ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เซวานเนญ่า โรงเรียนแห่งเวทมนต์

    ลำดับตอนที่ #7 : ภาค 1)นักเวทย์มือใหม่ : 7.เมื่อประตูเปิดออก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.03K
      4
      30 เม.ย. 56

    เมื่อประตูเปิดออก

     

                        วันนี้เป็นวันงานปาร์ตี้!! เอวี่คิดอย่างตื่นเต้น ก็ทั้งเธอและนอเอลชอบงานแบบนี้มากๆเลยนี่นา ขอแค่ขึ้นชื่อว่าปาร์ตี้ก็พอ

                        ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงครึ่ง งานจะเริ่มตอนหกโมงเย็น เอวี่และนอเอลตื่นขึ้นมากินข้าวตอนเช้า พอกินเสร็จนอเอลก็นั่งอ่านหนังสือนิยายเล่มโปรด ส่วนเอวี่ก็นั่งเย็บตุ๊กตา(งานอดิเรกน่ะ ไม่เหมาะกับลุ๊คเลยล่ะสิ~) แล้วก็กินข้าวเที่ยงจากนั้นก็นั่งทำกิจกรรมของตนต่อ วันนี้ทั้งคู่จึงไม่ได้ออกไปไหนเลย จนกระทั่งเมื่อสี่โมงน่ะแหละที่ทั้งสองกระเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอน หันมามองหน้ากันแล้วพูดว่า

                        แต่งตัวกันเลยเถอะ! ฉันรอต่อไปไม่ไหวแล้ว!’ ใช่ ทั้งคู่รอมานานมากกก นอเอลอ่านนิยายจบไปห้าเล่ม เอวี่ก็เย็บตุ๊กตาเสร็จไปสี่ตัวจนมันกองท่วมเตียงแล้ว

                        และตอนนี้...ทั้งคู่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการแต่งตัว

                        นอเอลล!” เสียงเอวี่เรียกนอเอลดังออกมาจากในห้องน้ำ ทำให้นอเอลซึ่งกำลังถักเปียครึ่งหัวอย่างเมามันต้องวิ่งเข้าไปดู

                         พอนอเอลวิ่งเข้ามาดูก็ต้องทำหน้าเอือมใส่ โธ่เรียกซะตกใจ ที่แท้ก็...

                         แฮ่...ช่วยรูดซิปให้หน่อยสิ เอวี่เห็นนอเอลกับผมยุ่งๆ ก็เลยส่งยิ้มแหยๆไปให้

                         นอเอลเดินเข้ามาแล้วยิ้มหวานหยด เอื้อมมือขึ้นมารูดซิปชุดตรงด้านหลังของเอวี่ให้ เอวี่คิดว่านอเอลจะทำแค่นั้นแต่นอเอลกลับเลื่อนมือมาจั๊กจี้เอวของเธอต่อ จี้จนเอวี่ลงไปนอนดิ้นกับพื้นผมเผ้าหลุดลุ่ยเหมือนนอเอลเธอจึงหยุดมือ ก็เอวี่น่ะบ้าจี้เข้าขั้นเลยนะสิ

                        “ชิ! ไอ้เราก็นึกว่าเป็นอะไร เลยวิ่งเข้ามาทั้งผมลุ่ยๆงี้ ต้องทำใหม่เลย!”

                        สุดท้าย ทั้งสองคนเลยต้องทำผมใหม่ ดีนะที่แต่งตัวเร็ว ไม่งั้นไปไม่ทันงานแน่เลย

                        ฮู่ว! เสร็จซะที! เอวี่เธอเสร็จรึยัง ขอดูหน่อยสิ นอเอลยืนมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจก พลางตะโกนร้องเรียกเอวี่ที่กำลังแต่งหน้าอยู่ในห้องน้ำ

                        เสร็จแล้วจ้า เดี๋ยวนะ เอวี่ตะโกนออกมา นอเอลได้ยินเสียงเก็บเครื่องสำอางก๊อกแก๊ก ไม่นาน เอวี่ก็เดินออกมา

                        แล้วนอเอลก็ต้องอึ้ง ร่างสูงโปร่งของเอวี่เดินออกมาจากห้องน้ำในเดรสสั้นเกาะอกสีดำลายลูกไม้ ซึ่งตัดกับผิวขาวเนียนของเอวี่ส่งให้ผิวเอวี่ยิ่งดูนวลผ่องยิ่งขึ้นไปอีก ผมยาวๆของเอวี่ก็รวบครึ่งหัวปล่อยผมยาวลอนตรงปลายสยายทั่วหลังมีสายสังวาลครอบศีรษะสองชิ้น ใบหน้าก็แต่งไม่หนา เพราะเอวี่ผิวเนียนละเอียดอยู่แล้ว ดวงตาแต้มสีออกโทนดำ-เงินเข้ากับชุด ทุกอย่างนั้นทำให้นอเอลอ้าปากค้าง นี่มันสวยสุดยอดไปเลย!

                      เอวี่ที่เพิ่งเดินออกมาก็ต้องอึ้งเช่นกัน นอเอลในชุดกระโปรงพอง แขนเสื้อพองสีครีมนี่เหมือนตุ๊กตาจริงๆเลย! ไหนจะมีโบว์ผูกข้างหลังกับรัดใต้อกอีก แถมยังมีลูกเล่นลูกไม้น่ารักๆอีก ต๊าย! ทำไมเพื่อนเธอน่ารักน่ากอดอย่างนี้นะ!

                      “เริดมาก!” ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมๆกัน จากนั้นจึงหัวเราะออกมา

                      จากนั้นเอวี่จึงพานอเอลไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อที่จะแต่งหน้าให้เพราะนอเอลแต่งไม่เป็น

                      เอวี่มองพิจารณาชุดสีหวานและเปียรวบครึ่งหัวของนอเอลพลางคิดว่า คงต้องแต่งสีหวานๆสินะ

                      คิดได้ดังนั้นก็ลงมือทันที พอเธอลงแป้งอะไรแล้วจึงแต้มอายแชโดว์สีครีมมุกและเน้นเงาสีส้มอ่อนตรงหัวและปลายตา ต่อด้วยอายไลเนอร์และมาสคาร่า จากนั้นก็ปัดแก้มสีชมพูอ่อน สุดท้ายจึงลงลิปมันและทับด้วยลิปกลอสสีชมพูหวานบางๆเป็นธรรมชาติ เป็นอันจบ

                       นอเอลมองตนเองในกระจกด้วยความตะลึง ส่วนเอวี่ก็มองผลงานของตนด้วยความพอใจ ไม่เสียแรงที่ชอบเอาของแม่มาเล่น อิๆ

                       ว้าว! สุดยอดไปเลยเอวี่!” นอเอลมองตัวเองในกระจกอย่างไม่อยากเชื่อ เธอดูสวยขึ้นเป็นกองเลย ให้ตายสิ!

                        “จ้า ฉันรู้น่าว่าฉันเก่ง ฮิๆ เธอก็อย่าลืมใส่สร้อยละกัน มีใช่มั้ยล่ะ นอเอลพยักหน้าหงึกๆแล้วหันไปหาสร้อยในกระเป๋า

                         เอวี่ตรวจเช็คความเรียบร้อยแล้วจึงไปหากระเป๋าถือสีดำเข้าชุดในกระเป๋าสะพาย อ้อ! เธอเพิ่งไปแอบซื้อมาวันก่อนน่ะ ซื้อมาให้นอเอลด้วย ว่าแล้วก็หยิบไปให้นอเอล แต่ก็เหลือบไปเห็น กิ๊บของพ่อเธอที่เธอลืมอาคืน แล้วก็แหวนที่ได้มาจากอลิซซึ่งเธอล้มเลิกที่จะตามหาแล้ว เธอจึงหยิบกิ๊บขึ้นมาเสียบตรงผมที่มัดกันไว้ข้างหลัง และสวมแหวนจากนั้นจึงเอาอีกวงไปให้นอเอลใส่

                         นอเอล จำได้มั้ยที่ฉันเล่าให้ฟังว่าเมื่อวันก่อนฉันเจอคุณอลิซแล้วเขาก้ให้ปแหวนมา นี่ของเธอจ้ะ อ้อ แล้วก็...ฉันซื้อกระเป๋ามาฝากเธอด้วยนะ!” เอวี่ยื่นแหวนกับกระเป๋าให้นอเอล พอนอเอลเห็นดังนั้นก็ทำหน้าดีใจสุดๆ แล้วก็เอ่ยขอบใจเอวี่หลายครั้งจนเอวี่ต้องเตือนว่านี่ห้าโมงสี่สิบแล้ว ถ้าอยากเดินสบายๆไปที่บอลรูมของโรงเรียน (เซวานเนญ่าคงมีทุกอย่างน่ะนะ) ก็ต้องออกจากหอแล้วล่ะ จากนั้นนอเอลจึงสวมแหวนแล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากหอไป

                         ระหว่างทางก็มีคนเดินไปบอลรูมอยู่ประปรายเพราะสาวๆทั้งหลายคงยังแต่งสวยแต่งงามกันอยู่ เอวี่กับนอเอลก็เดินคุยกันไปเรื่อยตามทาง เพราะมัวแต่คุยกันนั่นแหละพอเดินมาถึงแถวๆมุมตึกหอชายที่ต้องเดินผ่านซึ่งค่อนข้างมืดทั้งคู่ก็เลยเดินไปชนใครเข้า

                          ตุ้บ!

                          “อ๊ะ!/โอ๊ย!” เมื่อรับรู้ถึงแรงกระแทก ฝ่ายผู้ถูกกระทำจึงหันมาดู เมื่อทั้งคู่เห็นว่าเป็นสองสาวที่พวกเขาเห็นบ่อยๆ ก็เลยหันหน้ามาหา

                          อ่าว พวกนายเองเหรอโทษทีนะ พวกเราคุยเพลินไปหน่อย เอวี่หันไปพูดแทนนอเอลที่กำลังลูกจมูกป้อยๆอยู่ นอเอลได้ยินดังนั้นเลยเงยหน้าขึ้นมาดู อ่ะ เอลกับฟรานซ์นี่นา!

                          ฟรานซ์อมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นดวงตาที่โตอยู่แล้วของนอเอลโตขึ้นอีกเมื่อมองมายังพวกเขา ประหลาดดี ตาจะถลนออกมาอยู่แล้วมั้งนั่น

                          พอฟรานซ์เงียบเอลเลยตอบแทน

                          ไม่เป็นไร แต่ยังเบ๊ะเซอะเหมือนเดิมเลยนะ เธอน่ะประโยคสุดท้ายเอลหันไปพูดกับเอวี่เหมือนจะล้อๆ
                         หน็อย! นอกจากจะชอบทำหน้ากวนโอ๊ยแล้ววาจายังไปตามหน้าอีกต่างหาก! ด้วยความเป็นเอวี่ เธอจึงยอมไม่ได้
    !!

                          “ฉันจะเบ๊อะเซอะ จะซุ่มซ่ามก็ไม่ได้ไปหนักศีรษะใครซะหน่อย ป่ะ ไปเถอะนอเอล ไม่อยากอยู่แถวนี้นาน!” เอวี่พูดจบก็หันไปคว้าแขนนอเอลที่เล่นจ้องตากับฟรานซ์อยู่เตรียมจะลากออกไป แต่กลับมีเสียงแปร๋นๆดังขึ้นขัดเสียก่อน

                          เธอ! เธอสองคนนั่นน่ะ หยุดนะ อย่าเพิ่งไป!” ต่อจากเสียงก็ตามมาด้วยร่างอ้อนแอ้นของหญิงสาวในชุดเดรสสั้นสีแดง แต่งหน้าโทนแดงไปทั้งหน้าจนดูเหมือนมะเขือเทศกับหญิงสาวอีกคนที่เดินตามมา คนนี้ใส่เดรสสั้นสีฟ้าเขียว แต่งหน้าทาปากก็สโทนเดียวกับชุดทำให้ดูเหมือนนกยูงกลายร่างยังไงไม่รู้ แต่ไม่ได้สวยสง่างามอะไรนะ เหมือนแค่สี

                            คิก~” เอวี่และนอเอลหลุดคิกออกมาพร้อมๆกันทำให้หญิงสาวทั้งสองคนนั้นหันมาถลึงตาใส่

                             อะไรยะ! ไม่ต้องมาหัวเราะเลย! พวกฉันเป็นใครรู้มั้ย! อ้อ แล้วเธอก็เดินชนเอลกับฟรานซ์ของพวกฉันด้วย ไม่ขอโทษรึไง!” ยัยปากแดงตะคอกใส่หน้าเอวี่และนอเอลแล้วหันมาควงแขนเอล ส่วนยัยหน้าเขียวก็เดินไปควงแขนฟรานซ์

                             โห! ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วคนอื่นจะรู้มั้ย! แล้วพวกฉันก็ขอโทษนายนี่ไปแล้วด้วย ทำอย่างกับอยากชนตายแหละ ฉันรู้นะว่าพวกเธอคงไม่มีสมองคิด แต่ขนาดนี้คงไม่ไหวแฮะ พวกเธอน่าจะไปเรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคมใหม่นะว่าควรทำตัวยังไง อ้อ ด้วยความหวังดีนะ...เก็บนอบ้างเหอะ งอกแล้ว!คราวนี้ได้เห็นคนใจเย็นอย่างนอเอลปรี๊ดแตกบ้างล่ะ พอพูดจบก็ควงเอวี่ที่กำลังอึ้งกับปฏิกิริยาของนอเอลแล้วสะบัดตูดเดินหนีออกไปเลย

                             เอลกับฟรานซ์ที่ยืนดูอยู่ห่างๆขำออกมาเบาๆเมื่อเห็นปฏิกิริยาของสองสาวที่วันนี้จากสวยอยู่แล้วก็สวยขึ้นเป็นกองนั่น จากนั้นจึงพากันเดินตามสองสาวไป และทิ้งสองสาวสุดแปร๋นยืนร้องกรี๊ดๆไว้               

                             โอ๊ย! ขัดใจ! ยัยสองคนนั้นนี่น่าตบชะมัดเลย พูดอะไรไม่เข้าท่าสักอย่าง!” นอเอลเดินบ่นต่ออย่างได้อารมณ์กับเอวี่ ส่วนเอวี่ก็ได้แต่อมยิ้มเพราะนอเอลพูดสิ่งที่เธออยากพูดแทนแล้ว นอเอลในมุมนี้ก็น่ามองอยู่นา ไม่ค่อยได้เห็นนี่เนอะ

                             เอาน่า ช่างยัยพวกนั้นเถอะ ขออย่าได้เจอะได้เจออีกเป็นพอ เอวี่พูปลอบนอเอล พลางปลอบตัวเองไปด้วย

                             เมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าบอลรูมก็ต้องอึ้ง บอลรูมถูกเนรมิตให้กลายเป็นโดมออกแนวหลอนๆหรูๆ ผู้คนในงานก็แต่งตัวมาประชันกันเต็มที่

                             สองสาวเดินเข้าไปแล้วเดินไปนั่งที่โซฟามุมในสุด เพราะพวกเธอยังไม่อยากถูกเหยียบตาย จากนั้นนอเอลก็เอ่ยขึ้นมาว่า

                             นี่เอวี่ ฉันนึกออกแล้วล่ะว่ายัยสองแปร๋นนั่นเป็นใคร ปากแดงน่ะเป็นลูกเศรษฐีใหญ่ เขาชื่อว่า เพลล่า ส่วนยัยหน้าเขียวนั่นก็เป็นลูกเศรษฐีเหมือนกัน ชื่อเดวีน พ่อของทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันน่ะ ได้ยินดังนั้นเอวี่ก้พยักหน้าน้อยๆ ก็นอเอลน่ะ รู้ไปซะหมดทุกเรื่องเลย

                             เมื่อสองสาวพูดจบ ประตูก็ปิดลงแสดงว่าคนเข้ามาครบแล้ว จากนั้นสปอตไลต์ก็สว่างวาบขึ้นบนเวที มาสเตอร์เอลอร่าปรากฏกายขึ้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า

                            สวัสดี นักเรียนทุกคน งานนี้ครูแค่มาเปิดงานเฉยๆเพราะเป็นงานของรุ่นพี่รุ่นน้อง เอาสั้นๆเลยแล้วกันนะ ครูต้องการคนเปิดฟลอร์…” เมื่อทุกคนได้ยินมาสเตอร์พูดก็มีเสียงพูดคุยดังระงมไปทั่ว จนมาสเตอร์ยกมือให้เงียบแล้วเอ่ยต่อ

                            ครูสุ่มเอาจากการจับฉลากสองคู่...ทั้งสองคู่อยู่ห้องสามหมดซะด้วยสิ...เอวานน่าห์ เอล และ นอเอล ฟรานซ์!” ตอนนี้ทั้งโดมเงียบกริบ จากนั้นเสียงสบถเบาๆก็ดังออกมาจากปากของผู้โชคร้ายทั้งสี่

                            ให้ตายสิ/นี่มันวันอะไรเนี่ย/ฮึ/เฮอะ!”

                            เชิญทั้งสี่คนออกมาด้วย ไม่งั้นพวกเธอถูกหักคะแนนจิตพิสัยคนละสิบคะแนน มาสเตอร์พูดขู่ขึ้น จากนั้นก็หายตัวไปเลย สปอตไลต์ก็เลื่อมายังฟลอร์ทันที คนทั้งสี่จึงจำต้องเดินออกมาด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

                            เมื่อคนทั้งสี่หันมายืนประจันหน้ากัน(จะรบ?) เพลงช้าหวานก็ดังขึ้นทั้งสองคู่เลยต้องจับมือกันเพื่อเต้นรำ โชคยังดีที่พวกเขาเต้นเป็นกัน ไม่งั้นคงได้ขายขี้หน้ากันล่ะงานนี้

                            ทางเอวี่ก็หน้ามุ่ยให้เอลที่ทำหน้านิ่งน่าถีบ หน็อย! อะไรมันจะโชคร้ายขนาดนี้นะ!

                            “ชิ! ทำไมฉันถึงโชคร้ายขนาดนี้เนี่ย!” เอวี่พูดเบาๆกับตัวเองแต่คนหูดีกลับได้ยินเข้าเลยเอ่ยปากตอบกลับไปว่า

                           ทำไม เต้นกับฉันมันแย่ขนาดนั้นเลย? พูดพลางยักคิ้วข้างเดียวไปพลาง

                           แน่สิ ไหนจะยัยปากแดงที่แทบจะวิ่งมาทึ้งฉันอีก เอวี่ว่ากลับแล้วหันหน้าไปมองทางด้านซ้ายเอลเลยหันไปตามก็เห็นเพลล่ายืนกระทืบเท้าเร่าๆอยู่เพราะถ้าเธอวิ่งเข้ามาคงโดนมาสเตอร์ว่าให้ขายหน้าแน่นอน

                            ฮึ ช่างเพลล่าเถอะ แค่เต้นรำกันเพลงเดียวคงไม่ตาย

                            ไม่ตายหรอก ฉันน่ะไม่สนอยู่แล้ว ร้ายมาก็ร้ายกลับสิ แต่นายนั่นแหละ จะถูกแฟนนายงอนเอา เอวี่พูดถึงเพลล่า เอลก็พอรู้อยู่หรก ถึงทำหน้าเมื่อยแบบนั้น

                            ทางฝั่งนอเอลกับฟรานซ์ก็เล่นจ้องตากันอยู่นั่น กว่าจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาก็นาน

                             วันนี้ สวยนะ ฟรานซ์เอ่ยปากชมนอเอลขึ้นมาซะเฉยๆ นอเอลเลยทำหน้าฉงนแล้วเลยหน้าขึ้นมองฟรานซ์อย่างงงๆ

                             ไม่มีอะไร ก็แค่พูด ฟรานซ์เห็นนอเอลทำหน้างงใส่อย่างน่ารักโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยตอบกลับสีหน้านั้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากตอนแรกๆเยอะ นอเอลเลยพยักหน้ากลับน้อยๆ

                             ขอบใจ...ว่าแต่ ยัยหน้าเขียะ...เดวีนน่ะ แฟนนายเหรอ ฟรานซ์ที่กำลังอมยิ้มกับสรรพนามที่ใช้เรียกเดวีนอยู่ก็ต้องหุบยิ้มทำหน้าถมึงทึงทันที

                             ทำหน้าแบบนี้ แปลว่าไม่ใช่หรอกเหรอ?” นอเอลถามกลับเมื่อเห็นสีหน้าของฟรานซ์ แต่เธอก็ไม่ได้รับคำตอบเลยช่างมัน

                             พอเพลงบรรเลงจบก็เกิดรอยยิ้มประหลาดขึ้นที่มุมปากของฟรานซ์ แทนที่เขาควรจะแค่โค้งให้นอเอลเฉยๆ เขากลับยกมือนอเอลขึ้นมาแล้วจริดริมฝีบางบางลงไปที่ปลายนิ้วเรียวนั้นเบาๆแล้วเดินออกไปเลย นอเอลที่เพิ่งรู้สึกตัวก็รีบเดินออกมาทันทีเพราะได้สติจากเสียงกรี๊ดดังลั่นโดม พอไปถึงที่นั่งก็เห็นเอวี่นั่งกอดอกทำหน้ายู่แต่หน้ากลับมีสีชมพูระเรื่อซะงั้น เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?

                           เอวี่ มีอะไรรึเปล่า ทำไมถึงหน้าแดงขนาดนั้น? เอวี่ได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าตกใจยกมือขึ้นลูบหน้าของตนทันที แล้วจึงส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไร นอเอลก็ไม่อยากซักไซ้จึงนั่งลงแล้วหันไปมองเพื่อนๆที่กำลังเต้นกันอยู่บนฟลอร์

                           ส่วนเอวี่ก็นึกถึงตอนที่เพลงจะจบ เอลโค้งคำนับให้เธอ แล้วพอเธอจะเดินออกมาเขาก็ดึงแขนเธอไว้ ทำให้เธอเซกลับไปชนอกอุ่นๆ (ที่เดาว่าคงมีกล้ามสวยๆอยู่ข้างใน...) ของเขา พอเงยหน้าขึ้นจะต่อว่าแก้มเธอก็ไปชนกับจมูกโด่งของเขาเบาๆ จากนั้นเอวี่จึงรีบวิ่งออกมาจึงไม่รู้ว่ามีรอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนหน้าของเอลอย่างพอใจ พอคิดถึงตอนนั้นหน้าเธอก็พาลจะร้อนขึ้นมาอีกเธอเลยสะบัดหัวไล่ความคิดออกไป โดยที่ไม่ได้หันไปดูว่านอเอลก็กำลังหน้าแดงอย่างรุนแรงอยู่เช่นกัน

                            สองสาวไม่ได้รู้กับเขาเลยว่า ตัวต้นเหตุการก่อจราจลในใจของทั้งคู่นั่งอยู่บนโต็ะที่ถัดไปไม่ไกล สองหนุ่มกำลังนั่งอมยิ้มมองรอยแดงๆบนหน้าของหญิงสาวทั้งสองอย่างพอใจ จากนั้นทั้งคู่จึงหันมามองหน้ากันหัวเราะให้กันเบาๆเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเองก็คิดเหมือนตนว่า พวกเขาคงได้มีเรื่องวุ่นๆกับสองสาวนี้เป็นแน่ และ...พวกเขามีลางสังหรณ์ว่า...คืนนี้ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×