ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #113 : ~ Happy Family 2 ~ # 14

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.77K
      5
      6 ธ.ค. 54

               

             ร่างบางของคุณแม่คนสวยกำลังยืนสำรวจเรือนร่างตัวเองอยู่หน้ากระจกด้วยสีหน้าเป็นกังวลแจจุงรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองอ้วนขึ้นมากและยิ่งคำพูดของยุนโฮในวันนี้มันยิ่งทำให้แจจุงเริ่มคิดที่จะวางแผนลดน้ำหนักอย่างจริงจัง

                แจจุงยังจำประโยคล้อเลียนของยุนโฮตอนที่อยู่ที่โรงเรียนของมุนบินได้   เพราะวันนี้นอกจากจะเป็นการแข่งขันของนักเรียนแล้วทางโรงเรียนยังให้ผู้ปกครองร่วมแข่งด้วยและแจจุงกับยุนโฮก็ได้เป็นตัวแทนผู้ปกครองสีแดงลงแข่งวิ่งร้อยเมตร    ยุนโฮคงจะไม่ได้ล้อเรื่องน้ำหนักตัวของเขาถ้าหากว่ามันคือการแข่งวิ่งร้อยเมตรธรรมดาแต่การแข่งในครั้งนี้คุณพ่อต้องแบกคุณแม่ไว้บนหลังแล้ววิ่งน่ะสิ

                “ หนักเหมือนกันนะเนี่ย   แจอ้วนขึ้นหรือเปล่า ”

                เสียงทุ้มบอกกลั้วหัวเราะทันทีที่แจจุงขึ้นไปอยู่บนหลังแจจุงรู้ว่ายุนโฮแค่แซวเล่นแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของคนรักมันทำให้ร่างบางเสียความมั่นใจไปมากทีเดียวมือขาวจับบริเวณรอบเอวตัวเองไปมาก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ

                ทำไมมันถึงได้หนาขึ้นขนาดนี้เนี่ย

                “ ยังแต่งตัวไม่เสร็จเหรอแจ ” แจจุงรีบกระชับเสื้อคลุมให้เรียบร้อยก่อนจะหันไปมองตามเสียง   ร่างสูงของยุนโฮกำลังยืนพิงขอบประตูห้องแต่งตัวมือหนากำลังใช้ผ้าซับน้ำออกจากผม

                “ ใกล้เสร็จแล้วแหละ  ทำไมยุนอาบเสร็จเร็วจัง ” บอกยิ้มๆก่อนจะเดินไปหยิบชุดที่เตรียมไว้มาให้คนรัก

                ปากหยักยิ้มขอบคุณก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มเนียนเบาๆ “ ก็ปกตินะ  แจนั่นแหละแต่งตัวช้าเอง  เอ๊ะหรือว่าที่ไม่ยอมแต่งตัวซะทีเพราะรอแต่งพร้อมยุน ”

                ตากลมมองค้อนสายตากรุ่มกริ่มที่ส่งมาให้ก่อนจะลงมือใส่เสื้อผ้าของตัวเองบ้างแต่แล้วร่างบางก็แทบอยากจะร้องไห้เพื่อกางเกงที่เคยพอดีตัวกลับคับแน่นจนแทบหายใจไม่ออก

                “ ยุน..... ยุนว่าแจอ้วนขึ้นมากมั๊ย ” เสียงหวานเอ่ยถามคนรักในขณะที่กำลังเลือกกางเกงตัวใหม่

                คิ้วหน้าเลิกขึ้นก่อนจะจุดยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นสีหน้าไม่มั่นใจของแจจุง  นิ้วเรียวยกขึ้นเคาะปลายคางท่าทางที่ยิ่งทำให้แจจุงไม่มั่นใจขึ้นไปอีก  “ อ้วนขึ้นมั๊ยเหรอ....อืม ขอ
    ยุนพิสูจน์ก่อนนะ ” แขนแกร่งตวัดรอบเอวบางจากด้านหลัง  นี่แหละวิธีพิสูจน์ของชอง  ยุนโฮ

                “ ไม่อ้วนหรอก   แค่นี้กำลังพอดีกอดได้เต็มไม้เต็มมือดี ” คางแหลมเกยไว้บนไหล่มนก่อนจะซุกไซร้ลงบนซอกคอหอมกรุ่น    แจจุงไม่ได้อ้วนขึ้นหรอกแค่ดูมีเนื้อมีหนังขึ้นกว่าเดิมแค่นั้นเอง

                “ บ้า ! ” มือขาวฟาดลงบนลำแขนแข็งแรงเบาๆ ตาหมีบ้าเขาถามว่าเขาอ้วนขึ้นหรือเปล่าไม่ได้ถามว่ากอดแล้วเป็นยังไง  “ แต่แจว่าแจต้องอ้วนขึ้นแน่ๆเลย พุงยื่นจะเท่ายุนแล้วเนี่ย ” นิ้วสวยจิ้มลงบนหน้าท้องตัวเองบอกว่าเขามีพุงจริงๆนะ

                ปากหยักขบลงบนติ่งหูขาวเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยวจะบอกว่าตัวเองมีพุงก็ยังไม่วายแขวะสามีนะครับคุณชอง  แจจุง   แล้วที่เขามีพุงทุกวันนี้มันเป็นความผิดของใครไม่ใช่ของแจจุงหรอกเหรอที่ทำอาหารอร่อยๆมาบำรุงเขาทุกวันน่ะ

                “ แน่ใจเหรอว่าเป็นพุง  ไม่ใช่ในนี้กำลังมีลูกหมีเหรอ ”  ฝ่ามือหนาวางลงบนหน้าท้องแบนเรียบที่เจ้าตัวบอกว่ามันคือพุง    ไม่แน่นะบางทีลูกหมีคนที่สามอาจจะกำลังมาหาพี่มุนบินกับพี่เยอึนก็ได้

                “ บ้า !! ไม่มีหรอก  ถ้ามีก็ต้องมีอาการสิ ” บอกยิ้มๆ คงไม่ใช่หรอกมั้งเพราะถ้าใช่มันต้องมีอาการบ้างสิแต่นี้เขาก็ปกติดีทุกอย่าง

                “ ไม่แน่นะ.....ยุนทำการบ้านออกจะบ่อย ”  จากที่พูดเล่นๆยุนโฮชักอยากให้เป็นจริงแล้วสิ  ถ้าแจจุงท้องก็ดีสิเขาคิดถึงร่างอวบๆในชุดคลุมท้องชะมัดเลย

                ยุนโฮแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าบางทีแจจุงอาจจะพึ่งท้องอ่อนๆเลยยังไม่แสดงอาการก็ได้    คิดแล้วก็อยากจะพาแจจุงไปตรวจที่โรงพยาบาลให้มันรู้แล้วรู้รอดเขาทำการบ้านบ่อยขนาดนี้มันต้องเข้าประตูสักครั้งสิ

                “ ไปให้หมอตรวจดีมั๊ย ” ชอง  ยุนโฮ เป็นคนคิดเร็วทำเร็วเสมอคุณรู้ใช่มั๊ย

                “ ไป  ไปทำไม ” แจจุงถามด้วยน้ำเสียงตกใจเมื่อถูกยุนโฮรั้งข้อมือให้เดินออกมานอกห้องแต่งตัวใบหน้าหวานแดงแปร๊ดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน

                แจจุงยังไม่ได้ใส่กางเกงเลยนะยุนโฮ๊ !!!

                “ ก็ไปให้คุณหมอตรวจดูไงว่าท้องหรือเปล่า ” ยุนโฮยังคงสาละวนอยู่กับการหากุญแจรถและกระเป๋าเงิน

                “ นี่ยุนคิดว่าแจท้องจริงๆเหรอ ” แจจุงถึงกับอ้าปากค้างตากลมโตเบิกกว้างขึ้นไปอีกนี่ยุนโฮคิดว่าเขาท้องจริงๆเหรอบางทีเขาอาจจะแค่อ้วนขึ้นก็ได้อะไรจะมั่นใจในน้ำยาของตัวเองขนาดนั้น “ แจแค่อาจจะอ้วนขึ้นก็ได้นะ ”

                “ เพราะแบบนี้ไงล่ะถึงต้องไปตรวจให้แน่ใจ ”

                “ ไม่เอาแจไม่ไป....แจกลัวหน้าแตก ” หัวกลมส่ายรัวๆ ไปตรวจทั้งๆที่ไม่มีอาการแพ้ท้องเนี่ยนะไม่เอาหรอกแจจุงกลัวหน้าแตกแทนที่จะได้ยินคุณหมอบอกว่าท้องร่างบางกลัวว่าจะได้ยินคำนี้มากกว่า

                คุณแจจุงแค่อ้วนขึ้นเท่านั้นเอง

                “ แต่ยุนอยากรู้นี่นา ”  ร่างสูงพยายามเกลี่ยกล่อมถ้าแจจุงมีประจำเดือนเหมือนผู้หญิงก็คงจะดีจะได้นับว่าประจำเดือนมาเป็นปกติหรือเปล่า

                “ งั้นเอางี้  เดี๋ยวใช้เครื่องตรวจไปก่อนละกัน ” ร่างบางเสนอ ใช่ว่ายุนโฮอยากรู้คนเดียวที่ไหนแจจุงเองก็อยากรู้เหมือนกัน

                “ เอางั้นก็ได้....งั้นเดี๋ยวยุนออกไปซื้อมาให้นะ ” ยิ้มกว้างบอก  เดี๋ยวพ่อจะเหมามาหมดทั้งร้านเลยคอยดู

                ในขณะที่พ่อหมีกับคุณแม่คนสวยกำลังตกลงกันอยู่นั้นบนเตียงนอนกว้างก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว   เพราะเสียงของพ่อหมีที่ดังรบกวนทำให้มุนบินเริ่มขยับตัวและสุดท้ายเจ้าลูกหมีก็ตื่นขึ้นมาจนได้   ร่างป้อมๆค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงใบหน้าน่ารักนั้นมุ่ยแสดงออกถึงความไม่ชอบใจที่ถูกรบกวนการนอนอย่างเห็นได้ชัด

                “ คุณพ่อคุณแม่ทำอะไร ” น้ำเสียงงัวเงียเอ่ยถามพร้อมกับดวงตาเรียวเล็กที่ปรือปรอย   คุณพ่อคุณแม่คุยอะไรกันเสียงดังไม่รู้รึไงว่ามุนบินนอนอยู่

                “ มุนบินตื่นแล้วเหรอลูก ” ขาเรียวเดินไปหยุดอยู่ที่ขอบเตียงก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเปลือกตาเล็กๆนั้นกำลังจะปิดอีกรอบหากแต่เจ้าตัวกำลังฝืนมันเอาไว้

                “ คุณพ่อเสียงดัง  หนูนอนไม่หลับ ” มุนบินไม่ได้อยากตื่นหรอกแต่เพราะเสียงคุณพ่อมันทำให้มุนบินนอนต่อไม่ได้

                แจจุงหันไปชี้หน้าคาดโทษพ่อหมีที่ส่งยิ้มแห้งๆมาให้ “ งั้นหนูนอนต่อนะลูก  เดี๋ยวคุณแม่จะทำโทษคุณพ่อให้ ” เสียงหวานออกเอาใจพร้อมกับรั้งลูกชายให้นอนลงตามเดิม

                “ ทำโทษหนักๆเลยนะคุณแม่ ”

                “ ครับผม  ” มือบางลูบลงบนผมนิ่มของลูกชายเบาๆก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายให้เจ้าตัวเล็ก

                แจจุงกำลังจะเดินไปทำโทษพ่อหมีที่บังอาจทำให้ลูกตื่นอยู่แล้วเชียวแต่ยังไม่ทันได้ลงมือเสียงเรียกของมุนบินก็ทำให้แจจุงต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง

                “ คุณแม่..... ”

                “ ครับ..... ”

                “ ทำไมคุณแม่ไม่ใส่กางเกง ”

                แจจุงก้มลงมองช่วงล่างของตัวเองก่อนจะหน้าแดงเป็นมะเขือเทศลืมไปเลยว่าตัวเองยังไม่ได้ใส่กางเกงถึงว่าล่ะทำไมอากาศข้างล่างมันถึงเย็นๆ   มือบางฟาดลงบนลำแขนแกร่งของร่างสูงที่ยืนหัวเราะไม่เกรงว่าลูกจะตื่นเลยแม้แต่น้อยก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องแต่งตัว





                                                                 ...................................................



     

                “ หนูจะไปทะเล ทะเล๊ ทะเล ”

                มุนบินแทบจะกระโดดลงบันไดด้วยความดีใจเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเห็นพ่อหมีนั่งยิ้มอยู่ข้างๆพร้อมกับประโยคที่มุนบินรอคอยมานานแสนนาน

                พรุ่งนี้คุณพ่อจะพามุนบินกับคุณแม่และน้องสาวไปเที่ยวทะเลครับ

                ลำพังแค่ได้ไปทะเลมุนบินก็ดีใจอยู่แล้วแต่ครั้งนี้มุนบินคิดว่ามันต้องสนุกกว่าครั้งก่อนแน่ๆเพราะมุนบินจะมีเพื่อนเล่นน้ำ  มีเพื่อนก่อเจดีย์ทราย  และที่สำคัญมีเพื่อนเตะฟุตบอลด้วยเพราะงานนี้ครอบครัวของอายูชอนก็ไปด้วย  อาชางมินกับอายูฮวานก็ไปด้วยเห็นคุณพ่อบอกว่าอาชางมินกับอายูฮวานจะไปซ้อมมูนๆอะไรซักอย่างนี่แหละ

                “ มุนบินอย่ากระโดดลูกเดี๋ยวตก ” แจจุงร้องบอกลูกชายที่กระโดดลงบนบันไดทีละขั้นคนเป็นลูกกำลังดีใจแต่คนเป็นแม่นี่สิหัวใจจะวาย

                มุนบินหันมามองผู้เป็นแม่ก่อนจะกระโดดบันไดขั้นสุดท้ายลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย “ หนูไม่ตกหรอก ” ยิ้มโชว์ฟันซี่เล็กๆบอกว่ามุนบินเก่งอยู่แล้วมุนบินไม่ตกหรอก

                “ ครับๆคุณแม่รู้ว่าหนูเก่ง ” แจจุงพยักหน้ายอมแพ้ก่อนจะวางเยอึนลงข้างๆพี่ชายเมื่อหนูน้อยดิ้นอยากจะลงเดินเองเหมือนพี่หมี “ หิวกันหรือยังลูก  รอคุณพ่อแป๊บนึงนะ ” บอกก่อนจะจูงมือเด็กๆเดินไปรอยุนโฮที่ห้องนั่งเล่น

                หลังจากที่รู้ว่าจะได้ไปเที่ยวทะเลมุนบินก็รบเร้าให้เขากับยุนโฮพาไปซื้ออุปกรณ์สำหรับเล่นสนุกที่ทะเลทันทีแถมเจ้าลูกหมีคนโตยังเล่าประสบการณ์ไปเที่ยวทะเลครั้งก่อนให้น้องสาวฟังด้วย    พอได้ฟังพี่ชายเล่าเยอึนตัวน้อยที่ยังไม่เคยไปทะเลเลยสักครั้งถึงกับงอแงจะไปทะเลวันนี้ให้ได้

                “ หิวแล้วครับ ” พยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะเปิดรูปทะเลให้น้องสาวดูซึ่งเยอึนก็ให้ความสนใจซะด้วยสิ  “ คุณแม่ซื้อแว่นตาให้หนูด้วยนะ ”  บอกทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากรูปทะเลตรงหน้า
    มุนบินจำได้ว่าไปทะเลครั้งที่แล้วมุนบินเห็นคนใส่แว่นตาเยอะแยะเลยมุนบินอยากใส่บ้าง

                “ หนูด้วย ” ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าแว่นตาเขาใช้ทำอะไรแต่เมื่อเห็นพี่ชายบอกว่าจะซื้อเยอึนก็อยากได้ด้วย

                “ จะเอาแว่นตาไปทำอะไรลูก ” ยุนโฮที่เดินตามเข้ามาเอ่ยถามยิ้มๆขี้เห่อจริงๆลูกใครเนี่ย

                “ หนูจะเอาไปใส่กันแดด ” มุนบินจำได้ว่าเคยถามคุณพ่อว่าคุณพ่อใส่แว่นทำไมคุณพ่อบอกว่าใส่กันแดด   ตอนที่คุณพ่อใส่คุณพ่อหล๊อหล่อมุนบินก็เลยอยากใส่บ้างเผื่อจะหล่อเหมือนคุณพ่อบ้าง

                แจจุงหัวเราะเบาๆให้กับความช่างพูดของลูกชายก่อนที่ร่างบางจะหยิบอัลบั้มรูปไปวางไว้บนโต๊ะเมื่อเหลือบมองนาฬิกาแล้วพบว่ามันเย็นมากแล้ว

                “ ไปกันได้แล้วลูก   ไปช้าซื้อของได้ไม่ครบคุณแม่ไม่รู้ด้วยนะ ”

                ทันทีที่ได้ยินว่าซื้อของไม่ครบลูกหมีทั้งสองก็เด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาทันทีและเหมือนคนเป็นพ่อเป็นแม่จะรู้หน้าที่เมื่อแขนป้อมทั้งสองคู่กางออกบอกว่า  คุณพ่อคุณแม่อุ้มหน่อย  พวกหนูพร้อมแล้ว  ยุนโฮเดินไปอุ้มมุนบินแต่ก็ไม่ลืมบิดจมูกเล็กๆนั้นด้วยความหมั่นเขี้ยวน่ารักคนเดียวไม่พอยังสอนให้น้องสาวน่ารักอีกคนนะลูกหมี   แจจุงหัวเราะเบาๆให้กับเสียงบ่นงุ้งงิ้งของลูกหมีก่อนจะอุ้มเยอึนเดินตามออกไปแต่ยังไม่ทันจะได้เดินออกจากบ้านด้วยซ้ำแขกที่แจจุงไม่คิดว่าจะได้เจอก็ยืนรออยู่ตรงหน้าซะแล้ว

                “ จะไปไหนกันเหรอค่ะ ”

                หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรแต่ทำไมแจจุถึงได้รู้สึกว่ารอยยิ้มของเธอมันไม่น่าไว้ใจ   คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเมื่อได้ยินประโยคที่หลุดออกจากปากของมุนบิน

                “ อุ๊ย....คุณอาปากแดง ” มุนบินพูดออกมาเบาๆก่อนจะหันไปมองพ่อหมีเป็นเชิงถามว่าทำไมคุณอาปากแดงที่เราเจอวันนั้นถึงมาอยู่ที่บ้านเราได้ล่ะคุณพ่อ   ตอนนี้เจ้าตัวเล็กกำลังกลัวว่าคุณอาปากแดงตรงหน้าจะบอกเรื่องที่มุนบินร้องไห้เพราะหลงกับคุณพ่อที่ห้างวันนั้นกับคุณแม่แล้วมุนบินจะโดนดุ

                “ มุนบินเคยเจอตอนที่ยุนพาไปซื้อของน่ะ  แต่บังเอิญเจอนะไม่ได้ตั้งใจ ” เสียงทุ้มกระซิบบอกเมื่อเจอสายตาคาดคั้นที่มองมาของภรรยาคนสวยสายตาที่ร่างสูงอ่านออกว่า มุนบินเคยเจอทิฟฟานี่เหรอ?  ท้ายประโยคไม่ลืมบอกว่ามันคือความบังเอิญเพราะกลัวว่าแจจุงจะเข้าใจผิดว่าเขาเคยพามุนบินไปเจอทิฟฟานี่

                “ สวัสดีครับมาถึงที่นี่คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?  ” เมื่อแจจุงพยักหน้าบอกว่าเข้าใจร่างสูงจึงหันไปเอ่ยทักทายหญิงสาว   จะว่าไปแล้วยุนโฮเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นทิฟฟานี่อยู่ที่นี่เพราะปกติหากมีธุระอะไรหญิงสาวจะไปหาเขาที่บริษัท

                แต่จะว่าไปแล้วเขากับทิฟฟานี่ก็ไม่ได้ติดต่อกันมาสักระยะแล้วนะ   เพราะหลังจากที่จัดการเรื่องบริษัทของเธอเรียบร้อยแล้วยุนโฮก็พยายามรักษาระยะห่างของพวกเขาเอาไว้ถ้าหากไม่มีธุระสำคัญจริงๆยุนโฮก็เลี่ยงที่จะออกไปพบหญิงสาวเป็นการส่วนตัวร่างสูงไม่อยากเห็นแจจุงคิดมากเรื่องนั้นอีก

                “ พอดีว่าฉันพึ่งกลับมาจากอเมริกาน่ะค่ะ  ก็เลยแวะเอาของฝากมาให้ ” เธอชูถุงในมือให้ดูก่อนจะยื่นให้ยุนโฮพร้อมกับทักทายแจจุงกับเด็กๆ “ มีของคุณแจจุงแล้วก็เด็กๆด้วยนะค่ะ  หวังว่าคงจะชอบนะ ”

                หลังจากที่สะสางปัญหาที่บริษัทเสร็จได้ไม่นานเธอก็ต้องรีบกลับอเมริกาเพื่อไปเรียนปริญญาโทให้จบ   และตอนนี้เธอก็เรียนจบและพร้อมที่จะกลับมาช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัวแล้ว   และเพื่อเป็นการขอบคุณที่ยุนโฮเคยช่วยเหลือเธอเธอจึงซื้อของฝากมาฝากร่างสูงและหลานๆถึงแม้ว่าของฝากพวกนี้มันจะเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ยุนโฮเคยช่วยเธอแต่เธอก็ตั้งใจซื้อมาฝากแทนคำขอบคุณจริงๆ

                “ ขอบคุณฮะ ” แจจุงยิ้มขอบคุณตามมารยาทก่อนจะบอกให้มุนบินกับเยอึนขอบคุณหญิงสาวด้วยเช่นกัน

                “ ไม่เป็นไรค่ะ ” ยิ้มให้อย่างเป็นมิตรก่อนจะหันมาเอ่ยกับยุนโฮต่อ “ แล้วนี่กำลังจะออกไปข้างนอกเหรอค่ะ ”

                “ ครับ...พอดีว่าจะพาเด็กๆไปซื้อของน่ะ ”

                “ เหรอค่ะ...น่าสนุกจัง ขอฉันไปด้วยคนได้มั๊ย ” ถามยิ้มๆหากแต่คนถูกถามกลับยิ้มไม่ออก

                “เอ่อ.... ” ยุนโฮอึกอักก่อนจะหันไปมองหน้าแจจุงเพื่อขอความเห็น  แต่ยุนโฮรู้ดีว่าแจจุงเป็นคนขี้เกรงใจไม่กล้าปฏิเสธใครแต่ยุนโฮก็รู้ดีอีกเช่นกันว่าถ้าหากเขายอมให้ทิฟฟานี่ไปด้วยมันคงจะสร้างความอึดอัดให้กับแจจุงไม่น้อย

                “ ฉันพูดเล่นค่ะ ” หญิงสาวบอกกลั้วเสียงหัวเราะเมื่อเห็นท่าทีอึกอักของยุนโฮ เธอไม่ได้คิดอยากจะไปด้วยจริงๆหรอกเธอแค่อยากแกล้งอดีตคนรักเล่นก็แค่นั้น “ ฉันไม่อยากไปเป็นส่วนเกินหรอกนะและถึงพวกคุณจะอนุญาตให้ฉันไปด้วยฉันก็ไปไม่ได้อยู่ดี  ฉันมีนัดแล้วค่ะ ”

                “ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับของฝากนะครับ ” ยุนโฮเผลอยิ้มสบายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว

                มุนบินมองผู้ใหญ่คุยกันไปมาก่อนที่เสียงเล็กๆจะแทรกขึ้นเมื่อเจ้าตัวเล็กรู้สึกว่าผู้ใหญ่คุยกันนานเกินไปแล้ว  คุยกันนานแบบนี้ถ้ามุนบินไปช้าแล้วได้ของไม่ครบเหมือนที่คุณแม่บอกแล้ว
    มุนบินจะทำยังไง

    “ คุณพ่อหนูอยากได้ของไปทะเลแล้วน๊า ”

    “ มุนบินครับ  ไม่เสียมารยาทแบบนี้นะลูก ” แจจุงปรามลูกชายพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆเมื่อเห็นว่ามุนบินเสียมารยาทที่พูดแทรกขึ้นในขณะที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน

    อันที่จริงแจจุงก็ไม่ได้ชอบใจเท่าไหร่หรอกนะที่เห็นผู้หญิงคนอื่นยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คุยกับสามีของตัวเองถึงแม้ยุนโฮจะบอกว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นแค่เพื่อนกันก็เถอะแต่จะมีเมียที่ไหนบ้างที่จะไม่หึงเวลาที่สามีของตัวเองคุยกับผู้หญิงคนอื่นแถมผู้หญิงคนนั้นก็ท่าทางไม่น่าไว้ใจซะด้วย    แต่แจจุงก็ทำได้เพียงเก็บความไม่ชอบใจนั้นไว้ข้างในขืนแสดงออกไปก็ถูกมองว่าเสียมารยาทน่ะสิและที่สำคัญถ้ายุนโฮรู้ว่าเขาหึงนะตาหมีอ้วนได้ล้อเขาจนมุนบินโตแน่

    “ เอ๋?....จะไปทะเลกันเหรอค่ะ ” หญิงสาวหูผึ่งขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำว่าทะเล

    “ ครับ...เด็กๆบ่นว่าอยากไปน่ะ ” พยักหน้าบอกก่อนจะหันไปยิ้มล้อคุณแม่ของเด็กๆ  อย่าว่าแต่มุนบินเลยที่บ่นอยากไปทะเลน่ะคุณแม่ของมุนบินก็บ่นเหมือนกันดีไม่ดีแจจุงบ่นอยากไปทะเลมากกว่าลูกซะอีก   เสียงทุ้มหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อคุณแม่คนสวยส่งค้อนวงโตกลับมาเป็นรางวัล

    “ บังเอิญจริงๆ ฉันเองก็กำลังอยากไปเที่ยวทะเลอยู่พอดี  จะไปกันวันไหนเหรอค่ะ ” ยิงคำถามกลับโดนที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว

    ไปทะเลงั้นเหรอ? น่าสนุกเหมือนกันนี่

    “ พรุ่งนี้ครับ ” บอกน้ำเสียงงงๆ เพราะยังตั้งตัวไม่ทันกลับคำถามเมื่อสักครู่

    “ งั้นขอฉันไปด้วยคนนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ ”

    “ เอ่อ.... ”

    “ งั้นฉันคงต้องรีบกลับไปเตรียมตัว   แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะค่ะ บ๊าย บาย ”

    “ คะ ครับ ”

    เจ้าของบ้านยังไม่ทันได้ตอบตกลงว่าจะให้ไปด้วยหรือไม่หญิงสาวขอสรุปเอาเองเสร็จสรรพก่อนจะรีบขอตัวกลับไปเก็บเสื้อผ้า   ยุนโฮทำได้เพียงตอบรับงงๆตามหลังหญิงสาวไปก่อนจะหันไปมองแจจุงที่ยืนทำหน้างงไม่แพ้กันถ้าเขาจำไม่ผิดแบบนี้เขาเรียกมัดมือชกใช่มั๊ย ?

    “ นี่เราต้องอนุญาตใช่มั๊ย? ”

    “ คงงั้น ” ไหล่เล็กไหวเบาๆ ก่อนสองสามีภรรยาจะหัวเราะออกมาเบาๆ  มาถึงขั้นนี้แล้วพวกเขามีทางเลือกอีกเหรอนอกจากปล่อยเลยตามเลยเพราะอย่างน้อยพวกเขาก็ไม่มีอะไรให้กังวลในเมื่อทริปนี้ไปกันหลายคน

    รถยนต์คันหรูแล่นออกจากตัวบ้านมุ่งหน้าสู่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ  เสียงเจื้อยแจ้วของลูกหมีทั้งสองดังสลับกับเสียงหัวเราะของพ่อแม่ที่สอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ    สี่คนพ่อแม่ลูกกำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสุขโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งเฝ้ามองดูด้วยความอิจฉา

    มีความสุขกับคำว่าครอบครัวให้พอนะ













    *****  เดี๋ยวคืนนี้จะอัพตัวอย่างหน้าปกฟิคให้ดูนะค่ะ

    *****  มีใครจองพรีงานบอลกับบ้าน TTF บ้าง สนใจไปนั่งด้วยกันมั๊ยค่ะ ^^ ไปกันหลายๆคนจะได้
            สนุกๆ

     

     

               

               

     

               

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×