คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ~ Happy Family ~ 13
“ คุณแม่หนูเอานี่ นี่ด้วย อันนี่ก็เอา ” เสียงเล็กเอ่ยบอกคุณแม่คนสวยส่วนนิ้วป้อมก็ชี้ไปที่ไอศกรีมหลากรส ทำไมมันถึงได้น่ากินหมดเลยนะมุนบินอยากกินหมดทุกอย่างเลย
“ คุณแม่ว่ามันเยอะไปนะครับ เดี๋ยวหนูจะกินไม่หมดนะลูก ” แจจุงเอ่ยกับลูกชายเพราะเจ้าหนูเล่นสั่งทุกอย่างที่อยากกินจนคนเป็นแม่เกรงว่าลูกชายจะกินไม่หมดเอาได้และอีกอย่างแจจุงไม่อยากให้มุนบินมีนิสัยชอบกินทิ้งกินขว้าง
“ ก็หนูอยากกินอ่ะ ” ไหนคุณพ่อบอกว่าถ้าหนูอยากกินอะไรก็สั่งได้เลย หนูอุตส่าห์เป็นเด็กดีทำตามที่คุณแม่บอกแล้วนะคุณแม่ก็ต้องรักษาสัญญาสิ
“ ถ้างั้นหนูต้องสัญญากับคุณแม่ก่อนว่าถ้าสั่งมาแล้วหนูจะต้องกินให้หมด ” คุณแม่กับลูกชายกำลังตั้งข้อตกลงกันโดยที่มีคุณพ่อหมีนั่งดูด้วยรอยยิ้ม ปล่อยให้หน้าที่ตกลงกันเป็นของสองแม่ลูกส่วนเขามีหน้าที่จ่ายเท่านั้น
“ ตกลง” รับคำด้วยความมั่นใจแค่นี้เองมุนบินซะอย่างหมดอยู่แล้ว
“ แล้วถ้าหนูกินไม่หมดล่ะครับ ” ทำเป็นพูดดีไปพ่อลูกชายเห็นพูดแบบนี้ทีไรไม่เห็นจะทำได้ซักอย่างสุดท้ายไม่เขาก็ยุนโฮที่ต้องรับช่วงต่อ
“ คุณแม่ก็กินช่วยหนูสิ ” ไม่เห็นจะยากเลยทุกทีเวลาที่หนูกินไม่หมดคุณแม่ก็กินช่วยทุกทีนี่นา แต่ครั้งนี้หนูกินหมดแน่นอนคุณแม่ไม่ได้ช่วยหนูหร๊อก
“ อ๊ะ แต่คราวนี้คุณแม่คงช่วยหนูไม่ได้แล้วล่ะ ” ร่างบางปฏิเสธลูกชาย
“ ทำไม ” เสียงเล็กเอ่ยถามแต่สายตายังคงจ้องมองดูเมนูอยู่เหมือนเดิม อันนั้นก็น่ากิน อันนี้ก็น่ากิน อู๊ย ย มุนบินเลือกไม่ถูกเลยล่ะ ขอคุณพ่อซื้อกลับบ้านด้วยดีกว่า อิอิ
“ ก็เพราะคุณแม่ก็มีเหมือนกัน ”
“ งั้นหนูให้คุณพ่อ ” ไม่เป็นไรหนูยังเหลือคุณพ่ออีกทั้งคน คุณแม่ตัวเล็กกินนิดเดียวก็อิ่มแล้วไม่เป็นไรมุนบินเข้าใจ
“ คุณพ่อก็ไม่รับปากเหมือนกันนะ ” เห็นท่าทางของลูกหมีแล้วพ่อหมีก็อดที่จะแกล้งไม่ได้ ยุนโฮไม่ได้คิดมากเหมือนแจจุงเขาเพียงอยากเห็นลูกชายมีความสุขก็เท่านั้น ยิ่งเวลาที่เห็นเจ้าตัวเล็กยิ้มตาเป็นประกายเพราะมีความสุขแล้วมันยิ่งทำให้ร่างสูงอยากจะทำทุกอย่างตามที่ลูกชายต้องการ ต่างกับแจจุงที่กลัวว่าถ้าตามใจลูกชายมากเกินไปจะทำให้ลูกเสียนิสัย
“ งั้นหนูกินเองก็ได้ ” คุณพ่อก็ไม่คุณแม่ก็ไม่งั้นหนูกินเองก็ได้นิดเดียวแค่นี้ชองมุนบินรับมือไหวอยู่แล้วไม่มีปัญหาอามินสอนมาดี
“ แน่ใจนะลูก ”
“ ครับ ”
“ งั้นตกลงเอาตามนี้ครับ ” แจจุงส่งเมนูคืนให้กับพนักงานพร้อมกับสั่งตามที่ลูกหมีเลือกไว้ รู้สึกว่าพอได้มาทานของโปรดแล้วดูมุนบินจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ในระหว่างที่รอพนักงานมาเสิร์ฟลูกหมีที่ไม่เคยอยู่นิ่งได้ถึงห้านาทีเริ่มปฏิบัติการอีกครั้ง ขาป้อมยืนขึ้นบนโซฟาก่อนที่จะเริ่มปีนป่ายราวกับว่าเป็นโซฟาที่บ้านดีที่ยุนโฮเลือกที่นั่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเลยไม่ต้องกังวลว่าลูกชายจะไปรบกวนโต๊ะข้างๆ
“ มุนบินเดี๋ยวตกลูก ” ปากก็เอ่ยห้ามมือก็จับตัวลูกชายเอาไว้กันไม่ให้ตก เจ้าตัวเล็กที่ตอนนี้ปีนขึ้นไปบนพนักพิงโซฟาเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นนั่งโยกตัวไปมา
“ คุณแม่ทำไมนานจัง ” ตาคู่เล็กมองไปยังประตูที่เห็นว่าพี่พนักงานเดินออกไป มุนบินอยากกินแล้วนะทำไมต้องให้รอนานด้วย
“ ใจเย็นสิลูก เดี๋ยวพี่เค้าก็มา ” ยุนโฮยิ้มขันกับความใจร้อนของลูกชาย ถ้าเป็นเรื่องกินแล้วล่ะก็หนึ่งนาทีก็นานเกินพอแล้วสำหรับมุนบิน
“ เหรอ แต่หนูหิวแล้วน๊า ” ปากเล็กยู่ลงก่อนจะหันออกไปมองวิวด้านนอกเพื่อฆ่าเวลา แจจุงกับยุนโฮหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
“ คุณพ่อ ” จู่ๆเจ้าตัวเล็กก็เรียกพ่อหมีดังลั่นพร้อมกับตาเล็กที่เบิกโตขึ้นก่อนจะค่อยๆปีนลงจากโซฟาแล้วเปลี่ยนเป้าหมายเป็นโต๊ะที่วางอยู่ตรงกลางแทน
“ มุนบินหนูจะไปไหนลูก ” แจจุงที่เห็นลูกชายทำท่าเหมือนจะปีนขึ้นไปบนโต๊ะเอ่ยถามด้วยความตกใจเพราะมุนบินสลัดมือตนเองออกทำให้ร่างบางไม่ทันได้จับตัวลูกชายไว้
“ หนูจะไปหาคุณพ่อ ” เสียงเล็กหันมาบอกคุณแม่คนสวยก่อนจะคลานดุ๊กดิ๊กไปหาพ่อหมี
“ ว่าไงครับ จะอ้อนอะไรอีก หืม ” ยุนโฮอุ้มลูกชายลงจากโต๊ะก่อนที่แขนเล็กจะก่อนรอบคอแกร่งเอาไว้ แววตาแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ต้องอ้อนขออะไรอีกแน่นอน
“ คุณพ่อ ”
“ ครับผม ”
“ หนูรักคุณพ่อน๊า ” คำบอกรักที่มักจะถูกนำออกมาใช้ทุกทีเมื่ออยากได้อะไร แต่พอไม่ได้ดังใจก็จะกลายเป็นคำตรงข้ามทันที
“ คุณพ่อก็รักหนูครับ รักมากๆด้วย ฟอดด” ยุนโฮหัวเราะออกมาเบาๆรู้เลยล่ะว่าลูกชายกำลังอ้อนแต่ที่ยังไม่รู้คือครั้งนี้ลูกหมีต้องการอะไร
“ แล้วหนูไม่รักคุณแม่เหรอลูก น่าน้อยใจจังเลย ” แจจุงที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่เอ่ยเย้าลูกชายพร้อมกับสายตาล้อเลียนมาลูกไม้เดิมๆแบบนี้คุณแม่รู้ทันแล้วแหละลูกชาย ตาคมเล็กหันมามองค้อนคุณแม่ที่รู้ทันไปหมดซะทุกอย่างตอนแรกมุนบินก็ว่าจะบอกรักคุณแม่เหมือนกันแต่คุณแม่รู้ทันมุนบินซะก่อน เอาไว้วันหลังล่ะกันนะครับคุณแม่
“ คุณพ่อ หนูอยากขี่อันนั้น ” หลังจากส่งค้อนให้คุณแม่แล้วก็หันมาอ้อนพ่อหมีต่อ นิ้วป้อมชี้ออกไปด้านนอกที่มีเด็กชายตัวเล็กๆสองสามคนกำลังปั่นจักรยานคันเล็กอยู่ แต่ดูเหมือนเด็กเหล่านั้นจะโตกว่ามุนบินซักสองสามปีได้
“ หนูยังขี่ไม่ได้หรอกลูก มันคันใหญ่ ” แจจุงบอกกับลูกชาย จักรยานที่เห็นนั้นสูงกว่ามุนบินด้วยซ้ำขืนให้ปั่นมีหวังลูกชายเขาโดนจักรยานทับพอดี
“ แต่คันเล็กๆก็มีนี่แจ แบบสี่ล้อก็มีนะ ” ตาคมมองตามนิ้วของลูกชายด้วยความสนใจ เอาไว้ให้มุนบินปั่นเล่นในบ้านมันก็ไม่เลวเหมือนกันนี่นา
“ อย่าตามใจลูกนักสิยุน ” ไม่ว่าลูกหมีเอ่ยปากอยากได้อะไรพ่อหมีก็มักจะหามาประเคนให้เสมอ เป็นแบบนี้ไงล่ะมุนบินถึงได้ชอบไปอ้อนยุนโฮมากกว่าที่จะมาอ้อนขอเขาเวลาที่อยากได้อะไร
“ แต่มันก็ไม่ได้เสียหายไม่ใช่เหรอ เอาน่าแจลูกอยากได้แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก ” ไม่เห็นเป็นอะไรเลยมากกว่านี้พ่อหมีคนนี้ก็หามาให้ได้ถ้ามันเป็นความต้องการของลูกชาย
“ ตามใจแล้วกัน ” แจจุงเองก็ขี้เกียจจะห้ามแล้วเหมือนกัน รู้ว่าห้ามไปก็เท่านั้นถึงวันนี้ไม่ซื้อแต่รับรองว่าไม่เกินพรุ่งนี้แน่นอน
“ คุณแม่อนุญาตแล้ว เดี๋ยวทานเสร็จเราไปซื้อรถให้มุนบินกันดีมั๊ยครับ ” ร่างสูงก้มลงพูดกับลูกชายที่นั่งอยู่บนตักแต่ตาเล็กยังคงให้ความสนใจอยู่ที่ด้านนอก
“ จริงนะ ” เจ้าหนูหันมาถามเสียงดังแววตาเป็นประกาย มุนบินรักคุณพ่อที่สุดเลย
“ จริงสิครับ ” ร่างสูงยิ้มให้ลูกชายพร้อมกับมือกร้านที่ยกขึ้นมาลูบหัวเล็กไปมาด้วยความเอ็นดู
“ เย้ เย้ ” มุนบินกระโดดดีใจอยู่บนตักคุณพ่อแขนป้อมทั้งสองชูขึ้นด้วยความดีใจจนคนในร้านเริ่มหันมามองถึงแม้จะเป็นมุมส่วนตัวแต่เสียงลูกหมีก็ใช่ว่าจะเบานี่นา
“ มุนบินอย่าเสียงดังสิลูก อ๊ะ ไอติมมาแล้ว ” แจจุงปรามลูกชายก่อนที่ตากลมจะหันไปเจอพนักงานที่ถือไอศกรีมเข้ามาเสิร์ฟ
“ ว้าว ” เจ้าหนูอุทานออกมาเมื่อเห็นไอศครีมหลากสีสันที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าแต่พอหันไปมองของคุณพ่อคุณแม่บ้างเจ้าหนูก็เริ่มสงสัย
“ ทำไมของหนูเยอะจัง ” มีใครแอบเอามาใส่ให้หนูรึเปล่าอ่ะแล้วหนูจะกินหมดไหมเนี่ยน่าจะเชื่อคุณแม่ตั้งแต่แรกแต่ว่ามันน่ากินทุกอย่างเลยนี่นา
“ ก็หนูสั่งเยอะไงลูก กินให้หมดนะลูกหมี ” ปากหยักยกยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นท่าทางหนักใจของลูกชายคงจะกังวลกลัวตัวเองกินไม่หมดล่ะสินะ
“ มันเยอะ หนูกินไม่หมดหรอก ” ตอนที่เห็นในรูปมันลูกเล็กนิดเดียวนี่นา ทำไงล่ะทีนี้ถ้ากินไม่หมดต้องโดนคุณแม่ดุแน่เลย คุณพ่อค๊าบ บ ช่วยลูกหมีด้วยน๊า
“ ไม่ต้องมาทำสายตาแบบนั้นเลย ของคุณพ่อก็มีเหมือนกัน ” พ่อหมีทำเป็นไม่สนใจกับสายตาวิ้งๆที่ลูกชายส่งมาให้
“ หนูเป็นคนสั่งหนูก็ต้องรับผิดชอบเองนะลูก ” แจจุงเอ่ยกับลูกชายทีมีสีหน้าหนักใจ เห็นทีว่าจะต้องให้ลูกหมีเรียนรู้ด้วยตนเองซะแล้วล่ะ
“ มันเยอะนะ ” เจ้าหนูพยายามอ้อนวอนให้คุณแม่คนสวยยอมใจอ่อนช่วยเค้ากิน
“ มุนบินดูนู้นสิลูก ” แจจุงชี้ให้ลูกชายดูภาพด้านนอกที่ตอนนี้มีผู้หญิงวัยกลางคนเดินจูงมือลูกชายวัยไล่เลี่ยกับมุนบินมืออีกข้างที่ว่างก็ถือถาดใส่ขนมเพื่อที่จะเอาไปขาย
“ ทำไมอ่ะ ” มุนบินไม่เห็นเข้าใจเลยคุณแม่ให้มุนบินดูอะไรอ่ะ แต่ถึงอย่างนั้นตาเรียวก็ยังมองตามสิ่งที่คุณแม่ชี้ให้ดูมือก็ตักไอศกรีมเข้าปาก
“ หนูเห็นเด็กคนนั้นไหมลูก เค้ากำลังช่วยคุณแม่ของเค้าขายของอยู่ ” แจจุงกำลังอธิบายให้เจ้าตัวเล็กเข้าใจอย่างช้าๆอยากให้ลูกรู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้กินของดีๆเหมือนมุนบิน
“ ทำไมต้องขายด้วย ” มุนบินไม่เห็นต้องขายเลย อยู่บ้านเล่นกับพี่หมีสนุกกว่าเยอะข้างนอกแดดร้อนจะตายแล้วทำไมเขาต้องเดินด้วยทำไมไม่นั่งรถอ่ะ
“ เพราะเค้าลำบากไงครับ เค้าเลยต้องช่วยคุณแม่เค้าทำงาน ”
“ ทำงานเหมือนคุณพ่อน่ะเหรอ ” ทำงานเหรอแสดงว่าคุณพ่อก็ต้องไปเดินขายแบบนั้นน่ะสิ แต่ไม่เห็นคุณพ่อจะแต่งตัวแบบนั้นเลยแล้วก็ไม่พามุนบินไปทำงานด้วย
“ ครับลูก ”
“ งั้นหนูก็ต้องไปทำงานกับคุณพ่อน่ะสิ คุณแม่ทำไมเค้าไม่คุณแม่เค้าไม่ใส่รองเท้า ” เมื่อเหลือบไปเห็นว่าเท้าของผู้หญิงที่ตัวโตกว่าไม่มีรองเท้าอยู่เจ้าหนูจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ เพราะเค้าให้ลูกเค้าใส่แทนไงครับ ” ยุนโฮให้บอกลูกชายหายข้องใจเมื่อตาคมสังเกตว่ารองเท้าที่เจ้าหนูใส่นั้นมีขนาดใหญ่กว่าเท้ามาก
“ เหรอ งั้นเค้าก็ร้อนน่ะสิ แล้วทำไมเค้าไม่ซื้อใหม่ ” จะแบ่งกันใส่ทำไมอ่ะก็ซื้อคนละคู่เลยสิเหมือนมุนบินกับคุณพ่อคุณแม่ไง
“ เค้าก็คงอยากทำแบบนั้นแต่คงทำไม่ได้ ”
“ ทำไมล่ะ ”
“ ก็เพราะเค้าไม่มีตังค์ไงครับ เค้าเลยต้องประหยัด ”
“ น่าสงสารจัง ” พูดตามความรู้สึกที่รู้สึกจริงๆ ไม่เหมือนมุนบินเลยเวลาอยากได้อะไรก็แค่บอกคุณพ่อเดี๋ยวคุณพ่อก็พาไปซื้อเอง
“ ถ้าสงสารหนูก็ต้องประหยัดนะลูก สงสารคนที่เขาไม่มีโอกาสเหมือนหนู ” ร่างบางถือโอกาสช่วงที่มุนบินกำลังเห็นใจคนอื่นสอนลูกชายโดยหยิบยกเหตุการณ์เมื่อสักครู่เป็นตัวอย่าง
“ ครับ ” ต่อไปนี้มุนบินจะประหยัดแต่ว่าต้องหลังจากที่คุณพ่อพาไปซื้อจักรยานนะ
“ เก่งมากครับคนเก่ง ” แจจุงยิ้มพอใจ ถึงแม้เขากับยุนโฮจะไม่ได้ลำบากเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นแต่ร่างบางก็อยากให้ลูกชายรู้จักเห็นค่าของสิ่งของ ไม่ใช่คิดแต่ว่าอยากได้อะไรก็ต้องได้เพราะพ่อแม่มีเงิน
“ คุณแม่ ” เสียงเล็กที่เงียบไปสักพักเอ่ยขึ้น
“ว่าไงครับลูก ”
“ หนูอยากกินขนมนั่นจัง ” แจจุงที่ยังไม่เข้าใจว่าขนมนั่นที่ลูกชายหมายถึงอะไร แต่พอมองตามออกไปก็เข้าใจได้ทันที ร่างบางนึกว่าพอจบบทสนทนาแล้วมุนบินคงเลิกสนใจสองแม่ลูกนั้นแล้ว แต่เปล่าเลยเจ้าหนูยังคงหันไปมองเป็นระยะ คงจะสงสารล่ะสินะเพราะแจจุงก็สังเกตอยู่ตลอดจึงรู้ว่ายังขายไม่ได้เลย
“ งั้นเดี๋ยวคุณแม่พาไปซื้อเอามั๊ยครับ ”
“ เอาครับ ”
หลังจากนั่งทานไปได้ซักพักเจ้าตัวเล็กที่บ่นว่าอยากกินนักอยากกินหนาก็กินไม่หมดเหมือนเคยแต่ครั้งนี้แปลกเพราะเจ้าหนูไม่ได้อ้อนให้พ่อหมีกับแม่หมีกินช่วยเหมือนทุกครั้งแต่กลับบอกให้เขาห่อกลับบ้านให้ด้วย
“ คุณแม่ซื้อขนมกัน ” พอพ่อหมีจ่ายตังค์เสร็จลูกหมีก็เอ่ยชวนไปซื้อขนมทันทีมือป้อมจับมือคุณแม่ไว้ก่อนจะออกแรงลากให้เดินตามมา
“ ไม่ทราบว่าขนมขายยังไงครับ ” ร่างบางเอ่ยถามสองแม่ลูกที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นเล็กๆเพื่ออาศัยเป็นร่มเงา และเมื่อเห็นว่ามีลูกค้าเค้ามาสองแม่ลูกก็ส่งยิ้มให้แก่กันด้วยความดีใจ
“ แม่ครับมีคนซื้อแล้ว ” เจ้าตัวเล็กเอ่ยด้วยความดีใจ
“ จ๊ะลูก ทนอีกนิดนะเราจะได้กินข้าวแล้ว ” เธอกอดลูกชายด้วยความดีใจก่อนจะหันมาเอ่ยกับลูกค้าที่ยืนรออยู่ “ ถุงละ 5000 วอนค่ะ ”
“ งั้นผมเอาหมดนี้ครับ ” แจจุงเอ่ยก่อนจะหันไปขอความเห็นจากสามีเมื่อยุนโฮพยักหน้าร่างบางจึงทรุดตัวลงนั่งเสมอกับสองแม่ลูก
“ จริงเหรอค่ะ ” เธอคิดว่าเธอคงหูฝาดเป็นแน่
“ ครับ พอดีลูกชายอยากทาน แล้วก็จะเอาไปฝากคนที่บ้านด้วย ” จริงๆแล้วร่างบางก็แค่อยากช่วย เพราะนึกสงสารเด็กตัวเล็กๆที่ต้องมานั่งตากแดดแบบนี้ ร่างบางเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ดี
“ ค่ะ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ” เธอรีบจัดการใส่ถุงให้อย่างเร่งรีบเพราะกลัวว่าลูกค้าจะเปลี่ยนใจ
“ ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ ” แจจุงยิ้มบางให้เมื่อเห็นว่าแม่ค้าดูจะรีบเกินไป “ ลูกชายเหรอครับ อายุเท่าไหร่แล้ว ”
“ สองขวบแล้วค่ะ ” ตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ลูกชายที่นั่งยิ้มด้วยความดีใจที่วันนี้จะได้กลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน
“ อายุไล่เลี่ยกับลูกชายผมเลย ชื่ออะไรครับคนเก่ง ” ท้ายประโยคหันไปเอ่ยกับเด็กชายตัวเล็ก เด็กคนนี้น่ารักดีนะปากนิดจมูกหน่อย
“ ซองอุงครับ ” ตอบเสียงเบาตามประสาเด็กขี้อาย
“ คุณแม่หนูร้อน ” เจ้าตัวเล็กที่ยืนอยู่กับพ่อหมีเดินมาเรียกคุณแม่คนสวย เพราะดูเหมือนว่าคุณแม่จะคุยเพลินไปหน่อยแล้ว
“ อีกแป๊บนึงนะครับลูก หนูให้คุณพ่อพาไปรอที่รถก่อนก็ได้นะเดี๋ยวคุณแม่ตามไป ” มือบางยกขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาบนแก้มใส แต่พอเห็นว่าลูกชายเริ่มหน้าแดงจึงบอกให้ไปรอที่รถก่อนเพราะเกรงว่ามุนบินจะไม่สบายขึ้นมาอีก
“ ครับ ” มุนบินรับคำทันทีไปเปิดแอร์นั่งรอคุณแม่ในรถดีกว่าเป็นไหนๆ แต่พอนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเดินไปเอาถุงที่พ่อหมีถืออยู่มาแล้วยื่นให้กับเด็กชายหน้าหวานที่นั่งอยู่
“ ให้เธอนะ ” แจจุงอมยิ้มเมื่อเห็นการกระทำของลูกชายอย่าบอกนะว่าที่ให้พนักงานใส่ถุงให้เนี่ยเพื่อเอามาฝากเด็กคนนี้
“ เอ่อ ”
“ รับไว้เถอะจ๊ะ มุนบินเค้าเอามาฝาก ” เมื่อเห็นว่าซองอุงไม่กล้าที่จะรับแจจุงจึงช่วยพูดอีกแรง แล้วอีกอย่างกลัวลูกชายตัวเองจะโวยวายเพราะเสียความตั้งใจ
“ ขอบใจนะ ”
มุนบินยิ้มเห็นฟันให้ “ เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ” พูดจบก็เดินไปจูงมือพ่อหมีที่ยืนยิ้มอยู่ให้ไปที่รถ พร้อมกับหันมาบ๊ายบายเพื่อนใหม่ แต่พอเห็นรองเท้าที่ซองอุงใส่คำพูดของคุณแม่ก็ลอยเข้ามาในหัวทันที
เค้าไม่มีตังค์ซื้อครับลูก
เจ้าตัวเล็กมองเท้าตัวเองกับซองอุงสลับกันไปมาก่อนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง เจ้าตัวเล็กก้มลงไปถอดรองเท้าของตัวเองก่อนจะต้องกระโดดเหยงๆเพราะเท้าเล็กสัมผัสได้ถึงความร้อนของพื้นถนน อู๊ย ย ย ร้อนจังคุณป้าคนนั้นทนได้ยังไงเนี่ย ไม่ไหวแล้วมุนบินให้คุณพ่ออุ้มดีกว่า
พ่อหมีกับแม่หมีมองดูการกระทำของลูกชายด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆมุนบินถึงได้ถอดรองเท้าออก ก่อนที่ยุนโฮจะก้มไปอุ้มลูกชายตามคำขอของเจ้าตัวเล็ก
“ คุณพ่อหนูให้เค้าได้ไหม ” เจ้าตัวเล็กหันมาขออนุญาตพ่อหมี แค่นี้ยุนโฮก็เข้าใจได้ทันทีเลยว่ามุนบินถอดรองเท้าทำไม เห็นแบบนี้แล้วก็อดที่จะภูมิใจไม่ได้ลูกชายของเขาน่ารักจริงๆ
“ ได้สิครับ ” ว่าพลางพาลูกชายเดินเข้าไปหาแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างๆแจจุง มุนบินยื่นรองเท้าของตัวเองออกไปให้โดยที่ไม่ได้พูดอะไร สองแม่ลูกได้แต่ทำหน้างง
“ มุนบินเค้าถามผมน่ะครับว่าทำไมคุณถึงไม่ใสรองเท้า ผมเลยบอกว่าคุณเสียสละให้ซองอุงใส่ ” แจจุงอธิบายด้วยความภูมิใจในตัวลูกชาย มุนบินตัวแค่นี้แต่ก็รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่นแล้วเก่งจริงๆเลยลูกชายเขาเนี่ย
“ ก็เลย ” หญิงแม่ค้าเอ่ยถามด้วยความเกรงใจ ลึกๆแล้วก็นึกชื่นชมเด็กชายตัวน้อยอยู่เหมือนกัน
“ ครับ อย่างที่คุณเข้าใจ ” ร่างสูงเสริม
“ ขอบคุณมากค่ะ แต่ฉันคงรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ มันมากเกินไป ” เธอรู้สึกขอบคุณครอบครัวนี้จริงๆที่หวังดีเขาเธอและลูกแต่สิ่งที่ให้มามันเยอะเกินไป เธอเคยเดินผ่านห้างที่มันขายรองเท้ายี่ห้อนี้ราคามันไม่ใช่ถูกๆเลยนะ
“ รับไว้เถอะครับ อย่าให้แกเสียความตั้งใจเลย ”
เพราะรับรู้ได้ถึงความจริงใจที่หยิบยื่นให้เธอเลยจำต้องรับถึงแม้ว่าจะแสนเกรงใจก็ตาม แต่เมื่อเห็นแววตามุ่งมั่นที่ซ่อนอยู่ในตาเรียวเล็กนั้นเธอก็ไม่อยากทำลายความตั้งใจของเด็ก
“ ขอบคุณมากเลยนะค่ะ ซองอุงขอบคุณคุณหนูสิลูก ” เธอหันไปเอ่ยกับลูกชาย
“ ขอบคุณครับ ”
“ เป็นเด็กดีนะจ๊ะ ” มือบางลูบหัวเล็กไปมา ไม่รู้ทำไมถึงได้ถูกชะตากับเด็กผู้ชายคนนี้นักก็ไม่รู้ พอมองไปมองมาซองอุงก็มีส่วนคล้ายเขาตอนเด็กเหมือนกันนะเนี่ย
“ คุณแม่หนูร้อน ” เป็นอีกครั้งที่ลูกหมีเอ่ยบอกกับคุณแม่แจจุงหันมายิ้มหันลูกชายก่อนจะจัดการจ่ายตังค์ให้เรียบร้อยพอหันมามองอีกทีลูกหมีก็หาวหวอดๆซะแล้ว
“ เสร็จแล้วครับลูก ป่ะกลับบ้านกันเนอะ ” ร่างบางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเอ่ยลาสองแม่ลูกแล้วเดินตามพ่อหมีที่อุ้มลูกหมีที่เริ่มงอแงเพราะได้เวลานอนกลางวันเดินนำไปที่รถก่อนแล้ว
ซองอุงมองตามหลังสามคนพ่อแม่ลูกที่เดินออกไปจนรถเก๋งคันหรูเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถของร้าน ไอศกรีมแล้วจึงก้มลงมองรองเท้าที่อยู่ในมือพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ
ขอบคุณนะมุนบิน
ความคิดเห็น