คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #154 : เจ้าหญิงแอสตริดแห่งสวีเดน
เจ้าหญิงอัสตริดแห่งสวีเดน (Princess Astrid of Sweden พระนามเต็ม อัสตริด โซเฟีย โลวิซา ธือรา; 17 พฤศจิกายนพ.ศ. 2448 - 29 สิงหาคมพ.ศ. 2478) ทรงเป็นพระมเหสีของสมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโพลด์ที่ 3 แห่งเบลเยียม และพระราชนัดดาในสมเด็จพระราชาธิบดีออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดน โดยทรงเกี่ยวข้องเป็นพระอัยยิกาในฝ่ายพระชนกในสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน เนื่องจากทรงมีศักดิ์เป็นพระญาติชั้นที่สองในเจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟแห่งสวีเดน ดยุคแห่งวาสเตอร์บ็อตเต็น และทรงเป็นพระราชชนนีของกษัตริย์แห่งเบลเยียมสองพระองค์คือ สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวงที่ 1 และ สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบรต์ที่ 2 อีกด้วย
เจ้าหญิงประสูติในวันที่ 17 พฤศจิกายนพ.ศ. 2448 ณ กรุงสต็อกโฮล์ม โดยทรงเป็นพระธิดาพระองค์เล็กในเจ้าชายคาร์ลแห่งสวีเดน ดยุคแห่งเวสเตอร์เกิตลันด์ กับ เจ้าหญิงอิงเงบอร์กแห่งเดนมาร์ก พระอัยกาฝ่ายพระชนกคือ สมเด็จพระราชาธิบดีออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดน ส่วนพระอัยกาฝ่ายพระชนนีคือ สมเด็จพระราชาธิบดีเฟรเดริคที่ 8 แห่งเดนมาร์กเจ้าหญิงมาร์ธาแห่งสวีเดน พระภคินีทรงอภิเษกกับสมเด็จพระราชาธิบดีโอลาฟที่ 5 แห่งนอร์เวย์ ส่วนเจ้าหญิงมาร์กาเรธา พระภคินีองค์ใหญ่ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าชายแอ็กเซลแห่งเดนมาร์ก พระญาติชั้นที่หนึ่งในฝ่ายพระชนนี ขณะที่พระอนุชาพระองค์เล็กคือ เจ้าชายคาร์ลแห่งสวีเดน ดยุคแห่งออสเตอเกิตลานด์ ทรงอภิเษกสมรสต่างฐานันดรศักดิ์กับหญิงสาวสามัญชน
[แก้] ดัชเชสแห่งบราบันต์
สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบรต์ที่ 1 และ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธแห่งเบลเยียม ทรงเชิญสื่อมาที่พระราชวังในกรุงบรัสเซลส์ โดยทรงกล่าวว่า "พระราชินีและตัวข้าพเจ้า นามอัลแบรต์ มีความประสงค์จะประกาศต่อพวกท่านให้ทราบเกี่ยวกับการอภิเษกสมรสที่จะมีขึ้น ระหว่างเจ้าชายเลโอโพลด์ ดยุคแห่งบราบันต์ และ เจ้าหญิงแอสตริดแห่งสวีเดน พวกเราเห็นว่าเจ้าหญิงจะนำความรื่นรมย์และความสุขมาสู่โอรสของเรา เลโอโพลด์และแอสตริดตัดสินใจะร่วมชีวิตกันโดยปราศจากแรงกดดันหรือเหตุผลทาง การเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ความรักของทั้งสองเป็นการอยู่ร่วมกันอย่างแท้จริงท่ามกลางผู้คนที่ชอบแบบ เดียวกัน" สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ซึ่งทรงความโรแมนติกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ทรงกล่าวย้ำว่า "เป็นการสมรสด้วยความรัก จงได้บอกสิ่งนี้ต่อพสกนิกรของเรา ไม่มีการจัดการอะไรทั้งสิ้น ไม่มีเรื่องของการเมืองแม้แต่เพียงเรื่องเดียวมาชักจูงการติดสันใจของโอรส เรา" เจ้าหญิงแอสตริดอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนพ.ศ. 2469 ณ กรุงบรัสเซลส์ กับ เจ้าชายเลโอโพลด์ ดยุคแห่งบราบันต์ ซึ่งเป็นพระอิสริยยศของมกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม แล้วได้ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าฟ้าหญิงดัชเชสแห่งบราบันต์ (Her Royal Highness The Duchess of Brabant)
ชาวเบลเยียมยอมรับเจ้าหญิงแอสตริดได้อย่างรวดเร็วทันควัน พระองค์ทรงอ่อนโยน มีความเข้าอกเข้าใจ และมีมนุษยธรรมอย่างลึกซึ้ง พระราชกรณียกิจทางการและสาธาณชนต่างๆ นั้นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เจ้าชายเลโอโพลดทรงเป็นผู้ชื่นชอบที่ตื่นตัวมากที่สุดของเจ้าหญิง ความรักที่แสดงออกจากทั้งสองพระองค์สามารถเห็นได้ชัดเจนในทุกที่ ในหลายโอกาสประชาชนจะเห็นทั้งสองพระองค์จับพระหัตถ์กัน แม้แต่ระหว่างการปฏิบัติพระราชกิจทางการสำคัญต่างๆ
[แก้] พระราชินีแห่งเบลเยียม
ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2477 หลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบรต์ที่ 1 เจ้าชายเลโอโพลด์ ดยุคแห่งบราบันต์ เสวยราชสมบัติเป็น สมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโพลด์ที่ 3 แห่งเบลเยียม (His Majesty King Leopold III of Belgium) ส่วนเจ้าหญิงแอสตริด ดัชเชสแห่งบราบันต์ พระวรชายานั้น ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระราชินีแอสตริดแห่งเบลเยียม (Her Majesty Queen Astrid of Belgium) ทั้งสองทรงมีพระโอรสธิดา 3 พระองค์คือ
-
เจ้าฟ้าหญิงโจเซฟีน-ชาร์ล็อตแห่งเบลเยียม (โจเซฟีน-ชาร์ล็อต อินเกบอร์ก เอลิซาเบธ มารี-โจเซ มาร์เกอริต แอสตริด; ประสูติ 11 ตุลาคมพ.ศ. 2470 สิ้นพระชนม์ 10 มกราคมพ.ศ. 2548)
- ทรงอภิเษกสมรสในเมื่อวันที่ 9 เมษายนพ.ศ. 2496 ณ กรุงบรัสเซลส์ กับ เจ้าฟ้าชายฌอง เบอร์นัวต์ กีโยม โรแบรต์ อ็องตวน หลุยส์ มารี อดอล์ฟ มาร์ก ดาเวียโนแห่งลักเซมเบิร์ก; ประสูติ 5 มกราคมพ.ศ. 2464) ต่อมาเสวยราชสมบัติเป็น แกรนด์ดยุคครองรัฐแห่งลักเซมเบิร์ก เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนพ.ศ. 2507 หลังจากการสละราชสมบัติของแกรนด์ดัชเชสชาร์ล็อตแห่งลักเซมเบิร์ก พระราชชนนี
-
สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวงที่ 1 แห่งเบลเยียม (พระนามเต็ม โบดวง อัลแบรต์ ชาร์ลส์ เลโอโพลด์ แอ็กเซล มารี กุสตาฟ; พระราชสมภพ 7 กันยายนพ.ศ. 2473 สวรรคต 31 กรกฎาคมพ.ศ. 2536)
- ทรงเป็นมกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม โดยทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น ดยุคแห่งบราบันต์ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2477
- ทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าชายผู้สำเร็จราชการแห่งเบลเยียม (1 สิงหาคมพ.ศ. 2493 - 16 กรกฎาคมพ.ศ. 2494)
- เสวยราชสมบัติหลังจากการสละราชสมบัติของพระบรมราชชนก เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมพ.ศ. 2494
- ทรงอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมพ.ศ. 2503 ณ กรุงบรัสเซลส์ กับ ดอนญา ฟาบิโอลา แฟร์นันดา มาเรีย เด ลาส วิกตอเรียส อันโตเนีย อาเดไลดา เด มอรา อี อารากอน (เกิด 11 มิถุนายนพ.ศ. 2471)
-
สมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบรต์ที่ 2 แห่งเบลเยียม (อัลแบรต์ เฟลิกซ์ อุมแบรต์ เธโอดอร์ คริสเตียน เออแชน มารี; พระราชสมภพ 6 มิถุนายนพ.ศ. 2477)
- ทรงได้รับการสถาปนาเป็น เจ้าชายแห่งลิแอจ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนพ.ศ. 2477
- เสวยราชสมบัติหลังจากการเสด็จสวรรคตของพระบรมเชษฐาธิราช เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมพ.ศ. 2536
- ทรงอภิเษกสมรสเมื่อในวันที่ 2 กรกฎาคมพ.ศ. 2502 ณ กรุงบรัสเซลส์ กับ ดอนนา เปาลา มาร์เกริตา มาเรีย-อันโตเนีย คอนซิลยา รัฟโฟ ดี กาลาเบรีย (เกิด 11 กันยายนพ.ศ. 2480)
หลังจากการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบรต์ที่ 1 สมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโพลด์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีแอสตริดทรงดำเนินเข้ารัฐสภาอย่างเป็นพิธีการ โดยทรงมีเจ้าหญิงโจเซฟีน-ชาร์ล็อตและเจ้าชายโบดวง พระราชโอรสและธิดาเสด็จมาด้วย สมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโพลด์ทรงให้สัตย์ปฏิญาณต่อรัฐธรรมนูญของประเทศ ด้วยคำกล่าวว่าพระองค์ "จะอุทิศตัวเองทั้งหมดให้แก่ประเทศชาติ" ส่วนพระราชินีแอสตริดซึ่งทรงมีอารมณ์ความรู้สึกไปกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่ ทรงร่วมเป็นสักขีพยานได้ทรงอุ้มพระโอรสองค์น้อยและมอบให้แก่ประเทศชาติด้วย แสดงให้เห็นว่ารัชกาลใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
[แก้] อุบัติเหตุทางรถยนต์
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2478 สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี พร้อมด้วยพระราชโอรสและธิดาได้เสด้จไปยังตำหนักฮาสลิฮอร์น ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งของทะเลสาบเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ การพักผ่อนอันเงียบสงบทำให้ทั้งสองพระองค์ทรงใช้เวลาส่วนมากในการเดินและปีน เขาในแถบชนบท ในวันก่อนที่จะเสด็จกลับกรุงบรัสเซลส์ กษัตริย์เลโอโพลด์และพระราชินีแอสตริดทรงตัดสินพระทัยไปอีกแห่งหนึ่งเป็นที่ สุดท้าย เลโอโพลด์ทรงเป็นนักปีนเขาที่กระตือรือร้น และได้ทรงปีนเทือกเขาโดโลไมต์มาแล้วหลายครั้ง ส่วนพระราชโอรสและธิดาเสด็จกลับยังกรุงบรัสเซลส์แล้ว
ในวันที่ 29 สิงหาคมพ.ศ. 2478 สมเด็จพระราชาธิบดีเลโอโพลด์และสมเด็จพระราชินีแอสตริดเสด็จออกจากตำหนักที่ ประทับเพื่อไปในการปีนเขาซึ่งเป็นเหมือนคราวเคราะห์ครั้งสุดท้าย กษัตริย์เลโอโพลด์ซึ่งทรงขับรถยนต์สปอร์ตไปตามถนนที่แคบและมีลมแรงในแถบนี้ ทรงนึกถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะมีขึ้นในวันนั้น ส่วนพระราชินีแอสตริดที่ประทับนั่งมาข้างๆ ทรงช่วยพระสวามีมองดูเส้นทางเพื่อไปยังจุดหมาย เพียงไม่กี่นาทีก่อนถึงหมู่บ้านในเมืองเคือสนัคต์-อัม-รีกี พระองค์ทรงชี้ให้พระสวามีดูอะไรบางอย่าง ทำให้ทรงละสายตาไปทอดพระเนตรเพียงชั่วครู่ ทันใดนั้นรถยนต์พระที่นั่งก็พุ่งลงไปยังหุบเหว พระราชินีแอสตริดทรงกระเด็นออกนอกตัวรถอย่างรุนแรง ร่างไร้วิญญาณของพระองค์นอนอยู่บนสนามหญ้าใกล้กับซากรถยนต์ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าถึงเสียงตะโกนร้องว่า "แอสตริด!" ครั้งหนึ่ง เมื่อกษัตริย์เลโอโพลด์ทรงอุ้มร่างที่โชกเลือดของพระมเหสีไว้แนบพระอุระ พระราชินีได้สิ้นพระชนม์ไปพร้อมกับทารกที่จะเป็นพระโอรสหรือธิดาพระองค์ที่ สี่ในอุบัติเหตุครั้งนี้
[แก้] พระอิสริยยศ
- พ.ศ. 2448 - พ.ศ. 2469: สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงแอสตริดแห่งสวีเดน (Her Royal Highness Princess Astrid of Sweden)
- พ.ศ. 2469 - พ.ศ. 2477: สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงดัชเชสแห่งบราบันต์ (Her Royal Highess The Duchess of Brabant)
- พ.ศ. 2477 - พ.ศ. 2478: สมเด็จพระบรมราชินีแห่งเบลเยียม (Her Majesty The Queen of the Belgians)
ความคิดเห็น