คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : our love [gyumyung/homyung]
OUR LOVE (รักของเรา)
“เรามาร่วมดื่มเพื่อนเป็นสักขีพยานให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันเถอะ”
เสียมเข้มของจุนฮยองผู้เป็นเพ่อนสนิทของเจ้าบ่าวดังขึ้นพร้อมกับแขกที่ได้รับเชิญมาร่วมงานต่างก็พากันโห่ร้องอย่างชอบใจ
“จูบเลย จูบเลย จูบเลย”
เสียงตะโกนเชียร์เร่งเร้าให้ผู้ที่อยู่บนเวทีที่ถูกประดับไปด้วยดอกไม้หลายสีสันทั้งสองคนรู้สึกเขินอาย
โดยเฉพาะกับเจ้าสาวที่อยู่ในชุดสูทสีขาวสะอาดตา
ใบหน้าน่ารักตกแต่งด้วยสีแดงระเรื่องอย่างเป็นธรรมชาติทำเอาคนที่มองรู้สึกใจเต้นแรงก่อนจะใช้สองมือประองข้างแก้มนิ่มไว้แล้วเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะกดจูบลงไปบนริมฝีปากสีระเรื่อของเจ้าสาวของงาน
“กรี๊ดดด”
“โหว่”
เสียงแขกดังสะนั่นงานเมื่อพวกเขาได้มาเป็นพยานรักให้กับบ่างสาวทั้งสองคนที่คบกันมาเกือบห้าปีและทั้งสองก็ไดตัดสินใจใช้ชีวิตรวมกัน
ด้วยความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายและความยินดีกับญาติพี่น้องและเพื่อนสนิท
“พี่รักนาย”เสียงเข้มกระซิบข้างใบหูหลังจากที่ผละออกมาจากริมฝีปากแวนหวานที่ต่อจากนี้ทุกๆวันเขาจะได้สัมผัสมันได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการโดยไม่ต้องกังวลใจเพราะตอนนี้ทุกอย่างของคนตรงหน้าจะเป็นของเขาในที่สุด
“ผมก็รักพี่”ใบหน้าน่ารักก้มหน้าลงซ่อนความเขินอายไว้ภายใต้ใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัด
“เอาล่ะ
ต่อไปนี้จะเป็นการส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอแล้วนะครับ
ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานในวันนี้ และผม นัม อูฮยอนขอจบพิธีเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ”หลังจากที่พิธีกรประกาศจบงาน
แขกที่มาร่วมยินดีต่างก็มากันทยอยกลับ จะมีบางคนที่ยังนั่งกกเหล้ากันอยู่
ส่วนเจ้าของงานทั้งสองคนนั้นถูกพาตัวเข้ามาในห้องของโรงแรมสุดหรู
“ฉันขอให้พวกเธอสองคนรักกันนานๆ”เสียงหญิงสาววัยกลางคนผู้เป็นแม่ของเจ้าบ่าวดังขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดเหยียดยิ้มราวกับสมเพจพรางเสมอไปทางอื่น คิม ยูอา
แม่ของผู้เป็นเจ้าสาวได้แต่หันไปมองด้วยความเหนื่อยใจที่ลูกชายของเธอต้องมาเจอแม่สามีที่ไม่ชอบลูกของเธอเลยแม้แต่น้อย
เธอทำเพียงแถอนหายใจก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้ผู้เป็นลูกและลูกเขย
“แม่ขอให้เราทั้งสองคนครองรักกันไปนานๆถือไม้เท้าหยอดทอง
กระบองหยอดเพชร แม่ฝากดูแลมยองซูด้วยนะซองกยู มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน
มีหลานให้แม่อุ้มไวๆด้วยล่ะ”คิม
ยูอาเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังก่อนจะลงท้าด้วยการพูดทีเล่นทีจริงเพื่อหยอกล้อเจ้าลูกชายขี้อายของเธอให้เขินเล่น
“มีหลานอะไรล่ะครับ”คิม มยองซูยุ่ยปากออกมาน้อยๆเมื่อพูดเป็นแม่พูดแกล้งเขา
แม่ของเขาก็ร็ว่าเขาไม่สามารถมีลูกกับซองกยูได้ ยังจะมาพูดให้เขินอีก
“เอาล่ะๆ โตจนมีครอบครัวแล้ว
เลิกขี้งอนได้แล้วนะมยองซู พ่อก็ขอให้ลูกรักกับพี่เขาไปจนชั่วชีวิต
อย่าได้คิดทิ้งขวางหรือทำร้ายจิตใจกัน ชีวิตคู่จะอยู่ยืนนานได้ต้องเข้าใจกัน
จำคำพ่อเอาไว้นะ”คิม
ยอลอูพูดบอกลูกชายกับลูกเขยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
มือหนายกขึ้นลูบผมนิ่มของลูกชายอย่างเอ็นดู
“แม่ไม่รบกวนแล้วนะลูก ออกไปกันเถอะค่ะ”ผู้เป็นแม่ฝั่งเจ้าสาวพูดขึ้น ทำให้อิม
ยอนนาแม่ของซองกยูรีบยืนขึ้นแล้วก้าวฉับๆออกไปจากห้องทันที
ทำให้ผู้ที่เกี่ยงดอกกันได้แต่มองตามและส่ายหน้าอย่างระอา
ได้แต่หวังว่าลูกชายเธอจะใช้ชีวิตคู่อย่างมีวามสุขแม้ว่าแม่ของซองกยูจะไม่ชอบหน้ามยองซูเท่าไรก็ตาม
“อาบน้ำก่อนไหมครับ”เสียงนุ่มถามขึ้นพร้อมกับหันไปมองร่างเล็กของคนข้างๆที่นั่งก้มหน้าหงุด
ตลอดเวลาที่ครบกันมาห้าปีเขาก็เพิ่งรู้วันนี้แหละว่าเจ้าสาวของเขาน่ะขี้อาย
“ก็ได้ฮะ”มยองซูว่าก่อนจะเงยหน้าสบตาคมของสามีหมาดๆแล้วใบหน้าก็ต้องร้องฉ่าขึ้นมาเมื่อดวงตาสบเข้ากับดวงตาคมของอีกฝ่ายทันที
“พี่ว่าพี่อาบให้ดีกว่า”ยังไม่ทันได้รับคำตอบรับใดๆแขนแกร่งก็ช้อนตัวเจ้าสาวไว้ในอ้อมแขนแล้วก้าวตรงไปยังห้องน้ำทันที
มาถึงตอนนี้แล้วเขาจะไม่อดทนอีกต่อไป
เขาจะจัดการกับมยองซูคนขี้ยั่วที่ชอบทำให้เขาตะบะแตกแทบจะตลอดเวลาแต่เขาก็ไม่เคยได้กินได้สมใจอยากแม้จะรบกันมาหลายปี
ด้วยเหตุผลที่ว่า
‘ได้ง่ายๆก็ต้องทิ้งง่ายๆถ้าเรายังไม่แต่งงานกัน
เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด’
ตลอดเวลาที่คบกันมา
มีบ้างที่เขาได้กอด ได้จูบ แต่ไม่เคยได้ทำอะไรแบบที่ใจต้องการเลย
แล้วยิ่งเจ้าสาวของเขาน่ะเห็นใสๆซื่อๆแบบนี้ความจริงขี้ยั่วไม่น้อยไปกว่าใครหรอก
กว่าจะอดทนได้ขนาดนี้ต้องขอบคุณความรักที่เขามีให้กับมยองซู
ทำให้เขาอดทนมาได้ถึงทุกวันนี้
และวันนี้จะเป็นวันที่เขาต้องจัดการกับมยองซูสักที
ถ้าฟ้าไม่สางก็อย่างหวังว่าจะได้ลุกจากที่นอนเลย
“พอได้แล้วน่า”
มยองซูดันไหล่คนบนร่างเบาๆให้อีกคนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับซอกคอของเขาได้รู้สึกตัว
ในห้องน้ำก็เล่นงานเขาไปแล้วตั้งสอบรอบแล้วนี้ยังจะอุ้มเขามาต่อที่เตียงอีก
ถ้ารู้อย่างนี้เขาไม่ปล่อยให้ซองกยูอดอยากปากแห้งเป็นปีๆแบบนั้นหรอก
เขาเหนื่อยจนแทบขยับไม่ได้แต่อีกคนก็เอาแต่โถมแรงใส่เขา
“ไม่พอหรอก”มยองซูเองก็เพิ่งรู้ว่าแฟนหนุ่มของเขานั้นมีความดื้อดึงมากขนาดนี้
ซองกยูคนแสนดีและเชื่อฟังเขาทุกอย่างตอนนี้กลับเป็นเสื่อร้ายที่จ้องแต่จะล่ากินเนื้อเขา
เสียงกระซิบแหบพร่าที่มีเสน่ห์บวกกับร่างกายแกร่งที่แสบอบอุ่นนั้นกำลังทำให้มยองซูมัวเมา
เผลอไผลไปกับสัมผัสที่อีกคนมอบให้อย่างยากที่จะปฏิเสธ
สะโพกเล็กตอบรับการเลื่อนไหวของความแข็งแกร่งที่ถูกเติมเต็มเข้ามาในร่างกายรั้งแล้วครั้งเล่า
แผ่นอกหยัดขึ้นตามแรงอารมณ์เมื่อถูกปลายลิ้นสากระเริงความชื่นแฉะลงบนยอดอกสีสวยทั้งสองข้าง
สองมือสอดเข้าที่กลุ่มผมนิ่มของคนบนร่าง
ริมฝีปากบางสวยร้องครางระงบระบายความเสียวซ่านที่กำลังก่อตัวอยู่ในท้องน้อย
ทุกอย่างราวกับถูกซองกยูร่ายมนต์ให้เป็นไปตามที่เจ้าตัวต้องการ
ร่างกายบางถูกมือหนาจับเปลี่ยนท่าหลายต่อหลายท่า
และสถานที่ในการร่วมรักบรรเลงเพลงแห่งความต้องการก็แทบจะทุกส่วนของห้องพักหรู
ถ้าไม่ติดว่ามยองซูร้องขอให้หยุดเพราะความเหนื่อยล้า คิม
ซองกยูคงไม่ยอมหยุดเป็นแน่
“อืม”ร่างบางพลิกตัวหันหลังให้กับความหน้ารำคาญของมือที่กำลังรบกวนการนอนหลับของเขา
“ตื่นได้แล้วครับ”เสียงกระซิบอย่างอ่อนโยนข้างหูทำเอาคนที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหน้ายิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นมามองคนที่รบกวนการนอนของเขา
“รีบไปอาบน้ำแต่งตัวนะ
เดี๋ยวจะมันมารับเราไปที่บ้าน”มือหนายกขึ้นลูบหัวร่างบางที่กำลังเคลื่อนร่างกายเล็กมานั่งบนตักเขาอย่างออดอ้อนด้วยความเอ็นดู
“อยู่ที่นี้อีกวันไม่ได้เหรอ
เหนื่อยไม่อยากไปไหนแล้ว”มยองซูเอ่ยขึ้นด้วยความอ่อนล้า
ใบหน้าน่ารักซบอกที่ไหล่แกร่งก่อนจะค่อยๆหลับตาลง
“ไม่ได้ครับ
วันนี้เราต้องย้ายเข้าไปอยู่บ้านของเรานะ”ซองกยูว่าพรางดันอีกคนออกห่างแล้วจับไหล่เล็กๆที่กำลังโอนเอนนั้นไว้
“เฮ้อ”เสียงถอนหายใจของคนตัวเล็กทำเอาร่างสูงเผยยิ้มออกมาด้วยความรักไคร่
“งั้นอาบน้ำให้หน่อย”
“ถ้าขอก็ได้ครับ”ไม่รอช้ากดจมูกลงบนแก้มนิ่มก่อนจะช้อนตัวเจ้าสาวที่ทำให้เขาสุขสมทั้งคืนขึ้นไว้ในอ้อมกอดและก้าวตรงไปที่ห้องน้ำเพราะดูท่าแมวตัวน้อยของเขาจะขี้เกียจจนไม่อยากทำอะไรจริงๆพออาบน้ำให้ภรรยาเสร็จซองกยูก็ต้องมาช่วยใส่เสื้อผ้าแถมยังต้องโทรสั่งอาหารมาให้คนเอาแต่ใจกินถึงที่
ถ้าไอ้เพื่อนตัวดีของเขารู้ว่าเขาทำเพื่อภรรยาขนาดนี้พวกมันต้องล่อเขาแน่ว่าเขาเป็นคนกลัวเมีย
ดวงตาที่ว่าโตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นเมื่อตอนนี้เขามองเห็นสิ่งที่สวยงามที่อยู่ตรงหน้า
เขาจำได้ว่าตอนที่เขามาดูบ้านหลังนี้เมื่อสามเดือนก่อนกับซองกยูมันยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งแสนหรูพวกนี้ด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันกับเต็มไปด้วยสินค้าราคาแพงที่ซองกยูไปสรรหามา
“ชอบไหม”ซองกยูถามขึ้นพรางมองไปรอบๆตัวบ้านที่เขาเป็นคนไปจ้างสถาปนิกเพื่อมาตกแต่งเอง
แม้ว่าจะหมดเงินไปไม่น้อยแต่บ้านหลังนี้ก็คือบ้านที่เขาจะใช้ชีวิตไปจนจบชีวิต
ยังไงซะนี้มันก็ไม่ถือว่ามากถ้าทำให้คนที่เขารักมีความสุขและทำให้อีกฝ่ายอยากมาอยู่บ้านของเรา
“ชอบครับ”มยองซูหันไปบอกคนที่ยืนกุมมือตนเองอยู่ก่อนจะส่งยิ้มไปให้
เขามองคนที่ขนเสื้อผ้าของเขากับซองกยูเข้ามาในบ้านอย่างขอบคุณก่อนจะถูกมือหนาจูงไปหลังบ้าน
แล้วเขาต้องตกใจมากกว่าเดิมเมื่อหลังบ้านนั้นมีสวนดอกไม้แสนสวยที่เขาจินตนาการว่าอยากมีหลังจากที่ได้ไปชมเทศการดอกไม้กับซองกยูเขาก็เฝ้าเก็บตังเพื่อสร้างมันเองกับมือ
แต่มันก็คงช้ากว่าซองกยูที่ทำไว้ให้เขาเรียบร้อยแถมยังสวยจนเขาอยากจะไปนอนเล่น
“พี่ซองกยู”น้ำตาเม็ดใสรื่นขึ้นมาที่ขอบตาด้วยความตื้นตันใจ
เขาไม่เคยขอให้ซองกยูทำให้เขามากแบบนี้เพราะแค่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างถูกต้องมันก็มากพอแล้ว
แต่สิ่งที่ซองกยูทำให้เขาในวันนี้มันกลับยิ่งทำให้หัวใจของเขานั้นเต้นแรงมากกว่าที่เคยเป็น
“ร้องไห้ทำไม หืม”น้ำเสียงอบอุ่นเอ่ยถามพร้อมกับนิ้มหัวแม่มือที่ค่อยๆเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มนวลของร่างบางด้วยความรัก
“ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอครับ”มยองซูถามก่อนจะซบหน้าลงบนอกแกร่งแล้วยกแขนกอดรอบเอวสอบไว้
“หึ ไม่หรอก เพื่อมยองซูแล้วพี่ทำได้ทุกอย่างแหละ”ซองกยูยกแขนขึ้นกอดอีกคนไว้หลวมๆแล้วลูบแผ่นหลังบางไปมา
“เพราะถ้าบ้านเราหน้าอยู่
มยองซูจะได้อยากอยู่แต่บ้านไง”
“แล้วผมจะไหนล่ะ ถ้าไม่อยู่บ้านน่ะ”มยองซูว่าแล้วใช้กำปั้นเล็กๆของตัวเองทุบลงบนแผ่นแกร่งเบาๆ
“ก็เวลาเลิกงานมยองซูก็จะได้รีบกลับบ้าน
ไม่ไปถเล่ถไล่ที่ไหนไง”ซองกยูว่า ทำให้ริมฝีปากเล็กนั้นเริ่มบ่นขมุบขมิบอย่างหมั่นใส้คนจอมบงการที่รู้ดีไปซะหมด
“ผมไม่ไปไหนหรอก
แต่งงานแล้วนะจะมาเที่ยวเล่นเหมือนเมื่อก่อนคงไม่ได้”มยองซูว่าแล้วผละกอดออกมาก่อนจะกดจมูกลงบนแก้มสากอย่างออดอ้อน
“รู้หน้าที่แบบนี้ก็ดีแล้วครับ คุณภรรยา”ซองกยูเอื้อมมือไปหยิกจมูกสวยอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะจับมือมยองซูให้เดินเข้าบ้านเพื่อไปดูส่วนอื่นๆต่อ
จนตะวันเริ่มลับฟ้าทั้งสองถึงเดินดูบ้านหลังใหญ่เสร็จ
ถ้าให้เทียบกับพวกเศรษฐีมันก็ไม่ได้ใหญ่มากแต่มันก็มีพื้นที่เกินความจำเป็นมากไป
“พี่ไม่คิดจะจ้างคนใช้หน่อยเหรอ”มยองซูถามขึ้นเมื่อทั้งสองคนมานั่งกินข้าวด้วยกันในตอนเย็น
“จ้างทำไมล่ะ”ซองกยูถามแล้วเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“แล้วใครจะกวาด เช็ด ถูบ้านให้พี่ล่ะ”มยองซูว่าแล้วตกอาหารไปใส่จานให้ผู้เป็นสามี
“เมียก็ทำสิครับ ปกติก็ชอบทำไม่ใช่เหรอ”ซองกยูว่า ความจริงแล้วก่อนจะย้ายมาอยู่ที่นี้พวกเขาสองคนได้ลองไปใช้ชีวิตคู่ด้วยกันก่อนแต่งงานที่คอนโดของมยองซูแล้ว
และทุกอย่างในบ้านก็มีมยองซูที่ช่วยทำความสะอาดและทำกับข้าวให้เขาทานตลอด
“ไอ้ชอบก็ชอบ แต่ผมทำคนเดียวไม่ไหวหรอกนะ”มยองซูว่าแล้วเบ้ปากอย่างงอนๆนี้ใจคอกะจะใช้แรงงานเขาทั้งขึ้นนั้งล่องเลยหรอ
จะบอกว่างกกลัวเปลืองเงินค่าจ้างน่ะสิ
“หรอครับ งั้นเอางี้เดี๋ยวพี่จะประกาศหาคนใช้นะ
ระหว่างนี้เราสองคนก็ช่วยกันทำไปก่อนแล้วกันพี่ว่าไม่หน้าจะเกินเดือนนี้หรอก”ซองกยูว่าเมื่อนั่งครุ่นคิดได้สักพัก
เขาเองเป็นถึงคณะผู้บริหารบริษัทส่งออกรถยนต์รายใหญ่ก็ไม่ได้เลิกงานดึกอะไร
ยิ่งมยองซูเองที่เป็นพนักงานบัญชีของบริษัทผลิตเครื่องปรุงอาหารยิ่งไม่ได้เลิกงานดึกอะไร
ยิ่งทำบัญชีเสร็จไวก็ยิ่งได้กลับเร็ว คงพอจะมีเวลาช่วยกันทำงานบ้านอยู่แล้วแหละ
“ก็ได้ฮะ”มยองซูว่า
ตัวเขาเองไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ก็แค่บ่นกลัวจะเหนื่อยมากไปก็เท่านั้น
แต่ถ้าให้ทำจริงๆก็คงทำได้อยู่แล้วแหละ
“พุ่งนี้ทำงานกี่โมงครับ”ซองกยูถามแล้วช่วยมยองซูยกจานที่ทานเสร็จแล้วไปไว้ในซิงค์ล้าง
“หน้าจะบ่ายๆฮะเพราะที่บริษัทจะมีประชุมไปสัมมนากัน
ผมอยู่คนละแผนกกับพวกเขาหน้าจะได้กลับเร็ว”มยองซูว่าแล้ลงมือล้างจานในซิงค์
เขาไม่อยากปล่อยให้มันรกเพราะกลัวจะได้ทำงานหนักเพิ่มไปอีก
“หรอ งั้นเดี๋ยวเสร็จแล้วโทรหาพี่นะ จะได้ออกไปรับ”ซองกยูว่าแล้วเดินเข้าไปโอยกอดอีกคนจากข้างหลัง
“พรุ่งนี้พี่กยูไม่ทำงานเหรอ”มยองซูเอี่ยวหน้ามาถามด้วยความสงสัย
“ไม่ครับพี่ขอหยุดอีกอาทิตย์หนึ่ง
กะจะหยุดอยู่กับเมีย”ซองกยูว่าแล้วกดจูบลงบนซอกคอขาวอย่างเอาใจ
“ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้ขอหยุดไว้
เลยไม่ได้อยู่กับพี่เลย”มยองซูเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดแล้วหันกลับมาหาร่างสูง
“ไม่เป็นไรหรอก
เพราะต่อให้อยู่กับพี่เราก็ไม่ได้พักอยู่ดี”ซองกยูว่าก่อนจะเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งไปให้มยองซู
ไวเท่าความคิดร่างสูงเข้าประชิดร่างมยองซูมากขึ้นกว่าเดิม
กักขังร่างบอบบางไว้ในอานัติของตัวเอง
“พี่กยู”มยองซูเรียกเสียงแผ่วพรางก้มหน้าหงุด
อยู่ๆจะมาเกิดอารมณ์อะไรตอนนี้ เมื่อคืนยังเหนื่อยไม่พอหรอไง
“ฮ่าๆๆ แกล้งเล่นเฉยๆครับ
พรุ่งนี้เราต้องไปทำงานที่ไม่กวนเราหรอก”ซองกยูหัวเราะร่าเมื่อสามารถเดาความคิดของคนรักออก
ทำให้คนฟังถึงกับต้องยกมือขึ้นมากอดอกด้วยความงอน
“โถ่ๆไม่งอนนะครับคนดี
เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้อีกเอาไหม”ซองกยูว่าแล้วกดจมูกลงบนแก้มเนียนรัวๆไม่ทันให้มยองซูได้ตั้งตัว
“พอเลย ผมเหนื่อยจะไปอาบน้ำนอนล่ะ
พี่ช่วยเช็ดโต๊ะอาหารด้วยนะ บาย”พอพูดจบก็รีบก้าวยาวๆผ่านหน้าร่างสูงไปทันที
ทิ้งให้ซองกยูได้แต่ยืนนิ่งด้วยความงุนงงก่อนจะต้องรีบไปเช็ดโต๊ะอาหารเมื่อมยองซูเรียกเสียงดัง
“รีบเช็ดรีบขึ้นมาเลยนะ”
“ไง หน้าตาเบิกบานแจ่มใสมาเชี่ยวนะ”เมื่อเห็นพนักงานบัญชีคนน่ารักเดินเข้ามาในบริษัทคนเป็นหัวหน้าแผนกก็อดจะเอ่ยแซวไม่ได้
หยุดงานไปหนึ่งวันหลังจากแต่งงานสามีคงเลี้ยงดีหน้าดู
“ก็ธรรมดาแหละครับ”มยองซูว่าแล้วส่งยิ้มให้ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“เป็นไงบ้าง สามีงานดีไหม”เพราะความอยากรู้อยากเห็นทำให้ ยัง
โยซอบเพื่อนร่วมงานที่อยู่โต๊ะข้างๆรีบถล่าเข้ามาถามทันที
“ดียิ่งกว่าดีซะอีก”มยองซูว่าพรางทำหน้าลอยหน้าลอยตาจนโยซอบเบ้ปากหมั่นใส้
“เหอะ อย่าให้มีสามีหล่อๆรวยๆบ้างนะ
แม่จะอวดเช้าอวดค่ำเลย”โยซอบว่าแล้วสะบัดตูดเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง
มยองซุได้แต่สายหน้าระอากับเพื่อนร่วมงานก่อนจะหันมาสนใจงานของตัวเองที่วางกองอยู่บนโต๊ะ
“มยองซู”ยังไม่ทันได้เปิดเอกสารดู
เสียงเรียกก็ดังขึ้นทำให้ต้องละสายตาออกจากตัวเลขมากมายบนหน้ากระดาษไปมองเจ้าของเสียง
“ครับ”คานรับแล้วขมวดคิ้วมองคนที่เดินเข้ามาหาอย่างไม่เข้าใจ
ปกติคนฝ่ายกิจการไม่ค่อยมายุ่งกับฝ่ายบัญชีเท่าไร
“พี่แจจุงเรียกเข้าไปพบน่ะ”แทมินว่าแล้วส่งยิ้มให้แม้จะไม่อยได้คุยกันแต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องสร้างมิตรภาพที่ไม่ดีแก่คนในบริษัทเดียวกัน
“โอเค”มยองซูว่าก่อนจะลุกขึ้นตรวจเช็คความเรียบร้อยของร่างกายก่อนจะเดินตามลี
แทมินไปพบผู้บริหารที่เรียกให้เขาไปพบแม้จะสงสัยอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไปเพราะเดี๋ยวคนเป็นเจ้านายก็คงบอกเขาเอง
ก๊อกๆๆ
“คุณมยองซูมาแล้วค่ะ”เลขาหน้าห้องเคาะประตูบอกเจ้านาย
“เข้ามาได้เลย”เมื่อได้รับคำอนุญาต
เลาขาสาวก็เปิดประตูให้มยองซูได้ก้าวเข้าไปในห้องทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“นั่งก่อนสิ”เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มใจดีมาให้
มยองซูจึงก้าวเข้าไปนั่งที่เกาอี้ตรงข้ามกับเจ้านายและเอ่ยถามทันที
“คุณแจจุงมีธุระอะไรกับผมครับ”
“คืองี้นะ
นายพอรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าบริษัทจะมีการพาแผนกริการและพนักงานฝึกหัดไปสัมมนาที่ต่างจังหวัดอาทิตย์หน้า”มยองซูพยักหน้ารับคำผู้เป็นนาย
“ฉันจะไปร่วมสัมมนาครั้งนี้ด้วยแต่ยังหาผู้ติดตามไม่ได้”แจจุงว่าแล้วมองมยองซูด้วยสายตาเรียบๆอย่างพิจารณา
เขาว่าคนๆนี้แหละเหมาะที่จะเป็นผู้ติดตามของเขา
“คุณหมายถึง..”
“ฉันเลือกนาย”พอจบคำพูดมยองซูรู้สึกใจหายขึ้นมาทันที
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากไป การได้ไปสัมมนาก็เหมือนการไปพักผ่อน
แต่การต้องห่างกับซองกยูนี้สิเขาไม่ชอบมันเลย
“นายโอเคนะ”แจจุงถามเมื่อเห็นสีหน้าไม่ดีของมยองซู
“โอเคครับ
คุณอุตสาห์ไว้ใจผมขนาดนี้แล้ว”แม้ว่าจะหนักใจอยู่บ้างแต่มยองซูก็ไม่ใช่คนเสียมารยาทที่จะปฏิเสธความไว้ใจของใคร
ห่างกันแค่สองสามวันคงไม่ขาดใจตายหรอกแม้ว่าทุกครั้งที่ไปสัมมนาซองกยูจะไม่ค่อยพอใจเท่าไรก็ตาม
“ถึงแล้วครับ”ซองกยูเอ่ยขึ้นเมื่อเขาขับรถพาร่างบางมาถึงร้านอาหารร้านประจำที่พวกเขาชอบมากินกัน แต่เมื่อหันไปมองก็เห็นว่ามยองซูนั่งนิ่ง
บนใบหน้ามีแววความเครียดจนซองกยูอดเป็นห่วงไม่ได้
มือหนาเอื้อมไปสัมผัสมือยางเบาๆจนทำให้คนที่กำลังเหม่อลอยสะดุ้ง
“ถึงแล้วหรอฮะ”เมื่อมองไปรอบๆแล้วเห็นสถานที่คุ้นเคยมยองซูจึงเอ่ยถามแต่คำตอบที่ได้ก็คือความเงียบพร้อมกับดวงตามที่ดูจริงจังกว่าปกติ
“เรามีอะไรหรือเปล่า”ซองกยูถามขึ้น
ทำให้มยองซูต้องถอนหายใจออกมาแล้วมองสบดวงตาคม กะว่าจะไปบอกที่บ้าน
แต่คงต้องบอกตอนนี้แล้วล่ะ
“คือ
อาทิตย์หน้าที่บริษัทมีสัมมนาน่ะครับ”ซองกยูพยักหน้ารับเพราะเมื่อคืนมยองซูก็บอกเขาไว้แล้ว
“เราคงไม่ได้หมายความว่า...”
“ครับ
ผมต้องไป”
“ไหนเราบอกว่าคนล่ะแผนกกันไง”ซองกยูถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
นี้เขาเพิ่งแต่งงานกะจะหยุดงานเพื่อได้อยู่กับภรรยา
มยองซูก็ไม่ได้หยุดแถมยังต้องเอาเวลาที่มีให้กันอันน้อยนิดไปสัมมนาอีกตั้งหลายวัน
“คุณแจจุงเขาให้ผมไปเป็นผู้ติดตามน่ะครับ”มยองซูรีบหดคอด้วยความกลัว
ซองกยูกำลังอารมณ์ไม่ดี
“ไอ้บ้านั้น”ซองกยูโมโหจนฟิวส์ขาด
ทุบลงไปบนเบาะที่มยองซูนั่งอยู่จนร่างบางสะดุ้ง คิม แจจุงคือพี่ชายต่างมารดาของเขา
และเขาคิดว่าที่มันทำแบบนี้คงเพราะอยากแกล้งไม่ให้เขาได้อยู่กับมยองซู
“พี่กยู
ใจเย็นก่อนสิครับ”มยองซูว่าแล้วจับมือซองกยูมากุมไว้หลวมๆ
“พี่ไม่ให้ไป
ไปบอกมัน ถ้ามันยังดื้อด้านเดี๋ยวพี่ไปเคลียร์เอง”
ความคิดเห็น