ต้นเหตุหนึ่งของผิวหน้าหมองคล้ำ มีริ้วรอยไม่เบิกบานแม้ว่าพวกเราก็เอาใจใส่ดูแลผิวหน้า ทาครีมหลายประเภทแถมครีมแต่ละจำพวกก็ราคาแพงแพง ผิวหน้าก็ยังไม่สวยใสอย่างใจอยากได้อีก มูลเหตุหนึ่งอาจมาจากการที่พวกเราดูแลผิวหน้าผิดแนวทาง เลือกใช้สินค้าที่ไม่เหมาะสมกับผิว สินค้าที่มีความร้ายแรงต่อผิวมากจนเกินความจำเป็นหรือสินค้าที่มิได้ประสิทธิภาพ จากที่อยากดูแลผิวเปลี่ยนไปเป็นทำให้เกิดปัญหาให้ผิวไปเสีย ถ้าเกิดต้องการมีผิวหน้าที่ดีสมปรารถนา พวกเราก็เลยจำต้องดูแลและก็เอาใจใส่ทุกกรรมวิธีดูแลผิว
1. แนวทางการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดถึง ผิวหน้าที่สะอาดมิได้หมายความว่าการล้างหน้าล้างตาเสมอๆกระทั่งผิวหน้าไม่มีน้ำมันคงเหลือเลย เพราะว่าการล้างหน้าล้างตาบ่อยเกินไปเป็นต้นเหตุให้ผิวหน้าแห้งหยาบ ผิวสูญเสียน้ำ ไม่ยืดหยุ่น ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้ผิวกำเนิดริ้วรอยได้ง่าย อีกทั้งในผู้ที่มีผิวมันเป็นหลักฐานการที่บริเวณใบหน้าแห้งฉับพลันจะทำการกระตุ้นให้ต่อมไขมันขับน้ำมันออกมาสู่ผิวเหมือนเดิม โน่นเป็นต้นเหตุของสิวตันอีกด้วย วิธีการทำความสะอาดผิวหน้าในที่นี้ก็เลยเป็นวิธีการทำความสะอาดตามธรรมดาในช่วงเวลาเช้ารวมทั้งก่อนนอนอาจมีระหว่างวันบ้างถ้าพวกเราจำเป็นต้องอยู่ในรอบๆที่เต็มไปด้วยมลภาวะหรือจำต้องปฏิบัติงานที่โล่งแจ้งแต่ว่าไม่สมควรเกินวันละ 3 ครั้ง การดูแลผิวหน้ามีขั้นตอนดังนี้
1.1 Cleansing สำหรับหญิงแล้วจำนวนมากเสริมสวยไปเรียนหรือดำเนินงานก็เลยจำเป็นต้องกระทำการเช็ดหน้าด้วยสินค้าสำหรับขัดเครื่องแต่งหน้าเพื่อเอารอยเปื้อนเครื่องแต่งตัวออกก่อน ส่วนเพศชายบางทีอาจข้ามขั้นในขณะนี้ไป แนวทางการขัดชำระล้างเครื่องแต่งตัวออกให้หมดก่อนกระบวนการล้างหน้าล้างตาเป็นสิ่งจำเป็นเพราะเหตุว่าการล้างหน้าล้างตาธรรมดาไม่บางทีอาจชำระล้างเครื่องแต่งหน้าได้หมดเพราะเหตุว่าส่วนประกอบในเครื่องแต่งตัวอะไรบางอย่างติดแน่นไม่ละลายในน้ำ
สินค้าสำหรับขัดรอยเปื้อนเครื่องแต่งหน้าออกมาจากผิวหน้าเรียกรวมกันว่า Makeup Remover มีทั้งประเภทโลชั่น (Cleansing lotion) ประเภทครีม (Cleansing cream) จำพวกที่มีน้ำมันเป็นองค์ประกอบหลัก (Cleansing oil) หรือจำพวกที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก (Cleansing liquid) ใช้ถูชำระล้างเครื่องแต่งหน้า ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับภาวะผิว การเช็ดเครื่องแต่งหน้าไม่สะอาดจะทิ้งสารตกค้างไว้ที่ผิวหน้าทำให้ผิวหมองคล้ำ กระตุ้นการผลิตอนุมูลอิสระแม้เป็นผู้ที่มีผิวมันจะกำเนิดปัญหาสิวตันตามมา
1.2 การใช้สินค้าล้างหน้าล้างตาชนิดครีม (Cream) เจล (Gel) หรือโฟม (Foam) หรือสบู่ล้างหน้าล้างตา (Soap bar) กลุ่มนี้เรียกรวมกันว่า Cleanser เพื่อชำระล้างผิวหน้าให้รอยเปื้อนมันรวมทั้งสิ่งสกปรกหลุดไป เป็นการจัดแจงบริเวณใบหน้าก่อนที่จะมีการบำรุงขั้นตอนการเป็นข้างหลังชำระล้างผิวหน้าให้ใช้ Cleanser เช็ดรอบบริเวณใบหน้า 1 นาที ก่อนที่จะล้างออก
กรรมวิธีเลือกซื้อสินค้าล้างหน้าล้างตา
1.2.1 เลือกใช้สินค้าให้เหมาะสมกับผิว ถ้าเกิดไม่เคยทราบจะใช้จำพวกไหนดีให้มองที่ฉลากข้างสินค้าจะชี้แนะว่าเหมาะสมกับผิวประเภทใด
1.2.2 ควรมีคำยืนยันว่า Hypo-Allergicหมายถึงมีสารส่งผลให้เกิดอาการแพ้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายยิ่งจำต้องพินิจคำยืนยันนี้
1.2.3 Non-Comedogenic สำหรับผู้ที่มีผิวมัน ผิวผสม ให้พิจารณาคำยืนยันนี้เนื่องจากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดสิวน้อย หรือถ้าเกิดฉลากสินค้ามิได้บอกไว้ให้มองที่ส่วนประกอบเน้นย้ำที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักไม่มีน้ำมัน (Oil free)
1.2.4 มองค่าความเป็นกรดด่างของสินค้า ควรจะอยู่ที่ 4.7-5.75 ถ้าเกิดค่าสูงหรือต่ำลงยิ่งกว่านี้จะมีผลให้ผิวแห้งตึงแสบคันได้
1.3 การใช้สินค้าสนะครับผิว (Scrub) เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกหรือเซลล์ผิวเก่าให้หลุดไป สินค้าสนะครับผิวมี 2 จำพวกเป็นมาจากธรรมชาติ แล้วก็มาจากขั้นตอนการทางเคมีที่เพิ่มเติมเม็ดพลาสติกลงไปเพื่อใช้สครับผมผิว ทำเป็นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ไม่สมควรใช้สินค้าเพื่อการสครับผมผิวบ่อยเกินไป เพราะเหตุว่าจะมีผลให้ผิวแห้งรวมทั้งกำเนิดริ้วรอยได้ง่าย การเลือกสินค้าควรจะมองเม็ดสครับผมแบบละเอียดเนื่องจากว่าจะสุภาพต่อผิวมากยิ่งกว่า เม็ดสนะครับแบบหยาบคายจะมีผลให้ผิวกำเนิดริ้วรอยได้ สำหรับผู้ที่มีผิวมันเป็นสิวง่ายควรจะเลือกสครับผมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ AHA (Alpha Hydroxy Acid ) BHA (Beta Hydroxy Acid) เนื่องจากช่วยป้องกันไม่ให้มีสิว อีกทั้งข้างหลังสขอรับผิวควรจะเลี่ยงการออกแดด หรือถ้าหากมีความสำคัญควรจะทาครีมที่มีไว้สำหรับกันแสงแดดเสมอ
1.4 ข้างหลังการล้างหน้าล้างตาใช้โทนเนอร์ (Toner) เพื่อปรับภาวะผิวก่อนจะมีการบำรุง เป็นการปรับภาวะผิวที่เป็นกรด แต่ว่าใช้โทนเนอร์ที่เป็นด่างปรับภาวะผิวหน้าให้สมดุลก่อนโทนเนอร์มีหลายสูตร ดังเช่นว่า เฟรชศาสนาเชนเนอร์ (Freshener) เป็นสูตรที่ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ แคลริฟายอิ้ง (Clarifying) เป็นโทนเนอร์ ที่มีความเข้มข้นปานกลางเหมาะกับผิวปกติถึงผิวผสม แอสตริเจน (Astrigent) โทนเนอร์ประเภทเข้มข้นมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
2. แนวทางการบำรุงผิวหน้า เนื่องจากว่าผิวหน้ามีความไม่เหมือนกัน ทั้งรอบๆรอบดวงตา หรือผิวรอบๆโหนกแก้ม อีกทั้งลักษณะผิวแต่ละคนก็มีความไม่เหมือนกัน ก็เลยมีผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าให้เลือกใช้นานัปการ
2.1 ครีมรอบดวงตา (Eye creams) ผิวหนังรอบๆรอบดวงตามีความเปราะบางสูงที่สุด บางกว่าผิวที่ฝ่ามือถึง 1 ใน 10 ผิวรอบดวงตาก็เลยกำเนิดริ้วรอยได้ง่ายและก็เห็นได้ชัด ด้วยเหตุว่าผิวรอบๆนี้เปราะบางมีไขมันน้อย และก็เป็นส่วนที่แห้งด้านที่สุดบนผิวหน้าครีมทารอบดวงตามีทั้งจำพวกครีม แล้วก็เจล องค์ประกอบที่เจอ ได้แก่ วิตามินซี (Vitamin C) วิตามินอี (Vitamin E) สารสกัดจากแตงร้าน (Cucumber) สารสกัดจากดอกติดอยู่โมมายล์ (Camomile) ไมโครคอลลาเจน (Micro-Collagen) โซเดียม ไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate)
2.2 ซีรั่มบำรุงผิว ลักษณะเป็นน้ำ เจล หรืออิมัลชั่น มีสารสกัด หรือที่เรียกว่า Active Ingredients สูงขึ้นยิ่งกว่าครีมบำรุงทั่วๆไป แล้วก็สามารถซึมสู่ชั้นผิวที่ลึกกว่าแล้วก็มีคุณภาพมากยิ่งกว่า
2.3 ครีมที่มีไว้ดูแลผิวหน้า ครีม V2 revolution รีวิว ไม่ว่าจะเป็นครีม โลชั่น อิมัลชั่น เจล ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับภาวะผิว ดังเช่น ผู้ที่มีผิวมัน ผิวผสมให้หลบหลีกการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรจะเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ อาจมีปัญหาว่าเพราะเหตุไรพวกเราจำต้องทาครีมทั้งที่พวกเราทาซีรั่มซึ่งบำรุงผิวได้ลึกกว่า โน่นเพราะเหตุว่าในซีรั่มเป็นสารที่ซึมลงสู่ผิวได้ลึกก็เลยมีส่วนประกอบของน้ำมันน้อยกว่าครีม ซีรั่มคุ้มครองผิวจากผิวส่วนลึกแต่ว่าครีมจะช่วยปกป้องรักษาผิวจากด้านนอกไม่ให้ผิวหน้าแห้งหยาบ
2.4 ครีมลดจุดด่างดำ ครีม V2 revolution ใช้ดีไหม หญิงเมื่อย่างไปสู่วัยสามสิบ ฮอร์โมนจะมีการเปลี่ยนทำให้ผิวหน้ากำเนิดรอยด่างดำจากอนุมูลอิสระได้ง่ายทั้งกระ ฝ้า ซึ่งล้วนมีต้นเหตุจากรังสียูวี การใช้ครีมทาเพื่อลดรอยดำ ก็เลยต้องทั้งเพื่อการคุ้มครองปกป้องและก็เป็นการลดรอยจุดด่างดำ ครีมในกลุ่มนี้มีทั้งกรดผลไม้ AHA , BHA , กรดวิตามินเอ (Retinoid) , วิตามินซี (Vitamin C), ครีมอาร์บูติเตียนน (Arbutin cream), ครีมลิวัวริช (Licorice cream)
2.5 โลชั่นกันแดด ครีมจำพวกนี้เป็นครีมที่ใช้คุ้มครองรังสียูวี โดยรังสียูวีเองยังแบ่งเป็นรังสียูวีเอ ซึ่งมีตอนความยาวคลื่น 380-315 nm รังสียูวีเอเป็นรังสีที่ส่องตรงถึงผิว นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอนุมูลอิสระทำให้ผิวสีคล้ำกำเนิดกระ ฝ้า อีกประเภทเป็นรังสียูวีบี ตอนคลื่นยาว 315-280 nm รังสีจำพวกนี้ถูกกักด้วยชั้นโอโซน รังสียูวีบีมีผล ให้กำเนิดโรคมะเร็งผิวหนัง โดยโลชั่นกันแสงแดดแยกออกเป็น 2 ชนิด ตามหลักการทำงานของครีม
2.5.1 ครีมประเภทกายภาพ (Physical Sunscreen) ประเภทนี้นำไปสู่อาการแพ้น้อย เพราะว่าคุณลักษณะของสารที่ผสมลงไปทำให้ครีมช่วยสะท้อนแสงแม้กระนั้นไม่ทำปฏิกิริยากับผิว ส่วนประกอบที่เจอเป็น ไททาเนียม ไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) หรือซิงค์ ออกไซด์ (Zinc oxide) ครีมผสมสารป้องกันแสงแดดประเภทนี้คุ้มครองได้ทั้งแสงอัลตราไวโอเลตเอ และก็แสงอัลตราไวโอเลตบี
2.5.2 ครีมจำพวกเคมี (Chemical Sunscreen) ครีมจำพวกนี้จะปฏิบัติหน้าที่ซึมซับรังสียูวี ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงรังสีให้อยู่ในแบบอย่างอื่น ทำปฏิกิริยากับผิวก็เลยบางทีอาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้ได้ ไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย องค์ประกอบหลักของครีมประเภทนี้เป็นไดเบนโซอิลมีเธน (Dibenzoylmethane) คุ้มครองป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตเอ แล้วก็ออกซีเบนโซน (Oxybenzone) ปกป้องแสงอัลตราไวโอเลตบี
3. การดูแลผิวหน้าระหว่างวัน แม้พวกเราไม่สมควรล้างหน้าล้างตาบ่อยเกินไป เพราะว่ายิ่งก่อปัญหาผิวแต่ว่าหากระหว่างวันพวกเราจะต้องพบมลพิษ มีรอยเปื้อนเหงื่อไคลเหนียวหนับรอบๆผิวหน้า โอกาสหนึ่งเป็นสเปรย์น้ำแร่เพื่อลดสิ่งสกปรกรอบๆผิวหน้า สร้างความมีชีวิตชีวาลดความมันให้แก่ผิว สเปรย์น้ำแร่มี 2 จำพวกเป็นจำพวกที่ให้ความสดชื่นแก่ผิว รวมทั้งอีกจำพวกเหมาะสมกับผู้ที่เสริมสวยแต่ว่าอยากได้ความมีชีวิตชีวาระหว่างวัน
การดูแลผิวหน้าตามที่กล่าวมาเป็นการดูแลผิวจากข้างนอก ยิ่งกว่านั้นอย่าลืมดูแลผิวจากด้านในหมายถึงการทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ ซี อี เนื่องจากว่าวิตามินกลุ่มนี้จะทำการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนจากชั้นใต้ผิวหนังทำให้ผิวยืดหยุ่นและก็ต้านทานรังสียูวีได้ดิบได้ดี การดูแลผิวที่ดีจากทั้งข้างนอกแล้วก็ข้างในจะช่วยทำให้พวกเรามีผิวหน้าที่ผ่องใส สดใส อ่อนกว่าวัยไปอีกนาน
ความคิดเห็น