ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซวานเนญ่า โรงเรียนแห่งเวทมนต์

    ลำดับตอนที่ #2 : ภาค 1)นักเวทย์มือใหม่ : 2. เตรียมตัว!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.38K
      3
      6 พ.ค. 56

    เตรียมตัว



                            "อ่ะ นี่ลูก แม่สมัครสอบเข้าให้แล้ว แล้วก็...ที่เรามาตลาดกันวันนี้ เพราะว่าที่โรงเรียนเขากำหนดของที่ต้องใช้เอาไว้ แม่เลยพามาซื้อของนะจ๊ะ" เสียงแม่ของเอวี่ดังขึ้นขณะที่กำลังเดินอยู่ในตลาดที่กำลังคึกคักเพราะเป็นเวลาที่เหล่าแม่บ้านจะออกมาจับจ่ายใช้สอยกัน
                             "แต่แม่คิดเหรอคะว่าอย่าง เอวานน่าห์ เมเนร่า คนนี้จะสอบเข้าได้?" เธอถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ เมื่อแม่ของเธอหันมาเห็นคิ้วที่กลายเป็นโบว์ของลูกสาวจึงส่งยิ้มให้เล็กน้อยแล้วตอบว่า
                             "แม่เชื่ออย่างนั้นจ้ะ เอาล่ะ มีของสองอย่างที่ลูกต้องเตรียมไป อย่างแรกคือคทาจ้ะ ร้านอยู่ตรงนั้นน่ะ ไปกันเถอะ" แม่ของเธอว่าพลางเดินนำไปยังร้านเก่าๆตรงหัวมุมถนนโซลคีเจที่มีป้ายแผ่นไม้สลักชื่อร้านว่า 'ร้านคทาเอลลารี่'

                            เอวี่ได้แต่ถอนหายใจ เพราะดูเหมือนแม่ของเธอจะเชื่อมั่นในตัวเธอเหลือเกิน ทั้งที่ความมั่นใจในตัวเองของเธอที่มีอยู่นั้นช่างน้อยนิด อ๊ากกกก!! เครียดจะแย่! ว่าแล้วก็ทึ้งผมตัวเองอย่างบ้าคลั่งจนผู้คนแถวนั้นหันมามองอย่างห่วงๆ เอวี่จึงชะงักแล้วยิ้มแหยๆไปให้ทุกคนจากนั้นจึงรีบวิ่งตามแม่ไป
                            "สวัสดีครับ จะมาซื้อคทาไปสอบเข้าโรงเรียนเซวานเนญ่าใช่ไหมครับเนี่ย"ชายแก่ท่าทางใจดีที่ดูจะเป็นเจ้าของร้านทักทายอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส แม่เอวี่จึงแย้มยิ้มแล้วพยักหน้าให้ "ช่วงสอบนี่ร้านขายดีจังน้า เดี๋ยวผมจะเรียกลูกสาวให้พาเดินดูนะครับ"
                            แม่ของเธอบอกว่าจะยืนคุยกับคุณลุงรอ เธอจึงเดินต๊อกแต๊กอย่างเก้ๆกังๆไปหาพี่สาวที่คุณลุงว่า พี่สาวคนสวยคนนั้นยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะออกเดินเข้าไปยังส่วนในของร้านเอวี่จึงเดินตามไป

                             ขณะที่เธอเดินตามพี่สาวคนสวยลูกสาวของคุณลุงเจ้าของร้านก็เห็นแววตาของคุณลุงฉายแววดีใจก็ไม่เชิงตื่นเต้นก็ไม่ใช่ แต่ชั่วพริบตาเดียวแววประหลาดก็หายไป เธอจึงไม่ใส่ใจมันนักแล้วรีบเดินตามพี่สาวไปต่อ
                             เอวี่เดินตามพี่สาวเข้าไปด้านในสุดของร้าน ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นก็มองคทาต่างๆที่แขวนอยู่ตามผนังบ้างอยู่ในกล่องแก้วบ้าง แต่คทาเหล่านั้นล้วนส่องประกายกันใหญ่
                  
              "ดูเหมือนว่าน้องจะมีประกายเวทมากนะคะ" พี่สาวหันมาพูดแล้วก็ยิ้มให้ แต่ดูเหมือนว่าความงงของเอวี่จะแสดงออกมาผ่านสีหน้าจนหมดพี่สาวจึงมองเธอด้วยสายตาเอ็นดู แล้วจึงอธิบายให้ฟัง
                           "ประกายเวทคือพลังเวทส่วนเกินที่ตกผลึกแล้วน่ะจ้ะถ้ามีมากแสดงว่าพลังก็มาก ผลึกนี่สามารถนำไปทำอาวุธเวท เดี๋ยวนี้มีแค่บางคนที่มองเห็น พ่อของพี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นนะ คทาในร้านเราเป็นหนึ่งในสามแห่งในโลกที่ลงเวทให้มีปฏิกิริยาต่อประกายเวทย์เชียวนะ แต่ถ้าไม่ชอบให้มันส่องแสงก็ลูบคทาแล้วก้พูดว่าปิดผนึกจ้ะ" เอวี่ร้องอ๋อขึ้นมาทันที แต่เธอก็ยังไม่ค้อยมันใจในพลังของเธออยู่ดี ก็ตั้งแต่เกิดมาเคยใช้เวทแค่ไม่กี่บทเอง แล้วก็เป็นแค่เวทง่ายๆเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
                            แต่จู่ๆพี่สาวก็หยุดเดินความคิดของเธอจึงหยุดลง พี่สาวก้มๆเงยเหมือนพยายามหาอะไรสักอย่างในกล่องไม้ใบโตที่สลักด้วยลวดลายประณีตงดงาม จนเมื่อพี่สาวเงยหน้าขึ้นมา หันมาหาเธอแล้วส่งอะไรบางอย่างให้

                             "เอ๋ นี่ของหนูเหรอคะ?" สิ่งที่พี่สาวส่งให้คือคทาอันขนาดพอดีมือ ตัวคทาทำด้วยไม้เนื้อสีขาวบริสุทธิ์ที่เธอพอจะจำได้ว่ามันเรียกว่าไม้เอลเบอร่า ซึ่งราคามันไม่ใช่เล่นๆเลย หัวคทาประดับด้วยลูกแก้วสีขาวใสซึ่งภายในเหมือนมีควันใสออกประกายทองลอยอวลอยู่ข้าง ในส่วนด้านข้างลูกแก้วมีสิ่งที่มีลักษณะคล้ายปีกหงส์ซึ่งดูอ่อนนุ่มเหมือนของจริงแต่พอลองสัมผัสกลับเป็นไม้ธรรมดา และตรงที่เป็นช่วงต่อของลูกแก้วและตัวคทานั้นมีเชือกเส้นเล็กๆสีเงินประกายขาวประดับด้วยลูกปักสีขาวและสีชมพูมุก

                             เธอมองคทาตาค้างเพราะความสวยของมัน เธอไม่เคยเห็นคทาที่ไหนสวยขนาดนี้มาก่อน ให้ตายสิเธอเอ๊ย! สวยเป็นบ้า! ลูกแก้วส่องประกายเรืองรองสวยนวลตาออกมาทีทำให้เอวี่รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เธอรับคทานั้นมามองสลับกับพี่สาวอย่างฉงน
                             "คทาอันนี้พี่ให้น้องไปเลย แล้วก็ขอให้โชคดีใการสอบนะจ๊ะ" พี่สาวคนสวยพูดพลางยิ้มให้ คำพูดนั้นทำให้เธองงมาก อะไรกัน ให้กันง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ? คทาอันนี้ราคาก็คงไม่ใช่น้อยแน่ๆ อยู่ดีๆมาให้กันอย่างนี้หมายความว่ายังไงกัน? อย่างนี้เอวี่ไม่รับน้า!!
                           
     "อะ...เอ๋? ให้เลยเหรอคะ ราคาของคทานี้คงแพงมาก ทำไมถึงให้ไปเลยเหรอคะ?" เมื่อเธอถามออกไปออกไปอย่างนั้นพี่สาวเพียงส่งยิ้มแบบมีเลศนัย ประมาณว่าเดี๋ยวเธอก็รู้เองมาให้ เธอจึงไม่ถามอะไรอีก เพราะยังไงพี่สาวก็คงไม่ตอบเธออยู่แล้วน่ะนะ แอบเซ็งเล็กน้อย

                            เอวี่มองคทาพลางคิดไปเรื่อยเปื่อย เธอเคยเห็นคนใช้คทามาเยอะ แต่ละคนที่ใช้ก็ดูเก่งๆกันทั้งนั้น เธอก็อยากได้อยู่หรอกนะ เพียงแต่ว่าตอนเด็กๆเธอเคยลองขอแม่ดู แม่ของเธอบอกว่าเธอยังเด็กเกินไปและไม่มีความจำเป็นที่จะให้มันเพราะคทาเอาไว้สำหรับเป็นที่ถ่ายทอดพลังเวทให้มีอานุภาพเพิ่มขึ้นและเป็นที่ใช้เก็บของโดยใช้เวท อีกอย่าง คทาพวกนี้ก็ราคาแพงมาก เมื่อได้ฟังเอวี่ก็ยังอยากได้อยู่ แต่พอเมื่อโตขึ้นเธอก็เข้าใจเหตุผลของแม่จึงเลิกสนใจมัน แต่พอมาวันนี้เธอกลับได้มันมาง่ายๆอย่างนี้ก็อดตื่นเต้นไม่ได้
                             พอเธอเดินออกมาก็พบว่าแม่ของเธอกำลังคุยกับคุณลุงอย่างออกรสออกชาติ แหม คุยกันสนุกจนลืมลูกสาวคนนี้เชียว เมื่อแม่ของเธอเหลือบมาเห็นเธอก็หันไปลาคุณลุงเล็กน้อยแล้วบอกให้เธอเดินตามไป ตอนที่กำลังจะออกจากร้านนั้นเธอหันกลับไปมองที่ร้านอีกก็เห็นคุณลุงและพี่สาวกำลังยิ้มให้เธออยู่เธอจึงยิ้มกลับไปแล้วเดินตามแม่ไปยังถนนอีกบล็อคหนึ่ง

                             เอวี่มัวแต่เห่อคทาใหม่จึงไม่ได้สนใจว่าแม่เธอกำลังเดินไปที่ไหน จนเมื่อแม่หยุดเดินนั่นแหลละ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมาดู

                             คราวนี้ร้านที่แม่พามาคือร้านขายอัณมณี เอ แม่มาที่นี่ทำไมหว่า หรือว่าเกิดอยากสวยขึ้นมากะทันหัน? ฮิๆๆ ถ้าแม่ได้ยินละก็...ตายแน่ แต่เรื่องอะไรจะพูดเนอะ

                            ขณะที่เธอกำลังสงสัยอยู่นั้นแม่ก็เดินไปคุยกับพี่ชายที่เคาน์เตอร์ สักพักหนึ่งแม่ก็เดินกลับมาหาแล้วยื่นสร้อยคอสายเล็กสีดำซึ่งมีอัญมณีสีฟ้าใสข้างหลังสลักคำว่า 'เซอาห์' มาให้เธอ เอ จะว่าไปมันก็คุ้นๆนา มันคล้ายกับชื่อแม่ แม่ของเธอชื่อว่า ซีเอนน่าห์ ช่างมันเถอะ ถามแม่เอาดีกว่า
                            "มันคืออะไรคะแม่ แล้วเซอาห์นี่คืออะไรเหรอคะ?" เธอถามแม่ด้วยความฉงนสงสัย

                            "มันคือสิ่งที่เป็นของลูกมาตั้งแต่แรกจ้ะ แม่อยากให้ลูกพกมันไปด้วย แล้วก็ห้ามถอดเด็ดขาดนะจ๊ะ" เอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อแม่ของเธอตอบกลับมาแบบคลุมเครือแล้วก็เลี่ยงที่จะตอบตอบคำถามที่สองด้วย

                            "ค่ะแม่" เฮ้อ! ความลับอีกแล้ว ทำไมมีแต่คนไม่ยอมบอกความจริงกันนะ ฮึ่ยย! ขัดใจ! แล้วไอ้ความคุ้ยเคยกับสร้อยเส้นนี้นี่อีก มันน่าไหมนี่ อะไรก็ไม่รู้ มีแต่เรื่องที่เธอไม่รู้ ช่างเถอะ สักวันก็คงรู้เองล่ะ
                            เอวี่มองสร้อยนี่พลางครุ่นคิดอย่างสงสัย เอ จี้นี่ทำจากอัญมณีประเภทไหนกันนะ? ดูจากเนื้อแล้วเธอไม่เคยเห็นเลย มันเป็นอัญมณีแบบใส จะว่าแก้วก็ไม่ใช่ คริสตัลก็ไม่เชิง หินก็ไม่ใช่อีก เฮ้อ! ช่างเถอะ จ้องนานยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดี

                            ป่ะ! เอวี่ กลับกันได้แล้วลูก อ้อ! วันนี้พ่อไม่กลับนะ พ่อต้องนอนค้างที่ที่ทำงาน งานเยอะน่ะช่วงนี้ เพราะงั้น คืนนี้เราอยู่กันสองคนนะจ๊ะ แม่ต้องไปถักเสื้อกันหนาวให้พ่อกับหนูต่อ ใกล้หน้าหนาวแล้วนี่เนอะ หนูก็นอนเล่นไปนะจ๊ะคนดี

                            เอวี่พยักหน้ารับน้อยๆพลางคิดว่า พ่อนอนที่ที่ทำงานอีกละ ไม่ค่อยได้กลับมานอนบ้านเลย บ้านเงียบจะแย่

                            เอวี่ ไม่ไปเหรอลูก เมื่อเอวี่ไม่เดินตามแม่เพราะมัวแต่นิ่งคิด แม่ของเธอจึงหันมาเรียก

                            ค่าๆ ไปค่ะแม่ จะไปเดี๋ยวนี่ล่ะค่ะ เมื่อเอวี่หลุดจากภวังค์จึงรีบขานรับและวิ่งตามมารดาไป แล้งทั้งสองก็เดินกลับบ้านเคียงข้างกันเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา แต่หลังจากนี้ มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้แล้วน่ะสิหากเธอสอบเข้าเซวานเนญ่าติด...

    **********

                            "อ้าา เหนื่อยจังเล้ย" เธอพูดพลางกระโดดลงนอนแผ่หลาบนเตียง พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่เธอจะต้องไปเผชิญกับชะตาชีวิตอันโหดร้ายย เอ้ย ไม่ใช่ๆ ต้องไปสอบ ฮือ! ไม่อยากไปเล้ย! ถ้าเกิดเธอเป็นอะไรึ้นมานะ แม่ต้องรับผิดชอบ! เอวี่นอนคิดไปเรื่อยเล่นๆ จนกระทั่งเห็นว่าเย็นแล้วยังไม่ได้อาบน้ำจึงกระเด้งตัวลุกจากเตียงนอนแล้วหยิบเสื้อผ้าที่ตู้จากนั้นจึงเดินเข้าห้องน้ำไป

                            เมื่อเอวี่อาบน้ำเสร็จจึงมายืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ที่เห้นได้ทั้งตัวในห้องน้ำ ขณะที่กำลังใส่ชุดนอนเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นก้มองเงาสะท้อนของตนในกระจก

                             หลายคนบอกว่าเธอหุ่นดี สูงเพรียว มีส่วนโค้งองค์เอวตามประสาผู้หญิง เมื่อเธออายุเข้าสิบสามปีความสวยก็เริ่มเผยออกมามากขึ้นจึงมีคนจากโรงเรียนระบำแถวนั้นมาชวนเธอไปเรียน เอวี่ก็เริ่มสนใจในการเต้นระบำต่างๆจึงไปขอพ่อกับแม่ พอท่านเธออนุญาตเธอจึงเรียนระบำตั้งแต่นั้นมา

                             นี่ก็เกือบจะสามปีแล้ว พัฒนาการของเธอดีกว่าเด็กคนอื่นๆมากจนได้เลื่อนขั้นเรื่อยๆ กระทั่งมีคนมาจ้างไปเต้นระบำพื้นเมืองในงานเลี้ยงกับพวกเพื่อนๆของเธอ จากนั้นเธอจึงรับงานมาเรื่อยๆ จนเริ่มเบื่อกับชีวิตจำเจ เมื่อต้องไปสอบเข้าเซวานเนญ่า ตอนแรกที่รู้ก็ออกจะตกใจ ไม่อยากไป แต่พอคดไปคิดมา มันคงเปลี่ยนชีวิตเธอ คงมีอะไรมากมายผ่านเข้ามาให้ได้คิด ให้ได้ทำ...โลกใหม่...อืม นั่นแหละ คงประมาณนั้นล่ะมั้ง

                             พอแต่งตัวเสร็จเอวี่จึงลงไปนั่งทานข้าวกับแม่ข้างล่างพลางเปิดทีวีดูไปด้วย เมื่อหันไปดูทีวีก็พบว่าเป็นข่าวเรื่องการสอบเข้าเซวานเนญ่า เอวี่จึงหันไปสนใจทันที

                             ในข่าวนั้นกล่าวถึงจำนวนเด็กที่ต้องการสอบเข้าทะลุสถิติเดิม มีเด็กหลายพันต้องการเข้ารับการสอบแต่โรงเรียนจะคัดเลือก ไม่ได้รับทั้งหมด นั่นหมายความว่า เด็กหลายคนก็ต้องทำใจเช่นกัน การทดสอบยังคงเป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาสอบ แต่ก็ยังไม่อนุญาตให้คนนอกซึ่งไม่ใช่ผู้ทดสอบได้รับรู้จนกว่าจะเสร็จสิ้นการทดสอบ ดังนั้น รูปแบบการทดสอบในแต่ละปีก่อนสอบจึงเป็นความลับเสมอมา...

                              ข่าวนั่นทำให้เอวี่เริ่มกังวล ก็มีคนสอบเยอะปานนั้น เธอคงมีหวังน้อยที่ะเป็นหนึ่งในเด็กที่สอบติด เฮ้อ~ ว่าแล้วก็ชักกลุ้มใจ...ช่างมัน! ทำให้ดีที่สุดละกัน! เอวี่ท่องคติประจำตัวเพื่อให้กำลังใจตัวเอง

                              เมื่อกินข้าวเสร็จเธอจึงเก็บจานของแม่และตัวเองไปล้างจากนั้นก็ขึ้นไปนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก่อนนอน ขณะที่กำลังเคลิ้มนั่นเองจึงมีรูปกิ๊บติดผมแล่นเข้ามาในหัวเธอ แต่ ณ ขณะนั้นเธอง่วงเกินกว่าจะคิดอะไรแล้วเพราะวันนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน และก่อนที่จะหลับไปจึงมีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้น...เอ...เธอลืมอะไรไปรึเปล่านะ...?



                                                                         

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×