ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] พ่ายรัก [ChanBaek] [NC 18+]

    ลำดับตอนที่ #6 : ชีวิตที่น่าบัดซบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.77K
      46
      29 มี.ค. 57


     





    แบคฮยอนเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ล็อกเกอร์พร้อมกับถอนหายใจออกมาเหนื่อยๆ เพราะการถูกไล่ออกจากงานทำให้ร่างบางไม่มีเงินไปเสียค่าน้ำค่าไฟที่เพิ่งจะถูกตัด  เย็นนี้แบคฮยอนจึงหาเงินด้วยการขายผลไม้สด เพราะวันนี้ที่บาร์ปิดหนึ่งวัน

     

     

    เกือบหกพันวอน อีกนิดเดียว

     

     

    แบคฮยอนยิ้มอย่างดีใจ เมื่อเอาเงินที่ขายออกมานับแล้วก็นับแล้วรีบเอาเงินใส่กระเป๋า

     

     

    สวัสดีครับ จะเอาอะไรครับ

     

     

    แบคฮยอนเอ่ยทักทาย เมื่อมีชายวัยกลางคน รูปร่างอวบๆเดินตรงเข้ามาหา เหมือนต้องการจะซื้อของ

     

     

    มีอะไรบ้างจ้า

     

     

    ตอนนี้เหลือ แอปเปิ้ล สับปะรด แล้วก็แตงโมครับ

     

     

    แบคฮยอนยิ้มให้กับลูกค้า อย่างเป็นมิตร ชายแก่หัวล้านมองตอบเจ้าของร่างบางยิ้มๆ

     

     

    มีแต่ผลไม้ที่พี่ไม่ชอบกิน น่ะสิ

     

     

    แบคฮยอนมีสีหน้าที่ผิดหวัง แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้

     

     

    ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะครับ

     

     

    เดี๋ยวสิ

     

     

    อยู่ๆชายคนดังกล่าวก็คว้าข้อมือแบคฮยอนไว้ แบคฮยอนชะงักเบิ่งตามองมือตัวเองที่โดนจับอยู่ แต่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้าน

     

     

    ถึงพี่ไม่ชอบทานผลไม้ แต่พี่ก็ชอบทานอย่างอื่นนะจ๊ะอีกฝ่ายพูดพร้อมกับมองคนตัวเล็กด้วยสายตาแทะโลมตั้งแต่หัวจรดเท้า

     

     

    สนใจไหมล่ะ เหนื่อยน้อยกว่าทำงานขายของแบบนี้เยอะเลยนะ

     

     

    แบคฮยอนมองตาของคนพูดแล้วเริ่มจับอะไรได้รางๆ สีหน้ายิ้มแย้มค่อยเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง  มืออีกข้างเลื่อนไปคว้าท่อพีวิซีเงื้อขึ้นแล้วฟาดผัวะ เสียงร้องโอ๊ยของอีกฝ่ายดังลั่น

     

     

     

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้อีกฝ่ายเอาเรื่องแบคฮยอนจึงถูกพาตัวมาโรงพัก ร้อยเวรซึ่งรู้จักกับแบคฮยอนดีมองคนก่อเรื่องอย่างหนักใจ

     

     

    เฮ้ย... แบคฮยอนเอ๊ย นี่ยังดีนะที่เขาไม่เอาเรื่องแกโรงถึงศาล ไม่งั้นล่ะก็ แกติดคุกหัวโตแน่

     

     

    ผมไม่กลัวหรอก ก็มันมาดูถูกผมก่อนทำไมล่ะ

     

     

    เขาก็แค่จับมือ กับแซวเล่นนิดหน่อย แต่แกทำตาเกือบบอดเชียวนะโว้ย

     

     

    ใจจริง ผมก็อยากให้ตามันบอดเหมือนกันเสียดายที่เล็งไม่แม่น

     

     

    ร้อยเวรมองแบคฮยอนแล้วส่ายหน้า

     

     

    แต่ยังไงแกก็ต้องจ่ายค่าปรับล่ะนะ เอามาหมื่นห้าพันวอน” (ไม่รู้ที่เกาหลีเสียค่าปรับเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเสียค่าปรับเท่านี้แล้วกันนะ

     

     

    แบคฮยอนที่กำลังควักเงินถึงกับชะงัก

     

     

    โอ๊ย หมื่นห้าเชียวหรอจ่า ผมมีไม่ถึงหรอก เงินนี่ก็กะว่าจะเอาไปจ่ายค่าไฟที่บ้านด้วย

     

     

    เอ้า เห็นไหม  แค่นี้แกก็ไม่รอดแล้ว ทำเป็นเก่ง เออๆ มีเท่าไรเอามาแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะสมทบทุนให้

     

     

    แบคฮยอนทำหน้าจ๋อยๆ ควักเงินในกระเป๋าออกมา แล้วตัดสินใจยื่นให้ร้อยเวรรับมานับ แล้วเขียนใบเสร็จให้กับแบคฮยอน ก่อนจะเดินคอตกกลับบ้าน เพราะไม่มีเงินไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ คงต้องบากหน้าไปยืมจากเพื่อนก่อนแน่

     

     

    วันนี้มันเป็นวันอะไรกัน ทำไม่ถึงได้เจอแต่เรื่องแต่ราวที่น่าบดซบแบบนี้ด้วย

     

    .

    .

    .


    ที่บาร์

     

     

    ใบหน้าของแบคฮยอนกำลังซีดเชียวและหม่นหมอง  ร่างบางจ้องมองหน้ากระจกด้วยความสมเพชตัวเอง ค่าน้ำค่าไฟ แบคฮยอนจำต้องขอยืมกับ ดีโอ เพื่อนร่วมงาน ซึ่งผู้เป็นเพื่อนก็ให้ยืม ก็ไม่มีข้อข้องใจใดๆ เวลาที่แบคฮยอนเดือดร้อนก็จะมี ดีโอคอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ

     

     

    แล้วจะมีใครกัน ที่มีชีวิตทรหดอย่างแบคฮยอน ชีวิตเหมือนจมปรักอยู่ในความมืดที่ไม่มีวันจะพบแสงสว่าง

     

     

    มิหน้าล่ะ หลายๆคนถึงได้พูดดูถูกเอาได้ รวมทั้งผู้ชายคนที่แบคฮยอนเพิ่งพบ

     

     

    ปาร์ค ชานยอล ชื่อและนามสกุลของเขายิ่งใหญ่เสียจนไม่มีใครเทียบได้ มิน่าล่ะ เขาถึงได้คิดว่าเงินของเขาจะซื้อใครก็ได้ แต่เขาลืมไปว่า หัวใจมนุษย์ยากแก่การซื้อหาด้วยเงินทองของเขา

     

     

    เศษเงินที่เขามีอยู่มันคงมากกว่าเงินที่แบคฮยอนรับแต่ละเดือน

     

     

    อยู่กับผมหนึ่งปี ผมจะจ่ายคุณห้าสิบล้านวอนทันที

     

     

    ข้อเสนอของเขายังคงดังก้องอยู่ในหู แบคฮยอนยิ้มเยาะตัวเองในกระจก เมื่อคิดว่าตัวของตัวเองตีเป็นเงินได้มากมายถึงอย่างนั้นเชียวหรือ

     

     

    แต่ห้าสิบล้านวอน มันไม่คุ้มกันหรอก กับความบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ก็ไม่แน่ แบคฮยอนอาจจะทำตามเงื่อนไขของเขาก็ได้ ถ้าหมดหนทางขึ้นมาจริงๆ

     

     

    คิดอะไรอยู่อีกหรือเปล่านี่ ดูท่าทางของแกแล้วไม่ค่อยสบายใจเลยนะ” ดีโอ เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นอีกฝ่ายขรึมลงไป

     

     

    ในยามที่แบคฮยอนไม่มีใครจริงๆ แต่ก็ยังมีดีโอที่เป็นเพื่อนปลอบใจ

     

     

    เปล่าหรอก รู้สึกมึนหัวนิดหน่อยน่ะ

     

     

    จะทำงานไหวหรือเปล่า ทำไมไม่หายาทานล่ะ” น้ำเสียงนั้นบอกถึงความอนาทรอย่างจริงใจ

     

     

    ไหวซิ งานมันหมายถึงเงินทองนะ ถ้าทำงานไม่ไหวก็แย่

     

     

    แบคฮยอนยิ้มหยันให้กับความจนของตัวเอง

     

     

    แกเหมือนมีปัญหานะดีโอเมื่อมองเพื่อนอย่างค้นคว้า

     

     

    ปัญหาไร้สาระน่ะ

     

     

    ทำไมไม่เล่าให้ฟังบ้าง.. ฉันยินดีรับฟังปัญหาของแกทุกเรื่องเลยนะ

     

     

    แบคฮยอนมองเพื่อนด้วยความตื้นตันใจ

     

     

    แกเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับฉันจริงๆนะ ไม่เคยมีใครจะหวังดีกับฉันเท่าแกมาก่อนเลย

     

     

    เราทำงานร่วมกัน หัวอกเดียวกัน ทำไมจะช่วยกันไม่ได้ล่ะ

     

     

    เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงไม่ต้องการให้แกมารับรู้อะไรเกี่ยวกับฉันอีกไง เพราะลำพังตัวแกเองก็แย่อยู่แล้ว

     

     

    เดี๋ยวนี้ดูคุณชานยอลหายหน้าไปเลยนะ คงอายที่คนที่แกสาดน้ำใส่หน้าเอาวันนั้น

     

     

    ชื่อของชานยอลทำให้แบคฮยอนเคร่งขรึมลงกว่าเดิม แบคฮยอนเกลียดเขาจนไม่อยากจะได้ยินแม้แต่ชื่อ

     

     

    อย่าพูดถึงเขาได้ไหม... ฉันไม่ต้องการให้ชื่อเขามาอยู่ในสมอง ไม่อยากแม้แต่จะได้ยินเจ้าของร่างเล็กบอกเพื่อนเสียงขรึมจริงจัง

     

     

    ความจริงเขาก็ไม่ใช่คนที่น่ารังเกียจอะไรไม่ใช่หรือ ฐานะของเขาก็ร่ำรวย ถ้าแกจับได้สบายเลยนะ

     

     

    ดีโอแนะนำด้วยความหวังดี  แต่ก็ทำให้แบคฮยอนไม่พอใจ

     

     

    แกเห็นฉันเป็นพวกจิ้งจกตุ๊กแกหรือไง ที่ต้องคอยจ้องจับแมลงน่ะ ถึงฉันจะจนยังไง แต่ฉันก็ไม่คิดจะพึ่งใครหรอกนะ

     

     

    เด็กหนุ่มพูดออกมาอย่างไม่พอใจ มองเพื่อนอย่างตำหนิ

     

     

    แกโกรธฉันหรือเปล่า ฉันเพียงแค่แนะนำเพราะหวังดีกับแกเท่านั้น ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น

     

     

    สีหน้าของดีโอหมองลง... เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอนัก... แบคฮยอนถึงกับถอนหายใจ.. พยายามระงับอารมณ์ได้อย่างลำบาก

     

     

    เปล่า.. แค่ไม่อยากให้แกพูดแบบนั้น.. คนอย่างนายชานยอล ไม่เคยมองเราในแง่บวกนักหรอก.. นอกจากเป็นได้แต่เศษเลยของเขา

     

     

    น้ำเสียงของร่างบางดีขึ้นกว่าเดิม

     

     

    แต่แกก็เป็นคนดี แถมมีความน่ารักเป็นทุน คงมีคนดีๆมารักแกจริงเข้าสักคน

     

     

    เพื่อนพูดปลอบ...ทำให้แบคฮยอนยิ้มออกมาอย่างขืนๆ

     

     

    ให้มันจริงอย่างที่แกพูดเถอะ

     

     

    นั่นแนะ  เขาเรียกชื่อเราแล้ว  ออกไปทำงานต่อเถอะ

     

     

    แบคฮยอนตื่นเมื่อเสียงประกาศเรียกตัว ทั้งสองอยู่ในชุดพนักงายภายในร้านออกไปเสิร์ฟ ท่าทางยิ้มแย้มต้อนรับแขกตามปกติ

     


     







                                   ดำเนินมาหกตอน


            ชีวิตช่างน่าบดซบจริงๆ ตอนหน้าติดตามนะ

               แบค จะพบกับ ชานอีกครั้ง

           ซึ่งคราวนี้ ชานจะเข้ามาหาเรื่องอย่างเต็มที่

               ฝากติดตามกันด้วยนะ
     

    Duck- Fly
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×