คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่ 29 : ปกป้องหัวใจตัวเอง (100%)
MY LOVE MY SLAVE
ตอนที่ 29
น้ำเมาแก้วแล้วแก้วเล่าถูกเสิร์ฟตรงหน้าของชายหนุ่มหน้าคม. เขากระดกน้ำสีเหลืองอำพันที่มีฤทธิ์สร้างความมึนเมาอย่างรุนแรง. ลูกกระเดือกกลมขยับขึ้นลงตามจังหวะการกลืนซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่หยุดลงง่ายๆจนกว่าเจ้าของร่างจะพอใจ.
ความรู้สึกของคิมจีวอนในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคนที่ถูกมีดกรีดแทงหัวใจเป็นร้อยเป็นพันครั้งและที่สำคัญเป็นตัวเขาเองที่ลงมือทำร้ายหัวใจตัวเอง. ถ้าเขารู้เรื่องทุกอย่างเร็วกว่านี้อีกนิด. ถ้าเขาฉลาดมากพอที่จะเฉลียวใจถึงคำถามเกี่ยวกับตุ๊กตาตัวนั้น. วันนี้เขาคงไม่ต้องนั่งทุกข์ใจเจียนตายเช่นนั้น. ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะย้อนเวลากลับไป. ย้อนกลับไปถึงวันแรกที่เขาและเธอได้เจอกัน. ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน. เพียงแค่เอ่ยปาถามชื่อสักนิดและสลักชื่อนั้นไว้ในใจ. เรื่องราวต่างๆจะได้ไม่เป็นเหมือนอย่างตอนนี้
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ก็สายไปเสียแล้ว
สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับฉันใด. กาลเวลาก็มิอาจหวนคืนฉันนั้น
ความเจ็บปวดในตอนนี้คงต้องให้แอลกอฮอล์ทั้งหลายช่วยชะล้างออกไป. แต่คงได้แค่เพียงชั่วคราว. เพราะหลังจากหมดฤทธิ์แล้ว. ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิม
นอกจากน้ำเมาที่ว่างเรียงรายเต็มโต๊ะแล้ว. บนพื้นแกรนิตที่ดำยังมีเศษซากกระจัดกระจายของวัตถุใส. แก้วเหล้าราคาแพงได้กลายเป็นเครื่องระบายอารมณ์ขุ่นมัวภายในจิตใจของคิมจีวอน.
แพร้ง!!
หลังจากน้ำที่บรรจุอยู่ภายในหมดลงแก้วใบนั้นก็ไร้ค่าขึ้นมาทันที. มันถูกส่งลงไปนอนบนพื้นร่วมกับเพื่อนของมันที่กระจัดกระจายอยู่ก่อนหน้า.
ชายหนุ่มที่นั่งร่วมโต๊ะอีกสองคนได้แต่นั่งทำหน้าเอือมระอาเพราะไม่สามารถทำอะไรได้. เพียงแต่หวังว่าคนขาดสติจะไม่ทำอะไรให้ตัวเองต้องเจ็บตัว
ซงยุนฮยองลอบถอนหายใจ. นอกจากจะทำอะไรไม่ได้แล้วทุกครั้งที่เอ่ยห้ามเพื่อนสนิทยิ่งทำให้คิมจีวอนโมโหและดื่มเหล้าเข้าไปมากกว่าเดิม. ดังนั้นเขาจึงเลือกนั่งเฉยๆและคอยเป็นสารถีขับถไปส่งอีกฝ่ายที่บ้านน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ส่วนมิโนที่นั่งอยู่ด้วยกันแม้จะพอทราบสาเหตุบ้างว่าทำไมน้องชายคนสนิทถึงมีอาการเช่นนี้แต่ไม่ได้รู้รายละเอียดมากมายนัก. มือหนาหยิบแก้วเหล้ากระดกเป็นครั้งคราวแต่ไม่ได้สร้างความมึนเมาจนขาดสติเช่นคิมจีวอน
“ทำไมวะ!! ทำไม” คิมจีวอนพึมพำกับตัวเอง.
ปราศจากคำตอบมีเพียงมือหนึ่งของพี่ชายคนสนิทที่ประทับลงบนแผ่นหลังอย่างห่วงใย. น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆไหล
“โธ่เว้ย!!” คิมจีวอนคำรามออกมาพร้อมกับกระแทกแก้วลงบนโต๊ะ. เคราะห์ร้ายที่ครั้งนี้แก้วแหลกละเอียดคามือเขานำมาซึ่งน้ำสีแดงที่ให้หล่อเลี้ยงร่างกายและหัวใจ. คิมจีวอนแสยะยิ้มเหยียดก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินจากไป.
ยุนฮยองและมิโนรีบตามออกไปทันทีแต่ก็ไม่ทันเพราะชายหนุ่มขึ้นรถสปอร์ตคันหรูและขับออกไปอย่างรวดเร็ว. ยุนฮยองรีบขับรถตามออกไป. ส่วนมิโนให้ลูกน้องคนสนิทรีบตามไปด้วยกลัวว่ายุนฮยองคนเดียวจะไม่สามารถจัดการจีวอนได้.
คนเมาขาดสติแบบนั้นคงต้องให้ลูกน้องเขาจัดการถึงจะเอาอยู่
เพราะความเมาและความโล่งของถนนยามค่ำคืนจึงทำให้รถสปอร์ตคันหรูทำความเร็วได้อย่างน่าตกใจ. รถอีกสองคันที่ขับตามมายากจะตามได้ทันทำให้ทั้งยุนฮยองและคนของมิโนคลาดกับคิมจีวอนอย่างช่วยไม่ได้
ไม่มีใครรู้ว่าจุดหมายปลายทางของรถคันหรูจะหยุดลงที่ใดนอกจาเจ้าของเท้าหนักที่หยีบคันเร่งอย่างไม่เกรงอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงชั่วเสี้ยววินาที.
.
.
.
.
.
อากาศเย็นยามเช้าปลุกคนที่นอนบนโซฟาให้ตื่นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้. แม้อยากจะนอนต่อมากเพียงใดแต่ด้วยเพราะบุพการียังนอนป่วยอยู่ไม่ไกลทำให้ดาจองต้องขยับลุกจากเตียงมาดูอาการแม่ของเธอ.
ด้วยความเคยชินทำให้ตาคู่สวยมองไปยังเก้าอี้ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล. น่าแปลกที่วันนี้มันปราศจากร่างสูงที่มักจะจับจองเก้าอี้เป็นที่หลับนอนในยามค่ำคืนอยู่เสมอ
แม้จะไม่อยากพอเจอหน้าของอีกฝ่ายแต่พอตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นชายหนุ่มนอนอยู่ตรงนั้นจริงๆหัวใจของเธอกลับรู้สึกเศร้าขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ. ดาจองส่ายหน้าไล่ความคิดเพ้อเจ้อออกจากสมองก่อนจะเดินมาดูอาการของแม่ที่ข้างเตียง. คุณนายยุนยังคงหลับสนิทด้วยฤทิ์ของยานอนหลับ
ทีมแพทย์บอกให้ดาจองทำใจหลายครั้งด้วยเพราะโรคลุกลามจนหมดทางรักษา. ทำได้แค่ประคับประคองให้คนไข้ไม่ทรมานมากจนเกินไป. แม้จะรับรู้และไม่อาจปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้แต่ในใจลึกๆเธอยังหวังว่าแม่จะหายดี
แม้ความหวังจะไม่มีวันเป็นจริงเลยก็ตาม
ขาเรียวพาร่างระหงมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องหลังจากล้างหน้าและเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว. วันนี้ดาจองตั้งใจจะออกไปซื้ออาหารเช้ามาบำรุงแม่ของเธอที่ซูบผอมเนื่องจากทานอาหารได้น้อยลงและอาเจียนแทบจะตลอดเวลา. แต่ทันทีที่เปิดประตูออกกลับบางสิ่งบางอย่างขว้างทางไว้ทำให้เธอไม่สามารถเดินต่อไปได้
ร่างหนึ่งร่างกองอยู่ตรงหน้าพาดพิงขาท่อนล่างของเธอทันทีที่ประตูเปิดออก
เห็นเพียงแค่สันกรามด้านข้างเธอก็รู้ว่าเขาคนนั้นคือใคร. คงเพราะพิงประตูเอาไว้เมื่อเปิดออกอีกฝ่ายจึงอยู่ในสภาพนี้. กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนติดจมูกทำให้หญิงสาวพอจะเดาได้ว่าเมื่อคืนเขาคงดื่มไปมากไม่น้อย. แต่เธอแปลกใจมากกว่าที่เจ้าของร่างนี้มานอนอยู่หน้าประตูแทนที่จะนอนอยู่บนเตียงอุ่นที่คฤหาสน์หลังใหญ่.
ดาจองขยับเท้าถอยหลังทำให้ร่างหนาที่พิงขาเธออยู่ล้มลงกับพื้นทันที. เธอนั่งยองลงเพื่อปลุกอีกฝ่ายให้ตื่น แม้จะไม่อยากสนใจแต่เธอคงไม่สามารถปล่อยให้เขานอนขวางประตูแบบนี้ได้. แต่เมื่อเรียกแล้วไม่ตอบสนองเธอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องพร้อมกับกดเรียกพยาบาลด้านนอกให้มาช่วยยกคนตัวใหญ่ที่เมาไม่ได้สติ
เพราะคิมจีวอนทั้งตัวใหญ่และหนักทำให้ผู้หญิงร่างบางสองคนใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะพาร่างของเขาขึ้นไปนอนบนเตียงในห้องพักข้างๆได้. ดาจองสังเกตเห็นว่าที่มือขวาของจีวอนมีบาดแผลอยู่จึงให้พยาบาลช่วยทำแผลให้ด้วยกลัวว่ามันจะอักเสบและติดเชื้อ.
ด้วยความเชียวชาญทำให้นางพยาบาลสาวให้เวลาไม่นานนักในการคีบเศษแก้วออกจากแผลและทำแผลให้เรียบร้อยก่อนจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองและปล่อยให้ดาจองอยู่กับคิมจีวอนตามลำพัง
ดาจองมองสภาพของของที่เมามายไม่ได้สติก่อนเสียงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของคิมจีวอนจะดึงความสนใจของดาจองไป
‘ซงยุนฮยอง’
ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้ดาจองตัดสินใจรับสาย. ปกติเธอเป็นคนมีมารยาทมากพอที่จะไม่ยุ่งวุ่นวายกับทรัพย์สินของคนอื่น. แต่ครั้งนี้เธอคงต้องขอเสียมายาทเสียหน่อย.
“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว
[นั่นใครครับ ผมมั่นใจว่านี่คือโทรศัพท์ของเพื่อนผม] ปลายสายดูแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นเสียงของคนที่กำลังหลับไม่ได้สติ
“ฉันเองค่ะคุณยุนฮยอง จองดาจองค่ะ”
[ขอโทษทีครับ พอดีผมร้อนใจไปหน่อย นึกว่าเกิดอะไรกับจีวอน. ว่าแต่หมอนั่นอยู่กับคุณเหรอครับ]
“ใช่ค่ะ เขาอยู่ที่โรงพยาบาล..”
[เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ] ยังไม่ทันที่ดาจองจะได้อะอธิบายต่อซงยุนฮยองก็ถามแทรกขึ้นมาก่อน. เสียงของเขาฟังดูร้อนใจไม่น้อย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เขาก็แค่เมา.
[แล้วไป...นึกว่ามันไปแหกโค้งจนต้องเขาโรงพยาบาลซะอีก]
“หมายความว่ายังไงเหรอคะ”
ยุนฮยองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้ดาจองฟัง หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจ โชคดีที่ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น.
สายตามองทอดไปยังใบหน้าที่นอนนิ่ง. กลิ่นแอลกอฮอล์ยังคงลอยคละคลุ้งทำให้ดาจองตัดสินใจใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดตัวให้อีกฝ่ายเผื่อว่าจะได้นอนหลับอย่างสบายตัวมาขึ้น
“ดาจอง. ฉัน..ขอโทษ” เสียงละเมอแผวเบาดังขึ้นทำให้คนที่กำลังเช็ดตัวอยู่หยุดชะงัก.
“ฉัน ขอ..โทษ” คิมจีวอนละเมอทั้งที่ยังหลับอยู่. แต่ทว่าคราวนี้มีน้ำใสไหลออกมาจากหางตาของเขาด้วย.
ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่สนใจ. ทั้งที่ตั้งใจจะมองอ่ีกฝ่ายเป็นเพียงอากาศธาตุ ไร้ตัวตน. ไร้ความหมาย. แต่เพราะอีกฝ่ายนอนขวางหน้าห้องทำให้เธอต้องหันมาสนใจ. แม้ในใจขจะตั้งมั่นไว้ว่าเมื่อเขาหายเมาทุกอย่างก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม. หัวใจที่เคยหนักแน่นดังหินผากลับอ่อนยวบลงทันทีที่ได้ยินคำขอโทษ
ดาจองส่ายศีรษะก่อนจะเตือนตัวเองว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นเพียงแค่คำพูดของคนเมา. แต่มือเจ้ากรรมดันเลื่อนขึ้นไปเช็ดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาของชายหนุ่ม แม้จะโกรธเกลียดเขามากแค่ไหนปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอไม่อยากให้เขาตัวเสียน้ำตา.
เพราะน้ำตาของเขามันทำให้หัวใจของเธอเจ็บปวดด้วยเช่นกัน
.
.
.
.
.
25%
แสงแดดยามบ่ายสาดส่องกระทบใบหน้าคมที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย. เปลือกตาอันหนังอึ้งค่อยๆลืมขึ้นก่อนจะลุกขึ้นนั่งและยกมือขึ้นกุมศีรษะเพราะความมึนงง
แทนที่จะหายมึนกลายเป็นเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีเพราะมือข้างนั้นได้รับบาดเจ็บจนได้เลือด. คิมจีวอนนึกทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น. เขาจำได้ว่าเมื่อวานเขาไปที่บ้านของดาจองและได้รู้ว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวคือเด็กผู้หญิงคนเดียวกันกับที่เขาพบเมื่อสิบกว่าปีก่อน. เมื่อนึกถึงตรงนี้หัวใจของเขาก็สั่นไหวและเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง. น้ำตาลูกผู้ชายค่อยๆรินไหล.
เสียงเปิดประตูทำให้จีวอนยกมืออีกข้างขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะหันมองผู้มาใหม่. พยาบาลสาวเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดอาหารและยา. กลิ่นหอมของซุปทำให้คิมจีวอนรู้สึกหิวขึ้นมาบ้าง
“คุณตื่นแล้วเหรอคะ” พยาบาลสาวกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
“เมื่อคืนคุณเมามากแล้วก็ไปนอนอยู่หน้าห้องคุณนายยุน. ฉัน...จึงช่วยพาคุณมานอนพักที่นี่” พยาบาลสาวอึกอัก
คิมจีวอนพยักหน้าเชิงรับรู้.
พยาบาลสาวไม่ได้กล่าวต่อเพียงแค่วางถาดอาหารลงบนโต๊ะแล้วเลื่อนให้ชายหนุ่มรับประทาน
คิมจีวอนเปิดฝาถาดอาหารที่พยาบาลนำมาให้ ซุปถั่วงอกส่งกลิ่นหอบทำให้คนที่มีอาการเมาค้างไม่ลังเลที่จะหยิบช้อนด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดตักซุปเข้าปากคำโต
เมื่อเห็นคนบนเตียงรับประทานอาหารอย่างไม่อิดออดพยาบาลสาวจึงเดินออกไปรายงานอาการของคนให้ห้องให้เจ้าของซุปแก้เมาค้างได้ทราบ. ดาจองที่ยืนรออยู่หน้าห้องพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้. เธอมองลอดกระจกใสอยู่ครู่หนึ่งเพื่อดูให้แน่ใจว่าคิมจีวอนกินได้มากพอจนวางใจจึงเดินกลับเข้าไปในห้องของคุณนายยุนที่อยู่ติดกัน
หลังจากรับประทานอาหารมื้อแรกของวันเสร็จไม่นาน. แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ปรากฏตัวขึ้นในห้อง. จีวอนสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าเพื่อนสนิทรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่นี่. แต่เมื่อเห็นคนที่เดินเขามาด้วยกันเขาก็คลายความสงสัย. คงเป็นพยาบาลสาวเมื่อครู่ที่เป็นคนบอกเรื่องนี้กับยุนฮยอง. คราวนี้เธอเดินเขามาเก็บถาดอาหารและยาที่นำเข้ามาเมื่อครู่ก่อนจะปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสองได้คุยกัน
ยุนฮยองเริ่มการสนทนาด้วยการรายงานเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในชินกิกรุ๊ป. ซึ่งแน่นอนว่าปัญหาส่วนใหญ่ไม่ต้องถึงมือคิมจีวอนแต่เขาก็ควรรับทราบเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในฐานะทายาทคนต่อไปของชินกิกรุ๊ป.
“โชคดีนะที่เมื่อคืนนายไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น”
จีวอนพยักหน้าก่อนจะเบือนหน้าไปยังหน้าต่างใสที่มีผ้าม่านโปรงแสงบดบังความเจิดจ้าของดวงอาทิตย์ยามบ่าย. เจ้าของหน้าคมมองเม่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม
“ฉันจะทำยังไงดี”
“เรื่องอะไรหล่ะ” ยุนฮยองถามด้วยใบหน้าระรื่นไม่รู้ร้อนรู้หวาน.
ความจริงเขาจะรู้อยู่แก่ใจว่าเพื่อนสนิทมีเรื่องกัลวลอะไร. แต่ขอให้ได้กวนส้นเท้าอีกฝ่ายหน่อยเถอะ
จีวอนมองตาขวางในทันที. เหมือนกับเพื่อนสนิทคนนี้จะไม่อยากมีชีวิตยืนยาวเสียแล้ว
เมื่อเห็นสายตาของคิมีวอนแทนที่ซงยุนฮยองจะหวานหวั่นเขากลับหัวเราะออกมา
“โอเค ไม่กวนละ...นายรู้มั๊ยว่าทำไมฉันถึงรู้ว่านายอยู่ที่นี่”
“พยาบาลที่นี่คงโทรบอกแก. ไม่ก็แกหารถฉันจนเจอ”
“ผิด...คุณดาจองเป็นคนบอกฉันเมื่อเช้า”
“ดาจอง” จีวอนพึมพำกับตัวเอง. สายตาของเขาหม่นมองลงอย่างเห้นได้ชัด.
“ที่ฉันบอกให้แกขอโทษคุณดาจองแกทำรึยัง”
จีวอนส่ายหน้าแทนคำตอบ. หน้าเขาเธอยังไม่อยากจะมอง. เสียงของเขาเธอคงไม่อยากได้ยินเช่นกัน. ยุนฮยองได้แต่ถอนหายใจ
“ฉันขอด่าแกหน่อยนะไอ้เพื่อนโง่. ไอ้เพื่อนควาย ทีเรื่องอื่นจัดการได้ดี วางแผนทำโน่นทำนี่สารพัด. กับอีแค่คำขอโทษแค่นี้กลับทำไม่ได้. โง่งี้เง่าชะมัด”
“ซงยุนฮยองฉันเป็นเจ้านายแกนะ”
“เออ แต่ฉันเป็นเพื่อนแก ที่ฉันด่าแกเพราะอยากให้แกสมหวังซะที. รู้มั๊ยพวกเราสามคนอยากจะด่าแกมากกว่านี้ด้วยซ้ำ”
“ก็ได้ๆๆ ฉันผิดๆๆ แต่..”
“แต่ไรวะ” ยุนฮยองสงสัย
“ฉันกลัวคำตอบ. ถ้าเธอไม่ให้อภัยฉัน”
“นายเคยได้ยินมั๊ย. น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนเลย. นับประสาอะไรกับหัวใจคน. แล้วฉันว่านะคุณดาจองเขาคงเริ่มใจอ่อนแล้วแหละ. ไม่งั้นเขาคงปล่อยให้แกนอนหนาวอยู่หน้าห้องแม่เขาแล้ว.” เมื่อได้ยินดังนั้นคิมจีวอนคอตกก็ดีใจจนลิงโลดขึ้นมาทันที
“แล้วอีกอย่างนะ. ฉันว่าแกควรเลิกอ้างเรื่องสัญญาบ้าๆนั่นได้แล้วนะ. คุณดาจองเขาจะได้ให้อภัยแกเร็วขึ้น”
ดีใจได้ไม่นานก็ต้องกลุ้มใจขึ้นมาอีกครั้ง. ถ้าเขายกเลิกสัญญาแล้วเขาจะรั้งเธอไว้ได้อย่างไร
“ไม่มีทาง สัญญานั่นยังมีประโยชน์กับฉัน. อย่างน้อยก็ทำให้ดาจองอยู่กับฉัน”
“อยู่แต่ตัวหล่ะสิ” ยุนฮยองกล่าวอย่างระอา. เมื่อไหร่คิมจีวอนจะคิดได้เสียที
“หมายความว่าไง” คิมจีวอนค้อนขวับให้เพื่อนสนิท
ซงยุนฮยองไม่รู้จะทำอย่างไรกับเพื่อนที่กะโหลกศีรษะหนาเช่นคิมจีวอนดี
“คิดว่าสัญญานั่น หรือโซ่ หรืออะไรก็ตามที่แกคิดว่าจะผูกมัดคุณดาจองไว้กับนายได้ตลอดไปอย่างนั้นเหรอ”
คิมจีวอนไม่ตอบ. เขารู้ดีกว่ายุนฮยองหมายความว่าอย่างไร. ถึงวันหนึ่งถ้าหญิงสาวต้องการจะไปจากเขา. คงไม่มีอะไรที่รั้งเธอไว้ได้
“นายต้องรู้จักใช้หัวใจตัวเองรั้งหัวใจคุณดาจองเอาไว้. เข้าใจมั๊ย ใจรั้งใจ หน่ะ”
.
.
.
.
.
ตลอดระยะเวลาสองเดือนคิมจีฮเยไม่ได้พบกูจุนฮเวเลยแม้แต่ครั้งเดียว. แม้เธอจะเพียรไปยังร้านอาหารกึ่งผับของเขาบ่อยครั้งแต่ทุกครั้งก็ต้องผิดหวังกลับไปเสมอ. เพราะคนที่เธอตามหาไม่ได้อยู่ที่นั่นจนตอนนี้เธอเริ่มถอดใจและคิดว่าควรเลิกไล่ตามเขาได้แล้ว
คิมจีฮเยนึกตลกตัวเอง. ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนที่ไล่ตามคือกูจุนฮเว. แต่ทว่าวันนี้เธอกลับเป็นคนที่ไล่ตามอีกฝ่าย. แม้จะไม่ได้ออกปากไล่เธอตรงๆอย่างที่เธอเคยทำแต่การหายหน้าหายตาของเขาคงเป็นการการไล่เธอทางอ้อม
แบบนี้สินะที่กูจุนฮเวเคยรู้สึก...วันนี้เขาทำให้เธอรู้สึกบ้างเช่นกัน
มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือ?
ความสัมพันธ์ระหว่างคิมจีฮเยกับกูจุนฮเวที่เหมือนกำลังห่างกันทำให้หลายคนในบริษัทจับตามเรื่องระหว่างเธอกับลูกค้ารายใหญ่ ‘ยางฮงซอก’. และทำให้เกิดข่าวลือที่ว่าเธอเลิกกับกูจุนฮเวมาคึบกับยางฮกซอกแล้วเพราะพักนี้ไม่เห็นชายหนุ่มคนสนิทของเธอเลย. แต่ใครจะรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นเป็นเพียงละครที่เธอแสดงตบตาคนอื่นเท่านั้น
แม้ว่าจะเกิดเรื่องในวันนั้นแต่ยางฮกซอกยังคงแวะเวียนมาที่บริษัทของคิมจีฮเยอยู่บ่อยครั้ง. เรื่องที่คิมจีฮเยหมดสติไปนั้นมิโนไม่ได้เล่ารายละเอียดทั้งหมดและฮงซอกก็ไม่ได้พูดอะไร. เขาบอกเธอเพียงว่ากำลังจะพาเธอกลับบ้านแต่มิโนมาขวางไว้ก่อน. และเพราะมิโนอ้างว่าเป็นเพื่อนกับจีฮเยจึงยอมให้มิโนดูแลจีฮเยต่อ. โดยเขาได้โทรมาสอบถามอาการของเธอในเช้าวันรุ่งขึ้น. เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้วจีฮเยจึงเริ่มมองยางฮงซอกเปลี่ยนไปเล็กน้อย.
มันยากที่จะเชื่อว่าผู้ชายดูดีและเป็นมิตรอย่างยางฮงซอกจะเป็นผู้ชายอันตราย. ดังนั้นจีฮเยจึงค่อยๆลืมเลือนคำเตือนของมิโนที่ให้เธอระวังผู้ชายที่ชื่อยางฮงซอกในที่สุด. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายางฮงซอกปฏิบัติกับจีฮเยอย่างดี. แถมยังให้เกียรติเธอมากขึ้นกว่าเดิมจนจีฮเยเริ่มกลับมาไว้เนื้อเชื้อใจเขาอีกครั้ง.
และเพราะผลกำไรที่มากถึง 50% ที่เขาได้จากเงินลงทุนก้อนใหญ่ทำให้พนักงานบริษัททุกคนถูกเชิญให้ร่วมงานเลี้ยงที่ยากฮงซอกตั้งใจจัดขึ้น.
งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นที่ร้านอาหารเพื่อนสนิทของยางฮงซอก. ซึ่งความจริงแล้วร้านนี้คือร้านของเขาเอง. แต่เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบและภาษีเขาจึงอาศัยชื่อเพื่อนสนิทที่มีนามสกุลใหญ่โตพอที่จะจัดการเรื่องตุกติกได้และเสนอผลประโยชน์เป็นการตอบแทน. นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีบ่อนการพนันและสถานบันเทิงอีกหลายแห่งที่เป็นแหล่งเงินให้กับยางฮงซอก. ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ของจีฮเยก็เป็นเพียงที่ฟอกเงินที่หนึ่งเท่านั้นที่คอยทำให้เงินของเขาดูเหมือนเงินที่ถูกกฏหมาย
พนักงานบริษัทหลายสิบชีวิตกำลังสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน. ยกเว้นแต่ผู้หญิงหน้าหวานที่กำลังนั่งหลบมุมเพียงคนเดียว.
“งานเลี้ยงไม่สนุกเหรอครับถึงได้มานั่งหลบมุมอยู่ตรงนี้”. ฮงซอกนั่งลงข้างผู้หญิงที่ทำกำไรให้เขามากมาย. และเปลี่ยนเงินสกปรกของเขาให้ขาวสะอาด
“เปล่าค่ะ ฉันแค่เพลียนิดหน่อย”
“ไม่ใช่เพราะผมและเงินลงทุนของผมที่ทำให้คุณต้องรู้สึกเพลียใช่มั๊ยครับ” ฮงซอกแกล้งเย้า. จีฮเยหลุดยิ้มขำ
“ไม่หรอกค่ะ ฉันต้องขอบคุณคุณด้วยซ้ำที่ทำให้บริษํทเรามีกำไรมากขนาดนี้”
“งั้นดื่มให้กับความสำเร็จกันเถอะครับ” ฮงซอกยกแก้วขึ้นเป็นเชิงเชื้อเชิญอีกฝ่ายแต่หญิงสาวปฏิเสธ
“ไว้โอกาสหน้านะคะ วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเลยไม่อยากดื่ม” ชายหนุ่มไม่ได้บังคับฝืนใจอีกฝ่ายแต่อย่างใด. เขานั่งคุยกับเธออีกเล็กน้อยก่อนที่จะขอตัวไปดูแลความเรียบร้อยและให้ความบันเทิงกับคนอื่นๆในฐานะเจ้าภาพ
เมื่องานเลี้ยงเลิกก็เป็นโอกาสอันดีของฮงซอกที่จะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการไปส่งคิมจีฮเยที่บ้าน. แต่แรกหญิงสาวปฏิเสธแต่รถเจ้ากรรมของเธอดันยางแบนโดยไม่มีสาเหตุ. ดังนั้นเธอจึงตกลงกลับบ้านกับเขาแต่ก็ไม่วายส่งข้อความบอกคิมจินฮวานพี่ชายของตัวเองก่อน.
แค่เผื่อเอาไว้เท่านั้น. เผื่อจะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น
.
.
.
.
.
50%
“ถ้าคุณจีฮเยรู้สึกไม่สบายก็นอนพักได้นะครับ ถึงบ้านคุณเมื่อไหร่แล้วผมจะปลุก” ชายหนุ่มพูดออกไปอย่างสุภาพเพราะดูจากอาการของหญิงสาวแล้วไม่น่าจะประคองสติจนถึึงบ้านได้
“ไม่เป็นไรค่ะ” คิมจีฮเยพยายามฝืน
รถแล่นไปได้ซักระยะความจริงที่ถูกซ้อนเร่นอยู่ถูกเปิดเผย. ยางฮงซอกพารถคันงามออกนอกเส้นทาง. ตอนแรกคิมจีฮเยคิดว่าเขาคงจะพาเธอมาทางลัดเนื่องจากอยากรีบส่งเธอให้ถึงบ้านโดยไวจึงยังไม่ได้ทักท้วงอะไรชายหนุ่ม. แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วจะเห็นว่าเส้นทางที่เขาพามานั้นมันคนละทางกับบ้านของเธอหญิงสาวจึงเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล
“คุณจะพาฉันไปไหนคะ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านของฉันนะคะ”
ไม่มีคำตอบ. มาแต่รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนหน้าและนั่นทำให้จีฮเยเริ่มหวั่นใจ
“จอดรถ ฉันบอกให้จอดรถ”
ยางฮงซอกไม่ทำตาม. มิหนำซ้ำยังเร่งคันเร่งควบม้าเหล็กให้ทะยานไปบนถนนสายเปลี่ยวอีกด้วย
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะจอดทางรอดเดียวของคิมจีฮเยคือขอความช่วยเหลือ. และคนแรกที่เธอนึกถึงคือกูจุนฮเว. ไวเท่าความคิดคิมจีฮเยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพยายามจะส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปหากูจุนฮเวแต่อีกฝ่ายก็จัดการคว้าโทรศัพท์ของเธอไว้ได้
“นั่นมันโทรศัพท์ฉันนะ. เอาคืนมา” หญิงสาวตะโกนต่อว่าคนมือไวที่หญิบโทรศัทพ์ของเธอไป
“ไม่ต้องห่วง เสร็จเรื่องนี้เมื่อไหร่. ผมจะคืนโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดให้คุณเลย. แต่ตอนนี้คุณคงต้องบอกลามันก่อนนะ” พูดจบชายหนุ่มก็โยนโทรศัพท์ของคิมจีฮเยทิ้งลงบนถนน. โทรศัพท์แตกละเอียดและกลายเป็นขยะอย่างน่าเสียดาย. หญิงสาวรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาทันที
โทรศัทพ์ของเธอ.
ทางรอดสุดท้ายของเธอ.
จบสิ้นแล้ว.
คิมจีฮเยนึกถึงคำเตือนของมิโนว่ายางฮงซอกเป็นคนอันตราย. ถ้าเพียงเธอเชื่อมิโนมากกว่านี้อีกซักหน่อย. เธอคงไม่ตกลงขึ้นรถมากับเขาเช่นนี้แน่. เรื่องนี้คงจะโทษใครไม่ได้นอกจากความเขลาของตัวเธอเอง
“ถ้าคุณจะขอความช่วยเหลือจากใคร. ไม่ต้องกลัวหรอกนะ. ผมรับรองว่ามีคนรีบมาช่วยคุณแน่ทันทีที่มันรู้ว่าคุณอยู่กับผม” ยางฮงซอกทำลายความเงียบภายในรถ เขาหันมายิ้มให้คนข้างๆอย่างมีแผน
“หมายความว่าไง”
ยางฮงซอกไม่ตอบทำเพียงเหยียบคันเร่งหนักกกว่าเดิม.
ซานตานในคราบสุภาพบุรุษเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง. เขาเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับและกระชากแขนหญิงสาวที่นั่งรถมาด้วยกันให้ออกมา. คิมจีฮเยพยายามขัดขืนและนั่นยิ่งทำให้ยางฮงซอกกระชากแขนเธอแรงขึ้น. ในที่สุดเขาก็พาเธอลงมาจากรถได้สำเร็จ.
สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยทำให้จีฮเยยิ่งหวาดกลัว. บ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้ชายในสูทสีดำยืนเรียงราย. แต่ละคนไม่บอกก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร. ทุกคนมองจีฮเยเป็นตาเดียว. หญิงสาวในชุดกระโปรงสั้นพยายามขืนตัวไม่เดิมไปตามแรงฉุดกระชากโดยหารู้ไม่ว่ากำลังทำให้ใครบางคนอารมณ์เสีย
“ตามมาดีๆ อย่าดื้อ.เพราะถ้าดื้อเธออาจจะไม่ได้มีผัวคนเดียวแน่”
สิ้นประโยคของฮงซอกใจของจีฮเยดิ่งวูบลงสู่พื้นทันที. น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้เอ่อล้นด้วยความหวาดกลัว. เธอเริ่มร้องขอความเมตตาจากอีกฝ่าย
“คุณฮงซอก...คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ. คุณต้องการอะไรฉันจะทำตามคุณทุกอย่างเลย. ขออย่างเดียวคุณปล่อยฉันไปได้มั๊ย”
“ไม่ต้องทุกอย่างหรอก. แค่อย่างเดียวก็พอ” จบประโยคร่างของจีฮเยก็ทะยานขึ้นบนอากาศพาดบนบ่าของยางฮงซอกเรียบร้อยแล้ว. เธอทั้งทุบ ทั้งดิ้น. แต่ไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย และไม่นานร่างของเธอก็ถูกเหวี่ยงลงบนเตียงนุ่มในห้องนอนใหญ่. หญิงสาวตัวสั่นเทาและกระเถือบถอยหนี
.
.
.
.
.
เวลาเกือบเที่ยงคืนแต่ทว่าทายาทรุ่นที่สองของบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลียังคงอ่านเอกสารสำคัญที่พ่อบ้านของเขาเตรียมไว้ให้. มือขวาขยับหยิบแก้วกาแฟร้อนที่ถูงวางทิ้งไว้นานจนกลายเป็นเย็นชืดยกขึ้นจิบเบาๆโดยไม่ได้สนใจว่ารสชาติของมันเป็นเช่นไร. เขากลับไปจดจ่อกับเอกสารอีกครั้งก่อนที่จะมีใครบางคนเข้ามาขัดจังหวะ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ชายหนุ่มเจ้าของห้องจะอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามา. พ่อบ้านเข้ายูมาพร้อมกับโทรศัพท์ไร้สายก่อนจะยื่นให้กูจุนฮเว.
แม้จะสงสัยว่าใครกันที่โทรมาในยามวิกาลเช่นนี้แต่เขาก็รับโทรศัพท์มาอย่างไม่ใส่ใจนัก
“มีอะไร”
[สวัสดีครับคุณชายกู] เสียงจากปลายสายดังขึ้น กูจุนฮเวจำเสียงได้ทันทีว่าคนที่อยู่ปลายสายคือใคร
“ต้องการอะไร”
น้ำเสียงของเขาทุ่มต่ำและเย็นเฉียบลงอย่างชัดเจนจนพ่อบ้านยูที่ยืนรอรับฟังคำสั่งอยู่ไม่ไกลสังเกตได้. คนมากประสบการณ์เดาได้ทันทีว่าหลังจากจบบทสนทนาจะต้องมีเรื่องบางอย่างตามมาแน่นอน
[ไม่มีอะไร. แค่มีคนบางคนต้องการความช่วยเหลือจากนาย บอกมันไปสิ...] กูจุนฮเวขมวดคิ้ว ก่อนจะได้ยินเสียงหนึ่งที่คุ้นเคย
[กูจุนฮเว...ช่วยฉันด้วย] เสียงจากปลายสายทำให้คนได้ยินลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“แกอยู่ที่ไหน”
[หึ! ใจเย็นๆสิครับ ไม่เห็นต้องทำเสียงดุขนาดนั้นเลย] ยางฮงซอกยังคงล้อเล่นโดยที่รู้อยู่แล้วว่าคู่สนทนากำลังเต้นเป็นนเจ้าเข้าแน่ๆ
“ฉันถามว่าตอนนี้คิมจีฮเยอยู่ที่ไหน!!” กูจุนฮเวกัดฟันกรอด ถ้ายางฮงซอกอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้รับรองได้ว่าเขาจะต้องฉีกเนื้อผู้ชายคนนั้นออกเป็นชิ้นๆแน่
[บนเตียงของฉันเอง]
“ไอ่เลวเอ้ย!!”
[ถ้าไม่อยากให้ผู้หญิงของแกเป็นอะไรก็มาที่บ้านฉัน มาคนเดียวหล่ะ แล้วฉันรับรองว่าฉันจะไม่ทำอะไรผู้หญิงของแก]
สิ้นเสียงอีกฝ่ายกูจุนฮเวรีบยืนขึ้นเต็มความสูงทันที. ขาคู่ยาวไม่รอช้าก้าวเข้าไปยังห้องแต่งตัวและเปลี่ยนจากชุดนอนเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ที่หาได้ง่ายที่สุด. ไม่ถึงสองนาทีชายหนุ่มรีบเดินออกจากห้องโดยมีพ่อบ้านไว้กลางคนเดินตามไปติดๆ
“ดึกแล้วนายน้อยจะออกไปไหนครับ” พ่อบ้านยูเอ่ยถาม. ไม่ใช่อยากรู้แต่เพราะเป็นห่วงกลัวว่าชายหนุ่มเลือดร้อนจะทำอะไรขาดสติ.
กูจุนฮเวไม่ตอบเขารีบเดินจ้ำอ้าวไปยังดูคาติคู่ใจโดยไม่สนใจเสียงทัดทานจากอีกฝ่าย
แม้จะรู้ดีว่าเป็นกับดัก
แม้จะรู้ดีว่าอันตรายแค่ไหน
แม้จะรู้ดีว่าอาจต้องแลกด้วยชีวิต
แต่เพราะคิมจีฮเยกำลังตกอยู่ในอันตราย...เขาจึงต้องไป
เพื่อปกป้องหัวใจของตัวเอง
เมื่อเห็นว่าคนหนุ่มเลือดร้อนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด. พ่อบ้านยูที่ไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้จึงตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือจากใครบางคนและให้ลูกน้องอีกเกือบสิบชีวิตตามนายน้อยของเขาไป. ถ้าเขาเดาไม่ผิดคนปลายสายคงจะเป็นยางฮงซอกและจะต้องเกี่ยวพันกับคุณหนูจีฮเยคนนั้นแน่นอน. ไม่อย่างนั้นกูจุนฮเวที่มักจะเฉยชาไม่ใส่ใจเรื่องของคนอื่นคงไม่รีบร้อนจนขาดสติเช่นนี้
ใช้เวลาไม่นานม้าสีแดงนามดูคาติก็พาเจ้าของเหาะมาถึงที่หมาย. กูจุนฮเวคาดการณ์ไว้แล้วว่าคงไม่สามารถเดินเข้าไปยังบ้านของยางฮงซอกได้ราวกับเขาที่ได้รับเชิญ. ชายสูงใหญ่หลายคนยืนรอเขาที่หน้าบ้านพร้อมจะกระฉากเขาออกเป็นชิ้นๆ. แต่มีหรือที่กูจุนฮเวจะเกรงกลัว
ตระกูลกูได้ชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งในตระกูลผู้มีอิทธิพลมาตั้งแต่อดีต แก๊งค์อันธพาลน้อยใหญ่ต่างยกให้แก๊งค์มังกรดำของตระกูลกูเป็นอันดับหนึ่ง. ถึงแม้ในช่วงหลังแก๊งค์มังกรดำจะผันตัวมาทำงานถูกกฎหมายอย่างบริษัทรักษาความปลอดภัย. แต่ทว่าอิทธิพลของแก๊งค์มังกรดำก็ยังคงเป็นอันดับหนึ่งไม่เสื่อมคลาย. คนหลายกลุ่มตั้งใจจะล้มแก๊งค์มังกรดำแล้วขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแทนแต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครหรือคนกลุ่มไหนทำได้.
กูจุนฮเวผู้ได้ชื่อว่าสืบทอดเชื้อสายมาจากมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้อย่างน้อยในดีเอ็นเอของเขาก็มาสัญชาตญาณในการต่อสู้. แม้จะเกลียดการใช้กำลังแต่เขาก็ได้รับการฝึกฝนด้านการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก เทควันโด มวย ยิงปืน ฟันดาบ เขาล้วนชำนาญ. แค่ลูกน้องกระจอกไม่กี่คนคิดหรือว่าจะหยุดเขาได้
ปัง!
ประตูห้องนอนอันเป็นที่หมายเปิดออกด้วยแรงทีบอันมหาศาล บรรดาคนของยางฮงซอกนอนกองอยู่หน้าห้องหลายชีวิต. ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องพร้อมลมหายใจหอบเหนื่อย. ใบหน้าที่เคยเกลี้ยงเกลาแต่งแต้มด้วยแผลบริเวณหางคิ้วและมุมปาก. น้ำสีแดงไหลเป็นสายแต่เจ้าตัวหาได้สนใจ. สิ่งเดียวที่เขาสนใจในตอนนี้คือผู้หญิงที่ชื่อคิมจีฮเย
สายตาสอดส่ายจนพบคนที่เขาต้องการ. ขาคู่ยาวรีบก้าวไปยังทิศทางที่ใจเรียกร้องทันที
คิมจีฮเยถูกมัดมือมัดเท้าพร้อมกับเทปกาวอันใหญ่ที่ปิดปากเธอไว้นั่งอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องนอนใหญ่. เมื่อเห็นกูจุนฮเวเปิดประตูเธอตกใจปนดีใจ. ตกใจที่เห็นชายหนุ่มเพราะไม่คิดว่าเขาจะมาช่วยเธอจริงๆ. และดีใจที่เขามาช่วยเธอ. แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของคนชั่วยางฮงซอกหญิงสาวจึงรีบห้ามชายหนุ่มทันที. แม้จะไม่สามารถพูดได้แต่เธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากใหู้จุนฮเวเช้ามาในห้องนี้. เธอร้องไห้และพยายามตะโกน. พยายามส่ายหน้า. พยายามทำทุกอย่างไม่ให้กูจุนฮเวเข้ามาใกล้ตัวเธอแต่ก็สายไปเสียแล้ว
ชายหนุ่มคุกเข่าลงหมายจะเช็ดน้ำตาที่อาบสองแก้มและแก้มัดให้เธอได้เป็นอิสระโดยหารู้ไม่ว่าเหตุร้ายกำลังคืบคลานเข้ามา
“มาแล้วเหรอ” เสียงห้าวกระซิบไม่ห่างจากใบหูของกูจุนฮเวพร้อมกับวัตถุสีดำที่สามารถปลิดชีวิตผู้อื่นได้. ถ้าเดาไม่ผิดอีกคนคงแบบซ่อนอยู่ภายในห้องและรอจังหวะที่กูจุนฮเวไม่ทันระวังตัว.
‘หน้าตัวเมีย’ คนจนมุมได้แต่สบถในใจ. เพราะถ้าพูดออกไปหัวสมองของเขาคงกระจายเต็มพื้นแน่นอน
“ลุกขึ้น” ยางฮงซอกสั่งอีกฝ่าย.
กูจุนฮเวยกมือขึ้นเหนือศีรษะประหนึ่งยอมแพ้ แต่เขากำลังหาโอกาสผลิกตัวและแย่งปืนจากอีกฝ่าย
“หันหน้ามา” คนได้เปรียบออกคำสั่ง กูจุนฮเวค่อยๆหันหน้าไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ปืนกระบอกนั้นจ่ออยู่ที่หน้าของเขาพอดิบพอดี นิ้วยาวของยางฮงซอกเกี่ยวไกปืนไว้พร้อมปลิดชีพอีกฝ่าย
“ต้องการอะไร” เมื่อยังไม่สบโอกาสแย่งปืนจากอีกฝ่าย เขาจึงเป็นฝ่ายเปิดฉากเจรจา
“มึงอยากรู้จริงๆเหรอว่ากูอยากได้อะไร .. อย่าโง่ไปหน่อยเลยนะคุณชายกู”
“กูไม่รู้..แต่ถ้าสิ่งที่มึงต้องการไม่เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ปล่อยเธอไปซะ”
“ฮ่าๆๆ ขำว่ะ ผู้ร้ายอย่างมึงอยากทำตัวเป็นพระเอกะงั้น”
“มึงต้องการอะไรกันแน่”
“ชีวิตมึงไงหล่ะ”
ปัง!!
อ๊าย!!!!! เสียงปีนดังขึ้นพร้อมกับเสียงหวีดร้องของผู้หญิงคนเดียวในห้อง
ยางฮกซอกเหนี่ยวไกปืนเมื่อพูดจบ
กระสุนนัดนี้ไม่ได้ถูกอวัยวะสำคัญที่สามารถพรากลมหายใจของเขาไปได้. แต่มันก็ทำให้ขาข้างซ้ายของกุจุนฮเวบาดเจ็บจนไม่สามารถยืนทรงตัวได้. ชายหนุ่มทรุดลงกับพื้น
“อูอุนเอ” (กูจุนฮเว) คิมจีฮเยตะโกนเรียกอีกฝ่าย สายตาของเธอบอกว่าเธอกำลังเป็นห่วงอีกคนแทบขาดใจ
‘ยัยบ้า!! อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น แค่นี้ฉันไม่เป็นไรหรอกนะ’
กูจุนฮเวได้แต่คิดในใจพร้อมกับส่งรอยยิ้มแสนทะเล้นให้คิมจีฮเยเพื่อให้เธอคลายกังวล ทว่าอีกฝ่ายไม่มีท่าทีว่าจะเบาใจเลยแม้แต่น้อย
ยางฮงซอกย่อตัวลงนั่งข้างๆกูจุนฮเว
“อุ๊ย โทษที มันเป็นอุบัติเหตุว่ะ โถ่ๆๆ คุณชายกู ขาเพิ่งหายกลับมาเดินได้ แต่ว่าโดนยิงอีกละ”
คนชั่วยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะใช้เท้าเยียบขยี้ลงบนรอยแผลที่มีน้ำสีแดงไหลมาอย่างไม่ขาดสายอย่างไร้ความปราณีราวกับว่ากำลังระบาดแค้นที่เขามีต่ออีกฝ่าย
ความแค้นที่ฝั่งในใจมานาน
“ความจริง มึงกับพ่อของมึงควรจะตายไปตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้นแล้วนะ แต่มึงกับพ่อมึงยังดวงแข็งรอดมาได้ กูโคตรนับถือเลย”
“มะ..หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่า…มันไม่ใช่อุบัติเหตุยังไงหล่ะ กูเองนี่แหละที่เป็นคนวางแผนทุกอย่าง แต่มึงกับพ่อก็ยังไม่ตาย!”
ปัง!!
คราวนี้กระสุนเฉียดแขนซ้ายของคนที่ทรุดลงกับพื้นเพราะความเจ็บปวด เท้าหนักกระทืบซ้ำอีกครั้งจนหน้าหล่อของกูจุนฮเวทาบลงกับพื้น สายตาของเขามองเห็นหญิงสาวที่นั่งร้องไห้จนตัวสั่น พยายามอย่างมากที่จะพยุงตัวให้เข้ามาหาเขา
น่าหงุดหงิดชะมัด ช่วยหยุดร้องไห้ก่อนได้มั้ย ไม่เห็นหรือไงว่าตอนนี้เขาไม่ว่างเช็ดน้ำตาพวกนั้น
80%
“อูอุนเอ (กูจุนฮเว)” เสียงเล็กอู้อี้ของคนท่ีถูกมัดอยู่เรียกความสนใจคนที่เป็นต่อ
“เป็นห่วงมันเหลือเกินนะ” พูดจบเท้าหนักก็กระแทกเข้าที่กลางลำตัวของคนที่นอนกองบนพื้น. กูจุนฮเวกัดฟันกรอด
มือสกปรกบีบเข้าที่คางมนของคิมจีฮเย. รอยยิ้มรายเผยขึ้นมาจนอีกฝ่ายรู้สึกหวั่นใจอย่างประหลาด
“อยากช่วยมั๊ยมั๊ยหล่ะ” ยางฮงซอกเอ่ยถามคิมจีฮเย
หญิงสาวไม่ตอบ เธอเพียงพยักหน้าสองสามทีก่อนที่ทั้งร่างจะถูกอุ้มขึ้นและวางลงบนเตียงอุ่นที่อยู่ไม่ไกล
“ปล่อยจีฮเยเดียวนี้นะ” กูจุนฮเวที่นอนอยู่บนพื้นพูดออกมาอย่างอยากลำบาก. แขนทั้งสองพยายามหยัดตัวให้ลุกขึ้น
“มึงอย่าปฏิเสธน้ำใจของคุณจีฮเยเขาสิ เขาอุตส่าห์อยากช่วยมึงนะ”
ร่างบางที่เพิ่งถูกวางลงบนเตียงนุ่มตระหนักได้ทันทีว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคืออะไร. น้ำตาที่เหือดแห้งไปก่อนหน้านี้กลับเอ่อล้นอีกครั้ง.
ทั้งตระหนก
ทั้งหวาดกลัว
ทั้งยังอยากช่วยให้กูจุนฮเวปลอดภัย
“หวังว่ามึงจะชมหนังรักขอกูอย่างมีความสุขนะ” ยางฮงซอกแสยะยิ้มก่อนจะประทับจูบบนริมฝีปากแดงของคนที่อยู่บนเตียง. คิมจีฮเยพยายามขัดขืนแต่มือทั้งสองยังถูกมัดไว้อย่างแน่หนาทำให้เธอทำอะไรไม่ได้มากนักนอกจะพยายามปิดปากของตัวเองเพื่อไม่ให้คนสารเลวได้สมใจหวัง
กูจุนฮเวไม่สามารถทนมองสิ่งที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไปแล้ว. เขารวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีดันตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนจะกระชากไหล่ของฮงซอกให้หันกลับมาโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว หมัดหนักตะบันเข้าที่หน้าหล่อของฮงซอกอยู่หลายครั้งจนอีกฝ่ายบวมช้ำและมีเลือดอาบเต็มหน้า. กูจุนฮเวเหวี่ยงร่างที่เกือบจะไร้สติของยางฮงซอกลงกับพื้นก่อนจะหยิบปืนสีดำที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมา. ปลายกระบอกเปืนเล็งตรงไปที่ร่างของคนที่กำลังเสียเปรียบ
“ยิงเลยสิ มึงจะได้เป็นไอ้ฆาตรกร”
“ไม่ กูไม่ได้เลวแบบมึง”
ปัง ปัง!! กูจุนฮเวลั่นไก. กระสุนไม่ได้ถูกอวัยวะสำคัญเพราะเขายังไม่ต้องการชีวิตของอีกฝ่าย
“โอ๊ยยย” เสียงร้องโอดโอยของยางฮงซอกไม่ได้ทำให้ใครในที่นั้นเกิดความสงสารได้เลย
“แต่นี่...คือค่าชดใช้สำหรับอุบัติเหตุที่มึงสร้างขึ้นสำหรับกูกับพ่อกู”
“ฮ่าๆๆๆ” เสียงยางฮงซอกหัวเราะลั่นสร้างความสงสัยให้อีกฝ่าย
กูจุนฮเวยังไม่ยอมละทิ้งอาวุธสีดำจนกว่าเขาจะดูให้มั่นใจแล้วว่ายางฮงซอกจะไม่ลุกขึ้นมาสร้างปัญหาให้เขาได้อีก. และสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือพาคนที่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างคิมจีฮเยออกไปจากสถานที่นี่.
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่สามารถต่อกรอะไรได้อีกแล้วเขาจึงเขาไปปลอมคนบนเตียงที่กำลังตัวสั่น. อ้อมกอดที่แสนอ่อนโยนสวมเข้ายังร่างเล็กเพื่อปลอบโยนและคลายความกังวล. คิมจีฮเยไม่ลังเลที่จะกอดเขาตอบเพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยสำหรับเธอเท่าภายใต้อ้อมกอดของกูจุนฮเวอีกแล้ว.
“ไม่เป็นไรแล้วนะ” กูจุนฮเวกระซิบข้างหูหญิงสาว. เสียงของเขาฟังดูอ่อนโยนกว่าครั้งใดทำให้หัวใจของคนที่ได้ฟังพองโตอย่างไม่มีสาเหตุ.
“ฮือๆๆ” คนในอ้อมกอดยังคงร้องไห้ไม่หยุด. เดือดร้อนให้กูจุนฮเวต้องผละจากอีกฝ่ายเพื่อเช็ดน้ำตา. นิ้วยาวปาดแก้มนุ่มก่อนจะบรรจงจุมพิตลงบนหน้าผากมนเพื่อปลอบขวัญ. รอยยิ้มละมุนประดับบนใบหน้าคมแต่ทว่าไม่นานกลับแปรเปลี่ยน
ปัง!!
ไร้ซึ่งความปราณี. กระสุนมุ่งสู่อวัยวะสำคัญหมายคราชีวิต
หัวใจดวงน้อยที่เคยพองโตล่องลอยในอากาศเหมือนถูกเข็มแทงให้ระเบิดและดำดิ่งสู่ห้วงแห่งความมืดมิด. คิมจีฮเยร้องเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดังแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ
“กูจุนฮเว กูจุนฮเว!!”
ปัง ปัง ปัง!
คราวนี้ไม่ใช่ยางฮงซอกที่เป็นคนเหนียวไกเพื่อทำลายชีวิตคนอื่น แต่เป็นผู้มาใหม่ที่เหนียวไกเพื่อตัดสินชีวิตของยางฮงซอก.
ดวงตาเจ้าเล่ห์และพราวเสน่ห์แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี่ยม มิโนไม่ลังเลที่จะปลิดชีพคนที่ต้องการพรากลมหายใจของน้องชายคนสนิทของเขาเช่นกัน มิโนกัดฟันกรอดเมื่อเห็นว่ายางฮงซอกได้ทำอะไรลงไป.
.
.
.
.
.
100%
ตอนที่ 30 ลงพรุ่งนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น