ้นจากเงื้อมมือของคิมจีวอนได้  มีทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ดาจองพ้นจากจีวอนได้คือต้องรอให้ชายหนุ่มปล่อยเธอไปเอง  และมิโนกำลังจะทำให้มันเกิดขึ้นในไม่ช้า



          อดทนไว้นะครับ เดี๋ยวอะไรๆก็ดีขึ้น ผมอยู่ข้างคุณดาจองนะครับ ไฟท์ติ้ง" มิโนยิ้มทะเล้นพร้อมกับชูกำปั้นให้กำลังใจหญิงสาวก่อนจะปิดประตูและขังเธอไว้ในนั้นตามคำสั่งของเจ้าของห้อง



          เมื่อได้อยู่คนเดียวในห้องเงียบๆความทรงจำสุดท้ายในห้องนี้ผุดขึ้นในหัว  วันนั้นเธอถามคิมจีวอนเกี่ยวกับตุ๊กตาหมีพูห์ตัวนั้น   เขาดูโมโหมากและเธอมั่นใจว่ามันสำคัญกับเขา  ถ้ามันคือตุ๊กตาตัวเดียวกันขึ้นมาจริงๆมันก็สำคัญกับเธอด้วยเช่นกัน



          'ตอนเด็กโอปป้าเคยได้ตุ๊กตาหมีจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง จนถึงตอนนี้ก็ยังเก็บตุ๊กตาตัวนั้นไว้อยู่ มันสำคัญกับโอปป้ามากๆเลย' จองดาจองนึกถึงคำพูดของคิมจินฮวานที่พูดกับเธอตอนที่เธอ จีฮเย และดงฮยอกไปเที่ยวสวนสนุกพร้อมกับคิมจินฮวาน เธอจำได้ว่าตัวเองยืนมองตุ๊กตาหมีพูห์แบบเดียวกันกับที่เธอเคยมีก่อนที่คิมจินฮวานจะเดินมายื่นข้างๆและเล่าความหลังในวัยเด็กของเขาให้เธอฟัง



          มันไม่มีเหตุผลที่เขาจะเล่าให้เธอฟังและมันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องโกหกเธอ เรื่องนี้มีแค่เธอ พ่อแม่ของเธอ เด็กผู้ชายคนนั้นกับแม่ของเขาและคิมจีฮเยที่รู้เรื่อง  แน่นอนว่าเธอไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังอีก หรือว่าคิมจีฮเยจะแอบเล่าเรื่องนี้ให้พี่ชายของเธอฟัง ถึงอย่างไรก็ตามคิมจีฮเยสัญญากับเธอไว้แล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครและดาจองเชื่อใจจีฮเย เธอจะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังแน่ๆ ดังนั้นจึงไม่นานเป็นไปได้ที่คิมจินฮวานจะโกหก ยิ่งคิดทบทวนเท่าไหร่ยิ่งยากที่จะรู้ได้ว่าใครคือเด็กผู้ชายคนนั้นกันแน่



          เสียงไขกุญแจเพื่อปลดล็อคประตูทำให้ดาจองสะดุ้งเล็กน้อย คิมจีวอนกลับมาแล้วและแน่นอนว่าถ้าเธอขอให้เขาปล่อยเธอไปมันจะจบลงแบบไหน โชคดีที่เมื่อวานพยาบาลคนนั้นช่วยให้เธอรอดไปได้ แต่วันนี้ไม่มีใครจะช่วยเธอ เธอต้องไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงเด็ดขาด  ดาจองสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติของตัวเอง



          กลับมาแล้วเหรอคะ" ดาจองลุกขึ้นทักทายเจ้าของห้องอย่างสุภาพ  คิมจีวอนเลิกคิ้วสูงเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่าย เขาจินตนาการไว้ว่าเธอจะต้องตะหวาดหรือตะโกนใส่เขาเพราะเขาขังเธอไว้ในห้องแน่นอน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคำพูดหวานหูของหญิงสาวทำให้คิมจีวอนต้องอมยิ้ม




          อื้อ"




          ความเงียบเข้าปกคลุมคนทั้งสอง มวลสารแห่งความอึดอัดทำให้คิมจีวอนเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำไป จองดาจองได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ไม่นานหลังจากคิมจีวอนจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วแม่บ้านสองคนจึงยกอาหารเย็นสำหรับสองที่ขึ้นมาบนห้อง




          นั่งสิ" เห็นหญิงสาวยืนเก้ๆกังๆอยู่ไม่ไกลจากโซฟาชุดสุดหรูจึงอดไม่ได้ที่จะแอบขำในใจ วันนี้เธอดูแปลกไป แต่มันเปลี่ยนไปในทางที่ดีซึ่งเขาพอใจมาก




          กินสิ   ฉันให้แม่บ้านทำมาให้เธอโดยเฉพาะเลยนะ" ดาจองรับถ้วยโจ๊กจากมือชายหนุ่มโดยไม่ลืมกล่าวขอบคุณ เธอตักโจ๊กคำแรกเข้าปากก่อนจะชำเลืองมองอีกคน  เมื่อเห็นว่าคิมจีวอนดูจะอารมณ์ดีดาจองจึงคิดว่าเรื่องที่เธอจะขอน่าจะสำเร็จได้ไม่ยาก




          ไม่อร่อยเหรอ" คิมจีวอนถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอหยุดรับประทานอาหารแต่ให้ความสนใจกับใบหน้าของเขาแทน




          อร่อยค่ะ" ดาจองตอบเสียงเรียบพร้อมกับตักอาหารคำที่สองเข้าปาก คิมจีวอนยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นคนตรงหน้าว่าง่าย




          เอ่อ...คืนนี้ฉันจะไปนอนกับซารังนะคะ" ดาจองเอ่ยขึ้นหลังจากคนตรงหน้าจัดการกับอาหารจนหมดเกลี้ยง คิมจีวอนมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา มิหน่าทำไมวันนี้เธอถึงว่าง่ายเช่นนี้ เพราะเธอมีจุดประสงค์นี่เอง




          ได้" แววตาของหญิงสาวเป็นประกายทันทีเมื่ออีกฝ่ายตอบตกลง




          แต่ให้ซารังมานอนที่นี่นะ" คิมจีวอนพูดต่อจนจบ ดับฝันของอีกฝ่ายจนหมดสิ้น จองดาจองหน้าหดเหลือสองนิ้วทันทีเมื่อได้ยิน



          หมอนและผ้าห่มผืนโปรดถูกขนมายังห้องนอนของคิมจีวอนโดยแม่บ้าน ตั้งแต่รู้ว่าจะได้นอนกับหม่ามี้ซารังก็ดีใจกระโดดโลดเต้นไปทั่วห้อง  และเมื่อได้เข้ามาอยู่ในห้องนอนใหญ่ของจีวอนเธอก็ไม่ยอมห่างจากหม่ามี้ของเธอแม้แต่น้อย




          ดาจองจัดการอาบน้ำให้ซารังโดยมีคิมจีวอนคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ เนื่องจากเห็นว่าหญิงสาวยังไม่หายดีและมือของเธอยังเจ็บอยู่เล็กน้อย  ลูกลิงน้อยยังซนเหมือนเดิมทำให้ทั้งดาจองและจีวอนเต็มไปด้วยฟองสบู่   เด็กหญิงหัวเราะและยิ้มอย่างมีความสุข ดาจองและจีวอนเองก็เช่นกัน



          มานี่เลย" คิมจีวอนวิ่งไล่จับลูกลิงน้อยที่วิ่งไปทั่วห้องแต่งตัว ซารังไม่ยอมให้เขาแต่ตัวให้โดยง่าย



          จับได้แล้ว" จีวอนอุ้มซารังขึ้นก่อนจะกดหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่ เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงท่าทางแบบนี้



          อิิอิ จีวอนจักจี้" ซารังหดคอพร้อมกับหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข  เธอใช้มือน้อยๆดันหน้าคนตัวโตออกห่าง



          นี่แน่ะๆๆ" จีวอนระดมหอมแก้มน้อยทั้งสองข้างอย่างหมั่นเขี้ยว เสียงหัวเราะดังไปทั่ว   ดาจองที่ยืนถือผ้าเช็ดตัวอยู่ไม่ไกลแอบขำทั้งสองคน อาจด้วยอายุที่ห่างกันมากทำให้ทั้งสองคนดูเหมือนพ่อลูกกันมากกว่าพี่น้องเสียอีก ถ้าคนอื่นจะเข้าใจผิดคงไม่ใช่เรื่องแปลก ดาจองเหม่อมองคนทั้งคู่เห็นจีวอนรักและใส่ใจซารังเช่นนี้ทำให้เธออบอุ่นใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน




          พอแล้วทั้งคู่เลย เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก" ดาจองทำเสียงดุใส่เมื่อทั้งสองคนยังไม่ยอมหยุดกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันด้วยกลัวว่าจะไม่สบาย




          ทำไงดี หม่ามี้ดุแล้ว" คิมจีวอนแซวหญิงสาว ซารังหัวเราะคิกคัก




          ใบหน้าของหญิงสาวขึ้นสีแดงระเรื่อ ประโยคเมื่อครู่ทำให้ดาจองรู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าเพราะโมโหหรือเขินอายที่ถูกอีกฝ่ายหยอกล้อแบบนั้น ถ้าใครไม่รู้คงคิดว่าทั้งสามคนเป็นครอบครัวเดียวกัน




          ซารังมานี่เร็วค่ะ มาเช็ดผมเร็วเข้า เดี๋ยวเป็นหวัดนะ"




          ไม่เอา จะเล่นกับจีวอน" เด็กน้อยไม่ยอมเชื่อฟังง่ายๆ




          ปล่อยให้ซารังเล่นอีกนิดก็ได้นี่ ไม่เห็นเป็นไรเลย" จีวอนแย้ง เขายังคงอุ้มซารังไว้ในอ้อมแขน




          ดาจองอดโมโหทั้งสองคนไม่ได้ แต่ก่อนไม่เห็นจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยขนาดนี้




          พอเลยนะ คุณเองก็เหมือนกันเปียกไปทั้งตัวแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก" หญิงสาวพูดออกไปด้วยอารมณ์แต่มันทำให้คนได้ฟังหัวใจพองโตอย่างไร้สาเหตุเมื่อรู้ว่าเธอเป็นห่วงเขา




          คิมจีวอนแกล้งทำหน้ามุ่ย




          เราเลิกเล่นกันดีกว่าซารัง เดี๋ยวหม่ามี้ไม่ให้นอนด้วยแล้วจะลำบากเนอะ"




          อื้อ" ซารังตอบรับเสียงอ่อยก่อนคิมจีวอนจะปล่อยเธอลง คิมซารังวิ่งไปหาหม่ามี้ของเธออย่างว่าง่าย ดาจองจัดการเช็ดผมและเช็ดตัวให้เด็กหญิง เธอเลือกชุดนอนลายกระต่ายโดยไม่ลืมสวมทับด้วยเสื้อแขนยาวอีกชั้นหนึ่ง อากาศในเดือนพฤศจิกาเริ่มหนาวเย็นแล้ว ถ้ายังใส่ชุดนอนบางๆอีกกลัวว่าไข้หวัดจะถามหาเอาได้



          เมื่อจัดการลิงน้อยจอมซนแล้วก็ถึงเวลาของคนตัวโตแต่นิสัยเด็ก คิมจีวอนนั่งรอให้อีกฝ่ายเช็ดผมให้เหมือนที่เธอทำกับซารัง ดาจองไม่สนใจเธอเดินเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้คนโตแต่ตัวนั่งรอเก้อหน้ากระจกต่อไปโดยมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดคอไว้ ไม่นานนักหญิงสาวออกมาพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำ คิมจีวอนยังไม่ยอมเช็ดผมของตัวเองให้แห้ง เขาส่งสายตามายังหญิงสาวก่อนจะเจรจาแลกเปลี่ยนความต้องการ



          ถ้าเธอยอมเช็ดผมให้ฉัน ฉันจะยอมเช็ดผมให้เธอก็ได้"



          ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเช็ดของฉันเองได้" ดาจองปฏิเสธ ตอนนี้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนแขนยาวเรียบร้อยแล้ว



          ฉันยอมเสียเปรียบเธอเลยนะ ผมเธอทั้งยาวทั้งหนาใช้เวลานานกว่าจะแห้ง ส่วนผมฉันมีนิดเดียวเช็ดเดี๋ยวเดียวก็เสร็จแล้ว"



          ฉันเช็ดเองดีกว่าค่ะ" ดาจองยังคงปฏิเสธก่อนจะหยิบไดร์เป่าผมแต่มันถูกชายหนุ่มคว้าไปได้เสียก่อน



          ฉันเช็ดให้" ไม่พูดเปล่า มือหนากดไหล่มนให้นั่งลงบนเก้าอี้ที่เขาเคยจับจองอยู่ก่อนหน้า ดาจองพยายามจะปฏิเสธเพราะเธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายจะต้องเรียกร้องให้เธอเช็ดผมให้แน่นอน แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ ท้ายที่สุดคนเอาแต่ใจจึงได้เช็ดผมยาวๆของหญิงสาวตรงหน้า




          ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงผมยาวสลวยของดาจองจึงแห้งสนิท หญิงสาวลุกจากเก้าอี้เตรียมจะไปอ่านนิทานให้ลิงน้อยที่ดื่มนมก่อนนอนฟัง แต่คนตัวโตร้องทักเสียก่อน



          ตาเธอทำให้ฉันบ้างแล้ว" คิมจีวอนส่งผ้าขนหนูที่เขาพาดไหล่ไว้ให้หญิงสาว ดาจองรับมันมาอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะค่อยๆเช็ดผมให้ชายหนุ่มอย่างระมัดระวัง คนที่ถูกเอาใจแอบยิ้มอย่างมีความสุข เขาเหลือบมองดาจองในกระจกเป็นระยะ หญิงสาวก้มหน้าไม่ยอมสบตาเมื่อถูกจับได้ว่าเธอเองกำลังแอบมองเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าหวานรู้สึกร้อนผ่าวไม่รู้ว่าควรจะแสดงออกอย่างไรดี



          เสร็จแล้วค่ะ"



          คิมจีวอนไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงตรงหน้าหญิงสาว หน้าคมโน้มลงมาและประกบปากของตัวเองเข้ากับปากคนตรงหน้า ดาจองเบิกตากว้างด้วยความตกใจ



          จีวอนทำอะไรหม่ามี้เหรอ" เสียงใสดังขึ้น ดาจองรีบผลักอกกว้างของอีกฝ่ายให้ออกห่าง ใบหน้าของเธอมีสีแดงระเรื่อและนั่นทำให้จีวอนพึงพอใจไม่น้อย



          ไม่มีอะไรคะ ซารังดื่มนมหมดแล้วเหรอ ไปค่ะ ไปนอนกัน" ดาจองรีบเข้ามาจูงมือซารังที่ยืนอยู่ไม่ไกล



          คิมจีวอนได้แต่ยืนยิ้ม เขาลืมไปเสียสนิทว่าในห้องนี้ยังมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ด้วย ถ้าไม่มีเด็กน้อยมาขัดจังหวะเขาเชื่อว่าจูบของเขากับดาจองคงยาวนานกว่านี้ และมันอาจจะไม่ได้จบลงแค่จูบเท่านั้น




          คิมซารังยึดครองพื้นที่ตรงกลางเตียงไว้  ผู้ใหญ่สองคนนอนประกบซ้ายขวาด้วยกลัวว่าเด็กน้อยจะนอนดิ้นจนผลัดตกเตียง   เวลาผ่านไปเกือบครึ่งคืนแล้วแต่กลับมีเพียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของสองชีวิตบนเตียงเท่านั้น  ชายหนุ่มยังคงนอนตะแคงทอดสายตามองผู้หญิงขี้เซาที่หลับสนิทตั้งแต่หัวถึงหมอนและดูเหมือนว่าจะหลับก่อนคิมซารังเสียด้วยซ้ำ สงสัยคงเป็นเพราะนิทานก่อนนอนที่เขาเล่าคงจะทำให้หญิงสาวหลับฝันดี คิมจีวอนยกยิ้มก่อนจะใช้มือเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าของหญิงสาว




          'ฉันขอเตือนนายในฐานะเพื่อนนะ...ฉันว่านายรักษาสิ่งที่มีอยู่ไว้ให้ดีจะดีกว่า อย่ามามัวตามหาสิ่งที่ไม่รู้ว่ามันจะมีอยู่จริงรึเปล่าเลย เพราะถ้าวันไหนนายเสียสิ่งที่มีอยู่ไปนายนั่นแหละจะเสียใจ' คำพูดของยุนฮยองยังคงดังก้องอยู่ในหัว เวลาเธออยู่ในสายตาเขามันทำให้เขามีความสุข แต่เมื่อใดที่เขาไม่สามารถมองเห็นเธอได้เขาแทบจะเป็นบ้าทุกครั้ง แบบนี้เขาจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร และต่อให้เขาอยากจะรักษาเธอไว้มากแค่ไหน เธอมักจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะไปจากเขา คิมจีวอนควรจะทำอย่างไรเพื่อจะรักษาเธอไว้ดี  ชายหนุ่มถอดหายใจอีกครั้ง




    ตุบ



          ขาสั้นๆของซารังฟาดเข้าที่หน้าท้องแน่นทำให้จีวอนละสายตาจากดาจองมองขาข้างนั้น สายตาเลื่อนมาจับจ้องใบหน้าเล็กของเด็กหญิงที่ตอนนี้พลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าให้เขา ในหัวสมองของเขาจึงเกิดความคิดบางอย่าง สิ่งที่จะทำให้เขารักษาเธอเอาไว้   เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงสามารถปิดเปลือกตาลงได้



    100%




    มาแล้วๆๆ มาตรงเวลาตามสัญญา ฮี่ๆๆ

    ตอนที่แล้วสัญญาว่าจะแจกของซึ่งถ้าใครจำได้เมื่อตอนช่วงกลางปีเราไปเที่ยวมา  ก็ซื้อของมาเยอะประมาณหนึ่งและตั้งใจไว้แล้วว่าจะแจกของให้กับรีดที่น่ารักที่ยังตามอ่านฟิคกันมาตลอด  (ถึงแม้จะอัพช้ามากและเบี้ยวไม่ยอมอัพฟิคบ่อยๆ 555)  


    โดยของรางวัลคือ 

    .

    .

    .

    .

    พวงกุญแจน้องหมี Harrods (ซื้อมาจากอังกฤษ  ไม่รู้ว่าเมืองไทยมีมั๊ยนะ >///<)



    เอาเป็นว่าตั้งใจซื้อมาแจกรีดที่รักละกัน

    กติกาง่ายมาก :

    แค่เพียง comment ในตอนที่ 23 : คนในความทรงจำ  แล้วเราจะเลือก comment ที่ประทับใจมา 1 comment   สามารถร่วมลุ้นรางวัลได้จนถึงวันที่ 7 ม.ค. 60 ค่ะ

    กติกาง่ายขนาดนี้  อย่าลืมร่วมสนุกกันนะคะ ใครอยากเห็นหน้าตาของรางวัลเข้าไปดูได้ที่ #ทาสจีวอน ในทวิตน้าา 



    ปล. สัปดาห์หน้าไม่อัพนะคะ ไปเที่ยว อัพอีกที 14 ม.ค. 60

    ยังไงก็ Happy New Year นะคะทุกคน 

    ปีใหม่นี้ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ ^^  เยิฟฟฟฟฟฟ 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×