ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชวงศ์อังกฤษและยุโรป

    ลำดับตอนที่ #157 : พระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งเม็กซิโก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 343
      0
      28 มิ.ย. 52



    สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่ 1 แห่งเม็กซิโก (สเปน: Emperador Maximiliano I de México, อังกฤษ: Maximilian I, Emperor of Mexico, เยอรมัน: Maximilian I, Kaiser von Mexiko) (พระนามเต็ม: เฟอร์ดินานด์ แม็กซีมีเลียน โจเซฟ, Ferdinand Maximilian Joseph von Habsburg-Lorraine) ทรงเป็นอาร์คดยุคแห่งออสเตรีย และทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเม็กซิโก และทรงจัดตั้งคณะรัฐบาลของพระองค์เอง แต่หลายประเทศได้ปฏิเสธที่จะยอมรับการจัดตั้งคณะรัฐบาลของพระองค์ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา อันนำไปสู่การก่อรัฐประหาร และปฏิรูปการปกครอง นำโดยเบนิโต ยัวเรซ ซึ่งต่อมาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของเม็กซิโก การก่อรัฐประหารครั้งนี้ เป็นเหตุทำให้พระองค์ทรงต้องถูกประหารชีวิตโดยคณะรัฐประหารในเมืองคัวเรทาโร่ ในปีพ.ศ. 2410

    เนื้อหา

    [ซ่อน]

    [แก้] พระราชประวัติ

    สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซีมีเลียน ทรงเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2375พระราชวังเชินบรุนน์ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย พระองค์ทรงเป็นพระโอรส และพระบุตรองค์ที่ 2 ในอาร์คดยุคฟรานซ์ คาร์ลแห่งออสเตรีย และพระชายา เจ้าหญิงโซฟีแห่งบาวาเรีย พระนามและพระราชอิสริยยศเดิมของพระองค์คือ His Imperial and Royal Highness Ferdinand Maximilian Joseph, Prince Imperial and Archduke of Austria, Prince Royal of Hungary and Bohemia

    เมื่อพระองค์ทรงพระเยาว์นั้น พระองค์ทรงมีความสนพระราชหฤทัยในด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ และพฤกษศาสตร์ เมื่อพระองค์ทรงเจริญพระชันษาขึ้น พระองค์ทรงเข้ารับการเตรียมทหาร โดยมีพลเรือเอกวิลเฮล์ม วอน เทเก็ตต์ฮอฟฟ์ เป็นผู้ควบคุมและผู้ให้คำปรึกษาแก่พระองค์ โดยพระองค์ทรงเข้าร่วมรบในสมรภูมิอิตาลี ในสงครามออสเตรีย-ปรัสเซียด้วย และนอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีความคิดริเริ่มในการปฏิรูปประชาธิปไตย โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2400 พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาเป็นอุปราชแห่งราชอาณาจักรลอมบาร์ดี-เวเนเทีย (Viceroy of the Kingdom of Lombardy-Venetia)

    พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงชาร์ลอตแห่งเบลเยียม ซึ่งเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีลีโอโพลด์ที่ 1 แห่งเบลเยียม และเจ้าหญิงหลุยส์ มารีแห่งฝรั่งเศส ทั้ง 2 พระองค์ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2400 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยเมื่อพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเม็กซิโก เจ้าหญิงชาร์ลอตก็ทรงได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีคาร์ลอต้าแห่งเม็กซิโก (Empress Carlota of Mexico) ทั้ง 2 พระองค์ทรงไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาเลย

    ในตอนแรกนั้น อาร์คดยุคแม็กซีมีเลียนทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี จนถึงปีพ.ศ. 2402 ซึ่งถูกสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ พระเชษฐาทรงปลดพระองค์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากทรงกริ้วที่พระองค์ทรงใช้นโยบายเสรีนิยม ในการปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย ทั้งที่ทรงเป็นเพียงอุปราช หลังจากที่ทรงถูกปลดจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว ก็เกิดอุปสรรคใหญ่ในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ, ออสเตรีย และอิตาลี โดยออสเตรียเสียสิทธิ์การครอบครองดินแดนของอิตาลี ส่วนพระองค์และพระชายาก็ทรงย้ายไปประทับไปอยู่ในพระตำหนักส่วนตัว ปราสามมิราแมร์ ในเมืองทรีเอสต์

    [แก้] สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเม็กซิโก

    เมื่อปีพ.ศ. 2402 มีคณะรัฐมนตรีและผู้สนับสนุนระบอบจักรวรรดิชาวเม็กซิกันได้ทาบทามให้พระองค์ไปทรงเป็นองค์พระประมุของค์ใหม่แห่งเม็กซิโก พระองค์ทรงปฏิเสธในตอนแรก แต่พระองค์ก็ทรงยอมรับราชบัลลังก์อิมพีเรียลเม็กซิกันใน 1 ปีต่อมา เพราะทรงคิดในเรื่องความก้าวหน้าทางพฤกศาสตร์ในเม็กซิโก ซึ่งเป็นเรื่องที่พระองค์ทรงสนพระทัยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งในเรื่องของคุณภาพของประชากรในประเทศนั้น ซึ่งพระองค์ทรงคิดว่า พระองค์น่าจะสามารถปกครองและพัฒนาคุณภาพของประชากรได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพระองค์ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเม็กซิโกแล้ว พระองค์จะทรงเสียสิทธิ์ในการดำรงพระยศต่างๆของออสเตรีย

    อาร์คดยุคเฟอร์ดินานด์ แม็กซีมีเลียนและพระชายา อาร์คดัชเชสชาร์ลอตเสด็จพระราชดำเนินมาถึงเมืองเวราครูซ ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2407 โดยเมื่อทั้ง 2 พระองค์ได้มาถึงเม็กซิโกแล้ว มีทั้งฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบ โดยฝ่ายเห็นชอบคือ สมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นชอบได้แก่ เบนิโต ยัวเรซ ซึ่งตอนนั้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งเม็กซิโก แต่ถูกถอดออกจากตำแหน่ง โดยเบนิโตได้ปฏิเสธระบอบการปกครองของพระองค์ตั้งแต่แรกที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาถึงเม็กซิโกแล้ว และนอกจากเบนิโตที่ไม่เห็นชอบแล้ว ยังมีพวกสาธารณรัฐนิยมอีกด้วย

    อาร์คดยุคเฟอร์ดินานด์ และอาร์คดัชเชสชาร์ลอตพระชายา ได้เลือกเม็กซิโก ซิตี้เป็นเมืองหลวง โดยทรงเลือกปราสาทชาพัลเทเพ็ค ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ชานเมืองเม็กซิโก ซิตี้เป็นพระราชฐานหลัก ซึ่งปราสาทนี้เคยเป็นพระราชฐานหลักของหัวหนเชนเผ่าแอซแท็กมาก่อน ทั้ง 2 พระองค์ทรงทำพระราชพิธีเถลิงวัลย์ราชสมบัติที่มหาวิหาร เมโทรโปลิตานา แต่เป็นพระราชพิธีที่ไม่เป็นทางการ เพราะเนื่องจากระบอบการปกครองที่ไม่มั่นคง อีกทั้งไม่มั่นใจในการจัดตั้งคณะรัฐบาลใหม่

    ด้วยความที่สมเด็จพระจักรพรรดิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีไม่ทรงมีพระราชโอรส หรือพระราชธิดาเลย พระองค์จึงทรงแต่งตั้งเจ้าชายอากัสติน เดอ ไอตูร์ไบด์ ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ของพระราชวงศ์เม็กซิโกที่เคยปกครองจักรวรรดิเม็กซิโกที่ 1 มาก่อน เป็นองค์รัชทายาท โดยเจ้าชายอากัสติน ทรงเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระจักรพรรดิอากัสตินที่ 1 สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซีมีเลียนทรงมีพระบรมราชโองการ สถาปนาเจ้าชายอากัสตินเป็น เจ้าชายแห่งไอตูร์ไบด์ (His Imperial Highness The Prince of Iturbide)

    ในระหว่างที่พระองค์ทรงปกครองเม็กซิโก ในนามของจักรวรรดิเม็กซิโกที่ 2 พระองค์ทรงได้รับคำแนะนำจากแนวทางการบริหารประเทศของยัวเรซ ทั้งในเรื่องของการฟื้นฟูประเทศ การให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา ซึ่งตอนแรก พระองค์ได้ทรงประทานอภัยโทษแก่ยัวเรซ ที่คิดต่อต้านพระองค์ เพราะเนื่องจาก พระองค์ทรงอยากให้ยัวเรซมาช่วยในการบริหารประเทศ แต่ยัวเรซปฏิเสธและคิดอยากจะโค่นล้มอำนาจพระองค์ พระองค์จึงทรงส่งทหารไปสังหารยัวเรซอย่างลับๆ แต่ยัวเรซได้รับความช่วยเหลือจากนักสาธารณรัฐนิยม และฆ่าทหารของพระองค์จนหมด และนอกจากนี้นักสาธารณรัฐนิยมคิดจะฆ่าผู้ที่สนับสนุนลัทธิจักรวรรดินิยมให้หมด แต่ความคิดนี้ได้ถูกล้มเลิก เพราะมันขัดแย้งกับนโยบายระบอบการปกครองของยัวเรซ ผู้ซึ่งเคยเป็นประธานาธิบดีมาก่อน

    สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซีมีเลียนเมื่อทรงขึ้นครองราชย์

    [แก้] การล้มล้างราชบัลลังก์

    การประหารชีวิตสมเด็จพระจักรพรรดิและราชเลขานุการที่มืองคัวเราทาโร่

    หลังจากเสร็จสิ้นสงครามพลเมืองอเมริกัน ในประเทศสหรัฐอเมริกา อเมริกาในหันมาสนับสนุนกองทัพให้กับนักสาธารณรัฐนิยมที่คิดจะก่อรัฐประหาร ก่อกบฏล้มล้างราชบัลลังก์ ส่วนตัวสมเด็จพระจักรพรรดิเองก็ได้รับการช่วยเหลือ และสนับสนุนจากจักรวรรดิฝรั่งเศส สมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ได้ส่งกองทัพส่วนหนึ่งไปรับพระองค์และพระมเหสีเพื่ออพยพไปที่อื่น แต่พระองค์ก็ทรงถูกพวกทหารก่อรัฐประหารและกองทัพจากสหรัฐอเมริกาจับไป ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดินีคาร์ลอต้าทรงอพยพไปยุโรปอย่างปลอดภัย โดยพระองค์ทรงกลับสู่ประเทศเบลเยียม สมเด็จพระราชาธิบดีลีโอโพลด์ที่ 1 แห่งเบลเยียม และสมเด็จพระราชินีหลุยส์ มารี ทรงรอรับเสด็จ พระองค์ไม่ทรงกลับไปเม็กซิโกอีกเลย พระองค์ทรงประทับอยู่ที่เบลเยียมจวบจนสิ้นพระชนม์

    ส่วนสมเด็จพระจักรพรรดินั้น ได้ทรงถูกนำพระองค์เข้าศาลโดยมีเบนิโต ยัวเรซเป็นแกนนำ ศาลสั่งให้ประหารชีวิตพระองค์ทันที ทางด้านผู้นำยุโรปหลายประเทศนั้น เช่นอิตาลี และเยอรมนี รวมทั้งออสเตรีย ได้ส่งโทรเลขไปที่เม็กซิโกเพื่อเจรจาในการปล่อยตัวพระองค์กลับสู่มาตุภูมิ เพื่อสงครามภายในจะได้สงบ แต่เม็กซิโก ซึ่งมียัวเรซเป็นแกนนำ ได้ปฏิเสธ โดยหาว่าต่างชาติได้เข้ามาก้าวก่ายปัญหาส่วนตัวของประเทศ

    พระศพของสมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซีมีเลียนที่วิหารฮับส์บูร์ก กรุงเวียนนา

    เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2410 มีการประหารชีวิตสมเด็จพระจักรพรรดิ รวมทั้งพลเอกมิเกล มิรามอน และพลเอกโทมัส เม็จยา ซึ่งเป็นราชเลขานุการ และองคมนตรีของพระองค์ ที่เมืองคัวเรทาโร่ เม็กซิโกได้ส่งพระศพของพระองค์กลับสู่มาตุภูมิที่กรุงเวียนนา โดยพระศพของพระองค์ถูกจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ โดยสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ พระเชษฐาทรงมีพระบัญชาให้ฝังพระศพไว้ที่วิหารฮับส์บูร์ก





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×