คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : ~ Happy Family ~ 31
ภาพที่ยูชอนกำลังเดินตามหลังจุนซูที่เดินหน้ามุ่ยเข้ามาในโรงพยาบาลต้อยๆ ทำให้แจจุงอดที่จะระบายยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเห็นว่าทุกครั้งที่ยูชอนจะเข้าไปช่วยประคองว่าที่คุณแต่คนใหม่แต่ก็มักจะโดนคนที่ตัวเล็กกว่าสะบัดหนีทุกทีพร้อมกับส่งสายตาข่มขู่บอกให้ยูชอนไปเดินห่างๆ
แล้วทำไมแจจุงถึงยิ้มน่ะเหรอมันก็เพราะว่าอารมณ์แบบนี้แจจุงก็เคยเป็นมาก่อนน่ะสิตอนเขาท้องมุนบินยุนโฮก็ทำแบบยูชอนนี่แหละเผลอๆอาจจะมากกว่าซะด้วยซ้ำ ทั้งๆที่รู้ว่าที่ประคบประหงมแบบนี้ก็เพราะว่าคุณสามีน่ะเป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุก็เลยอยากช่วยประคอง ซึ่งแจจุงเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกเพราะถ้าไม่รักไม่ห่วงก็คงไม่อยากดูแลขนาดนี้แต่ดูเหมือนสิ่งที่ยุนโฮกับยูชอนกำลังทำอยู่ตอนนี้มันออกจะมากไปสักหน่อยพวกเขาแค่ท้องไม่ได้เป็นง่อยซะหน่อยถึงจะได้ต้องอยู่เฉยๆ บางทีอาการเป็นห่วงเป็นใยที่มากเกินไปมันก็สร้างความรำคาญเล็กๆได้เหมือนกันนะ
“ มานานแล้วเหรอแจจุง ” เสียงใสทักทายเมื่อเดินเข้ามาใกล้ทั้งที่ใบหน้าน่ารักยังมุ่ยอยู่นิดๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆแจจุง
แต่ดูเหมือนว่าจุนซูจะลืมตัวอีกแล้วถึงได้นั่งลงเหมือนคนปกติไม่ทันได้ระวังว่าตอนนี้ตัวเองกำลังท้อง แต่คุณชายปาร์คนี่สิถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจเลยทีเดียว
“ จุนซู๊ ” ยูชอนเรียกคนรักเสียงหลงก่อนจะรีบถลาเข้าไปนั่งข้างๆร่างเล็กอาการที่ทำเอาทั้งยุนโฮและแจจุงถึงกับแอบขำ ส่วนจุนซูก็หันกลับไปมองงงๆว่ายูชอนจะเรียกชื่อเขาเสียงดังทำไม “ ค่อยๆนั่งสิเดี๋ยวมันจะกระทบกระเทือนถึงลูกนะ ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเป็นห่วง จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไงล่ะเมื่อกี้น้ำหนักที่จุนซูทิ้งลงไปก็ใช่ว่าจะเบา
และดูเหมือนว่าจุนซูพึ่งจะรู้ตัวตากลมเบิกกว้างมือเรียวทาบลงบนหน้าท้องของตนเองก่อนจะเอ่ยขอโทษออกมาเบาๆ
“ แม่ขอโทษนะลูก ” ต่อไปแม่จะระวังให้มากกว่านี้นะตัวเล็ก
“ ทีหลังต้องระวังมากกว่านี้นะจุนซูช่วงสามเดือนแรกจะมีโอกาสแท้งได้ง่ายนะ ”แจจุงเอ่ยเตือนเพราะดูเหมือนว่าจุนซูยังปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่
“ อืม...ทีหลังฉันจะระวังให้มากกว่านี้”
“ แรกๆก็แบบนี้แหละเดี๋ยวอีกหน่อยก็ชิน ” แจจุงบอกยิ้มๆจุนซูยังดีที่เวลาลืมตัวแล้วยูชอนไม่ดุ แต่เขานี่สิโดนยุนโฮดุตลอดเลย ร้องไห้เพราะโดนยุนโฮดุก็เลยมาแล้ว “ ว่าแต่เมื่อี้ทำไมตอนเดินเข้ามาถึงได้หน้าหงิกซะขนาดนั้นล่ะ ” ถึงจะพอเดาได้ว่าจุนซูอารมณ์เสียเรื่องอะไรแจจุงก็ยังอยากแหย่แม่โลมาเล่น
จุนซูหน้างอลงทันทีที่ได้ยินคำตอบถามของแจจุงตาคู่สวยมองค้อนให้สามีที่นั่งยิ้มเจื่อนๆอยู่ข้างๆ
“ ก็ยูชอนน่ะสิแจจุง ห่วงอะไรไม่เข้าเรื่อง ”
“ ก็ฉันเป็นห่วงนายกับลูกจริงๆนี่นา ” ยูชอนโอดครวญ อะไรอ่ะคนเป็นห่วงก็ผิดด้วยเกิดไปชายปาร์คนี่ช่างอาภัพนัก คนรักเมียเป็นห่วงเมียแต่กลับโดนงอนซะงั้น
“ แต่มันมากไปฉันไม่ได้เป็นหง่อยซะหน่อย ”
ถ้าเป็นห่วงเหมือนคนธรรมดาทั่วไปจุนซูจะไม่ว่าอะไรเลย นี่เขาแทบจะไม่ได้ขยับตัวไปไหนด้วยซ้ำแล้วที่น่าโมโหที่สุดคือเมื่อเช้ายูชอนแทบจะอุ้มเขาลงมาจากห้องด้วยซ้ำเพราะกลัวว่าเขาจะลื่นตกบันได จุนซูอยากจะถามจริงๆว่าการที่ยูชอนอุ้มเขาลงบันไดมันจะไม่อันตรายกว่าเขาเดินลงมาเองเหรอ?
“ นายต้องเข้าใจนะจุนซู” ยูชอนคงคิดว่าแจจุงเข้าข้างตัวเองแน่ๆถ้าหากว่าไม่มีประโยคหลังตามมา “ ว่าสองคนนี้น่ะเขาเป็นเพื่อนรักกัน ” แจจุงพยักเพยิดไปทางยุนโฮก่อนที่คนที่กำลังหน้ามุ่ยจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเพื่อนรักหมีไก่ร่วมด้วยช่วยกันงอน
“ คนอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ เรามันทำดีไม่ขึ้นจริงๆเนอะยุนโฮ ”
แจจุงกับจุนซูแอบเบ้ปากกับอาการงอนที่มาพร้อมกับคำตัดพ้อแต่ในสายตาของแจจุงกับจุนซูแล้วดูยังไง๊ยังไงมันก็น่าหมั่นไส้มากกว่าน่ารัก “ แต่นายระวังบ้างก็ดีเหมือนกันนะ ”
จุนซูพยักหน้าเบาๆมือขาวยังคงลูบไปมาบนหน้าท้องของตนเอง ก่อนที่ตาคู่สวยจะไปหยุดอยู่ที่ลูกหมีที่นั่งเงียบอยู่บนตักแจจุงมาได้สักพักแล้ว โดยที่ขาเล็กทั้งสองข้างกี่ยวอยู่ที่เอวของคุณแม่คนสวยส่วนใบหน้าน่ารักก็ซุกอยู่กับแผ่นอกบาง วันนี้ดูมุนบินเงียบมากเงียบจนจุนซูไม่อยากเชื่อว่านี่คือมุนบินตัวจริง เพราะถ้าหากเป็นมุนบินตัวจริงไม่มีทางซะหรอกที่จะนั่งเรียบร้อยแบบนี้
“ ว่าแต่ทำไมวันนี้มุนบินเงียบจัง” จุนซูเอ่ยถามแจจุงหากแต่มือบางกับลูบบนหัวเล็กด้วยความเอ็นดู วันนี้หลานชายของอาจุนซูเป็นอะไรไปทำไมเงียบผิดปกติไม่สบายรึเปล่านะ
“ ไม่มีอะไรมากหรอก แค่กลัวโดนคุณหมอจับฉีดยาน่ะ ” พ่อหมีที่ไม่ได้เจียมตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังง้อลูกชายอยู่เอ่ยแซวเจ้าตัวเล็กตาเรียวที่เป็นตนแบบฉายแววล้อเลียนไปในตัว
เห็นทีว่าชาตินี้มุนบินกับโรงพยาบาลคงจะญาติดีกันไม่ได้จริงๆสินะ เพราะตอนอยู่บนรถมุนบินก็ยังปกติดีอยู่หรอกชวนน้องคุยนั้นคุยนี้มาตลอดทางแต่พอเลี้ยวเข้าเขตโรงพยาบาลแค่นั้นแหละรอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปพร้อมกับที่เจ้าตัวเกาะติดแจจุงแน่นไม่ยอมห่างตัวไปไหน
มุนบินที่ได้ยินคำพูดไม่เข้าหูตวัดตามองค้อนพ่อหมีก่อนจะหันมาแก้ตัว “ หนูเปล่ากลัวซะหน่อย หนูกอดน้องต่างหาก ”
ใครบอกว่ามุนบินกลัวโดนคุณหมอจับไปฉีดยาไม่จริงซะหน่อยคุณพ่อใส่ร้าย คนอย่างชอง
มุนบินเนี่ยนะจะกลัวคุณหมอไม่มีทางอ่ะ มุนบินก็แค่อยากจะกอดน้องอยากอยู่ใกล้ๆน้องต่างหาก
“ เหรอครับ” ยุนโฮลากเสียงยาวราวกับว่าเชื่อในสิ่งที่ลูกชายพูดหนูแค่อยากจะกอดน้องจริงๆเหรอลูก
“ ใช่” เจ้าหนูยืนยันว่าแต่ทำไมหนูถึงพูดเสียงเบาหนักล่ะมุนบิน
ยุนโฮต้องใช่ความพยายามเป็นอย่างมากในการกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ ปากบอกว่าไม่กลัวแต่ทำไมถึงได้หน้าซีดจังเลยล่ะลูกหมีคุณพ่อจะเชื่อหนูดีไหมเนี่ย เรื่องฟอร์มเยอะล่ะไม่มีใครเกิน แต่เพราะยังมีคดีติดตัวอยู่ครั้งนี้ยุนโฮจึงต้องยอมเป็นฝ่ายยกธงขาว ทั้งที่จริงๆแล้วอยากจะแกล้งเจ้าตัวเล็กให้ขัดใจเล่นอีกสักนิดก็เวลาเห็นลูกหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจแล้วมันมีความสุขนี่นา
“ โอเคครับ งั้นคุณพ่อขอโทษละกันเนอะที่เข้าใจผิด ” ร่างสูงยกมือขึ้นบอกว่ายอมแพ้ก่อนจะต้องหน้ามุ่ยเมื่อเจอสายตาดุๆของแจจุงที่ส่งมาบอกว่ารู้ว่าลูกกลัวแล้วยังจะล้ออีกนะ “ ยุนแค่ล้อเล่นนิดเดียวเองนะ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ
แจจุงเลิกสนใจคนรักก่อนจะก้มลงพูดกับเจ้าตัวเล็กที่เอาแต่ซบหน้าอยู่กับอกเขา “ มุนบินครับ ” เจ้าตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองผู้เป็นแม่ “ ตอนนี้ในท้องของอาจุนซูก็มีน้องอยู่นะลูก ”
สิ้นคำบอกเล่าของผู้เป็นแม่เจ้าหนูก็หันไปมองยังตำแหน่งท้องของอาจุนซูทันที “ เหมือนคุณแม่น่ะเหรอ” เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ
แจจุงพยักหน้ายืนยันคำตอบ “ ครับ ไม่เชื่อหนูลองถามอาจุนซูสิลูก ” ใบหน้าหวานพยักเพยิดบอกให้ลูกชายถามคุณอาที่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆเอาเอง
“ อาจุนซู” เสียงเล็กเอ่ยถามทั้งๆที่ยังแนบหน้าอยู่กับอกของผู้เป็นแม่ อ้อมกอดของคุณแม่ทำให้มุนบินอุ่นใจว่าจะไม่มีใครพามุนบินไปให้คุณหมอฉีดยา
“ว่าไงครับ” ตอบรับพร้อมกับระบายยิ้มอ่อนๆ
“ ในท้องอาจุนซูมีน้องเหรอ ”น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย คิ้วเล็กๆขมวดกันเป็นปมด้วยความสงสัย ทำไมน้องชอบไปอยู่ในท้องจังทำไมน้องไม่อยู่ที่อื่นบ้างล่ะ
จุนซูยิ้มน้อยๆกับคำถามของหลานชาย เห็นซุบซิบกันอยู่ตั้งนานนึกว่าเรื่องอะไรที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง“ ครับผม ในท้องของอาจุนซูมีน้องอยู่เหมือนในท้องของคุณแม่มุนบินไงครับ ” ไม่ว่าเปล่ายังจับมือเล็กมาวางไว้บนหน้าท้องตน
คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันอีกครั้งอย่างใช้ความคิดจนคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องหลุดหัวเราะออกมา หนูจะขมวดคิ้วบ่อยไปแล้วนะลูกเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก “ งั้นหนูก็มีน้องสองคนน่ะสิ ” เสียงใสเอ่ยออกมาหลังจากคิดอยู่สักพัก
ในท้องคุณแม่มีน้องอยู่คนนึง ในท้องของอาจุนซูก็มีน้องอีกคนนึงงั้นแสดงว่ามุนบินจะมีน้องพร้อมกันสองคนเลยน่ะสิ ดีใจจังเลยมุนบินจะได้มีเพื่อนเล่นเยอะๆแล้วก็จะชวนน้องไปตั้งทีมฟุตบอลด้วยกันแล้วมุนบินก็จะเป็นหัวหน้าทีม อิอิ
“ ใช่ครับ มุนบินจะมีน้องพร้อมกันสองคนเลยน๊า” แจจุงตอบลูกชายน้ำเสียงอ่อนโยน มือบางเกลี่ยผมที่ลงมาปิดหน้าออกให้เจ้าตัวเล็ก
แค่เพียงคำพูดของคนเป็นแม่ประโยคเดียวกลับทำให้คนที่กำลังจะมีน้องพร้อมกันถึงสองคนยิ้มหน้าบานด้วยความดีใจแต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ยอมลงจากตักผู้เป็นแม่อยู่ดี
“ แล้วนี่ชางมินยังไม่มาอีกเหรอ ” ยูชอนที่พึ่งกลับมาจากเคาน์เตอร์เอ่ยถามพ่อหมีที่นั่งหงอยอยู่คนเดียวเพราะไม่มีใครสนใจ
“ อ๋อ ชางมินบอกว่าให้ไปเจอกันที่ร้านอาหารเลย” ยุนโฮละสายตาจากสามคนตรงหน้าแล้วหันกลับมาตอบเพื่อนรัก
“ ครั้งนี้แปลกแฮะ ปกติเห็นขอมาด้วยทุกครั้ง ” ถึงว่ามองหาตั้งนานก็ไม่เจอตอนแรกนึกว่าออกไปซื้อของซะอีก
“ เห็นบอกว่าติดธุระน่ะ ”
อันที่จริงวันนี้ชางมินบอกว่าจะมาที่โรงพยาบาลด้วย แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะจู่ๆก็โทรมาบอกว่าตอนเช้าไม่ว่างเดี๋ยวจะตามไปเจอที่ร้านอาหารเลยสงสัยว่าคงจะเป็นธุระด่วนจริงๆนั่นแหละ
“ อ่อ ” ยูชอนพยักหน้ารับเบาๆก่อนที่ทั้งคู่จะหยุดการสนทนาเอาไว้แค่นั้นเมื่อเห็นว่ามีพยาบาลสาวเดินเข้ามา
“ คุณคิมแจจุง คุณคิมจุนซู เชิญพบคุณหมอที่ห้องตรวจค่ะ ”
บุคคลทั้งสี่พยักหน้าเข้าใจ “ คุณหมอเรียกแล้วไปกันเถอะ ” ยุนโฮลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเช่นเดียวกับยูชอนที่รีบวิ่งไปประคองจุนซูทันทีที่ได้ยินคำบอกกล่าวของนางพยาบาล
แต่ก่อนที่จะได้เดินไปไหนลูกหมีที่ตอนนี้ถูกจับให้ยืนบนเก้าอี้เพื่อจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยกลับกอดคนเป็นแม่เอาแน่นไม่ยอมลงเดิน
แจจุงมองดูอาการของลูกชายด้วยความไม่เข้าใจแต่ก็พอจะเดาได้ลางๆว่าเป็นเรื่องอะไร แจจุงพยักหน้าเบาๆให้จุนซูกับยูชอนเพื่อบอกให้ทั้งสองเข้าไปพบคุณหมอก่อนเลยส่วนเขากับยุนโฮขอเคลียร์กับลูกหมีขี้กลัวก่อนแล้วเดี๋ยวจะตามเข้าไป
“ ว่าไงลูก ” หลังจากที่จุนซูกับยูชอนเดินไปแล้วแจจุงก็นั่งลงอีกครั้งก่อนที่ร่างป้อมๆของลูกชายจะตามมานั่งบนตักทันทีที่เห็นว่าก้นของคุณแม่สัมผัสกับเก้าอี้
“ คุณแม่ อาชางมินยังไม่มาเลย ”บอกกับคุณแม่อ้อนๆ ตาเรียวเล็กมองไปรอบๆคุณแม่จะเข้าไปแล้วแต่หนูยังไม่เห็นอาชางมินเลยนะ
“ วันนี้อาชางมินไม่มาครับ ” แจจุงบอกลูกชายยิ้มๆนี่คงคิดว่าจะให้อาชางมินพาออกไปเล่นข้างนอกเหมือนเดิมสินะ
“ แล้วหนูจะอยู่กับใคร ” เจ้าตัวเล็กถามเสียงดังทันทีที่ได้ยินคำตอบของคนเป็นแม่ ถ้าอาชางมินไม่มาแล้วใครจะพาหนูไปเล่นข้างนอกรอคุณแม่ล่ะ
“ หนูก็อยู่กับคุณแม่ไงลูก ”
“ แต่หนูไม่อยากเข้าไปนี่นา ” เจ้าตัวเล็กเริ่มเอาแต่ใจ ถ้าหนูเข้าไปหนูก็เจอคุณหมอน่ะสิไม่เอาหรอกหัวเด็ดตีนขาดยังไงมุนบินก็ไม่เข้าไป
“ ไม่เข้าไปไม่ได้ลูก หนูจะอยู่ข้างนอกคนเดียวได้ยังไง ” ร่างบางบอกลูกชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง คุณแม่ไม่มีทางปล่อยมุนบินไว้ข้างนอกคนเดียวเด็ดขาดเผื่อมีคนมาหลอกหนูไปแล้วคุณแม่จะทำยังไงล่ะลูก
“ แต่ว่า.... ”
“ไม่มีแต่ครับ นะลูกนะ หนูเข้าไปข้างในเป็นเพื่อนคุณแม่หน่อยนะคุณแม่กลัวคุณหมอจังเลย ” คุณแม่คนสวยรีบอ้อนก่อนที่ลูกชายจะหาข้ออ้างมาปฏิเสธ
มุนบินนิ่งไปสักพักแต่สุดท้ายก็ยอมตกลง “ หนูเข้าไปก็ได้” ในเมื่อคุณแม่กลัวเดี๋ยวมุนบินจะไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่เองนะ โอ๋ๆ คุณแม่ไม่ต้องร้องๆ “ แต่คุณแม่ต้องกอดหนูแน่นๆนะ แล้วคุณแม่ต้องบอกคุณหมอว่าอย่ามาใกล้หนูนะ ”
“ คุณแม่คงกอดหนูไม่ได้หรอกลูก ” เสียงทุ้มของร่างสูงที่ยืนเงียบอยู่นานดังขึ้นพร้อมกับแววตาเจ้าเล่ห์ที่ฉายเพียงชั่ววูบเล่นตัวไม่ยอมให้คุณพ่อเข้าใกล้ดีนักเดี๋ยวเข้าไปในห้องคุณหมอคุณพ่อจะกอดให้หนำใจไปเลยคอยดูสิ
“ ทำไม ” เจ้าตัวเล็กหันขวับพร้อมกับเอ่ยถามคุณพ่อด้วยความไม่เข้าใจ
“ เพราะว่าคุณแม่ต้องให้คุณหมอตรวจไงครับ ” พ่อหมีเฉลยพร้อมกับรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม นี่แหละเป็นโอกาสเหมาะที่เขาจะได้ง้อลูกชาย ครั้งนี้ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว
“ งั้นหนูก็ไม่เข้าไป ” กอดอกเชิดหน้าแล้วสะบัดหนีสูตรสำเร็จที่ถอดแบบออกมาจากคนเป็นแม่เด๊ะๆ
“ มุนบินอย่าดื้อสิลูก คุณแม่กอดหนูไม่ได้แต่คุณพ่อกอดได้นี่นา ”
แจจุงพูดกับลูกชายด้วยความเหนื่อยใจ ร่างบางชักจะเริ่มเกรงใจคุณหมอแล้วสิเพราะปล่อยให้ท่านรอนานแล้ว
“ ไม่เอาหนูไม่ให้คุณพ่อกอด ” ประกาศยันจุดยืนของตัวเองชัดเจน หนูจะให้คุณพ่อกอดได้ยังไงก็ในเมื่อตอนนี้หนูกำลังโกรธคุณพ่ออยู่คุณแม่อย่าลืมสิ
แจจุงได้แต่ถอนหายใจให้กับอาการดื้อแพ่งของเจ้าตัวเล็ก ตากลมมองไปยังร่างสูงที่ยืนอมยิ้มอยู่ใกล้ๆถ้าเป็นเวลาปกติยุนโฮคงจะช่วยพูดให้มุนบินใจอ่อนได้ แต่ตอนนี้ถ้าให้ยุนโฮมาช่วยพูดแล้วล่ะก็นอกจากจะไม่ยอมใจอ่อนเผลอๆอาจจะใจแข็งมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“ แต่ถ้าหนูไม่เข้าไปหนูก็ไม่ได้เห็นน้องนะลูก ” สุดท้ายเมื่อคิดอะไรไม่ออกก็ต้องเอาน้องออกมาล่อซึ่งแจจุงเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะได้ผลหรือเปล่า
แต่ดูเหมือนว่าการเอาน้องมาล่อจะได้ผลดีเกินคาดเพราะเจ้าตัวเล็กตาเป็นประกายขึ้นมาทันที“ ถ้าเข้าไปแล้วจะเห็นน้องเหรอ? ”
“ อันนี้คุณแม่ก็ไม่รู้ ถ้าหนูอยากรู้หนูต้องเข้าไปดูเองลูก ” คุณแม่คนสวยแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพื่อกระตุ้นต่อมอยากรู้ของลูกชาย
เพราะแจจุงรู้ดีว่ามุนบินเป็นเด็กที่ไม่ชอบเก็บความสงสัยเอาไว้กับตัว สังเกตได้จากทุกครั้งเวลาที่เจ้าตัวอยากรู้อะไรก็จะถามทันทีไม่ปล่อยให้มันค้างคาใจนานๆเพราะถ้าทำแบบนั้นมุนบินจะรู้สึกหงุดหงิด ซึ่งนิสัยข้อนี้มุนบินถอนแบบยุนโฮออกมาเต็มๆเลยล่ะ
ส่วนมุนบินเองก็ถึงกับต้องคิดหนักกันเลยทีเดียวในสมองเล็กๆตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เข้าไปแล้วมุนบินจะได้เห็นน้องจริงๆเหรอคุณแม่ไม่ได้โหกมุนบินใช่มั๊ย? มุน บินอยากเจอน้องนะแต่ว่ามุนบินไม่อยากเจอคุณหมออ่ะ แล้วอีกอย่างถ้ามุนบินเข้าไปกับคุณแม่มุนบินก็ต้องให้คุณพ่อกอดน่ะสิ มุนบินจะทำยังไงดีอ่ะมุนบินจะเข้าไปข้างในดีมั๊ย?
“ หนูเข้าไปก็ได้ ”
______________________________________________
ขอโทษด้วยนะค่ะที่บอกว่าจะอัพให้เมื่อวาน ไม่มีแรงจริงๆค่ะสอบเสร็จหลับเป็นตาย
เลย ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีอะไรมากนะค่ะ ส่วนใครที่รอลุ้นว่าพ่อแม่ยุนโฮจะยอมรับแจจุง
เมื่อไหร่อีกไม่นานเกินรอค่ะ ^^
ปีใหม่นี้ใครเดินทางก็ขอให้เดินทางโดนสวัสดิภาพนะค่ะ เที่ยวให้สนุกค่ะขับรถระวัง
รถคันหลังด้วยนะค่ะเดี๋ยวจะโดน civic ชนเอาได้ อิอิ
ขอให้ในทุกๆวันของคุณมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นนะค่ะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ ^^
ความคิดเห็น