คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #57 : ~ Happy Family ~ 35
ภาพที่เด็กชายตัวเล็กๆเดินเข้ามาในบริษัทมือเล็กจับมือของคนเป็นพ่อเป็นแม่ไว้คนละข้าง ใบหน้าน่ารักแย้มยิ้มอย่างมีความสุขพร้อมกับมองไปรอบๆตัวช่วยความอยากรู้ เป็นภาพที่ใครหลายคนได้เห็นแล้วต้องอิจฉายิ่งกับพวกพนักงานสาวด้วยๆแล้วล่ะก็ภาพแบบนี้ยิ่งทำให้พวกเธออยากแต่งงานเร็วๆเพื่อที่จะได้สร้างครอบครัวอบอุ่นแบบครอบครัวของผู้บริหารหนุ่มบ้าง
หลังจากที่ส่งชางมินเรียบร้อยแล้วแจจุงกับยุนโฮก็พาลูกชายไปตัดผมเพราะผมของเจ้าตัวเล็กเริ่มยาวจนเจ้าตัวบ่นรำคาญอยู่หลายครั้ง แต่พอไปถึงแล้วมุนบินเห็นร้านตัดผมแค่นั้นแหละเจ้าตัวเล็กก็เกิดอาการดื้อแพ่งไม่ยอมเข้าไปในร้านขึ้นมาทันที แจจุงกับยุนโฮต้องใช้เวลาเกลี่ยกล่อมอยู่นานเลยล่ะกว่าเจ้าตัวเล็กจะยอมเข้าไป เอาล่ะไรมาล่อก็ไม่ยอมบอกว่าไม่ตัดท่าเดียวแต่บทจะยอมก็ยอมง่ายๆแค่เพียงแจจุงยกประโยคเดียวขึ้นมาอ้าง
วันนี้คุณพ่อก็จะตัดด้วยน๊า เอางี้มั๊ยลูกเรามาแข่งกันว่าหนูกับคุณพ่อถ้าตัดผมเสร็จแล้วใครจะหล่อกว่ากัน
และทันทีที่ตัดผมเสร็จคำแรกที่มุนบินเอ่ยถามคนเป็นแม่ก็คือ “ คุณแม่หนูหล่อไหม ”
“ หล่อครับ มุนบินของคุณแม่หล่อที่สุด หล่อกว่าคุณพ่ออีกนะ ”
เสียงใสๆหัวเราะชอบใจทันทีที่ได้ยินคำชม “ คุณแม่บอกว่ามุนบินหล่อด้วยล่ะ ” และยิ่งมีคำชมจากพ่อหมีมาช่วยเสริมอีกแรงมันก็เลยทำให้มุนบินอารมณ์ดีอย่างที่เห็นนี่แหละ
ตลอดทางที่เดินเข้ามาในบริษัทมีสายตาหลายคู่จ้องมองร่างบางที่เดินเคียงข้างมากับท่านประธานด้วยความอยากรู้ว่าเป็นใคร แต่แล้วเสียงเล็กๆของคุณหนูมุนบินก็ช่วยไขข้อข้องใจให้กับทุกคนเมื่อปากเล็กเอื้อยเอ่ยเรียกอีกคนว่าคุณแม่
จากแววตาสงสัยใคร่รู้แปรเปลี่ยนเป็นแววตาชื่นชมในความเหมาะสมของคนทั้งคู่ ท่านประธานแต่งงานแล้วนั่นคือสิ่งที่คนในบริษัทรู้โดยทั่วกัน แต่ที่ทุกคนยังไม่รู้และอยากรู้มากที่สุดก็คือใครกันที่เป็นคนที่โชคดีคนนั้นคนที่ได้ครอบครองทั้งตัวและหัวใจของผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่าง ชองยุนโฮ
และวันนี้พวกเขาก็ได้เห็นแล้วว่าภรรยาของท่านประธานนั้นสวยจริงๆนอกจากหน้าตาจะสวยแล้วผิวก็สวยมากๆด้วยแถมยังดูเป็นกันเองกับพนักงานอีกต่างหากเพราะตั้งแต่เดินเข้ามาภรรยาของท่านประธานยิ้มให้กับพนักงานทุกคนเลย
“ ยูริ เดี๋ยวบ่ายนี้คุณช่วยเรียกประชุมฝ่ายการตลาดให้ผมหน่อยนะ ”
“ ได้ค่ะท่านประธาน ”
“ ขอบคุณครับ ”
ท่านประธานหนุ่มจูงมือลูกกับภรรยาเข้าไปในห้องทำงานหลังจากสั่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยูริมองตามทั้งสามด้วยสายตาอึ้งๆเพราะไม่คิดว่าเจ้านายของเธอจะมีภรรยาสวยขนาดนี้ ถึงว่าล่ะพอเลิกงานปุ๊บท่านประธานของเธอก็กลับบ้านตรงเวลาทุกวันเพราะมีภรรยาแสนสวยกับลูกชายที่น่ารักรออยู่นั่นเอง
“ เดี๋ยวแจนั่งรอไปก่อนนะ ” ร่างสูงบอกกับภรรยาพร้อมกับอุ้มลูกชายขึ้นไปนั่งบนโซฟา “ มุนบินนั่งเล่นกับคุณแม่ก่อนนะลูก ”
“ ครับ ” เจ้าหนูรับคำอย่างว่าง่าย
“ แจขอดูเอกสารเกี่ยวกับการตลาดหน่อยได้มั๊ย ” ร่างบางเงยหน้าขึ้นเอ่ยกับสามีหนังจากที่วางกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
“ ตอนนี้เลยเหรอ ” คิ้วหนาเลิกขึ้นขณะถาม
“ อืม...แจอยากศึกษาข้อมูลก่อนน่ะ ” ร่างบางบอกยิ้มๆ
แจจุงคิดว่าตัวเองควรจะรู้ข้อมูลการตลาดในช่วงที่ผ่านมาก่อนที่จะเข้าประชุมในบ่ายนี้เพราะมันจะช่วยให้เขาเข้าใจถึงแนวทางการจัดการของบริษัทเพื่อที่จะได้หาจุดบกพร่องได้ง่ายขึ้น
“ ได้สิ งั้นรอแป๊บนึงนะเดี๋ยวยุนให้เลขาเอาเข้ามาให้ ”
“ ขอบคุณนะ ”
ยุนโฮพยักหน้ายิ้มๆบอกว่าไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้เองก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเองปล่อยให้แม่ลูกนั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟา
แจจุงหยิบเอาหนังสือภาพพร้อมกับสีไม้ออกมาจากกระเป๋าที่ร่างบางเตรียมมาจากบ้านแล้วกางออกวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าลูกชายที่กำลังยืนเกาะขอบโซฟาเล่นตาเรียวเล็กมองดูภาพวิวของกรุงโซลผ่านกระจกใสด้วยความตื่นเต้น
“ มุนบินครับ ” เสียงหวานเรียกลูกชาย มุนบินละสายตาจากภาพวิวตรงหน้าแล้วหันกลับมาตามเสียงเรียกของผู้เป็นแม่ “ มาระบายสีกับคุณแม่ดีกว่าลูก ” ร่างบางโชว์สมุดภาพกับกล่องสีให้ลูกชายดู
“ คุณแม่เอามาด้วยเหรอ ” เจ้าตัวเล็กตาเป็นประกายทันทีก่อนจะนั่งลงข้างๆคุณแม่ด้วยความกระตือรือร้น
แจจุงพึ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่ามุนบินนั้นชอบอะไรที่เกี่ยวกับศิลปะ โดยเฉพาะการวาดรูปและระบายสีลงบนตัวการ์ตูนดูเหมือนว่ามุนบินจะชอบมากเป็นพิเศษ และแจจุงกับยุนโฮเองก็สนับเรื่องนี้เต็มที่เพราะมันเป็นการช่วยพัฒนาศักยภาพของลูกน้อยไปในตัว เด็กๆจะได้สร้างสรรค์จินตนาการของเขาผ่านลายเส้นและสีต่างๆนอกจากนี้ยังทำให้เจ้าตัวเล็กมีจิตใจที่อ่อนโยนอีกด้วย
“ ครับ ”มือขาวลูบผมที่สั้นกว่าเดิมของลูกชายด้วยความรักก่อนจะค่อยๆเปิดสมุดภาพออกให้เจ้าตัวเล็กเลือก “ ไหนดูซิวันนี้มุนบินจะระบายอะไรเอ่ย ”
“ คุณแม่หนูเอาทะเล ” นิ้วป้อมชี้ลงบนภาพตรงหน้า
“ ได้ครับ ไหนลองระบายให้คุณแม่ดูซิว่าทะเลของมุนบินสีอะไรเอ่ย ? ”
“ ครับ ” มือเล็กเลือกแท่งสีจากกล่องที่คุณแม่เปิดออกให้ ก่อนจะเริ่มลงมือระบายด้วยความตั้งใจปล่อยให้คนเป็นแม่นั่งอมยิ้มด้วยความเอ็นดู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นก่อนที่เลขาสาวจะเดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารที่ยุนโฮสั่งให้เธอเตรียมเข้ามาให้ หญิงสาวกำลังจะเดินเอาไปวางไว้ที่โต๊ะของเจ้านายเช่นทุกครั้งหากแต่เสียงทุ้มของร่างสูงก็เอ่ยขึ้นมาซะก่อน
“ เอาไปให้คุณแจจุงได้เลยครับยูริ ”
“ ค่ะ ” หญิงสาวรับคำสั่งก่อนจะเดินถือแฟ้มย้อนกลับไปที่โซฟารับแขกที่มีแจจุงนั่งอยู่
“ ขอบคุณมากครับ รบกวนคุณยูริแย่เลย ” ร่างบางรับแฟ้มมาจากเลขาของสามีก่อนจะยิ้มให้เป็นการขอบคุณ
“ ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้ว ” หญิงสาวยิ้มตอบเช่นกัน แต่ในขณะนั้นเองที่สมองของเธอเริ่มประมวลผลอะไรบางอย่างได้ เมื่อกี๊คุณแจจุงพูดว่าครับงั้นเหรอ “ เอ่อ...ขอโทษนะค่ะ เมื่อกี๊คุณแจจุงพูดว่าอะไรนะค่ะ ” เอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆแต่จะทำยังไงได้ก็คนมันสงสัยนี่นา
แจจุงหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าเอ๋อๆของเลขาสาวถ้าแจจุงจำไม่ผิด เลขาคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับที่เขาเจอครั้งก่อนนี่นา “ ผมพูดว่าขอบคุณครับ ครับ ” แจจุงพูดอีกครั้งช้าๆชัดๆ
“ คุณแจจุงเป็นผู้ชาย ” เอ่ยถามเสียงดังด้วยความลืมตัว เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนตรงหน้านี้จะเป็นผู้ชาย ผู้ชายอะไรจะหน้าหวานหน้าสวยได้ขนาดนี้ขนาดเธอเป็นผู้หญิงแท้ๆยังสวยไม่สู้เลย
“ ครับ ผมเป็นผู้ชาย ” แจจุงตอบด้วยใบหน้ากลั้นยิ้ม
ร่างบางชินซะแล้วล่ะกับการที่มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง ยิ่งตอนนี้ท้องแล้วต้องใส่เสื้อผ้าที่มันสบายๆเพื่อให้เป็นผลดีกับเจ้าตัวเล็กในท้องแล้วยิ่งรู้สึกว่าตัวเองดูเหมือนทอมบอยเข้าไปใหญ่ดังนั้นคนอื่นจะเข้าใจผิดก็คงไม่แปลกก็ตัวเองดันเกิดมาหน้าหวานกว่าผู้ชายธรรมดาเองนี่นา
“ ขอโทษด้วยนะค่ะ พอดีดิฉันนึกว่าคุณเป็นผู้หญิง ” บอกเสียงเบาเพราะหลงเข้าใจผิดอยู่นาน
และยูริก็เชื่อว่าไม่ได้มีเธอเพียงคนเดียวที่เข้าใจผิด หญิงสาวมั่นใจว่าพนักงานเกือบทั้งบริษัทก็คงเข้าใจว่าคุณแจจุงเป็นผู้หญิงแน่ๆ
“ ไม่เป็นไรครับ ผมชินแล้วล่ะ ” ร่างบางไม่คิดถือสา
“ งั้นดิฉันขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะค่ะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเรียกได้ตลอดเวลาเลยนะค่ะ ”
“ ขอบคุณครับ ”
คล้อยหลังเลขาสาวแล้วแจจุงก็หันไปมองค้อนสามีที่นั่งทำหน้าล้อเลียนส่งมาให้ บทสนทนาระหว่างแจจุงกับยูรินั้นยุนโฮได้ยินทุกประโยคและมันก็ทำให้ร่างสูงอดที่จะภูมิใจไม่ได้ ก็อย่างว่าแหละนะเมียผมสวยใครๆก็ต้องเข้าใจผิดเป็นธรรมดา
“ ไปแปลงเพศมั๊ยแจ เดี๋ยวยุนพาไปคนอื่นจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิด ”
“ บ้า ! หยุดพูดเพ้อเจ้อแล้วก็ทำงานได้แล้ว ” ใบหน้าสวยแดงระเรื่อกับถ้อยคำหยอกเย้าของคนรัก ต่างจากอีกคนที่หัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งคนสวยได้
..
รถเก๋งคันหรูเคลื่อนเข้ามาจอดอยู่ที่หน้าคฤหาสถ์หลังใหญ่ก่อนที่เหล่าบรรดาแม่บ้านจะรีบออกมาต้อนรับคุณหนูของบ้านด้วยความดีใจเพราะนี่ก็เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่คุณหนูของพวกเธอไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ครั้งล่าสุดที่เจอกันก็คงจะเป็นตอนที่คุณหนูคนเดียวของบ้านแต่งงานนั่นแหละ
“ ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะค่ะคุณหนู ” หัวหน้าแม่บ้านที่เลี้ยงดูจุนซูมาตั้งแต่เด็กเดินออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ ผมคิดถึงป้าจังเลยฮะ ” จุนซูโผเข้ากอดแม่นมของตนเองด้วยความคิดถึงเรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากหญิงชรา โตจนจะเป็นแม่คนอยู่แล้วยังขี้อ้อนเหมือนตอนเด็กๆไม่มีผิดเลยน๊าคุณหนูของป้าเนี่ย
“ ป้าก็คิดถึงคุณหนูค่ะ ” หญิงชรากอดตอบก่อนจะหันไปยิ้มให้เขยของบ้าน “ ไม่เจอกันนานเลยนะค่ะคุณยูชอน ”
“ ครับ คุณป้าสบายดีนะครับ ” ยูชอนโค้งให้หญิงชราที่จุนซูเคยเล่าให้ฟังว่ารักและผูกพันเหมือนกับเป็นญาติคนหนึ่งเลยล่ะ
“ ป้าสบายดีค่ะ มากันเหนื่อยๆป้าว่าเข้าไปข้างในกันก่อนดีกว่านะค่ะ ” เธอคลายอ้อมกอดออกก่อนจะเชิญให้ทั้งสองเข้าไปในตัวบ้าน
“ แล้วคุณพ่อคุณแม่ล่ะฮะ ” จุนซูถามถึงบิดากับมารดา
“ คุณท่านกับคุณผู้หญิงรออยู่ข้างในค่ะ ”
“ อ่า...ผมคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่จังเลย ” ตั้งแต่แต่งงานไปก็พึ่งมีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านก็วันนี้แหละ “ ยูชอนเดี๋ยวถือของตามเข้าไปด้วยนะ ” เสียงใสหันมาเอ่ยกับสามีก่อนจะประคองกอดแม่นมของตนเองให้เดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
ยูชอนมองตามคนรักใบหน้าคมส่ายเบาๆแต่ก็ยังมีรอยยิ้มติดอยู่พอเจอแม่นมแล้วก็ลืมสามีเลยนะจุนซู ร่างสูงหันไปมองข้าวของในรถแล้วก็ต้องถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูแล้วขนมันเข้าไปตามคำสั่งของคนรัก
“ เดี๋ยวหนูช่วยค่ะ ” แม่บ้านอาสาเข้ามาช่วยเมื่อเห็นข้าวของเต็มไม้เต็มมือของร่างสูง
ยูชอนส่ายหน้าเบาๆ “ ไม่เป็นไรแค่นี้ฉันถือได้ ถ้าเธออยากช่วยงั้นก็ช่วยปิดประตูรถให้ก็แล้วกัน ”
บอกกับแม่บ้านเสร็จก็ถือถุงข้าวของพะรุงพะรังเดินเข้าไปในตัวบ้าน ซึ่งส่วนมากแล้วมันคือของกินที่จุนซูบอกให้เขาแวะซื้อตลอดทาง “ ซื้อมาเยอะขนาดนี้ ให้คนทั้งบ้านช่วยทานไม่รู้จะหมดมั๊ย ” ยูชอนคิดเองก็ขำเองไม่รู้ช่วงนี้แม่ยอดขมองอิ่มของเขาเป็นอะไรถึงได้เจริญอาหารขนาดนี้
“ มาถึงกันแล้วเหรอลูก ” คุณนายคิมปิดนิตยาสารที่กำลังอ่านอยู่แล้วเอ่ยทักทายบุตรชายด้วยรอยยิ้ม
“ ฮะ ผมคิดถึงพ่อกับแม่จังเลย ” จุนซูผละจากแม่นมแล้วโผเข้ากอดบุพการีทั้งสองด้วยความคิดถึงซึ่งท่านทั้งสองกกอดตอบด้วยความรักความคิดถึงเช่นกัน
เมื่อกอดกันจนพอใจแล้วคุณนายคิมก็ขยับที่ให้ลูกชายที่ยังคงกอดรอบเอวของเธอเอาไว้ให้นั่งด้วยกันซะเลย เธอแอบส่ายหน้าขำๆให้กับอาการอ้อนของลูกชาย เป็นเด็กไม่รู้จักโตจริงๆเลยเจ้าลูกคนนี้
“ แล้วยูชอนไม่ได้มาด้วยกันเหรอลูก ” คุณคิมถามถึงลูกเขยเมื่อเห็นว่าจุนซูเดินเข้ามาเพียงคนเดียว
“ มาฮะ หยิบของอยู่เดี๋ยวก็คงตามเข้ามา ” พูดยังไม่ทันขาดคำร่างสูงของคนที่ถูกถามถึงก็เดินเข้ามาพร้อมกับข้าวของเต็มสองไม้สองมือ
“ สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ” ร่างสูงโค้งให้กับพ่อตาแม่ยาย
“ สวัสดีลูก ” คุณและคุณนายคิมพยักหน้ารับเบาๆ
“ ต้องขอโทษด้วยที่ผมไม่ได้พาจุนซูกลับมาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่เลย พอดีว่าที่บริษัทยุ่งๆนะ ครับ ”
เพราะต้องเข้าไปรับช่วงต่อจากบิดาเลยทำให้ยูชอนต้องเข้าไปเรียนรู้งานที่บริษัท และเพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลยทำให้ร่างสูงต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับแผนกต่างๆอย่างละเอียด ประกอบกับช่วงนั้นจุนซูยังแพ้ท้องอยู่ด้วยยูชอนจึงไม่อยากให้คนรักต้องเดินทาง จนกระทั่งอาการแพ้ท้องของจุนซูดีขึ้นนั่นแหละยูชอนจึงได้รีบหาเวลาพาคนรักกลับมาเยี่ยมบ้าน
“ไม่เป็นไรพ่อกับแม่เข้าใจ” คุณพ่อตาบอกกับลูกเขยก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับถุงข้าวของมากมายในมือของยูชอน “ แล้วนั่นซื้ออะไรมาเยอะแยะล่ะ ”
ยูชอนก้มลงมองข้าวของในมือก่อนจะตอบคำถามของคุณพ่อตา“ ของกินน่ะครับ ว่าแต่คุณพ่อคุณแม่สบายดีนะครับ ”
“ สบายดีจ๊ะ ” คุณนายคิมตอบก่อนจะพยักหน้าเรียกแม่บ้านให้มารับของจากร่างสูงไปไว้ในครัว “ ไม่เห็นต้องลำบากซื้อมาเลยลูก ของกินที่บ้านก็เยอะแยะ ”
“ ผมอยากทานเองล่ะฮะแม่ ช่วงนี้ผมเป็นอะไรก็ไม่รู้หิวบ่อยมากๆเลย ” จุนซูเป็นคนตอบพร้อมกับเล่าอาการที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้มารดาฟัง
“ มันเป็นเรื่องปกติลูก ตอนที่แม่ท้องจุนซูแม่ก็ทานเยอะเหมือนกัน ” คุณนายคิมบอกเล่าประสบการณ์เมื่อครั้งที่เธอท้องให้ลูกชายฟัง
“ แจจุงก็บอกผมแบบนี้เหมือนกันฮะ ”
“ แต่เราก็ต้องเลือกกินแต่ของที่มีประโยชน์นะเข้าใจมั๊ย ” คนที่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อนให้คำแนะนำ
“ จุนซูเค้ากินแต่ของกินเล่นน่ะครับ” ได้ทียูชอนรีบฟ้อง
ก็มันเรื่องจริงนี่นาเขาอุตส่าห์ซื้อของที่เป็นประโยชน์มาให้แต่จุนซูกลับไม่ยอมกิน ร่างบางกินแต่พวกขนมกับผลไม้ที่ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้น พอเขาบอกให้เลิกกินก็ไม่เชื่อแบบนี้ต้องฟ้องคุณแม่ซะให้เข็ด
“ ได้ไงลูก แล้วแบบนี้จะเอาสารอาหารที่ไหนไปเลี้ยงเจ้าตัวเล็กในท้องล่ะ ” คุณนายคิมเอ็ดลูกชายเบาๆ จุนซูได้แต่ก้มหน้ารับคำตำหนินั่นก่อนจะหันไปย่นจมูกใส่ร่างสูงที่เอาเรื่องนี้มาฟ้องมารดาเขา
“ ก็ของที่ยูชอนซื้อมามีแต่พวกของบำรุงทั้งนั้นเลยนี่ฮะ แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบของพวกนี้ ” ร่างบางตอบเสียงเบา
“ ไม่ชอบก็ต้องกินลูก ถ้าลูกไม่กินแล้วเจ้าตัวเล็กจะแข็งแรงได้ยังไง ”
“ ใช่ เห็นไหมฉันบอกแล้วนายก็ไม่เชื่อ ” ยูชอนได้ทีรีบเอาดีเข้าตัวทันที
“ ก็ได้ฮะ ต่อไปนี้ผมจะกินแต่ของที่มีประโยชน์ ” จุนซูรับปาก
ถึงแม้ว่าของมีประโยชน์ที่ว่านั้นจะเป็นสิ่งที่เขาเกลียดแสนเกลียดก็เถอะ แต่เพื่อลูกน้อยในท้องแล้วแค่นี้สบายมาก สู้ๆ เพื่อลูกรัก คิม จุนซู ไฟท์ติ้ง
“ ดีมากลูก แล้วนี่ได้กี่เดือนแล้วล่ะ ”
“ สามเดือนแล้วฮะ ไปหาหมอครั้งล่าสุดผมได้ฟังเสียงหัวใจเขาด้วยนะฮะแม่ ” บอกเล่าอย่างมีความสุขเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้นวันที่เขาได้ยินเสียงหัวใจลูกน้อยเป็นครั้งแรก
“ แล้วก็ปล่อยโฮกลางโรงพยาบาลด้วยครับ ” ยูชอนเติมประโยคให้คนรักก่อนจะยักคิ้วล้อเลียนให้กับคนที่หันมาค้อนงามๆให้เขา
“ นายก็น้ำตาซึมเหมือนกันแหละ ” จุนซูตอกกลับ คิดว่าวันนั้นเขาไม่เห็นรึไงว่ายูชอนเองก็น้ำตาซึมเหมือนกันแหละ
“ แต่ก็น้อยกว่านายก็แล้วกัน ”
“ ก็คนมันดีใจอ่ะ หรือว่านายไม่ดีใจ ”
“ เอาละๆพอได้แล้ว ”คุณคิมรีบห้ามทัพก่อนที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จะเปิดศึกกันกลางบ้าน “ จะเป็นพ่อแม่คนอยู่แล้วยังจะเลาะกันเป็นเด็กๆไป ได้ ” ชายชราส่ายหน้าขำๆ ไม่รู้ว่าพอลูกเกิดมาแล้วจะได้เห็นพ่อกับแม่เถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้คนที่กำลังจะเป็นตาอดที่จะหนักใจไม่ได้
“ จริงสิ เมื่อวานแม่ไปเดินดูหนังสือเกี่ยวกับคนท้องมาให้ลูกด้วยนะ ขึ้นไปดูกันมั๊ยเผื่อว่ามีเล่มไหนที่ลูกสนใจ” หญิงเดียวในห้องเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
เมื่อวานตอนที่เธอเดินผ่านร้านขายหนังสือก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าบางทีจุนซูอาจจะต้องการหนังสือที่เกี่ยวกับการดูแลตัวเองในขณะท้องก็ได้ เธอจึงเลือกเล่มที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์มาฝากลูกชายเพื่อที่จุนซูจะได้ศึกษาดู เพราะตัวเธอเองก็งานยุ่งไม่ค่อยมีเวลาไปดูแลลูกชายคนเดียวเท่าไหร่นัก
“ ก็ได้ฮะ ”
“ งั้นเดี๋ยวยูชอนนั่งคุยกับคุณพ่อไปก่อนนะลูกแม่ขอตัวจุนซูสักครู่ ”
“ ตามสบายเลยครับ ” ร่างสูงบอกกับแม่ยายยิ้มๆ เพราะคิดว่าจุนซูเองก็คงอยากใช้เวลาส่วนตัวอยู่กับมารดาเช่นกัน
ความคิดเห็น