คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #112 : ~ Happy Family 2 ~ # 13
“ มุนบินยิ้มหน่อยสิลูก ” เสียงหวานบอกกับลูกชายที่เดินหน้ามุ่ยอยู่ในขบวนพาเหรดมือเล็กทั้งสองข้างถือพานเหรียญรางวัลเอาไว้โดยมีอาชางมินรับหน้าที่เป็นตากล้องบันทึกทุกอิริยารถของหลานรักเอาไว้
แจจุงกับยุนโฮเดินประกบลูกชายไม่ห่างไม่รู้ว่าจะสงสารหรือว่าจะเอ็นดูดีที่เห็นใบหน้าบึ้งตึงของลูกชาย ใช่แล้วล่ะตอนนี้เด็กชายชองมุนบินกำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆเพราะถูกคุณแม่คนสวยปลุกให้ลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อที่จะได้ไปถึงจุดนัดพบตามเวลานัดซึ่งก็คือเจ็ดโมงเช้า แน่นอนว่าเด็กที่รักการนอนอย่างมุนบินไม่มีทางยอมตื่นง่ายๆต้องใช้เวลาปลุกกันนานเลยล่ะและหลังจากที่งอแงอยู่นานสุดท้ายแล้วแจจุงก็จับลูกชายแต่งตัวจนได้ และผลจากการถูกขัดใจจึงทำให้มุนบินเดินทำหน้าไม่รับแขกอย่างที่ทุกคนเห็นนี่แหละ
“ มุนบินครับ หันมายิ้มให้น้องสาวหน่อยสิลูก ” ยุนโฮที่อุ้มเยอึนอยู่ช่วยพูดอีกแรงเมื่อชางมินส่งสัญญาณมาบอกว่ายังไม่ได้รูปมุนบินยิ้มเลย
เจ้าชายตัวน้อยที่วันนี้อยู่ในชุดฮันบกโบราณทำเพียงหันมามองก่อนที่ปากเล็กจะยกยิ้มนิดๆเมื่อเห็นเยอึนกับชานฮีโบกมือมาให้ วันนี้มุนบินน่ารักจริงๆแต่คงจะน่ารักกว่านี้ถ้าหากว่าใบหน้าน่ารักนั้นจะมีรอยยิ้มติดอยู่ รอยยิ้มเล็กๆเมื่อสักครู่หายไปทันทีที่เห็นพ่อหมีกับคุณแม่คนสวยส่งยิ้มมาให้ อาการที่คนเป็นพ่อเป็นแม่อ่านออกว่า
ที่คุณพ่อคุณแม่จับมุนบินอาบน้ำทั้งๆที่มุนบินยังไม่ตื่นเต็มตา มุนบินไม่หายงอน
หรอกนะ
คุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้ลูกชายงอนโดนไม่ได้ตั้งใจหันมามองหน้ากันเมื่อหมดปัญญาที่จะทำให้มุนบินกลับมาอารมณ์ดีแต่แล้วรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเยอึนก็ทำให้ยุนโฮคิดอะไรขึ้นมาได้ แจจุงยืนมองพ่อหมีที่กำลังกระซิบอะไรบางอย่างอยู่ข้างๆหูเล็กของลูกสาวด้วยสายตาไม่ไว้ใจหวังว่าคงไม่ชวนลูกทำอะไรแปลกๆอีกนะชอง ยุนโฮ
เยอึนพยักหน้าให้กับผู้เป็นพ่อก่อนจะตะโกนเรียกพี่ชายของตัวเองเสียงดัง “ ปี้หมี จู้จู้ ” (พี่หมี สู้สู้ )
เสียงเล็กน่ารักที่ยังออกเสียงไม่ชัดของน้องสาวทำให้ลูกหมีที่กำลังเดินหน้ามุ่ยอยู่ต้องหันกลับมามองพร้อมรอยยิ้มกว้างทันที หลังจากที่เฝ้ารอมานานในที่สุดน้องสาวสุดที่รักก็ยอมเรียกว่าพี่ชายซะทีแล้วแบบนี้จะไม่ให้มุนบินยิ้มกว้างได้ยังไงก็มุนบินชอบเวลาที่น้องสาวเรียกว่าพี่ชายมากกว่าพี่หมีตั้งเยอะ และไม่น่าเชื่อว่าแค่เพียงประโยคสั้นๆของเยอึนเพียงประโยคเดียวจะสามารถทำให้มุนบินกลับมาอารมณ์นี้ได้ถึงขนาดนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนที่ยิ้มกว้างมากที่สุดก็คงจะเป็นยุนโฮ
คิดไม่ผิดจริงๆที่ยอมเอาเค้กแลกกับการที่เยอึนยอมเรียกมุนบินว่าพี่ชาย
“ เมื่อกี๊น้องเรียกหนูว่าพี่ชายแหละ คุณพ่อคุณแม่ได้ยินมั๊ย ” พูดอวดพร้อมรอยยิ้มอารมณ์ดี ตอนนี้มุนบินแทบจะลืมทุกอย่างลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองกำลังงอน เพราะตอนนี้ในสมองของลูกหมีมีแค่เสียงของน้องสาวที่เรียกตัวเองว่าพี่ชายเต็มไปหมด
“ ได้ยินครับ คุณพ่อได้ยินเต็มสองหูเลย ” ยุนโฮเอ่ยเย้าลูกชายกลั้วรอยยิ้มก่อนจะพยักหน้าให้ชางมิน
พอมุนบินเริ่มอารมณ์ดีตากล้องอย่างชางมินก็ไม่รีรอที่จะรัวชัตเตอร์เก็บภาพเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ชางมินยังคงตามถ่ายรูปหลานรักอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งขบวนเดินเข้าไปในสนามซึ่งห้ามไม่ให้ผู้ปกครองเดินตามเข้าไป บรรดาคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายจึงต้องรีบหามุมที่สามารถมองเห็นเจ้าหญิงเจ้าชายของตัวเองได้ชัดๆ
“ เก่งนี่ ทำให้ลูกหมีกลับมายิ้มได้ ” เสียงหวานเย้าคนรัก ยอมรับแบบไม่อายเลยล่ะว่าอิจฉายุนโฮนิดๆที่สามารถรับมือมุนบินได้ทุกสถานการณ์เพราะแบบนี้ไงล่ะยุนโฮถึงได้เป็นคนโปรดเบอร์หนึ่งของมุนบินมาจนถึงทุกวันนี้
“ แน่นอน ก็คนมันรู้ใจลูกอ่ะนะ ” พ่อหมีได้ทีคุยข่มเลยได้ค้อนวงโตจากคุณแม่คนสวยกลับมาเป็นรางวัล
“ พี่เดี๋ยวผมมานะ มุมนี้เห็นมุนบินไม่ชัดเลย ” เสียงของชางมินดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าเซ็งๆของเจ้าตัว ยืนอยู่ตรงนี้ถ่ายรูปมุนบินไม่ชัดเลยเจ้าลูกหมีโดนเด็กคนอื่นบังหมดเลย ชางมินกำลังจะจูงมือยูฮวานเดินไปหามุมที่เหมาะกว่านี้อยู่แล้วเชียวถ้าไม่ติดว่ามีเสียงประกาศดังขึ้นซะก่อน
“ มีเวลาสิบนาทีก่อนพิธีเปิดจะเริ่ม ระหว่างนี้ผู้ปกครองสามารถเข้าไปถ่ายรูปกับบุตรหลานได้นะครับ ”
ไม่ต้องถามความคิดของกันและกันให้เสียเวลาทั้งแปดชีวิตก็รีบเดินตรงเข้าไปหาเป้าหมายทันที เสียงหัวเราะเบาๆดังออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายเมื่อมองไปรอบๆตัวดูเหมือนว่างานนี้ผู้ปกครองของมุนบินจะเยอะกว่าใครเพื่อน
ผู้ปกครองของเด็กคนอื่นอาจจะมีแค่พ่อกับแม่แต่ของมุนบินแล้วนอกจากพ่อแม่กับน้องสาวแล้วยังรวมไปถึงอาๆทั้งหลายด้วย ก็นะวันสำคัญของลูกหมีทั้งทีใครพลาดก็แย่แล้วขนาดยูชอนที่วันนี้มีประชุมเช้ายังขอแว๊บมาดูหลานรักก่อนเข้าบริษัทเลย ไม่ต่างอะไรกับชางมินกับยูฮวานที่มีนัดเซ็นต์สัญญากับลูกค้าแต่ก็ยังอุตส่าห์มาทำหน้าที่เป็นตากล้องให้ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องไปต่างประเทศงานนี้คงได้เห็นคุณปู่คุณย่าอยู่ที่นี่ด้วยแน่ๆ
“ มุนบินร้อนมากมั๊ยลูก ” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เดินเข้ามาใกล้แล้วเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นบนใบหน้าของลูกชาย เห็นแบบนี้แล้วยุนโฮแทบอยากจะวิ่งกลับไปเอาร่มที่รถมาบังแดดให้ลูกชายให้มันรู้แล้วรู้รอด
“ มากครับ ” พยักหน้าหงึกๆบอก “ หนูหิวน้ำด้วยอ่ะ ” เมื่อไหร่มุนบินจะได้ไปพักซะทีเดินมาตั้งนานเหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน มุนบินอยากเปลี่ยนชุดแล้วอ่ะ
ทันทีที่ได้ยินลูกชายบ่นว่าหิวน้ำแจจุงก็รีบหยิบขวดน้ำในกระเป๋าส่งให้ลูกชายดื่มแก้กระหายทันที โชคดีที่ตอนเดินเข้ามามีร้านขายน้ำตั้งอยู่แจจุงจึงซื้อเผื่อเอาไว้เพราะคิดว่ามุนบินต้องหิวแน่ๆและก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
“ นี่ครับน้ำ ทนอีกนิดนะลูกเดี๋ยวก็ได้พักแล้ว ” บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อออกให้
เยอึนตัวน้อยที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆเดินเตาะแตะมาแย่งผ้าเช็ดหน้าออกจากมือคุณแม่คนสวยแจจุงมองการกระทำของลูกสาวด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะร้องอ๋อเมื่อเยอึนเป็นคนลงมือเช็ดเหงื่อให้พี่ชายต่อเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้ใหญ่ที่ยืนดูอยู่
เยอึนก็อยากซับเหงื่อให้พี่ชายบ้างอะไรบ้าง
พอเห็นเยอึนทำชานฮีเองก็อยากทำบ้างแต่เพราะไม่มีผ้าเช็ดหน้าเหมือนเยอึนลูกชายสุดที่รักของพ่อปาร์คจึงใช้มือป้อมๆของตัวเองเช็ดแทนซะเลยทำเอาผู้ใหญ่ทั้งหมดหลุดขำให้กับความน่าเอ็นดูของเด็กๆเพราะภาพที่เห็นในตอนนี้คือเยอึนกับชานฮีกำลังแข่งกันเอาใจมุนบิน
“ เหลือเวลาอีกห้านาทีนะครับ ”
เสียงประกาศเตือนที่ดังขึ้นทำให้ผู้ใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเข้ามาในนี้ทำไม การถ่ายรูปที่แสนจะวุ่นวายจึงเกิดขึ้นเพราะต้องแข่งกับเวลาที่เหลือเพียงน้อยนิดทุกคนสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเป็นตากล้องเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปกับมุนบินได้ครบทุกคน การถ่ายรูปยังคงดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งเสียงประกาศหมดเวลาดังขึ้นพร้อมกับบอกให้ผู้ปกครองออกไปรอด้านนอกซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ยูชอนถูกเลขาส่วนตัวโทรมาตามให้เข้าไปประชุม
.....................................................................
.
“ มุนบินทำไมไม่ใส่หมวกลูก” แจจุงที่กำลังช่วยคุณแม่คนอื่นๆเตรียมอาหารกลางวันอยู่เอ่ยถามทันทีที่เห็นลูกชายวิ่งเข้ามา หมวกใบเล็กที่เขาใส่ให้ก่อนหน้านี้มันควรที่จะอยู่บนหัวแทนที่จะในมือเล็กๆนั่น
“ หนูใส่แล้ว แต่มันหลุด ” บอกเสียงเบา คุณแม่อย่ามองมุนบินแบบนี้สิมุนบินไม่ได้ตั้งใจจะถอดออกซะหน่อยมันหลุดตอนที่มุนบินวิ่งมาหาคุณแม่อ่ะ “ หนูจะแข่งแล้วนะคุณแม่ ” มุนบินชิงเปลี่ยนเรื่องก่อนทันทีที่เห็นคุณแม่คนสวยเตรียมตั้งท่าจะบ่น
“ หืม....หนูจะแข่งแล้วเหรอลูก ” คิ้วเรียวเลิกขึ้นพร้อมกับวางมือที่กำลังหั่นผักลง
“ ครับ...คุณพ่อให้หนูมาตามคุณแม่อ่ะ ” พยักหน้ายืนยันก่อนจะหันหลังกลับไปมองด้านนอกเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง “ คุณแม่รีบตามมาน๊า ”
แจจุงมองตามร่างลูกหมีที่วิ่งตามเพื่อนออกไปก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อจุนซูส่งรอยยิ้มล้อเลียนมาให้รอยยิ้มที่แจจุงอ่านความหมายออกว่า
นายเป็นคุณแม่หัวเน่าแล้วล่ะแจจุง
“ เยอึน ชานฮี ไปดูพี่มุนบินแข่งวิ่งกันดีกว่าลูก ” ร่างบางวางงานที่อยู่ในมือลงก่อนที่เสียงหวานเอ่ยชวนลูกสาวกับหลานชายที่นั่งเล่นของเล่นอยู่ใกล้ๆ
จากที่ตอนแรกจุนซูตั้งใจว่าจะกลับบ้านหลังจากที่ดูมุนบินเดินขบวนเสร็จแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะชานฮีไม่ยอมกลับสงสัยว่าคงจะเห็นว่าที่นี่มีเพื่อนเล่นเยอะกว่าที่บ้าน จุนซูก็เลยตามใจอยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันอย่างน้อยก็มีอะไรทำมากกว่าอยู่ที่บ้านชานฮีเองก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนเล่นเยอึนด้วย
หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วพ่อหมียุนโฮหายไปไหน ? ยุนโฮไม่ได้ไปไหนไกลหรอกเพียงแต่คุณพ่อนั้นถูกเชิญให้ไปเป็นกรรมการในกีฬาประเภทต่างๆตามแต่ความถนัดของแต่ละบุคคล ส่วนคุณแม่ก็มีหน้าที่เตรียมอาหารกลางวันให้คุณพ่อและคุณลูกนอกจากนั้นอาหารที่ทำแต่ละสีต้องส่งไปที่กองอำนวยการหนึ่งอย่างเพื่อให้คณะกรรมการตัดสินว่าอาหารจากสีไหนอร่อยถูกใจกรรมการที่สุด
เพราะนอกการความสามัคคีของนักเรียนแล้วสิ่งที่ทางโรงเรียนต้องการจากการจัดกีฬาสีครั้งนี้คือสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวรวมถึงเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองด้วย ซึ่งดูเหมือนจะประสบความสำเร็จซะด้วยสิเพราะแต่ละครอบครัวให้ความร่วมมือในกิจกรรมครั้งนี้เป็นอย่างดี
ปากอิ่มยกยิ้มบอกว่าเห็นแล้วให้กับยุนโฮที่ยืนโบกมือมาให้ ด้านหน้าของร่างสูงมีมุนบินยืนกระโดดสะบัดมืออยู่ คิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิด อย่าบอกนะว่านี่คือท่าวอร์มร่างกายของลูกหมี
“ อีกสักพักมุนบินก็จะแข่งแล้วล่ะ ” พ่อหมีที่วันนี้รับหน้าที่เป็นโค้ชชั่วคราวให้กับลูกชายบอกยิ้มๆ
“ งั้นเดี๋ยวกันถ่ายวีดีโอให้นะ ” จุนซูอาสาเพราะดูเหมือนว่ายุนโฮคงจะอยู่ที่จุดปล่อยตัวกับมุนบินส่วนแจจุงก็คงจะลุ้นจนตัวโก่งซึ่งอาจจะทำให้ลืมกดบันทึกก็ได้
“ ขอบคุณนะ ” ยุนโฮยิ้มขอบคุณพร้อมกับส่งกล้องวีดีโอให้จุนซูก่อนจะหันไปพูดกับแจจุงต่อ “ เดี๋ยวแจกับจุนซูพาเด็กๆไปรอที่เส้นชัยนะ ”
“ อืม.... ” แจจุงพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าลูกชาย “ สู้ๆนะลูกเดี๋ยวคุณแม่จะไปรอรับที่เส้นชัย ” จมูกโด่งรั้นกดลงบนแก้มยุ้ยของลูกชายเป็นกำลังใจก่อนแข่ง
“ ครับ....หนูจะวิ่งให้เร็วจี๋เลย ” บอกพร้อมรอยยิ้มและสีหน้าที่ดูมั่นใจสุดๆจนคนเป็นแม่อดที่จะขยี้หัวเล็กด้วยความเอ็นดูไม่ได้
“ แล้วคุณแม่จะคอยดู ” บอกกลั้วรอยยิ้มก่อนจะเรียกลูกสาวคนเล็กให้เข้ามาใกล้ๆ “ เยอึนให้กำลังใจพี่ชายหน่อยสิลูก ”
ตากลมแป๋วมองผู้เป็นแม่ราวกับจะถามว่า ให้กำลังใจเขาทำกันยังไงเหรอค่ะ ยุนโฮยิ้มเอ็นดูให้กับแววตาใสซื่อของลูกสาวก่อนจะลงมือสาธิตให้ดูว่าการให้กำลังใจเขาทำกันยังไง
“ ให้กำลังใจแบบนี้ไงค่ะลูก ” จมูกโด่งเป็นสันกดลงบนแก้มลูกชายหนักๆเป็นการหยอกเย้าไปในตัวเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเจ้าตัวเล็กที่กำลังถูกเอาเปรียบงานนี้ยุนโฮยังไม่ลืมเผื่อแผ่กำลังใจไปให้ลูกสาวคนเล็กด้วย
เยอึนที่พอจะรู้แล้วว่าให้กำลังใจคืออะไรก็เดินไปกอดพี่ชายตัวเองทันทีก่อนจะระดมหอมแก้มซ้ายขวาของพี่หมีไปมาเพราะหนูน้อยเข้าใจว่ายิ่งหอมเยอะพี่ชายก็ยิ่งมีกำลังใจเยอะ
“ รักปี้ชายน๊า ”ยิ้มตาหยีบอกเอาใจ เยอึนรู้แล้วว่าพี่ชายชอบให้ตัวเองเรียกแบบนี้และในเมื่อมันเป็นสิ่งที่พี่ชายชอบมีหรือเยอึนจะไม่ทำแต่สิ่งสำคัญที่ทำให้หนูน้อยยอมเรียกมุนบินว่าพี่ชายคือการได้รางวัลเป็นการหอมแก้มจากพี่ชายทุกครั้งที่เรียก
“ รักน้องสาวเหมือนกัน ” และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่มุนบินหอมแก้มเป็นรางวัลที่น้องสาวพูดถูกใจ
“ นักกีฬาเข้าประจำที่ได้แล้วครับ ” เสียงคุณครูประกาศบอกให้ตัวแทนแต่ละสีเข้าประจำที่
แจจุงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะชูกำปั้นขึ้นกลางอากาศบอกให้ลูกชายทำให้เต็มที่ “ สู้ๆนะครับคนเก่งของคุณแม่ ”
“ สู้ๆนะครับมุนบิน เดี๋ยวอาจุนซูจะถ่ายรูปไว้เยอะๆเลย ” จุนซูให้กำลังใจหลานชายพร้อมกับชูกล้องวีดีโอให้ดู เห็นแบบนี้แล้วเขาชักอยากให้ชานฮีเข้าโรงเรียนเร็วๆแล้วสิ
“ ครับผม ” รับคำแข็งขันก่อนจะเดินตามพ่อหมีไปยังจุดปล่อยตัวที่อาจารย์กำหนดเอาไว้ ส่วนแจจุงกับจุนซูก็จูงมือเยอึนกับชานฮีเดินไปรอที่เส้นชัย
“ คุณพ่อหนูตื่นเต้นอ่ะ ” พอใกล้ถึงเวลาลูกหมีก็เกิดอาการไม่มั่นใจขึ้นมาซะงั้น
ตาเรียวเล็กมองผู้เป็นพ่อเพื่อบอกว่ามุนบินไม่มั่นใจเลยอ่ะ ถึงแม้จะซ้อมวิ่งกับคุณพ่อทุกเย็นแต่พอถึงเวลาจริงๆมุนบินไม่มั่นใจเลย มุนบินกลัวจะออกตัวไม่ทันเพื่อนๆ กลัวจะไม่ได้ยินเสียงนกหวีด กลัวตัวเองวิ่งไปชนคนอื่น มุนบินกลัวทุกอย่างเลย
ยุนโฮทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าเมื่อเห็นอาการประหม่าของเจ้าตัวเล็ก มือหนาจับไหล่เล็กทั้งสองข้างเอาไว้สิ่งที่ยุนโฮต้องทำในตอนนี้คือเรียกความมั่นใจของมุนบินกลับมา
“ ไม่ต้องตื่นเต้นนะลูก หนูแค่วิ่งตรงไปหาคุณแม่กับน้องสาวหนูไม่ต้องไปสนใจว่าคนอื่นจะวิ่งไปทางไหน แค่วิ่งตรงไปหาคุณแม่เข้าใจมั๊ยครับ ” บอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหากแต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน นิ้วยาวชี้ไปยังตำแหน่งที่แจจุงยืนอยู่
“ แต่ว่า..... ”
“ งั้นเอาแบบนี้ดีมั๊ย มุนบินวิ่งแข่งกับคุณพ่อใครวิ่งไปกอดคุณแม่ก่อนคนนั้นชนะ” ยุนโฮพยายามเบนความสนใจของมุนบิน บางทีการที่มุนบินคิดว่ากำลังแข่งกับเขาอยู่อาจจะช่วยทำให้มุนบินประหม่าน้อยกว่าคิดว่ากำลังแข่งกับเพื่อนๆก็ได้
“ หนูได้กอดคุณแม่ก่อนคุณพ่อแน่ๆ” ลูกหมีรับคำท้าด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เรื่องการแสดงออกความรักมุนบินยอมน้อยหน้าพ่อหมีซะที่ไหนล่ะ
ปากหยักยกยิ้มพอใจที่สามารถทำให้ลูกชายคลายความประหม่าไปได้บ้าง เสียงทุ้มกระซิบบอกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“ อย่าลืมฟังเสียงนกหวีดด้วยนะลูก และที่สำคัญใครถึงก่อนคนนั้นได้กอดก่อนนะ ” บอกทิ้งท้ายก่อนที่เสียงทุ้มจะหัวเราะเบาๆให้กับสายตาของลูกชายที่มองมาสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจซะเหลือเกิน
หนูไม่ยอมให้คุณพ่อกอดคุณแม่ก่อนหรอก
“ นักกีฬา เข้าที่ ” มุนบินสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกกำลังใจให้กับตัวเอง ตาเรียวเล็กหันไปมองผู้เป็นพ่อก่อนจะเดินเข้าไปประจำที่เมื่อพ่อหมีพยักหน้าบอกว่า คุณพ่อเชื่อว่ามุนบินต้องทำได้
“ ระวัง......ปี๊ด ”
ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้นมุนบินก็ออกวิ่งไม่คิดชีวิตเป้าหมายของมุนบินไม่ใช่เส้นชัยแล้วในตอนนี้แต่มันคือคุณแม่คนสวยต่างหากแววตาเรียวเล็กนั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ยุนโฮเองก็วิ่งตามลูกชายไปช้าๆเขาไม่คิดจะแข่งกับมุนบินอย่างจริงจังหรอกแค่ยกเอาเรื่องนี้มาเป็นแรงกระตุ้นเฉยๆและที่สำคัญ
เมื่อคืนเขากอดแจจุงไปแล้วตั้งสองรอบ
แจจุงที่ยืนรออยู่ที่เส้นชัยก็กำลังยืนมองตาไม่กระพริบโดยมือแขนเรียวข้างซ้ายอุ้มเยอึนเอาไว้ ส่วนข้างขวาก็อุ้มชานฮีเอาไว้ด้วยโดยมีจุนซูยืนถ่ายวีดีโออยู่ใกล้ๆ แจจุงแทบจะลืมหายใจเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดแล้วเห็นร่างป้อมๆที่วันนี้ใส่เสื้อนักกีฬาสีแดงวิ่งออกมาจากจุดสตาร์ท ถึงแม้เริ่มต้นจะออกตัวได้ไม่ดีนักแต่เมื่อเริ่มทรงตัวได้แล้วมุนบินก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นมา ยิ่งใกล้เส้นชัยเท่าไหร่แจจุงก็ยิ่งลุ้นเท่านั้นตอนนี้ดูไม่ออกจริงๆว่าระหว่างมุนบินกับตัวแทนจากสีฟ้าใครจะเข้าเส้นชัยก่อนมันสูสีกันเหลือเกิน
ชานฮีกับเยอึนเองก็ลุ้นไม่แพ้ผู้ใหญ่มือเล็กๆของเด็กทั้งสองคนยกขึ้นมาปรบพร้อมกับส่งเสียงเชียร์พี่หมีของตัวเองยิ่งเห็นคนใส่เสื้อสีฟ้าวิ่งเข้ามาใกล้พี่ชายของตัวเองเจ้าตัวเล็กทั้งสองยิ่งตะโกนเสียงดัง เสียงเชียร์ดังกระหึ่มมาจากข้างสนามก่อนที่มุนบินจะแซงเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในระยะสิบเมตรสุดท้าย อาจารย์ประจำสีแดงเฮลั่นที่นักเรียนสามารถทำเหรียญทองเพิ่มให้กับสีได้อีกหนึ่งเหรียญ
“ คุณแม่หนูชนะแล้ว ” นักกีฬาเหรียญทองหมาดๆวิ่งมาเกาะขาผู้เป็นแม่พร้อมรอยยิ้มดีใจ แต่ชนะในความหมายของมุนบินคือชนะคุณพ่อไม่ใช่ชนะเพื่อนๆ เพราะจริงๆแล้วมุนบินไม่ได้สนใจหรอกว่าใครจะถึงเส้นชัยก่อนตัวเองแต่ที่มุนบินสนใจคือคุณพ่อหมีถึงเส้นชัยก่อนเจ้าตัวหรือเปล่า
แจจุงค่อยๆวางเยอึนกับชานฮีลงก่อนกอดลูกชายคนโตอย่างสุดรัก “ มุนบินของคุณแม่เก่งที่สุดเลย ” จมูกสวยกดลงบนแก้มนุ่มเต็มแรงตอนนี้แจจุงภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้สุดๆเลย
ยิ้มชอบใจในคำชมก่อนจะหันไปเห็นคุณพ่อสุดหล่อที่แกล้งวิ่งหอบตามเข้ามา ปากหยักเล็กยิ้มกว้างก่อนจะบอกออกไปทั้งๆที่ยังหายใจติดขัดอยู่ “ หนูชนะ ” ยักคิ้วแห่งชัยชนะให้คุณพ่อหมีหนึ่งที ยุนโฮหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะแกล้งทำหน้าเศร้ายอมรับความพ่ายแพ้และร่างสูงรู้ดีกว่าใครว่าภายใต้ประโยคที่บอกว่าหนูชนะนั้นมีอะไรซ่อนอยู่รอยยิ้มน่ารักที่ส่งมาเย้ยนั้นบอกเขาได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
มุนบินได้กอดคุณแม่ก่อนคุณพ่อแหละ
***** ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยได้กุ๊กกิ๊กกันเท่าไหร่เนอะ แต่อีกไม่นานเด็กๆก็จะโตกันแล้วคุณพ่อคุณแม่คงมีเวลากุ๊กกิ๊กกันมากกว่านี้ช่วงนี้ก็เลี้ยงลูกไปก่อนก็แล้วกัน 5555
***** แว่วมาว่าปีหน้ามุนบินจะเดบิวซ์กับ SM ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงนอกจากพี่สาวจะต้องเสียเงินให้พ่อกับแม่หนูแล้วคงต้องเสียให้ดูอีกคนสินะมุนบิน ลูกหมีเป็นนักร้องทั้งทีจะไม่สนับสนุนก็ยังไงๆอยู่ แต่คงจะน่าสนับสนุนกว่านี้ถ้าไม่ได้อยู่ค่ายนี้ พี่สาวไม่อยากเสียเงินให้ SM !!
***** เอาคลิปมุนบินช่วงอายุในตอนนี้มาแปะเผื่อใครจิ้นเสียงเจ้าลูกหมีเวลาอ้อนคุณพ่อคุณแม่ไม่ออก น่ารักขนาดนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้วเนอะมุนบิน ^^
***** เมื่อคืนฝันว่าได้ไปดูคอนทงบังชินกิ 5 คน สาธุ๊ขอให้มันเป็นจริงเร็วๆนี้ด้วยเถิ๊ด ด
***** เปิดจอง HF ภาค 2 แล้วนะค่ะ รายละเอียดอยู่ที่ตอน 111
ความคิดเห็น