ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~ Happy Family 2 ~ { yunjae & TVXQ mpreg }

    ลำดับตอนที่ #78 : Special YunJae # 13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.01K
      5
      2 พ.ค. 54

          หลังจากที่นอนพักจนน้ำเกลือหมดกระปุกแล้วแจจุงก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้    ร่างบางเดินเข้ามาในห้องพักโดยที่มียุนโฮคอยประคองอยู่ไม่ห่าง

          “ ค่อยๆนั่งนะ ” ร่างสูงค่อยๆประคองคนรักให้นั่งลงที่โซฟา

          “ ยุน....ไม่ต้องประคองขนาดนั้นก็ได้   แจไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ” เสียงหวานบอกกลั้นขำกับท่าทางห่วงจนโอเว่อร์ของร่างสูง

           เขาแค่ท้องแต่ยุนโฮทำเหมือนว่าเขาป่วยเป็นอะไรร้ายแรงอย่างนั้นแหละ  แจจุงรู้ว่ายุนโฮเป็นห่วงแต่ว่าแจจุงก็เขินเหมือนกันนะเวลาที่มีคนหันมามองน่ะ

          “ ไม่ได้หรอก.....เผื่อแจเป็นลมยุนจะได้จับไว้ทันไงล่ะ ”  ยุนโฮนั่งลงข้างๆแจจุงก่อนจะหยิบถุงยาที่ได้มาขึ้นมาอ่านดูด้วยความสนใจ “ ไหนดูซิคุณหมอให้ยาอะไรมาบ้าง ”

           “ พวกยาบำรุงน่ะ ” แจจุงเองก็จำไม่ค่อยได้เพราะคุณหมอให้มาเยอะเกินแต่โดยรวมน่าจะเป็นยาบำรุง “ ยุน...กี่โมงแล้วอ่ะ ” เสียงหวานเอ่ยถามเวลากับคนที่กำลังอ่านรายละเอียดของยาด้วยความตั้งใจ

           ยุนโฮยยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก่อนจะตอบคำถามของคนรัก “ สี่โมงเย็น   แจถามทำไมเหรอ ”

          “ หา...สี่โมงเย็นแล้วเหรอ ” แจจุงอุทานออกมาด้วยความตกใจก่อนจะรีบลุกจากโซฟาท่าทางเร่งรีบของร่างบางทำให้ยุนโฮต้องดึงข้อมือเล็กเอาไว้เมื่อเห็นแจจุงจะเดินไปที่ไหนสักที่

         “ แจจะไปไหน ” คิ้วหนาเลิกขึ้นขณะถาม

         “ แจจะไปอาบน้ำน่ะ  เดี๋ยวจะไปทำงานไม่ทัน ” หันมาตอบด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

         เพราะเวลาเข้างานคือห้าโมงเย็นแจจุงจึงต้องรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะกลัวว่าถ้าขืนช้ากว่านี้อาจจะไปทำงานสายได้   ยุนโฮนิ่งไปหลังจากที่แจจุงพูดจบร่างสูงกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะตัดสินใจขอร้องอะไรบางอย่างกับคนรัก

          “ แจจะว่าอะไรไหม...ถ้ายุนจะขอให้แจเลิกทำงาน ”  ร่างสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขอร้อง

         “ ทำไมล่ะ..... ” แจจุงเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ  ทำไมอยู่ๆยุนโฮถึงบอกให้เขาเลิกทำงานล่ะ

         “ ยุนเป็นห่วงแจน่ะ  ยุนไม่อยากให้แจทำงานทั้งๆที่กำลังท้อง ”

          เขาเป็นห่วงจริงๆนะไม่อยากให้แจจุงไปทำงานทั้งที่กำลังท้องร่างสูงกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายต่อแจจุงและลูกในท้อง  ยิ่งคุณหมอบอกว่าช่วงนี้คุณแม่จะแพ้ท้องหนักยุนโฮยิ่งเป็นห่วงกลัวว่าแจ
    จุงจะไปเป็นลมเป็นแล้งอยู่ที่ร้าน


         “ แต่มันก็ไม่ใช่งานหนักอะไรนี่นา ”

         “ แต่มันนก็ต้องเดินตลอดไม่ใช่เหรอ  แล้วอีกอย่างงานแจก็เลิกดึกด้วยแล้วแบบนี้แจจะพักผ่อนพอเหรอ ”

         กว่างานจะเลิกก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้วไหนจะต้องกลับมาทำรายงานส่งอาจารย์อีกกว่าจะได้นอนบางวันก็ล่วงเลยเข้าวันใหม่ไปหลายชั่วโมง  แล้วแบบนี้แจจุงกับลูกจะพักผ่อนเพียงพอได้ยังไงล่ะ

         “ ถ้าไม่ทำแล้วแจจะเอาเงินที่ไหนใช้ ” ร่างบางบอกตามจริง 

         เพราะก่อนออกจากโรงพยาบาลแจจุงบอกกับยุนโฮว่าจะลาออกจากการเป็นนักเรียนทุนเพราะเขาคิดว่าเขาทำตัวไม่เหมาะสมไม่สมควรที่จะได้รับทุนนั้นอีกต่อไป   ส่วนทุนที่ผ่านมานั้นแจจุงก็พอจะมีเงินเก็บไปใช้คืนให้แกรัฐบาลได้

         ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าหากแจจุงยังอยากเรียนต่อไปร่างบางต้องออกค่าใช้จ่ายเองแต่ยุนโฮมาบอกให้เขาเลิกทำงานแล้วแบบนี้เขาจะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอมล่ะไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีก

         “ แจก็ใช้กับยุนไง ” บอกด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่เห็นจะยากเลยเดี๋ยวเขารับผิดชอบเองเลี้ยงลูกกับเมียแค่นี้สบายมากสำหรับยุนโฮ

         “ แจทำแบบนั้นไม่ได้หรอก.......ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าแจเอาเปรียบยุนน่ะสิ ” ถึงจะรู้ว่ายุนโฮเต็มใจทำแต่แจจุงก็ไม่อยากเอาเปรียบคนรักเพราะถึงอย่างไรยุนโฮก็ยังต้องขอเงินจากทางบ้าน

          “ แจไม่ได้เอาเปรียบยุนซะหน่อย   สามีดูแลภรรยากับลูกมันก็เป็นเรื่องปกตินี่นา ”

          “ ใครเป็นภรรยายุน ” ใบหน้าขาวใสขึ้นสีชมพูระเรื่อด้วยความเขินกับคำว่าสามีภรรยาที่ร่างสูงใช้เรียก

          “ จะเป็นใครที่ไปได้นอกจากคนสวยๆที่ยืนหน้าแดงอยู่ตรงหน้า ” เสียงทุ้มเอ่ยเย้าคนตัวเล็กก่อนจะรั้งให้ลงมานั่งบนตัก

          “ บ้า ! ” ใบหน้าสวยก้มต่ำซ่อนความเขินเอาไว้ก่อนจะหันมามองค้อนคนที่ฉวยโอกาสกับแก้มของตัวเอง   

         “ เลิกทำงานเถอะนะ  ถือว่ายุนกับลูกขอ ” คางแหลมวางเกยไว้บนไหล่มนก่อนจะขอร้องอีกครั้ง

          “ ............................ ” ไม่มีคำตอบออกมาจากปากอิ่ม  แจจุงนั่งนิ่งๆอย่างคนกำลังใช้ความคิด   ไม่ใช่ว่าเขาไม่ห่วงสุขภาพของตัวเองกับลูกแต่เขาก็ไม่อยากเอาเปรียบยุนโฮเหมือนกัน

          “ งั้นถือว่าเป็นค่าจ้างก็ได้ ”

           “ ค่าจ้างอะไรอ่ะ ” คิ้วเรียวขมวดนิดๆด้วยความไม่เข้าใจ

           “ ค่าจ้างที่ยุนให้แจลาออกจากร้านแล้วมาทำงานกับยุนไง ทำงานเป็นแม่ของลูกยุน หน้าที่ของแจคือดูแลตัวเองและก็เจ้าตัวเล็กในท้องให้ดีที่สุด  งานแค่นี้แจทำได้ไหม ”

          “ ถึงยุนไม่จ้างแจก็ทำอยู่แล้ว ลูกยุนคนเดียวซะที่ไหนล่ะลูกแจด้วยต่างหาก” ร่างบางย่นจมูกใส่คนช่างคิด  ถึงยุนโฮไม่จ้างเขาก็ต้องทำอยู่แล้วเพราะมันเป็นหน้าที่ของคนเป็นแม่นี่นา

          “ ตกลงว่าแจเลิกทำงานแล้วใช่ไหม ” เสียงทุ้มเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจว่าแจจุงตกลงที่ไม่ไปทำงานที่ร้านแล้ว

          “ อืม....เพื่อลูกแจเลิกทำก็ได้ ” พยักหน้ารับเบาๆ เพื่อลูกแจจุงจะยอมมาเป็นลูกจ้างของยุนโฮก็ได้

          “ ยุนขอแบบนี้  แจไม่โกรธยุนใช่ไหม ”

          ยุนโฮรู้ว่าแจจุงลำบากใจเพราะแจจุงผูกพันธ์กับคนที่ร้านมากเรียกได้ว่าแทบจะเป็นครอบครัวเดียวกันเลยก็ว่าได้   แต่เพื่อสุขภาพของแจจุงกับลูกแล้วยุนโฮจึงยอมให้แจจุงทำงานต่อไปไม่ได้  ถึงแม้ว่าการทำแบบนี้มันอาจจะเสี่ยงที่จะโดนแจจุงไม่พอใจก็ตาม

          “ ไม่โกรธหรอก..... แจรู้ว่ายุนเป็นห่วง” หันกลับไปบอกพร้อมรอยยิ้มบอกว่าเขาไม่โกรธยุนโฮหรอก

          แจจุงจะโกรธยุนโฮทำไมในเมื่อทุกอย่างที่ยุนโฮทำลงไปก็เพื่อเขากับลูกทั้งนั้น  แจจุงก็แค่ใจหายเพราะทำงานที่นั่นมาเป็นปีแต่จู่ๆก็จะไม่ได้ทำซะแลล้ว   “ แต่ว่าเราต้องไปบอกพี่จุนฮีก่อนนะ ”

          “ ได้สิ....เดี๋ยวยุนพาไป แต่ก่อนไปขอกอดต่ออีกนิดนะ ” แขนแกร่งที่กอดรอบเอวบางเอาไว้หลวมๆค่อยๆเลื่อนขึ้นมาก่อนจะไปประสานกันที่หน้าท้องแบน  เพื่อส่งผ่านความรักไปให้อีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในนั้น

     


     

    .........................................................

     



     

              “ มาแล้วเหรอแจจุง  วันนี้มาช้านะ ” ฮยอนจุงที่พึ่งรับออเดอร์จากลูกค้าเสร็จเอ่ยทักเมื่อเห็นแจจุงกับยุนโฮเดินเข้ามา   ก่อนจะแกล้งทำเป็นตำหนิร่างบางแล้วหันไปทักทายร่างสูงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆแจจุง “  ที่เดิมหรือเปล่ายยุนโฮ ”

            ยุนโฮหัวเราะออกมาเบาๆร่างสูงได้แต่ก้มหน้ารับคำแซวนั่น  จะปฏิเสธก็ไม่ได้เพราะเขามาบ่อยจนมีที่ประจำเป็นของตัวเองแล้วจริงๆ

           “ ครับที่เดิม  แต่วันนี้ขอเป็นสองที่นะ

           “ พี่จุนฮีอยู่ไหนเหรอฮยอนจุง ” ร่างบางถามหาผู้จัดการร้านเพราะเขากับยุนโฮมีเรื่องสำคัญจะขอคุยด้วย

          “ อยู่ในห้องน่ะ ”

          “ เหรอ....งั้นเดี๋ยวฉันกับยุนโฮขอตัวไปหาพี่เขาก่อนนะ ” ร่างบางพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะหันไปพูดกับคนรัก

           “ ไปกันเถอะยุน ”




           เสียงเคาะประตูทำให้ชายร่างท้วมที่นั่งอยู่ภายในห้องต้องละสายตาจากงานในมือก่อนจะเอ่ยอนุญาตให้เข้ามาได้

          “ ขอโทษนะฮะ  ผมมากวนพี่หรือเปล่า ” แจจุงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจเมื่อเห็นจุนฮีกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางกองเอกสารมากมาย

          “ เปล่าหรอก  ว่าแต่นายมีอะไรหรือเปล่าถึงได้เข้ามาหาพี่ที่นี่ ” จุนฮีผายมือบอกให้นั่งคู่นั่งลงที่เก้าอี้

           “ คือว่า...ผมมีเรื่องจะมาบอกพี่น่ะฮะ ”

          “ เรื่องอะไรเหรอ...หรือว่าพวกนายจะมาบอกข่าวดี  ” จุนฮีพูดติดตลก   ก็แหม...เห็นรักกันดีแบบนี้เขาก็อดที่จะเชียร์ให้ทั้งคู่รีบๆแต่งงานกันไม่ได้ถึงแม้จะรู้ว่ามันคงไม่ใช่ภายในปีสองปีนี้แน่นอนก็เถอะเพราะทั้งยุนโฮกับแจจุงยังเรียนอยู่ด้วยกันทั้งคู่

          แจจุงหันไปสบตายุนโฮก่อนที่ร่างสูงจะพยักหน้าบอกว่าให้พูดต่อได้เลย   ปากอิ่มยกยิ้มนิดๆก่อนจะหันไปบอกผู้จัดการร้าน

         “ ฮะ....ผมมีข่าวดีจะมาบอกกพี่ ”

         “ อย่าบอกนะว่า.......... ”  ตาตี่ๆเบิกกว้างอย่าบอกนะว่าจะแต่งงานกันจริงๆเมื่อกี๊เขาแค่พูดเล่นเฉยๆนะแต่สองคนนี้จะทำจริงเหรอเนี่ย

         “ ผมท้องฮะ ” บอกด้วยน้ำเสียงเขินๆก่อนจะหันไปยิ้มให้คนข้างกายเมื่อยุนโฮเอื้อมมือมากุมมือเขาเอาไว้

         กาแฟในปากของจุนฮีแทบจะพุ่งใส่หน้ารุ่นน้องทั้งสองหลังจากที่แจจุงพูดจบ  เมื่อกี๊แจจุง บอกว่าไงนะ  แจจุงท้องงั้นเหรอ !

         “ นายไม่ได้ล้อพี่เล่นใช่ไหม ” เอ่ยถามเสียงดังด้วยน้ำเสียงตกใจ

          “ ฮะ....วันนี้ผมไปหาหมอมาหมอบอกว่าผมท้องได้เดือนกว่าแล้ว ” ปากอิ่มเอ่ยบอกยิ้มๆมือบางยกขึ้นมาจับที่หน้าท้องของตัวเองเบาๆ

         จุนฮีนิ่งไปสักพักเพราะตอนนี้เขากำลังช็อคทั้งช็อคทั้งอึ้งไม่คิดว่าเจ้าสองคนนี้จะจริงจังถึงขนาดปล่อยให้ท้องได้   ก่อนที่ใบหน้าคมจะคล่อยๆคลี่ยิ้มออกมาเมื่อหายช็อค บ้างแล้ว

         “ จริงเหรอ....พี่ดีใจด้วยนะ ” แสดงความยินดีอย่างจริงใจ 

         “ ขอบคุณฮะ ” ยุนโฮกับแจจุงโค้งศรีษะลงเล็กน้อยเป็นการขอบคุณก่อนที่ร่างบางจะเอ่ยเรื่องสำคัญอีกเรื่อง

         “ เอ่อ....ผมมีเรื่องจะบอกพี่อีกเรื่องฮะ

         “ หืม.... ”

         “ คือผมจะมาบอกพี่ว่าผมจะขอลาออกน่ะฮะ ” บอกเสียงเบา

         “ ลาออกเหรอ? ”

         “ ฮะ .....ผมต้องขอโทษด้วยนะฮะที่มาลาออกกลางคันแบบนี้ ” บอกด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเพราะช่วงนี้ทางร้านกำลังขาดพนักงานแล้วเขายังมาลาออกไปอีก


         “ ไม่เป็นไร...ไม่ต้องคิดมากหรอก ” จุนฮีบอกให้แจจุงสบายใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงรู้สึกผิดของร่างบาง  “ นายทำถูกแล้วเพราะสิ่งที่นายต้องทำมากที่สุดในตอนนี้คือดูแลตัวเองกับลูกในท้อง ”

           “ ขอบคุณฮะพี่  ขอบคุณที่พี่เขาใจผม 

           จุนฮีพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเอ่ยกำชับให้แจจุงแวะมาเยี่ยมที่ร้านบ้าง“ ถ้าวันไหนว่างก็พาหลานแวะมาหาลุงๆบ้างนะ ”

             ผมต้องพามาแน่นอนครับ  ” ยุนโฮรับคำยิ้มๆ

           ยุนโฮคิดว่าอยู่บ้านเฉยๆแจจุงคงเบื่อเขาเลยตั้งใจว่าจะพาแจจุงมาร้านนี้บ่อยๆเพราะอย่างน้อยถ้ามานี่แจจุงก็มีพวกพี่จุนโฮกับพี่ยงฮวาที่คอยแกล้งเป็นประจำมันคงทำให้แจจุงไม่รู้สึกเบื่อมากเท่าไหร่

          “ แล้วเรื่องเรียนล่ะ  นายจะทำยังไงต่อไป ” เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะจุนฮีรู้ว่าแจจุงเป็นเด็กทุน  เขากลัวว่าถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูของทางรัฐบาลแจจุงอาจโดนถอดออกจากการเป็นเด็กทุนได้

         “ พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปทำเรื่องคืนทุนให้รัฐบาลฮะ  แล้วก็คงได้จ่ายค่าชดเชยให้เขา ”แจจุงบอกถึงแผนการที่เขากับยุนโฮวางเอาไว้

         “ งั้นแปลว่านายจะไม่เรียนต่อ? ”

          “ เปล่าฮะ  ผมว่าจะเรียนแบบออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ตน่ะฮะ พอถึงเวลาก็ไปสอบ ”

         ถือว่าเป็นโชคดีของแจจุงที่ทางมหาวิทยาลัยมีถ่ายทอดสดการบรรยายในชั้นเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตแจจุงเลยคิดว่าจะนั่งเรียนอยู่ที่บ้านเพราะร่างบางตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกเอง  ซึ่งยุนโฮก็เห็นด้วยเพราะไม่มีใครดูแลลูกเราได้ดีเท่ากับคนเป็นพ่อเป็นแม่หรอก

           “ แบบนี้ก็เหนื่อยหน่อยนะ

           “ ฮะ  เหนื่อยหน่อยแต่ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ” ในเมื่อตัวเองเป็นคนเลือกให้มันเดินไปในทิศทางแบบนี้ก็ต้องยอมรับและต้องทำมันให้ได้

           “ แล้วนี่บอกเรื่องนี้กับพวกลุงๆด้านนอกหรือยังล่ะ ” จุนฮีหมายถึงพนักงานในร้านคนอื่นๆ

         “ ยังเลยฮะ  มาถึงก็บอกพี่คนแรกเลยตั้งใจว่าเดี๋ยวออกไปก็จะไปบอกเหมือนกัน

          “ เตรียมตัวรับคำแซวให้ดีล่ะกัน ” จุนฮีบอกติดตลก  แต่เชื่อเถอะว่าสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี๊มันจะต้องเกิดขึ้นจริง

          และก็เป็นจริงอย่างที่จุนฮีพูดจริงๆเพราะทันที่แจจุงเดินกลับมานั่งโต๊ะที่จองเอาไว้จุนโฮก็เดินเข้าถามด้วยความสงสัยพร้อมกับเตรียมคำพูดที่จะมาแขวะคนอู้งานแล้วมานั่งสวีทกับแฟน

          “ อู้งานนะเรา ” ทันทีเดินมาถึงก็จิกหวังจะให้แจจุงได้เขิน  จุนโฮโค้งรับเบาๆเมื่อเห็นว่ายุนโฮโค้งให้ “ อู้งานมานั่งกับแฟนแบบนี้เดี๋ยวก็บอกพี่จุนฮีหักเงินเดือนซะเลยดีมั๊ย ”

         “ เชิญบอกเลย  ผมไม่กลัวหรอก ” จมูกรั้นย่นใส่คนที่ตนเองนับถือเหมือนพี่ชาย

         “ แน่ะ  ไม่กลัวซะด้วย ”  เอ่ยพร้อมกับยิ้มขำ  ใช่สิ....มีแฟนรวยโดนหักเงินเดือนแค่นี้แจจุงไม่เดือดร้อนหรอก “ ว่าแต่วันนี้เราไม่ทำงานเหรอ ” จุนโฮเอ่ยถามดีๆ

         เพราะตอนนี้ก็เลยเวลาเริ่มงานมาชั่วโมงกว่าแล้วแต่แจจุงยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยแถมยังไม่ได้มีท่าทีเร่งรีบอะไรด้วย

         “ ไม่ฮะ.....ผมลาออกแล้ว ” แจจุงบอกยิ้มๆ เสียงใสหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของจุนโฮ

          “ ลาออก...ลาออกทำไมอ่ะ ” จากที่ยืนคุยจุนโฮก็หันไปลากเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งคุยเป็นเรื่องเป็นราวก่อนจะได้รับสายตาล้อเลียนจากแจจุงว่า  ว่าแต่ผมอู้งานพี่ก็อู้เหมือนกันแหละ

         จุนโฮไม่สนใจกับสายตาล้อเลียนนั่นเพราะตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจคือทำไมแจจุงถึงต้องลาออกหรือว่าแจจุงรำคาญที่โดนพวกเขาแกล้งบ่อยๆ

         “ ผมเป็นคนขอให้แจลาออกเองล่ะครับ ” ยุนโฮเป็นคนตอบเมื่อเห็นจุนโฮมองเขากับแจจุงสลับกันไปมา

          “ ทำไมจู่ๆถึงได้ลาออกล่ะ....นายไม่ชอบที่พวกพี่แกล้งนายเหรอ?

          “ เปล่าฮะ..... ” แจจุงรีบปฏิเสธ  เพราะถ้าเขาจะลาออกด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้เขาคงลาออกไปตั้งนานแล้วล่ะ “ ผมมีความสุขนะเวลาที่มาทำงานแต่ว่า....... ” แจจุงหยุดเอาไว้แค่นั้น  ใบหน้าสวยขึ้นสีนิดๆที่ต้องบอกคนอื่นเรื่องที่ตัวเองกำลังท้อง

         ร่างบางพยักเพยิดให้ยุนโฮเป็นคนบอก   ซึ่งยุนโฮก็พอจะรู้ว่าแจจุงกำลังเขินอยู่ร่างบางก้มหน้าเพราะรู้ว่าถ้าหากเขาพูดออกไปแล้วจุนโฮต้องมองพวกเขาทั้งสองล้อๆแน่เลย

          “ ที่แจต้องลาออกเพราะว่าแจกำลังท้องน่ะครับ  ผมก็เลยอยากให้แจพักผ่อนให้เต็มที่”

          “ ท้อง.....นี่อย่าบอกนะว่าพวกนายกำลังจะมีลูกด้วยกัน ” จุนโฮถามอึ้งๆ 

           “ ฮะ.....พี่กำลังจะได้เป็นลุงแล้วนะ ” แจจุงบอกเขินๆก่อนจะเขินนักไปอีกเมื่อเจอสายตาล้อเลียนที่ส่งมาบอกว่า  ไวไฟกันจริงๆนะ

           “ ลุงเลยเหรอ ?  เรียกพี่ไม่ได้เหรอ ” ใบหน้าคมมีรอยยิ้มยินดีติดอยู่  แต่ถ้าเป็นไปได้เขาก็ยังไม่อยากเป็นลุงหรอกนะมันฟังดูแก่เกินไปเขาพึ่งอายุยี่สิบต้นๆเอง

          “ ไม่ได้หรอก....เพราะหน้าพี่ไม่ให้ ” แจจุงเอ่ยด้วยน้ำเสียงทะเล้น  ให้เรียกลุงน่ะดีแล้วลูกเขาจะได้ไม่สับสนว่าทำไมพี่ถึงได้หน้าแก่กว่าพ่อกับแม่

           จุนโฮหัวเราะในลำคอก่อนจะมองน้องชายตัวเล็กด้วยสายตาคาดโทษ  ฝากไว้ก่อนเถอะ  วันนี้ถือว่าเป็นวันดีฉันจะไม่ทำร้ายร่างกายนายสักวันก็แล้วกัน

         “ ว่าแต่ท้องได้กี่เดือนแล้วอ่ะ ”

         “ หมอบอกว่าเดือนกว่าแล้วฮะ”

         “ อืม...ดีใจด้วยนะ  พวกนายนี่ดีเนอะมีลูกทันใช้ดี ” แรกๆฟังดูเหมือนเป็นการแสดงความยินดีปกติ  แต่ทำไมท้ายประโยคยุนโฮกับแจจุงถึงได้รู้สึกว่ามันฟังดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้

          “ ขอบคุณฮะ/ ขอบคุณครับ ”

          “ เฮ้ย...สองคนนี้แอบอู้นี่หว่า ” ยงฮวาที่พึ่งเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าเสร็จตำหนิเสียงดังก่อนจะเดินมาสมทบ

          “ แกมาก็ดีแล้ว  แจจุงมีข่าวดีจะบอก ” จุนโฮบอกกับเพื่อนรัก

          คิ้วหนาขมวดนิดๆ “ ข่าวดี? ข่าวดีอะไร  นายเปลี่ยนแซ่แล้วเหรอ ” ยงฮวาถามด้วยสีหน้างงๆหากแต่ท้ายประโยคก็ยังไม่วายเอาเรื่องแซ่มาล้อ

         “ ข่าวดียิ่งกว่าเปลี่ยนแซ่อีกครับ..... ” ยุนโฮบอกยิ้มๆ  นั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ยุนโฮอยากจะให้มันเกิดขึ้นจริงๆ “ แจจุงท้องได้เดือนกว่าแล้วครับ ” ก่อนที่จะบอกข่าวดีให้พี่คนสนิทอีกคนได้รู้

         “ เฮ้ย  จริงดิ ” ยงฮวาอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจเล็กๆ

          ยงฮวาไม่ได้ตกใจที่รู้ว่าแจจุงท้องเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าสักวันมันต้องมีวันนั้นก็เล่นรักกันขนาดนี้เรื่องอย่างว่ามันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา   แต่ที่เขาตกใจก็คือไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้เพราะยุนโฮกับแจจุงพึ่งจะยี่สิบเอง

          “ จริงฮะ...พี่เตรียมซื้อของรับขวัญหลานด้วยนะ ” แจจุงบอกอารมณ์ดี  คอยดูนะพอเขาคลอดเขาจะอุ้มลูกมาทวงของขวัญจากลุงๆเรียงตัวเลย

            “ เรื่องนั้นไม่มีปัญหา.....ว่าแต่ทำไมมันถึงง่ายดายจังอ่ะ ” ยงฮวาเอ่ยถามตรงๆ คนจะมีลูกมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ

           “ เห็นคุณหมอบอกว่าอายุช่วงยี่สิบปีถึงสามสิบปีมันอยู่ในวัยเจริญพันธุ์น่ะครับก็เลยมีโอกาสท้องมากกว่าคนที่ที่มีช่วงอายุมากกว่านี้ ” ยุนโฮบอก 

           เขาเองก็สงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกันเพราะเขากับแจจุงก็ป้องกันตลอดแต่ก็มีบางครั้งที่ลืมไปบ้างแต่ก็ถือว่าน้อยมาก  วันนี้หลังจากที่แจจุงหลับไปอีกรอบเขาก็เลยไปขอคำอธิบายจากคุณหมอ

         “ ถ้างั้น  ฉันก็ต้องรีบหาแฟนน่ะสิเดี๋ยวจะเลยวัยเจริญพันธุ์ซะก่อน ” ยงฮวาพูดติดตลกเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนในโต๊ะได้เป็นอย่างนี้

          “ แล้วแบบนี้นายจะยังทำงานต่อไปไหม ”

          “ ไม่ฮะ.....ผมลาออกแล้ว ” ตอบเสียงใสก่อนจะตักอาหารเข้าปาก

          “ เหรอ.....นายไม่อยู่แบบนี้แล้วพี่จะแกล้งใครล่ะ ” ยงฮวาบ่นเสียดายเพราะแกล้งใครก็ไม่สนุกเท่าแจจุง

          “ นายลืมไปแล้วเหรอว่าเรายังมีฮยอนจุงอยู่ทั้งคน ” จุนโฮสะกิดบอกเพื่อนก่อนที่ทั้งสองจะมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา  และเหมือนยงฮวาจะนึกขึ้นมาได้

          ใช่เลย.....เขาลืมเหยื่อเบอร์สองอย่างฮยอนจุงไปได้ยังไงเนี่ย

          เพราะด้วยนิสัยที่คล้ายๆกับแจจุงที่ไม่เคยโกรธใครจริงจังซะทีเลยทำให้ฮยอนจุงตกเป็นเป้าหมายของรุ่นพี่ขี้แกล้งสองคนนี้อย่างช่วยไม่ได้   แล้วยิ่งมีเรื่องของสาวที่แอบชอบเข้ามาอีกเลยทำให้จุนโฮกับยงฮวาล้อกันสนุกปากเลยล่ะ

          ซึ่งแจจุงเองก็ไม่ยอมพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไปเช่นกันเพราะนานๆทีตัวเองจะเป็นฝ่ายแกล้งบ้างก็ต้องเอาให้คุ้ม   ร่างบางหยิบเอาเรื่องที่เขาเจอฮยอนจุงอยู่ที่ซุปเปอร์มาเก็ตวันนั้นมาเล่า   และทุกคนก็ให้ข้อสรุปว่าวันนั้นฮยอนจุงต้องไปแอบดูหญิงสาวคนนั้นแน่ๆ

          แต่ก่อนที่จะได้คุยกันไปมากกว่านี้เสียงเรียบๆของจุนฮีก็ดังขึ้นส่งผลให้ทั้งจุนโฮและยงฮวาต้องรีบสลายตัวกันอย่างรวดเร็ว

          “ สองคนนั่นจะกินแรงคนอื่นอีกนานไหม !

           สิ้นเสียงเรียบๆแต่เต็มไปด้วยอำนาจยงฮวากับจุนโฮก็พร้อมใจหันไปดูด้านหลังและเมื่อพบว่าเป็นใครสองขาก็ไม่รีรอที่จะพาเจ้านายวิ่งออกไปจากโต๊ะทันทีท่ามกลางการส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจของจุนฮี

          แจจุงกับยุนโฮหลุดขำให้กับอาการลุกลี้ลุกลนของสองรุ่นพี่ผู้ยิ่งใหญ่ที่ตอนนี้วิ่งไปคนละทิศละทาง   พี่จุนโฮกับพี่ยงฮวาอายุมากสุดในบรรดาพนักงานก็จริงแต่ถ้าจะนับรวมทุกคนในร้านแล้วล่ะก็คนที่อายุมากที่สุดคือพี่จุนฮีต่างหากล่ะ



         

    ................................................................

     



     

            “ ยังไม่นอนเหรอแจ ” ร่างสูงที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำเอ่ยถามคนรักที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง

           แจจุงเงยหน้าขึ้นจากหนังสือแล้วตอบคำถามคนรัก “ อ่านหนังสืออยู่น่ะ ”     อีกไม่กี่วันก็จะสอบแล้วแจจุงเลยต้องอ่านหนังสือหนักกว่าเดิม

           ยุนโฮจัดการตากผ้าเช็ดตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเดินกลับมาที่เตียง   ตาคมเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้างหัวเตียงก่อนที่ค่อยๆนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆแจจุง

          “ แต่นี่มันสี่ทุ่มกว่าแล้วนะ  ยุนว่าแจควรจะนอนได้แล้ว ” บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะดึงหนังสือออกจากมือบาง

          “ ปกติแจนอนดึกกว่านี้อีก ”  ถ้าเป็นแต่ก่อนตอนนี้เขายังทำงานอยู่ที่ร้านอยู่เลย

           “ แจอย่าลืมสิว่าตอนนี้แจไม่ปกติแล้วนะ  ถ้าแจไม่นอนแล้วลูกจะพักผ่อนได้ยังไงล่ะ ” ร่างสูงเตือน

           เพราะดูเหมือนว่าแจจุงจะลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองร่างกายไม่เป็นปกติเหมือนเมื่อก่อน  ยุนโฮจึงต้องคอยเตือนเป็นระยะ   และคงจะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่แจจุงจะปรับตัวได้

          “ แต่ว่า.... ” ตากลมมองไปยังหนังสือที่ยุนโฮวางไว้ข้างเตียง  แต่ว่าเขายังอ่านหนังสือไม่จบเลยนะแล้วนี่มันก็ใกล้ถึงวันสอบแล้วด้วย

         เหมือนยุนโฮจะรู้ว่าแจจุงกำลังคิดอะไรเพราะตั้งแต่คบกันมาเวลาใกล้สอบทุกครั้งแจจุงมักจะซีเรียสและอ่านหนังสืออย่างหนักทุกครั้ง    แต่ครั้งนี้ยุนโฮคงยอมให้แจจุงทำเหมือนเดิมไม่ได้แล้วล่ะเพราะมันจะไม่เป็นผลดีต่อแจจุงและลูกมือหนายกขึ้นมาลูบหัวเล็กเบาๆ 

          “ เอาไว้อ่านตอนกลางวันก็ได้  แจอยู่บ้านทั้งวันไม่ใช่เหรอ ”

          “ แต่ว่าแจยังไม่ง่วงเลยนะ ” เพราะนอนดึกจนชินเลยทำให้ตอนนี้แจจุงไม่ง่วงนอนเลยสักนิด

         “ นอนๆไปเดี๋ยวก็ง่วงเลยแหละ ” แขนหนารั้งร่างเล็กให้ลงไปนอนราบกับเตียงพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้

          “ ยุนก็นอนด้วยกันสิ ” เสียงหวานเอ่ยอ้อนๆ ถ้าจะนอนยุนโฮก็ต้องนอนด้วยกันเพราะเขาไม่มีทางนอนดึกคนเดียวแน่นอน

          “ ได้สิ   แต่รอแป๊บนึงนะเดี๋ยวยุนปิดไฟก่อน ”

          ร่างสูงเดินไปปิดไฟก่อนจะกลับมานอนเป็นเพื่อนแจจุง   อันที่จริงเขาก็ยังไม่ง่วงเท่าไหร่แต่ก็จะพยายามข่มตาให้หลับ    แขนแข็งแรงรั้งกายบางเข้ามากอดก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผากมนเบาๆ

           “ ฝันดีนะครับที่รัก ”











    ***** หนังสือจะจัดส่งวันที่ 10 พ.ค. นะค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×