ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #122 : ~ Happy Family 2 ~ # 21

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.09K
      5
      16 ก.พ. 55

         “ คุณพ่อขา....คุณพ่ออย่าอนุญาตพี่ชายนะค่ะ ” เยอึนเขย่าแขนผู้เป็นพ่อไปมาเพื่อให้พ่อหมียอมทำตามที่ตัวเองต้องการ

                ตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียนแล้วเยอึนรู้เรื่องที่มุนบินมาขออนุญาตคุณพ่อกับคุณแม่ไปเป็นนักร้องฝึกหัดกับเพื่อนๆเยอึนก็เขย่าแขนพร้อมกับพูดประโยคเดิมๆกับผู้เป็นพ่อนับครั้งไม่ถ้วน   เยอึนกำลังกลัวว่าพี่ชายอาจจะให้ความสนใจอย่างอื่นมากกว่าตัวเอง

                ยุนโฮจับมือลูกสาวเอาไว้บอกให้ใจเย็นๆขอคุณพ่อกุบคุณแม่คุยกับพี่ชายก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกทีนั่นแหละหนูน้อยถึงยอมสงบลง

               

    “ ลูกมั่นใจแล้วเหรอมุนบิน ” แจจุงถามย้ำลูกชายอีกครั้ง

                แจจุงรู้ดีว่าลูกชายของตัวเองชอบกีฬาและดนตรีมากแค่ไหนเพราะพวกเขาปลูกฝังสิ่งนี้กับลูกตั้งแต่เด็ก   แต่สิ่งที่ร่างบางเป็นกังวลคือกลัวว่ามุนบินจะแยกแยะเวลาไม่ได้แล้วมันจะทำให้เสียการเรียน

                “ ครับ....ผมอยากลองดู ” มุนบินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

                หลังจากกลับมาจากโรงเรียนมุนบินก็ตัดสินใจเอ่ยขออนุญาตพอกับแม่ออกไปตรง     สาเหตุที่ทำให้มุนบินตัดสินใจที่จะลองไปออดิชั่นดูก็เพราะวันนี้มินโฮเอาใบปลิวที่ค่ายเพลงเปิดออดิชั่นมาให้ดูและพวกเขาก็ตกลงกันว่าจะลองไปออดิชั่นดูสักครั้ง   แต่การตัดสินใจของมุนบินในครั้งนี้ไม่ใช่เพราะเจ้าลูกหมีอยากเป็นคนดังหรอกนะแต่เพราะมุนบินอยากทำตามความฝันของตัวเองมากกว่า   เพราะเป็นคนที่ชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็กทำให้มุนบินฝันอยากจะมีอัลบั้มเป็นของตัวเองสักครั้งและในเมื่อมีโอกาสรออยูตรงหน้ามุนบินจึงอยากลองดูสักครั้ง

                “ แล้วเรื่องเรียนของลูกล่ะ ” ยุนโฮอดที่จะเป็นห่วงเรื่องเรียนของลูกชายไม่ได้

                “ ถ้าออดิชั่นผ่าน  เขาให้เข้าไปฝึกที่บริษัททุกวันตอนเย็นครับ ”

                “ แล้วมุนบินจะไหวเหรอลูก.....คุณแม่ว่าเรียนอย่างเดียวมันจะไม่ดีกว่าเหรอลูก ” แจจุงรู้มาว่าการเป็นนักร้องฝึกหัดมันต้องฝึกกันหนักมากร่างบางจึงพยายามพูดให้ลูกชายเปลี่ยนใจ

                “ แต่ผมอยากลองดูครับ ” ยืนยันคำเดิมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

                เมื่อได้ยินลูกชายยืนยันด้วยน้ำเสียงและแววตามุ่งมั่นแจจุงจึงทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ   เพราะเลี้ยงมากับมือทำให้แจจุงรู้ดีว่าลูกชายคนนี้นิสัยเป็นยังไง  คนอย่างชองมุนบินถ้าคิดอยากจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้นิสัยแบบนี้ถอดแบบยุนโฮออกมาเป๊ะ !  ร่างบางหันไปถามความเห็นสามีก่อนจะพยักหน้าบอกให้ยุนโฮเป็นคนตัดสินใจเพราะถึงแม้ยุนโฮจะมอบเอานาจเด็ดขาดเกี่ยวกับเรื่องลูกให้กับแจจุงแต่ร่างบางก็คิดว่าเรื่องใหญ่แบบนี้หัวหน้าครอบครัวควรจะเป็นคนตัดสินใจมากกว่า

                “ ถ้าอยากทำจริงๆงั้นก็ลองดูสักตั้งก็แล้วกัน ” ยุนโฮยอมอนุญาตเรียกรอยยิ้มดีใจจากลูกชายแต่ในขณะเดียวกันก็เรียกหน้ามุ่ยจากลูกสาวเช่นเดียวกัน

                สำหรับยุนโฮแล้วอะไรที่ลูกทำแล้วมีความสุขเขาก็พร้อมที่จะสนับสนุนถ้าหากว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ดีไม่ได้ส่งผลเสียให้กับลูกของเขา

                “ คุณพ่อ !! ” เยอึนเรียกผู้เป็นพ่อเสียงดังก่อนใบหน้าน่ารักจะมุ่ยลงด้วยความไม่ชอบใจ

                ยุนโฮรวบร่างลูกสาวเข้ามากอดก่อนจะอุ้มขึ้นมานั่งบนตัก “ โตขึ้นรึเปล่า  ทำไมหนักๆ ” พ่อหมีพยายามพูดหยอกเย้าให้ลูกสาวอารมณ์ดีแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือใบหน้าน่ารักที่มุ่ยสนิท

                “ น้องงอนคุณพ่อแล้ว ” ยกนิ้มโป้งขึ้นมาชูให้ผู้เป็นพ่อเพื่อบอกว่าน้องโป้งคุณพ่อแล้ว

                “ น้องงอนคุณพ่อเรื่องอะไรลูก ” พ่อหมีพยายามทำใจดีเข้าสู้เมื่อลูกหมีตัวน้อยหันมามองด้วยสายตาตัดพ้อ

                “ คุณพ่อให้พี่ชายไปออดิชั่น !

                “ แล้วน้องไม่อยากมีพี่ชายเป็นนักร้องเหรอลูก ? ” ถามหยั่งเชิง  ในสมองกกำลังคิดหาคำพูดที่ให้ทำให้เยอึนยอมให้พี่ชายไปออดิชั่น

                “ ไม่.... ” ตอบกลับทันควัน

                เยอึนไม่อยากให้พี่ชายเป็นอะไรทั้งนั้นเพราะถ้าพี่ชายไปเป็นนักร้องพี่ชายก็จะไม่มีเวลาให้เยอึน   แล้วเวลาพี่ชายไปทำงานเยอึนจะเล่นกับใครล่ะ

                “ พี่ชายแค่ไปออดิชั่นเองนะลูกพี่ชายไม่ได้ไปเป็นนักร้องตอนนี้ซะหน่อย....ถ้าพี่ชายออดิชั่นผ่านพี่ชายถึงได้เป็นนักร้องฝึกหัด ” ยุนโฮอธิบายให้ลูกสาวฟังอย่างใจเย็น

                “ คุณพ่อพูดจริงเหรอ... ” เอียงคอถามอย่างมีความหวัง   เยอึนจะสวดภาวนาทุกคืนให้พี่ชายออดิชั่นไม่ผ่าน

                “ จริงสิครับ ” พยักหน้าบอกว่าคุณพ่อไม่โกหกเยอึนหรอก

                “ งั้นน้องจะสวดภาวนาทุกคืนเลย  ขอให้พี่ชายออดิชั่นไม่ผ่าน ”

                แค่นั้นแหละลูกหมีที่ตั้งท่าจะงอแงก็ยิ้มหน้าบานอย่างมีความหวัง   อาการเอาแต่ใจของเยอึนทำให้แจจุงถึงกับส่ายหน้า   คุณแม่คนสวยหันไปมองลูกชายที่นั่งทำหน้าผิดหวังอยู่ข้างๆ  มุนบินกำลังผิดหวังที่น้องสาวไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังทำ

                “ เยอึนค่ะ...เข้าไปทำอาหารช่วยคุณแม่ในครัวดีกว่าเนอะเดี๋ยวคุณอาชางมินกับน้องๆก็จะมากันแล้ว ” แจจุงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะกวักมือเรียกลูกสาวให้ลุกจากตักพ่อหมีแจจุงว่าบางทีเขาอาจจะมีเรื่องต้องทำความเข้าใจกับเยอึนซะหน่อย

                “ ค่ะ ” กระโดดจากตักแกร่งอยากอารมณ์ดีก่อนจะเดินไปกอดเอวคุณแม่คนสวยเดินเข้าไปในครัว

                ยุนโฮมองลูกชายนั่งเงียบอยู่ข้างๆมือหนายกขึ้นตบไหล่ให้กำลังใจลูกชายเบาๆ  ยุนโฮรู้ว่ามุนบินตั้งใจกับการออดิชั่นครั้งนี้มากแค่ไหนและยุนโฮก็รู้เช่นกันว่าคำพูดของเยอึนทำให้มุนบินเสียใจมากแค่ไหน

                “ อย่าถือสาน้องเลยนะลูก...น้องยังเด็ก ”

                “ ครับ ”


                “ วันนี้คุณแม่จะทำอะไรเหรอค่ะ ? ” เสียงใสถามอย่างอารมณ์ดีในสมองเยอึนกำลังคิดว่าถ้าสวดมนต์อ้อนวอนทุกวันพระเจ้าคงเห็นใจแล้วดลบันดาลให้พี่ชายออดิชั่นไม่ผ่านแน่ๆ

                แจจุงไม่ตอบอะไรร่างบางเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะกวักมือเรียกลูกสาวให้เดินเข้ามาใกล้มือบางจับไหล่เล็กของลูกสาวเบาๆก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนหากแต่แฝงไปด้วยความจริงจัง

                “ น้องรักพี่ชายไหมลูก ?”

                “ รักสิค่ะ ” ตอบชัดถ้อยชัดคำ  ทำไมคุณแม่ถามแบบนี้เยอึนน่ะรักพี่ชายรองลงมาจากคุณพ่อคุณแม่เลยนะ

                “ แล้วน้องอยากเห็นพี่ชายมีความสุขไหมลูก? ”

                “ อยากค่ะ ” ทำไมเยอึนจะไม่อยากเห็นพี่ชายมีความสุขล่ะก็ในเมื่อเวลาที่พี่ชายมีความสุขเยอึนก็มีความสุขตามไปด้วยเยอึนชอบเวลาที่พี่ชายยิ้มที่สุดในโลกเลย

                “ถ้าน้องอยากให้พี่ชายมีความสุข  น้องก็ต้องยอมให้พี่ชายทำในสิ่งที่พี่ชายรัก ”

                “ สิ่งที่พี่ชายรัก ? ”

                “ ใช่ลูก....ดนตรีคือสิ่งที่พี่ชายรักเพราะฉะนั้นการไปออดิชั่นเป็นนักร้องคือการทำตามความฝันของพี่ชาย  ในเมื่อพี่ชายเลือกที่จะเดินในเส้นทางที่พี่ชายรักเราในฐานะคนในครอบครัวต้องสนับสนุนถึงจะถูก น้องเข้าใจที่คุณแม่พูดมั๊ยค่ะ ” แจจุงอธิบายให้ลูกสาวฟังอย่างใจเย็น

                ที่พูดไปไม่ใช่ว่าแจจุงเห็นด้วยกับสิ่งที่มุนบินตัดสินใจซะทีเดียว  เพราะในใจร่างบางก็แอบค้านลึกๆด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าลูกชายจะเหนื่อยเกินไป  แต่ในเมื่อมุนบินยืนยันที่จะทำและสัญญาว่าจะไม่ทำให้กระทบกับหน้าที่หลักซึ่งก็คือการเรียนแจจุงจึงยอมเชื่อใจลูกชายคนนี้สักครั้งแจจุงเชื่อว่ามุนบินจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง

                “ พี่ชายเสียใจมากนะลูกที่น้องไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พี่ชายตัดสินใจ”

                “ พี่ชายเสียใจมากจริงๆเหรอค่ะ ” หนูน้อยน้ำตาคลอเมื่อคิดว่าพี่ชายจะเสียใจมากแค่ไหนที่เขาคัดค้านไม่ยอมให้พี่ชายทำในสิ่งที่พี่ชายรัก

                “ ใช่ลูก....น้องอยากเห็นพี่ชายเสียใจเหรอลูก ”

                “ ไม่ค่ะ ” ส่ายหน้ารัวๆเยอึนไม่อยากให้พี่ชายเสียใจ “ แล้วพี่ชายจะโกรธน้องมั๊ยค่ะ ”

                “ พี่ชายไม่เคยโกรธน้องหรอกลูก ....แต่พี่ชายคงเสียใจที่น้องสาวคนเดียวไม่เข้าใจ ” แจจุงแกล้งบอกเสียงเศร้า

                “ น้องเข้าใจพี่ชายแล้วค่ะ.... ” บอกเสียงรัว  เยอึนเข้าใจแล้วถ้าต่อไปนี้พี่ชายทำในสิ่งที่พี่ชายรักเยอึนจะไม่ขัดขวางอีกแล้ว

                “ เข้าใจแล้วก็ไปบอกพี่ชายสิลูก...ไม่รู้ป่านนี้ร้องไห้ขี้โป่ง.... ” แจจุงพูดยังไม่ทันจบประโยคดีด้วยซ้ำร่างของลูกสาวก็วิ่งหายออกไปจากห้องครัวซะแล้วปากอิ่มระบายยิ้มอ่อนๆ

                คุณแม่ช่วยได้แค่นี้แหละนะมุนบิน  ที่เหลือก็อธิบายให้น้องสาวเข้าใจเองก็แล้ว



    .................................................................

     

     

                จุนซูยืนมองร่างสูงโปร่งของคนรักเดินไปเปิดประตูรถให้กับหญิงสาวซึ่งมีตำแหน่งเป็นคุณครูสอนเปียโนของลูกชายผ่านระเบียงห้องนอนก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อเริ่มคุ้นชินกับภาพแบบนี้แล้ว   ร่างอวบเดินกลับเข้าไปในห้องนอนเมื่อเฟอร์รารี่สีแดงเพลิงเคลื่อนออกจากตัวบ้าน  จุนซูพยายามบอกกับตัวเองว่าอย่าคิดมากพวกเขาเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น

                ใช่....ปาร์คกาฮีกับยูชอนเป็นแค่เพื่อนสนิทสมัยมัธยมเท่านั้น  จุนซูรู้มาจากยูชอนว่ากาฮีพึ่งกลับมาจากอเมริกาและเธอก็ทำงานเป็นครูสอนดนตรีที่สถาบันดนตรีแห่งหนึ่งยูชอนจึงขอให้หญิงสาวมาช่วยสอนเปียโนให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทุกวันเสาร์  และการที่ยูชอนไปรับไปส่งหญิงสาวก็เป็นแค่การดูแลตามประสาเพื่อนเท่านั้น

                “ คุณแม่ครับ....ผมอยากไปบ้านอายุนโฮ ” ชานฮีวิ่งพรวดเข้ามาในห้องนอนของพ่อกับแม่ทั้งๆที่มือยังถือโทรศัพท์อยู่

                “ ชานฮีจะไปบ้านอายุนโฮทำไมลูก ”

                “ เยอึนโทรมาบอกว่าเย็นนี้อาชางมินจะพาน้องไปที่บ้านฮะ ”

                เมื่อกี๊ยัยลูกหมีเยอึนโทรมาอวดว่าวันนี้อาชางมินจะพาน้องแฝดไปเล่นที่บ้านซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าทุกคนไปรวมตัวกันอยู่ที่บ้านเยอึนกันหมดแล้วแบบนี้ชานฮีจะพลาดได้ยังไงล่ะ   และอีกอย่างชานฮีอยากไปให้พี่มุนบินสอนกีต้าร์ให้ด้วยชานฮีจะได้เอาไปเล่นโชว์สาวที่โรงเรียน

                จุนซูพยักหน้าเข้าใจเบาๆก่อนจะบอกให้ลูกชายไปแต่งตัวให้เรียบร้อย “ โอเค...เดี๋ยวคุณแม่พาไปแต่ชานฮีต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะลูก ”

                “ แล้วป๊าล่ะฮะ ” ชานฮีถามถึงผู้เป็นพ่อเพราะทุกครั้งที่ไปบ้านของอายุนโฮป๊าก็จะไปด้วยกันทุกครั้ง

                “ ป๊าไปส่งคุณครูลูก ”

                “ งั้นเดี๋ยวรอป๊ากลับมาก่อนแล้วเราค่อยไปพร้อมกันก็ได้ฮะ ” บอกด้วยน้ำเสียงไม่รีบร้อนเพราะคิดว่าอีกไม่นานพ่อของตัวเองคงกลับมา

                “ คุณแม่ว่าเราไปรอป๊าที่บ้านอายุนโฮดีกว่า....ถ้าป๊ากลับมาเดี๋ยวป๊าก็ตามเอาไปเองแหละ ” ยิ้มอ่อนบอกลูกชาย

                ใจจริงจุนซูอยากจะบอกลูกว่า  อย่าไปรอเลยป๊าจะกลับมาตอนไหนก็ไม่รู้  แต่เพราะกลัวลูกชายจะสงสัยร่างบางจึงเลือกที่จะบอกออกไปแบบนั้น  จุนซูไม่รู้ว่าถ้าพวกเขารอให้ยูชอนกลับมาวันนี้ชานฮีจะได้ไปบ้านยุนโฮหรือเปล่าเพราะแต่ละครั้งที่ยูชอนออกไปส่งคุณครูของลูกชายมักจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าห้าชั่วโมง

                “ เอาแบบนั้นก็ได้ฮะ.....งั้นเดี๋ยวผมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ ”

                “ คุณแม่ลงไปรอที่ห้องรับแขกนะชานฮี ” เสียงหวานตะโกนบอกไล่หลังก่อนจะส่ายหน้าเบาๆเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องดังลั่นบ้านสงสัยว่าคงจะอยากไปมากจริงๆ

                ร่างอวบเดินไปหยิบกระเป๋าเงินกับกุญแจรถก่อนจะเดินลงไปรอที่ห้องรับแขกมือบางกำลังจะกดโทรออกเพื่อบอกยูชอนว่าเขาจะพาลูกไปบ้านยุนโฮ  แต่กดไปได้สองตัวนิ้วเรียวก็ชะงักค้างเอาไว้ก่อนจะตัดสินใจกดลบแล้วเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง

                “ ป้าฮะ....ถ้ายูชอนกลับมาผมฝากป้าบอกเขาด้วยนะฮะว่าผมพาชานฮีไปบ้านยุนโฮ ” เสียงหวานบอกกับหัวหน้าแม่บ้าน

                “ ได้ค่ะ... แล้วจะให้ดิฉันเตรียมอาหารเย็นไหมค่ะ ” หัวหน้าแม่บ้านโค้งรับคำสั่งอย่างสุภาพ  ก่อนจะเอ่ยถามเจ้านายเพราะปกติแล้วถ้าไปบ้านคุณยุนโฮเจ้านายมักจะทานอาหารเย็นมาจากที่นั่นเลย

                “ เตรียมไว้นิดเดียวก็พอฮะเผื่อยูชอนกลับมาแล้วจะหิว ” บอกทั้งที่ไม่แน่ใจว่ายูชอนจะกลับมาทานข้าวที่บ้านหรือเปล่าแต่จุนซูคิดว่าร่างสูงคงจะทานมาจากข้างนอกเหมือนทุกครั้ง

                “ ได้ค่ะ ”

                จุนซูยกยิ้มบางๆให้กับหัวหน้าแม่บ้านก่อนจะบอกให้เธอกลับไปทำงานของเธอต่อ   เสียงวิ่งตึงตังดังมาจากชั้นบนทำให้ร่างบางรู้ได้ไม่ยากว่าลูกชายตัวแสบลงมาแล้วกลีบปากสวยระบายยิ้มขำเมื่อได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ดังแว่วมาแต่ไกล

                ก็เล่นคุยโทรศัพท์กันบ่อยขนาดนี้แล้วจะไม่ให้คนอื่นเขาล้อว่าเป็นแฟนกันได้ไงล่ะ ชานฮี   เยอึน














    *****  มุดออกจากกองหนังสือมาส่งข่าวเรื่อง HF 2 เล่ม 2 ค่ะ ตอนนี้โรงพิมพ์ส่งหนังสือมาให้แล้ว
            ค่ะแต่ว่าช่วงนี้ไรเตอร์ติดสอบเลยยังหาเวลาว่างไปส่งให้ไม่ได้  โค้งงามๆให้กับความ
            ล่าช้าของตัวเอง  ไรเตอร์สอบเสรHจวันที่19 ค่ะ  คาดว่าหนังสือคงส่งให้ประมาณวันที่
            20-21 แต่ถ้าวันที่ 21 ใครสะดวกช่วงเย็นจะไปรับเองที่สยามก็ได้ค่ะเพราะไรเตอร์นัด
            รีดเดอร์คนนึงไปรับที่สยามค่ะ

    ***** หลังวันที่ 19 สัญญาว่าจะกลับมาลุยเรื่องเจ้าสาวจำเป็นต่อช่วงนี้ขอดองหน่อยนะค๊า 555

    ***** ไปท่องประมวลต่อแล้ว ว ว  ฝันดีทุกคนคร่า ^^

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×