ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #107 : ~ Happy Family 2 ~ # 9

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.1K
      6
      3 พ.ย. 54

              

               

              

                  “ วันนี้เราจะทานข้าวกันที่นี่เหรอคุณแม่ ”  ลูกหมีคนโตเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าที่เคยมาเป็นประจำเมื่อยามที่เจ้าตัวอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่

                “ ครับ...วันนี้เราจะทานข้าวนอกบ้านกัน ” แจจุงบอกลูกชายก่อนจะวางเยอึนลงบนรถเข็นแขนบางกำลังจะก้มลงไปอุ้มมุนบินให้ขึ้นมานั่งด้วยกันแต่เจ้าลูกหมีกับส่ายหัวปฏิเสธเพื่อบอกคุณแม่คนสวยว่า

                ไม่เอาหนูไม่ขึ้นหนูจะเดินเอง

                “ แต่ก่อนที่จะไปทานข้าว  เดี๋ยวคุณแม่จะพาไปซื้อของก่อนนะครับ ”

                เพราะวันนี้ฮยอนบินกับยูนาไม่อยู่บ้านและยุนโฮเองก็บอกว่าจะไม่กลับมาทานข้าวเย็นที่บ้านเช่นกัน    หลังจากไปรับมุนบินที่โรงเรียนแล้วแจจุงจึงตัดสินใจพามุนบินกับเยอึนออกมาทานอาหารนอกบ้าน    เพราะไหนๆวันนี้ก็ต้องมาซื้อของใช้เข้าบ้านอยู่แล้วร่างบางจึงถือโอกาสพาลูกน้อยทั้งสองมาเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

                “ ซื้อขนมด้วยนะคุณแม่ ” มือป้อมกระตุกขากางเกงคุณแม่เบาๆ  คุณแม่ซื้อขนมให้มุนบินด้วยน๊ามุนบินจะเอาไปกินที่โรงเรียนพูดถึงโรงเรียนก็เหมือนมุนบินจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “ วันนี้หนูแบ่งขนมเพื่อนที่โรงเรียนด้วยนะคุณแม่ ” บอกด้วยความภูมิใจ

                ทุกๆวันแจจุงจะเตรียมขนมใส่กระเป๋านักเรียนให้ลูกชายเพื่อที่จะได้เอาไปทานที่โรงเรียนโดยไม่ลืมที่จะสอนให้มุนบินแบ่งขนมให้เพื่อนทานด้วย    ดังนั้นมันจึงไม่แปลกถ้าหากว่ามุนบินจะภูมิใจที่ได้แบ่งขนมให้เพื่อนเพราะนั่นหมายความว่าเจ้าหนูได้ทำตามคำสอนของคุณแม่

                “ ดีมากครับ... ” แจจุงยิ้มให้ลูกชายพร้อมคำชมร่างบางดีใจที่มุนบินรู้จักแบ่งปันให้กับคนอื่น “ เดี๋ยวเราไปซื้อของใช้อย่างอื่นก่อนแล้วค่อยไปซื้อขนมหลังจากนั้นก็ไปทานข้าวกันเนอะ ”

                ทันทีที่ได้ยินคำว่าขนมหนูน้อยที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็หันมายิ้มกว้างให้คุณแม่คนสวยทันที “ หนมๆ หนูกินหนม ”

                “ ค่ะ  เดี๋ยวคุณแม่จะพาเยอึนกับพี่ชายไปซื้อขนม ” แจจุงบอกลูกสาวกลั้วรอยยิ้ม  เรื่องของกินมาเป็นที่หนึ่งเหมือนกันไม่มีผิดทั้งพี่ทั้งน้อง

                แจจุงพาเด็กๆเดินดูของไปเรื่อยๆจากที่ตอนแรกมุนบินยืนยันที่จะเดินเองแต่สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นมานั่งบนรถเข็นกับน้องสาวจนได้   แต่ลูกหมีก็ยังคงเป็นลูกหมีอยู่วันยังค่ำเพราะแทนที่จะบอกออกไปตรงๆว่าตัวเองเหนื่อยเดินเองไม่ไหวแล้วแต่เพราะกลัวเสียฟอร์มเลยบอกแบบนี้แทน

                หนูเดินเองแล้วมันมองไม่ถนัด

                สามแม่ลูกกำลังสนุกอยู่กับการเดินเข้าร้านนู้นทีร้านนี้ทีจากที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะมาซื้อแค่ของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น   แต่ทำไมตอนนี้บนรถเข็นมันถึงเต็มไปด้วยถุงเสื้อผ้าทั้งของคุณแม่กับคุณลูกไปได้ก็ไม่รู้   แต่ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ใช่คนจ่ายอยู่ดีแล้วใครเป็นคนจ่ายน่ะเหรอก็คนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่บริษัทไง

                “ หิวกันหรือยังลูก ” คุณแม่คนสวยเอ่ยถามลูกน้อยทั้งสองพลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู  ตายจริง....มัวแต่ช๊อปเพลินเผลอแป๊บเดียวจะหกโมงเย็นแล้วหรือนี่

                “ หิวครับ ” มุนบินตอบแบบไม่รีรอ

                “ แล้วเยอึนล่ะค่ะ  หิวหรือยังลูก ” แจจุงหันไปถามลูกสาวที่นั่งมองพี่ชายคุยกับคุณแม่ก่อนที่หนูน้อยจะพยักหน้าหงึกๆบอกว่าเยอึนก็หิวเหมือนกัน

                “ งั้นเราไปหม่ำๆกันดีกว่าเนอะ ” แจจุงมองหาร้านอาหารที่พวกเขาสามแม่ลูกจะใช้ฝากท้องในวันนี้ก่อนจะเข็นรถเดินเข้าไปในร้านที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก

                แจจุงเลือกมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพื่อที่จะได้ไม่เป็นการรบกวนลูกค้าคนอื่นๆเพราะร่างบางรู้ดีว่าลูกหมีสองคนนั้นเสียงดังมากแค่ไหนและยิ่งเวลาที่ได้เห็นอะไรใหม่ๆก็มักจะมีคำถามมาให้เขาตอบได้ไม่หยุด    ร่างบางหันไปขอเก้าอี้สำหรับเด็กกับพนักงานสองตัวก่อนจะรับเมนูมาดู

                “ ที่นี่มีไอติมด้วยแหละคุณแม่ ”  ยิ้มกว้างบอกเมื่อกี๊ตอนเดินเข้ามามุนบินเห็นไอติมด้วยล่ะ   ดีเลยพอทานข้าวเสร็จมุนบินจะได้ทานไอติมต่อเลย   ตาเรียวเล็กเหล่มองผู้เป็นแม่เพื่อบอกเป็นนัยๆว่า

                มุนบินบอกคุณแม่ทางอ้อมแล้วนะว่าวันนี้มุนบินจะกินไอติม

                “ ครับๆ แต่ต้องมีข้อแม้ว่าวันนี้หนูต้องทานข้าวให้หมดนะลูก ” แจจุงบอกลูกชายด้วยสายตาล้อๆ  ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่านับวันมุนบินยิ่งเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อยๆเจ้าเล่ห์เหมือนคนเป็นพ่อไม่มีผิด    และถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังเขาคงตามลูกชายไม่ทันแน่ๆ

                “ หนูทานหมดอยู่แล้ว ” ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจก่อนจะหันไปชวนน้องสาว “ น้องหมีกินไอติมกับพี่ชายมั๊ย ”

                “ ติมๆ ” มือเล็กๆยกขึ้นมาตบแปะๆด้วยความดีใจเมื่อได้ยินชื่อของโปรดใบหน้าน่ารักฉีกยิ้มกว้างเมื่อมุนบินบอกต่อออกไปอีกว่า  คุณแม่จะซื้อไอติมให้

                “ คุณแม่แล้วคุณพ่อล่ะ ” มุนบินถามหาพ่อหมีของตัวเอง  เพราะทุกครั้งเวลาที่ออกมาทานข้าวนอกบ้านพวกเขาจะมาพร้อมกันสี่คนพ่อแม่ลูกเสมอดังนั้นมันจึงไม่แปลกถ้ามุนบินจะหันซ้ายหันขวามองหาผู้เป็นพ่อ “ คุณพ่อยังไม่มาเหรอ ”

                แจจุงหันมายิ้มตอบลูกชายหลังจากสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว “  คุณพ่อทำงานอยู่ครับ ”

                “ แล้วคุณพ่อจะมามั๊ย ” มุนบินยังมีความหวังว่าคุณพ่อจะตามมา

                แจจุงส่ายหน้าเบาๆ “ ไม่มาครับ....วันนี้คุณพ่อไม่ว่าง ”

                “ เหรอ....หนูอยากให้คุณพ่อมาด้วยจัง ” อดที่จะเสียดายไม่ได้   ถ้าคุณพ่อมาด้วยก็ดีน่ะสิมุนบินจะได้ชวนคุณพ่อแอบไปซื้อของเล่นด้วยกันอีก   เมื่อกี๊ตอนเดินเล่นกับคุณแม่มีของเล่นที่มุนบินอยากได้ตั้งหลายอย่างแต่คุณแม่ไม่ยอมซื้อให้

                แจจุงมองดูลูกชายที่หงอยลงไปถนัดตานี่คงจะเสียดายที่ไม่มีคนพาไปซื้อของเล่นสินะ   มือบางหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าเพื่อโทรออกหาคนที่คงจะคิดถึงลูกไม่แพ้กัน    ถ้าเขาโทรหา
    ยุนโฮตอนนี้จะเป็นการรบกวนการประชุมรึเปล่าน?เพราะเขายังไม่ได้บอกยุนโฮเลยว่าวันนี้จะพาลูกออกมาทานข้าวนอกบ้านและถ้าโทรไปแล้วตรงกับช่วงเบรคก็คงจะดีจะได้ชวนยุนโฮมาทานด้วยกันเพราะนี่ก็อยู่ใกล้บริษัทนิดเดียว

                “ งั้นเดี๋ยวเราลองโทรไปชวนคุณพ่อดีมั๊ย ”  ประโยคที่เรียกรอยยิ้มให้กลับมาอยู่บนใบหน้าน่ารักอีกครั้งก่อนจะมุนบินจะรีบพยักหน้าจนหัวแทบหลุดเพื่อบอกว่า  ดีที่สุดเลยคุณแม่

                ร่างบางยิ้มขำกับอาการเห็นดีเห็นงามของลูกชาย   แจจุงกำลังจะกดโทรออกอยู่แล้วเชียวถ้าหากตากลมไม่บังเอิญหันไปเจอร่างสูงโปร่งที่แจจุงจำได้ดีว่าเป็นสามีของตัวเองกำลังเดินออกจากร้านอาหารฝั่งตรงข้ามพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งที่แจจุงมั่นใจว่าไม่ใช่เลขาส่วนตัวของยุนโฮแน่ๆ

                ความระแวงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเริ่มก่อตัวขึ้นภายในจิตใจยิ่งเห็นท่าทางที่ดูสนิทสนมของทั้งคู่แล้วมันยิ่งทำให้แจจุงรู้สึกปวดหนึบขึ้นมาในหัวใจอย่างไม่ทราบสาเหตุไหนยุนโฮบอกว่ามีประชุมไงแต่ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่กับผู้หญิงคนนี้ได้ล่ะ    ถึงแม้จะสงสัยมากแค่ไหนแต่เพราะความเชื่อใจที่มีต่อยุนโฮและเป็นคนที่มีเหตุผลทำให้แจจุงเลือกที่จะคิดในแง่ดีว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานของยุนโฮก็ได้    ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานแจจุงสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ตีโพยตีพายหรือคิดไปเองเด็ดขาด 

                แต่ถ้าจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงจะดูโกหกไปหน่อย   แจจุงยอมรับว่าน้อยใจยุนโฮอยู่มากทีเดียวที่มาทานข้าวกับผู้หญิงคนอื่นแทนที่จะกลับบ้านไปทานข้าวที่บ้านกับลูกเมีย   เพราะถ้าวันนี้ยุนโฮมีประชุมจริงนี่ก็คงจะเป็นช่วงพักเบรคทานอาหารและถ้ามีเวลาออกมาทานข้างนอกได้ขนาดนี้ทำไมไม่กลับไปทานที่บ้านหรืออย่างน้อยก็น่าจะโทรหากันบ้าง  

    แจจุงตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าตามเดิม   ในเมื่อวันนี้ยุนโฮไม่อยากทานข้าวกับครอบครัวก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องโทรบอกให้ร่างสูงรู้ว่าเขากับลูกอยู่ที่นี่   เพราะถ้าหากยุนโฮรู้ว่าเขาพาลูกมาที่นี่แล้วย้อนกลับมาหาพวกเขาแจจุงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะห้ามไม่ให้ตัวเองเสียมารยาทถามถึงความสัมพันธ์ของยุนโฮกับผู้หญิงคนนั้นได้หรือเปล่า

                ปากอิ่มคลี่ยิ้มบางๆให้ลูกชายเมื่อเห็นสายตาของมุนบินที่มองเป็นเชิงถามว่า คุณแม่ไม่โทรหาคุณพ่อแล้วเหรอ ร่างบางตักอาหารใส่จานพร้อมกับตอบคำถามของมุนบินด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

                “ วันนี้หนูทานกับคุณแม่กับน้องสาวไปก่อนนะลูก  อย่าโทรไปกวนคุณพ่อเลยคุณพ่องานยุ่งอยู่ ”


     

     

    ..........................................................


     

                ตอนนี้จุนซูกำลังรู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลยที่ปล่อยให้ลูกชายอยู่บ้านกับคุณปู่คุณย่าส่วนตัวเองกลับออกมาทานอาหารนอกบ้านกับพ่อของลูก    พูดถึงยูชอนแล้วมันน่าโมโหชะมัดจุนซูคิดว่าพวกเขาตกลงกันรู้เรื่องแล้วซะอีกว่าจะดินเนอร์กันเฉยๆแต่ไหงคนขับรถที่ไปรับเขาถึงได้บอกว่ายูชอนเปิดห้องที่โรงแรมเอาไว้ด้วย

                เสียงเปิดประตูทำให้จุนซูต้องรีบหาที่ซ่อนของที่เตรียมมาก่อนจะปรับสีหน้าเป็นบึ้งตึงเมื่อคุณสามีเดินเข้ามาด้วยหน้าตาอารมณ์ดีสุดๆ เชอะ ! เห็นแล้วหมั่นไส้อยากรู้จริงๆว่าแผนนี้ใช้เวลาคิดนานหรือเปล่า

                “ ไปกันเถอะที่รัก ” น้ำเสียงอามรมณ์ดีมาพร้อมกับร่างของพ่อไก่ที่เดินกลับเข้ามาอีกครั้งหลังไปตรวจดูความเรียบร้อย   ก็จะไม่ให้ยูชอนมีความสุขได้อย่างไรในเมื่อคืนนี้พ่อไก่วางแผนที่จะกดแม่โลมาโดยปราศจากอุปสรรคคนสำคัญอย่างชานฮี

                “ นึกว่าจะให้รอถึงพรุ่งนี้ซะอีก ” จุนซูอดที่จะแขวะไม่ได้   ไหนบอกจะลงไปแค่แป๊บเดียวแต่นี่มันปาไปเกือบชั่วโมงเลยนะที่ยูชอนปล่อยให้เขารอ   ตากลมหันไปมองกล่องที่ตัวเองซ่อนเอาไว้เมื่อมั่นใจแล้วว่ายูชอนจะไม่เห็นมันจึงหยิบมือถือเตรียมเดินออกจากห้อง

                “ เดี๋ยวก่อน.... ” ยูชอนยืนขวางเอาไว้ไม่ยอมให้จุนซูเดินออกไป “ ยังออกไปตอนนี้ไม่ได้ ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏอยู่ที่มุมปากหยัก

                คิ้วสวยเลิกขึ้นด้วยความข้องใจก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงหวาดระแวงเมื่อเห็นยูชอนหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง “ จะทำอะไรน่ะ ”

                “ ปิดตาไงจ๊ะที่รัก ”

                จุนซูถอยหลังหนีพร้อมกับส่ายหัวรัวๆ “ ไม่เอาไม่เล่นนะ ” ลางสังหรณ์บางอย่างมันบอกว่าเขากำลังจะโดนยูชอนแกล้งแน่ๆ

                “ แป๊บเดียวเอง....ฉันอยากให้จุนซูเซอร์ไพรส์น่ะ ” ยูชอนเดินตามเข้ามาอย่างใจเย็นก่อนจะยกยิ้มมีชัยเมื่อจุนซูถอยไปจนชิดขอบเตียง

                “ แป๊บเดียวแน่นะ ” หรี่ตาถามด้วยความไม่ไว้ใจ

                “ แน่สิ ” ยิ้มบอกให้คนรักวางใจก่อนจะค่อยๆใช้ผ้าที่เตรียมมาปิดตาให้เมื่อจุนซูพนักหน้าอนุญาตพร้อมกับปิดเปลือกตาลงหลังจากที่คิดอยู่นาน

                “ แน่นเกินไปเหลือเปล่า ” ยูชอนค่อยๆผูกปมอย่างเบามือเพราะกลัวว่ามันจะแน่นเกินไปแล้วอาจจะทำให้จุนซูเจ็บ

                “ ไม่หรอก..... ” จุนซูส่ายหน้าเบาๆก่อนจะลุกขึ้นตามแรงประคองของอีกฝ่าย

                ยูชอนหยุดเดินเมื่อหันไปเห็นบางอย่างในมือของจุนซูร่างสูงค่อยๆดึงมือถือออกจากมือของคนรักก่อนจะเอาไปวางไว้บนโต๊ะ    อะไรก็ตามที่คิดว่าจะทำให้เสียบรรยากาศยูชอนจะต้องกำจัดออกไปตั้งแต่ต้น

                “ ไม่ต้องเอาไปด้วยหรอก ” เสียงทุ้มบอกพร้อมกับประคองร่างอวบเดินออกไปจากห้องเพื่อพาไปยังที่ที่เขาเตรียมเอาไว้สำหรับวันพิเศษอีกหนึ่งวันของพวกเขาทั้งคู่

                “ แต่ถ้าลูกโทรมาล่ะ ”  จุนซูอดที่จะเป็นห่วงลูกชายที่บ้านไม่ได้   ถ้าไม่เอาโทรศัพท์ไปด้วยแล้วถ้าเกิดว่าคนที่บ้านโทรมาจะทำยังไงล่ะร่างบางกลัวว่าชานฮีจะงอแงร้องหาพวกเขาแล้วคุณปู่คุณย่าไม่สามารถรับมือได้

                “ ลูกหลับแล้ว ” ยูชอนบอกให้คุณแม่ขี้ห่วงสบายใจ   เขาโทรไปเช็คที่บ้านเรียบร้อยแล้วลูกชายเขาน่ะหลับตั้งแต่การ์ตูนเรื่องโปรดยังไม่จบด้วยซ้ำสงสัยว่าคงจะเล่นกับเยอึนเพลินจนลืมนอนกลางวันอีกแน่ๆ

                ได้ยินแบบนั้นแล้วจุนซูก็หายห่วงขึ้นมาหน่อย  ร่างบางเดินตามแรงประคองของยูชอนแต่มือก็ยังไม่วายไขว่คว้าไปตามอากาศด้วยความระแวงจนยูชอนต้องรวบแขนทั้งของข้างเอาไว้ข้างลำตัวพร้อมรอยยิ้มขบขัน    เสียงสัญญาณที่ดังขึ้นทำให้จุนซูรู้ว่าตอนนี้ยูชอนกำลังพาขึ้นลิฟท์แต่ร่างสูงจะพาไปที่ชั้นไหนนั้นจุนซูไม่อาจรู้ได้จริงๆ

                “ บอกได้มั๊ยว่าจะพาไปที่ไหน ” จากที่ตอนแรกรู้สึกกลัวเพราะยังไม่คุ้นชินกับความมืดแต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักจุนซูก็เริ่มปรับตัวได้ตอนนี้จึงเหลือแค่เพียงความตื่นเต้นเท่านั้น  จุนซูรู้ว่ายูชอนต้องเตรียมอะไรพิเศษๆไว้ให้เขาแน่แต่ที่จุนซูยังไม่รู้คือสิ่งพิเศษที่ยูชอนเตรียมไว้นั้นคืออะไร

                “ ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ ”  มือหนากอดเอวบางเอาไว้ไม่ปล่อย  ถ้าบอกออกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิเขาอยากให้จุนซูประทับมากที่สุดให้สมกับที่เขาตั้งใจเตรียมงานนี้มาทั้งเดือน

                “ ใบ้นิดนึงก็ไม่ได้เหรอ ” คุณแม่ลูกหนึ่งเริ่มอ้อนเสียงหวาน

                “เดี๋ยวก็รู้แล้ว ” จมูกโด่งกดลงบนแก้มนุ่มเบาๆเป็นจังหวะเดียวกับที่สัญญาณลิฟท์ดังขึ้นบอกว่าถึงที่หมายแล้ว “ ถึงแล้ว ”

                เดินออกมาจากลิฟท์ไม่ถึงสิบก้าวด้วยซ้ำจุนซูก็รู้สึกถึงไอเย็นจากลมที่พัดมากระทบร่างกาย  ร่างบางห่อตัวเล็กน้อยโชคดีที่วันนี้เขาใส่เสื้อคลุมมาด้วย   ยูชอนค่อยๆประคองจุนซูเดินไปยังมุมที่จัดไว้แขนหนาโอบรอบเอวบางจากด้านหลังก่อนที่เสียงทุ้มจะกระซิบเบาๆที่ข้างหู

                “ นับหนึ่งถึงยี่สิบในใจแล้วค่อยๆเปิดผ้าออกนะ ”

                จุนซูพยักหน้าเบาๆตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้เห็นเซอร์ไพรส์ที่ยูชอนเตรียมเอาไว้ให้   ร่างบางเริ่มนับหนึ่งถึงยี่สิบตามที่ยูชอนบอก

                1  2  3  4  5  …..18 19  20   ครบแล้ว  ฉันเปิดล่ะนะ ”

                “..................”

                ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากคนที่จุนซูคิดว่ายืนอยู่ด้านหลัง   มือบางค่อยๆแกะปมเชือกออกก่อนจะยืนหลับตานิ่งสักพักเพื่อปรับตัว   เปลือกตาสีมุกค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆก่อนจะปิดลงอีกครั้งเมื่อภาพเบื้องหน้าพร่ามัวจุนซูกระพริบตาสองสามทีเพื่อให้สายตาคุ้นชินกับแสง

                ทันทีสายตากลับมาเป็นปกติร่างบางก็ต้องยกมือขึ้นปิดปากเมื่อพบว่าตอนนี้เขายืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกที่ไหนสักที่และถ้าเดาไม่ผิดคงจะเป็นดาดฟ้าของโรงแรมที่เขาพักอยู่เป็นแน่   และถ้ามองจากบนนี้จะสามารถมองเห็นบรรยากาศสวยงามยามค่ำคืนรอบๆกรุงโซล    วันนี้ดาดฟ้าแห่งนี้ถูกเนรมิตให้เหมือนร้านอาหารในยุโรปบนโต๊ะมีอาหารมากมายวางเตรียมเอาไว้แต่ขาที่ไม่ยอมก้าวเดินทำให้จุนซูไม่สามารถเดินไปดูได้ว่าอาหารเหล่านั้นมีอะไรบ้างรอบๆตัวของร่างบางถูกประดับด้วยดอกไว้อย่างสวยงาม   บรรยากาศแบบนี้มันทำให้เขานึกถึงวันที่ที่เขากับยูชอนออกเดทกันเป็นครั้งแรก

                แต่สิ่งที่ทำเอาจุนซูต้องยกมือขึ้นปิดปากกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้นั้นก็คือป้ายไฟขนาดใหญ่ที่อยู่บนตึกฝั่งตรงข้ามที่มองเห็นได้ชัดเจนจากมุมที่เขายืนอยู่   ป้ายที่มีข้อความว่า

                สุขสันต์วันครบรอบแต่งงาน

                            ขอบคุณที่เดินเคียงข้างกัน

     

                “ ฮึก...ยะ ยู ..... ”  จุนซูหลุดเสียงสะอื้นออกมาด้วยความตื้นตันแต่พอจะหันมาขอบคุณก็พบว่าคนรักไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นเสียแล้ว   เสียงดนตรีที่ดังขึ้นทำให้จุนซูพึ่งสังเกตเห็นว่าบนนี้มีเวทีขนาดย่อมอยู่ด้วย

                จุนซูยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อเห็นร่างของคนรักค่อยๆปรากฏตัวขึ้นบนเวที    มือบางยกขึ้นมาปิดปากเอาไว้แล้วตั้งใจฟังเพลงที่ยูชอนตั้งใจมอบให้เขา   ดวงตาสองคู่จ้องมองซึ่งกันและกันด้วยความรักมากมายท่ามกลางเสียงเพลงที่ขับร้องโดยยูชอน   ถึงแม้เสียงร้องอาจจะไม่ไพเราะเท่าต้นฉบับแต่สำหรับจุนซูแล้วเสียงของยูชอนนั้นเพราะที่สุดแล้ว










    ( จิ้นว่ามันคือเสียงยูชอนนะค่ะ )

     

     

    Have I Told You Lately that I love you?
    ผมได้บอกคุณหรือยังว่าว่าผมรักคุณ

    Have I told you there's no one else above you?
    ผมได้บอกคุณหรือยังว่าไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าคุณในใจผม

    Fill my heart with gladness, take away all my sadness
    เติมความสุขสู่ภายในใจผม นำพาความเศร้าไปจากใจ

    Ease my troubles, that's what you do.
    บรรเทาปัญหาต่างๆ นั้นคือสิ่งที่คุณได้ทำให้ผม

    For the morning sun in all it's glory,
    ชื่นชมความงดงามของเเสงอาทิตย์ยามเช้าอย่างอิ่มเอม

    Meets the day with hope and comfort too,
    เผชิญกับวันอย่างเปี่ยมไปด้วยความหวังเเละความสบายใจ

    You fill my life with laughter, somehow you make it better
    Ease my troubles, that's what you do.
    บรรเทาปัญหาต่างๆ นั้นคือสิ่งที่คุณได้ทำ

    There's a love less defined,
    ยังมีความรักที่ไม่สามารถบรรยายด้วยถ้อยคำใดๆ

    And it's yours and it's mine,
    เเละนั้นคือความรักของคุณเเละผม

    Like the sun.
    ที่มั่นคงดั่งดวงอาทิตย์

    And at the end of the day,
    เมื่อเเต่ละวันผ่านพ้นไป

    ยูชอนค่อยๆเดินลงมาจากเวทีโดยตรงไปยังคนที่ยืนปิดปากร้องไห้อยู่ด้านล่าง   สายตาและรอยยิ้มอ่อนโยนที่จุนซูได้รับเสมอกำลังมองมาจนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้า    จุนซูค่อยๆลดมือที่ปิดปากลงก่อนจะยิ้มรับบทเพลงที่สวยงามด้วยความตื้นตัน


    We should give thanks and pray,
    เราควรขอบคุณกับสิ่งที่ผ่านมาในชีวิต เเละภาวนาให้มันคงอยู่ต่อไป


    To The One, to The One.
    เพื่อคนคนนั้น คนคนนั้น

     

    เสียงดนตรีจบลงพร้อมกับร่างอวบๆของจุนซูที่โผเข้าสวมกอดยูชอนแน่น   ใบหน้าน่ารักซุกเข้าหาอกแกร่งอ้อมแขนที่กอดรัดนั้นราวกับจะใช้แทนคำบอกรักที่มันมีอยู่เต็มหัวใจ

    “ สุขสันต์วันครบรอบแต่งงานนะครับที่รัก ” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูก่อนจะจูบลงบนขมับขวาอย่างแสนรักสองปีแล้วสินะที่เขากับจุนซูเริ่มใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างจริงจัง “ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงวันนี้   รักจุนซูนะไม่เคยมีวันไหนเลยที่จะไม่รัก ”

    ตากลมที่เอ่อไปด้วยหยาดน้ำใสๆช้อนขึ้นมองคนรักดวงตาที่เต็มไปด้วยความรักไม่น้อยไปกว่ากัน “ ฮึก.. รัก ... รักยูชอนเหมือนกัน  ขอบคุณนะ  ขอบคุณที่รักฉัน  ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ”

    นัยน์ตาสองดวงสบประสานกันก่อนหน้าคมจะค่อยๆเลื่อนเข้าไปใกล้   เปลือกตาสีน้ำนมปิดลงช้าๆรอรับสัมผัสที่คนรักกำลังจะมอบให้   กลีบปากทั้งสองสัมผัสกันพร้อมถ่ายทอดความรักมากมายให้แก่กันและกันแขนหนาข้างขวาตวัดเอวบางให้แนบนิดเข้าหากันมากยิ่งขึ้น   มือซ้ายยกขึ้นดีดให้สัญญาณอะไรบางอย่าง

    ปากหนักค่อยๆผละออกจากลีบปากแสนหวานเมื่อสัญญาณพลุนัดแรกดังขึ้น   ยูชอนหมุนตัวจุนซูให้หันกลับไปมองสิ่งพิเศษที่สุดที่เขาเตรียมไว้ในค่ำคืนนี้   แขนหนาสวมกอดเอวบางจากด้านหลังก่อนจะเกยคางไว้บนไหล่มนในขณะที่จุนซูกำลังอึ้งกับสิ่งที่เห็น

    “สำหรับจุนซู    ชอบมั๊ย ? ” กระซิบถามข้างหู

    “ ชอบ  ชอบมาก ” พยักหน้าพร้อมน้ำตา

    พลุจำนวนมากมายถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้ามันคงจะไม่มีอะไรพิเศษถ้าหากพลุเหล่านั้นไม่ใช่พลุที่ยูชอนสั่งทำเป็นพิเศษ   ตัวอักษรที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้านั้นคือสิ่งที่เขาอยากประกาศให้คนทั้งโลกรู้

     

    Park Yuchun     Park  Junsu















    ***** คิดว่ายูซูมันน่าจะหวานได้กว่านี้   จริงๆแล้วยูซูพาทนี้อยากแต่งให้มันโรแมนติกแต่มันไม่ได้อย่างที่คิดไว้เลยอ่ะเหมือนมันขาดอะไรไปสักอย่างเอาไว้ถ้าแก้ไขแล้วจะมาอัพให้ใหม่นะค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×