คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Level_18
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งวันก่อนวันประกาศผลการสมัครเข้าเรียนที่คณะวิทย์กีฬา
“ใครเป็นคนดูแลเรื่องจับสายรหัส”
หนุ่มผมเทาเดินตรงเข้าไปในห้องกรรมการที่มีคนนั่งอยู่ในนั้นประมาณสองสามคน
“ไอมิโน..”
เสียงหนึ่งในนั้นดังขึ้น ผมพยักหน้ารับก่อนเดินออกมาจากห้องแล้วเริ่มตามหาตัวไอมิโนทันที เดินอยู่สักพักก็เจอมันนั่งเตรียมข้าวของสำหรับกิจกรรมในวันพรุ่งนี้อยู่ที่ม้าหินใต้คณะผมเดินเข้าไปใกล้มันพร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไงมึง”
“อ้าว..ไอมาร์คว่าไง ถ่อมาทำไรถึงนี่ว่ะ”
“มาหามึงนั้นแหละ พอดีกูมีอะไรให้มึงช่วยหน่อย”
“ให้กูช่วย “
“เออ”
“อย่างมึงไม่เห็นต้องให้กูช่วยเลย เจ้าชายน้ำแข็งผู้เพียบพร้อมต้องให้กูช่วยด้วยเหรอว่ะ”
“มึงจะกัดกูทำไมเนี่ย หรือมึงยังโกรธที่น้องซันนี่เลิกกับมึงเพราะชอบกู”
“มึงเงียบไปเลยไอมาร์ค กูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”
“แต่มันไม่ใช่ความผิดกู”
“ก็เพราะกูรู้ไง ถึงบอกให้มึงเงียบ แล้วที่บอกจะให้กูช่วยนี่เรื่องอะไร”
“กูอยากให้มึงช่วยล็อครายชื่อตอนจับสายรหัสให้กูหน่อย”
“หืมม ล็อครายชื่อ ล็อคทำไม”
“เออน่า ช่วยกูหน่อย”
“แต่กูทำรายชื่อเสร็จไปหมดแล้วนะ”
“แต่ถ้ามึงยอมช่วย กูจะเอาเบอร์น้องเจนดาวคณะบริหารมาเส้นมึง”
“น้องเจน..ใช่คนที่ลงหนังสือพิมพ์มหาลัยบ่อยๆป่ะว่ะ ที่ขาวๆ สวยๆ หมวยนิดๆ
ที่สำคัญโคตรสะบึม”
“เออ..คนนั้นแหละ มึงจะว่าไง”
ผมกอดอกมองมันอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่าแน่นอนผมรู้ว่าคนอย่างไอมิโนหน้าม่อขนาดไหน
“ก็น่าสนใจ แต่กูถามได้มั้ยว่าทำไมต้องทำอะไรแบบนั้นด้วย ก่อนที่กูจะช่วยมึงกูว่ากูควรได้รู้เหตุผล”
“เอาเป็นว่ากูอยากได้น้องคนนึงมาอยู่ในสายรหัสกูแต่การเลือกสายรหัสเป็นแบบสุ่มจับฉลากกูเลยอยากให้มึงช่วย”
“ใครว่ะ..”
“แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล”
“ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย”
“ผู้ชาย”
“น้องมึงเหรอ ทำไมต้องให้ไปอยู่สายมึง”
“น้องเพื่อน ยังไงมึงช่วยกูหน่อยแล้วกันทำยังไงก็ได้ให้มันจับได้สายกู”
“โจร์ทยากนะมึง ทางเดียวที่จะให้น้องมันจับได้คือต้องใส่ชื่อสายมึงลงไปทั้งกล่อง”
“เอาตามนั้นแหละ อ่อ อีกเรื่องนึงมึงต้องเปลี่ยนคำใบ้จากไอกรีนเป็นกูเพราะปีนี้กูจะลงมารับน้องเอง”
“หืมมม”
“เอาน่า เพื่อเบอร์น้องเจนช่วยกูหน่อยถ้ามึงทำสำเร็จกูแถมเบอร์น้องจูนดาวนิเทศฝาแฝดเค้าให้มึงด้วย”
“มึงเห็นกูเป็นคนยังไงเนี่ยไอมาร์ค”
“แล้วเอามั้ย”
“เอาสิว่ะถามโง่ๆ งั้นเดี๋ยวกูจัดการให้มึงเตรียมรอรับน้องได้เลยคนอย่างไอมิโนไม่เคยมีคำว่าพลาด”
“เออ กูเชื่อมือมึงถ้าสำเร็จอย่างปากมึงว่ามาเอาเบอร์ไปได้เลย”
“รับทราบครับคุณชาย เดี๋ยวกูจัดให้ “
“ขอบใจมากเว้ย”
ผมพูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากตรงนั้น วันถัดมาเป็นวันประกาศผลการสมัครเข้าเรียนผมได้แต่นั่งภาวนาให้ไอมิโนทำสำเร็จ และก็เป็นไปตามคาดมันทำได้จริงๆ
ผมก้มลงมองแอปพลิเคชั่นสีเขียวที่ไอมิโนพึ่งส่งมาในนั้นเป็นรูปเด็กหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยที่ในมือถือกระดาษคำใบ้สายรหัสเอาไว้
ผมรีบขยายภาพออกเพื่อโฟกัสไปที่ข้อความบนกระดาษ รอยยิ้มกว้างฉายชัดบนใบหน้าของผมทันทีที่เห็นข้อความบนกระดาษชัดๆ
“หึๆ..งานนี้สนุกแน่อยากรู้เหมือนกันว่าคนอย่างกูจะทำให้มึงร้องไห้ได้มั้ย”
ผมเอ่ยพร้อมกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงประเพณีประจำคณะที่จะให้รุ่นพี่สายรหัสทำการรับน้องด้วยตัวเอง
โดยมีกฎง่ายๆคือถ้าใครทำให้น้องร้องไห้ได้เร็วที่สุดชนะ ผมเริ่มคิดวางแผนสำหรับการรับน้องทันที
“ตอนร้องไห้มึงจะทำหน้ายังไงว่ะอยากเห็นชะมัด”
ผมหลุดยิ้มออกมาจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมองกันเป็นแถวก็แน่ล่ะคนอย่าง มาร์ค ต้วน ไม่ได้ยิ้มให้ใครเห็นง่ายๆนะครับบอกเลย
“แกๆๆ ดูดิพี่มาร์คยิ้มด้วยอ่ะ”
เสียงหญิงสาวสองคนที่พึ่งเดินผ่านไปดังขึ้น
“นั้นดิแก หล่อทำลายล้างมากนี่เป็นบุญตามากนะที่ได้เห็น ปกติพี่เค้าจะหน้านิ่งๆแล้วมายิ้มแบบนี้คือละลายเลย”
“ดูท่าทางพี่เค้าอารมณ์ดีแกเข้าไปทักสิแอบปลื้มพี่เค้าอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“จะดีเหรอแก”
“เออ ลองดูก็ไม่เสียหายไปดิๆ”
“อืม..ก็ได้”
หญิงสาวหนึ่งในนั้นเดินตรงเข้ามาหาผม จากที่ดูหน้าตาก็น่ารักเอาเรื่องตัวเล็กๆผมสีดำสนิทยาวถึงกลางหลังเธอเดินเมาหยุดตรงหน้าผมก่อนเอ่ยทักทาย
“สวัสดีค่ะพี่มาร์ค”
พูดจบก็ส่งยิ้มหวานมาให้ผมมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผู้ชายหลายๆคนหลงได้ไม่ยากนัก
แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นเพียงรอยยิ้มแสนราบเรียบที่ไม่มีดึงดูดอย่างที่ควร แน่นอนผมเคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเราคบกับนานพอดูก่อนมีเรื่องให้ต้องเลิกลากันไป ความสัมพันธ์ครั้งนั้นจบลงไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ แต่เรื่องก็ผ่านมาสักพักแล้ว
อีกอย่างผมกำลังเจอความท้าทายใหม่ๆ ความท้าทายที่ทำให้ผมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“มีอะไรรึเปล่า”
ผมตอบกลับใบด้วยใบหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นๆของผมทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าเริ่มเอ่ยเสียงสั่นกลับมา
“เออ..หนูชื่อเมย์นะคะ”
“.....”
“คือ เมย์อยากจะขอ”
ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดจบผมก็เอ่ยแทรกขึ้นอย่างรู้ทัน
“ถ้าจะมาขอเบอร์น้องกลับไปเถอะ พี่ไม่สะดวก”
“แต่..”
หญิงสาวมองหน้าผมงงๆผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่รู้ตัวเลยว่าหน้าตาตอนนี้คงเข้าโหมดไม่รับแขกแน่ๆเพราะน้องเค้าเริ่มหน้าซีดจนเห็นได้ชัด
“เฮียมายืนทำไรตรงนี้เนี่ย เค้ารอซ้อมกันอยู่”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง ผมหันกลับไปก็เจอไอน้องรหัสสุดแสบ
“รู้แล้วกำลังจะไป”
ไม่พูดพล่ามทำเพลงผมเดินผละออกมาจากตรงนั้นปล่อยให้น้องคนนั้นยืนเหวอไปจนเพื่อนเค้าต้องวิ่งเข้ามาดู ส่วนไอฮันบินก็วิ่งตามผมมาติดๆงานนี้คงต้องขอบใจมันที่มาได้ถูกจังหวะพอดี
“เพราะแกนั้นแหละยุให้เข้ามาทักเป็นไงล่ะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลย”
หญิงสาวเริ่มหันไปโวยวายใส่เพื่อนที่เดินเข้ามาหาตน
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะเห็นเมื่อกี้ยังยิ้มอยู่เลย”
“โอ้ยย..น่าอายชะมัด”
“เอาน่าอย่างน้อยก็ได้ลอง จะว่าไปตั้งแต่มีเรื่องตอนนั้นพี่มาร์คก็ไม่ยอมคบใครอีกเลยเนอะหรือพี่เค้ายังไม่ลืมพี่แอชลี่ว่ะแก”
“ก็น่าคิดนะ ตอนนั้นเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตเลยนี่หน่า”
“อืม ว่าแต่ราไปหาอะไรกินกันดีกว่าเดี๋ยวฉันเลี้ยงเองปลอบใจคนโดนปฏิเสธ”
“จัดมาสิ ฮ่าๆๆๆ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นก่อนค่อนๆจางไปเพราะทั้งสองคนเดินหายไปกับฝูงชนแล้ว
60%
กลับมา ณ ปัจจุบัน
ตึ้งๆๆ เสียงลูกบอลกระแทกลงกับพื้นดังก้องไปทั่วโรงยิมที่ตอนนี้มีร่างบางยืนหอบหายใจหนักๆอยู่เพียงลำพัง
แบมแบมในเสื้อกล้ามตัวหลวมโคกกับกางเกงบาสสีเข้มกำลังเดาะลูกบาสลงกับพื้นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าหวานในขณะที่มือยังคงเดาะลูกบอลสีส้มไปเรื่อยๆ เค้าจ้องไปที่แป้นถือลูกไว้ในมือหลับตาลงเพื่อตั้งสมาธิก่อนจะลืมตาขึ้นแล้ว ซวบ.. ลูกบาสถูกส่งออกจากมือพุ่งลงห่วงอย่างแม่นยำก่อนร่างบางจะทิ้งตัวลงนอนแผ่กับพื้นด้วยความเหนื่อยล้า
“แฮ่กๆๆ ห่างซ้อมไปซะนาน เหนื่อยชิบเป๋ง”
ร่างบางนอนหอบหายใจอยู่สักพักก่อนยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“พรุ่งนี้แล้วสินะ”
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอปปฏิทินที่ตั้งเตือนเอาไว้ในที่สุดวันที่ผมจะได้แก้มือก็มาถึงสักที ผมนั่งเหม่อมองไปที่ห่วงสีขาวตรงหน้าในหัวก็ได้แต่คิดถึงวันที่โดนใครอีกคนจูบที่โรงยิมจนมือเรียวเผลอยกขึ้นแตะปากตัวเองอย่างลืมตัว
กริ๊งๆๆๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นเรียกสติคนที่นั่งเหม่อให้ก้มลงมองหน้าจอก่อนกดรับสาย
“ว่าไงไอคยอม”
( มึงอยู่ไหนเนี่ย หอจะปิดแล้วยังไม่กลับอีก )
“เออว่ะ จะห้าทุ่มแล้วนี่หว่า”
ผมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือทันที
( ก็เออดิ และขากลับฝากซื้ออะไรขึ้นมาให้แดกหน่อยดิ กูขี้เกียจลงแล้วอ่ะ )
“มึงก็ขี้เกียจตลอดนั้นแหละ เออๆๆ เดี๋ยวกูซื้อขึ้นไปให้”
ผมตอบส่งๆก่อนกดวางสาย
ใช่ครับตอนนี้ผมย้ายมาอยู่หอพักในมหาลัยแล้วเพราะผมขี้เกียจแหกขี้ตาตื่นตอนเช้าบวกกับสภาพการจราจรที่แสนจะติคขัดแถวๆคอนโด ผมเลยขออนุญาติป้าย้ายมาอยู่หอแทนและเพื่อลดค่าใช้จ่ายผมเลยลากไอคยอมมาอยู่ด้วยกันจะได้มีคนมาช่วยหารค่าน้ำค่าไฟ ผมขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงขาเรียวก้าวไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายก่อนเดินออกไปจากโรงยิม
ผมใช้เวลาไม่นานนักก็ถึงหอพักที่ใกล้จะได้เวลาปิดหอแล้ว ผมรีบวิ่งเข้ามาร์ทข้างๆตึกหยิบโน้นนิดนี่หน่อยแล้วตรงไปจ่ายเงินก่อนพรวดพลาดออกมาจากร้านจนชนเข้ากับใครบางคนทำให้ถุงของที่ซื้อมาหลุดมือลงไปนอนแหมะกับพื้น
“ขอโทษครับ พอดีผมรีบ..”
ผมก้มลงเก็บของที่หล่นโดยไม่ได้สนใจมองคนที่ผมชนเลยสักนิด
“ไม่เป็นไร กูไม่ถือ...”
กึก..มือที่เอื้อมหยิบของชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงใครอีกคน
“แม่งมาได้ไงว่ะ”
ผมบ่นขมุบขมิบแต่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ก้าวมายืนข้างหน้าผม
“บ่นอะไร แล้วทำไมยังไม่กลับบ้านอีกนี่จะห้าทุ่มแล้วนะ”
เสียงทุ่มต่ำติดออกไปทางดุดังขึ้น
“เฮ้ออ..”
ผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย มือก็ยังคงเก็บของที่หล่นใส่ถุงจนเสร็จก่อนยืนขึ้นเผชิญหน้ากับคนที่หายหัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันนั้น
วันที่มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆกับสิ่งที่ได้รับทั้งๆที่ผมกับมันก็จูบกันมาหลายต่อหลายครั้งและนั้นทำให้ผมอดถามตัวเองไม่ได้ว่าผมเป็นบ้าอะไร
ผมจ้องคนตรงหน้านิ่งก่อนเอ่ยเสียงเรียบ
“ไม่กลับอยู่หอ..”
ผมบอกแค่นั้นและเดินผ่านคนตรงหน้าไปโดยไม่ได้หันกลับไปมองว่าอีกคนทำหน้ายังไงหรือพูดอะไรผมได้แต่รีบเดินให้ทันเวลาปิดหอ
ติ๊ง.. เสียงไลน์ดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังเดินขึ้นไปยังห้องพัก ผมล่วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง พอเห็นว่าใครไลน์มานิ้วเรียวก็กดเข้าไปดูทันที
MT93 [ กูอยากเปลี่ยนข้อตกลงใหม่ ]
“ข้อตกลง ???”
ผมพิมพ์ตอบกลับไป
MT93 [ ก็ที่เราตกลงกันว่าถ้าใครชนะจะต้องทำตามที่อีกคนบอกไง ]
“อ่อ..”
MT93 [ กูอยากเปลี่ยนใหม่ ]
“เรื่องมาก”
MT93 [ ทำไมเดี๋ยวนี้ขี้บ่น ]
“ใครบ่น ???”
MT93 [ นี่ถึงห้องยัง ]
“เปลี่ยนเรื่อง”
MT93 [ ถึงยัง ]
“กำลังจะเข้าห้อง”
MT93 [ แชร์ห้องกับใคร ]
“ไอคยอม”
MT93 [ ทำไมมาอยู่หอแล้วไม่บอก ]
“ทำไมต้องบอก”
MT93 [ นั้นสิ..ทำไมต้องบอก ]
ผมอ่านข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาก็สัมผัสได้ทันทีว่ามันกำลังงอลผมอยู่แน่ๆที่ไม่ยอมบอกเรื่องย้ายมาอยู่หอ ผมไขกุญแจเข้าไปในห้องวางของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะเหลือบมองไอคยอมที่นั่งเล่นโน๊ตบุ๊คอยู่บนเตียงเล็กน้อยก่อนนั่งลงบนเตียงตัวเองแล้วกลับไปสนใจโปรแกรมแชทสีเขียวอีกครั้ง
“งอล ???”
ผมกดพิมพ์ส่งไปไม่นานก็ขึ้นว่าอ่านแล้วเหมือนอีกคนกำลังข้อความจากผมอยู่
MT93 [ เออ...]
“ไร้สาระว่ะ”
MT93 [ กูแค่เป็นห่วงมึง และการที่กูอยากรู้ความเคลื่อนไหวของว่าที่แฟนก็ไม่เห็นไร้สาระตรงไหน ]
“นอกจากจะไร้สาระแล้วยังน้ำเน่าอีกนะ”
MT93 [ ถึงน้ำจะเน่าแต่ก็เห็นเงาจันทร์นะครับ น้องแบมแบม ]
“อ้วกกกก..โคตรเน่า”
ผมทำท่าอ้วกก่อนตอบกลับไปแล้วเริ่มหัวเราะออกมา
MT93 [ ยิ้มอยู่อ่ะดิ ]
นั้นรู้อีก นี่ไม่ได้แอบติดกล้องไว้ในห้องใช่มั้ย ผมหันซ้ายหันขาวมองหาตามมุมห้องจนไอคยอมหรี่ตามองพร้อมเอ่ยถาม
“มึงหาอะไรไอแบม”
“ป่าว..ไม่มีไร”
“แล้วนั้นคุยกับใครว่ะ นั่งยิ้มเป็นคนบ้าเลย”
“เรื่องของกูน่า มึงเล่นเกมส์ไปเหอะ”
“มีพิรุธนะมึงเนี่ย “
มันจ้องผมนิดๆก่อนหันกลับไปสนใจโน้ตบุ๊คในมือต่อ
MT93 [ เงียบ..]
ข้อความเด้งขึ้นเรียกความสนใจของผมอีกครั้ง
“จะนอนแล้ว”
MT93 [ อาบน้ำแล้วเหรอ ]
“ยัง “
MT93 [ เน่าว่ะ ]
"กำลังจะไปอาบ”
MT93 [ ไปอาบให้เอามั้ย เดี๋ยวถูหลังให้ 555+]
“ตลกและ”
MT93 [ โอเค ไม่กวนแล้วไปนอนเหอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรง ]
“บอกไว้ก่อนพรุ่งนี้ห้ามเล่นกักนะ ถ้าออมมืออีกคราวนี้ผมเอาพี่ตายแน่”
MT93 [ เอาตายเลยเหรอ ดีว่ะ นอนรอเลยได้มั้ย ]
“เชี่ยย..คนละเอาเว้ย”
MT93 [ 555+ รู้แล้วน่าพรุ่งนี้มึงเตรียมเจอของจริงได้เลยส่วนเรื่องข้อตกลงกูขอบอกพรุ่งนี้แล้วกัน ]
“เออ..”
MT93 [ และถ้าอยากฝันดีคืนนี้อย่าลืมฝันถึงกูนะ ]
“ฝันร้ายอ่ะดิไม่ว่า”
MT93 [ อยู่ใกล้ๆกูจะจับมาจูบให้หายปากเสียเลย ]
“อย่ามาเพ้อเจ้อ”
MT93 [ โอเคๆ เพ้อเจ้อก็เพ้อเจ้อ ยังไงก็ฝันดีนะครับว่าที่แฟน ]
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป มือเรียวกดปิดหน้าจอโทรศัพท์พร้อมทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียง ผมไม่เคยคุยกับพี่มาร์คนานขนาดนี้มาก่อนอย่างมากก็ได้รับสติ๊กเกอร์ กู๊ดมอร์นิ่ง
กับ กู๊ดไนท์ และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่ผมตอบไลน์กลับไป
การคุยกับไอหัวเทาก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด แต่กลับรู้สึกดีแบบแปลกๆ
“นี่กูบ้ารึเปล่าว่ะ”
“มึงพึ่งรู้ตัวเหรอ”
ไอคยอมเอ่ยขึ้นทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากจอโน้ตบุ๊ค
“เสือก..กูพูดคนเดียว”
“เชรดดด..พูดกับตัวเองขนาดนี้ ไม่บ้าก็ปัญญาอ่อนล่ะว่ะ”
“สัส..มึงอยากตายเหรอ”
“ไม่อยาก..แต่กูว่าตอนนี้มึงควรไปอาบน้ำ เหม็นเหงื่อชิบหาย”
ผมก้มลงดมตัวเองเล็กน้อยก่อนลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปหยิบอุปกรณ์อาบน้ำในตู้เสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ
ผมเดินออกมาจากห้องขาเรียวก้าวไปตามทางเดินตรงไปยังห้องอาบน้ำของหอพักขณะที่ในหัวได้แต่นึกถึงการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
“งานนี้ไม่หมูซะแล้วสิ...”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
>>> TBC <<<
ลงครบ 120% แล้วนะคะ งานนี้ดูเหมือนพี่มาร์คคงไม่ออมมือให้น้องอีกแล้ว
และที่บอกจะขอเปลี่ยนข้อตกลงจะเปลี่ยนเป็นอะไร มีอะไรที่ดีกว่าการได้เป็นแฟนแบมแบมอีกงั้นเหรอ ???
งานนี้บอกได้คำเดียวไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็มีแต่คำว่า ' ฟิน '
#ฟิคลองของ
ความคิดเห็น