ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #112 : ~ Happy Family 2 ~ # 13

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.37K
      3
      25 พ.ย. 54

    “ มุนบินยิ้มหน่อยสิลูก ” เสียงหวานบอกกับลูกชายที่เดินหน้ามุ่ยอยู่ในขบวนพาเหรดมือเล็กทั้งสองข้างถือพานเหรียญรางวัลเอาไว้โดยมีอาชางมินรับหน้าที่เป็นตากล้องบันทึกทุกอิริยารถของหลานรักเอาไว้  

     

     

                แจจุงกับยุนโฮเดินประกบลูกชายไม่ห่างไม่รู้ว่าจะสงสารหรือว่าจะเอ็นดูดีที่เห็นใบหน้าบึ้งตึงของลูกชาย   ใช่แล้วล่ะตอนนี้เด็กชายชองมุนบินกำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆเพราะถูกคุณแม่คนสวยปลุกให้ลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะได้ไปถึงจุดนัดพบตามเวลานัดซึ่งก็คือเจ็ดโมงเช้า   แน่นอนว่าเด็กที่รักการนอนอย่างมุนบินไม่มีทางยอมตื่นง่ายๆต้องใช้เวลาปลุกกันนานเลยล่ะและหลังจากที่งอแงอยู่นานสุดท้ายแล้วแจจุงก็จับลูกชายแต่งตัวจนได้   และผลจากการถูกขัดใจจึงทำให้มุนบินเดินทำหน้าไม่รับแขกอย่างที่ทุกคนเห็นนี่แหละ

     

     

                “ มุนบินครับ  หันมายิ้มให้น้องสาวหน่อยสิลูก ”  ยุนโฮที่อุ้มเยอึนอยู่ช่วยพูดอีกแรงเมื่อชางมินส่งสัญญาณมาบอกว่ายังไม่ได้รูปมุนบินยิ้มเลย

     

     

                เจ้าชายตัวน้อยที่วันนี้อยู่ในชุดฮันบกโบราณทำเพียงหันมามองก่อนที่ปากเล็กจะยกยิ้มนิดๆเมื่อเห็นเยอึนกับชานฮีโบกมือมาให้    วันนี้มุนบินน่ารักจริงๆแต่คงจะน่ารักกว่านี้ถ้าหากว่าใบหน้าน่ารักนั้นจะมีรอยยิ้มติดอยู่   รอยยิ้มเล็กๆเมื่อสักครู่หายไปทันทีที่เห็นพ่อหมีกับคุณแม่คนสวยส่งยิ้มมาให้   อาการที่คนเป็นพ่อเป็นแม่อ่านออกว่า

     

     

                ที่คุณพ่อคุณแม่จับมุนบินอาบน้ำทั้งๆที่มุนบินยังไม่ตื่นเต็มตา   มุนบินไม่หายงอน

    หรอกนะ

     

     

                คุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้ลูกชายงอนโดนไม่ได้ตั้งใจหันมามองหน้ากันเมื่อหมดปัญญาที่จะทำให้มุนบินกลับมาอารมณ์ดีแต่แล้วรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเยอึนก็ทำให้ยุนโฮคิดอะไรขึ้นมาได้     แจจุงยืนมองพ่อหมีที่กำลังกระซิบอะไรบางอย่างอยู่ข้างๆหูเล็กของลูกสาวด้วยสายตาไม่ไว้ใจหวังว่าคงไม่ชวนลูกทำอะไรแปลกๆอีกนะชอง ยุนโฮ

     

     

                เยอึนพยักหน้าให้กับผู้เป็นพ่อก่อนจะตะโกนเรียกพี่ชายของตัวเองเสียงดัง  “ ปี้หมี  จู้จู้ ”  (พี่หมี สู้สู้ )

     

     

                เสียงเล็กน่ารักที่ยังออกเสียงไม่ชัดของน้องสาวทำให้ลูกหมีที่กำลังเดินหน้ามุ่ยอยู่ต้องหันกลับมามองพร้อมรอยยิ้มกว้างทันที    หลังจากที่เฝ้ารอมานานในที่สุดน้องสาวสุดที่รักก็ยอมเรียกว่าพี่ชายซะทีแล้วแบบนี้จะไม่ให้มุนบินยิ้มกว้างได้ยังไงก็มุนบินชอบเวลาที่น้องสาวเรียกว่าพี่ชายมากกว่าพี่หมีตั้งเยอะ    และไม่น่าเชื่อว่าแค่เพียงประโยคสั้นๆของเยอึนเพียงประโยคเดียวจะสามารถทำให้มุนบินกลับมาอารมณ์นี้ได้ถึงขนาดนี้   แต่ดูเหมือนว่าคนที่ยิ้มกว้างมากที่สุดก็คงจะเป็นยุนโฮ

     

     

                คิดไม่ผิดจริงๆที่ยอมเอาเค้กแลกกับการที่เยอึนยอมเรียกมุนบินว่าพี่ชาย

     

     

                “ เมื่อกี๊น้องเรียกหนูว่าพี่ชายแหละ  คุณพ่อคุณแม่ได้ยินมั๊ย ” พูดอวดพร้อมรอยยิ้มอารมณ์ดี  ตอนนี้มุนบินแทบจะลืมทุกอย่างลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองกำลังงอน    เพราะตอนนี้ในสมองของลูกหมีมีแค่เสียงของน้องสาวที่เรียกตัวเองว่าพี่ชายเต็มไปหมด

     

     

                “ ได้ยินครับ  คุณพ่อได้ยินเต็มสองหูเลย ” ยุนโฮเอ่ยเย้าลูกชายกลั้วรอยยิ้มก่อนจะพยักหน้าให้ชางมิน

     

     

                พอมุนบินเริ่มอารมณ์ดีตากล้องอย่างชางมินก็ไม่รีรอที่จะรัวชัตเตอร์เก็บภาพเอาไว้ให้ได้มากที่สุด   ชางมินยังคงตามถ่ายรูปหลานรักอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งขบวนเดินเข้าไปในสนามซึ่งห้ามไม่ให้ผู้ปกครองเดินตามเข้าไป   บรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายจึงต้องรีบหามุมที่สามารถมองเห็นเจ้าหญิงเจ้าชายของตัวเองได้ชัดๆ

     

     

                “ เก่งนี่  ทำให้ลูกหมีกลับมายิ้มได้ ”  เสียงหวานเย้าคนรัก  ยอมรับแบบไม่อายเลยล่ะว่าอิจฉายุนโฮนิดๆที่สามารถรับมือมุนบินได้ทุกสถานการณ์เพราะแบบนี้ไงล่ะยุนโฮถึงได้เป็นคนโปรดเบอร์หนึ่งของมุนบินมาจนถึงทุกวันนี้

     

     

                “ แน่นอน   ก็คนมันรู้ใจลูกอ่ะนะ ” พ่อหมีได้ทีคุยข่มเลยได้ค้อนวงโตจากคุณแม่คนสวยกลับมาเป็นรางวัล

     

     

                “ พี่เดี๋ยวผมมานะ  มุมนี้เห็นมุนบินไม่ชัดเลย ” เสียงของชางมินดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าเซ็งๆของเจ้าตัว   ยืนอยู่ตรงนี้ถ่ายรูปมุนบินไม่ชัดเลยเจ้าลูกหมีโดนเด็กคนอื่นบังหมดเลย   ชางมินกำลังจะจูงมือยูฮวานเดินไปหามุมที่เหมาะกว่านี้อยู่แล้วเชียวถ้าไม่ติดว่ามีเสียงประกาศดังขึ้นซะก่อน

     

     

                “ มีเวลาสิบนาทีก่อนพิธีเปิดจะเริ่ม  ระหว่างนี้ผู้ปกครองสามารถเข้าไปถ่ายรูปกับบุตรหลานได้นะครับ ”

     

     

                ไม่ต้องถามความคิดของกันและกันให้เสียเวลาทั้งแปดชีวิตก็รีบเดินตรงเข้าไปหาเป้าหมายทันที   เสียงหัวเราะเบาๆดังออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเมื่อมองไปรอบๆตัวดูเหมือนว่างานนี้ผู้ปกครองของมุนบินจะเยอะกว่าใครเพื่อน

     

     

                ผู้ปกครองของเด็กคนอื่นอาจจะมีแค่พ่อกับแม่แต่ของมุนบินแล้วนอกจากพ่อแม่กับน้องสาวแล้วยังรวมไปถึงอาๆทั้งหลายด้วย   ก็นะวันสำคัญของลูกหมีทั้งทีใครพลาดก็แย่แล้วขนาดยูชอนที่วันนี้มีประชุมเช้ายังขอแว๊บมาดูหลานรักก่อนเข้าบริษัทเลย   ไม่ต่างอะไรกับชางมินกับยูฮวานที่มีนัดเซ็นต์สัญญากับลูกค้าแต่ก็ยังอุตส่าห์มาทำหน้าที่เป็นตากล้องให้   นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องไปต่างประเทศงานนี้คงได้เห็นคุณปู่คุณย่าอยู่ที่นี่ด้วยแน่ๆ

     

     

                “ มุนบินร้อนมากมั๊ยลูก ” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เดินเข้ามาใกล้แล้วเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นบนใบหน้าของลูกชาย  เห็นแบบนี้แล้วยุนโฮแทบอยากจะวิ่งกลับไปเอาร่มที่รถมาบังแดดให้ลูกชายให้มันรู้แล้วรู้รอด

     

     

                “ มากครับ ” พยักหน้าหงึกๆบอก “ หนูหิวน้ำด้วยอ่ะ ” เมื่อไหร่มุนบินจะได้ไปพักซะทีเดินมาตั้งนานเหนื่อยก็เหนื่อย  ร้อนก็ร้อน  มุนบินอยากเปลี่ยนชุดแล้วอ่ะ

     

     

                ทันทีที่ได้ยินลูกชายบ่นว่าหิวน้ำแจจุงก็รีบหยิบขวดน้ำในกระเป๋าส่งให้ลูกชายดื่มแก้กระหายทันที  โชคดีที่ตอนเดินเข้ามามีร้านขายน้ำตั้งอยู่แจจุงจึงซื้อเผื่อเอาไว้เพราะคิดว่ามุนบินต้องหิวแน่ๆและก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

     

     

                “ นี่ครับน้ำ  ทนอีกนิดนะลูกเดี๋ยวก็ได้พักแล้ว ”  บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อออกให้

     

     

                เยอึนตัวน้อยที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆเดินเตาะแตะมาแย่งผ้าเช็ดหน้าออกจากมือคุณแม่คนสวยแจจุงมองการกระทำของลูกสาวด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะร้องอ๋อเมื่อเยอึนเป็นคนลงมือเช็ดเหงื่อให้พี่ชายต่อเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้ใหญ่ที่ยืนดูอยู่

     

     

                เยอึนก็อยากซับเหงื่อให้พี่ชายบ้างอะไรบ้าง                                                 

     

     

                พอเห็นเยอึนทำชานฮีเองก็อยากทำบ้างแต่เพราะไม่มีผ้าเช็ดหน้าเหมือนเยอึนลูกชายสุดที่รักของพ่อปาร์คจึงใช้มือป้อมๆของตัวเองเช็ดแทนซะเลยทำเอาผู้ใหญ่ทั้งหมดหลุดขำให้กับความน่าเอ็นดูของเด็กๆเพราะภาพที่เห็นในตอนนี้คือเยอึนกับชานฮีกำลังแข่งกันเอาใจมุนบิน

     

     

                “ เหลือเวลาอีกห้านาทีนะครับ ”

     

     

                เสียงประกาศเตือนที่ดังขึ้นทำให้ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเข้ามาในนี้ทำไม   การถ่ายรูปที่แสนจะวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเพราะต้องแข่งกับเวลาที่เหลือเพียงน้อยนิดทุกคนสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเป็นตากล้องเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปกับมุนบินได้ครบทุกคน   การถ่ายรูปยังคงดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งเสียงประกาศหมดเวลาดังขึ้นพร้อมกับบอกให้ผู้ปกครองออกไปรอด้านนอกซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ยูชอนถูกเลขาส่วนตัวโทรมาตามให้เข้าไปประชุม

     

     

     

     

    .....................................................................

     

    .

     

     

                “ มุนบินทำไมไม่ใส่หมวกลูก”  แจจุงที่กำลังช่วยคุณแม่คนอื่นๆเตรียมอาหารกลางวันอยู่เอ่ยถามทันทีที่เห็นลูกชายวิ่งเข้ามา   หมวกใบเล็กที่เขาใส่ให้ก่อนหน้านี้มันควรที่จะอยู่บนหัวแทนที่จะในมือเล็กๆนั่น

     

     

                “ หนูใส่แล้ว  แต่มันหลุด ”  บอกเสียงเบา  คุณแม่อย่ามองมุนบินแบบนี้สิมุนบินไม่ได้ตั้งใจจะถอดออกซะหน่อยมันหลุดตอนที่มุนบินวิ่งมาหาคุณแม่อ่ะ “ หนูจะแข่งแล้วนะคุณแม่ ”  มุนบินชิงเปลี่ยนเรื่องก่อนทันทีที่เห็นคุณแม่คนสวยเตรียมตั้งท่าจะบ่น

     

     

                “ หืม....หนูจะแข่งแล้วเหรอลูก ” คิ้วเรียวเลิกขึ้นพร้อมกับวางมือที่กำลังหั่นผักลง

     

     

                “ ครับ...คุณพ่อให้หนูมาตามคุณแม่อ่ะ ” พยักหน้ายืนยันก่อนจะหันหลังกลับไปมองด้านนอกเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง “ คุณแม่รีบตามมาน๊า ”

     

     

                แจจุงมองตามร่างลูกหมีที่วิ่งตามเพื่อนออกไปก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อจุนซูส่งรอยยิ้มล้อเลียนมาให้รอยยิ้มที่แจจุงอ่านความหมายออกว่า

     

     

                นายเป็นคุณแม่หัวเน่าแล้วล่ะแจจุง

     

     

                “ เยอึน  ชานฮี ไปดูพี่มุนบินแข่งวิ่งกันดีกว่าลูก ” ร่างบางวางงานที่อยู่ในมือลงก่อนที่เสียงหวานเอ่ยชวนลูกสาวกับหลานชายที่นั่งเล่นของเล่นอยู่ใกล้ๆ

     

     

                จากที่ตอนแรกจุนซูตั้งใจว่าจะกลับบ้านหลังจากที่ดูมุนบินเดินขบวนเสร็จแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะชานฮีไม่ยอมกลับสงสัยว่าคงจะเห็นว่าที่นี่มีเพื่อนเล่นเยอะกว่าที่บ้าน   จุนซูก็เลยตามใจอยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันอย่างน้อยก็มีอะไรทำมากกว่าอยู่ที่บ้านชานฮีเองก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนเล่นเยอึนด้วย

     

     

                หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วพ่อหมียุนโฮหายไปไหน ?  ยุนโฮไม่ได้ไปไหนไกลหรอกเพียงแต่คุณพ่อนั้นถูกเชิญให้ไปเป็นกรรมการในกีฬาประเภทต่างๆตามแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล    ส่วนคุณแม่ก็มีหน้าที่เตรียมอาหารกลางวันให้คุณพ่อและคุณลูกนอกจากนั้นอาหารที่ทำแต่ละสีต้องส่งไปที่กองอำนวยการหนึ่งอย่างเพื่อให้คณะกรรมการตัดสินว่าอาหารจากสีไหนอร่อยถูกใจกรรมการที่สุด

     

     

                เพราะนอกการความสามัคคีของนักเรียนแล้วสิ่งที่ทางโรงเรียนต้องการจากการจัดกีฬาสีครั้งนี้คือสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวรวมถึงเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองด้วย   ซึ่งดูเหมือนจะประสบความสำเร็จซะด้วยสิเพราะแต่ละครอบครัวให้ความร่วมมือในกิจกรรมครั้งนี้เป็นอย่างดี

     

     

                ปากอิ่มยกยิ้มบอกว่าเห็นแล้วให้กับยุนโฮที่ยืนโบกมือมาให้  ด้านหน้าของร่างสูงมีมุนบินยืนกระโดดสะบัดมืออยู่ คิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด  อย่าบอกนะว่านี่คือท่าวอร์มร่างกายของลูกหมี

     

     

                “ อีกสักพักมุนบินก็จะแข่งแล้วล่ะ ” พ่อหมีที่วันนี้รับหน้าที่เป็นโค้ชชั่วคราวให้กับลูกชายบอกยิ้มๆ

     

     

                “ งั้นเดี๋ยวกันถ่ายวีดีโอให้นะ ” จุนซูอาสาเพราะดูเหมือนว่ายุนโฮคงจะอยู่ที่จุดปล่อยตัวกับมุนบินส่วนแจจุงก็คงจะลุ้นจนตัวโก่งซึ่งอาจจะทำให้ลืมกดบันทึกก็ได้

     

     

                “ ขอบคุณนะ ” ยุนโฮยิ้มขอบคุณพร้อมกับส่งกล้องวีดีโอให้จุนซูก่อนจะหันไปพูดกับแจจุงต่อ “ เดี๋ยวแจกับจุนซูพาเด็กๆไปรอที่เส้นชัยนะ ”

     

     

                “ อืม.... ” แจจุงพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าลูกชาย “ สู้ๆนะลูกเดี๋ยวคุณแม่จะไปรอรับที่เส้นชัย ” จมูกโด่งรั้นกดลงบนแก้มยุ้ยของลูกชายเป็นกำลังใจก่อนแข่ง

     

     

                “ ครับ....หนูจะวิ่งให้เร็วจี๋เลย ”  บอกพร้อมรอยยิ้มและสีหน้าที่ดูมั่นใจสุดๆจนคนเป็นแม่อดที่จะขยี้หัวเล็กด้วยความเอ็นดูไม่ได้

     

     

                “ แล้วคุณแม่จะคอยดู ” บอกกลั้วรอยยิ้มก่อนจะเรียกลูกสาวคนเล็กให้เข้ามาใกล้ๆ  “ เยอึนให้กำลังใจพี่ชายหน่อยสิลูก ”

     

     

                ตากลมแป๋วมองผู้เป็นแม่ราวกับจะถามว่า  ให้กำลังใจเขาทำกันยังไงเหรอค่ะ   ยุนโฮยิ้มเอ็นดูให้กับแววตาใสซื่อของลูกสาวก่อนจะลงมือสาธิตให้ดูว่าการให้กำลังใจเขาทำกันยังไง

     

     

                “ ให้กำลังใจแบบนี้ไงค่ะลูก ” จมูกโด่งเป็นสันกดลงบนแก้มลูกชายหนักๆเป็นการหยอกเย้าไปในตัวเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเจ้าตัวเล็กที่กำลังถูกเอาเปรียบงานนี้ยุนโฮยังไม่ลืมเผื่อแผ่กำลังใจไปให้ลูกสาวคนเล็กด้วย

     

     

                เยอึนที่พอจะรู้แล้วว่าให้กำลังใจคืออะไรก็เดินไปกอดพี่ชายตัวเองทันทีก่อนจะระดมหอมแก้มซ้ายขวาของพี่หมีไปมาเพราะหนูน้อยเข้าใจว่ายิ่งหอมเยอะพี่ชายก็ยิ่งมีกำลังใจเยอะ

     

     

                “ รักปี้ชายน๊า ”ยิ้มตาหยีบอกเอาใจ   เยอึนรู้แล้วว่าพี่ชายชอบให้ตัวเองเรียกแบบนี้และในเมื่อมันเป็นสิ่งที่พี่ชายชอบมีหรือเยอึนจะไม่ทำแต่สิ่งสำคัญที่ทำให้หนูน้อยยอมเรียกมุนบินว่าพี่ชายคือการได้รางวัลเป็นการหอมแก้มจากพี่ชายทุกครั้งที่เรียก

     

     

                “ รักน้องสาวเหมือนกัน ” และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่มุนบินหอมแก้มเป็นรางวัลที่น้องสาวพูดถูกใจ

     

     

                “ นักกีฬาเข้าประจำที่ได้แล้วครับ ” เสียงคุณครูประกาศบอกให้ตัวแทนแต่ละสีเข้าประจำที่

     

     

                แจจุงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะชูกำปั้นขึ้นกลางอากาศบอกให้ลูกชายทำให้เต็มที่ “ สู้ๆนะครับคนเก่งของคุณแม่ ”

     

     

                “ สู้ๆนะครับมุนบิน  เดี๋ยวอาจุนซูจะถ่ายรูปไว้เยอะๆเลย ” จุนซูให้กำลังใจหลานชายพร้อมกับชูกล้องวีดีโอให้ดู  เห็นแบบนี้แล้วเขาชักอยากให้ชานฮีเข้าโรงเรียนเร็วๆแล้วสิ

     

     

                “ ครับผม ” รับคำแข็งขันก่อนจะเดินตามพ่อหมีไปยังจุดปล่อยตัวที่อาจารย์กำหนดเอาไว้   ส่วนแจจุงกับจุนซูก็จูงมือเยอึนกับชานฮีเดินไปรอที่เส้นชัย

     

     

                “ คุณพ่อหนูตื่นเต้นอ่ะ ” พอใกล้ถึงเวลาลูกหมีก็เกิดอาการไม่มั่นใจขึ้นมาซะงั้น

     

     

                ตาเรียวเล็กมองผู้เป็นพ่อเพื่อบอกว่ามุนบินไม่มั่นใจเลยอ่ะ    ถึงแม้จะซ้อมวิ่งกับคุณพ่อทุกเย็นแต่พอถึงเวลาจริงๆมุนบินไม่มั่นใจเลย   มุนบินกลัวจะออกตัวไม่ทันเพื่อนๆ  กลัวจะไม่ได้ยินเสียงนกหวีด  กลัวตัวเองวิ่งไปชนคนอื่น  มุนบินกลัวทุกอย่างเลย

     

     

                ยุนโฮทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าเมื่อเห็นอาการประหม่าของเจ้าตัวเล็ก    มือหนาจับไหล่เล็กทั้งสองข้างเอาไว้สิ่งที่ยุนโฮต้องทำในตอนนี้คือเรียกความมั่นใจของมุนบินกลับมา

     

     

                “ ไม่ต้องตื่นเต้นนะลูก  หนูแค่วิ่งตรงไปหาคุณแม่กับน้องสาวหนูไม่ต้องไปสนใจว่าคนอื่นจะวิ่งไปทางไหน   แค่วิ่งตรงไปหาคุณแม่เข้าใจมั๊ยครับ ” บอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหากแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน  นิ้วยาวชี้ไปยังตำแหน่งที่แจจุงยืนอยู่

     

     

                “ แต่ว่า..... ”

     

     

                “ งั้นเอาแบบนี้ดีมั๊ย  มุนบินวิ่งแข่งกับคุณพ่อใครวิ่งไปกอดคุณแม่ก่อนคนนั้นชนะ” ยุนโฮพยายามเบนความสนใจของมุนบิน  บางทีการที่มุนบินคิดว่ากำลังแข่งกับเขาอยู่อาจจะช่วยทำให้มุนบินประหม่าน้อยกว่าคิดว่ากำลังแข่งกับเพื่อนๆก็ได้

     

     

                “ หนูได้กอดคุณแม่ก่อนคุณพ่อแน่ๆ” ลูกหมีรับคำท้าด้วยน้ำเสียงมั่นใจ  เรื่องการแสดงออกความรักมุนบินยอมน้อยหน้าพ่อหมีซะที่ไหนล่ะ

     

     

                ปากหยักยกยิ้มพอใจที่สามารถทำให้ลูกชายคลายความประหม่าไปได้บ้าง  เสียงทุ้มกระซิบบอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

     

     

                “ อย่าลืมฟังเสียงนกหวีดด้วยนะลูก  และที่สำคัญใครถึงก่อนคนนั้นได้กอดก่อนนะ ”   บอกทิ้งท้ายก่อนที่เสียงทุ้มจะหัวเราะเบาๆให้กับสายตาของลูกชายที่มองมาสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจซะเหลือเกิน

     

     

                หนูไม่ยอมให้คุณพ่อกอดคุณแม่ก่อนหรอก

     

     

                “ นักกีฬา เข้าที่ ”  มุนบินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกกำลังใจให้กับตัวเอง  ตาเรียวเล็กหันไปมองผู้เป็นพ่อก่อนจะเดินเข้าไปประจำที่เมื่อพ่อหมีพยักหน้าบอกว่า  คุณพ่อเชื่อว่ามุนบินต้องทำได้

     

     

                “ ระวัง......ปี๊ด 

     

     

                ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้นมุนบินก็ออกวิ่งไม่คิดชีวิตเป้าหมายของมุนบินไม่ใช่เส้นชัยแล้วในตอนนี้แต่มันคือคุณแม่คนสวยต่างหากแววตาเรียวเล็กนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น   ยุนโฮเองก็วิ่งตามลูกชายไปช้าๆเขาไม่คิดจะแข่งกับมุนบินอย่างจริงจังหรอกแค่ยกเอาเรื่องนี้มาเป็นแรงกระตุ้นเฉยๆและที่สำคัญ

     

     

                เมื่อคืนเขากอดแจจุงไปแล้วตั้งสองรอบ

     

     

                แจจุงที่ยืนรออยู่ที่เส้นชัยก็กำลังยืนมองตาไม่กระพริบโดยมือแขนเรียวข้างซ้ายอุ้มเยอึนเอาไว้  ส่วนข้างขวาก็อุ้มชานฮีเอาไว้ด้วยโดยมีจุนซูยืนถ่ายวีดีโออยู่ใกล้ๆ   แจจุงแทบจะลืมหายใจเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดแล้วเห็นร่างป้อมๆที่วันนี้ใส่เสื้อนักกีฬาสีแดงวิ่งออกมาจากจุดสตาร์ท    ถึงแม้เริ่มต้นจะออกตัวได้ไม่ดีนักแต่เมื่อเริ่มทรงตัวได้แล้วมุนบินก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นมา    ยิ่งใกล้เส้นชัยเท่าไหร่แจจุงก็ยิ่งลุ้นเท่านั้นตอนนี้ดูไม่ออกจริงๆว่าระหว่างมุนบินกับตัวแทนจากสีฟ้าใครจะเข้าเส้นชัยก่อนมันสูสีกันเหลือเกิน

     

     

                ชานฮีกับเยอึนเองก็ลุ้นไม่แพ้ผู้ใหญ่มือเล็กๆของเด็กทั้งสองคนยกขึ้นมาปรบพร้อมกับส่งเสียงเชียร์พี่หมีของตัวเองยิ่งเห็นคนใส่เสื้อสีฟ้าวิ่งเข้ามาใกล้พี่ชายของตัวเองเจ้าตัวเล็กทั้งสองยิ่งตะโกนเสียงดัง     เสียงเชียร์ดังกระหึ่มมาจากข้างสนามก่อนที่มุนบินจะแซงเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในระยะสิบเมตรสุดท้าย   อาจารย์ประจำสีแดงเฮลั่นที่นักเรียนสามารถทำเหรียญทองเพิ่มให้กับสีได้อีกหนึ่งเหรียญ

     

     

                “ คุณแม่หนูชนะแล้ว ” นักกีฬาเหรียญทองหมาดๆวิ่งมาเกาะขาผู้เป็นแม่พร้อมรอยยิ้มดีใจ   แต่ชนะในความหมายของมุนบินคือชนะคุณพ่อไม่ใช่ชนะเพื่อนๆ   เพราะจริงๆแล้วมุนบินไม่ได้สนใจหรอกว่าใครจะถึงเส้นชัยก่อนตัวเองแต่ที่มุนบินสนใจคือคุณพ่อหมีถึงเส้นชัยก่อนเจ้าตัวหรือเปล่า

     

     

                แจจุงค่อยๆวางเยอึนกับชานฮีลงก่อนกอดลูกชายคนโตอย่างสุดรัก “ มุนบินของคุณแม่เก่งที่สุดเลย ” จมูกสวยกดลงบนแก้มนุ่มเต็มแรงตอนนี้แจจุงภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้สุดๆเลย

     

     

                ยิ้มชอบใจในคำชมก่อนจะหันไปเห็นคุณพ่อสุดหล่อที่แกล้งวิ่งหอบตามเข้ามา   ปากหยักเล็กยิ้มกว้างก่อนจะบอกออกไปทั้งๆที่ยังหายใจติดขัดอยู่ “ หนูชนะ ”  ยักคิ้วแห่งชัยชนะให้คุณพ่อหมีหนึ่งที   ยุนโฮหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะแกล้งทำหน้าเศร้ายอมรับความพ่ายแพ้และร่างสูงรู้ดีกว่าใครว่าภายใต้ประโยคที่บอกว่าหนูชนะนั้นมีอะไรซ่อนอยู่รอยยิ้มน่ารักที่ส่งมาเย้ยนั้นบอกเขาได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ   

     

     

                มุนบินได้กอดคุณแม่ก่อนคุณพ่อแหละ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    *****  ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยได้กุ๊กกิ๊กกันเท่าไหร่เนอะ   แต่อีกไม่นานเด็กๆก็จะโตกันแล้วคุณพ่อคุณแม่คงมีเวลากุ๊กกิ๊กกันมากกว่านี้ช่วงนี้ก็เลี้ยงลูกไปก่อนก็แล้วกัน  5555

     

     

    *****  แว่วมาว่าปีหน้ามุนบินจะเดบิวซ์กับ SM  ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงนอกจากพี่สาวจะต้องเสียเงินให้พ่อกับแม่หนูแล้วคงต้องเสียให้ดูอีกคนสินะมุนบิน    ลูกหมีเป็นนักร้องทั้งทีจะไม่สนับสนุนก็ยังไงๆอยู่  แต่คงจะน่าสนับสนุนกว่านี้ถ้าไม่ได้อยู่ค่ายนี้  พี่สาวไม่อยากเสียเงินให้ SM !!

     

     

    ***** เอาคลิปมุนบินช่วงอายุในตอนนี้มาแปะเผื่อใครจิ้นเสียงเจ้าลูกหมีเวลาอ้อนคุณพ่อคุณแม่ไม่ออก  น่ารักขนาดนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้วเนอะมุนบิน ^^

     

     

    *****  เมื่อคืนฝันว่าได้ไปดูคอนทงบังชินกิ 5 คน  สาธุ๊ขอให้มันเป็นจริงเร็วๆนี้ด้วยเถิ๊ด ด

     

     

     

    *****  เปิดจอง HF ภาค 2 แล้วนะค่ะ รายละเอียดอยู่ที่ตอน 111

     

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×