ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ RE-Write ] Try..!!! { MarkBam } // THE END

    ลำดับตอนที่ #19 : Level_18

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.28K
      191
      20 ก.ย. 58


     

    ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งวันก่อนวันประกาศผลการสมัครเข้าเรียนที่คณะวิทย์กีฬา


     

    “ใครเป็นคนดูแลเรื่องจับสายรหัส” 

    หนุ่มผมเทาเดินตรงเข้าไปในห้องกรรมการที่มีคนนั่งอยู่ในนั้นประมาณสองสามคน



    “ไอมิโน..” 

    เสียงหนึ่งในนั้นดังขึ้น ผมพยักหน้ารับก่อนเดินออกมาจากห้องแล้วเริ่มตามหาตัวไอมิโนทันที เดินอยู่สักพักก็เจอมันนั่งเตรียมข้าวของสำหรับกิจกรรมในวันพรุ่งนี้อยู่ที่ม้าหินใต้คณะผมเดินเข้าไปใกล้มันพร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม



    “ไงมึง”



    “อ้าว..ไอมาร์คว่าไง ถ่อมาทำไรถึงนี่ว่ะ”



    “มาหามึงนั้นแหละ พอดีกูมีอะไรให้มึงช่วยหน่อย”



    “ให้กูช่วย “



    “เออ”



    “อย่างมึงไม่เห็นต้องให้กูช่วยเลย เจ้าชายน้ำแข็งผู้เพียบพร้อมต้องให้กูช่วยด้วยเหรอว่ะ”



    “มึงจะกัดกูทำไมเนี่ย หรือมึงยังโกรธที่น้องซันนี่เลิกกับมึงเพราะชอบกู”



    “มึงเงียบไปเลยไอมาร์ค กูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”



    “แต่มันไม่ใช่ความผิดกู”



    “ก็เพราะกูรู้ไง ถึงบอกให้มึงเงียบ แล้วที่บอกจะให้กูช่วยนี่เรื่องอะไร”



    “กูอยากให้มึงช่วยล็อครายชื่อตอนจับสายรหัสให้กูหน่อย”



    “หืมม ล็อครายชื่อ ล็อคทำไม”



    “เออน่า ช่วยกูหน่อย”



    “แต่กูทำรายชื่อเสร็จไปหมดแล้วนะ”



    “แต่ถ้ามึงยอมช่วย กูจะเอาเบอร์น้องเจนดาวคณะบริหารมาเส้นมึง”



    “น้องเจน..ใช่คนที่ลงหนังสือพิมพ์มหาลัยบ่อยๆป่ะว่ะ ที่ขาวๆ สวยๆ หมวยนิดๆ ที่สำคัญโคตรสะบึม”



    “เออ..คนนั้นแหละ มึงจะว่าไง” 

    ผมกอดอกมองมันอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่าแน่นอนผมรู้ว่าคนอย่างไอมิโนหน้าม่อขนาดไหน



    “ก็น่าสนใจ แต่กูถามได้มั้ยว่าทำไมต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย ก่อนที่กูจะช่วยมึงกูว่ากูควรได้รู้เหตุผล”



    “เอาเป็นว่ากูอยากได้น้องคนนึงมาอยู่ในสายรหัสกูแต่การเลือกสายรหัสเป็นแบบสุ่มจับฉลากกูเลยอยากให้มึงช่วย”



    “ใครว่ะ..”



    “แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล”



    “ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย”



    “ผู้ชาย”



    “น้องมึงเหรอ ทำไมต้องให้ไปอยู่สายมึง”



    “น้องเพื่อน ยังไงมึงช่วยกูหน่อยแล้วกันทำยังไงก็ได้ให้มันจับได้สายกู”



    “โจร์ทยากนะมึง ทางเดียวที่จะให้น้องมันจับได้คือต้องใส่ชื่อสายมึงลงไปทั้งกล่อง”



    “เอาตามนั้นแหละ อ่อ อีกเรื่องนึงมึงต้องเปลี่ยนคำใบ้จากไอกรีนเป็นกูเพราะปีนี้กูจะลงมารับน้องเอง”



    “หืมมม”



    “เอาน่า เพื่อเบอร์น้องเจนช่วยกูหน่อยถ้ามึงทำสำเร็จกูแถมเบอร์น้องจูนดาวนิเทศฝาแฝดเค้าให้มึงด้วย”



    “มึงเห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ยไอมาร์ค”



    “แล้วเอามั้ย”



    “เอาสิว่ะถามโง่ๆ งั้นเดี๋ยวกูจัดการให้มึงเตรียมรอรับน้องได้เลยคนอย่างไอมิโนไม่เคยมีคำว่าพลาด”



    “เออ กูเชื่อมือมึงถ้าสำเร็จอย่างปากมึงว่ามาเอาเบอร์ไปได้เลย”



    “รับทราบครับคุณชาย เดี๋ยวกูจัดให้ “



    “ขอบใจมากเว้ย” 

    ผมพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนั้น วันถัดมาเป็นวันประกาศผลการสมัครเข้าเรียนผมได้แต่นั่งภาวนาให้ไอมิโนทำสำเร็จ และก็เป็นไปตามคาดมันทำได้จริงๆ ผมก้มลงมองแอปพลิเคชั่นสีเขียวที่ไอมิโนพึ่งส่งมาในนั้นเป็นรูปเด็กหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยที่ในมือถือกระดาษคำใบ้สายรหัสเอาไว้ ผมรีบขยายภาพออกเพื่อโฟกัสไปที่ข้อความบนกระดาษ รอยยิ้มกว้างฉายชัดบนใบหน้าของผมทันทีที่เห็นข้อความบนกระดาษชัดๆ



    “หึๆ..งานนี้สนุกแน่อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างกูจะทำให้มึงร้องไห้ได้มั้ย” 

    ผมเอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงประเพณีประจำคณะที่จะให้รุ่นพี่สายรหัสทำการรับน้องด้วยตัวเอง โดยมีกฎง่ายๆคือถ้าใครทำให้น้องร้องไห้ได้เร็วที่สุดชนะ ผมเริ่มคิดวางแผนสำหรับการรับน้องทันที



    “ตอนร้องไห้มึงจะทำหน้ายังไงว่ะอยากเห็นชะมัด” 

    ผมหลุดยิ้มออกมาจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมองกันเป็นแถวก็แน่ล่ะคนอย่าง มาร์ค ต้วน ไม่ได้ยิ้มให้ใครเห็นง่ายๆนะครับบอกเลย



    “แกๆๆ ดูดิพี่มาร์คยิ้มด้วยอ่ะ” 

    เสียงหญิงสาวสองคนที่พึ่งเดินผ่านไปดังขึ้น



    “นั้นดิแก หล่อทำลายล้างมากนี่เป็นบุญตามากนะที่ได้เห็น ปกติพี่เค้าจะหน้านิ่งๆแล้วมายิ้มแบบนี้คือละลายเลย”



    “ดูท่าทางพี่เค้าอารมณ์ดีแกเข้าไปทักสิแอบปลื้มพี่เค้าอยู่ไม่ใช่เหรอ”



    “จะดีเหรอแก”



    “เออ ลองดูก็ไม่เสียหายไปดิๆ”



    “อืม..ก็ได้” 

    หญิงสาวหนึ่งในนั้นเดินตรงเข้ามาหาผม จากที่ดูหน้าตาก็น่ารักเอาเรื่องตัวเล็กๆผมสีดำสนิทยาวถึงกลางหลังเธอเดินเมาหยุดตรงหน้าผมก่อนเอ่ยทักทาย



    “สวัสดีค่ะพี่มาร์ค” 

    พูดจบก็ส่งยิ้มหวานมาให้ผมมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผู้ชายหลายๆคนหลงได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นเพียงรอยยิ้มแสนราบเรียบที่ไม่มีดึงดูดอย่างที่ควร แน่นอนผมเคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเราคบกับนานพอดูก่อนมีเรื่องให้ต้องเลิกลากันไป ความสัมพันธ์ครั้งนั้นจบลงไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ แต่เรื่องก็ผ่านมาสักพักแล้ว อีกอย่างผมกำลังเจอความท้าทายใหม่ๆ ความท้าทายที่ทำให้ผมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง



    “มีอะไรรึเปล่า” 

    ผมตอบกลับใบด้วยใบหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นๆของผมทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเอ่ยเสียงสั่นกลับมา



    “เออ..หนูชื่อเมย์นะคะ”



    “.....”



    “คือ เมย์อยากจะขอ” 

    ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดจบผมก็เอ่ยแทรกขึ้นอย่างรู้ทัน



    “ถ้าจะมาขอเบอร์น้องกลับไปเถอะ พี่ไม่สะดวก”



    “แต่..” 

    หญิงสาวมองหน้าผมงงๆผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่รู้ตัวเลยว่าหน้าตาตอนนี้คงเข้าโหมดไม่รับแขกแน่ๆเพราะน้องเค้าเริ่มหน้าซีดจนเห็นได้ชัด



    “เฮียมายืนทำไรตรงนี้เนี่ย เค้ารอซ้อมกันอยู่” 

    เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง ผมหันกลับไปก็เจอไอน้องรหัสสุดแสบ



    “รู้แล้วกำลังจะไป” 

    ไม่พูดพล่ามทำเพลงผมเดินผละออกมาจากตรงนั้นปล่อยให้น้องคนนั้นยืนเหวอไปจนเพื่อนเค้าต้องวิ่งเข้ามาดู ส่วนไอฮันบินก็วิ่งตามผมมาติดๆงานนี้คงต้องขอบใจมันที่มาได้ถูกจังหวะพอดี



    “เพราะแกนั้นแหละยุให้เข้ามาทักเป็นไงล่ะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลย” 

    หญิงสาวเริ่มหันไปโวยวายใส่เพื่อนที่เดินเข้ามาหาตน



    “ก็ใครจะไปรู้ล่ะเห็นเมื่อกี้ยังยิ้มอยู่เลย”



    “โอ้ยย..น่าอายชะมัด”



    “เอาน่าอย่างน้อยก็ได้ลอง จะว่าไปตั้งแต่มีเรื่องตอนนั้นพี่มาร์คก็ไม่ยอมคบใครอีกเลยเนอะหรือพี่เค้ายังไม่ลืมพี่แอชลี่ว่ะแก”



    “ก็น่าคิดนะ ตอนนั้นเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเลยนี่หน่า”



    “อืม ว่าแต่ราไปหาอะไรกินกันดีกว่าเดี๋ยวฉันเลี้ยงเองปลอบใจคนโดนปฏิเสธ”



    “จัดมาสิ ฮ่าๆๆๆ” 

    เสียงหัวเราะดังขึ้นก่อนค่อนๆจางไปเพราะทั้งสองคนเดินหายไปกับฝูงชนแล้ว




    60%




    กลับมา ณ ปัจจุบัน



    ตึ้งๆๆ  เสียงลูกบอลกระแทกลงกับพื้นดังก้องไปทั่วโรงยิมที่ตอนนี้มีร่างบางยืนหอบหายใจหนักๆอยู่เพียงลำพัง แบมแบมในเสื้อกล้ามตัวหลวมโคกกับกางเกงบาสสีเข้มกำลังเดาะลูกบาสลงกับพื้นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าหวานในขณะที่มือยังคงเดาะลูกบอลสีส้มไปเรื่อยๆ เค้าจ้องไปที่แป้นถือลูกไว้ในมือหลับตาลงเพื่อตั้งสมาธิก่อนจะลืมตาขึ้นแล้ว ซวบ.. ลูกบาสถูกส่งออกจากมือพุ่งลงห่วงอย่างแม่นยำก่อนร่างบางจะทิ้งตัวลงนอนแผ่กับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า



    “แฮ่กๆๆ ห่างซ้อมไปซะนาน เหนื่อยชิบเป๋ง” 

    ร่างบางนอนหอบหายใจอยู่สักพักก่อนยันตัวลุกขึ้นนั่ง



    “พรุ่งนี้แล้วสินะ” 

    ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอปปฏิทินที่ตั้งเตือนเอาไว้ในที่สุดวันที่ผมจะได้แก้มือก็มาถึงสักที ผมนั่งเหม่อมองไปที่ห่วงสีขาวตรงหน้าในหัวก็ได้แต่คิดถึงวันที่โดนใครอีกคนจูบที่โรงยิมจนมือเรียวเผลอยกขึ้นแตะปากตัวเองอย่างลืมตัว กริ๊งๆๆๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นเรียกสติคนที่นั่งเหม่อให้ก้มลงมองหน้าจอก่อนกดรับสาย



    “ว่าไงไอคยอม”



    ( มึงอยู่ไหนเนี่ย หอจะปิดแล้วยังไม่กลับอีก )



    “เออว่ะ จะห้าทุ่มแล้วนี่หว่า” 

    ผมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือทันที



    ( ก็เออดิ และขากลับฝากซื้ออะไรขึ้นมาให้แดกหน่อยดิ กูขี้เกียจลงแล้วอ่ะ )



    “มึงก็ขี้เกียจตลอดนั้นแหละ เออๆๆ เดี๋ยวกูซื้อขึ้นไปให้” 

    ผมตอบส่งๆก่อนกดวางสาย ใช่ครับตอนนี้ผมย้ายมาอยู่หอพักในมหาลัยแล้วเพราะผมขี้เกียจแหกขี้ตาตื่นตอนเช้าบวกกับสภาพการจราจรที่แสนจะติคขัดแถวๆคอนโด ผมเลยขออนุญาติป้าย้ายมาอยู่หอแทนและเพื่อลดค่าใช้จ่ายผมเลยลากไอคยอมมาอยู่ด้วยกันจะได้มีคนมาช่วยหารค่าน้ำค่าไฟ ผมขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงขาเรียวก้าวไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายก่อนเดินออกไปจากโรงยิม ผมใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงหอพักที่ใกล้จะได้เวลาปิดหอแล้ว ผมรีบวิ่งเข้ามาร์ทข้างๆตึกหยิบโน้นนิดนี่หน่อยแล้วตรงไปจ่ายเงินก่อนพรวดพลาดออกมาจากร้านจนชนเข้ากับใครบางคนทำให้ถุงของที่ซื้อมาหลุดมือลงไปนอนแหมะกับพื้น



    “ขอโทษครับ พอดีผมรีบ..” 

    ผมก้มลงเก็บของที่หล่นโดยไม่ได้สนใจมองคนที่ผมชนเลยสักนิด



    “ไม่เป็นไร กูไม่ถือ...” 

    กึก..มือที่เอื้อมหยิบของชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงใครอีกคน



    “แม่งมาได้ไงว่ะ” 

    ผมบ่นขมุบขมิบแต่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ก้าวมายืนข้างหน้าผม



    “บ่นอะไร แล้วทำไมยังไม่กลับบ้านอีกนี่จะห้าทุ่มแล้วนะ” 

    เสียงทุ่มต่ำติดออกไปทางดุดังขึ้น



    “เฮ้ออ..” 

    ผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย มือก็ยังคงเก็บของที่หล่นใส่ถุงจนเสร็จก่อนยืนขึ้นเผชิญหน้ากับคนที่หายหัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันนั้น วันที่มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆกับสิ่งที่ได้รับทั้งๆที่ผมกับมันก็จูบกันมาหลายต่อหลายครั้งและนั้นทำให้ผมอดถามตัวเองไม่ได้ว่าผมเป็นบ้าอะไร ผมจ้องคนตรงหน้านิ่งก่อนเอ่ยเสียงเรียบ



    “ไม่กลับอยู่หอ..” 

    ผมบอกแค่นั้นและเดินผ่านคนตรงหน้าไปโดยไม่ได้หันกลับไปมองว่าอีกคนทำหน้ายังไงหรือพูดอะไรผมได้แต่รีบเดินให้ทันเวลาปิดหอ ติ๊ง.. เสียงไลน์ดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังเดินขึ้นไปยังห้องพัก ผมล่วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง พอเห็นว่าใครไลน์มานิ้วเรียวก็กดเข้าไปดูทันที



    MT93 [ กูอยากเปลี่ยนข้อตกลงใหม่ ]



    “ข้อตกลง ???”  

    ผมพิมพ์ตอบกลับไป



    MT93 [ ก็ที่เราตกลงกันว่าถ้าใครชนะจะต้องทำตามที่อีกคนบอกไง ]



    “อ่อ..”



    MT93 [ กูอยากเปลี่ยนใหม่ ]



    “เรื่องมาก”



    MT93 [ ทำไมเดี๋ยวนี้ขี้บ่น ]



    “ใครบ่น ???



    MT93 [ นี่ถึงห้องยัง ]



    “เปลี่ยนเรื่อง”



    MT93 [ ถึงยัง ]



    “กำลังจะเข้าห้อง”



    MT93 [ แชร์ห้องกับใคร ]



    “ไอคยอม”



    MT93 [ ทำไมมาอยู่หอแล้วไม่บอก ]



    “ทำไมต้องบอก”



    MT93 [ นั้นสิ..ทำไมต้องบอก ]



    ผมอ่านข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาก็สัมผัสได้ทันทีว่ามันกำลังงอลผมอยู่แน่ๆที่ไม่ยอมบอกเรื่องย้ายมาอยู่หอ ผมไขกุญแจเข้าไปในห้องวางของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะเหลือบมองไอคยอมที่นั่งเล่นโน๊ตบุ๊คอยู่บนเตียงเล็กน้อยก่อนนั่งลงบนเตียงตัวเองแล้วกลับไปสนใจโปรแกรมแชทสีเขียวอีกครั้ง



    “งอล ???” 

    ผมกดพิมพ์ส่งไปไม่นานก็ขึ้นว่าอ่านแล้วเหมือนอีกคนกำลังข้อความจากผมอยู่



    MT93 [ เออ...] 



    “ไร้สาระว่ะ”



    MT93 กูแค่เป็นห่วงมึง และการที่กูอยากรู้ความเคลื่อนไหวของว่าที่แฟนก็ไม่เห็นไร้สาระตรงไหน  ]



    “นอกจากจะไร้สาระแล้วยังน้ำเน่าอีกนะ”



    MT93 [ ถึงน้ำจะเน่าแต่ก็เห็นเงาจันทร์นะครับ น้องแบมแบม ]



    “อ้วกกกก..โคตรเน่า” 

    ผมทำท่าอ้วกก่อนตอบกลับไปแล้วเริ่มหัวเราะออกมา



    MT93 [ ยิ้มอยู่อ่ะดิ ]

    นั้นรู้อีก นี่ไม่ได้แอบติดกล้องไว้ในห้องใช่มั้ย ผมหันซ้ายหันขาวมองหาตามมุมห้องจนไอคยอมหรี่ตามองพร้อมเอ่ยถาม



    “มึงหาอะไรไอแบม”



    “ป่าว..ไม่มีไร”



    “แล้วนั้นคุยกับใครว่ะ นั่งยิ้มเป็นคนบ้าเลย”



    “เรื่องของกูน่า มึงเล่นเกมส์ไปเหอะ”



    “มีพิรุธนะมึงเนี่ย “ 

    มันจ้องผมนิดๆก่อนหันกลับไปสนใจโน้ตบุ๊คในมือต่อ



    MT93 [ เงียบ..]  

    ข้อความเด้งขึ้นเรียกความสนใจของผมอีกครั้ง



    “จะนอนแล้ว”



    MT93 [ อาบน้ำแล้วเหรอ ]



    “ยัง “



    MT93 [ เน่าว่ะ ]



    "กำลังจะไปอาบ”



    MT93 [ ไปอาบให้เอามั้ย เดี๋ยวถูหลังให้ 555+]



    “ตลกและ”



    MT93 [ โอเค ไม่กวนแล้วไปนอนเหอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรง ]



    “บอกไว้ก่อนพรุ่งนี้ห้ามเล่นกักนะ ถ้าออมมืออีกคราวนี้ผมเอาพี่ตายแน่”



    MT93 [ เอาตายเลยเหรอ ดีว่ะ นอนรอเลยได้มั้ย ]



    “เชี่ยย..คนละเอาเว้ย”



    MT93 [ 555+ รู้แล้วน่าพรุ่งนี้มึงเตรียมเจอของจริงได้เลยส่วนเรื่องข้อตกลงกูขอบอกพรุ่งนี้แล้วกัน ]



    “เออ..”



    MT93 [ และถ้าอยากฝันดีคืนนี้อย่าลืมฝันถึงกูนะ ]



    “ฝันร้ายอ่ะดิไม่ว่า”



    MT93 [ อยู่ใกล้ๆกูจะจับมาจูบให้หายปากเสียเลย ]



    “อย่ามาเพ้อเจ้อ”

     


    MT93 [ โอเคๆ เพ้อเจ้อก็เพ้อเจ้อ  ยังไงก็ฝันดีนะครับว่าที่แฟน ]

    ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป มือเรียวกดปิดหน้าจอโทรศัพท์พร้อมทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง ผมไม่เคยคุยกับพี่มาร์คนานขนาดนี้มาก่อนอย่างมากก็ได้รับสติ๊กเกอร์ กู๊ดมอร์นิ่ง กับ กู๊ดไนท์ และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ผมตอบไลน์กลับไป การคุยกับไอหัวเทาก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด แต่กลับรู้สึกดีแบบแปลกๆ



    “นี่กูบ้ารึเปล่าว่ะ”



    “มึงพึ่งรู้ตัวเหรอ” 

    ไอคยอมเอ่ยขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากจอโน้ตบุ๊ค



    “เสือก..กูพูดคนเดียว”



    “เชรดดด..พูดกับตัวเองขนาดนี้ ไม่บ้าก็ปัญญาอ่อนล่ะว่ะ”



    “สัส..มึงอยากตายเหรอ”



    “ไม่อยาก..แต่กูว่าตอนนี้มึงควรไปอาบน้ำ เหม็นเหงื่อชิบหาย”

    ผมก้มลงดมตัวเองเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปหยิบอุปกรณ์อาบน้ำในตู้เสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ ผมเดินออกมาจากห้องขาเรียวก้าวไปตามทางเดินตรงไปยังห้องอาบน้ำของหอพักขณะที่ในหัวได้แต่นึกถึงการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้



    “งานนี้ไม่หมูซะแล้วสิ...”





    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    >>> TBC <<<


    ลงครบ 120% แล้วนะคะ งานนี้ดูเหมือนพี่มาร์คคงไม่ออมมือให้น้องอีกแล้ว

    และที่บอกจะขอเปลี่ยนข้อตกลงจะเปลี่ยนเป็นอะไร มีอะไรที่ดีกว่าการได้เป็นแฟนแบมแบมอีกงั้นเหรอ ???

    งานนี้บอกได้คำเดียวไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็มีแต่คำว่า ' ฟิน '


    #ฟิคลองของ


    ?THE ORA







     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×