ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #33 : Special YunJae #3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.68K
      7
      16 ต.ค. 53

      

           เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาเรียกให้ร่างบางที่กำลังยืนเช็ดผมอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำให้หันไปมอง   ก่อนจะทำหน้างงเมื่อรูมเมทของตนเองยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูมาให้พร้อมกับใบหน้ามุ่ยๆของคนที่โดนรบกวนเวลานอน

           ฉันได้ยินมันดังหลายรอบแล้วก็เลยเอามาให้นายน่ะ ชายร่างสูงที่ชื่อว่าท็อปบอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูให้กับเจ้าของ

           ตอนแรกก็ว่าจะทำเป็นไม่ได้ยินแต่เพราะมันดังบ่อยซะจนทำให้เขาไม่สามารถนอนต่อได้ร่างสูงเลยต้องรีบเอามาให้เจ้าของเพราะคิดว่าบางทีคนโทรมาอาจจะมีธุระสำคัญ   แต่ในใจก็นึกด่าคนที่โทรมาไปเยอะพอสมควรที่ทำให้เวลานอนของเขาถูกรบกวน

           ขอบใจนะ ร่างบางส่งยิ้มขอบคุณให้กับเพื่อนชาติเดียวกันเพราะท็อปเองก็เป็นนักเรียนทุนเช่นเดียวกับแจจุง

           ไม่เป็นไรอ่ะ  ฉันไปนอนต่อล่ะน่ะ ร่างโปร่งยักไหล่เบาๆก่อนจะขอตัวกลับไปนอนต่อ

           แจจุงมองดูโทรศัพท์สีดำในมือที่ตอนนี้เงียบเสียงลงแล้ว  ร่างบางตั้งใจว่าจะแต่งตัวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยโทรกลับแต่ยังไม่ทันที่จะได้วางเก็บไว้มือถือเครื่องหรูก็ส่งเสียงขึ้นมาซะก่อนนิ้วเรียวจึงต้องกดรับสายอย่างช่วยไม่ได้

           ฮัลโหล เสียงหวานกรอกลงไปตามสาย

           แจจุงทำอะไรอยู่ครับทำไมไม่รับโทรศัพท์ เสียงทุ้มที่ติดจะตัดพ้ออยู่สักหน่อยเอ่ยถาม  กว่าจะรับได้เล่นเอาเขากดเบอร์นิ้วแทบหักเลยนะคนสวย

           ยุนโฮเหรอ เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ

           แต่พอนึกขึ้นได้ร่างบางก็แทบอยากจะเอามือตบปากตัวเองที่เอ่ยถามอะไรสิ้นคิดแบบนั้นออกไป   ก็ต้องเป็นยุนโฮสิเพราะมีแค่ยุนโฮคนเดียวนี่นาที่รู้ว่าโทรศัพท์เครื่องนี้อยู่กับเขา

           ครับ  ผมเองแจจุงคิดว่าใครเหรอ

           เปล่า  ยุนโฮโทรมามีอะไรหรือเปล่า คุยไปก็หยิบชุดนอนขึ้นมาใส่ไปถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นัก

           ผมจะโทรมาบอกว่านี่เบอร์ห้องผมนะ  พรุ่งนี้เวลาแจจุงจะโทรมาปลุกผมก็ให้โทรเข้าเบอร์   นี้

           อ่อ เข้าใจแล้ว ร่างบางตอบพร้อมกับพยักหน้าไปด้วยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนก่อนกลับยุนโฮบอกว่าจะโทรมาบอกเบอร์ห้องนี่นา

           แล้วแจจุงทำอะไรอยู่เหรอครับทำไมรับโทรศัพท์ช้าจัง เพราะอีกคนเงียบยุนโฮก็เลยต้องเป็นฝ่ายชวนคุย ซึ่งเรื่องนี้มันก็ไม่ได้หนักหนาเลยสำหรับยุนโฮ

           แจจุงจัดการปิดตู้เสื้อผ้าให้เรียบร้อยหลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้ว   ตอนแรกกก็คิดว่าจะเดินไปที่เตียงแต่ก็คิดได้ว่าเพื่อนร่วมห้องหลับไปแล้วร่างบางจึงเปลี่ยนใจเดินออกไปที่ระเบียงแทนเพราะเกรงใจกลัวว่าเสียงของตัวเองจะทำให้เพื่อนรำคาญ

           เราพึ่งอาบน้ำเสร็จน่ะ   สายลมเย็นๆในยามค่ำคืนนั้นสามารถทำให้แจจุงผ่อนคลายได้มากทีเดียว  ร่างบางสูดเอาอากาศบริสุทธิ์ในยามราตรีเข้าไปเต็มปอด

           เหรอครับ  แต่ผมยังไม่ได้อาบเลยอ่ะ

           คิ้วเรียวขมวดน้อยๆ อย่าบอกนะว่ายุนโฮพึ่งถึงห้องนี่มันจะเที่ยงคืนแล้วนะ ทำไมล่ะ  อย่าบอกนะว่าคุณพึ่งถึงห้อง

           เปล่าครับ  ผมถึงนานแล้วแต่ว่าขี้เกียจอาบ  

           อันที่จริงยุนโฮอยากจะบอกว่าที่เขายังไม่อาบน้ำก็เพราะพอมาถึงก็โทรหาร่างบางทันทีเลยแต่เพราะเจ้าตัวไม่ยอมรับสายซะทีก็เลยนั่งกดจนนิ้วแทบหักอย่าว่าแต่อาบน้ำเลยถุงเท้าเขาก็ยังไม่ได้ถอนด้วยซ้ำ

           งั้นเราว่าคุณไปอาบน้ำเถอะ วันนี้อยู่ข้างนอกทั้งวันคุณไม่เหนียวตัวเหรอ แจจุงบอกออกไปตามที่คิดสาบานได้ว่าไม่ได้ตั้งใจจะไล่ยุนโฮแต่เพราะเห็นว่านี่มันก็ดึกมากแล้วก็แค่นั้นเอง

           แต่ดูเหมือนว่ายุนโฮจะไม่ได้เข้าใจเหมือนอย่างที่แจจุงคิดหรือว่าเข้าใจแต่แต่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจก็ไม่รู้  เพราะเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมานั้นราวกับว่าน้อยใจจนร่างบางต้องรีบปฏิเสธไม่ให้เข้าใจผิดไปมากกว่านี้

           แจจุงไม่อยากคุยกับผมเหรอครับ

           ปะเปล่านะ  เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เสียงหวานรีบแก้ตัวเป็นพัลวัล  ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงได้กลัวยุนโฮเข้าใจผิด

           แล้วแจจุงหมายความว่าแบบไหนล่ะครับ เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงซึมๆ

           แต่น่าเสียดายที่แจจุงไม่สามารถมองเห็นหน้าของเจ้าของน้ำเสียงซึมๆนั่น   เพราะหน้าตากับเสียงช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงใบหน้าหล่อกำลังยกยิ้มมีความสุขมือหนาข้างที่ว่างก็หมุนแก้วน้ำเล่นไปมา   อยากรู้จริงๆเลยว่าแจจุงจะแก้ตัวว่าอย่างไร

           เอ่อ..คือ เราหมายความว่านี่มันก็ดึกมากแล้วคุณควรจะรีบไปอาบน้ำแล้วก็พักผ่อนได้แล้ว  พรุ่งนี้เรามีเรียนเช้านะ

           เหรอครับ ถามออกไปเรียบๆ

           อืม...แต่ถ้าคุณยังไม่อยากอาบตอนนี้ก็ได้นะ เราไม่ได้บังคับ บอกเสียงเบาทำไมแจจุงถึงได้รู้สึกว่าเหมือนยุนโฮกำลังโกรธที่เขาวุ่นวายมากเกินไป

           ตอนแรกผมก็คิดว่าจะคุยกับแจจุงก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำแต่ถ้าแจจุงไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ  แค่นี้นะครับ

           ปะ เปล่า เราคุยได้ ยุนโฮยิ้มกว้างทันทีที่ได้ยินเสียงหวานปฏิเสธกลับมาก่อนจะปรับน้ำเสียงให้ดูน่าสงสารเหมือนเดิม

           ไม่เป็นไรครับ  ผมเข้าใจ

           ปลายสายเงียบไปสักพักจนยุนโฮคิดว่าแจจุงไม่ได้อยู่ในสายแล้ว   มือหนาขยี้ผมตัวเองแรงๆเมื่อคิดได้ว่าหรือว่าเขาจะแกล้งแจจุงแรงเกินไป   ถ้าเกิดว่าแจจุงไม่พอใจแล้วไม่คุยกับเขาตลอดไปแล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะ    ชองยุนโฮนะชองยุนโฮทำอะไรไม่คิดอีกแล้ว   แต่เสียงหวานที่ดังขึ้นอีกครั้งกลับทำให้คนที่กำลังนึกโทษตัวเองอยู่ยิ้มหน้าบานอีกครั้ง

           คุณโกรธเราเหรอ?

           แจจุงว่ายังไงนะครับ

           คุณโกรธที่เราบอกให้คุณไปอาบน้ำเหรอ  เราไม่ได้ตั้งใจไล่คุณนะเราแค่คิดว่าคุณคงจะเหนื่อยแค่นั้นเองแต่ถ้ามันทำให้คุณไม่พอใจเราก็ขอโทษนะ

           นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าที่ยุนโฮได้ยินประโยคยาวๆแบบนี้ออกมาจากปากของแจจุง    และที่ร่างบางเงียบไปนั้นก็เพราะรู้สึกผิดและกำลังคิดว่าจะอธิบายให้ยุนโฮเข้าใจได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้หมายความอย่างที่ยุนโฮคิด

           โดยพื้นฐานนิสัยที่แท้จริงของแจจุงแล้วนั้นร่างบางไม่ได้เป็นคนเย็นชาอย่างที่หลายคนเข้าใจ   แต่ตรงกันข้ามร่างบางกลับเป็นคนที่เกรงใจและมักจะห่วงใยผู้อื่นอยู่เสมอและในบางครั้งก็มีมุมอ่อนโยนที่น้อยคนนักจะได้เห็นเพราะแจจุงไม่ค่อยแสดงมันออกมาเท่าไหร่  และเพราะเรื่องราวต่างๆที่เข้ามาในชีวิตมันเลยค่อยๆเปลี่ยนคิมแจจุงคนเดิมให้กลายมาเป็นคนเย็นชาเพื่อที่จะเป็นเกาะป้องกันตัวเองจากสิ่งอันตรายรอบตัว

           แต่ใครจะรู้บ้างว่าภายใต้หน้ากากเย็นชาที่ร่างบางสวมอยู่นั้นจะซ่อนความอ่อนแอเอาไว้มากมาย  ภายในใจลึกๆแล้วคิมแจจุงคนนี้ก็ต้องการใครสักคนที่สามารถปกป้องเขาได้และพาเขาออกไปจากโลกของความอ้างว้างนี่สักที

           ผมทำให้แจจุงคิดแบบนั้นเหรอครับ คิ้วหนาเลิกขึ้นในขณะที่ถาม  

           ก็เสียงของคุณมันบอกว่าคุณรู้สึกอย่างนั้น  หลังจากที่วันนี้เกือบทั้งวันที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับยุนโฮนั้นร่างบางก็พอจะสังเกตได้ว่าปกติน้ำเสียงของยุนโฮไม่ได้เรียบเฉยขนาดนี้  ถ้าคุณอยากคุยเดี๋ยวเราคุยเป็นเพื่อนก็ได้นะ

           ไม่ดีกว่าครับ  ดึกแล้วแจจุงไปนอนเถอะ ปากหยักระบายยิ้มอ่อนๆ   ตกลงคุณเป็นคนยังไงกันแน่นะคิมแจจุงคุณดูเย็นชาแต่ก็ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่น ผมชักอยากจะรู้จักคุณให้มากขึ้นแล้วสิ

           ไม่เป็นไรเราคุยได้จริงๆ

           แต่ผมคุยไม่ได้แล้วครับ

           ทำไมล่ะ

           ร่างบางหน้าเสียเพราะคิดว่ายุนโฮคงจะโกรธจริงๆ   ว่าแต่ทำไมเขาต้องรู้สึกไม่ดีด้วยล่ะหรืออาจจะเป็นเพราะวันนี้ยุนโฮช่วยเขาในหลายๆเรื่องเลยทำให้เขารู้สึกผิด

           เพราะผมต้องรีบไปอาบน้ำไงครับ  แจจุงก็รีบเข้านอนได้แล้วนะพรุ่งนี้จะได้โทรมาปลุกผมไง และดูเหมือนยุนโฮจะเดาใจแจจุงออก  ชายหนุ่มเลิกแกล้งร่างบางด้วยการปรับโทนเสียงให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งก่อนจะบอกเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยู่คุยด้วยไม่ได้

           ร่างบางพยักหน้าเข้าใจ  รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่น้ำเสียงเดิมของยุนโฮกลับมาแล้ว อืม...พรุ่งนี้เราจะโทรปลุกตอนเจ็ดโมงนะเช้าไปไหม ร่างบางเอ่ยถามพร้อมกับเดินกลับเข้ามาในห้องเพราะด้านนอกลมเริ่มแรงแล้ว

           เจ็ดโมงเลยเหรอครับ  เจ็ดโมงครึ่งไม่ได้เหรอ ร่างสูงต่อรอง  โหย  เจ็ดโมงเช้าเลยเหรอมันเช้าไปไหมอ่ะเรามีเรียนตอนเก้าโมงไม่ใช่เหรอ  ขอผมนอนต่ออีกครึ่งชั่วโมงนะ

           ร่างบางคำนวนเวลาในใจก่อนจะยอมตกลง เจ็ดโมงครึ่ง?......โอเคเจ็ดโมงครึ่งก็ได้

           ขอบคุณครับ....แจจุงไปนอนเถอะ ฝันดีนะครับ

           อืม...

           อะไรอ่ะแค่อืมเหรอ  แจจุงจะไม่บอกฝันดีผมกลับหน่อยเหรอครับ  เสียงทุ้มโวยวายมาตามสายอะไรอ่ะเขาบอกฝันดีแจจุงก็ต้องบอกเขากลับสิ

           ร่างบางอึกอักไม่รู้ว่าจะควรพูดดีหรือเปล่าแต่มันก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นาแค่บอกฝันดี เอ่อ...ฝันดีนะ

           ยุนโฮแทบจะกระโดดตัวลอยที่ร่างบางยอมทำตามคำขอก่อนจะตัดใจวางสายไปจริงๆถึงแม้จะอยากคุยด้วยมากแค่ไหนก็ตามเพราะนี่ก็ดึกมากแล้วไม่อยากให้แจจุงนอนดึกเดี๋ยวไม่สวย

           แจจุงวางโทรศัพท์ไว้บนหัวเตียงก่อนจะเอื้อมมือไปปิดโครมไฟแต่ตากลมก็เหลือบไปเห็นเพื่อนร่วมห้องที่ตอนนี้นอนขดจนตัวงอเพราะเจ้าตัวนอนดิ้นจนผ้าห่มลงไปกองอยู่ข้างเตียง  ร่างบางส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้คนที่นอนหนาวอยู่แล้วเดินกลับมาที่เตียงของตัวเอง

           แต่ยังไม่ทันที่จะได้ล้มตัวลงนอนเลยด้วยซ้ำเสียงโทรศัพท์เครื่องเดิมก็ดังขึ้นอีกครั้ง  นิ้วเรียวกดรับโดยไม่ได้ดูที่หน้าจอว่าชื่อคนโทรเข้าเป็นใครเพราะคิดว่าคงจะเป็นยุนโฮ

           ว่าไงฮะยุนโฮ

           ปลายสายนิ่งไปสักครู่เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยก่อนจะดึงโทรศัพท์ออกมาดูว่าตัวเองไม่ได้โทรผิดเอ่อ...ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าใช่เบอร์ของยุนโฮหรือเปล่าครับ

           แจจุงเองก็ชะงักไปเหมือนกันก่อนจะพบว่าชื่อของคนที่โทรเข้ามานั้นคือยูชอน อ่อ...ใช่ฮะ

           แล้วทำไมคุณ.......... คิ้วหนาขมวดมุ่นถ้าใช่โทรศัพท์ของเพื่อนรักเขาแล้วทำไมถึงเป็นเสียงของคนอื่นล่ะหรือว่าจะเป็นเพื่อนใหม่ของไอ้หมี

           พอดียุนโฮฝากโทรศัพท์ไว้กับผมน่ะฮะ  ถ้าคุณจะติดต่อคุณยุนโฮต้องโทรเข้าเบอร์ห้องนะฮะ ร่างบางรีบบอกก่อนที่อีกคนจะสงสัยไปมากกว่านี้พร้อมทั้งบอกช่องทางที่สามารถติดต่อยุนโฮได้เพราะคิดว่าอีกคนคงจะมีธุระสำคัญ

           อ่อ  เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ ยูชอนตอบรับถึงแม้จะยังคาใจว่าทำไมโทรศัพท์ของยุนโฮถึงได้ไปอยู่กับคนอื่น   แล้วยุนโฮสนิทกับคนคนนี้ถึงขนาดไว้ใจฝากโทรศัพท์ไว้ด้วยเชียวหรือ โอ๊ย ทำไมตอนนี้ในหัวของปาร์คถึงเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามล่ะเนี่ย   ชองยุนโฮแกอยูไหนรีบมาไขข้อข้องใจให้ชายปาร์คด่วนๆเลย


                                                  ...................................................

     

     

     

           ร่างสูงที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงพลิกตัวไปมาเพื่อพยายามหนีให้ห่างจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังลั่น  แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลมือหนาคว้าหมอนอีกใบมาปิดหูทั้งสองข้าง  แต่เพราะมันยังดังอย่างต่อเนื่องก็เลยต้องฝืนสังขารตะเกียกตะกายไปคว้าโทรศัพท์เจ้าปัญหาก่อนจะดึงสายโทรศัพท์ออกแล้วนอนต่อ

           แต่เหมือนว่าจะมีอะไรดลใจให้นึกขึ้นมาได้ตาเรียวเบิกโพรงพร้อมกับเจ้าตัวที่ดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันทีไม่มีอาการงัวเงียเหมือนเมื่อสักครู่เลยสักนิดก่อนจะหันไปมองนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงเจ็ดโมงสี่สิบห้า ! เสียงทุ้มอุทานออกมาด้วยความตกใจ   เอาแล้วไงชองยุนโฮแจจุงบอกจะโทรมาปลุกตอนเจ็ดโมงครึ่งนี่หว่าและไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ยากว่าเมื่อกี๊ใครโทรมาต้องเป็นแจ       จุงแน่นอน

           คิดได้แค่นั้นก็รีบคว้าสายโทรศัพท์ขึ้นมาเสียบแล้วกดโทรออกไปยังเบอร์ที่คุ้นเคยทันทีพร้อมกับเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำตายๆๆสายแบบนี้แล้วจะไปรับแจจุงทันไหมเนี่ย  ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ

           ฮัลโหล เสียงหวานที่ดังมาตามสายเรียกรอยยิ้มต้อนรับยามเช้าจากปากหยักได้ไม่ยาก

           เมื่อกี้แจจุงโทรมาใช่ไหมครับ ถามไปก็ถอดเสื้อผ้าไป  ยุนโฮเอียงคอเพื่อใช้หน้าหนีบโทรศัพท์เอาไว้ ส่วนมือก็ถอดกางเกงไปด้วย

           อืม ...แต่อยู่ดีๆก็เงียบไปคุณตื่นหรือยัง

           หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วแจจุงก็โทรไปปลุกยุนโฮทันทีแต่โทรไปตั้งหลายครั้งก็ไม่มีวี่แววว่าอีกคนจะรับ  แต่พอจะโทรไปอีกครั้งก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้วซึ่งแจจุงเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน

           ครับ  เพิ่งตื่นเมื่อกี้เอง  ขอโทษทีนะครับที่ไม่ได้รับ คงจะเป็นเพราะติดนิสัยที่ไม่ชอบให้ใครมารบกวนเวลานอนก็เลยทำให้ร่างกายมันมีปฏิกิริยาอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์   เพราะทุกครั้งที่มีคนโทรมาเวลาที่กำลังพักผ่อนอยู่ร่างสูงก็จะจัดการดึงสายโทรศัพท์ทิ้งทันที ดีนะที่ยังนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้แจจุงจะโทรมาปลุก

           ไม่เป็นไร   งั้นคุณไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวสาย

           แล้วนี่แจจุงแต่งตัวเสร็จหรือยังครับ เอ่ยถามไปในใจก็ภาวนาขอให้แจจุงยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวเขาจะได้ยังพอมีเวลาเหลือที่จะไปรับแจจุงทัน

           เรียบร้อยแล้วเรากำลังจะออกไปมหาวิทยาลัยแล้ว ร่างบางบอกพร้อมกับสะกิดร่างสูงอีกคนที่ยังนอนคลุมโปรงอยู่บนเตียง ท็อป  ตื่นได้แล้ว

           อืม...วันนี้ฉันมีเรียนบ่ายขอนอนต่ออีกสักนิดนะ สูงอู้อี้ตอบกลับมาเพราะอยู่ในผ้าห่มก่อนที่ก้อนกลมๆบนที่นอนจะขยับยุกยิกเพราะคนที่อยู่ด้านล่างพลิกตัว

           ไหนบอกว่าวันนี้จะไปเดินดูตึกไง

           อืม....เดี๋ยวค่อยไป

           แจจุงส่ายหน้าให้กับความขี้เซาของรูมเมทก่อนจะเดินไปเช็คกระเป๋าสะพายของตนเองที่วางอยู่บนเตียงว่าไม่ได้ลืมอะไร

           แต่อีกคนที่อยู่ในสายนี่สิกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดสุดๆเพราะกำลังสงสัยว่าเมื่อกี้แจจุงคุยกับใคร  นี่แจจุงต้องปลุกคนอื่นนอกจากเขาด้วยเหรอแถมปลุกถึงเตียงด้วย  โอ๊ย ชองยุนโฮอิจฉาอยากให้แจ   จุงมาปลุกถึงเตียงบ้างอ่ะ

           เมื่อกี๊แจจุงคุยกับใครเหรอครับ ถึงแม้จะรู้ว่าถามออกไปแบบนั้นมันเสียมารยาทแต่ยุนโฮก็จะถามก็คนมันอยากรู้นี่นา

           อ่อ  ท็อปน่ะเขาเป็นรูมเมทเรา ร่างบางบอกตามจริง

          แต่คนที่ได้ฟังนั้นกำลังกรีดร้องในใจด้วยความอิจฉา  อ๊าก  เป็นรูมเมทก็ต้องได้นอนห้องเดียวกันกับแจจุงน่ะสิอิจฉาๆยุนโฮอยากนอนห้องเดียวกันกับแจจุงบ้างอะไรบ้างย้ายเข้าไปอยู่หอในตอนนี้ทันไหมครับท่านผู้ชม

           เหรอครับ.... เสียงทุ้มเอ่ยเรียบๆถึงแม้ว่าตอนนี้จะหน้าบึ้งนิดๆด้วยความอิจฉาก็เถอะ

           อืม...ยุนโฮถามทำไมเหรอ

            เปล่าครับผมแค่สงสัยเฉยๆนึกว่าแจจุงนอนคนเดียวซะอีก

           อ่อ

           เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนนะจุงอย่าพึ่งออกจากหอนะครับ   ตาเรียวหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้มันใกล้จะแปดโมงแล้วร่างสูงจำใจต้องวางสายเพราะถ้าขืนคุยนานกว่านี้มีหวังแจจุงไปเรียนก่อนแน่เลย

           ทำไมเหรอ คิ้วเรียวเลิกขึ้นขณะถาม ด้วยความไม่เข้าใจ

           เดี๋ยวผมจะไปรับแจจุงไงครับ

           ไม่เป็นไรเราไปเองได้ ยุนโฮรีบไปอาบเถอะเดี๋ยวสายนะ  ตากลมก้มมองดูเวลาที่ข้อมือก่อนจะปฏิเสธออกไป

           คงไม่ทันแล้วล่ะเพราะกว่ายุนโฮจะมาถึงก็คงจะใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วและอีกอย่างแจจุงก็เกรงใจยุนโฮด้วยเพราะหอพักของยุนโฮกับของแจจุงนั้นอยู่คนละทิศละทางเลย

           แต่ว่า...

           เอาเป็นว่าเจอกันที่ห้องเลยนะ ร่างบางรีบสรุปเมื่ออีกคนกำลังจะแย้ง

           ได้ยินอย่างนั้นร่างสูงก็ไม่กล้าเอ่ยปากแย้งเพราะเกรงว่าถ้าหากเอาแต่ใจเกินไปมันอาจจะทำให้ร่างบางรำคาญ

           โอเคครับ งั้นเจอกันที่มหาวิทยาลัยนะ

           อืม ร่างบางตอบรับในลำคอขณะกำลังปิดประตูห้องแต่ก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้เสียงหวานเอ่ยเรียกก่อนที่อีกคนจะวางสายไป จริงสิยุนโฮ

           ครับ จากที่กำลังเซ็งเพราะคนสวยไม่ยอมให้ไปรับก็กลับยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีเพราะคิดว่าร่างบางยอมเปลี่ยนใจ แจจุงเปลี่ยนใจให้ผมไปรับแล้วเหรอ

           เปล่า  เราจะบอกว่าเมื่อคืนคนชื่อยูชอนโทรมาน่ะ

           ร่างสูงคอตกทันทีที่รู้ว่าที่จริงแล้วร่างบางจะบอกอะไร  โธ่ แจจุงผมก็หลงดีใจนึกว่าแจจุงจะเปลี่ยนใจแล้วซะอีกที่แท้ก็เรื่องไอ้ปาร์คนี่เอง

           ครับ  เมื่อคืนมันโทรหาผมแล้ว บอกด้วยน้ำเสียงเซ็งๆก่อนปากหน้าจะยกยิ้มขึ้นมานิดหน่อยเมื่อนึกถึงเพื่อนรัก

           เมื่อคืนยูชอนโทรมาหาเขาตอนดึกๆพอรับสายยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลยคุณชายปาร์คก็รัวคำถามใส่เป็นชุดว่าแจจุงเป็นใคร  ทำไมโทรศัพท์เขาถึงไปอยู่กับแจจุงได้แต่พอเจอคำตอบที่ยุนโฮสวนกลับไปเพียงประโยคเดียวเท่านั้นแหละยูชอนถึงกับเงียบเสียงเลยทีเดียว ก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา

             แจจุงก็ว่าที่แฟนฉันไง

           แกชอบผู้ชายเหรอ?

           อืม...แต่เป็นผู้ชายที่สวยยิ่งกว่าผู้หญิง แกรับได้ใช่ไหมปาร์ค

           ยูชอนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกรอบเมื่อได้ยินคำถามที่เต็มไปด้วยน้ำเสียงกังวลของเพื่อนรัก  เป็นเพื่อนกันมากี่ปีทำไมเรื่องแค่นี้เขาจะรับไม่ได้แล้วอีกอย่างเขาก็กำลังตกอยู่ในอาการเดียวกับยุนโฮเหมือนกัน

           ทำไมจะรับไม่ได้วะ  ตอนนี้ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับแกหรอชองเพื่อนรัก


    __________________________________________


      
    ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า  อร๊าย ย ย วันนี้เพ้อร้องเพลงช้างทั้งวันเลย  ไม่ไหว

    แล้วกับผู้ชายคนนี้คิมแจจุงจะน่ารักไปไหนค่ะ  ยิ้มแต่ละทีแทบจะลงไปนอนกองกับพื้น  อันตรายจริงๆ

    ค่ะรอยยิ้มของคิมแจจุง  อันที่จริงก็อันตรายหมดทุกคนแหละค่ะรอยยิ้มแต่ละคนแทบฆ่ากันตายได้

    เลย  แต่ก็ชอบนะเวลาเห็นพี่ๆยิ้มดีกว่าเวลาพี่เศร้าเป็นไหนๆ


       
        เมื่อวานเป็นอะไรที่ประทับใจมากค่ะสามหนุ่มเยี่ยมแคสเองก็เยี่ยมเช่นกัน  ทะเลเพลิงยังคงงด

    งามเสมอ  โปรเจ็คสวยมากๆค่ะดีใจที่ตัวเองได้เป็นส่วหนึ่งในนั้น  ตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นพี่ชายทั้ง

    สามคนบนเวที  น้ำตาไหลค่ะกว่าหนึ่งปีที่ไม่ได้เจอกันมันคิดถึงมากจริงๆ น้ำตาไหลตั้งแต่เพลงแรก

    จนถึงเพลงสุดท้าย  แต่ไม่ได้ถึงขนาดกับสะอึกสะอื้นพยายามมองและเก็บรายละเอียดให้ได้เยอะที่

    สุดไม่ได้ถ่ายรูปไม่ได้อะไรแต่ใช้ความรู้สึกเก็บภาพความประทับใจเหล่านั้นเอาไว้(อีกอย่างกลัวพี่

    การ์ดด้วยT_T) 

          สนุกมากจริงๆค่ะ แต่ในความสนุกนั้นมันก็มีภาพของอีกสองคนเข้ามาในสมอง  แล้วก็รู้สึกว่าเมื่อ

    วานจะมีการโบ้ยให้อีกคนตอบคำถามบ่อยมาก  มันก็เลยอดที่จะคิดไม่ได้ว่าถ้ายุนโฮอยู่ด้วยก็คงจะดี

    เพราะยุนโฮคงจะเป็นคนตอบคำถามเองหรือไม่ก็จะเป็นคนปูทางเอาไว้แล้วให้น้องๆช่วยเสริม  ถ้ามี

    ชางมินอยู่ด้วยก็คงจะดีเวทีมันคงจะไม่กว้างขนาดนี้  เพราะถ้าเป็นแบบนั้นการแสดงในวันนี้บนเวทีคง

    จะยอดเยี่ยมมากๆ  ไม่ใช่ว่าพี่ทั้งสามคนทำได้ไม่ดีนะค่ะพี่ทั้งสามทำได้ดีมากๆแต่ไรเตอร์รู้สึกว่าการ

    แสดงของทงบังชินกิจะยอดเยี่ยมที่สุดเมื่อบนเวทีนั้นมีอยู่ห้าคน


          เมื่อวานได้ความรู้สึกหลากหลายจริงๆค่ะ ยิ่งตอนงานเลิกคำถามแรกเลยที่ผุดขึ้นมาในหัว " เรา

    จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ "  แต่ไรเตอร์เชื่อว่ามันต้องมีสักวันที่เราจะได้เจอกันอีกเพราะแจจุงสัญญา

    แล้วนี่นาว่าจะกลับมาร้องเพลงช้างจนจบเพลงให้พวกเราฟัง  แล้วจะรอวันนั้นนะค่ะ


           สุดท้ายมีสามอย่างที่อยากจะบอก


           ดีใจ  ที่หลังจากรอคอยมากว่าหนึ่งปีเราก็ได้เจอกันอีกครั้ง  ถึงมันจะเป็นการรอคอยที่นานไป

    หน่อยแต่ก็เป็นการรอคอยที่คุ้มค่า

          เสียใจ  ที่เราได้เจอกันมันน้อยเกินไป  ใครจะว่าโลภก็ได้แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีเวลาที่เราได้

    ใช้ร่วมกันกับพี่ๆนานกว่านี้อีกหน่อย

         เสียดาย  ที่บนเวทีวันนั้นไม่มี ชอง ยุนโฮและชิมชางมิน ยืนอยู่บนนั้นด้วยบอกตามตรงมันไม่คุ้น

    ตาเอาเสียเลยที่เห็นบนเวทีมีแค่สามคน 

          แต่ไม่ว่าอย่างไรก็จะสนับสนุนพี่ๆตลอดไปไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรเพราะในความ

    ทรงจำของผู้หญิงคนนี้  ชองยุนโฮ คิมแจจุง  ปาร์คยูชอน  คิมจุนซู  ชิมชางมิน ก็คือสมาชิกของวง

    ทงบังชินกิตลอดไป



       
    ป.ล.1 ขอบ่นนิดๆ เมื่อวานป้ายุ่นเยอะมาก ก ก ก 

         ไรเตอร์นั่งบัตร4500 ซึ่งรายล้อมไปด้วยป้ายุ่นทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าด้านข้างด้านหลังมี

    หมดสงสัยว่าจะมีแค่มีไรเตอร์กับพี่ชายแล้วก็น้องผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งข้างไรเตอร์เป็นคนไทยหรือถ้า

    จะมีก็น่าจะถัดไปเยอะพอสมควรถึงจะเจอคนไทยด้วยกัน  ป้ายุ่นแกเยอะจนขนาดที่ว่าพี่ชายไรเตอร์

    บอกว่า " ถ้าเมื่อเช้าไม่เห็นหน้าแม่คงคิดว่าตัวเองยังไม่กลับจากยุ่น  "



    ป.ล. 2 เมื่อวานได้น้องสาวกลับมาด้วย อิอิ


          เป็นน้องที่นั่งข้างๆกันน้องเขามาคนเดียวและเป็นการเจอพี่ๆครั้งแรกไม่รู้จักใครเลย  น้องเขาน้อง

    ไห้หนักมากๆไรเตอร์ไรเตอร์ก็เลยกอดปลอบ  น้องเขาบอกว่าน้องเขาพึ่งเคยเจอพี่ๆตัวเป็นๆครั้งแรก

    ความรู้สึกเดียวกันเลยอ่ะตอนที่เจอเทพครั้งแรกไรเตอร์ก็งี้แหละ  555


          พอแล้วดีกว่าเพราะรู้สึกว่ามันจะเยอะเกินไปแล้วเดี๋ยวมันจะเยอะกว่าเนื้อหา  สำหรับคนที่ไม่ได้ไป

    เอาไว้โอกาสหน้าเราไปสนุกด้วยกันนะค่ะ ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×