ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #109 : ~ Happy Family 2 ~ # 11

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.99K
      5
      11 พ.ย. 54

              “ มาทุกวันเหมือนคุณทิฟฟานี่น่ะเหรอ ”

                จมูกโด่งที่กำลังคลอเคลียอยู่กับแก้มยุ้ยของลูกสาวหยุดชะงักพร้อมกับลมหายใจที่สะดุดลงเมื่อได้ยินคำถามจากคนรักแจจุงยังคงมีสีหน้าและน้ำเสียงที่เป็นปกติแต่ยุนโฮรู้ดีว่าใครว่าท่าทางแบบนี้มันคือสัญญาณเตือนว่าเขากำลังตกอยู่ในอันตราย

                “ทำไมแจถึงได้ถามเรื่องนี้ล่ะ ” คนมีชนักติดหลังเอ่ยถามไม่เต็มเสียงนัก

                อยู่ด้วยกันมานานยุนโฮจึงรู้ดีว่าแจจุงไม่ใช่คนที่นึกอยากจะถามอะไรก็ถามทุกเรื่องต้องมีที่มาที่ไปเสมอและเพราะรู้แบบนี้ยุนโฮจึงค่อนข้างมั่นใจว่าแจจุงจะต้องได้รู้หรือได้เห็นอะไรมาแน่ๆ   เพราะถ้าไม่อยากนั้นจู่ๆแจจุงจะพูดถึงคนที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อได้ยังไง

                “ ก็แค่สงสัย  แล้วตกลงทิฟฟานี่คือใครเหรอ ”  น้ำเสียงของแจจุงยังเป็นปกติหากแต่ตากลมที่ปรายมามองเพียงชั่วครู่นั้นทำให้ยุนโฮรู้ว่าแจจุงไม่ได้ล้อเล่น

                หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาแจจุงรับรู้มาตลอดว่ายุนโฮกับทิฟฟานี่นั้นติดต่อกันทุกวันทั้งผ่านข้อความหรือจะเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์โดยตรง    อันที่จริงแจจุงตั้งใจว่าจะหาหลักฐานให้เยอะกว่านี้แล้วค่อยถามยุนโฮเพราะกลัวว่าถ้าถามออกไปแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่คิดมันอาจจะทำให้กระทบถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา    แต่บังเอิญว่าวันนี้ดันมาเจอหญิงสาวซะก่อนบวกกับข้อมูลที่พึ่งได้มาสดๆร้อนจากเลขาส่วนตัวของยุนโฮทำให้แจจุงตัดสินใจถามยุนโฮในวันนี้   และอีกอย่างแจจุงคิดว่าถ้าปล่อยให้นานกว่านี้เรื่องมันอาจจะสายเกินไปก็ได้

                “ แล้ว....แจรู้จักทิฟฟานี่ได้ยังไงเหรอ ”  ถามไม่เต็มเสียงมากนัก  แต่ตราบใจที่มุนบินกับเยอึนยังอยู่ที่นี่ยุนโฮก็ยังพอจะเบาใจได้ว่าแจจุงจะไม่โวยวายหรือลงไม้ลงมือกับเขา

                แจจุงจะไม่แสดงกิริยากร้าวราวต่อหน้าลูกเด็ดขาด


                “ รู้จักได้ยังไงมันไม่สำคัญหรอก    ที่สำคัญคือเธอคือใคร ” เสียงที่เย็นขึ้นเรื่อยๆนั่นคือสิ่งที่ยุนโฮสัมผัสได้   ร่างสูงเริ่มขยับตัวรู้สึกว่าโซฟามันร้อนยังไงก็ไม่รู้  “ ว่ายังไงล่ะ ” ถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบ

                “ ยุนเอ่อ...ยุนจะเริ่มยังไงดีล่ะ ” พอโดนกดดันทางสายตามากๆยุนโฮก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง  เรื่องมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายหรอกเพียงแต่ว่าเขาเรียบเรียงประโยคไม่ถูกก็แค่นั้น

                “ ก็เริ่มที่ความจริงไง ” เสียงหวานเริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจมันจะไปยากอะไรแค่พูดความจริงออกมา

    จริงๆแล้วแจจุงโกรธยุนโฮตั้งแต่ตอนที่รู้ว่างานที่บริษัทไม่ได้ยุ่งอย่างที่ยุนโฮบอกแล้วล่ะเขาสามารถควบคุมตัวเองไม่ให้โวยวายมาจนถึงตอนนี้ได้ก็ดีแค่ไหนแล้ว

                และยิ่งยุนโฮทำตัวแบบนี้มันยิ่งน่าสงสัยเพราะถ้าหากไม่มีอะไรจริงๆทำไมต้องอึกอักด้วยยิ่งเป็นแบบนี้แจจุงยิ่งคิดไปในทางลบ    ซึ่งถ้าหากยุนโฮทำตัวออกนอกลู่นอกทางจริงๆแจจุงก็มีวิธีที่จะจัดการเรื่องนี้เหมือนกันเรื่องอื่นแจจุงอาจจะยอมได้แต่ถ้าหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวแล้วล่ะก็ร่างบางพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องครอบครัวของเขาเอาไว้

                “คือยุนกับทิฟฟานี่..... ”

                ก๊อก  ก๊อก ก๊อก

                เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเปรียบเสมือนระฆังช่วยชีวิตยุนโฮอาศัยจังหวะที่แจจุงหันไปมองประตูยกมือขึ้นมาซับเหงื่อที่หน้าผาก    ร่างโปร่งของชางมินเดินยิ้มกว้างเข้ามาในห้องทำเอายุนโฮแอบโล่งอกเพราะอย่างน้อยแจจุงคงไม่สอบสวนเรื่องนี้ต่อหน้าชางมินหรอกนะ   


                ใช่ว่ายุนโฮอยากทำตัวมีความลับอะไรหรอกนะยิ่งกับคนในครอบครัวแล้วเขาไม่เคยคิดที่จะมีความลับเลยแต่ที่เป็นแบบนี้นั้นก็เพราะเขารับปากทิฟฟานี่เอาไว้ว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครจนกว่าธุระของเธอจะเสร็จเรียบร้อย

                “ ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ ” แจจุงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ  เวลานี้ชางมินควรจะอยู่ที่บริษัทไม่ใช่เหรอแล้วทำไมมาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ

                “ ผมมาธุระนิดหน่อยน่ะก็เลยแวะมาหาพี่ยุนโฮไม่คิดว่าพี่จะอยู่ที่นี่ด้วย ” บอกอารมณ์ดีก่อนจะเดินมานั่งข้างๆมุนบิน ปากหยักอ้ากว้างแกล้งทำเหมือนขอกินด้วยคน

                “ ของหลานก็ยังจะแย่ง ” ยุนโฮแขวะกลั้วรอยยิ้มเมื่อมุนบินช่างเป็นหลานที่ดีเหลือเกินตักเค้กป้อนอาชางมินด้วย  แต่ดูเหมือนว่าอาชางมินจะเป็นอาที่ดีกว่าเพราะพอหลานป้อนปุ๊บอาก็งับปั๊บ

                “ ก็ผมกลัวมุนบินเสียน้ำใจ ” หอมแก้มยุ้ยแทนคำขอบคุณหนึ่งที   เขาผิดตรงไหนเขาก็แค่กลัวมุนบินน้อยใจถ้าหากเขาไม่ยอมกิน

                “ เหรอ อ อ ”  พ่อหมีลากเสียงยาวบอกว่าเชื่อสุดๆไปเลย        ชางมินไม่ตอบอะไรทำเพียงยักคิ้วกวนๆส่งมาให้ก่อนจะหันไปสนใจแจจุงเมื่อร่างบางถาม

                “ ชางมินนายว่างหรือเปล่า ”

                 “ ตอนนี้เหรอฮะ ”

                “ ใช่....ตอนนี้ ”

                มือหนายกขึ้นมาเกาคางคิดทบทวนตารางงานของตัวเองวันนี้    อันที่จริงเขาต้องเข้าบริษัทอีกรอบแต่ถ้าไม่เข้าก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งเพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเท่าไหร่

                “ ว่างฮะ.....พี่มีอะไรหรือเปล่า ”  ถามไปในใจก็แอบลุ้นว่าวันนี้พี่แจจุงจะเข้าครัวทำอะไรอร่อยๆให้ทานหรือเปล่า

                “ พี่จะวานให้นายพามุนบินเยอึนลงไปทานไอศกรีมข้างล่างหน่อยนะ ”

                ชางมินยิ้มกว้างด้วยความเต็มใจทันทีที่ได้ยินคำร้องขอจากแจจุงต่างจากยุนโฮที่เริ่มยิ้มไม่ออกอีกครั้ง   ให้ชางมินพาเด็กๆออกไปแบบนี้คงไม่พ้นแจจุงต้องการที่จะสอบสวนเขาต่อ    เพียงเสี้ยววินาทีร่างของลูกหมีคนเล็กที่นั่งอยู่บนตักลอยขึ้นไปอยู่ในอ้อมแขนของชางมินโดยที่พ่อหมีอย่างเขาไม่ทันได้คัดค้านอะไรเลยด้วยซ้ำ

                “ มีเวลาให้ชั่วโมงครึ่งนะเพราะเดี๋ยวพี่ต้องไปทำธุระต่อ ”  แจจุงสั่งเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่ชางมินจะอุ้มเยอึนกับมุนบินเดินออกไปจากห้องท่ามกลางเสียงปรบมือดีใจของลูกหมีทั้งสองที่รู้ว่าอาชางมินจะพาลงไปทานของโปรด

                ทันทีที่ประตูห้องปิดสนิทดวงตาคู่สวยก็ตวัดมามองร่างหมีๆที่นั่งส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้   แจจุงตัดสินใจแล้วว่าวันนี้เขาจะพูดกับยุนโฮให้รู้เรื่องเขาไม่อยากอยู่กับความระแวงละไม่เชื่อใจแบบนี้อีกต่อไปแล้ว

                “ ยุนจะบอกแจได้หรือยังว่าทิฟฟานี่คือใคร ” น้ำเสียงไม่ได้แข็งกระด้างหากแต่มันมีความเด็ดขาดอยู่ในตัวแววตาเด็ดเดี่ยวจ้องมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกครึ่งของชีวิต “ และขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าคิดจะโกหกเพราะถ้าหากแจรู้เองสาบานได้ว่ายุนจะไม่มีโอกาสได้เห็นแจกับลูกอีกเลย ”

                “ แจ.... ” เสียงทุ้มเรียกชื่อคนรักเสียงแผ่ว   ยุนโฮรู้ว่านั่นไม่ใช่คำขู่แต่แจจุงจะทำมันจริงๆคนภายนอกอาจจะได้เห็นแจจุงในมุมของคนใจดีแต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าในความใจดีนั้นมีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวยิ่งนัก

                “ แค่พูดความจริงยุน ” แจจุงพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นทั้งๆที่ในใจลึกๆแล้วก็แอบกลัวกับคำตอบที่จะได้ยิน   แต่ในเมื่อเลือกที่จะถามแล้วเขาก็ต้องยอมรับให้ได้ไม่ว่าคำตอบนั้นจะออกมาในรูปแบบไหน

                ยุนโฮมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดเขาไม่อยากผิดสัญญากับทิฟฟานี่แต่ถ้าเขาโกหกออกไปเขาอาจจะเสียทั้งแจจุงกับลูกไปจริงๆก็ได้    ในวินาทีที่ต้องเลือกอย่างนี้แน่นอนว่าเขาต้องเลือกครอบครัวอยู่แล้วและอีกอย่างแจจุงเองก็ไว้ใจได้คงไม่ทำให้แผนการที่วางไว้พังลงเหมือนอย่างที่หญิงสาวกลัวหรอก

                ยุนโฮถอนหายใจเบาๆก่อนจะรั้งร่างของภรรยามากอดเอาไว้หลวมๆเขาไม่รู้ว่าแจจุงได้รู้หรือได้เห็นอะไรมาแต่สิ่งที่ยุนโฮรับรู้ได้ในตอนนี้คือร่างบอกเริ่มหวั่นไหวกับสิ่งเหล่านั้น

                “ ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมากหรอก   ยุนกับทิฟฟานี่เป็นเพื่อนกัน ” ยุนโฮเลือกที่จะไม่บอกว่าเขากับทิฟฟานี่เคยมีความสัมพันธ์กันแบบไหนมาก่อนเพราะขืนบอกออกไปแบบนั้นมันก็รังแต่จะสร้างความไม่สบายใจให้แจจุงซะเปล่าๆและที่สำคัญเรื่องนั้นมันเป็นอดีตไปนานแล้ว

                “ แค่เพื่อน? ” ตากลมช้อนมองเหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่   แค่เพื่อนทำไมต้องโทรหากันทุกวันแถมโทรวันละหลายๆครั้งด้วย

                “ แค่เพื่อนจริงๆ ” พยักหน้ายิ้มๆแอบพอใจนิดๆที่เห็นแจจุงแสดงท่าทีเหมือนหึงหวงเขา

                “ เพื่อนแล้วทำไมต้องโทรหากันทุกวัน  ต้องส่งข้อความหา  ต้องไปทานข้าวด้วยกัน ” ถามออกมาเป็นชุด  ตาคู่สวยจ้องลึกเข้าไปในตาคมเพื่อจับโกหกแต่ก็ไม่พบ

                “ แจรู้ได้ไง ”  คิ้วหนาขมวดมุ่นแจจุงรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง  เรื่องโทรศัพท์น่ะเขาไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอกแต่เรื่องไปทานข้าวด้วยกันนี่สิแจจุงเห็นตอนไหน

                “ แจต้องการคำตอบไม่ได้ให้ยุนมาย้อนถามนะ ” จิ๊ปากด้วยความขัดใจ  นอกจากยุนโฮจะไม่ไขข้อข้องใจแล้วยังมาย้อนถามเขาอีก

                “ แล้วถ้ายุนบอกไปแจจะเชื่อมั๊ยล่ะ ” ถามกลั้วรอยยิ้ม  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เครียดแทบตายแต่น่าแปลกใจที่ตอนนี้ยุนโฮกลับอารมณ์ดี    เขารู้แล้วล่ะว่าเยอึนเหมือนใครเวลาขัดใจเหมือนกันทั้งแม่ทั้งลูกเลยจริงๆ

                “ ก็ลองบอกมาก่อนสิ ”

                มือหนาจับมือบางขึ้นมาคลึงเล่นเบาๆเพื่อให้แจจุงอารมณ์ดีกว่านี้ก่อนจะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังอย่างใจเย็น 

                “ บริษัทของทิฟฟานี่กำลังมีปัญหาและเธอสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดจะเกิดจากคนใกล้ตัวของพ่อเธอ   เธอเตือนพ่อของเธอแล้วแต่พ่อเธอไม่เชื่อเพราะทำงานด้วยกันมานานเลยทำให้ไว้ใจและไม่คิดว่าคนใกล้ชิดจะทรยศ ”

                บอกออกไปตามจริงหลายเดือนก่อนยุนโฮได้รับการติดต่อจากทิฟฟานี่ซึ่งพวกเขาไม่ได้ติดต่อกันนานมากนับตั้งแต่วันที่เลิกรากันไป   ตอนแรกยุนโฮก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่จู่ๆหญิงสาวก็ติดต่อมาซึ่งมารู้ทีหลังว่าเธอกำลังมีเรื่องกลุ้มใจและต้องการความช่วยเหลือและในตอนนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่เธอคิดว่าน่าจะช่วยได้

                “ แล้ว.... ”

                “ ทิฟฟานี่มาขอให้ยุนช่วย   เธออยากเปิดโปงคนๆนั้นแต่ไม่มีหลักฐานมากพอเลยมาขอให้
    ยุนช่วย ”

                “ ช่วยยังไง  ช่วยหาหลักฐานน่ะเหรอ ”

                “ ใช่ ” พยักหน้าบอกว่าแจจุงคิดถูกแล้ว

                “ แค่เนี๊ย ” ถามเสียงสูงก่อนจะผละออกจากอ้อมกอด “ แล้วทำไมต้องทำเหมือนเป็นความลับระดับชาติขนาดนั้น ” เรื่องแค่นี้แต่ทำตัวลับๆล่อๆอย่างกับไปทำอะไรผิดมา

                “ ก็ทิฟฟานี่ขอไว้  เธอบอกเธอไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ”

                ตอนแรกยุนโฮก็ไม่เข้าใจเหมือนแจจุงนี่แหละแต่เพราะทิฟฟานี่อ้างว่าเธอไม่ไว้ใจใครนอกจากเขาทิฟฟานี่คิดว่าเรื่องนี้ยิ่งคนรู้มากเท่าไหร่ยิ่งเป็นอันตรายมากเท่านั้น    เธออยากจะรอให้มีหลักฐานแน่นหนากว่านี้ก่อนเพราะถ้าหากทำอะไรโจ่งแจ้งเกินไปเธอกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะไหวตัวทันแล้วทุกอย่างจะพังเพราะดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นก็จับตามองเธอเหมือนกัน

                “ แล้วเรื่องไปทานข้าวด้วยกันจะแก้ตัวยังไง ” ข้อหาที่หนึ่งเคลียร์แล้วทีนี้ก็ถึงเวลาของข้อหาที่สองและแน่นอนว่ายังมีอีกหลายข้อหาที่รอให้สอบสวน

                “ ก็ไปคุยงานกันทั้งนั้น ” บอกออกไปตามจริง   ทุกครั้งที่เจอกันทุกอย่างล้วนมีสาเหตุมาจากเรื่องงานทั้งนั้นยุนโฮไม่รู้หรอกนะว่าการมาขอความช่วยเหลือของอดีตแฟนสาวในครั้งนี้จะมีเจตนาอื่นแอบแฝงมาด้วยหรือไม่แต่เขาก็ได้บอกทิฟฟานี่ไปตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาแต่งงานแล้วและก็รักแจจุงกับลูกมาก  แต่พูดถึงเรื่องนี้ก็เหมือนยุนโฮจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “ ว่าแต่แจเห็นได้ยังไง ”

                “ ก็วันนั้นใครก็ไม่รู้บอกว่ามีประชุมไม่ว่างกลับมาทานข้าวบ้านแจก็เลยพาลูกออกไปทานข้าวนอกบ้าน” เสียงหวานไม่ลืมที่จะประชดออกไป   พูดเรื่องนี้ทีไรมันก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้

                ได้ยินแบบนั้นพ่อหมีก็หน้าเจื่อนขึ้นมาทันทีเขาไม่ได้อยากโกหกนะแต่มันจำเป็นจริงๆ  ก็คืนก่อนหน้านั้นทิฟฟานี่โทรมาบอกว่าได้หลักฐานสำคัญมาให้เขาไปช่วยดู  แต่วันนั้นเขาก็มีประชุมจริงๆนะเพียงแต่มันเสร็จเร็วกว่าที่คิดก็แค่นั้นเอง

    “ เอาไว้ยุนจะพาไปชดเชยนะครับ ”บอกเอาใจ

                “ แล้วไม่ต้องไปช่วยคุณทิฟฟานี่แล้วรึไง ” เสียงหวานยังไม่เลิกประชด   จะพาเขากับลูกไปชดเชยแล้วไม่ต้องช่วยคุณทิฟฟานี่แล้วหรือไงเขากำลังมีปัญหาไม่ใช่เหรอ

                “ ไม่เอาน่าแจ....ยุนไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ ”  กระชับอ้อมกอดอ้อนๆ  แจจุงคงจะไม่เข้าใจผิดถ้าหากว่าเขาไม่รับปากทิฟฟานี่เอาไว้

                “ ก็ลองตั้งใจดูสิ.....แจจะหาพ่อใหม่ให้ลูกหมีให้ดู ”

                “ อย่านะ  ห้ามแม้แต่จะคิดยุนไม่ยอมเด็ดขาด ”  ยุนโฮร้องห้ามน้ำเสียงตื่นๆเขาไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ๆ   แค่คิดว่าแจจุงจะเป็นของคนอื่นหัวใจเขาก็เจ็บแล้วเขาไม่มีทางให้ร่างกายและหัวใจที่เขาหวงแหนตกเป็นของคนอื่นแน่ๆ    นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ลูกหมีต้องเรียกคนอื่นว่าพ่ออีกนะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆวันนั้นคงเป็นวันตายของผู้ชายที่ชื่อชองยุนโฮเป็นแน่

                “ เรื่องนี้มันอยู่ที่ความประพฤติ ”  บอกอย่างคนที่เหนือกว่า  เขาไม่คิดจะหาพ่อใหม่ให้ลูกหมีหรอกแต่คนอย่างยุนโฮต้องมีเรื่องขู่ไว้บ้าง

                “ โถ่....แจจุง ” พ่อหมีโอดครวญอย่างน่าสงสารหน้าคมซบลงบนลาดไหล่มนก่อนจะทำเนียนซุกไซร้ไปตามซอกคอขาว

                “ ไม่ต้องมาทำเนียนเลยนะ ” ร่างบางเบี่ยงคอหลบ   แค่นิดเดียวก็จะเอาขอแค่ได้มีโอกาสฉวยตลอด

                “ ถ้าไม่เนียนแล้วจะมีลูกหมีถึงสองคนเหรอ  แต่จะว่าไปแล้วยุนก็อยากมีคนที่สามเหมือนกันนะ ” บอกเสียงทะเล้นก้เพราะเขาเนียนแบบนี้ไม่ใช่เหรอถึงได้มีลูกหมีน่ารักถึงสองคนมาให้คนรอบข้างหลงรัก

                “ มีแล้วจะเลี้ยงไหวเหรอ ” เอียงคอกลับมาถามแต่แล้วแจจุงก็พบว่าตัวเองคิดผิดที่ทำแบบนั้น  ทันทีที่หันกลับมาก็โดนคนฉวยโอกาสกดจูบลงบนปากอิ่มทันที

                มือบางฟาดลงบนไหล่หนาก่อนวางทาบลงบนหน้าท้องของตัวเองยิ้มๆ  การจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้โตเป็นคนดีของสังคมมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆแต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับพวกเขาสองคนหรอกมั้ง

                “ ไหวอยู่แล้ว....ต่อให้มีเป็นโหลก็ไหว ”  ถ้าว่าแค่สามคนเลยต่อให้มีอีกเป็นสิบเขาก็เลี้ยงไหวแถมเลี้ยงดูเป็นอย่างดีเลยด้วยและรับประกันว่าความรักที่มีใครลูกแต่ละคนเท่าเทียมกันเสมอ

                “ ถ้าจะเยอะขนาดนั้นก็ท้องเองเลยละกัน ” คุณแม่ลูกสองค้อนเข้าให้    จะฆ่ากันให้ตายเลยรึไงถ้ามีเยอะขนาดนั้นวันๆคงไม่ต้องทำอะไรนอกจากท้องแล้วก็เลี้ยงลูก

                แต่มีหรือที่ยึนโฮจะกลัวสายตามองค้อนนั่น  จมูกโด่งขโมยความหอมจากแก้มนุ่มก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์แต่ทำเอาคนฟังหน้าขึ้นสีเป็นลูกมะเขือเทศ“ ถ้ายุนท้องแจก็ต้องเป็นคนทำน่ะสิ ”

                “ ชอง  ยุนโฮ !!!

                แจจุงเรียกชื่อคนรักเสียงหลงมือบางเริ่มทำร้ายร่างกายของคนที่ตัวโตกว่าซึ่งนอกจากยุนโฮจะไม่ปัดป้องแล้วยังหัวเราะร่วนด้วยความชอบใจอีกด้วย

                “ ตาหมีบ้า  ทำไมชอบพูดอะไรแบบนี้อยู่เรื่อยเลย ”  ทั้งบ่นทั้งตี   แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ได้เกิดจากความโกรธหากแต่มันเป็นวิธีแก้เขินฉบับชอง  แจจุงต่างหากล่ะ  

                มาบอกให้เขาเป็นคนรุกทั้งๆที่ชีวิตนี้เขาเคยแต่รับเนี่ยนะ  ชอง ยุนโฮ  คนบ้า !!

                แต่ในขณะที่คนในห้องกำลังหยอกล้ออยู่นั้นหน้าประตูกับมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนกำหมัดแน่นให้กับภาพที่เห็นผ่านช่องแคบๆของประตูที่เปิดแง้มเอาไว้   ความตั้งใจที่จะกลับมาเอาของที่ลืมไว้พลันหายไปทันทีที่เห็นยุนโฮหอมแก้มผู้ชายหน้าสวยอีกคน











    *****  คงไม่ดึกเกินไปใช่มั๊ย ^^ ไรเตอร์พึ่งหนีน้ำท่วมมาอยุ่ต่างจังหวัดอ่า งอนน้องน้ำก็เลยเก็บเสื้อผ้าหนีเลย 5555

    *****  ฝันดี น้องน้ำไม่ไปหานะค่ะทุกคน ^_^

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×