ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ RE-Write ] Try..!!! { MarkBam } // THE END

    ลำดับตอนที่ #18 : Level_17

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.41K
      201
      12 ก.ย. 58




    ซวบ..เสียงลูกบอลสีส้มถูกโยนลงห่วงอย่างต่อเนื่อง มือหนาหยิบลูกบาสลูกถัดไปขึ้นมาโยนอีกครั้งและอีกครั้งหวังให้มันช่วยระบายความหงุดหงิดในใจให้จางลง แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งหงุดหงิดเมื่อภาพเด็กแสบยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมหายไปเสียที  



    ปัง !!!




    “โถ่ เว้ยย..” 

    มือหนากระแทกลูกบาสลงกับพื้นอย่างแรงจนมันกระเด็นไปไกลก่อนจะมีคนเดินเข้ามาก้มหยิบลูกบาสลูกนั้นขึ้นโยนเล่นในมือ




    “ไปโดนอะไรมาอีกล่ะ  ถึงมาลงที่ลูกแบบนี้”  

    เสียงแหบปนหวานพร้อมใบหน้าเบื้อนยิ้มเดินตรงเข้ามาหามาร์คที่หันไปมองทางต้นเสียงก่อนยกยิ้มออกมาน้อยๆ ชายหนุ่มหน้าหวานผู้ครองตำแหน่งพี่รหัสของเค้ารุ่นพี่ที่คอยสอนเค้าในทุกๆเรื่องผู้มีพระคุณที่รู้ความเคลื่อนไหวในชีวิตเค้าเป็นอย่างดี รุ่นพี่ ควอน จียง




    “มาได้ไงเฮีย ไหนบอกจะไปเมืองนอกไง” 

    มาร์ครีบเดินเข้าไปหารุ่นพี่คนสำคัญทันที




    “เปลี่ยนแพลนนิดหน่อยว่ะ”




    “แล้วเฮียไม่ไปล่าแต้มแล้วเหรอ ไหนบอกจะเอาให้ครบทุกรัฐของเมกาไง”




    “ไอห่ามาร์ค พูดซะกูดูเลวเลยนะมึง” 

    จียงโยนลูกบอลในมือไปให้รุ่นน้องตรงหน้า มาร์คยื่นมือไปรับลูกบอลก่อนเดาะมันลงกับพื้น




    “ไปน่ะไปแน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้” จียงเอ่ยออกมาเสียงเรียบ




    “ทำไมอ่ะ ???




    “เออน่า เป็นเด็กเป็นเล็กอย่างเสือกเรื่องของผู้ใหญ่ ว่าแต่มึงเหอะไปโดนใครเหยียบหางมาอีกล่ะ”




    “ป่าว..”

     มาร์คบอกปัดมือหนายกลูกบาสขึ้นชูตส่งให้ลูกสีส้มลอยไปลงห่วงอีกครั้งอย่างแม่นยำ




    “อย่ามาตอแหล..มีอะไรว่ามา”




    “เฮ้อออ...” 

    มาร์คมองรุ่นพี่ร่างเล็กสักพักก่อนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เป็นอีกครั้งที่เค้าไม่สามารถปิดบังคนตรงหน้าไว้ได้จึงจำต้องยอมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อีกคนฟังจนหมดเปลือก




    “มึงชอบผู้ชาย...คนอย่างมึงเนี่ยนะไอมาร์ค ฮ่าๆๆๆๆๆ” 

    พี่จียงหัวเราะออกมาดังลั่นโรงยิมที่มีเพียง ผมและเค้ายืนอยู่




    “เฮียอย่าหัวเราะดิว่ะ ไม่ตลกนะเว้ย”




    “โอ้ยยย...กูหยุดขำไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ”




    “ไม่น่าเล่าให้ฟังเลยแม่ง”




    “โอเคๆๆ หยุดแล้วๆ หึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ” 

    พี่จียงยังคงหัวเราะออกมาไม่ยอมหยุด จนผมชักอารมณ์เสีย




    “ตลกอะไรนักหนาว่ะเฮีย คนยิ่งเครียดๆอยู่”




    “มึงจะเครียดทำไมว่ะ ไม่เห็นมีอะไรน่าเครียดเลย” 

    พี่จียงพูดพร้อมยักไหล่ส่งๆมาให้ผม




    “จะไม่ให้เครียดได้ไง ก็เด็กแม่งม่อเก่งกว่าผมอีก”




    “แล้วไง..” 

    ผมหันไปมองรุ่นพี่ที่เดินนำไปนั่งบนสแตนก่อนหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดด้วยท่าทีสบายๆ




    “หรือเพราะมึงคิดว่ามึงไม่มีทางเอาชนะผู้หญิงพวกนั้นได้ถึงมายืนเครียดอยู่แบบนี้ ริจะชอบผู้ชายมันต้องกล้าได้กล้าเสีย ทำให้เค้าเห็นว่ามึงก็มีดี ไม่ใช่เอะอะ ก็ฟาดง่วงฟาดงาไปทั่ว เป็นกูกูก็ไม่เอามึง”




    “.....”




    “มึงลองคิดนะถ้ามีคนคอยตามมึงไปทุกที่ แถมยังโวยวายหึงหวงทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเป็นมึงๆชอบเหรอ ใจเค้าใจเราหน่อยไอมาร์คอย่าเห็นแก่ตัว” 

    ผมชะงักไปเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน ก็จริงอย่างที่พี่จียงพูดผมทำตัวโคตรเด็กหึงมันทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็มันอดไม่ได้จริงๆนี่หว่า เด็กนั้นจะรู้ตัวมั้ยว่ามันมีอิทธิพลกับผมมากถึงขนาดนี้




    “เฮ้ออ..แล้วพี่ว่าผมควรทำไง”




    “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น..”




    ????




    “มึงแค่ทำตัวตามปกติเหมือนที่เป็นนี่แหละแล้วก็เลิกตามไปวุ่นวายกับเค้าเว้นช่องว่างให้เค้าหายใจบ้างเดี๋ยวอะไรๆก็ดีเองเชื่อกู”




    “พี่ประมาทเด็กนี่เกินไปมันแสบกว่าที่พี่คิดไว้เยอะ เพื่อนมันบอกผมว่าทุกวันนี้มันยังลากสาวไปฟันอยู่เลย แล้วผมจะเอาอะไรไปสู้ว่ะ”




    “เค้าฟันสาวได้ มึงก็ฟันเค้าได้อยู่ที่ว่ามึงจะทำให้เค้าใจอ่อนยอมให้มึงฟันรึเปล่า มีอะไรดีก็งัดออกมาโชว์อย่าเก็บไว้ให้เสียของ อีกอย่างกูได้ข่าวว่ามึงอดอยากมาสักพักแล้วนิ”  

    พี่จียงหัวเราะในลำคอพร้อมพ่นควันออกมาจนผมต้องโบกมือไล่ควันกลิ่นมิ้นให้จางลง




    “ถ้ามันง่ายอย่างที่พี่พูดก็ดีดิว่ะ”




    “แต่พวกมึงก็จูบกันไปตั้งหลายครั้งและจากที่ฟังเค้าก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจูบกับมึง”




    “มันก็ใช่ แต่ผมเป็นคนบังคับจูบตลอดเลยนี่สิ” 

    พี่จียงหันมามองผมก่อนส่ายหัวเล็กน้อย




    “กูถามมึงคำเดียวตอบกูมาตามตรง มึงจริงจังหรือแค่อยากลอง”




    “.......”




    “อ้าว..เงียบ ขนาดตัวมึงเองยังตอบไม่ได้เลยว่ามึงชอบเค้าจริงรึเปล่า”




    “เออ..คือ ผม”




    “กูอยากให้มึงไปคิดให้ดีว่าที่มึงทำลงไปทั้งหมดเพราะอะไร ระหว่างนี่ก็ไม่ต้องไปวุ่นวายกับชีวิตเค้าปล่อยให้เค้าใช้ชีวิตของเค้าไป ไม่แน่นะมึงอาจไม่ได้รู้สึกอะไรเลยก็ได้” 

    บุหรี่ถูกขยี้ลงกับพื้นเพื่อดับไฟ ความเงียบโรยตัวลงหลังจากได้ยินประโยคที่พี่ชายคนสำคัญเอ่ยเตือนสติ มันอาจจะจริงอย่างที่เฮียว่าก็ได้ เค้าชอบแบมแบมจริงนะเหรอ หรือที่ทำไปเพราะแค่อยากลอง มาร์คนั่งนิ่งไปจนจียงต้องยกมือขึ้นมาตบไหล่หนาเบาๆ




    “และอย่าคิดนานนักล่ะ ระวังหมาคาบไปแดก”




    “เฮีย..ผมถามอะไรหน่อยสิ” 

    เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทำลายความเงียบ




    “ว่ามา”




    “เฮียว่าผมประหลาดมั้ยว่ะที่ชอบผู้ชาย”




    “ประหลาด...” 

    ผมหันไปมองพี่จียงที่ตอบออกมาแทบจะทันทีที่ผมถามจบ




    “ประหลาดที่คนอย่างมึงไม่รังเกียจผู้ชายด้วยกัน ทั้งที่เมื่อก่อนมึงดูจะแอนตี้เรื่องพวกนี้ซะด้วยซ้ำ” 

    ใช่ เมื่อก่อนผมไม่ชอบพวกรักร่วมเพศสักเท่าไหร่เรียกได้ว่าเกลียดเลยหล่ะ แต่สิ่งที่ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดก็คงหนีไม่พ้นรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้ ผมเริ่มเปลี่ยนความคิดตั้งแต่พี่จียงเดินมาบอกผมว่าพี่เค้าเป็นเกย์และกำลังคบกับผู้ชายอยู่ ตอนแรกผมรับไม่ได้ จนพี่มันทำให้เห็นว่าการคบกับผู้ชายก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด




    “ไม่รู้ว่ะ คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น ผมไม่มีอาการรังเกียจหรือไม่พอใจเวลาอยู่ด้วยกัน แต่กลับอยากอยู่ใกล้ๆมันตลอดเวลา“




    “งั้นมึงก็ได้คำตอบที่กูถามแล้ว” 

    พี่จียงยกยิ้มกว้าง มือเรียวขยี้หัวผมแรงๆ



    ปัง!!!!



    “ไอเหี้ยพี่มาร์ค...” 

    เสียงใสดังกังวานไปทั่วบริเวณก่อนร่างบางที่อยู่ในบทสนธนาเมื่อครู่จะยืนค้างอยู่หน้าประตูทางเข้า




    “คนนี้สินะ..” 

    พี่จียงก้มลงมากระซิบข้างหูผมเบาๆ ผมพยักหน้ารับนิดๆก่อนหันไปทางเด็กแสบที่ยืนนิ่งไม่ยอมเดินเข้ามา จุ๊บ..




    !!!” 

    อยู่ๆพี่จียงก็ดึงผมเข้าไปจูบหน้าตาเฉย ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนเหลือบไปเห็นว่าเฮียแม่งกำลังยกยิ้มมุมปาก มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมขนลุกทุกครั้งที่เห็น เพราะมันหมายถึงพี่แก่กำลังคิดเรื่องชั่วๆอยู่




    “คิดถึงจัง...”  

    พี่จียงผละออกพร้อมยกแขนเรียวกอดผมเอาไว้ก่อนเอ่ยออกมาด้วยเสียงออดอ้อนจนผมขนลุกไปทั้งตัว




    “พี่คิดจะทำอะไรเนี่ย มาจูบผมทำไมว่ะ “ 

    ผมกระซิบออกไปอย่างหัวเสียแน่ล่ะอยู่ดีๆโดนดึงเข้าไปจูบใครไม่โมโหบ้างว่ะ




    “มึงอยู่เฉยๆเหอะน่า “




    “แต่..” 

    ผมกำลังจะหันไปเถียงแต่ถูกขัดขึ้นซะก่อน




    “ไม่ได้อยากขัดจังหวะหรอกนะ แต่มึงเรียกกูมาทำไม” 

    เสียงเย็นถูกส่งออกมาจนมาร์คต้องหันไปมอง แบมแบมยืนกำมือแน่นหน้าหวานดูแดงก่ำลามไปถึงใบหูปากอิ่มเม้มเข้าหากับจนเป็นเส้นตรง นี่ผมขอเข้าข้างตัวเองได้มั้ยว่ามันกำลังหึงผมกับพี่จียง




    “หว่า..น่าเสียดายจังถูกขัดจังหวะซะได้ แล้วทำไมยืนเกร็งแบบนั้นล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า ”



    "ป่าว..."



    "งั้นเหรอ..ว่าแต่นายเป็นอะไรกับมาร์คเห็นเรียกกันซะสนิทเชียว"

    พี่จียงปล่อยมือออกจากตัวผมแขนเรียวยกขึ้นกอดอกด้วยท่าทางสบายๆ ผมหันไปมองแบมแบมด้วยความหวังว่ามันจะตอบในสิ่งที่ผมคิด




    “น้องรหัส..” 

    สงสัยหวังมากไปแต่เอาเถอะมันยอมให้ผมเป็นพี่มันก็ดีแค่ไหนแล้ว




    “น้องรหัสไอมาร์ค งั้นก็เป็นหลานรหัสฉันน่ะสิ แล้วนายชื่ออะไรล่ะ ฉันชื่อ จียง เป็นพี่รหัสไอมาร์คมัน”




    “ แบมแบม..” 

    เสียงตอบกลับห้วนๆดังมาจากคนที่ยืนจ้องมาที่พวกผมนิ่ง ผมจึงได้แต่รอบมองพี่จียงว่าเค้าจะทำยังไงต่อไป




    “แบมแบม เดินเข้ามาใกล้ๆหน่อยสิพอดีฉันสายตาสั้นเห็นหน้าไม่ค่อยชัดเลย” 

    พี่จียงกวักมือเรียกให้มันเข้ามาหา




    “เฮ้ออ..”  

    เสียงถอนหายใจดังขึ้นขาเรียวยอมก้าวเข้ามาหาพวกผมที่นั่งอยู่บนสแตน มันหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมสองคนก่อนที่พี่จียงจะยื่นหน้าเข้าไปพินิจในระยะประชิด  จุ๊บ..




    “เชี่ยยย !!!”  

    แบมแบมอุทานออกมาดังลั่นอย่าว่าแต่มันเลยผมก็เกือบหลุดร้องออกมาเหมือนกัน ก็พี่จียงเล่นจูบปากมันแล้วผละออกมาพร้อมยกยิ้มมุมปาก




    “ทำบ้าไรว่ะ”




    “ฉันคืนจูบไอมาร์คให้ เห็นทำหน้าเหมือนจะไปฆ่าใครถ้าหึงก็บอกซิ ทำเป็นยืนกำมือทำหน้าบูดอยู่ได้”





    !!!




    “นายหึงที่ฉันจูบมาร์คใช่มั้ยแบมแบม ถ้าไม่หึงจะยืนเครียดทำไม”

    พี่จียงพยายามต้อนคนตรงหน้าให้จนมุมจนมันหันมามองผมด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ ผมกับมันจ้องกันอยู่แบบนั้นจนพี่จียงเอ่ยขัดขึ้น




    “เอาเถอะๆไม่แกล้งแล้ว แกล้งเด็กมึงไม่มันเลยไอมาร์ค..กูไปก่อนนะไว้โทรคุยกันส่วนนายยินดีที่ได้รู้จักนะ ยังไงก็อย่าพึ่งฆ่ากันตายล่ะ” 

    พี่จียงเอ่ยขำๆเค้ามองผมกับแบมแบมสลับไปมาแปปนึงก่อนลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วเดินออกไปจากโรงยิม ความเงียบโรยตัวลงมาทันทีที่พี่จียงเดินพ้นประตูทางเข้าผมได้แต่มองหน้ามันนิ่งๆ




    “มองเหี้ยไร..” 

    มันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง




    “.........” 

    ผมเงียบ




    “.........” 

    มันก็เงียบทำให้บรรยากาศดูอึดอัดอยู่ไม่น้อยก่อนผมจะตัดสินใจเอ่ยบางอย่างออกไป




    ”กูขออะไรอย่างนึงสิ” 

    ผมเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมจ้องเข้าไปในดวงตาของแบมแบม เพื่อพยายามจะหาอะไรบางอย่างภายในดวงตาคู่นั้น




    “.......” 

    มันยังคงเงียบไม่ตอบอะไรกลับมา ผมจึงลุกขึ้นแล้วลงไปยืนข้างๆมันก่อนยกมือขึ้นแตะแขนมันเบาๆ แค่แตะเบาๆก็ทำให้มันสะดุ้งจนตัวโยนพร้อมหันมามองผม






    “กูจูบมึงได้มั้ย..”




    “.......” 

    แบมแบมมองแต่ไม่ยอมพูดอะไร ผมค่อยๆก้มลงไปประกบริมฝีปากอิ่มแผ่วเบาโดยไม่มีการลุกล้ำใดๆสัมผัสจากริมฝีปากคนตรงหน้าทำให้ผมใจเต้นเร็วและแรงขึ้นอย่างน่าประหลาดมันต่างจากที่จูบกับพี่จียงลิบลับ ผมค่อยๆยกมือขึ้นประคองใบหน้าหวานให้หันมาก่อนส่งลิ้นร้อนเลียเล็มปากล่างจนได้ยินเสียงครางเบาๆ




    “อื้มม” 

    แบมแบมปลือตาลงช้าๆและค่อยๆอ้าปากให้ผมเข้าไปสำรวจภายในโพลงปากอุ่นและเมื่อเจอความหวานที่ผมหลงไหลผมก็กดจูบลงไปหนักยิ่งขึ้น ส่งให้ลิ้นร้อนดุ้นดันกันจนเกิดเสียงก้องไปทั่ว




    “อื้อ..อืมม” 

    ผมดูดดึงริมฝีปากอิ่มอยู่นานก่อนยอมตัดใจผละออกมาเพราะกลัวคนตรงหน้าจะขาดใจตายไปซะก่อน




    “นี่กูชอบมึงจริงๆสินะ” 

    ผมพูดกับตัวเองในขณะที่ใช้นิ้วโป้งลูบไล้ใบหน้าหวานอย่างเบามือ แบมแบมลืมตาขึ้นมองผมดวงตาที่ส่งมาดูหยาดเยิ้มจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มขาวๆตรงหน้า ฟอดด..




    “มึงยังอยากแข่งบาสกับกูอยู่มั้ย” 

    แบมแบมที่ยังหายใจติดขัดกับใบหน้าแดงก่ำลามลงไปถึงคอมองผมงงๆ มันผละถอยหลังออกไปเล็กน้อยก่อนใช้หลังมือเช็ดปากแบบลวกๆ




    “ว่าไง”




    “ก็ต้องอยากแข่งอยู่แล้ว” 

    มันเอ่ยเสียงเรียบ ในขณะที่ผมยกยิ้มทันทีที่ได้ยินคำตอบจากคนตรงหน้า




    “งั้นมาแข่งกันกูให้เวลาเตรียมตัวสองอาทิตย์ แข่งแบบ 1-1 ใครได้ 11 แต้มก่อนชนะ”




    “ได้..จะแข่งตอนนี้เลยก็ได้”




    “อย่ามาทำป็นอวดเก่งไปซ้อมมาให้ดีแล้วกัน” 

    ผมขยี้หัวมันแรงๆจนผมยุ่งเหยิงไปหมด มันรีบปัดมือผมออกก่อนส่งสายตาคาดโทษมาให้




    “ใกล้หมดเวลาพักแล้วมึงไปเถอะกูเรียกมาบอกแค่นี้แหละ”




    “มึงไล่กูเหรอ” 

    ผมขมวดคิ้วฉับ และเหมือนมันจะรู้ตัวเลยรีบเอ่ยตะกุกตะกักเพื่อแก้คำ





    “เออ...คือ..พี่ไล่ผมเหรอ” 

    ผมมองมันขำๆ สงสัยกลัวโดนผมเทศเรื่องขึ้นกูขึ้นมึงอีกแหงๆ




    “จะไม่ไปก็ได้นะ แต่ได้ข่าวว่าคาบบ่ายมึงมีเรียนกายวิภาคของอ.แดนกูบอกไว้ก่อนถ้าเข้าสายมึงเตรียมลงซ่อมได้เลย”




    “พี่รู้ตารางเรียนผมได้ไง” 

    มันหรี่ตามองผมด้วยท่าทีสงสัย




    “เออน่า...กูรู้ก็แล้วกันมึงไปได้แล้ว”




    “ไอคยอมแม่งเป็นหนอนบ่อนไส้แน่ๆ ไอเพื่อนชั่ว”

    มันบ่นออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิดก่อนหันหลังเดินไปยังทางออก




    “แบมแบม..” 

    ผมตะโกนเรียกให้มันหันกลับมามอง




    “มีอะไรอีกล่ะ เรื่องเยอะจริงเว้ย”




    “กูแค่จะบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับมึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”




    “อะไรของพี่ว่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลยช่วยขยายความมากกว่านี้ได้มั้ย”




    “มึงรู้แค่นี้ก็พอไปเถอะเดี๋ยวสาย” 

    มันยืนเกาหัวแกรกๆแต่ก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดีผมมองตามแผ่นหลังที่เล็กเกินชายจนหายลับตาไป




    “ถ้ามึงรู้ว่ากูทำอะไร มึงฆ่ากูแน่แบมแบม” 

    ผมยกยิ้มขำๆก่อนนึกย้อนไปถึงเรื่องที่ทำลงไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แค่นึกถึงก็อดขำออกมาไม่ได้กับการกระทำที่เหมือนเด็กเอาแต่ใจของตัวเองนี่ถ้าเรื่องนี้ถึงหูเด็กนั้นล่ะก็ผมคงโดนด่าจนหูชาไม่ก็โดนต่อยจนหน้ายับ ผมไม่อยากจะคิดเลย แต่ถ้ามันไม่รู้ก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง... ผมคิดว่างั้นนะ 






    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




    >>> TBC <<<


    พี่มาร์คทำอะไร ? ไปสร้างวีรกรรมอะไรเอาไว้ ?? ทำไมดูมีลับลมคมนัย ??? 

    ถ้าใครอยากรู้ มาร่วมไขข้อข้องใจไปพร้อมๆกันในเลเวลหน้านะคะ   #ฟิคลองของ







    ?THE ORA


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×