คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #98 : ~ Happy Family 2 ~ # 3
แจจุงต้องแปลกใจเมื่อเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้วพบว่าลูกหมีคนโตกำลังนั่งทำหน้ามุ่ยเอามือกอดอกอยู่ข้างๆน้องสาวที่นั่งเล่นตุ๊กตาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มต่างจากสีหน้าของคนเป็นพี่สุดขั้ว นับตั้งแต่วันที่เยอึนลืมตาดูโลกจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาปีกว่าแล้วสินะที่หนูน้อยได้เข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านหลังนี้
“ มุนบินทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก ” คุณแม่คนสวยถามยิ้มๆไม่ว่ามุนบินจะทำหน้าตาแบบไหนในสายตาของแจจุงแล้วมันน่ารักไปหมดจริงๆ
“ ก็น้องน่ะสิคุณแม่ ” เคลื่อนตัวขึ้นไปนั่งบนตักทันทีที่เห็นว่าคุณแม่คนสวยนั่งลงข้างๆปากเล็กเอ่ยฟ้องก่อนที่ใบหน้าน่ารักจะมุ่ยลงกว่าเดิม
และทันทีที่ได้ยินคำว่าคุณแม่หนูน้อยเยอึนก็ชะงักมือที่กำลังหวีผมให้ตุ๊กตาแล้วหันไปมองตามเสียงปากเล็กคลี่ยิ้มโชว์ฟันที่มีไม่กี่ซี่ก่อนจะวางตุ๊กตาลงแล้วคลานดุ๊กดิ๊กขึ้นไปนั่งบนตักอีกข้างที่ว่างของคนเป็นแม่
“ คุงแม่ ”
“ ว่าไงค่ะคนสวย หนูแกล้งอะไรพี่ชายเอ่ย ” แขนเรียวกอดลูกรักทั้งสองเอาไว้คนละข้างก่อนจะบรรจงหอมแก้มยุ้ยๆนั้นคนละทีด้วยความหมั่นเขี้ยวพี่น้องคู่นี้ไม่รู้ว่าจะน่ารักกันไปถึงไหน
“ ปี้หมี...คิคิ ” เสียงเล็กๆที่ยังออกเสียงได้ไม่ชัดเรียกพี่ชายตัวเองอารมณ์ดี
“ พี่ชายต่างหาก... ” มุนบินหน้ามุ่ยก่อนจะบอกให้น้องสาวเรียกตัวเองใหม่พร้อมกับเอ่ยฟ้องมารดาด้วยสีหน้าขัดใจ
“ คุณแม่น้องไม่ยอมเรียกหนูว่าพี่ชายอ่ะ ”
คุณพ่อบอกว่ามุนบินเป็นพี่ชายเพราะฉะนั้นน้องต้องเรียกมุนบินว่าพี่ชายสิแต่ทำไมตั้งแต่น้องพูดได้น้องถึงไม่ยอมเรียกมุนบินว่าพี่ชายล่ะทั้งๆที่มุนบินพยายามสอนน้องตั้งหลายครั้ง น้องเอาแต่เรียกมุนบินว่าพี่หมีๆตามอาชางมินอยู่นั่นแหละ มุนบินเป็นพี่ชายนะไม่ใช่พี่หมีพี่หมีนอนอยู่บนห้องโน้น
แจจุงแทบจะหลุดขำเมื่อพอจะเดาออกว่ามุนบินอารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไรคงจะอยากให้น้องสาวเรียกตัวเองว่าพี่ชายแต่น้องไม่ยอมเรียกสินะ แต่จะว่าไปแล้วคุณแม่ว่าเรียกพี่หมีก็น่ารักดีเหมือนกันนะเพราะหนูมีคุณพ่อเป็นหมีหนูก็เลยต้องเป็นลูกหมีพอหนูมีน้องหนูก็ต้องกลายเป็นพี่หมีน่ะถูกแล้ว
“ คุณแม่ว่าเรียกพี่หมีก็น่ารักดีเหมือนกันนะลูก ” เสียงหวานเอ่ยเย้าลูกชาย
“ แต่หนูไม่ใช่หมีน๊า ” ปากเล็กอมลมเข้าจนเต็มแก้ม คุณแม่อ่ะนอกจากจะไม่ช่วยมุนบินแล้วคุณแม่ยังเห็นดีเห็นงามกับน้องอีกเหรอ
“ หนูไม่ใช่หมี แต่คุณพ่อหนูเป็นหมีหนูก็เลยต้องเป็นลูกหมีไงครับ ” แจจุงบอกลูกชายกลั้วเสียงหัวเราะดีจังเลยพูดกับลูกแต่กระทบพ่อด้วย
มุนบินทำหน้าคิดตามคำพูดของคุณแม่ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างออกมาเมื่อสมองน้อยๆคิดอะไรขึ้นมาได้ “ งั้นน้องก็ต้องเป็นลูกหมีเหมือนกัน ” ใบหน้าน่ารักยกยิ้มมีความสุข
ในเมื่อมุนบินเป็นลูกของคุณพ่อแล้วมุนบินเป็นลูกหมีน้องก็ต้องเป็นลูกหมีเหมือนกันน่ะสิเพราะน้องก็เป็นลูกของคุณพ่อเหมือนกันนี่นา
“ ใช่ครับ....เป็นลูกหมีทั้งสองคนเลย ”
“ งั้นหนูก็จะเรียกน้องว่าน้องหมีเหมือนกัน คิกคิก ” สามแม่ลูกนั่งหัวเราะคิกคักอยู่ในห้องนั่งเล่นไม่ได้รับรู้เลยว่าพ่อหมีที่ถูกพูดถึงนั้นเข้ามาในห้องตั้งนานแล้ว
ยุนโฮยืนอยู่หน้าประตูตั้งแต่ตอนที่มุนบินงอนน้องสาวว่าไม่ยอมเรียกตัวเองว่าพี่ชายแล้วล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าเขาได้ยินทุกประโยคที่สามแม่ลูกพาดพิงถึงตัวเอง หน้าคมส่ายไปมาพร้อมกับยิ้มขบขันบอกลูกว่ามีพ่อเป็นหมีก็เลยต้องเป็นลูกหมีแล้วแม่หมีได้บอกตัวเองหรือเปล่าว่ามีสามีเป็นหมีตัวเองก็เลยต้องเป็นเมียหมีเหมือนกัน
“ อะแฮ่มๆ ” เสียงทุ้มแกล้งกระแอมดังๆเพื่อทำให้สามแม่ลูกรับรู้ถึงการมีตัวตนของเขาและก็ได้ผลเมื่อสายตาสามคู่หันมามองแทบจะพร้อมกัน “ ทำอะไรอยู่ครับแม่ลูก ” โทนเสียงอบอุ่นถูกเอ่ยออกมาพร้อมกับขายาวที่เดินเข้ามาใกล้
“ คุณพ่อ... ” มุนบินเรียกพ่อตัวเองเสียงดัง
“ คุงป้อ ” เจ้าตัวเล็กก็ไม่ยอมน้อยหน้าเห็นพี่เรียกก็เรียกบ้าง
“ ครับผม ” ขานรับพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น แขนแกร่งกางออกเพื่อรอรับลูกหมีคนโตที่ลุกจากตักแจจุงแล้วพุ่งตรงมาที่พ่อหมี “ พร้อมหรือยังครับนักเรียนใหม่ ” มือหนาปัดผมลูกชายให้เข้าทรง
“ พร้อมแล้วครับ ” ตอบรับเสียงใส
“ ถ้าพร้อมแล้วเราไปกันเลยมั๊ย ” อุ้มลูกชายลุกขึ้นด้วยแขนข้างเดียวก่อนจะยื่นอีกข้างที่ว่างไปรับตัวลูกสาวที่ดิ้นอยากให้คุณพ่ออุ้มเหมือนกัน
“ ยุนสั่งงานเสร็จแล้วเหรอ ” เสียงหวานเอ่ยถามขณะส่งตัวเยอึนให้ยุนโฮอุ้ม
เพราะวันนี้เป็นวันแรกของการเข้าเรียนชั้นอนุบาลของมุนบิน วันนี้ยุนโฮจึงไม่เข้าบริษัทหนึ่งวันเพื่อที่จะไปส่งลูกชายเข้าเรียนวันแรก แต่เพราะมีงานบางอย่างค้างอยู่ยุนโฮจึงต้องโทรไปสั่งงานกับเลขาส่วนตัวเอาไว้เพราะวันแรกของการไปโรงเรียนของมุนบินยุนโฮอยากจะทำหน้าที่พ่อที่ดีด้วยการด้วยการไปรับไปส่งลูกชายด้วยตัวเอง ส่วนวันอื่นๆยุนโฮตกลงกับแจจุงเอาไว้แล้วว่าตอนเช้าร่างสูงจะเป็นคนไปส่งมุนบินเองแต่ตอนเย็นแจจุงจะเป็นคนไปรับเพราะโรงเรียนของมุนบินนั้นเลิกก่อนเวลาเลิกงานของยุนโฮและแจจุงก็ได้หัดขับรถแล้วด้วย
ซึ่งกว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะเลือกโรงเรียนไหนให้มุนบินก็ใช้เวลานานพอสมควรเพราะต้องถามความเห็นจากหลายคนไม่ว่าจะเป็นคุณปู่ คุณย่า จุนซู ยูชอนไม่เว้นแม้กระทั่งชางมินกับยูฮวานซึ่งแน่นอนว่าโรงเรียนที่จะเลือกนั้นจะเป็นโรงเรียนของเยอึนกับชานฮีในอนาคตด้วย และเพราะทุกคนอยากให้เด็กๆได้รับในสิ่งที่ดีที่สุดทุกคนจึงมีความเห็นตรงกันว่าโรงเรียนนั้นต้องมีสภาพแวดล้อมที่ดีและมีจำนวนนักเรียนไม่มากเกินไปเพราะถ้าหากว่านักเรียนมากกว่าค่าเฉลี่ยที่ครูหนึ่งคนควรจะดูแลมันอาจจะทำให้ครูดูแลนักเรียนได้ไม่ทั่วถึง และข้อสำคัญโรงเรียนต้องไม่อยู่ไกลบ้านมากเกินไปเพราะถ้าหากเกิดอะไรขึ้นพวกเขาจะได้ไปถึงได้ทันท่วงทีและหลังจากที่ตัดสินใจเลือกกันอยู่นานในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจเลือกโรงเรียนแห่งนี้
และดูเหมือนว่าคนที่ตื่นเต้นที่สุดคงหนีไม่พ้นมุนบิน จากที่ตอนแรกไม่เข้าใจว่าไปโรงเรียนคืออะไรแต่พอแจจุงบอกว่าการไปโรงเรียนคือการได้ไปเจอเพื่อนใหม่ๆ มีเพื่อนฟังนิทานด้วยกันหลายคนและก็ช่วยกันวาดรูปแค่นั้นแหละลูกหมีก็เกิดอาการอยากไปโรงเรียนขึ้นมาทันที ดูได้จากวันที่เขากับแจจุงพาไปซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์สำหรับไปโรงเรียนพอกลับมาถึงบ้านลูกหมีก็ถามทุกวันวันละหลายรอบว่า เมื่อไหร่หนูจะได้ไปโรงเรียนซะที
“ มุนบินครับ สวัสดีคุณปู่คุณย่าก่อนลูก ” แจจุงบอกกับลูกชายเมื่อเดินออกมาแล้วพบว่าฮยอนบินกับยูนายืนยิ้มรอส่งหลานชายอยู่ที่หน้าบ้าน
“ สวัสดีครับ ” มุนบินโค้งสวัสดีคุณปู่คุณย่าเรียกรอยยิ้มจากผู้สูงวัยทั้งสองก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจกันหัวเราะเมื่อเยอึนที่เห็นพี่ชายโค้งก็โค้งด้วย
“ เป็นเด็กดีนะลูก ” ยูนาบอกหลานชายยิ้มๆก่อนจะหันไปเย้าเจ้าหญิงตัวน้อยที่มองคุณย่าหอมแก้มพี่ชายตัวเองตาแป๋ว
“ หนูก็ไปโรงเรียนกับพี่ชายด้วยเหรอค่ะ ”
“ น้องหมีไปส่งหนูเฉยๆ ” มุนบินตอบแทนน้องสาว คุณแม่บอกว่าน้องยังไปโรงเรียนกับมุนบินไม่ได้เพราะน้องยังเด็กต้องรอให้น้องโตกว่านี้ก่อนถึงจะไปได้ แต่สิ่งที่ทำให้คนเป็นปู่เป็นย่าต้องแปลกใจนั่นก็คือสรรพนามที่มุนบินใช้เรียกน้องสาวนั้นเปลี่ยนไป
“ เมื่อกี๊มุนบินเรียกน้องสาวว่าอะไรนะลูก ”
“ น้องหมีครับ ” บอกเสียงซื่อ
“ หืม.... ”
“ เพราะเยอึนเรียกมุนบินว่าพี่หมี มุนบินก็เลยเรียกเยอึนว่าน้องหมีน่ะฮะ ” แจจุงอธิบายให้พ่อกับแม่สามีเข้าใจเมื่อเห็นว่าคิ้วของผู้สูงวัยทั้งสองเริ่มขมวดเข้าหากัน
ฮยอนบินกับยูนาถึงกับหลุดหัวเราะให้กับความช่างคิดของหลานชายมุนนี่ไม่ยอมแพ้ให้ใครจริงๆสงสัยว่าคงจะได้เลือดของยุนโฮไปเยอะถึงได้ถอดแบบออกมาทุกอย่างขนาดนี้
“ ช่างคิดจริงๆนะเรา ” ฮยอนมินโยกหัวหลานชายด้วยความเอ็นดู “ สายแล้วรีบไปเถอะ ” ท้ายประโยคหันไปพูดกับยุนโฮเมื่อเห็นว่าพ่อบ้านขับรถมาจอดเรียบร้อยแล้ว
“ ครับ ” ยุนโฮโค้งให้เล็กน้อยก่อนจะหันไปถามร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆ “ กระเป๋าลูกล่ะแจ ”
“ อยู่นี่ ” มือขาวโชว์กระเป๋าโดเรมอนให้ร่างสูงดูก่อนจะหันไปพูดกับลูกชายเมื่อมุนบินบอกว่าอยากสะพายกระเป๋าเอง“ ถ้าหนูอยากสะพายหนูก็ต้องลงเดินเองนะลูก ”
“ คุณพ่อ ” ตาเรียวเล็กหันไปสบตาคนเป็นพ่อแค่มองตาก็รู้ใจยุนโฮรู้ได้ทันทีเลยว่ามุนบินต้องการอะไรร่างป้อมๆถูกวางลงบนพื้นอย่างเบามือ
ตอนนี้เด็กชายชองมุนบินในชุดนักเรียนเต็มยศพร้อมที่จะไปโรงเรียนแล้ว แจจุงจูงมือลูกชายเดินไปที่รถก่อนจะเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับซึ่งเป็นที่ประจำของมุนบิน ปากอิ่มยกยิ้มขบขันให้กับอาการตื่นเต้นที่ปิดไม่มิดของมุนบินก่อนที่แขนเรียวจะยื่นไปรับตัวเยอึนมาจากยุนโฮแล้วขึ้นไปนั่งประจำที่ของตัวเองที่เบาะหลัง
ยูนากับฮยอนบินยืนโบกมือให้หลานชายที่หันมาโบกมือพร้อมกับส่งยิ้มน่ารักมาให้ขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกไป ผู้สูงวัยทั้งสองยกยิ้มเห็นดูให้อะไรมันจะดีใจขนาดนั้นแค่ไปโรงเรียนแต่ดีใจราวกับว่าได้ไปเที่ยวยังไงยังงั้น
หวังว่าการไปโรงเรียนวันแรกของหนูมันจะผ่านไปได้ด้วยดีนะมุนบิน
............................................
“ ว่าไงครอบครัวสุขสันต์ ” ร่างหนาที่นั่งดูข่าวอยู่ในห้องรับแขกเอ่ยทักทายผู้มาเยือนด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีวันนี้ครอบครัวดีเด่นแห่งชาติมาเยี่ยมเขาถึงบ้านเลยวุ๊ย
“ พอดีว่าพึ่งไปส่งมุนบินมาก็เลยแวะมาเยี่ยม ” ยุนโฮตอบเพื่อนรัก ตาคมมองร่างที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยความแปลกใจว่าทำไมยูชอนถึงได้อยู่ในชุดแบบนี้ “ วันนี้แกไม่ไปทำงานเหรอ ”
“ ไป....แต่ว่าจะเข้าไปตอนบ่ายน่ะ ” ยูชอนพยักหน้าบอกว่าไปสิแต่เพราะวันนี้ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรเขาก็เคยคิดว่าจะเข้าไปเซ็นต์เอกสารตอนบ่ายแทน คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ “ จริงสิ....วันนี้มุนบินไปโรงเรียนวันแรกใช่มั๊ย”
“ อืม... ”
“ แล้วเป็นยังไงบ้าง ” ยูชอนยืดตัวลุกขึ้นนั่งดีๆเพื่อรอฟังคำตอบ หลานชายสุดที่รักไปโรงเรียนวันแรกทั้งทีอาอย่างเขาก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย
ถ้าเขาเดาไม่ผิดวันแรกของการไปเรียนลูกหมีที่ติดแม่อย่างมุนบินคงร้องไห้ไม่อยากไปเรียนจนโรงเรียนแทบแตกแน่ๆ แต่แล้วยูชอนก็ต้องเบิกตากว้างเพราะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเมื่อได้ฟังคำตอบจากยุนโฮ
“ ก็ดีนะ.... เข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนได้ดีทีเดียวเลยล่ะ ” เสียงทุ้มบอกยิ้มๆ เพราะหลังจากที่ส่ง
มุนบินให้คุณครูเรียบร้อยแล้วยุนโฮกับแจจุงก็แอบดูอยู่สักพักว่าลูกหมีของเขาจะเป็นอย่างไรบ้างปรากฏว่าพอคุณครูพาเดินเข้าไปในห้องลูกหมีก็ได้เพื่อนใหม่ทันทีเลย
“ ไม่ร้องไห้อยากกลับบ้านเลยเหรอ ” ยูชอนไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะเดาผิดอย่างน้อยๆมันก็ต้องมีร้องไห้บ้างล่ะ
“ ไม่นะ ”
“จริงอ่ะ ” ยูชอนถามด้วยน้ำเสียติดจะเหลือเชื่อนิดๆอย่างมุนบินเนี่ยนะจะยอมห่างพ่อกับแม่โดยที่ไม่ร้องไห้สักแอะ คิ้วหนาเลิกขึ้นถามแจจุงเพื่อถามย้ำว่าจริงเหรอ
“ อืม.... ” แจจุงบอกยิ้มๆอย่าว่าแต่ยูชอนเลยที่ผิดคาดเขากับยุนโฮที่กังวลกับเรื่องนี้มาตลอดยังผิดคาดเลยเพราะนอกจากจะไม่ร้องแล้วก่อนเข้าห้องเรียนยังหันมาโบกมือให้พวกเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสุดๆสงสัยว่าคงจะดีใจที่ได้เจอเพื่อนเยอะแยะ ตากลมก้มมองลูกสาวที่นั่งอยู่บนตักก่อนจะพูดต่อ “ แต่เป็นคนนี้ที่ร้องแทน ”
ยูชอนมองดูลูกหมีคนเล็กที่นั่งซึมอยู่บนตักของแจจุงไม่ร่าเริงเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน บนใบหน้าน่ารักนั้นมีร่องรอยที่บอกว่าเจ้าหญิงตัวน้อยของทุกคนพึ่งผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ ไหล่เล็กสะพายกระเป๋าลายโดเรมอนเอาไว้คนละข้าง กระเป๋าใบนี้ยูชอนจำได้ว่ายุนโฮเล่าให้ฟังว่าเยอึนร้องไห้อยากได้เหมือนของพี่ชาย นี่คงเห็นมุนบินสะพายไปโรงเรียนสินะถึงได้สะพายตามแบบนี้
“ อาการแบบนี้คงจะคิดถึงพี่สินะ เยอึนติดมุนบินมากนี่นา ” ยูชอนเอ่ยแซวหลานสาวยิ้มๆ ซึมแบบนี้คงจะคิดถึงพี่หมีจอมซนของตัวเองแน่ๆเพราะใครๆก็รู้ว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่พี่น้องสองคนนี้ตัวติดกันตลอดเรียกว่ามีมุนบินที่ไหนก็จะมีเยอึนที่นั่นพอพี่ชายไม่อยู่แบบนี้ก็ต้องเหงาเป็นธรรมดา
“ เพราะแบบนี้ไงฉันถึงต้องพาเยอึนมาที่นี่ เผื่อว่าชานฮีจะช่วยได้ ” ยุนโฮบอกกับเพื่อนรักมือหนาลูบหัวเล็กของลูกสาวด้วยความรักใคร่ เพราะเคยมีพี่ชายเป็นเพื่อนเล่นอยู่ทุกวันเลยทำให้เยอึนเคยชินร่างสูงจึงคิดว่าถ้าหากมีเพื่อนเล่นเยอึนของเขาคงจะหายซึมได้บ้าง
เมื่อเช้าตอนที่ไปส่งมุนบินดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยดี แต่พอขึ้นรถเท่านั้นแหละเจ้าลูกหมีคนเล็กก็หันซ้ายหันขวามองไปรอบๆรถจนกระทั่งแน่ใจแล้วว่าพี่ชายของตัวเองไม่ได้อยู่บนรถด้วยกันเสียงเล็กๆก็เรียกหาพี่ชายตัวเองทันที
“ ปี้หมี ” เสียงเล็กๆเรียกพี่ชายตัวเองดังลั่นราวกับจะบอกผู้เป็นพ่อเป็นแม่ว่า อย่าพึ่งไปน๊ารอพี่หมีก่อน
“ พี่หมีไปโรงเรียนค่ะลูก ” แจจุงบอกกับลูกสาวก่อนจะหันไปยิ้มให้ยุนโฮ
“ หา ปี้หมี ” มือเล็กๆกำเสื้อของคุณแม่คนสวยเอาไว้แน่น
“ เดี๋ยวเราค่อยมาหาพี่หมีของหนูตอนเย็นนะลูก ” ยุนโฮหันมายิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาวคนเล็ก เขาคิดว่าเขาเข้าใจความรู้สึกของเยอึนนะพี่ชายที่อยู่ด้วยกันทุกวันมาหายไปแบบนี้หนูน้อยก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา
ใบหน้าน่ารักส่ายไปมาแรงๆ “ หาปี้หมี....ปี้หมี บ้าน ” ฝังดูเผินๆอาจจะเหมือนคำพูดเอาแต่ใจของเด็กๆทั่วไปแต่ถ้าหากมองเข้าไปในดวงตากลมคู่นั้นจะพบว่ามันเต็มไปด้วยคำอ้อนวอนที่ว่า
หนูจะไปหาพี่หมี หนูจะพาพี่หมีกลับบ้านด้วยกัน
“ พี่หมียังกลับบ้านพร้อมเราตอนนี้ไม่ได้ลูก ” แจจุงพยายามปลอบและอธิบายให้ลูกสาวเข้าใจก่อนจะพยักหน้าบอกยุนโฮว่าออกรถได้ และทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกไปเสียงร้องไห้จ้าก็ดังขึ้นลั่นรถพร้อมกับใบหน้าน่ารักที่แนบไปตามกระจกรถเพื่อมองดูสถานที่ที่พี่ชายตัวเองเดินเข้าไป ปากเล็กๆนั่นก็พร่ำเรียกหาแต่พี่ชายของตัวเอง
“ ปี้หมี....หาปี้หมี ฮือ ฮือ ปี้ หมี ”
“ จริงสิ....ชานฮีกับจุนซูล่ะ ” เหมือนแจจุงจะพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่มาถึงยังไม่เจอจุนซูกับหลานชายสุดหล่อเลย
“ อาบน้ำอยู่น่ะ....เดี๋ยวก็คงลงมา ” ยูชอนบอก สงสัยว่าป่านนี้จุนซูคงจะอาบน้ำให้ชานฮีเรียบร้อยแล้วอีกสักพักก็คงจะตามลงมา
อันที่จริงยูชอนก็ไม่ได้อยากลงมาก่อนหรอกนะอยากจะอาบน้ำพร้อมลูกพร้อมเมียซะหน่อยแต่มันติดอยู่ที่ว่าจุนซูไม่ยอมให้เขาอาบด้วยนี่สิไม่รู้ว่าจะอายอะไรรุ่นนี้แล้ว
“ คุงแม่...หาปี้หมี ” หนูน้อยที่สงบไปได้สักพักเริ่มงอแงจะไปหาพี่ชายอีกครั้งเมื่อหันไปเจอตุ๊กตาหมีวางอยู่บนโซฟา หัวเล็กซุกลงบนแผ่นอกเนียนของผู้เป็นแม่เพื่ออ้อนให้ยอมทำตาม แจ
จุงยิ้มบางๆให้กับท่าทางแบบนั้นของลูกสาวดูก็รู้ว่าเหมือนใคร ก็ท่าทางแบบนี้มีมุนบินเท่านั้นแหละที่เคยทำได้นี่คงจะเห็นพี่ชายทำก็เลยทำตามสินะ
จมูกรั้นกดลงบนแก้มนุ่มก่อนจะตอบเอาใจ “ ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณแม่พาไปหาพี่หมีน๊า แต่ว่าตอนนี้เยอึนเล่นกับชานฮีรอก่อนนะลูก ”
ตากลมช้อนมองผู้เป็นแม่เป็นเชิงถามว่าจริงเหรอ ปากเล็กยกยิ้มพอใจเมื่อคุณแม่คนสวยพยักหน้ายืนยันว่าจริงนับเป็นรอยยิ้มแรกของหนูน้อยหลังจากกลับมาจากโรงเรียนของมุนบินเลยก็ว่าได้
“ ชางฮี เหยอ ”
แจจุงหัวเราะเบาๆให้กับคำพูดที่ยังออกเสียงไม่ชัดของลูกสาว นี่ไม่ทันไรหนูก็จะเปลี่ยนเชื่อให้ชานฮีแล้วเหรอลูก “ ค่ะ เล่นกับชานฮีเสร็จแล้วเดี๋ยวคุณแม่พาไปหาพี่หมีนะค่ะ ”
“ นั่นไง....พูดถึงก็มาพอดีเลย ” ยูชอนบอกโดยที่ไม่ต้องหันไปมองเสียงวิ่งหนักๆแล้วก็ตามมาด้วยเสียงเรียกแบบนี้ชัดเลยว่าสองแม่ลูกลงมาแล้ว ยูชอนอ้าแขนรับลูกชายที่พุ่งเข้ามาก่อนจะอุ้มขึ้นมานั่งบนตัก
“ ชานฮีครับ....คุณแม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าวิ่ง ” เสียงบ่นที่ดังมาก่อนตัวเรียกเสียงหัวเราะจากคนที่อยู่ในห้อง “ ถ้าล้ม...อ่าวแจจุงกับยุนโฮมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ” เสียงที่กำลังจะบ่นให้ลูกชายแปรเปลี่ยนเป็นเสียงทักทายแขกผู้มาเยือนพร้อมกับรอยยิ้ม
“ สักพักแล้วล่ะ....พอดีว่าไปส่งมุนบินมาน่ะ ” แจจุงยิ้มตอบ
“ อ่อ....ลูกหมีไปโรงเรียนวันแรกสินะ ” จุนซูพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆยูชอน
“ เดี๋ยวแจจุงคุยกับจุนซูไปก่อนนะพอดีว่าฉันมีเรื่องจะคุยกับยุนโฮนิดหน่อยนะ ” ยูชอนพูดแทรกขึ้น ท้ายประโยคหันไปมองเพื่อนรักด้วยสายตาที่ทำเอายุนโฮแอบสะดุ้ง ทำไมถึงได้รู้สึกว่างานจะเข้าตัวเองล่ะเนี่ย
“ อืม...ได้สิ ” แจจุงพยักหน้าเบาๆ
“ ตามสบายนะ ” บอกกับแจจุงก่อนจะส่งตัวลูกชายให้จุนซูแล้วลุกเดินนำไปที่ห้องทำงาน แต่ก็ไม่ลืมเรียกร่างสูงอีกคนให้ตามไปด้วย
“ ส่วนแกยุนโฮ ตามฉันมานี่ ”
***** สำหรับคนที่เมลล์มาจอง HF ภาคแรกไรเตอร์ยังไม่ส่งเลขที่บัญชีให้นะค่ะ ไรเตอร์ขออนุญาตรอให้มียอดสั่งจองถึงจำนวนที่โรงพิมพ์รับพิม์ก่อนนะค่ะ ถ้าถึงเมื่อไหร่ไรเตอร์จะส่งเลขที่บัญชีให้ทันทีเลยค่ะ
***** ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนะค่ะ แต่ตอนหน้าจะมีเรื่องเข้ามา แต่จะเป็นเรื่องอะไรและคู่ไหนต้องรอติดตามตอนหน้าค่ะ ^^
***** คืนนี้ฝันดีนะค่ะทุกคน ไรเตอร์ก็ไปกลุ้มเรื่องบัตรงานมีทปาร์คต่อก่อน กลัวจองไม่ทันอ่ะ
ความคิดเห็น