คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Level_14《Rewrite》
กริ๊งๆๆ เสียงโทรศัพท์ดังระงมไปทั่วห้องนอนโทนสีเข้มที่ตอนนี้มีร่างบางนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา
“ใครโทรมาวะ คนจะหลับจะนอน”
ร่างบางเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสายโดยไม่ได้มองว่าใครโทรเข้ามา
“ฮัลโหล...ใครวะ”
เสียงอู้อี้ถูกส่งออกไปยังบุคคลปลายสาย
“กูเอง”
“กูเองไหนไม่รู้จักแค่นี้นะ”
นิ้วเรียวกดวางสายทันทีที่พูดจบ กริ๊งๆๆ โทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้ร่างบางลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสียก่อนกดรับสาย
“อะไรกันนักกันหนาวะ คนจะนอน”
“มาเปิดประตูให้หน่อย”
แบมแบมนิ่งไปสักพักก่อนเลื่อนโทรศัพท์มามองหน้าจอชื่อที่เห็นทำให้เขาต้องขยี้ตาเพื่อมองใหม่อีกครั้ง
“เชี่ย...พี่มาร์คมาทำไมวะ”
ร่างบางบ่นพึมพรำกับตัวเองเบาๆก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูอีกครั้ง
“ฮัลโหล ได้ยินไหมกูบอกว่ามาเปิดประตูให้หน่อย ฮัลโหล...ฟังอยู่รึเปล่า “
“ฟังอยู่จะโวยวายทำไม แล้วมาทำอะไรดึกๆดื่นๆ”
“เห็นไอ้แจ๊คบอกว่ามึงอยู่คนเดียวกูเลยอาสามาอยู่เป็นเพื่อน”
“ไม่ต้อง ผมอยู่ได้พี่กลับไปเหอะ”
“มาเปิดประตูเดี๋ยวนี้
แบมแบม !!!”
“ไม่”
“จะเปิดหรือไม่เปิด กูนับ 1-3
ถ้ายังไม่มาเปิดกูจะพังเข้าไปนะ 1...2...”
“อย่านะเว้ยไปแล้วๆ”
แบมแบมรีบวิ่งออกจากห้องนอนเพื่อไปเปิดประตูให้แขกไม่ได้รับเชิญทันที
แก๊ก...บานประตูค่อยๆแง้มออกช้าๆแต่ดูเหมือนผู้มาเยือนจะใจร้อนกว่าที่คิดเพราะเขาผลักประตูให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไปด้านในอย่างถือวิสาสะ
“โอ้โห...มารยาท นี่ยังไม่ได้เชิญเลยนะ”
“ไม่จำเป็น คนกันเองกูไม่ถือแล้วนี่ทำไมนอนเร็วจังปกติไก่ไม่ขันก็ไม่นอนนิ”
มาร์คเดินไปนั่งลงบนโซฟาก่อนหันไปพูดกับร่างบางที่กำลังปิดประตูอยู่
“รับน้องเหนื่อยเลยอยากนอนเร็ว ว่าแต่มานี่ไม่ได้จะมาอยู่เป็นเพื่อนเฉยๆใช่ไหม”
“แสนรู้จริงนะมานั่งนี่มา”
มาร์คตบโซฟาเรียกแบมแบมให้มานั่งด้วยกัน
“ไม่เป็นไรผมยืนฟังได้ มีอะไรก็ว่ามาเลยจะรีบไปนอนต่อง่วงจะตายอยู่แล้ว”
“คิดถึงว่ะ ขอกอดทีดิ”
“อย่ามาปัญญาอ่อน ไปเล่นไกลๆไปยิ่งเพลียๆอยู่”
“ไม่ให้กอดงั้นกูขอกดแทนก็ได้”
“บ้ากาม...ในหัวคิดแต่เรื่องแบบนี้เนี่ยนะ”
“กูก็อยากทำกับมึงตลอดนั่นแหละมาเร็วขอกอดหน่อย”
“เฮ้ออ...”
ผมยอมเดินไปหาพี่มันจนได้ก็ดูมันทำหน้าสิอย่างกับหมาหลงเห็นแล้วก็อดเวทนาไม่ได้สงเคราะห์ให้หน่อยแล้วกัน
ผมเดินไปหยุดหน้าโซฟาที่เขานั่งอยู่พี่มันยิ้มโชว์เขี้ยวส่งมาให้ก่อนมือหนาจะโอบรอบเอวผมเอาไว้และดึงเข้าหาตัวพร้อมกับยื่นหน้ามาแนบท้องผมก่อนจะถูไถไปมา
“ทำอะไร เอาหัวออกไปนะเว้ย อ๊ะ..”
ผมหลุดเสียงร้องออกมาทันทีที่เขากดจูบลงบนหน้าท้องผ่านเสื้อนอนตัวบาง
“มึงไม่คิดถึงกูบ้างเหรอ”
พี่มันถามขึ้นขณะที่ยังเอาหน้าซบท้องผมอยู่
“ก็ไม่นิ”
“ปากแข็ง”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ ปล่อยได้แล้วจะไปนอน”
ผมพยายามแกะมือปลาหมึกของพี่มันออกแต่เขากับรวบกอดผมแน่นขึ้น
“อย่าพึ่งไป”
“อะไรอีกเรื่องเยอะจริง”
“พรุ่งนี้ก็ถึงวันเฉลยสายรหัสแล้วนิ”
“ก็ใช่”
“แล้วมึงหาเจอรึยัง”
“ยังอ่ะ”
“แล้วไม่อยากรู้เหรอว่าสายรหัสมึงคือใคร..???”
ผมหูผึ่งทันทีที่ได้ยินคำว่าสายรหัสเพราะถ้าพรุ่งนี้ผมยังหาไม่เจอละก็มีหวังโดนพวกรุ่นพี่หมายหัวแน่ๆและชีวิตในมหาลัยของผมคงหาความสงบสุขไม่ได้อีกต่อไป
“พี่รู้ใช่ไหมว่าเป็นใคร”
ผมโผงออกไปทันทีทำให้พี่มาร์คยอมปล่อยมือออกจากเอวของผมก่อนถอยไปนั่งว่างมาดพิงโซฟาอย่างน่าหมั่นไส้
“ใช่...แต่กูไม่บอกมึงหรอก”
“อ้าว..ไหงงั้นอะบอกหน่อยดิ ”
“อยากรู้เหรอ”
ผมรีบพยักหน้าส่งกลับไปแต่ผมคงลืมไปว่าคนอย่างมาร์คต้วนไม่เคยให้อะไรใครฟรีๆ
“หอมก่อนแล้วจะบอก”
พูดเสร็จก็ยื่นแก้มมาให้ผมคนอะไรวะโคตรหน้าด้าน
“ว่าแล้วคนอย่างพี่ไม่เคยทำอะไรให้ใครฟรีๆหรอก”
“ทำเป็นพูดดีตกลงอยากรู้ไหมว่าใคร”
“ไออยากก็อยากหรอกนะแต่ผมคงเปลืองตัวน่าดูกว่าจะรู้คำตอบงั้นไม่ต้องบอกแล้วเดี๋ยวไปหาเอาเองก็ได้”
“ต่อให้มึงไม่อยากรู้มึงก็ต้องหอมกูอยู่ดี”
“แล้วทำไมผมถึงต้องยอมด้วย”
“มึงรู้กฎระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องคณะเราใช่ไหมแบมแบม”
“ก็พอรู้มาบ้าง”
“งั้นมึงก็ต้องรู้ว่าถ้ารุ่นพี่สั่งอะไร รุ่นน้องไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”
“แต่นั้นมันกฎของสายรหัสไม่ใช่รุ่นพี่ในคณะซะหน่อย เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ”
ผมยืนนิ่งไปขณะที่สมองกำลังทำงานอย่างหนักถ้าไอ้พี่มาร์คอ้างใช้กฎสายรหัสงั้นก็แสดงว่า...
“อย่าบอกนะว่าพี่”
ผมค่อยๆยกมือขึ้นชี้ไปที่พี่มันด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ก็อย่างที่มึงคิดนั่นแหละ”
ผมทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ หมดกันความหวังอันน้อยนิด ทำไมชีวิตผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ทำไม !!!
“ทำไมถึงเป็นพี่ได้ว่ะ”
“พรมลิขิตมั้ง เอาน่าเป็นน้องรหัสกูสบายจะตายแค่คอยทำตามที่กูบอกก็พอ”
“ก็นั่นแหละที่ห่วงคนอย่างพี่คิดแต่เรื่องชั่วๆทั้งนั้น”
“เนียนด่ากูปะเนี่ยเดี๋ยวจะโดน อย่าลืมว่าตอนนี้มึงไม่มีสิทธิ์ออกเสียงนะเด็กใหม่”
“ไอ้เผด็จการ”
“กูจะใจดีก็ต่อเมื่อมึงทำตัวน่ารักเท่านั้น
ว่าแล้วก็พร้อมจะหอมกูรึยัง”
“แล้วถ้าผมไม่ทำล่ะ”
ผมลองเอ่ยหยั่งเชิงเพื่อดูว่าอีกฝ่ายจะทำยังไง
พี่มาร์คนิ่งไปสักพักก่อนพรวดพราดลุกขึ้น ทำให้ผมที่นั่งอยู่กับพื้นรีบยันตัวถอยหลังเพื่อให้พ้นรัศมีของเขาแต่ดูเหมือนจะช้าเกินไปพี่มาร์คพุงตรงเข้ามาหาผมด้วยความเร็วจนผมต้องยกมือยันคนตรงหน้าเอาไว้
“เฮ้ยๆ...จะทำอะไรถอยออกไปนะเว้ย”
“ไม่ถอย” พี่มาร์คโถมตัวลงมามากยิ่งขึ้นจนหน้าของเราแทบจะชิดกัน
“หยุดก่อนถ้าพี่ยอมถอยออกไป ผมหอมพี่ก็ได้”
“งั้นหอมก่อนค่อยว่ากัน”
พูดจบเขาก็เอียงแก้มยื่นมาให้ผมทันที
“โว้ยย...ถอยออกไปดิวะ”
เห็นแบบนั้นผมก็ใช้กำลังทั้งหมดดันพี่มันให้ถอยห่างออกไปอย่างเหลืออดก่อนรีบลุกขึ้นยืนเตรียมจะวิ่งเข้าห้อง
“หยุด !!! ถ้ามึงวิ่งแล้วกูจับได้โดนสองเท่านะ”
ผมที่กำลังจะออกวิ่งถึงกับหยุดชะงักก่อนหันกลับไปมองพี่มันด้วยท่าทีเซ็งโลก คือมึงจะอะไรกับกูนักหนาเนี่ย
“พี่ปล่อยผมไปนอนเหอะแกล้งคนง่วงนอนมันบาปนะเว้ย”
“กูยอมบาป ถ้าได้แกล้งมึง”
พูดจบเขาก็เดินมายืนซ้อนด้านหลังผมก่อนแขนแกร่งจะยกขึ้นมาโอบรอบคอผมเอาไว้
ริมฝีปากได้รูปพ้นลมหายใจอุ่นรดต้นคอจนผมขนลุกไปทั้งตัว
“ง่วงมากเหรอครับน้องแบมแบม”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูก่อนงับลงมาผมรีบหดคอหนีก่อนพยักหน้าหงึกๆแทนคำตอบ
“งั้นไปนอนกัน”
“ห๊ะ !!!” ผมหันไปทางด้านหลังทำให้ปลายจมูกของเราชนกันพี่มาร์คยิ้มหวานส่งมาให้ก่อนจุ๊บที่ริมฝีปากผมเบาๆ ผมเลยรีบผละออกและหันไปอีกทางทำไมชอบทำอะไรแบบนักวะน่าหงุดหงิดจริงๆ
“ง่วงไม่ใช่เหรอก็จะพาไปนอนนี่ไง”
“ไม่เป็นไรผมไปเองได้”
ผมเริ่มกดเสียงต่ำอย่างนึกรำคาญเพราะตอนนี้ร่างกายล้าจากการรับน้องเต็มทน
“ไม่เอาน่า เดี๋ยวพี่มาร์คพาไปนอนนะครับ”
พี่มันลากเสียงอย่างน่าหมั่นไส้ก่อนดึงแขนผมให้เดินตามไปจนถึงประตูห้องนอนแล้วบังคับให้ผมเปิดประตู
“ส่งแค่ก็พอพี่กลับไปได้แล้ว”
“ได้ไงยังส่งไม่ถึงเตียงเลยอีกอย่างนี่ก็ดึกมากแล้วกูว่าจะนอนกับมึงที่นี่แหละขี้เกียจขับรถ เอ้า...เปิดประตูสิ”
“จะนอนยังไงเตียงผมแคบนอนสองคนไม่ได้หรอก ถ้าพี่จะค้างก็ไปนอนห้องเฮียแจ๊คดิ เดินตรงไปซ้ายมือ...เชิญ”
ผมพูดพร้อมกับผายมือไปทางห้องเฮียแจ๊ค
“ไม่เป็นไรถ้ามันแคบก็นอนทับกันเอา...กูโอเค”
“แต่ผมไม่โอเคและก็ปล่อยได้แล้ว”
ผมโวยออกมาเมื่อความอดทนที่มีขาดสะบั้นลง
“โอ๊ยย...กัดทำไมวะ”
อยู่ดีๆพี่มันก็ยืนหน้ามางับที่ไหล่ของผมอย่างแรง
“หมั่นเขี้ยวและถ้ายังโวยวายไม่เลิกก็เตรียมตัวไม่ได้นอนได้เลย
เพราะมึงกับกูจะได้ใช้เตียงคุ้มทุกตารางนิ้วแน่นอนกูรับรอง”
“เอะอะก็ขู่จะกดอยู่ได้คิดว่ากลัวรึไง ง่วงจะตายห่าอยู่แล้วเหนื่อยมาทั้งวันยังต้องมาเจอเรื่องบ้าบออะไรก็ไม่รู้ อยากทำไรก็ทำไปเลยไม่สนแล้วโว้ย”
ผมเหวี่ยงเสร็จก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอนก่อนทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่นแล้วดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมโปงทันที พี่มาร์คเองก็เดินตามเข้ามานั่งลงบนเตียงข้างๆผมก่อนมือหนาจะดึงผ้าห่มลงเล็กน้อยและลูบหัวผมอย่างเบามือ
“ก็เพราะมึงเป็นแบบนี้ไง กูถึงชอบแกล้ง”
พี่มันก้มลงมาจูบหน้าผากผม ก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆและขยับผ้าห่มที่ผมห่มอยู่ให้เข้าที่เข้าทาง
“แบมแบม”
“อาราย”
ผมครางตอบขณะยังหลับตาอยู่ก็ผมขี้เกียจลืมตามองให้รำคาญใจแค่นี่ก็ใจเต้นจะตายห่าอยู่แล้ว
“กูชอบมึงจริงๆนะ”
“อืม” ร่างบางคางรับเสียงแผ่วก่อนจะนิ่งไป
“รู้แล้วก็ยอมเป็นแฟนกูสักทีสิทำไมเล่นตัวจังว่ะ นี่กูกำลังจีบมึงอยู่นะ อ้าว...หลับซะแล้วสงสัยจะเหนื่อยจริงๆ งั้นก็ฝันดีแล้วกันนะไอ้แสบ”
มาร์คลูบหัวร่างบางตรงหน้าไปมาอย่างเบามือ พร้อมกับอดคิดไม่ได้ว่าแบมแบมเวลาหลับดูน่ารักกว่าตอนเปิดปากพูดเป็นไหนๆเด็กอะไรอ้าปากทีหมาวิ่งออกมาเป็นฝูงร่างหนานั่งอมยิ้มไปลูบหัวร่างบางไปจนตัวเองผลอยหลับไปเช่นกัน
นี่อาจเป็นคืนที่มาร์คหลับสนิทที่สุดในรอบปีก็เป็นได้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
>>> TBC <<<
ในที่สุดมาร์คก็ทนไม่ได้จนต้องมาเอ่ยปากบอกว่าตัวเองเป็นสายรหัสของน้อง
แล้วอย่างงี้จะเกิดอะไรขึ้นกับแบมแบมบ้างล่ะเนี่ย มาร่วมติดตามไปพร้อมๆกันนะคะ
#ฟิคลองของ
ความคิดเห็น