การสอบวัดระดับภาษาตะวันออก
เขียนโดย
BallChiJap
ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1984 และได้รับการบรรจุเป็นการสอบภาษาสากลปี 1992 โดยตอนนั้นแยกเป็นระดับพื้นฐาน ต้น-กลาง และสูง โดยแยกเป็น 11 ระดับ
ปี 2010 ข้อเขียนแบ่งออกเป็น 6 ระดับ (1 ถึง 6) ทุกระดับรวมกรอกข้อมูลส่วนตัวระดับละ 5 นาที และปากเปล่าแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ซึ่งแยกจากระดับสูงในระบบเดิม และปัจจุบันจัดสอบเดือนละ 1 ครั้ง
(ข้อเขียน)
ระดับ 1 - การฟัง 20 ข้อ 15 นาที การอ่าน 20 ข้อ 17 นาที (ตอบส่วนการฟัง 3 นาที) รวม 40 ข้อ 40 นาที
ระดับ 2 - การฟัง 35 ข้อ 25 นาที การอ่าน 22 ข้อ 22 นาที (ตอบส่วนการฟัง 3 นาที) รวม 60 ข้อ 55 นาที
ระดับ 3 - การฟัง 40 ข้อ 35 นาที การอ่าน 30 ข้อ 30 นาที การเขียน 10 ข้อ 15 นาที (ตอบส่วนการฟัง 5 นาที) รวม 80 ข้อ 90 นาที
ระดับ 4 - การฟัง 45 ข้อ 30 นาที การอ่าน 40 ข้อ 40 นาที การเขียน 15 ข้อ 25 นาที (ตอบส่วนการฟัง 5 นาที) รวม 100 ข้อ 105 นาที
ระดับ 5 - การฟัง 45 ข้อ 30 นาที การอ่าน 45 ข้อ 45 นาที การเขียน 10 ข้อ 40 นาที (ตอบส่วนการฟัง 5 นาที) รวม 100 ข้อ 125 นาที
ระดับ 6 - การฟัง 50 ข้อ 35 นาที การอ่าน 50 ข้อ 50 นาที การเขียน 1 ข้อ 45 นาที (ตอบส่วนการฟัง 5 นาที) รวม 101 ข้อ 140 นาที
(ปากเปล่า)
ระดับต้น - ตอนที่ 1 ฟังแล้วพูด 15 ข้อ 6 นาที / ตอนที่ 2 ฟังแล้วตอบ 10 ข้อ 4 นาที / ตอนที่ 3 ตอบคำถาม 2 ข้อ 3 นาที (รวมกับเวลาเตรียมตัวอีก 7 นาที) เป็นทั้งหมด 27 ข้อ 20 นาที
ระดับกลาง - ตอนที่ 1 ฟังแล้วพูด 10 ข้อ 5 นาที / ตอนที่ 2 พูดบรรยายภาพ 2 ข้อ 4 นาที / ตอนที่ 3 ตอบคำถาม 2 ข้อ 4 นาที (รวมกับเวลาเตรียมตัวอีก 10 นาที) เป็นทั้งหมด 14 ข้อ 23 นาที
ระดับสูง - ตอนที่ 1 ฟังแล้วพูด 3 ข้อ 8 นาที / ตอนที่ 2 อ่านออกเสียง 1 ข้อ 2 นาที / ตอนที่ 3 ตอบคำถาม 2 ข้อ 5 นาที (รวมกับเวลาเตรียมตัวอีก 10 นาที) เป็นทั้งหมด 6 ข้อ 25 นาที
คะแนนเต็ม ระดับ 1 กับ 2 คือ 200 คะแนน / ระดับ 3 ถึง 6 คือ 300 คะแนน / ปากเปล่า คือ 100 คะแนน (คะแนนผ่านที่ร้อยละ 60 ของคะแนนเต็ม)
2. JLPT (Japanese Language Proficiency Test) เป็นการสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่น
ปี 2010 แบ่งออกเป็น N1 ถึง N5 จากเดิมปี 1984 แบ่งออกเป็นระดับ 1 ถึง 4 ปัจจุบันจัดสอบ 2 รอบ ตั้งแต่ปี 2009 คือกรกฎาคม และธันวาคม
N1 มีสอบ 2 วิชา คือ ความรู้ตัวภาษาและการอ่าน 69 ข้อ 110 นาที และการฟัง 37 ข้อ 60 นาที รวม 106 ข้อ 170 นาที
N2 มีสอบ 2 วิชา คือ ความรู้ตัวภาษาและการอ่าน 75 ข้อ 105 นาที และการฟัง 32 ข้อ 50 นาที รวม 107 ข้อ 155 นาที
N3 มีสอบ 3 วิชา คือ ความรู้ตัวภาษา (อักษร-คำศัพท์) 33 ข้อ 30 นาที ความรู้ตัวภาษา (ไวยากรณ์) และการอ่าน 39 ข้อ 70 นาที และการฟัง 27 ข้อ 40 นาที
N4 มีสอบ 3 วิชา คือ ความรู้ตัวภาษา (อักษร-คำศัพท์) 34 ข้อ 30 นาที ความรู้ตัวภาษา (ไวยากรณ์) และการอ่าน 35 ข้อ 60 นาที และการฟัง 28 ข้อ 35 นาที
N5 มีสอบ 3 วิชา คือ ความรู้ตัวภาษา (อักษร-คำศัพท์) 33 ข้อ 25 นาที ความรู้ตัวภาษา (ไวยากรณ์) และการอ่าน 32 ข้อ 50 นาที และการฟัง 24 ข้อ 30 นาที
คะแนนเต็มรวม 180 คะแนน โดย N1 N2 N3 คะแนนเต็มแต่ละส่วนแยกกันชัดเจนส่วนละ 60 คะแนน ในขณะที่ N4 N5 ความรู้ตัวภาษาและการอ่านรวมกันเต็ม 120 คะแนน และการฟัง 60 คะแนน
คะแนนผ่านเฉพาะส่วนของ N1 N2 N3 เท่าๆ กันที่ 19 คะแนน แต่ N4 N5 ความรู้ตัวภาษาและการอ่านที่ 38 คะแนน และการฟัง 19 คะแนน คะแนนรวมผ่านเกณฑ์ของ N1 คือ 100 คะแนน N2 N4 คือ 90 คะแนน N3 คือ 95 คะแนน และ N5 คือ 80 คะแนน ถ้าคะแนนส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ถึงเกณฑ์ทั้งๆ ที่คะแนนรวมสูง ถือว่าสอบตก
3. TOPIK (Test of Proficiency in Korean) เป็นการสอบวัดระดับภาษาเกาหลี
เริ่มตั้งแต่ปี 1997 โดยแยกเป็น 6 ระดับ ต่อมาปี 2007 รวมระดับ 1 กับ 2 เป็นระดับต้น 3 กับ 4 เป็นระดับกลาง และ 5 กับ 6 เป็นระดับสูง
ต่อมาปี 2014 เปลี่ยนแปลงการสอบเสียใหม่เป็น
TOPIK I (ระดับต้น) มี การฟัง 30 ข้อ 40 นาที และการอ่าน 40 ข้อ 60 นาที รวม 70 ข้อ 100 นาที
คะแนนเต็ม 200 คะแนน ผ่านที่ 100 คะแนน
TOPIK II (ระดับกลางและสูง) มี 2 ตอน
ตอนที่ 1 การฟัง 50 ข้อ 60 นาที การเขียน 4 ข้อ 50 นาที
ตอนที่ 2 การอ่าน 50 ข้อ 70 นาที
รวม 104 ข้อ 180 นาที
คะแนนเต็ม 300 คะแนน ผ่านที่ 120 คะแนน
สอบทั้ง TOPIK I และ TOPIK II ได้ในวันเดียว แต่คะแนนขึ้นอยู่กับระดับที่ได้
แจ้ง Blog ไม่เหมาะสม
26 มี.ค. 57
150
0
ความคิดเห็น