คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ~ Happy Family ~ 21
โรงพยาบาลเอกชนที่เต็มไปด้วยผู้มารอใช้บริการรวมไปถึงครอบครัวหมีที่เดินจูงมือกันเข้ามา และดูเหมือนว่าวันนี้มุนบินจะดูแปลกไปเพราะพอลงจากรถแล้วมองไปรอบๆเจ้าตัวเล็กก็จำได้ว่าที่นี่คือสถานที่ที่เจ้าตัวเกลียดมากที่สุด มือเปล่ากระตุกขากางเกงคุณแม่คนสวยตาเรียวเริ่มหวาดระแวงคุณแม่พามุนบินมาที่นี่อีกทำไมอ่ะอย่าบอกนะว่าจะพามาฉีดยา ไม่เอาอ่ะ มุนบินจะกลับบ้านมุนบินไม่ฉีดยามุนบินกลัวเข็มน๊า
“ เป็นอะไรไปครับมุนบิน ” ร่างบางก้มลงถามลูกชายแจจุงกำลังจะอุ้มมุนบินขึ้นมาอยู่แล้วเชียวแต่ก็โดนยุนโฮตัดหน้าไปซะก่อน
“ หนูจะกลับบ้าน ” ตาเรียวยังคงมองไปรอบๆอย่างหวาดระแวงแขนป้อมกอดคอคุณพ่อเอาไว้แน่นอาการของลูกชายทำเอาคุณพ่อคุณแม่ต้องหันไปมองหน้ากัน
“ ยังกลับตอนนี้ไม่ได้ครับเราต้องเข้าไปข้างในก่อนนะ ” ยุนโฮบอกกับลูกชาย
“ เข้าไปทำไม ” เจ้าตัวเล็กถามเสียงดังใบหน้าเริ่มซีด บางเล็กเบะออกในสมองมีแต่เข็มฉีดยาลอยไปเต็มไปหมด มุนบินไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อยทำไมต้องพามาฉีดยาด้วย
“ มุนบินหนูร้องไห้ทำไมลูก ” แจจุงเองก็ตกใจเช่นกันที่อยู่ๆลูกชายก็ร้องไห้ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แขนเรียวยื่นไปรับตัวลูกชายมาจากสามี
ยุนโฮก็เริ่มหน้าเสียเขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะแค่บอกว่าจะพาเข้าไปข้างในเฉยๆ หรือว่ามุนบินกลัวว่าจะโดนฉีดยาเหมือนกับคราวที่แล้ว
“ ฮึก หนู หนู กลัว ฮือๆๆ”
“ กลัวอะไรครับลูก ” ร่างบางโยกตัวไปมาเพื่อปลอบ กลัวอะไรกันนะลูกชายคุณพ่อกับคุณแม่ก็อยู่นี่ ไม่มีใครมาทำอะไรมุนบินของคุณแม่ได้หรอก
“ คุณ แม่ ฮึก จะ พา หนู ฮึก ไป ฉีด ยา ”
นั่นไงยุนโฮคิดแล้วไม่มีผิดว่าลูกหมีต้องเข้าใจว่าเขากับแจจุงพามาฉีดยาแน่เลย แล้วคุณพ่อบอกหนูตอนไหนครับมุนบินว่าคุณพ่อจะพาหนูมาฉีดยาชอบคิดเองเออเองเหมือนคนแถวนี้ไม่มีผิดเลย
“ คุณพ่อเปล่าพาหนูมาฉีดยาซะหน่อย ” มือกร้านลูบหัวเล็ก พอได้ยินอย่างนั้นเจ้าหนูก็ใจชื่นขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ดวงตาที่ยังคงมีเจ้าใสๆคลออยู่หันไปถามคุณพ่อที่ยืนยิ้มใจดีอยู่ข้างๆ
“ ฮึก จริง ฮึก จริงเหรอ ”
“ จริงสิครับ ”
“ แล้ว มาที่นี่ ทำ ฮึก ทำไม ”
ถ้าไม่ได้พาหนูมาฉีดยาแล้วมาที่นี่ทำไมมุนบินไม่ชอบที่นี่เลยมันน่ากลัวอ่ะ ไหนจะกลิ่นอะไรก็ไม่รู้เหม็นก็เหม็นไม่เห็นมีอะไรน่าสนุกเลย
“ คุณแม่สบาย คุณพ่อเลยพาคุณแม่มาให้คุณหมอตรวจครับ ” ร่างสูงอธิบายให้ลูกชายฟังก่อนจะยื่นมือไปรับเจ้าตัวเล็กมาอุ้มไว้ซะเอง “ ให้คุณพ่ออุ้มดีกว่าเนอะเดี๋ยวคุณแม่เหนื่อย ”
“ คุณแม่ไม่สบายเหรอ ” ปากถามแต่ก็กางแขนออกยอมให้พ่อหมีอุ้ม
“ ครับ ” แจจุงยิ้มอ่อนโยนให้ลูกชาย
“ คุณแม่ไม่สบายเป็นอะไร ”
“ คุณแม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ต้องรอถามคุณหมอครับลูก ”
“แล้วคุณแม่ต้องฉีดยามั๊ย ”
เจ้าตัวเล็กยังคงถามต่อไปเรื่อยๆก็มุนบินอยากรู้อ่ะก็ตอนนั้นคุณพ่อบอกมุนบินว่ามุนบินไม่สบายเลยต้องให้คุณหมอฉีดยาจะได้หายเร็วๆ งั้นแสดงว่าคุณแม่ก็ต้องฉีดยาเหมือนกันน่ะสิเพราะคุณแม่ไม่สบายจะได้หายเร็วๆเหมือนมุนบินแบบนี้คุณแม่ก็เจ็บแย่เลย โอ๋ๆคุณแม่อย่าร้องไห้นะมุนบินจะอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่เองถ้าร้องไห้เดี๋ยวไม่จะไม่สวยเอานะ
แจจุงยิ้มบางๆกับอาการช่างถามของลูกชาย“ ทำไมครับ มุนบินจะฉีดแทนคุณแม่เหรอลูก ”
“ ไม่เอา ” เจ้าตัวเล็กปฏิเสธทันที มุนบินรักคุณแม่น๊าแต่ถ้าเป็นเรื่องนี้มุนบินขอลา มุนบินยังไม่ลืมนะว่าไอ้เจ้าปลายแหลมๆนั่นทำให้มุนบินเจ็บแค่ไหน อู๊ย คิดแล้วก็ขนลุก
“คุณพ่อว่าเราไปข้างในดีกว่าเนอะ ”
“ ครับ ” เจ้าตัวเล็กพยักหน้าแต่ก่อนที่จะได้เดินเข้าไปในตัวอาคารเจ้าหนูก็ตาไวมองไปเจอคุณอาทั้งสองที่กำลังเดินลงจากรถซะก่อน “ คุณอายูชอน ” มุนบินเรียกชื่อคุณอาเสียงดัง
“ มาถึงนานแล้วเหรอ ” ยูชอนประคองจุนซูที่ตอนนี้แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงแล้วเดินเข้ามาหา ร่างสูงยิ้มให้เมื่อเจ้าหัวเล็กโค้งทักทาย
“ พึ่งมาถึงเหมือนกัน เป็นไงบ้างจุนซู ” ใบหน้าซีดๆของจุนซูนั้นน่าเป็นห่วงจริงๆ เป็นหนักเอาเรื่องเลยนะเนี่ย
“ ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่น่ะ ” แรงจะยิ้มยังแทบจะไม่มีแต่จุนซูก็ฝืนตอบ
“ ดูท่านายจะอาการหนักกว่าแจจุงอีกนะ ”
ยุนโฮว่าแจจุงอาการน่าเป็นห่วงแล้วนะแต่พอมาเจอจุนซูแล้วดูเหมือนอาการของแจจุงธรรมดาไปเลยเพราะคนสวยของเขายังเดินเองได้แล้วก็ไม่ได้หน้าซีดเท่าจุนซู
“ ตั้งแต่เมื่อเช้าวิ่งเข้าห้องน้ำไม่ได้พักเลย แล้วนายล่ะเป็นไงบ้าง ”
“ ก็ยังพอไหวอยู่ แต่อาการแบบนี้ฉันว่าฉันเคยเป็นนะ ”
เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านแจจุงก็นั่งคิดอยู่นานว่าเหมือนตัวเองเคยมีอาการแบบนี้มาก่อนแต่ร่างบางก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่เลยต้องมาให้คุณหมอตรวจให้แน่ใจว่าผลตรวจจะออกมาเหมือนกับที่เขาคิดหรือเปล่า
“ นายเคยเป็นเหรอ? ”
“ อืม ช่วงก่อนที่จะมีมุนบินน่ะแต่ฉันยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นะ ”
“ มะ หมายความว่า จุนซูกับนาย ท้องเหรอ ” ยูชอนแทบจะถามออกมาไม่เป็นภาษาถ้าเป็นอย่างที่แจจุงว่านั้นก็ดีน่ะสิ
“ น่าจะนะ ” ร่างบางยังไม่ค่อยแน่ใจ
“ งั้นเรารีบเข้าไปให้คุณหมอตรวจดีกว่า ” ปาร์คยูชอนที่ดีใจจนเนื้อเต้นรีบชวนทุกคนให้เข้าไปในโรงพยาบาลเขาตื่นเต้นจะแย่แล้วอยากรู้ว่าจุนซูท้องจริงหรือเปล่า ถ้าจริงเขาจะปิดบริษัทฉลองต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องคอยนั่งอิจฉายุนโฮที่มีเจ้าตัวเล็กคอยอ้อนปาร์คจะมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว
“ ดีๆ ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน มุนบินครับหนูจะมีน้องแล้วนะลูกดีใจไหม ”
อย่าว่าแต่ยูชอนเลยพ่อหมีที่พึ่งหาเสียงตัวเองเจอหลังจากที่อึ้งกับสิ่งที่แจจุงบอกก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันถึงว่าล่ะเขาถึงได้รู้สึกคุ้นๆกับอาการของแจจุงในที่สุดความพยายามของเขาก็สำเร็จพ่อหมีทำน้องให้ลูกหมีได้แล้ว แต่พ่อหมีคงจะตื่นเต้นมากไปหน่อยเลยอุ้มลูกหมีหมุนไปมาตั้งหลายรอบและคงจะไม่หยุดง่ายๆแน่ถ้าเสียงเล็กๆไม่ร้องออกมาซะก่อน
“ คุณพ่อ หนูเวียนหัว ”
เสียงวิ่งหนักๆเรียกสายตาจากคนทั้งหน้าที่กำลังนั่งอยู่หน้าห้องตรวจให้หันไปมองและก็พบว่าเป็นชางมินนั่นเองที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามา พยาบาลที่อยู่ในแผนกต่างมองมายังร่างสูงด้วยแววตาตำหนิที่นี่มันโรงพยาบาลนะไม่ใช่สนามเด็กเล่น
“ พี่ หมอว่าไงบ้าง ” แต่ชางมินเองก็ไม่ได้สนใจสายตาจากรอบข้างสิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้คือผลตรวจของพี่ชายทั้งสองมากกว่า ทันทีที่รู้ข่าวเขาก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที
“ ยังไม่ได้ตรวจเลย รอคิวอยู่น่ะ ” ร่างบางที่มีลูกหมีนั่งอยู่บนตักเป็นคนตอบ
“ จริงอ่ะ รู้งี้ไม่น่ารีบมาเลย ” บอกเซ็งๆแต่คิดดูอีกทีมานั่งรอแบบนี้ก็ลุ้นไปอีกแบบ ชางมินหันไปส่งยิ้มทักทายเจ้าตัวเล็ก “ ว่าไงครับมุนบิน ” มือหนาขยี้ผมหลานชายเบาๆ
“ แล้วนี่มาคนเดียวเหรอชางมิน ยูฮวานไปไหนซะล่ะ ” ปกติยูชอนเห็นเจ้าสองคนนี้ทำตัวติดกันจะตายแต่ไหงวันนี้ชางมินถึงได้ฉายเดี่ยวล่ะ
“ ยูฮวานเขาพาแม่ไปธุระน่ะฮะ ”
ก็ไม่ได้อยากมาคนเดียวหรอกแต่พอดีว่ายูฮวานต้องมามารดาไปทำธุระวันนี้เขาก็เลยถูกทิ้งให้นอนเฝ้าห้องอยู่คนเดียว ตอนที่ยูชอนโทรไปน่ะเขากำลังเบื่อได้ที่เลยล่ะ
“ เชิญคุณคิมแจจุงที่ห้องตรวจหนึ่งค่ะ เชิญคุณคิมจุนซูที่ห้องตรวจสามค่ะ ” เสียงพยาบาลสาวเรียกชื่อคนไข้พร้อมกันทีเดียวสองคน
“คุณหมอเรียกแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ ” ยูชอนลุกขึ้นประคองจุนซูที่กำลังนั่งดมยาดมอยู่ให้ลุกขึ้น จะได้ตรวจให้รู้กันซะทีว่าตกลงจุนซูเป็นอะไรกันแน่ บอกตามตรงเขาไม่สบายใจเลยที่เห็นจุนซูเกือบจะเป็นลมไปตั้งหลายครั้งแบบนี้
“ อืม ตรวจเสร็จเจอกันที่นี่นะ ” ยุนโฮบอกกับยูชอนก่อนจะยื่นมือไปอุ้มมุนบินมาจากแจจุงแล้วพากันเดินเข้าไปในห้องตรวจ
แต่ยังไม่ทันที่จะได้แตะประตูเลยตรวจซ้ำอยู่ๆมุนบินก็งอแงขึ้นมาอีกครั้ง แขนเล็กกอดคอคุณพ่อเอาไว้แน่นกว่าเดิมเมื่อเห็นอะไรบ้างอย่าง
“ เป็นอะไรไปครับมุนบิน ” ร่างสูงเอ่ยถามเมื่อเห็นอาการผิดปกติของลูกชาย
“ คุณพ่อไม่เข้า ”
“ แต่คุณพ่อเรียกคุณแม่แล้วนะครับ ”
“ แต่ว่า... ” เจ้าหนูมองเข้าไปในห้องก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดเหมือนกับคนที่มาฉีดยาให้มุนบินเลย แจจุงมองตามลูกชายก็เข้าใจทันที
“ ยุนอยู่ข้างนอกกับลูกก็ได้ เดี๋ยวแจเข้าไปคนเดียว ” ร่างบางบอกกับสามี
“ แต่ยุนอยากเข้าไปด้วย ”
“ เข้าไปได้ยังไงล่ะยุนไม่เห็นเหรอว่าลูกกลัวหมอ ” ขืนเข้าไปด้วยกันมีหวังเจ้าตัวเล็กได้ร้องไห้อีกรอบแน่ แค่เห็นคุณหมอลูกหมีก็หน้าซีดแล้ว
“ งั้นเอาแบบนี้ ”ยุนโฮนิ่งไปสักพักตาคมมองเข้าไปในห้องตรวจก็พบว่าคุณหมอกำลังมองมา เสียงทุ้มเอ่ยเรียกน้องชายที่นั่งรออยู่ “ ชางมินมานี่หน่อยสิ มุนบินหนูเล่นกับอาชางมินไปก่อนนะลูก เดี๋ยวคุณพ่อพาคุณแม่เข้าไปในนี้แป๊บนึง ” ท้ายประโยคก้มลงพูดกับลูกชายพร้อมกับชี้เข้าไปในห้องตวจ
“ พี่อะไรฮะ ”
“ ฝากมุนบินหน่อยสิ เค้ากลัวหมอน่ะ”
“ อ่อ ได้ๆ ไม่มีปัญหา .....มุนบินไปเล่นข้างนอกกับอาดีกว่าเนอะ ” ร่างโปร่งรับปากทันทีพร้อมกับยื่นมือไปรับตัวหลานชายหากแต่ว่าเจ้าตัวเล็กยังคอยคอพ่อหมีไว้ไม่ยอมปล่อย
“ เล่นที่ไหน ” ถามด้วยความระแวงไม่ได้หรอกเผื่อคุณพ่อให้คุณอาชางมินมาหลอกพาหฯไปฉีดยาก็แย่น่ะสิ
“ สนามเด็กเล่นครับ เมื่อกี้ตอนอาเข้ามาเห็นมีของเล่นเยอะแยะเลยนะ ”
“ จริงๆเหรอ”
“ จริงสิครับ ไปกันเลยมั๊ย ”
“ ครับ ไปกันเล๊ย”
ในที่สุดแผนหลอกล่อลูกหมีก็สำเร็จชางมินอุ้มมุนบินเดินออกไปท่ามกลางเสียงเล็กๆที่ถามนู้นถามนี้ว่าสนามเด็กเล่นจะมีเพื่อนเยอะมั๊ย ของเล่นเยอะจริงๆเหรอ ยุนโฮมองตามทั้งสองจนลับสายตาก่อนจะโอบไหล่บางแล้วพาเดินเข้าไปในห้องตรวจ
“ คุณหมอครับ คือผมอยากทราบว่าภรรยาผมเป็นอะไรครับ ”
ยังไม่ทันที่คุณหมอจะได้ตรวจอะไรเลยด้วยซ้ำหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องตรวจทันทีที่นั่งลงยูชอนก็เอ่ยปากถามคุณหมอทันที คุณหมอที่กำลังนั่งอ่านแฟ้มประวัติคนไข้อยู่ก็ไม่รู้จะตอบยังไงเพราะยังไม่ได้ตรวจอย่างละเอียดเลย
“ เอ่อ...ใจเย็นๆครับขอหมอทราบอาการหน่อยนะครับ”
“ ขอโทษครับ พอดีผมใจร้อนไปหน่อย ” ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขินก็คนมันเป็นห่วงนี่นาก็เลยใจร้อนไปนิด
“ ไม่เป็นไรครับ ไม่ทราบว่านอกจากอาเจียนแล้วคุณจุนซูมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วยหรือเปล่าครับ ”
“ มีฮะ ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยง่ายแล้วก็หน้ามืดบ่อยๆด้วย ”
สองสามวันมานี้จุนซูรู้สึกว่าตัวเองมักจะอ่อนเพลียง่ายบางทีก็น่ามืดแต่ที่ไม่บอกยูชอนก็เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นอะไรมากบอกไปก็จะทำให้ร่างสูงเป็นห่วงซะเปล่า แต่จุนซูจะรู้หรือเปล่าว่ายิ่งทำแบบนี้มันยิ่งทำให้ยูชอนเป็นห่วงมากกว่าเดิม
“ นี่นายหน้ามืดด้วยเหรอ ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยล่ะ ”
“ ก็ฉันนึกว่าตัวเองนอนไม่พอก็เลยไม่ได้บอกคิดว่าเดี๋ยวก็คงหายเอง ” บอกเสียงเบา
“ แล้วถ้ามันเป็นหนักกว่าเดิมล่ะ ทีหลังถ้าไม่สบายต้องรีบบอกฉันเข้าใจไหม ” เสียงทุ้มดุ แต่ที่ดุก็เพราะเป็นห่วงถ้าเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะทำยังไง
“ เข้าใจแล้ว ”
“ดีมาก ” มือกร้านลูบหัวคนรักเบาๆ ว่าง่ายๆแบบนี้น่ะดีแล้ว แต่พอนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ร่างสูงก็รีบถามคุณหมอทันที“ เอ่อ คุณหมอครับคือผมสงสัยว่าจุนซูจะท้องนะครับ ”
“ พวกคุณอยากลองตรวจดูไหมล่ะครับ ” คุณหมอเอ่ยถามเพราะส่วนมากคนไข้ที่มาที่แผนกนี้ก็เพื่อต้องการตรวจให้แน่ใจกันทั้งนั้น
“ อยากครับ ”
คุณหมอยังพูดไม่จบประโยคดีด้วยซ้ำยูชอนก็ตอบแทบจะทันทีก็เขารอให้คุณหมอถามประโยคนี้ตั้งนานแล้วนี่นา อาการตื่นเต้นจนเกินไปของคุณสามีเรียกรอยยิ้มจากคนตัวเล็กที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้างๆ ที่ห้องของแจจุงยุนโฮก็คงจะมีอาการไม่ต่างจากยูชอนล่ะสินะ แต่ก็ไม่แน่บางที่ยุนโฮอาจจะเก็บอาการได้มากกว่ายูชอนก็ได้เพราะมีประสบการณ์มาก่อนแล้ว
เมื่อครั้งที่รู้ว่าแจจุงท้องมุนบินจุนซูยังจำได้ว่ายุนโฮโทรมาโวยวายกับยูชอนเสียงดังจนยูชอนนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า ตอนนั้นหลังจากโทรมาบอกว่ากำลังจะมีหลานให้พวกเขาทั้งคู่ยุนโฮยังเรียกให้พวกเขาไปหาภายในวันนั้นเพื่อเลี้ยงฉลอง แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้นก็ไม่ใช่ชองยุนโฮคนที่เขารู้จักน่ะสิ
คุณหมอยิ้มขันก่อนจะเรียกพยาบาลให้เข้ามาด้านใน “ งั้นเดี๋ยวเชิญคุณจุนซูตามพยาบาลไปด้านนู้นเลยนะครับ ”
พยาบาลสาวผายมือให้จุนซูเดินตามไปยังห้องตรวจพร้อมกับมอบอะไรบางอย่างให้กับร่างบาง จุนซูมองหน้าสามีก่อนจะลุกเดินตามพยาบาลออกไปเมื่อยูชอนส่งรอยยิ้มอ่อนโอนพร้อมกับลูบหัวทุยเบาๆเป็นการให้กำลังใจ
“ ฮะ ”
“ นานไหมครับกว่าจะรู้ผล ” ถามคุณหมอหากแต่ตาคมกลับมองตามแผ่นหลังบางที่เดินหายเข้าไปหลังผ้าม่าน
“ ไม่นานครับ เดี๋ยวหมอขอตัวก่อนนะครับ ” คุณหมอยิ้มใจดีก่อนจะขอตัวเพื่อไปตรวจ
ทั้งๆที่เพิ่งผ่านไปแค่สิบนาทีแต่ทำไมในความรู้สึกของยูชอนมันถึงได้นานนักนะ ตอนนี้ร่างสูงแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วเพราะมัวแต่ชะเง้อมองว่าเมื่อไหร่คุณหมอกับจุนซูจะออกมาชะเง้อจนตอนนี้คอจะยาวเป็นยีราฟอยู่แล้วลุ้นก็ลุ้นกลัวก็กลัว ลุ้นว่าจุนซูจะท้องหรือเปล่าแต่ก็แอบกลัวว่าถ้าหากไม่ได้เป็นอย่างที่คิดกันเอาไว้แล้วผลตรวจที่ออกมาปรากฏว่าร่างบางเป็นอะไรร้ายแรงแล้วเขาจะทำยังไง
ไม่นานจุนซูก็เดินออกมาร่างบางมีสีหน้าค่อนข้างที่จะเป็นกังวล มือหนายื่นไปกุมมือเล็กเอาไว้บีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ
“ ฉันตื่นเต้นจังเลยอ่ะยูชอน ”
“ ฉันก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ” ไม่ใช่แค่จุนซูคนเดียวหรอกที่ตื่นเต้นเขาเองก็ตื่นเต้นเช่นกันไม่ใช่ตื่นเต้นธรรมดาด้วยนะแต่เป็นตื่นเต้นมาก ไม่นานนักคุณหมอก็ถือแฟ้มเดินตามเข้ามา
“ ผลเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ ” คุณหมอยังไม่ทันได้นั่งถึงเก้าอี้ด้วยซ้ำยูชอนก็เอ่ยถามซะแล้ว
คุณหมอหนุ่มวางแฟ้มลงก่อนจะถอดแว่นสายตาวางลงบนโต๊ะ ริมฝีปากค่อยๆคลี่ยิ้มออกทีละนิดเล่นเอาคนที่รอฟังนั่งลุ้นจนตัวโก่ง“ ดีใจด้วยครับ ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์แล้วครับ ”
“ จะ จริงเหรอครับ ” ยูชอนดีใจจนแทบพูดไม่เป็นภาษาแล้วตอนนี้ ส่วนจุนซูก็ปล่อยโฮด้วยความดีใจซุกหน้าเข้าที่อกแกร่งเป็นที่เรียบร้อย
วินาทีนี้ยูชอนเข้าใจความรู้สึกของยุนโฮตอนที่รู้ว่าแจจุงท้องแล้วล่ะว่าเพื่อนรักรู้สึกอย่างไร ความรู้สึกแบบนี้มันไม่สามารถที่จะอธิบายออกมาได้ด้วยคำพูด มันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่จริงๆทั้งดีใจและตื้นตัน ต่อไปนี้คำว่าครอบครัวของพวกเขาก็จะสมบูรณ์แบบซะทีเมื่อมีเจ้าตัวเล็กเข้ามาเติมเต็ม
“ ครับ ขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณพ่อคุณแม่คนใหม่ด้วยนะครับ ”
“ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณคุณหมอมากครับ จุนซูเรากำลังจะมีเจ้าตัวเล็กแล้วนะ ดีใจมั๊ย ” ร่างสูงขอบคุณคุณหมอกอดจะก้มลงพูดกับร่างบางที่กำลังสะอื้นอยู่ในอ้อมกอด
“ ดี ใจ ฮึก ที่สุด นะ ในโลก ฮึกเลย ” ดีใจมากๆเลยล่ะที่รู้ว่าตอนนี้มีอีกหนึ่งชีวิตกำลังเติบโตอยู่ภายในตัวของเขา ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยดีใจอะไรมากมายเท่านี้มาก่อนเลย
“ แล้วผมต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ ” พอตั้งสติได้ว่าที่คุณพ่อคนใหม่ก็ถามเรื่องวิธีการดูแลคนท้องจากคุณหมอ ซึ่งจุนซูเองก็เช็ดน้ำตาแล้วก็ตั้งอกตั้งใจฟังด้วยเช่นกัน
“ ครับ ช่วงนี้ก็ต้องคอยระวังเรื่องความเครียดแล้วก็ภาวะทางจิตใจมากเป็นพิเศษเพราะความเครียดจะส่งผลต่ออาการแพ้ท้องถ้าหากว่าเครียดมากอาการแพ้ท้องก็จะรุนแรงมากกว่าปกติ แล้วเดี๋ยวหมอจะจัดยาบำรุงให้นะครับ ”
คุณหมออธิบายถึงเรื่องที่ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะคนท้องมักจะอ่อนเพลียและอารมณ์อ่อนไหวง่าย และความเครียดก็เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้มีอาการแพ้ท้องรุนแรง เพราะจากผลสำรวจแล้วคนมีความเครียดนั้นมักจะมีอาการแพ้ท้องรุนแรงกว่าคนที่มีภาวะจิตใจเข้มแข็งมีความมั่นคงทางด้านอารมณ์และจิตใจไม่อ่อนไหวง่าย
ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่กำลังช่วยกันจดจำข้อมูลที่คุณหมอให้มาอย่างละเอียดเพื่อที่จะได้สามารถช่วยกันดูแลได้ถูกวิธียิ่งยูชอนแล้วร่างสูงแทบจะจำทุกคำพูดของคุณหมอเลยด้วยซ้ำ
“ อ่อ แล้วในช่วงสามเดือนแรกคุณแม่จะมีน้ำหนักเพิ่มนะครับแล้วก็จะปัสสาวะบ่อยซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากการปรับตัวเพื่อให้ทารกเจริญเติบโตเพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจนะครับ อาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเมื่ออายุครรภ์เพิ่มขึ้นนอกจากนี้อาจจะมีอาการปวดหลังร่วมด้วยนะครับ ”
“ ขอบคุณครับ ”
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับเดี๋ยวหมอจะเขียนใบนัดให้นะครับ เชิญรอรับยาที่เคาน์เตอร์ได้เลยครับ ”
“ ขอบคุณมากครับ ”
“ ไม่เป็นไรครับ ต่อไปนี้เราคงได้เจอกันบ่อยๆขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคุณแม่คุณลูกนะครับ ”
ทั้งสองโค้งขอบคุณคุณหมอก่อนที่ยูชอนจะประคองจุนซูให้เดินออกไปรอยุนโฮกับแจจุงที่หน้าห้องตรวจ แต่ดูเหมือนว่าต่อมเห่อของร่างสูงจะเริ่มทำงานแล้วสิเพราะทันทีที่เดินออกมาจากห้องตรวจยูชอนก็เริ่มบ่นทันที
“ จุนซูเดินช้าๆสิ ”
“ ฉันก็เดินปกติของฉันแบบนี้นะ ”
“ แต่ตอนนี้นายไม่ปกติแล้วนะ นายกำลังท้องอยู่ทำอะไรต้องระวังเข้าใจมั๊ย ”
“ เข้าใจแล้วๆ ”
____________________________________________________________________________________________________
ครอบครัวไก่รู้ผลแล้ว แล้วครอบครัวหมีจะเป็นยังไงบ้างน๊า
ใครที่คิดถึงซองอุงตอนหน้าได้เจอแน่นอนค่ะ
ต่อไปนี้คงจะได้อัพบ่อยขึ้นเพราะไรเตอร์สอบเสร็จแล้ว^^
ป.ล.คุณ jjjj ค่ะ ไรเตอร์ติดต่อคุณไปแล้วน๊าแต่ว่าเมลล์มันตีกลับอ่ะ
ส่งไปสามครั้งตีกลับทุกครั้งเลยอ่า
ความคิดเห็น