คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : [gyumyung] ANGEL (3/3)
ANGEL…3
มยองซูค่อยๆขับรถเข้าไปในโรงจอดรถของบ้านหลังใหญ่ให้เข้าที่
ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง
หายไปทั้งวันทั้งคืนแบบนี้เขาต้องโดยดีแน่
ยังไงพ่อก็คงไม่ยอมฟังเหตุผลและเขาเองก็ไม่มีเหตุผลที่ดีพอจะมาแก้ตัว
จะให้บอกไปตรงๆก็กระดากปาก ไม่มีทางที่พ่อของเขาจะรับได้
“มาแล้วเหรอตัวดี”เสียงเข้มแสนดุดันดังขึ้นเมื่อมยองซูก้าวขาอย่างเชื่องช้าเข้ามาในบ้าน
คนที่เป็นประมุขของบ้านกำลังนั่งนิ่งมองตรงมาที่เขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“พ่อฮะ”ร่างบางเรียกผู้เป็นพ่อเสียงแผ่วเบาพรางก้มหน้างุดไม่กล้าสู้หน้า
“ไปไหนมา”เสียงเข้มถามขึ้นเสียงดัง
แม้จะไม่ใช่เสียงตะคอกแต่มันก็ทำให้มยองซูสะดุ้งตัวโยนได้ไม่ยาก
“บ้านเพื่อนฮะ”มยองซูตอบออกไปก่อนจะเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เขา
“เพื่อนหรอ คนที่แกหายไปกับเขาทั้งคืนแกบอกว่าเป็นเพื่อนงั้นหรอมยองซู”ผู้เป็นพ่อรู้สึกเดือดดาลกับคำตอบของลูกชายที่เขาทั้งรักและหวงแหน
“ผม..”มยองซูรู้สึกจุกที่ช่วงคอน้ำตาก็พาลจะไหลออกมา
ครั้งนี้เขาทำผิดจริงๆ
“ฉันไม่เคยสั่งเคยสอนให้แกทำตัวแบบนี้
หายไปทั้งคืนไม่ยอมรับโทรศัพท์พ่อกับแม่
แกคิดว่าไอ้คนที่แกไปอยู่ด้วยมันรักแกเท่าพ่อกับแม่งั้นหรอ”ผู้เป็นพ่อตะคอกใส่หน้ามยองซูเสียงดัง
เขาไม่รู้หรอกว่าเด็กคนนั้นเป็นใครมาจากไหน
แต่ไม่มีทางที่มยองซูจะหายไปทั้งคืนคนเดียวถ้าไม่ได้ไปอยู่กับใคร
ลูกของเขาเขารู้จักนิสัยดี
“พ่อฮะ ผม อึก..”มยองซูอยากจะอธิบายให้ผู้เป็นพ่อเข้าใจแต่เสียงของเขาก็ขาดหายไปเพราะแรงสะอื้น
“แกกับเด็กนั้นเป็นเพื่อนกันจริงๆใช่ไหม”ผู้เป็นพ่อด้วยเสียงเข้มดุดันอีกครั้ง
คนที่หายไปด้วยกันทั้งคืนแบบนี้จะใช่เพื่อนกันจริงๆเหรอ
“ผมกับเขา อึก เราเป็นคนรักกัน”มยองซูตอบออกไปตามความจริง
แม้จะไม่มีอะไรมาบอกสถานะความสัมพันธ์ของเขากับซองกยูแต่เขายกให้อีกคนเป็นคนรักของเขาไปแล้ว
“หึ เหมือนที่ฉันคิดไว้จริงๆสินะ”ผู้เป็นพ่อมองลูกชายด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจและผิดหวัง
เขาไม่ได้ห้ามให้มยองซูมีแฟนแต่อย่างน้อยมยองซูก็ควรจะบอกเขาไม่ใช่หายไปแบบนี้ “ฉันขอสั่งห้ามให้แกติดต่อกับเขาอีก
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแก ฉันมีคนที่คู่ควรกับแกให้แล้ว”
คนเป็นพ่อเอ่ยเสียงเรียบ
ที่พูดออกไปแบบนั้นเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้มยองซูเสียใจและไม่ได้กลัวว่ามยองซูจะให้ชื่อเสียงของเขาเสียหาย
แต่คนที่เขาเลือกให้คือคนที่คู่ควรกับมยองซูที่สุด
เขาอยากให้อนาคตของลูกมีแต่ความสุขส่วนคนที่มันพาลูกเขาไปอยู่ด้วยทั้งคืนไม่มีทางที่มันจะหวังดีกับมยองซู
คนแบบนั้นมันเห็นแก่ได้
“พ่อ ไม่นะ อึก ผมไม่ยอม ฮื่อ”มยองซูทรุดตัวลงพื้นด้วยความอัดอั้นใจเมื่อได้ฟังสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูดจบ
“ห้ามขัดคำสั่งของฉัน ฉันเลือกให้แกแล้ว”แม้จะเจ็บปวดที่เห็นลูกร้องไห้แต่เขาเชื่อว่าเขาเลือกชีวิตที่ดีให้มยองซูแล้ว
ตลอดเวลาที่มยองซูหายไปและขาดการติดต่อมันทำให้เขารู้ว่ามยองซูคือสิ่งมีค่าและเขาจะมอบความสุขให้ลูกโดยปราศจากสิ่งที่ลูกเลือกเอง
เขาคิดว่าเขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้มยองซูแล้ว ถึงจะยังรับไม่ได้แต่สักวันก็ต้องรับได้
“คุณค่ะ”เสียงนายหญิงของบ้านดังขึ้นพร้อมกับร่างของหญิงวัยกลางคนที่เดินลงจากบันไดมองสามีด้วยสายตาไม่ชอบใจก่อนจะเดินเข้าไปประคองลูกชายที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้น
“ดุลูกทำไมค่ะ”ผู้เป็นแม่ว่าก่อนจะลูบหลังลูกชายเพื่อปลอบใจ
“ไม่เป็นไรนะลูก”
“คุณก็เอาแต่ให้ท้ายมัน รู้ไหมว่ามันหายไปไหนมา
หายไปอยู่กับแฟน แรดแค่ไหนก็คิดเอา”พอเห็นว่าภรรยาของตนเอาแต่ตามใจเขาก็อดทนไม่ไหวโพร่งคำที่ไม่หน้าฟังออกมา
“แล้วคนที่เอาแต่ทำงานสนใจแต่หน้าตาทางสังคมแบบคุณเคยเข้าใจอะไรบ้างล่ะค่ะ”คนเป็นภรรยาเถียงออกไปอย่างไม่ยอมแพ้
เธอรู้ความคิดของสามีเธอดี
อีกฝ่ายไม่เคยโทษตัวเองและคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นดีที่สุดเสมอ
การดุด่าลูกด้วยคำพูดแรงๆก็เช่นกัน ไม่มีทางที่มยองซูจะยอมรับคำพูดแบบนั้นได้
“ก็มันจริง
บอกให้ดูแลมันให้ดีแต่ปล่อยให้มันไปอยู่กับแฟนทั้งสันทั้งคืน ถ้าเป็นผู้หญิงคงท้องได้เป็นคอกแล้ว”
เพี้ย
“หยุดพูดสักที”หญิงวัยกลางคนตะคอกใส่หน้าผู้เป็นสามีอย่างโกรธเคืองหลังจากที่สะบัดมือตบใบหน้าคมเข้มอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด
“พ่อ ฮึก แม่”มยองซูที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเอ่ยเรียกผู้ให้กำเนิดทั้งสองคนเสียงสั่น
ในใจรู้สึกเสียใจที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องมาทะเลาะกันเพราะเขา
“มยองซูขึ้นไปบนห้องก่อนนะลูก”ผู้เป็นแม่หันมาบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะหันไปส่งสายตาโกรธเคืองใส่สามีตามเดิม
“แม่ฮะ.”
“แม่บอกให้ขึ้นไปบนห้อง”เสียงตะวาดของผู้เป็นแม่ทำให้มยองซูสะดุ้งก่อนจะก้าวเท้าเดินขึ้นไปบันได้อย่างเชื่องช้าเขารู้ดีว่าเวลาที่แม่ของเขาโกรธจะเป็นยังไง
แม่ไม่ฟังใครทั้งนั้นแหละแล้วตอนนี้แม่ก็กำลังจะอาระวาดพ่อของเขา
เขาไม่ชอบที่ต้องมาเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันเพราะเขาเป็นต้นเหตุแต่เขาก็ไม่สามารถขัดคำสั่งผู้เป็นแม่ได้
“อึก กยู”พอประตูห้องนอนปิดลงร่างบางก็ทรุดตัวลงบนพื้นกอดเข่าตัวเองก่อนจะก้มหน้าร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
เขาไม่รู้จะทำยังไง
ในเมื่อผู้เป็นพ่อเอ่ยออกมาแบบนั้นแล้วไม่ใช่แค่ว่าเป็นเรื่องล้อเล่นแต่มันคือความจริงคนอย่างพ่อเขาไม่มีทางพูดล่อเล่นและแม่ก็ไม่สามารช่วยอะไรเรื่องนี้ได้
พ่อจะจับเขาคลุมถุงชนกับใครก็ไม่รู้
ติ้ด ติ้ด
แรงสั่นจากโทรศัทพ์มือถือที่อยู่ในกางเกงดังขึ้นทำให้ร่างบางต้องหยิบมันออกมาดูก่อนจะยกมือปิดปากตัวเองเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นแล้วกดรับสายจากคนที่เขาคิดถึงตลอดเวลา
“ว่าไง”เสียงแหบหวานเอ่ยขึ้นพยายามทำให้เสียงเป็นปกติที่สุดแต่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอมากกว่าเดิม
“((เป็นอะไรหรือเปล่า))”ปลายสายถามอย่างเป็นห่วง
“ป่าว สงสัยผิดไข้เล่นงานน่ะ”มยองซูโกหกเพื่อให้อีกคนสบายใจ
“((จริงหรอ))”ดูเหมือนว่าซองกยูจะจับความผิดสังเกตของเขาได้
อีกฝ่ายถามกลับมาอย่างไม่ค่อยเชื่อ
“อึก กยู ฮื่อ”สุดท้ายแล้วมยองซูก็อดกลั้ยเสียงร้องตัวเองไม่ไหวร่างบางปล่อบโฮออกมาทั้งๆที่ค้างสายซองกยูอยู่
“((มยองซู นายป็นอะไร มยองซู))”เสียงที่ลอดออกมาจากมือถือทำให้มยองซูร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าซองกยูนั้นเป็นห่วงเขามากแค่ไหน
ร่างบางกดตัดสายลงเพื่อตัดปัญหาเพราะถ้ายังค้างสายอยู่ซองกยูจะรับรู้ถึงความอ่อนแอของเขามากกว่านี้และอีกฝ่ายจะไม่สบายใจมากกว่าเดิม
หลังจากที่สายถูกตัดไปซองกยูก็อยู่ไม่สุขได้แต่เดินไปเดนมาด้วยความกระวนกระวายใจ
การที่ได้ยินเสียงของมยองซูร้องไห้ทำให้เขาใจไม่ดีแม้จะคิดไว้แล้วว่าร่างบางคงต้องถูกดุแต่ไม่คิดว่าจะโดนถึงขึ้นร้องไห้หนักขนาดนี้
“ซองจง”พอนึกถึงใครบางคนขึ้นได้ซองกยูก็รีบก้าวออกจากล้านใต้หลังคาของตนเพื่อตรงไปหาซองยอลที่อยู่ชั่นล่าง
“ยอลยืมรถหน่อยนะเว้ย”ซองกยูตะโกนขึ้นก่อนจะกระโดดคล่อมรถบิ๊กไบซ์คันหรูของซองยอลแล้วขับออกไปทันทีอย่างไม่สนใจเสียงเรียกของอีกฝ่าย
ดีนะที่ซองยอลเสียบกุญแจไว้ทำให้เขาไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้
ซองกยูขับรถมุ่งตรงมาที่บ้านของซองจงดีนะที่เมื่อคืนเขาพอจำทางที่มยองซูมาส่งซองจงได้
“ซองจง ซองจง”พอถึงสถานที่ที่ต้องการซองกยูก็ตะโกนเรียกเจ้าของบ้านเสียงดังพรางกดกริ่งหน้าบ้านดังระรัวจนคนในบ้านทนไม่ไหวเดินออกมาดู
“มาให้ใครพ่อหนุ่ม”เสียงหญิงแก่ดังขึ้นพรางมองซองกยูอย่างไม่ชอบใจ
“มาหาซองจงครับ”ซองกยูตอบกลับไปด้วยความร้อนรนเขาไม่อยากจะทนรออีกต่อไปแล้ว
“แปป”หญิงแก่ว่าก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านและไม่นานร่างบางของซองจงในชุดไปรเวทก็เดินออกมาด้วยความไม่พอใจก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าผู้มาหาคือคนที่ตนปลื้มนักหนา
“พี่กยูมาทำไมครับ”ซองจงถามก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาซองกยูแต่ก็ช้าไปกว่าร่างสูงที่พุ่งตรงเข้ามาหาซองจงและจับสองแขนของซองจงไว้ด้วยความร้อนใจ
“ซองจงบ้านมยองซูอยู่ไหน”ซองกยูถามออกไปด้วยความรีบร้อนจนซองจงขมวดคิ้วด้วยความสงสัยกลัวว่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นซองกยูถึงได้มาหาเขาช่วงมืดแบบนี้
“มีอะไรหรือเปล่าฮะ”ซองจงถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
“รีบบอกมาเถอะว่าบ้านมยองซูอยู่ไหน
พี่รอต่อไปไม่ไหวแล้ว”ซองกยูเอ่ยอย่างขอร้องพรางเขย่าแขนซองจงเชาๆ
“ครับๆ”ซองจงตอบรับแม้ว่ากำลังงงกับอาการของซองกยูมากเพียงใดก็ตามร่างบางรีบบอกทางไปบ้านมยองซูให้ซองกยูได้รู้และพอกำลังจะเอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้นร่างสูงก็เดินกลับไปคล่อมรถที่ตนขับมาแล้ว
“ขอบใจนะ”ซองกยูว่าแล้วบึ่งรถออกไปทันทีอย่างร้อนใจเขาต้องไปเห็นกับตาว่ามยองซูไม่ได้เป็นอะไร
เพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้เขารู้สึกแย่และไม่สบายใจมากเขากลัวว่ามยองซูจะเป็นอะไรไปเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขาไม่มีวันที่จะให้อภัยตัวเองเพราะรู้ดึว่าต้นเหตุมันมาจากตัวเขาเอง
“อึก ฮื่อ”มยองซูยังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิมไม่ยอมลุกไปไหน
แม้ว่าตอนนี้ท้องฟ้าจะมือสนิทแต่ร่างบางก็ไม่ยอมลุกไปเปิดไฟในห้อง
มยองซูเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่กับเข่าทั้งสองข้างอย่างคนไม่มีที่ไป
บรืนน บรืนน
เสียงรถมอเตอร์ไซต์ดังขึ้นที่หน้าบ้านตรงบริเวณระเบียงห้องของเขา
ทำให้ร่างบางต้องเงยหน้าขึ้นมาขมวดคิ้วมุ่น
ในหมู่บ้านของเขาไม่มีเด็กแว้นซ์ที่จะมาขับรถแข่งกันแน่นอน
“ใคร”จากที่เอาแต่นั่งร้องไห้ตอนนี้ในหัวของร่างบางมี่แต่ความสงสัย
ตั้งแต่เกิดมาจนโตป่านนี้เขายังไม่เคยได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์ดังเลยสักครั้ง
ร่างบางค่อยๆลุกจากตรงที่ตนเองนั่งอยู่
ก่อนจะเดินมุ่งตรงไปที่ระเบียงห้องเพื่อดูว่าใครมาบิดรถที่หน้าบ้านของเขา
“ซองกยู”คนที่กำลังก้าวลงจากรถเงยหน้ามองตามเสียงเรียกชื่อของตนก่อนจะสะดุดที่ร่างบอบบางที่กำลังยืนเกาะระเบียงมองมาที่เขา
“มยองซู”แม้ว่าจะไม่ได้มองหน้าร่างบางใกล้ๆแต่สภาพของมยองซูตอนนี้ก็เดาได้ไม่ยากว่าร่างเพิ่งผ่านอะไรมา
“มยองซูนายเป็นอะไรหรือเปล่า”ซองกยูตะโกนถามอย่างเป็นห่วงจนมยองซูต้องยกนิ้วชี้ขึ้นมาชูตรงปากของตัวเองเพื่อบอกให้ซองกยูเบาเสียง
“กลับไปซองกยู เดี๋ยวพ่อออกมาเห็น”มยองซูว่าพรางมองไปรอบๆบริเวณบ้านเผื่อมีคนของพ่อเขาอยู่
“ไม่กลับ ฉันจะปีนขึ้นไปหานาย”ซองกยูว่าพรางทำท่าจะปีนกำแพงขึ้นมาจริงๆ
“อย่านะซองกยู”มยองซูห้ามอย่างตกใจเมื่อร่างสูงทำตามที่พูดจริงๆ
ร่างบางกระวนกระวายมองไปข้างห้องของตัวเองที่เป็นห้องของพ่อและแม่แล้วได้แต่กุมมือตัวเองด้วยใจที่เต้นรัว
“ซองกยูบอกว่าอย่า”มยองซูตะโกนเสียงดังอย่างเผลอตัวเมื่อซองกยูปีนข้ามกำแพงเข้ามาได้แล้ว
“รออยู่บนนั้นแหละ”ซองกยูตะโกนขึ้นมาพรางมองไปรอบๆตัวก่อนจะเริ่มปีนระเบียงห้องมยองซูด้วยความทุลักทุเล
“อย่าขึ้นมานะซองกยู”มยองซูยังคงตะโกนบอกร่างสูง
“ถ้าไม่อยากให้ขึ้นไปก็ลงมาหาฉันสิ”ซองกยูบอกอย่างเอาแต่ใจจนมยองซูต้องถอนหายใจออกมา
เขาไม่คิดเลยว่าคนเงียบๆนิ่งๆแบบซองกยูพอจะดื้อก็ดื้อจนหน้าปวดหัว เขาไม่ได้ห่วงตัวเองหรอกยังไงพ่อก็ไม่กล้าทำอะไรเขาที่เป็นลูกแต่ไอ้คนที่กำลังปีนขึ้นมานี้ดิจะเจอปัญหาหนัก
“ซองกยู”มยองซูเรียกอีกครั้งเมื่อมือหนาเกาะเข้าที่ราวระเบียงก่อนร่างหนาจะค่อยๆกระโดเขามา
ซองกยูยืนหอบเหนื่อยมองหน้าเขานิ่งๆ
“บอกว่าอย่าขึ้นมาไง”มยองซูเอ่ยเสียงดุพรางมองซองกยูอย่างไม่ชอบใจ
“เป็นห่วง”ซองกยูว่าแล้วจับมือบางรากมยองซูกลับเข้ามาในห้องเพราะตัวเองทำผิดจึงกลัวว่าจะมีใครมาเห็น
“แต่มันเสี่ยงนะ ถ้านายตกลงไปจะทำยังไง”มยองซูว่าแล้วจับแขนทั้งสองข้างของคนตัวใหญ่กว่าขึ้นดูอย่างเป็นห่วงจนซองกยูยิ้มออกมา
“คิดถึง
ทำไมไม่ยอมโทรหาฉันไหนบอกว่าถึงแล้วจะโทรหาไง”ซองกยูว่าแล้วเอื้อมือไปลูบดวงตาแดงช้ำของร่างบางแผ่วเบา
“ทำไมถึงร้องไห้หนักขนาดนี้ ทะเลาะกับพ่อเหรอ”
“อืม พ่อไม่ยอมฟังฉันเลย”มยองซูพยักหน้ารับน้ำตาก็พาลจะไหลลงมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูด
ถ้าซองกยูรู้ว่าเขากำลังจะถูกจับคุมถุงชนซองกยูจะทำยังไง จะเสียใจเพราะเขาไหม เขาไม่อยากเห็นซองกยูเจ็บ
“พ่อคงโกรธน่ะ”ซองกยูว่าแล้วดึงร่างบางเขามากอดปลอบมือหนาลูบหัวกลมของร่างบางอย่างถนุถนอมและปลอบประโลมด้วยความเต็มใจ
“ฉันเป็นห่วงนายแทบแย่กลัวจะเป็นอะไรไปยิ่งได้ยินเสียงนายร้องไห้ฉันยิ่งทนไม่ไหวต้องขโมยรถไอ้ซองยอลไปหาซองจบเพื่อถามที่อยู่บ้านของนาย”ซองกยูผละกอดออกจากร่างบางพรางกดจูบเบาๆลงบนหน้าผากมนแล้วเอ่ยคำแสนหวานบอกเล่าสิ่งที่ตัวเองได้ทำไป
“ฉันคิดถึงนายตั้งแต่ที่นายขับรถออกมา ฉันห่วง
และก็หวงนายมาก”
“ซองกยู”มยองซูสบเข้ากับดวงตาคมเรียวของร่างสูงด้วยความรู้สึกตื้นตันใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“เพราะรัก
เพราะฉันรักนาย”ซองกยูเอ่ยบอกความรู้สึกของตัวเองให้ร่างบางได้รับรู้
เขาอยากเอ่ยคำนี้มานานและวันนี้เขาก็ได้บอกสักที
เพราถ้าเก็บมันไว้เขาคงได้อกแตกตาย
“ฉันก็รักนาย”มยองซูบอกก่อนจะโผล่เข้ากอดร่างสูงด้วยความดีใจกับสิ่งที่ได้ยิน
ทำให้ดวงตาคมเบิกกว้างกับสิ่งที่ร่างบางได้บอกเช่นกัน ถ้าเป็นอย่างนี้มันก็ดีน่ะสิ
แกร็ก
“หมดเวลาของแกแล้ว”เสียงเข้มดังขึ้นหลังจากที่เปิดประตูห้องเข้ามาอย่างเบามือไม่รีบร้อนแต่สายตาที่กำลังมองตรงมาที่พวกเขาสองคนกลับดูหน้ากลัวจนเขาขนลุกไปหมด
“พ่อ”มยองซูเรียกคนที่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาในห้องของตนด้วยความตกใจ
“นึกว่าคุยกับใครที่ไหนได้ก็คุยกับไอ้เด็กที่แกหายไปกับมันทั้งคืนนี้เอง
คนนี้สินะ”ผู้เป็นพ่อว่าพรางแสยะยิ้มออกมา
หลังจากที่เขาถูกภรรยาว่าไปยกใหญ่เขาก็ทำตัวนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาเดินหลับเข้าห้อง
แต่ไม่นานยามที่เฝ้าประตูหน้าบ้านก็โทรเข้ามาหาบอกว่ามีคนปีนกำแพงบ้านเข้ามา
เขาเลยบอกไปว่าให้เข้ามาก่อนเพื่อจะรอดูว่ามันเป็นใคร
ที่ไหนได้ก็ไอ้คนที่ลูกชายเขารักนักรักหนานี้เอง
“ออกไปจากบ้านฉัน”น้ำเสียงโมโหตะโกนใส่ซองกยูเสียงดังจนมยองซูสะดุ้งกุมมือหนาเอาไว้แน่น
“ผมไม่ไป
ผมไม่ยอมทิ้งมยองซูไว้ที่นี้แน่”ซองกยูตอบกลับอย่างไม่กลัว
ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ยอม เขาเป็นคนดีมามากพอแล้ว ทำเพื่อคนอื่นมาตั้งมากมายครั้งนี้เขาขอทำเพื่อตัวเองและคนที่เขารักบ้างต่อให้ต้องตายมันก็คุ้มถ้าให้มยองซูได้ระบรู้กับความรักที่เขามีให้ร่างบาง
“เลย์ไปเอาปืนมาให้ฉัน”เสียงเข้มดุดันเอ่ยด้วยความเดือดดาลสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่เบี่ยงหลัง
“พ่อ”มยองซูเรียกผู้เป็นพ่อเสียงดังอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน
ถึงจะเป็นคนไม่ค่อยฟังใครแต่พ่อของเขาก็ไม่เคยฆ่าแกงใคร
“นี้ครับนาย”ลูกน้องคนสนิทส่งปืนสีดำมันวาวให้กับผู้เป็นเจ้านายแล้วหลบไปยืนอยู่ข้างหลังตามเดิม
มยองซูมองคนที่ได้ชื่อว่าพ่อที่กำลังเดินเข้ามาใกล้พวกเขาที่ยืนจับมือกันอยู่
ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อปลายกระบอกปืนถูกชี้ไปทางซองกยู
“อย่านะฮะ”มยองซูบอกก่อนจะดึงซองกยูมาอย่าข้างหลังตัวเอง
“หึ
สุภาพบุรุษดีหนิให้ลูกฉันปกป้อง”ผู้เป็นพ่อเอ่ยเสียงเยือกเย็นประชดอีกคนด้วยความตำหนิ
“ถ้าคุณอยากฆ่าก็ฆ่าผมเลยครับ”ซองกยูตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะดึงมยองซูไปไว้ข้างหลังแล้วก้าวขึ้นมาอยู่ข้างหน้าร่างบาง
“ไม่นะ
อย่านะพ่อ”มยองซูว่าแล้วส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นว่ามือของผู้เป็นพ่อจับปืนชี้มาทางซองกยูแน่น
ปลายนิ้วชี้ค่อยๆกดลงไปที่คันนกทำเอามยองซูใจหาย ส่วนคนที่ยืนบังร่างบางอยู่ก็ได้แต่มองกระบอกปืนที่เร่งมาที่ตนมือหนากำมือบางเอาไว้แน่น
“มีอะไรจะพูดก่อนตายไหม”เสียงเข้มเอ่ยอีกครั้งก่อนจะเดินเข้ามาใกล้แล้วจ่อปลายกระบอกปืนที่ขมับของซองกยู
สัมผัสเย็นเชียบทำให้ซองกยูหายใจไม่ออกแต่ต้องใจดีสู้เสื่อเอ่ยบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการให้อีกฝ่ายได้รับรู้
“ผมรู้ว่าผมมันไม่คู่ควรกับมยองซู
แต่ผมก็รักของผมไปแล้ว ผมขอโทษที่ผมทำให้ลูกคุณต้องแปดเปื้อนเพราะคนจนๆแบบผม
แต่มยองซูคือเมียผม เขาเป็นของผม ต่อให้ผมต้องตายด้วยน้ำมือของคุณผมก็ยอม
ขอแค่ก่อนตายผมได้อยู่กับเขา ขอร้องล่ะอย่าพรากมยองซูไปจากผมเลย”ซองกยูเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและมองสบดวงตาคมของคนอายุมากกว่าด้วยสายตาจริงจังก่อนจะค่อยๆหลับตาลงตามเดิมเตรียมตัวรับสิ่งที่เขาได้ทำลงไป
เขาไม่ถือว่ามันพลาดถ้าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะมยองซู
มันคือความรักที่เขามีให้ต่อมยองซูทั้งหมดเขาไม่โทษว่าใครผิดหรือถูก
“ฮึก
ซองกยู”มยองซูร้องไห้ออกมาก่อนจะผลักซองกยูบอกแล้วเดินไปหยุดหน้าผู้เป็นพ่อ
“พ่อฮะ
อึก อย่าทำอะไร อึก ซองกยูเลยนะ”มยองซูร้องไห้สะอื้นพรางทรุดตัวลงแทบเท้าของผู้เป็นพ่อด้วยความขอร้องอ้อนวอน
“มยองซู”ซองกยูเรียกร่างบางเสียงแผ่วก่อนจะเดินเข้าไปพยุงมยองซูให้ลุกขึ้นยืน
“หึ
รักมันมากเลยหรอมยองซู”เสียงผู้เป็นพ่อถามก่อนจะมองลูกชายด้วยสายตาโกรธเคืองปนน้อยใจ
แต่เขาก็ต้องยอมรับความจริงว่ามยองซูมีใจให้เด็กจนๆแบบซองกยูไปแล้ว
“ใช่
ผมรักซองกยู”มยองซูตอบเสียงหนักแน่นก่อนจะกอดซองกยูเอาไว้แน่นมองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาขอร้องให้เข้าใจตน
“แกล่ะรักลูกฉันแค่ไหน”เสียงเข้มหันมาถามซองกยู
ร่างหนามองหน้าคนที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักเพื่อสื่อให้มยองซูได้รู้ก่อนจะหันไปตอบพ่อของร่างบาง
“ผมรักมยองซูเท่าที่คนจนๆแบบผมจะรักได้”ซองกยูตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและกระชับกอดมยองซูแน่นขึ้น
ด้วยความกลัวว่าตนจะไม่มีโอกาสได้กอดคนรักอีก
“ฉันเข้าใจแล้ว”ร่างสูงของชายวัยกลางคนเอ่ยออกมาด้วยความตื้นตันใจ
เขาก็แค่ลองใจว่าที่ลุกเขยของตัวเองเพราะกลัวว่าซองกยูจะแค่ๆเล่นๆกับลุกชายเขาพอได้ยินแบบนี้เขาก็วางใจ
มือหนาค่อยๆลดมือลงแล้วมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
“พ่อ”มยองซูเรียกผู้เป็นพ่อเสียงเรียบเมื่อลืมตาขึ้นมาและเห็นว่าผู้เป็นพ่อนั้นกลังยืนมองพวกเขาสองคนอยู่
“พ่อเข้าใจแล้ว
ขอโทษที่บังคับลูก”ผู้เป็นพ่อบอกพรางยิ้มออกมาบางๆทำให้มยองซูต้องมองด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาในห้อง
“เข้าใจสักทีนะ”ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างๆสามี
“แม่เป็นคนพูดให้พ่อเข้าใจเอง
ตอนแรกก็กลัวว่าจะอาระวาดเห็นแบบนี้แล้วก็วางไจ”ผู้เป็นแม่เอ่ยออกมาก่อนจะอ้าแขนกว้างเมื่อมยองซูเดินเข้าไปกอดด้วยความขอบคุณ
“ขอบคุณครับแม่”มยองซูร้องไห้ออกอีกครั้งด้วยความดีใจ
เมื่อกี้เขากลัวเทบแย่ว่าจะไม่ได้อยู่กับซองกยู
“ไง
ลูกเขย นายรักลูกฉันมากเลยนะ”คุณผู้หญิงของบ้านเอ่ยอย่างหยอกล้อคนที่กำลังยืนมองคนรักของตนในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่
“ครับ
ผมรักมยองซู”ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังยืนยันคำเดิมก็คือเขารักมยองซู
“ดีแล้วล่ะ
ฉันยอมยกลูกฉันให้นายดูแลแต่ถ้านายทำลูกฉันร้องไห้วันนั้นจะเป็นวันที่นายหมดลมหายใจจริงๆ”ประมุขของบ้านพูดแล้วมองซองกยูด้วยแววตาข่มขู่แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างหนากลัว
“ขอบคุณครับ”ซองกยูเอ่ยบกพรางโค้งให้คนอายุมากกว่าทั้งสองคนก่อนจะจับมือบางของคนที่เดินมาหยุดข้างๆไว้แน่น
“เอาล่ะ
เราออกไปกันได้แล้ว”นายหญิงของบ้านเอ่ยก่อนจะเดินไปดึงตัวสามีให้ออกมาจากห้องลูกชาย
มยองซูยิ้มขำและหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าผู้เป็นพ่อกำลังมองซองกยูด้วยความไม่ไว้วางใจ
“เย้”มยองซูตะโกนออกมาด้วยความดีใจก่อนจะกระโดดซองกยูแน่นจนร่างสูงเกือบจะล้ม
มือหนายกขึ้นมาโอบกอดมยองซูไว้จนร่างบางขาไม่ติดพื้น
“เราจะได้รักกันแล้ว
ไม่ต้องคิดมากแล้วนะ”มือหนาลูบหัวร่างบางเบาๆ
“อืม
ฉันรักซองกยูนะ”มยองซูกระซิบเบาๆข้างใบหูแล้วกดจูบลงไปที่แก้มสากด้วยความรัก
“ฉันก็รักมยองซู”ซองกยูบอกเสียงแผ่วแล้วกดจมูกลงบนแก้มเนียนก่อนจะเลื่อนมาที่ริมฝีปากและกดจูบด้วยความรักที่เต็มตื้นมาในหัวใจของเขา
จูบอ่อนโยนไม่มีการลุกล้ำถูกส่งผ่านริมฝีปากหนาให้ร่างบางได้รับรู้ว่าเขารักมากแค่ไหน
“ไม่มีอะไรที่พรากเราจากกันได้”ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันหรือกี่ปีคำๆนี้ก็ยังถูกเอ่ยบอกกันและกันผ่านช่วงเวลาทั้งดีและร้ายของทั้งคู่
แต่ทั้งสองก็ยังรักและห่วงใยกันเสมอ
“ฉันรักนายมากนะ”
END.
ความคิดเห็น