ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฤทธิ์รักคนเถื่อน ผ่านพิจารนาสำนักพิมพ์ แสนรัก (ไลต์ออฟเลิฟ)

    ลำดับตอนที่ #38 : ตอนที่ 36 RENEW

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.07K
      6
      20 พ.ค. 59


     

                   









                   เลียมขึ้นฝั่งมาอย่างคนอารมณ์ไม่ดี เหตุเพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนที่เอมมาลินกลับไปหานั้นเป็นใคร และคนที่รู้ดีที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเลขาสาวผู้แสนจะจืดชืดอย่างญารินดา เขาต้องสั่งคนขับรถวนหาอยู่นานกว่าจะเจออพาร์ทเม้นท์ของเธอ และก็ต้องยืนรออยู่ด้านล่างนานเกือบชั่วโมงกว่าเจ้าหล่อนจะยอมลงมา ไม่รู้ว่าจงใจแกล้งหรืออย่างไร ทั้งที่เขาโทรมาบอกล่วงหน้าว่าจะมา ร่างบางเดินเอ้อระเหยลงมาพร้อมดวงหน้าแฉล้มแช่มชื่นเสียเหลือเกิน ทั้งที่เขาหงุดหงิดแทบตายแล้ว

                “แหม..แม่คุณกว่าจะจรรีลงมาได้” คำทักทายคำแรกพร้อมปั้นหน้ายักษ์ใส่ หากแต่ว่ามันเรียกเสียงหัวเราะน่าหมั่นไส้จากคนโดนเหน็บ

                “บ่นอย่างกับคนแก่เลยนะ มาหาฉันมีธุระอะไร”

                “ผมอยากรู้ว่าคุณเอมไปไหน” ยิงคำถามออกไปตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อมเพราะเสียเวลายืนรออยู่นานจนอารมณ์ขุ่นมัวได้ที่

                “ทำไมฉันต้องบอก คุณจะอยากรู้ไปทำไม” เสียงเล็กย้อนแบบกวนอารมณ์สุดๆ

                “นี่คุณ! ผมไมได้มายืนรอตรงนี้นับชั่วโมงเพื่อให้คุณมายอกย้อนผมนะ”

                “ก็มันจริงนี่ ขนาดเจ้าตัวยังไม่ทุกข์ไม่ร้อนอะไรเลย แล้วคุณจะมายุ่งด้วยทำไม”

                “จริงรึเปล่าที่คุณเอมเธอมีผู้ชายคนอื่น”

                “ จริง “ เธอตอบออกไปแบบไม่ขยายความ เพราะจริงอยู่ที่ว่าเอมมาลินมีผู้ชายอีกคน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย และเธอก็คิดว่ามันไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ฟังเพราะไม่เห็นด้วยการกระทำของเจมส์ หากว่าเขามีความพยายามมากกว่านี้เพียงนิด เธออาจจะเห็นใจเขา แต่นี่เขากลับนิ่งเฉย หรือนั่นอาจเป็นเพราะเขายังรักเอมมาลินไม่มากพอที่จะทำทุกอย่างเพื่อเธอได้ ก็สมควรแล้วที่เอมมาลินตัดสินใจเดินออกไปจากชีวิตเขา นั่นอาจดีที่สุดสำหรับเอมมาลิน

                “คุณเอมทำแบบนี้ได้ยังไง มีเจมส์อยู่แล้วทั้งคน ยังกล้ามีคนอื่นอีก”

                “มีก็เหมือนไม่มี แบบนี้สู้ไม่มีเลยมันยังจะดีซะกว่า คนเราเมื่อถึงที่สุดแล้วความอดทนมันก็ย่อมมีที่สิ้นสุด มันก็ไม่ผิดใช่ไหมถ้าจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เมื่ออีกฝ่ายก็ไม่เคยให้ความมั่นใจอะไรเลย เป็นฉัน...ฉันก็ไม่ทน”

                การที่ผู้ชายไม่พูด ไม่ได้แปลว่าไม่ได้คิด ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ”

                “แล้วถ้าไม่พูด เราจะรู้ไหมล่ะ เราไม่ใช่เทวดานางฟ้าที่ไหนนะจะได้หยั่งรู้ไปหมดเสียทุกเรื่อง เรื่องบางเรื่องแค่คิดเองอยู่ฝ่ายเดียวมันไม่ได้หรอกเพราะมันละเอียดอ่อนเกินกว่าผู้ชายหยาบกระด้างอย่างพวกคุณจะเข้าใจ”

                “ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะมีคนอื่นนะ คุณเอมทำแบบนี้ไม่ถูก แบบนี้มันเข้าข่ายจับปลาหลายมือ แค่โทษผู้ชายไม่ดีฝ่ายเดียวไม่ได้หรอก ผู้หญิงก็เผื่อรักเผื่อเลือกเหมือนกันแหล่ะ” บอกอย่างอารมณ์ขึ้น ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องของเขาเลย แถมยังมายืนเถียงหน้าดำหน้าแดงกันแบบนี้มันไม่เข้าท่าเลยจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็หยุดปากไม่ไหว

                “ก็เผื่อเหลือ ดีกว่าเผื่อขาด จริงไหมล่ะ” ญารินดาโต้กลับแบบไม่ลดราวาศอก ยักคิ้วหลิ่วตากวนโมโหอีกฝ่ายเมื่อเขาขึ้นเสียงใส่ เรื่องอะไรเธอจะยอมแพ้ เพราะเรื่องนี้เจมส์ผิดเต็มประตู ถึงจะเป็นเพราะความเข้าใจผิดก็เถอะ

                “ยอมรับแล้วสิใช่ไหม ผู้หญิงแบบพวกคุณไม่ได้ดีไปกว่าพวกผมสักเท่าไหร่” น้ำเสียงค่อนแคะดูถูก พร้อมสายตาดูหมิ่นอย่างยิ่งยวด

                “เราก็ไม่เคยบอกนี่ว่าเป็นคนดี เราก็แค่ปุถุชนคนธรรมดาที่ย่อมต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเอง และเมื่อมีตัวเลือกมากมายทำไมต้องโง่อยู่ที่คนๆ เดียว” วงหน้านวลเชิดขึ้นสู้ ไม่ยีหระต่อคำดูหมิ่น แม้จะรู้สึกแปลบอยู่ลึกๆ อย่างไม่รู้สาเหตุ แต่มันทำคนฟังอกพองเพราะโมโหเดือดราวกับว่าคนๆ นั้นไม่ใช่เจมส์ แต่เป็นเขาเสียเอง

                “สิ่งที่ดีที่สุดงั้นหรือ ได้!...ผมจะทำให้ดูว่าแบบไหนที่เรียกว่าดีที่สุด “ มือใหญ่ผลักกายเล็กเข้าไปในรถที่จอดอยู่หน้าอพาร์ทเม้นท์แบบไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่เขาจะแทรกร่างใหญ่ตามเข้ามาพร้อมปิดประตูตามหลัง เนื่องกระจกติดฟิล์มดำคนข้างนอกจึงไม่สามารถมองเข้ามาด้านในได้เลย ตัวรถสั่นโคลงอย่างน่ากลัวเพราะเธอสู้สุดฤทธิ์ ดิ้นสุดแรงเกิด แต่ก็ถูกกดทับจนขยับไม่ได้ บอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ข้างรถได้แต่ลอบถอนใจเพราะไม่กล้าท้วงติงกับการกระทำอันเหิมเกริมของผู้เป็นนาย

                “ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไม่งั้นฉันจะ...”

    จะอะไรไม่รู้เพราะเธอดันโดนปิดปากเสียก่อน ร่างบางถูกกดลงไปกับพื้นเบาะ พร้อมกับผู้รุกรานที่บดเบียดกายกำยำเข้าหา อีกทั้งยังจาบจ้วงอย่างไร้มารยาทโดยการสอดแทรกลิ้นร้อนเข้ามา มือเล็กตะกุยไหล่อีกฝ่ายจิกเล็บเข้าไปในเนื้อจนคนร่างใหญ่เผลอร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด พร้อมๆ กับสติที่เริ่มกลับคืนมาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาทำรุนแรงไปด้วยความลืมตัว มองคนใต้ร่างนอนน้ำตาคลอ ดวงหน้านวลชื้นแฉะพร้อมกันนั้นเรียวปากสีอ่อนเม้มแน่น เธอไม่เคยโดนหยามเกียรติขนาดนี้มาก่อน

    “ออกไปให้พ้น คนสารเลว” ไม่ต้องรอให้เธอพูดซ้ำสอง เขารีบผละออกในทันทีด้วยความมึนงง “อยากรู้ไหมความจริงเรื่องมันคืออะไร...ผู้ชายคนที่พี่เอมกลับไปหา คือพ่อของเธอ ชัดไหม..คนอย่างพวกคุณเอาคิดเรื่องเลวๆ การที่พวกคุณเป็นแบบนั้นไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนคุณนะ” จบคำ ญารินดาเอื้อมมือไปที่ประตูอีกด้านแล้วเปิดออกไปด้วยความโมโห ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด ทั้งงงที่อยู่ดีๆ ตนเองก็มาโดนทำแบบนี้เพียงเพราะเรื่องคนอื่น

     

                เจมส์กลับมาที่บ้านในอีกหลายวันต่อมา ทุกอย่างยังคงเหมือนเก่าจะมีก็แต่คนเท่านั้นที่ไม่อยู่ ความเงียบเหงาชวนหดหู่ใจเสียจริง พาร่างสูงเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานเหมือนเช่นเคย หยิบเอกสารมาเปิดอ่านผ่านๆ พยายามทำสมาธิจดจ่ออยู่ที่มัน แต่สุดท้ายก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี เมื่อเดินออกข้างนอกรับลมเล่นเพื่อผ่อนคลายอารมณ์เหงาก็ทำให้คิดถึงใครบ้างคนขึ้นมาอีก เธอหายหน้าไปหลายวันแล้ว ไม่คิดจะติดต่อกลับมาหาเขาบ้างเลย ไม่รู้จะโกรธใครดีเพราะตนเองก็นิ่งเฉยไม่ยอมทำอะไร ทั้งที่ใจมันคิดถึงจนแทบบ้า ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ผ้าใบริมสระน้ำ เพราะอะไรนะใจมันถึงว้าวุ่นอยู่ตลอดเวลา คิดถึงอีกคนที่อยู่ห่างไกล ผุดลุกผุดนั่งอย่างคนหงุดหงิด ก่อนจะเห็นน้องชายตัวดีเดินหน้ามุ่ยเข้ามาวงหน้าเข้มบอกบุญไม่รับนั่งลงข้างๆ พร้อมกับถอนหายใจดังเฮ้อ

                “เป็นอะไร” คนพี่นิ่วหน้าถาม เจมส์สังเกตว่าพักหลังเลียมดูหงุดหงิดบ่อยเหลือเกิน

                “เปล่า” ตอบเสียงแข็งไม่กล้าบอกพี่ชายว่าเขาไปเฝ้าอยู่หน้าอพาร์ทเม้นท์ของญารินดามาหลายวัน แต่เธอหนีหายไปไหนไม่รู้ ตั้งแต่วันนั้นมาเธอก็หนีหน้าเขาไม่ยอมมาพบไม่แม้แต่จะรับโทรศัพท์ชะรอยว่าคงจะโกรธเขามาก เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องแคร์แค่ผู้หญิงจืดชืดคนหนึ่งแต่ก็ทำเอาเขาอยู่ไม่สุขมาหลายวันเลย “แล้วนี่ทำไมพี่ยังอยู่นี่”

                “แกนี่ถามแปลกๆ ไม่ให้ฉันอยู่นี่แล้วจะให้ฉันไปไหน ช่วงนี้เรือฮอริงตันกำลังซ่อมบำรุงอยู่ คงอีกพักใหญ่กว่าจะเปิดให้บริการอีก พักนี้ฉันเลยว่าง”

                “ถามจริงๆ นี่พี่ไม่คิดจะไปตามคุณเอมเธอจริงๆ นะหรือ”

                “แกไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน เมื่อฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่” เจมส์บอกเสียงเขียว เลียมถึงกับส่ายหน้าเพราะรู้ว่าเจมส์ยังเข้าใจว่าเอมมาลินกลับไปหาชายอื่น เขาอ้าปากจะบอกพอดีกับแม่บ้านร่างบางเดินถือโทรศัพท์เข้ามาหา

                “โทรศัพท์ค่ะคุณเลียม” แม้บ้านสาวว่าพร้อมยืนเจ้าเครื่องมือสื่อสารให้ ชายหนุ่มรับไปฟังคู่สนทนาจากปลายสายอยู่ครู่ใหญ่ มุมปากจุดประกายด้วยความพอใจเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นจึงยื่นคืนให้แม่บ้านสาวแล้วหันกลับไปหาเจมส์

                “เอางี้ไหม ไหนๆ พี่ก็ว่างงั้นเราไปเที่ยวกันเถอะ” เอ่ยชวนพร้อมอมยิ้มอย่างมีเลศนัย

                “ไปไหน” อีกฝ่ายย้อนถามกลับอย่างคนเบื่อๆ

                “อืม..ช่วงนี้หน้าฝนทะเลไม่ค่อยน่าเที่ยว งั้นเราขึ้นเหนือกันเถอะ เห็นว่าอากาศกำลังดี”

                “แกไปคนเดียวเถอะ ฉันไม่อยากไปไหน” เจมส์บอกปัดอย่างไม่ใส่ใจ ทำเอาคนฟังแสดงอาการเซ็งสุดขีดออกมาอย่างเสียไม่ได้

                “เจมส์ พี่จะอยู่แบบซังกะตายอย่างนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่ ไม่เอาน่า ไปเปิดหูเปิดตาบ้างเถอะนะถือเสียว่าไปเป็นเพื่อนผม ตกลงตามนี้” ว่าจบก็ลุกออกไปโดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้ปฏิเสธ

                “อ้าว..เฮ้ย! ไอ้น้องคนนี้นี่ มัดมือชกเฉยเลย” เจมส์บ่นอุบอย่างหัวเสีย

     




     

    ......................................................................................................

     

     แจ้งข่าวอีกครั้งนะคะ ไรต์จะลงให้อ่านแค่60% ตอนนี้ใกล้หมดโควต้า เหลือตอนเดียวเท่านั้น หากใครอยากอ่านฉบับเต็ม สามารถ สั่งซื้อได้ที่เวปของทางสำนักพิมพ์ค่ะ ฤทธิ์รักคนเถื่อน จะมีวางขายใน ร้านนายอิทร์ B2S ซีเอ็ด คาดว่าจะวางแผงทั่วประเทศในอาทิตย์หน้าค่ะ ฝากอุดหนุนด้วยค่ะ



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×