คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : Level_36
แก๊ก...เสียงบานประตูเปิดออกพร้อมร่างบางที่ก้าวเข้ามาภายในห้อง
แบมแบมค่อยๆปิดประตูลงอย่างเบามือก่อนขาเรียวจะก้าวผ่านความมืดเข้าไปจนถึงหน้าห้องนอน
“มันจะนอนรึยังว่ะ”
เสียงหวานหลุดออกมาเบาๆ เขายืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องนอนโดยไม่กล้าเปิดเข้าไปภายใน
พรึ่บ..
“เชี่ย..”
เสียงอุทานหลุดออกมาทันทีเมื่อไฟทุกดวงถูกเปิดจนสว่างไสวไปทั่วทั้งห้อง มาร์คที่ยืนค้างอยู่ตรงสวิตท์ไฟด้านหลังร่างบางมองมาด้วยสายตาแข็งกร้าว
“ทำบ้าอะไรว่ะ กูตกใจหมด”
“กี่โมงแล้ว”
มาร์คยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยสีหน้าถมึงทึง
และนั้นทำให้ร่างบางต้องหันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้
“ตีสอง”
แบมแบมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนเอ่ยตอบด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อนเท่าไหร่นัก
“ถ้ามึงจะกลับดึกขนาดนี้ ทีหลังไม่ต้องกลับ”
มาร์คประกาศกร้าว
และนั้นทำให้ร่างบางเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที
“กูจะทำอะไร กลับเมื่อไหร่ มึงสนใจด้วยรึไง”
ร่างบางเอ่ยขึ้นเมื่อความอดทนที่มีขาดสบั่นลง มาร์คมองกลับไปด้วยแววตาดุดันแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมา
“หึ..นั้นสินะ มึงจะมาสนใจกูทำไม”
ร่างบางเหยียดยิ้มมุมปากด้วยใบหน้าเย้ยหยัน
“และไอท่าทางเหมือนหมาบ้าวันนี้คืออะไร ไหนบอกกูมาดิ”
แบมแบมกดเสียงต่ำอย่างเหลืออดเพราะวันนี้เขาโดนมาร์คตะคอกใส่หลายรอบแล้ว
และเขาควรจะได้รู้ว่าทำไม
“ทำไม..แค่มึงคบกับฮานะนี่มึงต้องถีบหัวกูส่งเลยใช่มั้ย ห๊ะ”
มือเรียวยกขึ้นไปกระชากคอเสื้อมาร์คเข้าหาตัวอย่างแรง ในขณะที่มาร์คมองหน้าแดงก่ำนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่ง
เขาไม่ได้โต้ตอบอะไรมือหนาเลื่อนขึ้นมาจับมือเรียวออกไปจากคอเสื้อก่อนจะพูดทิ้งท้ายไว้ด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบแล้วเดินเข้าห้องนอนไป
“คนที่ถีบหัวคนอื่นส่งนั้นมันมึง ไม่ใช่กู”
สิ้นเสียงมาร์คก็เดินผละไปทันที ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งค้างตัวเนื้อสั่นเทาด้วยความโกรธ
มันเป็นความโกรธที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโกรธใครกันแน่ระหว่างมันหรือตัวเขาเอง
“โถ่เว้ยย..”
เสียงโครมครามดังขึ้นเมื่อร่างบางกวาดของที่อยู่บนชั้นตรงหน้าลงพื้นอย่างไม่กลัวว่ามันจะแตกหัก
เขาหงุดหงิดเกินกว่าจะมานั่งสนใจเรื่องพวกนี้
และเมื่อได้ระบายออกไปบ้างความบ้าคลั่งที่มีก็ค่อยๆลดลง
แบมแบมเดินไปนั่งบริเวณห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีเหนื่อยๆเขาไม่เคยคิดเลยว่าท่าทางเย็นชาของอีกฝ่ายจะมีผลกับเขามากถึงขนาดนี้
“นี่กูเป็นเหี้ยอะไรวะเนี่ย ทำไมต้องมานั่งหงุดหงิดกับเรื่องแบบนี้ด้วยวะ”
แบมแบมเอนตัวลงนอนไปบนโซฟาเพราะไม่อยากเข้าไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายตอนนี้ เขานอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเผลอหลับไปบนโซฟาตัวยาว
BamBam Part
เช้าวันต่อมา...
ปัง..เสียงปิดประตูปลุกให้ร่างบางที่นอนขดอยู่บนโซฟาสะดุ้งตื่น
แบมแบมยันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทีงัวเงีย มือเรียวขยี้ตาไล่ความง่วงงุ้นก่อนมองไปรอบๆตัว
“หลับไปตอนไหนว่ะ”
ผมบิดขี้เกียจไปมาพร้อมกับเริ่มมองหาใครอีกคน
“ออกไปแล้วสินะ”
เมื่อคิดได้ดังนั้นผมก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องนอนสิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้คือกลิ่นสบู่จางๆที่ลอยอบอวลไปทั่วทั้งห้อง
และนั้นทำให้ผมได้แต่ยืนนิ่งค้างอยุ่หน้าประตูเพราะทุกครั้งที่ผมได้กลิ่นนี้คือตอนที่มันกอดผม
“หยุดฟุ้งซ่านสักที ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วไอแบม”
ผมพูดกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปจัดการกับเนื้อตัวที่หมักหมมมาตั้งแต่เมื่อวาน
ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็เดินออกไปหาอะไรลองท้องในครัว
“มีอะไรกินบ้างวะ”
ผมเปิดตู้เย็นออกดูก่อนจะต้องประหลาดใจเมื่อของกินที่เคยอยู่ในตู้เย็นอันตธานหายไปจนหมด
“เล่นแบบนี้เลยเหรอเนี่ย เออ..กูไม่แดกของมึงก็ได้ ไองกเอ้ย”
ผมกระแทกประตูตู้เย็นปิดอย่างแรงก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วออกมาจากห้องทันที
“แม่งเป็นเด็กรึไงวะ”
ผมเดินบ่นมาตลอดทางจนถึงริมฟุตบาทหน้าคอนโดเพื่อเรียกแท็กซี่
“ห่าเอ้ย..รถแม่งหายไปไหนหมดวะเนี่ย”
ผมยืนรอเรียกรถอยู่ตรงนี้มาสักพักแล้วแต่ก็ไม่มีรถคันผ่านมาเลยและนั้นทำให้ผมชักจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว ผมเลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกอย่างหัวเสีย
“ไอคยอม..”
ผมกรอกเสียงลงไปทันทีที่มันกดรับสาย
( ว่าไง..เป็นเหี้ยอะไรเสียงเข้มมาเลย )
“ที่หอยังมีห้องว่างอยู่มั้ย”
( ถามทำไม )
“กูจะย้ายไปอยู่ มึงถามให้กูหน่อย”
( ทำไม..ทนอยู่กับพี่เขาไม่ได้รึไง )
“........”
( เงียบ แสดงว่าใช่สินะ )
“ไม่ใช่เว้ย..กูเดินทางลำบากเลยจะย้าย”
( อ้าวเหรอ..กูนึกว่าทนเห็นหน้าพี่เขาไม่ได้
)
“พ่องมึงดิ..อย่ามาละเมอ
ตกลงจะถามให้กูมั้ย”
( เออ..เดี๋ยวกูลงไปถามให้
โทรมาแค่นี้ใช่มั้ย )
“เดี๋ยว..”
( มีอะไรอีก )
“มึงมารับกูหน่อยดิ”
( ทำไมมึงไม่มาพร้อมพี่มาร์คว่ะ )
“มันออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว
นี่กูยืนรอแท๊กซี่มาครึ่งชั่วโมงแล้วเนี่ย”
( เรื่องเยอะจริงเว้ย..เออๆเดี๋ยวกูไปรับ
)
“มึงออกมาเลยนะ
กูหิวอ่ะยังไม่ได้แดกอะไรตั้งแต่เช้า”
( คร้าบคุณเพื่อน มึงรอกูแปปนึงนะครับ
กูจะรีบซิ่งไปรับมาหาอะไรแดก )
มันพูดจบก็กดวางสายไป ผมเลยเดินไปนั่งรอมันตรงป้ายรถเมย์หน้าคอนโดสักพักมันก็มาพร้อมบิ๊กไบค์คู่ใจที่มันภูมิใจนักหนา
“ขึ้นมา”
มันเปิดหมวกกันน๊อคเรียกผม
ทำให้ผมที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่รีบวิ่งไปซ้อนท้ายมันทันที
“กูว่ากูขอตังค์ม้าซื้อรถบ้างดีกว่าว่ะ ไม่มีใช้แม่งโครตลำบาก”
มันหันมามองผมพร้อมส่ายหัวนิดๆก่อนจะปิดหมวกกันน็อคแล้วขับรถออกไป
พวกผมมาถึงมหาลัยภายในเวลาไม่นานก่อนที่ไอคยอมจะส่งผมลงหน้าโรงอาหารเพราะมันต้องเอารถไปเก็บที่หอพัก
ผมเลยเดินเข้าไปในโรงอาหารที่มีผู้คนมากมายเพียงลำพัง
“เห้ย..ไอแบม”
ผมหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นพี่เตอร์กำลังโบกมือเรียกผมอยู่
“อ้าว..พี่เตอร์ หวัดดีครับพี่”
ผมรีบเดินเข้าไปทักทายรุ่นพี่ร่วมคณะทันที พี่เตอร์เป็นรุ่นพี่ที่คุ้มการรับน้องหรือเรียกสั้นๆก็พี่ว๊ากนั้นแหละครับ
“ไงมึง..ได้ข่าวว่าเป็นเด็กเฮียมาร์คเหรอว่ะ”
พี่เตอร์พุดออกมาขำๆ แต่มันไม่ได้ทำให้ผมขำไปด้วยเลย
“โห้ยย..พี่ไปเอามาจากไหนว่ะ
ข่าวโคตรมั่ว”
“อ้าว..ก็กูเห็นไอฮันบินมันพูดๆอยู่”
พี่เตอร์เริ่มเอ่ยพาดพิงถึงเพื่อนร่วมแก๊งอย่างพี่ฮันบินทันที และที่ผมสนิทกับพี่เขาได้ก็เป็นเพราะพี่ฮันบินนั้นแหละครับ พวกพี่แกชอบชวนไปกินเหล้าหลังมอ เอะอะหาเรื่องกินได้ตลอด
“ว่าแต่วันนี้มึงว่างมั้ย ไปแดกเหล้ากัน”
นั้นไง ยังไม่ทันขาดคำพี่แกก็เริ่มชวนอีกแล้ว
“ขอดูก่อนได้มั้ยพี่ ยังไงเดี๋ยวผมตามไป”
“เออๆ ตามใจมึง
ยังไงพวกกูก็นั่งอยู่ร้านเดิมนั้นแหละตามมาแล้วกัน”
“ได้ครับพี่..”
ผมเอ่ยรับยิ้มๆ ก่อนจะมีเสียงหญิงสาวดังแทรกขึ้นมาทางด้านหลังพี่เตอร์
“เตอร์ไปกันรึยัง มิวจะสายแล้วนะ”
หญิงสาวหน้าตาสะสวยเดินเข้ามาจับไหล่พี่เตอร์ก่อนที่เธอจะมองมาที่ผม
“ไปสิ เดี๋ยวมิวรอแปปนึงนะเตอร์เอาจานไปเก็บก่อน”
พี่เตอร์หันไปพูดกับหญิงสาวซึ่งถ้าผมดูไม่ผิดเธอน่าจะเป็นแฟนของพี่เขา
“งั้นกูไปก่อนนะไอแบม ถ้าว่างก็แวะไปหากูแล้วกัน”
พี่เตอร์พุดจบก็หยิบจานข้าวบนโต๊ะไปเก็บ ผมยืนมองพี่เตอร์ก่อนจะหันกลับมามองพี่ที่ชื่อมิวอีกครั้ง ผมไม่รุ่ว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่าแต่ผมว่าพี่เขามองผมแปลกๆ
“นายเป็นรุ่นน้องเตอร์เหรอ”
พี่ที่ชื่อมิวถามขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“ครับ..”
ผมตอบออกไปสั้นๆพร้อมกับมองท่าทีของอีกฝ่ายไปด้วย
ผมไม่ได้อ่อนต่อโลกจนดูไม่ออกว่าพี่เขากำลังอ่อยผมอยู่ ท่าทางพี่มิวคนสวยจะไม่ได้ใสเหมือนรูปลักษณ์ซะแล้ว
“นายชื่ออะไร พี่ชื่อมิวนะ”
“ผม แบมแบม ครับ”
“แบมแบม ใช่...แบมแบมที่เรียนอยู่ปีหนึ่งวิทย์กีฬารึเปล่า”
พี่เขาทำท่าคิดนิดนึงก่อนโพลงออกมา
“ใช่ครับ..พี่มิวรุ้จักผมด้วยเหรอ”
“ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ ชื่อเสียงนายออกจะดัง”
พี่มิวเดินเขามาใกล้ผมมากขึ้น เธอมองมาที่ผมด้วยสายตาแพรวพราวคือถ้าไม่ติดว่าพี่เขาเป็นแฟนพี่เตอร์ผมคงสานต่อไปแล้ว
“ดังเรื่องอะไรล่ะครับ”
ผมเอ่ยออกไปทีเล่นทีจริง
“ก็ดังเรื่อง..”
พี่มิวกำลังจะยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูผม
แต่เสียงพี่เตอร์ขัดขึ้นซะก่อน
“มิว”
พี่เตอร์เดินเข้ามายืนข้างๆหญิงสาวทำให้เธอหันไปยิ้มให้อีกฝ่ายทันที
“มาขัดตอนกำลังนินทาได้ไงเตอร์ นิสัยไม่ดี”
พี่มิวหันไปพูดกับพี่เตอร์พร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม พี่เตอร์เลยหันมามองผมเป็นเชิงถามผมเองก็ไม่อยากมีปัญหาเลยได้แต่ส่งยิ้มกลับไป
“งั้นผมขอตัวนะครับ พี่เตอร์ พี่มิว”
ผมรีบชิ่งออกมาทันทีจังหวะเดียวกับที่ไอคยอมเดินมาพอดีพวกผมเลยเดินไปหาที่นั่งกินข้าวกัน
“ไอแบม กูไปถามเจ้าหน้าที่ให้แล้วนะ เขาบอกว่าไม่มีห้องว่างเลยว่ะ”
ไอคยอมเอ่ยขึ้นขณะตักข้าวเข้าปาก
“ไม่มีว่างสักห้องเลยเหรอวะ”
“เออ..เต็มหมดแล้ว”
“แล้วกูจะทำยังไงว่ะ”
“ก็ไม่เห็นต้องทำไงเลย
มึงก็อยุ่คอนโดพี่มาร์คต่อไปดิ ยากตรงไหน”
“ห่า..กูขี้เกียจยืนรอรถ”
“งั้นมึงก็ขอยืมบิ๊กไบค์ของพี่แจ็คสันมาขับดิว่ะ”
“เออวะ..กูลืมนึกไปได้ไงว่ะ”
หลังจากได้ข้อสรุปผมก็ต่อสายหาพี่แจ็คสันทันที ตอนแรกพี่แกก็ยืนการว่ายังไงก็ไม่ให้แต่พอผมออดอ้อนเข้าหน่อยพี่แกเลยยอมใจอ่อนโดยมีข้อแม้ว่าห้ามเอารถไปแข่งและห้ามให้มีรอยขีดข่วนเด็ดขาด
ซึ่งผมก็รีบตกปากรับคำอย่างง่ายดาย
50%
ในช่วงเย็นของวัน...
ผมมาซ้อมบาสเหมือนปกติแต่ดูเหมือนวันนี้ไอหัวเทาจะเบี้ยวซ้อมเพราะตั้งแต่ที่ผมก้าวเข้ามาในโรงยิมผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาของมันเลย
“ไอแบม เฮียไม่ได้มาพร้อมมึงเหรอ”
รุ่นพี่คนนึงในทีมเดินเข้ามาถามผม
“ป่าวนะพี่”
“อ้าว..แล้วหายไปไหนว่ะโทรไปก็ไม่รับ
กูก็นึกว่าอยู่กับมึง”
“ไม่อยู่พี่ ผมไม่เจอตั้งแต่เช้าแล้ว”
ผมตอบออกไปตามจริง เพราะผมไม่รู้จริงๆว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหน
“พี่มีอะไรด่วนรึเปล่า”
“อาจารย์เรียกประชุมกัปตันทีมทุกประเภทกีฬาอ่ะดิ
นี่กูก็หาเฮียมาร์คอยู่”
“งั้นให้ผมลองโทรไปมั้ย”
“เออๆ มึงลองโทรไปดิ”
สิ้นเสียงพี่เขาผมก็ล่วงโทรศัพท์ออกมากดโทรออกทันที
ตู๊ดๆๆ ผมรอสายอยู่ไม่นานก็มีคนกดรับ
“ฮัลโหล..”
เสียงปลายสายไม่ใช่เสียงทุ้มต่ำอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับเป็นเสียงหวานหูของหญิงสาว ซึ่งผมจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใคร และนั้นทำให้ผมชะงักไปนิดก่อนจะเอ่ยโต้ตอบกลับไป
“ฮัลโหล..ฮานะ นี่เราเองแบมแบม”
“ว่าไงแบม พอดีพี่มาร์คขับรถอยุ่น่ะ”
“เหรอ..งั้นเราฝากบอกพี่มาร์คหน่อยได้มั้ยว่าอาจารย์เรียกประชุมด่วน”
ผมพูดออกไปขณะที่มือไม้เริ่มเย็นเฉียบไปหมด
ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรแต่ที่รู้ๆมันรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย
“แปปนึงนะ..พี่มาร์คคะแบมบอกว่าอาจารย์เรียกประชุมด่วนค่ะ”
ฮานะบอกให้ผมรอสายก่อนจะพูดกับไอหัวเทาตามที่ผมบอก
“บอกไปว่ากำลังกลับเข้าไป”
เสียงทุ้มต่ำดังลอดเข้ามาให้ได้ยินทำให้ผมรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกก้อนเนื้อในอกบีบเข้าหากันจนผมเจ็บไปหมด
“แบม..พี่มาร์คบอกว่ากำลังกลับไป”
“โอเค..งั้นเราไม่กวนแล้วแค่นี้นะ”
ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยในตอนนี้
“เดี๋ยว..”
ฮานะเรียกผมเอาไว้ก่อนที่ผมจะกดตัดสายไป
“ว่าไงฮานะ มีอะไรรึเปล่า”
ผมพยายามปรับเสียงให้ดูปกติที่สุด
“เราว่าเสียงแบมแปลกๆ เป็นอะไรรึเปล่า ”
“เราไม่เป็นอะไรสงสัยสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดีมั้ง ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นแค่นี้นะ”
ผมรีบกดตัดสายทันทีเพราะไม่อย่างงั้นอีกฝ่ายคงจับพิรุธจากเสียงของผมได้แน่ๆ
“เฮียว่าไงบ้าง”
รุ่นพี่ที่ยืนรอฟังอยู่ข้างๆผมเอ่ยถามขึ้น
“เดี๋ยวเขากลับเข้ามา”
“โอเค..งั้นมึงไปซ้อมได้แล้วไป”
“วันนี้ผมขอกลับก่อนได้มั้ยพี่ รู้สึกไม่ค่อยสบายว่ะ”
ผมเอ่ยออกไปพร้อมกับมือที่กำโทรศัพท์เอาไว้แน่
ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ซ้อมจริงๆอย่างน้อยก็ขอออกไปให้พ้นๆจากตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน
“เออๆ แล้วเป็นอะไรมากรึเปล่า”
“แค่ปวดหัวนิดหน่อย ยังไงผมฝากบอกคนอื่นๆด้วยนะพี่ ขอบคุณมากครับ”
พูดจบผมก็เดินผละออกมาทันที
ผมรีบเดินออกไปจากโรงยิมก่อนที่ใครอีกคนจะกลับเข้ามา ผมเดินเรื่อยๆไปตามทางเดินโดยไม่รู้ว่าจะไปไหนดีก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพี่เตอร์ชวนไปกินเหล้าหลังมอผมจึงตัดสินใจเดินออกไปทางประตูหลังเพื่อไปเจอพวกพี่เขา
ผมเดินเลาะไปตามซอยซึ่งมีร้านเหล้าตั้งอยู่สองฟากฝั่งไม่นานก็มาถึงร้านประจำที่มานั่งกินกันจนคุ้นเคยกับเจ้าของร้าน
“พี่อาร์ตหวัดดีครับ”
ผมเอ่ยทักทายเจ้าของร้านด้วยความคุ้นชิน
“อ้าว..มากับเขาด้วยเหรอ พวกไอเตอร์นั่งอยู่ข้างในเข้าไปสิ”
พี่อาร์ตเจ้าของร้านหันมาทักทายผมเล็กน้อยก่อนจะชี้เข้าไปในร้านบริเวณที่พวกพี่เตอร์นั่งอยู่
“อ่อ..ครับ ขอบคุณมากครับพี่”
ผมยิ้มให้พี่เขาก่อนจะเดินเข้าไปภายในร้านที่ตอนนี้ยังมีคนไม่มากนัก
ผมเดินตรงไปยังโต๊ะที่พวกพี่เตอร์นั่งกันอยู่
“มาแล้วเหรอไอแบม..มาๆๆ นั่งลงก่อน”
พี่เตอร์ที่หันมาเห็นผมเข้าพอดีกวักมือเรียกให้ผมเข้าไปนั่งร่วมวงทันที
“มึงมาเร็วกว่าที่กูคิดนะเนี่ย วันนี้ไม่มีซ้อมเหรอว่ะ”
“มีครับ แต่ผมโดด”
ผมเอ่ยตอบขณะเดินเข้าไปนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆพี่มิวแฟนพี่เตอร์
ซึ่งพี่มิวเองก็หันมาส่งยิ้มให้ผม
“โดดมากๆระวังโดนเฮียมาร์คแหกอกนะมึง”
พี่เตอร์พูดขึ้นขำๆ ผมได้แค่ส่งยิ้มกลับไปเพราะไม่อยากพูดถึงใครอีกคนสักเท่าไหร่
“แต่เอาเถอะไหนๆมึงก็โดดมาแล้ว งั้นก็มากินเหล้ากันดีกว่า น้องๆเดี๋ยวขอแก้วเพิ่มอีกใบ”
พี่เตอร์หันไปสั่งบริกรที่ยืนอยู่ใกล้ๆก่อนจะหันมาพูดคุยกับเพื่อนๆต่อ
พวกผมนั่งกินเหล้ากันไปพูดคุยกันไปจนเวลาร่วงเลยมาพอสมควรพี่เตอร์เลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำโดยมีเพื่อนๆในกลุ่มพี่เขาไปเป็นเพื่อนเพราะดูเหมือนพี่เขาจะเมาได้ที่แล้ว
“มึงอย่าพึ่งกลับนะไอแบม กูไปห้องน้ำแปปนึงเดี๋ยวกลับมาชนกันต่อ”
พี่เขาลุกขึ้นพร้อมกับหันมาชี้ทางผมด้วยอาการมึนๆ
“ได้เลยพี่ รีบไปรีบมาล่ะ ผมรอชนอยู่”
ผมเอ่ยออกไปขำๆก่อนที่พี่เตอร์กับเพื่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำกัน ทำให้ตอนนี้เหลือแค่ผมกับพี่มิวแค่สองคน
“มานั่งกินเหล้ากลับดึกๆแบบนี้แฟนไม่ว่าเหรอแบมแบม”
พี่มิวที่ยกแก้วค๊อกเทลสีหวานขึ้นจิบหันมาถามผม
“ผมไม่มีแฟนหรอกครับ”
ผมหันไปตอบพร้อมกับหยิบแก้วที่ใส่น้ำสีอำพันขึ้นมาจิบเช่นกัน
“จริงเหรอ..ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างแบมแบมยังไม่มีเจ้าของ”
พี่มิวเริ่มเขยิบเข้ามาหาผมทีละนิด
‘หึ...นี่คิดจะอ่อยกันสินะ’
ผมได้แต่คิดในใจก่อนจะยกยิ้มมุมปากเมื่อมือเรียววางลงบนขาของผม
“แล้วไม่เหงาเหรอ อยู่คนเดียวแบบนี้”
มือเรียวบนขาของผมเริ่มลูบไล้ไปมาพร้อมกับใบหน้าสวยที่เริ่มยกยิ้มอย่างยั่วยวน
“ถ้าผมเหงาพี่จะช่วยผมมั้ยล่ะครับ”
ผมมองมือที่ลูบขาผมไปมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาคู่สวยที่ดูเชื้อเชิญเสียจนออกนอกหน้า
“ได้สิ..พี่เก่งนะเรื่องปลอบใจคนน่ะ”
พี่มิวยกยิ้มก่อนจะผละออกไปและทำอะไรบางอย่างกับกระดาษทิชชู่บนโต๊ะ
“ถ้าแบมแบมอยากระบายก็มาหาพี่ได้นะ พี่ยินดีช่วย”
เธอยื่นกระดาษทิชชู่ที่จดอะไรบางอย่างเอาไว้มาให้ผม ผมรับมาดูก็พบกับที่อยู่พร้อมเบอร์ห้องและยังมีเบอร์โทรแถมมาอีกด้วยซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นของใคร
“พี่มิวใจดีจังเลยนะครับ”
ผมเก็บกระดาษนั้นลงไปในกระเป๋ากางเกงจังหวะเดียวกับที่พี่เตอร์เดินกลับมาที่โต๊ะพอดีพวกผมเลยนั่งกินเหล้ากันต่อจนเวลาล่วงเลยมาเกือบห้าทุ่ม ผมจึงขอตัวกลับก่อนเพราะไม่อยากกลับไปเถียงเรื่องนี้กับใครบางคนอีก
“ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
ผมเอ่ยลาพี่เตอร์กับเพื่อนๆก่อนจะหันไปยิ้มให้พี่มิวที่นั่งมองมาที่ผมเช่นกัน
“เออๆ กลับดีๆ อย่าไปฉุดใครเขาล่ะ”
“โหยย..มีให้ฉุดก็ดีดิพี่ นี่แม่งหาไม่ได้สักคน”
ผมเอ่ยตอบออกไปขำๆ
“ผมกลับก่อนนะครับพี่มิว”
ผมหันไปลาหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอมองหน้าผมพร้อมกับยกยิ้มหวานส่งมาให้ผมเลยยิ้มกลับไปเช่นกันก่อนจะลุกออกมาเพื่อไปเรียกแท็กซี่หน้าร้าน
“แฟนพี่เตอร์แม่งแรงใช้ได้เลยเว้ย”
ผมพูดกับตัวเองระหว่างยืนรอรถอยู่หน้าร้านไม่นานผมก็เรียกรถกลับจนได้ผมนั่งมองออกไปนอกรถเงียบๆเพราะตอนนี้ในหัวของผมกลับมาคิดเรื่องเกี่ยวกับไอหัวเทาอีกแล้ว
ผมไม่รู้ว่ากลับไปแล้วจะต้องทำตัวยังไง ไม่รู้ว่าจะเถียงอะไรกันอีก
ผมว่าผมเริ่มเป็นเอามากแล้วหล่ะกะอีแค่ไม่มีมันอยู่ใกล้ๆสองสามวันทำไมผมถึงหงุดหงิดได้มากมายขนาดนี้
ใช้เวลาไม่นานรถแท็กซี่ก็จอดเทียบฟุตบาทหน้าคอนโดหรูผมหันไปจากตังค์ก่อนลงไปจากรถจังหวะเดียวกับที่รถแลมโบกีนี่สีแดงสดเลี้ยวเข้าไปพอดีผมมองตามเข้าไปก็ทำให้รู้ว่าเป็นรถของมันจริงๆ
“พามาด้วยงั้นเหรอ”
ที่ผมพูดแบบนี้เพราะในรถมีหญิงสาวนั่งมาด้วย ใช่..มันพาฮานะมาที่ห้อง
ผมยืนมองรถทีกำลังจอดด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเต็มที่ เอาจริงๆผมอยากเดินเข้าไปทักสองคนนั้นแต่มาคิดอีกทีผมว่าผมยืนรอให้พวกเขาขึ้นไปก่อนดีกว่า
ผมยืนรอสักพักให้พวกนั้นเดินขึ้นไปก่อนที่ผมจะเดินตามขึ้นไปเช่นกัน ผมกดลิฟต์ขึ้นไปจนถึงชั้นที่พักอยู่และเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกผมก็ก้าวออกไปก่อนจะเห็นอะไรบางอย่างเข้า บางอย่างที่ทำให้ผมยืนแข็งที่อตัวชาวาบไปหมด ก็ตอนนี้ไอหัวเทากำลังยืนจูบกับฮานะอยู่บริเวณหน้าห้องอย่างไม่อายฟ้าอายดินเลยนะสิ
“สัส..”
ผมสบถออกมาก่อนจะเดินกลับไปที่ลิฟต์
ผมรัวกดปุ่มเปิดลิฟต์ด้วยท่าทีร้อนรนและเมื่อเข้าไปในลิฟต์แล้วผมก็กดปิดประตูทันที ผมยืนกำมือแน่อยู่ในนั้นจนลิฟต์เปิดออกที่ชั้นล่าง
“ฮัลโหล..ผมแบมแบมนะครับ พี่ยังอยากช่วยผมอยู่มั้ย”
เมื่อเดินออกมาจากลิฟต์ผมก็กดโทรศัพท์ต่อสายหาใครบางคน
“งั้นเดี๋ยวเจอกันนะครับ”
เมื่อคนปลายสายตอบกลับมาผมก็เดินออกไปเรียกแท็กซี่หน้าคอนโดทันที ในเมื่อผมตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม มันจะแปลกอะไรล่ะถ้าผมต้องการหาคนมาช่วยปลดปล่อยเหมือนเมื่อก่อน....
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
>>> TBC <<<
แบมแบมยังไงก็คือแบมแบมค่ะ ใครที่คิดว่าน้องต้องโศกเศร้านั่งกอดเข่าร้องไห้ล่ะก็คุณกำลังคิดผิด
น้องเคยทำตัวยังไงก็จะกลับไปทำแบบนั้น คิดจะแรงต้องแรงให้สุด จัดหนักจัดเต็มตามสไตล์คนแมน
และแน่นอนว่าผลที่ตามมาก็จะแรงตามไปด้วยเช่นกัน บอกเลยว่างานนี้เจ็บไปตามๆกัน
มารอดูเลเวลหน้าดีกว่าว่าคนแมนจะได้รับผลของการกระทำนี้ยังไง... ????
#ฟิคลองของ
♡ Happy Valentines Day ♡
ความคิดเห็น