คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : Level_17
ซวบ..เสียงลูกบอลสีส้มถูกโยนลงห่วงอย่างต่อเนื่อง มือหนาหยิบลูกบาสลูกถัดไปขึ้นมาโยนอีกครั้งและอีกครั้งหวังให้มันช่วยระบายความหงุดหงิดในใจให้จางลง แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งหงุดหงิดเมื่อภาพเด็กแสบยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมหายไปเสียที
ปัง !!!
“โถ่ เว้ยย..”
มือหนากระแทกลูกบาสลงกับพื้นอย่างแรงจนมันกระเด็นไปไกลก่อนจะมีคนเดินเข้ามาก้มหยิบลูกบาสลูกนั้นขึ้นโยนเล่นในมือ
“ไปโดนอะไรมาอีกล่ะ ถึงมาลงที่ลูกแบบนี้”
เสียงแหบปนหวานพร้อมใบหน้าเบื้อนยิ้มเดินตรงเข้ามาหามาร์คที่หันไปมองทางต้นเสียงก่อนยกยิ้มออกมาน้อยๆ ชายหนุ่มหน้าหวานผู้ครองตำแหน่งพี่รหัสของเค้ารุ่นพี่ที่คอยสอนเค้าในทุกๆเรื่องผู้มีพระคุณที่รู้ความเคลื่อนไหวในชีวิตเค้าเป็นอย่างดี รุ่นพี่ ควอน จียง
“มาได้ไงเฮีย ไหนบอกจะไปเมืองนอกไง”
มาร์ครีบเดินเข้าไปหารุ่นพี่คนสำคัญทันที
“เปลี่ยนแพลนนิดหน่อยว่ะ”
“แล้วเฮียไม่ไปล่าแต้มแล้วเหรอ ไหนบอกจะเอาให้ครบทุกรัฐของเมกาไง”
“ไอห่ามาร์ค พูดซะกูดูเลวเลยนะมึง”
จียงโยนลูกบอลในมือไปให้รุ่นน้องตรงหน้า
มาร์คยื่นมือไปรับลูกบอลก่อนเดาะมันลงกับพื้น
“ไปน่ะไปแน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้” จียงเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“ทำไมอ่ะ ???”
“เออน่า เป็นเด็กเป็นเล็กอย่างเสือกเรื่องของผู้ใหญ่ ว่าแต่มึงเหอะไปโดนใครเหยียบหางมาอีกล่ะ”
“ป่าว..”
มาร์คบอกปัดมือหนายกลูกบาสขึ้นชูตส่งให้ลูกสีส้มลอยไปลงห่วงอีกครั้งอย่างแม่นยำ
“อย่ามาตอแหล..มีอะไรว่ามา”
“เฮ้อออ...”
มาร์คมองรุ่นพี่ร่างเล็กสักพักก่อนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เป็นอีกครั้งที่เค้าไม่สามารถปิดบังคนตรงหน้าไว้ได้จึงจำต้องยอมเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้อีกคนฟังจนหมดเปลือก
“มึงชอบผู้ชาย...คนอย่างมึงเนี่ยนะไอมาร์ค ฮ่าๆๆๆๆๆ”
พี่จียงหัวเราะออกมาดังลั่นโรงยิมที่มีเพียง ผมและเค้ายืนอยู่
“เฮียอย่าหัวเราะดิว่ะ ไม่ตลกนะเว้ย”
“โอ้ยยย...กูหยุดขำไม่ได้ ฮ่าๆๆๆ”
“ไม่น่าเล่าให้ฟังเลยแม่ง”
“โอเคๆๆ หยุดแล้วๆ หึๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ”
พี่จียงยังคงหัวเราะออกมาไม่ยอมหยุด จนผมชักอารมณ์เสีย
“ตลกอะไรนักหนาว่ะเฮีย คนยิ่งเครียดๆอยู่”
“มึงจะเครียดทำไมว่ะ ไม่เห็นมีอะไรน่าเครียดเลย”
พี่จียงพูดพร้อมยักไหล่ส่งๆมาให้ผม
“จะไม่ให้เครียดได้ไง ก็เด็กแม่งม่อเก่งกว่าผมอีก”
“แล้วไง..”
ผมหันไปมองรุ่นพี่ที่เดินนำไปนั่งบนสแตนก่อนหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดด้วยท่าทีสบายๆ
“หรือเพราะมึงคิดว่ามึงไม่มีทางเอาชนะผู้หญิงพวกนั้นได้ถึงมายืนเครียดอยู่แบบนี้ ริจะชอบผู้ชายมันต้องกล้าได้กล้าเสีย
ทำให้เค้าเห็นว่ามึงก็มีดี ไม่ใช่เอะอะ ก็ฟาดง่วงฟาดงาไปทั่ว เป็นกูกูก็ไม่เอามึง”
“.....”
“มึงลองคิดนะถ้ามีคนคอยตามมึงไปทุกที่ แถมยังโวยวายหึงหวงทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเป็นมึงๆชอบเหรอ ใจเค้าใจเราหน่อยไอมาร์คอย่าเห็นแก่ตัว”
ผมชะงักไปเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน ก็จริงอย่างที่พี่จียงพูดผมทำตัวโคตรเด็กหึงมันทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็มันอดไม่ได้จริงๆนี่หว่า เด็กนั้นจะรู้ตัวมั้ยว่ามันมีอิทธิพลกับผมมากถึงขนาดนี้
“เฮ้ออ..แล้วพี่ว่าผมควรทำไง”
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น..”
“????”
“มึงแค่ทำตัวตามปกติเหมือนที่เป็นนี่แหละแล้วก็เลิกตามไปวุ่นวายกับเค้าเว้นช่องว่างให้เค้าหายใจบ้างเดี๋ยวอะไรๆก็ดีเองเชื่อกู”
“พี่ประมาทเด็กนี่เกินไปมันแสบกว่าที่พี่คิดไว้เยอะ
เพื่อนมันบอกผมว่าทุกวันนี้มันยังลากสาวไปฟันอยู่เลย แล้วผมจะเอาอะไรไปสู้ว่ะ”
“เค้าฟันสาวได้ มึงก็ฟันเค้าได้อยู่ที่ว่ามึงจะทำให้เค้าใจอ่อนยอมให้มึงฟันรึเปล่า มีอะไรดีก็งัดออกมาโชว์อย่าเก็บไว้ให้เสียของ อีกอย่างกูได้ข่าวว่ามึงอดอยากมาสักพักแล้วนิ”
พี่จียงหัวเราะในลำคอพร้อมพ่นควันออกมาจนผมต้องโบกมือไล่ควันกลิ่นมิ้นให้จางลง
“ถ้ามันง่ายอย่างที่พี่พูดก็ดีดิว่ะ”
“แต่พวกมึงก็จูบกันไปตั้งหลายครั้งและจากที่ฟังเค้าก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจูบกับมึง”
“มันก็ใช่ แต่ผมเป็นคนบังคับจูบตลอดเลยนี่สิ”
พี่จียงหันมามองผมก่อนส่ายหัวเล็กน้อย
“กูถามมึงคำเดียวตอบกูมาตามตรง มึงจริงจังหรือแค่อยากลอง”
“.......”
“อ้าว..เงียบ ขนาดตัวมึงเองยังตอบไม่ได้เลยว่ามึงชอบเค้าจริงรึเปล่า”
“เออ..คือ ผม”
“กูอยากให้มึงไปคิดให้ดีว่าที่มึงทำลงไปทั้งหมดเพราะอะไร ระหว่างนี่ก็ไม่ต้องไปวุ่นวายกับชีวิตเค้าปล่อยให้เค้าใช้ชีวิตของเค้าไป ไม่แน่นะมึงอาจไม่ได้รู้สึกอะไรเลยก็ได้”
บุหรี่ถูกขยี้ลงกับพื้นเพื่อดับไฟ ความเงียบโรยตัวลงหลังจากได้ยินประโยคที่พี่ชายคนสำคัญเอ่ยเตือนสติ มันอาจจะจริงอย่างที่เฮียว่าก็ได้ เค้าชอบแบมแบมจริงนะเหรอ หรือที่ทำไปเพราะแค่อยากลอง มาร์คนั่งนิ่งไปจนจียงต้องยกมือขึ้นมาตบไหล่หนาเบาๆ
“และอย่าคิดนานนักล่ะ ระวังหมาคาบไปแดก”
“เฮีย..ผมถามอะไรหน่อยสิ”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทำลายความเงียบ
“ว่ามา”
“เฮียว่าผมประหลาดมั้ยว่ะที่ชอบผู้ชาย”
“ประหลาด...”
ผมหันไปมองพี่จียงที่ตอบออกมาแทบจะทันทีที่ผมถามจบ
“ประหลาดที่คนอย่างมึงไม่รังเกียจผู้ชายด้วยกัน ทั้งที่เมื่อก่อนมึงดูจะแอนตี้เรื่องพวกนี้ซะด้วยซ้ำ”
ใช่ เมื่อก่อนผมไม่ชอบพวกรักร่วมเพศสักเท่าไหร่เรียกได้ว่าเกลียดเลยหล่ะ แต่สิ่งที่ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดก็คงหนีไม่พ้นรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆตอนนี้ ผมเริ่มเปลี่ยนความคิดตั้งแต่พี่จียงเดินมาบอกผมว่าพี่เค้าเป็นเกย์และกำลังคบกับผู้ชายอยู่ ตอนแรกผมรับไม่ได้ จนพี่มันทำให้เห็นว่าการคบกับผู้ชายก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด
“ไม่รู้ว่ะ คนนี้ไม่เหมือนคนอื่น ผมไม่มีอาการรังเกียจหรือไม่พอใจเวลาอยู่ด้วยกัน
แต่กลับอยากอยู่ใกล้ๆมันตลอดเวลา“
“งั้นมึงก็ได้คำตอบที่กูถามแล้ว”
พี่จียงยกยิ้มกว้าง มือเรียวขยี้หัวผมแรงๆ
ปัง!!!!
“ไอเหี้ยพี่มาร์ค...”
เสียงใสดังกังวานไปทั่วบริเวณก่อนร่างบางที่อยู่ในบทสนธนาเมื่อครู่จะยืนค้างอยู่หน้าประตูทางเข้า
“คนนี้สินะ..”
พี่จียงก้มลงมากระซิบข้างหูผมเบาๆ ผมพยักหน้ารับนิดๆก่อนหันไปทางเด็กแสบที่ยืนนิ่งไม่ยอมเดินเข้ามา จุ๊บ..
“!!!”
อยู่ๆพี่จียงก็ดึงผมเข้าไปจูบหน้าตาเฉย ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนเหลือบไปเห็นว่าเฮียแม่งกำลังยกยิ้มมุมปาก
มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมขนลุกทุกครั้งที่เห็น
เพราะมันหมายถึงพี่แก่กำลังคิดเรื่องชั่วๆอยู่
“คิดถึงจัง...”
พี่จียงผละออกพร้อมยกแขนเรียวกอดผมเอาไว้ก่อนเอ่ยออกมาด้วยเสียงออดอ้อนจนผมขนลุกไปทั้งตัว
“พี่คิดจะทำอะไรเนี่ย มาจูบผมทำไมว่ะ “
ผมกระซิบออกไปอย่างหัวเสียแน่ล่ะอยู่ดีๆโดนดึงเข้าไปจูบใครไม่โมโหบ้างว่ะ
“มึงอยู่เฉยๆเหอะน่า “
“แต่..”
ผมกำลังจะหันไปเถียงแต่ถูกขัดขึ้นซะก่อน
“ไม่ได้อยากขัดจังหวะหรอกนะ แต่มึงเรียกกูมาทำไม”
เสียงเย็นถูกส่งออกมาจนมาร์คต้องหันไปมอง
แบมแบมยืนกำมือแน่นหน้าหวานดูแดงก่ำลามไปถึงใบหูปากอิ่มเม้มเข้าหากับจนเป็นเส้นตรง
นี่ผมขอเข้าข้างตัวเองได้มั้ยว่ามันกำลังหึงผมกับพี่จียง
“หว่า..น่าเสียดายจังถูกขัดจังหวะซะได้ แล้วทำไมยืนเกร็งแบบนั้นล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า ”
"ป่าว..."
"งั้นเหรอ..ว่าแต่นายเป็นอะไรกับมาร์คเห็นเรียกกันซะสนิทเชียว"
พี่จียงปล่อยมือออกจากตัวผมแขนเรียวยกขึ้นกอดอกด้วยท่าทางสบายๆ ผมหันไปมองแบมแบมด้วยความหวังว่ามันจะตอบในสิ่งที่ผมคิด
“น้องรหัส..”
สงสัยหวังมากไปแต่เอาเถอะมันยอมให้ผมเป็นพี่มันก็ดีแค่ไหนแล้ว
“น้องรหัสไอมาร์ค งั้นก็เป็นหลานรหัสฉันน่ะสิ แล้วนายชื่ออะไรล่ะ ฉันชื่อ จียง เป็นพี่รหัสไอมาร์คมัน”
“ แบมแบม..”
เสียงตอบกลับห้วนๆดังมาจากคนที่ยืนจ้องมาที่พวกผมนิ่ง ผมจึงได้แต่รอบมองพี่จียงว่าเค้าจะทำยังไงต่อไป
“แบมแบม เดินเข้ามาใกล้ๆหน่อยสิพอดีฉันสายตาสั้นเห็นหน้าไม่ค่อยชัดเลย”
พี่จียงกวักมือเรียกให้มันเข้ามาหา
“เฮ้ออ..”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นขาเรียวยอมก้าวเข้ามาหาพวกผมที่นั่งอยู่บนสแตน
มันหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมสองคนก่อนที่พี่จียงจะยื่นหน้าเข้าไปพินิจในระยะประชิด จุ๊บ..
“เชี่ยยย !!!”
แบมแบมอุทานออกมาดังลั่นอย่าว่าแต่มันเลยผมก็เกือบหลุดร้องออกมาเหมือนกัน ก็พี่จียงเล่นจูบปากมันแล้วผละออกมาพร้อมยกยิ้มมุมปาก
“ทำบ้าไรว่ะ”
“ฉันคืนจูบไอมาร์คให้ เห็นทำหน้าเหมือนจะไปฆ่าใครถ้าหึงก็บอกซิ ทำเป็นยืนกำมือทำหน้าบูดอยู่ได้”
“!!!”
“นายหึงที่ฉันจูบมาร์คใช่มั้ยแบมแบม ถ้าไม่หึงจะยืนเครียดทำไม”
พี่จียงพยายามต้อนคนตรงหน้าให้จนมุมจนมันหันมามองผมด้วยสายตาที่ยากจะเข้าใจ ผมกับมันจ้องกันอยู่แบบนั้นจนพี่จียงเอ่ยขัดขึ้น
“เอาเถอะๆไม่แกล้งแล้ว แกล้งเด็กมึงไม่มันเลยไอมาร์ค..กูไปก่อนนะไว้โทรคุยกันส่วนนายยินดีที่ได้รู้จักนะ ยังไงก็อย่าพึ่งฆ่ากันตายล่ะ”
พี่จียงเอ่ยขำๆเค้ามองผมกับแบมแบมสลับไปมาแปปนึงก่อนลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วเดินออกไปจากโรงยิม
ความเงียบโรยตัวลงมาทันทีที่พี่จียงเดินพ้นประตูทางเข้าผมได้แต่มองหน้ามันนิ่งๆ
“มองเหี้ยไร..”
มันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง
“.........”
ผมเงียบ
“.........”
มันก็เงียบทำให้บรรยากาศดูอึดอัดอยู่ไม่น้อยก่อนผมจะตัดสินใจเอ่ยบางอย่างออกไป
”กูขออะไรอย่างนึงสิ”
ผมเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมจ้องเข้าไปในดวงตาของแบมแบม เพื่อพยายามจะหาอะไรบางอย่างภายในดวงตาคู่นั้น
“.......”
มันยังคงเงียบไม่ตอบอะไรกลับมา ผมจึงลุกขึ้นแล้วลงไปยืนข้างๆมันก่อนยกมือขึ้นแตะแขนมันเบาๆ แค่แตะเบาๆก็ทำให้มันสะดุ้งจนตัวโยนพร้อมหันมามองผม
“กูจูบมึงได้มั้ย..”
“.......”
แบมแบมมองแต่ไม่ยอมพูดอะไร ผมค่อยๆก้มลงไปประกบริมฝีปากอิ่มแผ่วเบาโดยไม่มีการลุกล้ำใดๆสัมผัสจากริมฝีปากคนตรงหน้าทำให้ผมใจเต้นเร็วและแรงขึ้นอย่างน่าประหลาดมันต่างจากที่จูบกับพี่จียงลิบลับ ผมค่อยๆยกมือขึ้นประคองใบหน้าหวานให้หันมาก่อนส่งลิ้นร้อนเลียเล็มปากล่างจนได้ยินเสียงครางเบาๆ
“อื้มม”
แบมแบมปลือตาลงช้าๆและค่อยๆอ้าปากให้ผมเข้าไปสำรวจภายในโพลงปากอุ่นและเมื่อเจอความหวานที่ผมหลงไหลผมก็กดจูบลงไปหนักยิ่งขึ้น ส่งให้ลิ้นร้อนดุ้นดันกันจนเกิดเสียงก้องไปทั่ว
“อื้อ..อืมม”
ผมดูดดึงริมฝีปากอิ่มอยู่นานก่อนยอมตัดใจผละออกมาเพราะกลัวคนตรงหน้าจะขาดใจตายไปซะก่อน
“นี่กูชอบมึงจริงๆสินะ”
ผมพูดกับตัวเองในขณะที่ใช้นิ้วโป้งลูบไล้ใบหน้าหวานอย่างเบามือ
แบมแบมลืมตาขึ้นมองผมดวงตาที่ส่งมาดูหยาดเยิ้มจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปหอมแก้มขาวๆตรงหน้า
ฟอดด..
“มึงยังอยากแข่งบาสกับกูอยู่มั้ย”
แบมแบมที่ยังหายใจติดขัดกับใบหน้าแดงก่ำลามลงไปถึงคอมองผมงงๆ มันผละถอยหลังออกไปเล็กน้อยก่อนใช้หลังมือเช็ดปากแบบลวกๆ
“ว่าไง”
“ก็ต้องอยากแข่งอยู่แล้ว”
มันเอ่ยเสียงเรียบ ในขณะที่ผมยกยิ้มทันทีที่ได้ยินคำตอบจากคนตรงหน้า
“งั้นมาแข่งกันกูให้เวลาเตรียมตัวสองอาทิตย์ แข่งแบบ 1-1 ใครได้ 11
แต้มก่อนชนะ”
“ได้..จะแข่งตอนนี้เลยก็ได้”
“อย่ามาทำป็นอวดเก่งไปซ้อมมาให้ดีแล้วกัน”
ผมขยี้หัวมันแรงๆจนผมยุ่งเหยิงไปหมด มันรีบปัดมือผมออกก่อนส่งสายตาคาดโทษมาให้
“ใกล้หมดเวลาพักแล้วมึงไปเถอะกูเรียกมาบอกแค่นี้แหละ”
“มึงไล่กูเหรอ”
ผมขมวดคิ้วฉับ และเหมือนมันจะรู้ตัวเลยรีบเอ่ยตะกุกตะกักเพื่อแก้คำ
“เออ...คือ..พี่ไล่ผมเหรอ”
ผมมองมันขำๆ สงสัยกลัวโดนผมเทศเรื่องขึ้นกูขึ้นมึงอีกแหงๆ
“จะไม่ไปก็ได้นะ แต่ได้ข่าวว่าคาบบ่ายมึงมีเรียนกายวิภาคของอ.แดนกูบอกไว้ก่อนถ้าเข้าสายมึงเตรียมลงซ่อมได้เลย”
“พี่รู้ตารางเรียนผมได้ไง”
มันหรี่ตามองผมด้วยท่าทีสงสัย
“เออน่า...กูรู้ก็แล้วกันมึงไปได้แล้ว”
“ไอคยอมแม่งเป็นหนอนบ่อนไส้แน่ๆ ไอเพื่อนชั่ว”
มันบ่นออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิดก่อนหันหลังเดินไปยังทางออก
“แบมแบม..”
ผมตะโกนเรียกให้มันหันกลับมามอง
“มีอะไรอีกล่ะ เรื่องเยอะจริงเว้ย”
“กูแค่จะบอกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับมึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
“อะไรของพี่ว่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลยช่วยขยายความมากกว่านี้ได้มั้ย”
“มึงรู้แค่นี้ก็พอไปเถอะเดี๋ยวสาย”
มันยืนเกาหัวแกรกๆแต่ก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดีผมมองตามแผ่นหลังที่เล็กเกินชายจนหายลับตาไป
“ถ้ามึงรู้ว่ากูทำอะไร มึงฆ่ากูแน่แบมแบม”
ผมยกยิ้มขำๆก่อนนึกย้อนไปถึงเรื่องที่ทำลงไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แค่นึกถึงก็อดขำออกมาไม่ได้กับการกระทำที่เหมือนเด็กเอาแต่ใจของตัวเองนี่ถ้าเรื่องนี้ถึงหูเด็กนั้นล่ะก็ผมคงโดนด่าจนหูชาไม่ก็โดนต่อยจนหน้ายับ ผมไม่อยากจะคิดเลย แต่ถ้ามันไม่รู้ก็คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง... ผมคิดว่างั้นนะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
>>> TBC <<<
พี่มาร์คทำอะไร ? ไปสร้างวีรกรรมอะไรเอาไว้ ?? ทำไมดูมีลับลมคมนัย ???
ถ้าใครอยากรู้ มาร่วมไขข้อข้องใจไปพร้อมๆกันในเลเวลหน้านะคะ #ฟิคลองของ
ความคิดเห็น