คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : Level_43
“พวกมึงงงงง...”
เสียงทุ้มแหลมของแมนนี่ดังมาแต่ไกลทำให้เพื่อนๆในกลุ่มหันไปมองยังร่างบึกบึนที่กำลังวิ่งหน้าตาตื่นมาทางพวกเขา
“เอ้าๆๆ ใจเย็นๆมึง”
แจนเอ่ยขึ้นเมื่อแมนนี่วิ่งมากระแทกตัวนั่งลงข้างๆเธอ
“แฮ่กๆ..อีห่า กูวิ่งมาจากโรงอาหารเหนื่อยมาก”
แมนนี่ที่กำลังหอบหายใจอย่างหนักหันไปพูดกับเพื่อนที่นั่งกันอยู่เกือบครบทีมยกเว้นใครบางคนที่หายหัวไปตั้งแต่เมื่อวานซืน
“แล้วมึงจะวิ่งทำไม”
ยูคยอมที่นั่งเล่นโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมาถาม
“ไม่วิ่งไม่ได้
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องรีบมาขยาย”
“เรื่องใหญ่ ????”
เป็นเจแปนที่โผลงออกมา
“ใช่..กูบังเอิญได้ยินชะนีนิเทศเม้ากันน่ะสิ”
“บังเอิญ หรือ เสือก”
“อีแปน..รู้แล้วยังถามนะมึง”
แมนนี่หันไปถลึงตาใส่เพื่อนก่อนจะกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง
“คือกูไปหาขนมแดกใช่มั้ย
แล้วทีนี้ก็บังเอิญไปยืนต่อแถวหลังพวกนางไง
หูขี้เสือกของกูเลยได้ยินเรื่องช๊อกวงการมา”
“ถึงขั้นช๊อกวงการเชียว กูว่ามึงเว่อร์ไปและอีแมน”
ยูคยอมวางโทรศัพท์ลงกับโต๊ะเอ่ยขึ้น
“ถ้ามึงรู้รับรองว่าช๊อกแน่นอน”
“งั้นมึงก็รีบๆบอกมาสักที กูนั่งเกร็งไปหมดแล้วเนี่ย”
แจนที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นด้วยความอยากรู้
“กูก็กำลังจะพูดอยู่นี่ไง
มึงจะขัดทำไมอีแจน”
“ตกลงมีเรื่องอะไรเหรอแมนนี่”
ฮานะที่นั่งเงียบอยู่นานพูดแทรกขึ้นก่อนจะเกิดสงครามย่อยๆบนโต๊ะ
“คืออย่างงี้ กูได้ยินพวกนางเม้ากันว่าพี่มาร์คมีแฟนแล้ว ที่สำคัญเรียนอยู่คณะเราด้วย”
แมนนี่พูดออกมาอย่างออกรสออกชาติโดยมีปฏิกิริยาของเพื่อนๆแต่ล่ะคนแตกต่างกันออกไป
แจนกับเจแปนกูจะตกใจกับสิ่งที่ได้ยินผิดกับฮานะและยูคยอมที่นั่งยิ้มขำกับเรื่องที่เพื่อนพูด
“กูล่ะอยากรู้จริงๆว่ามันเป็นใครถึงกล้าคาบท่านมาร์คของกูไปแดกแบบนี่”
“อ้าว..แล้วมึงไม่รู้เหรอว่าใคร”
เจแปนถามขึ้น
“ก็กูตกใจเลยรีบวิ่งมาหาพวกมึง
แม่ง..รู้งี้กูอยู่เสือกให้สุดก่อนดีกว่าพูดแล้วเสียดาย”
“โถ่..อีง้าว ดูดิเนี่ยทำพวกกูอยากรู้ไปด้วย มึงนี่ไม่ได้เรื่องเลยอีแมน”
แจนหันไปโวยเมื่อความอยากรู้เริ่มมีมากขึ้น
“อ้าวอินี่
กูเสือกมาได้เท่านี้ก็ถือว่าดีแล้วมั้ย”
“พอๆๆไม่ต้องเถียงกัน กูว่าเรามาช่วยกันคิดดีกว่าว่าแฟนพี่มาร์คเป็นใคร”
เจแปน เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด ทำให้แมนนี่และแจนเลิกเถียงกันและหันมาช่วยกันคิดแทน
“กูถามจริง เรื่องเรียนพวกมึงเคยจริงจังขนาดนี้มั้ย”
ยูคยอมแซวออกมาขำๆไม่ต่างจากฮานะที่นั่งมองเพื่อนๆด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“มึงอย่าพึ่งขัดอียูคพวกกูเครียดอยู่เห็นมั้ย”
แมนนี่หันไปแควะเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้ามก่อนจะหันกลับไปสุ่มหัวกับแจนและเจแปนอีกครั้ง
“มึงว่าแฟนพี่มาร์คเป็นใครว่ะ”
แจนพูดขึ้นด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“หรือว่าจะเป็นพี่เมเปิ้ลปีสอง ที่สวยๆหุ้นเอ็กๆว่ะ”
เจแปนเสนอขึ้น
“กูว่าไม่น่าใช่นะ น่าจะเป็นพี่แพรวปีสามมากกว่าคนนี้เรียบร้อยน่ารัก พี่มาร์คน่าจะชอบ”
แจนเองก็ลองเสนอความคิดเห็นออกมาบ้างเช่นกัน
“เป็นไปไม่ได้ พี่แพรวมีแฟนแล้วแถมหล่อมากด้วยงานนี้ไม่ใช่พี่เขาแน่นอน”
แมนนี่เอ่ยขัดขึ้น
“งั้นจะใครล่ะ”
แจนที่เริ่มหงุดหงิดเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเซ็งๆ
“พวกมึงลืมอะไรไปรึเปล่า”
อยู่ๆยูคยอมก็เอ่ยแทรกขึ้นทำให้ทั้งสามคนหันมามองที่เขา
“อะไร ???”
แมนนี่ถามกลับ
“มึงลืมใครรึเปล่า”
“ใครว่ะ”
“เฮ้ย..จริงด้วย ทำไมพวกเราไม่ถามแบมแบมล่ะ”
แจนโพลงขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองที่เธอ
“เออว่ะ...นี่กูลืมมันไปได้ไงเนี่ย ว่าแต่มันหายหัวไหนตั้งสองวันแล้วว่ะ”
เจแปนพูดขึ้นบ้างเมื่อนึกถึงเพื่อนที่หายตัวไปสองวันเต็มๆ
“อยากรู้ก็ถามมันดิ”
ยูคยอมบอกพร้อมกับพยักเพยินหน้าไปด้านหลัง ทำให้ทุกคนหันไปมองทำให้เห็นว่าแบมแบมกำลังเดินตรงมาทางพวกเขา
“ตายยากชิบหาย”
เจแปนอุทานออกมาเบาๆ
“ไงคะคุณชาย หายหัวไปไหนมาสองวัน นี่ถ้าวันนี้มึงยังไม่โผล่หัวมากูว่าจะไปแจ้งความแล้วนะ”
แมนนี่เอ่ยแซะออกไปทันทีที่ร่างบางเดินมาถึงบริเวณที่พวกเขานั่งอยู่
“ที่ถามนี่เป็นห่วงกูว่างั้น”
แบมแบมเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินอ้อมไปนั่งที่ว่างข้างๆฮานะ
“อย่ากวนตีนคะ กรุณาตอบให้ตรงคำถามด้วย”
แมนนี่ยื่นหน้ายืนตาโต้ตอบกลับไป
“ไปที่ไหนไม่สำคัญเท่าไปกับใครล่ะมั้ง”
ยูคยอมหรี่ตามองเพื่อนสนิทพร้อมกับเอ่ยเหน็บแนมออกไปอย่างนึกขำ
“อียูคมึงพูดได้ตรงจุดมาก...ตกลงมึงหายไปไหนและไปกับใครมาอีแบม”
แมนนี่เอ่ยถามขึ้นมาอีก
“ไม่เสือกสักเรื่องจะตายมั้ย”
แบมแบมเอ่ยโต้ตอบไม่จริงจังนักทำให้ฮานะที่นั่งอยู่ข้างๆหลุดขำออกมา
“ตาย..เพราะพวกกูดำรงชีวิตด้วยการเสือกมึงไม่รู้รึไง”
“ยังมีหน้ามาพูด
ภูมิใจในความขี้เสือกของตัวเองมากว่างั้นเหอะ”
“แน่นอน..มึงอย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องหน่อยเลย ตกลงหายหัวไปไหนมา”
แมนนี่ยังคงคาดคั้นไม่เลิกทำให้ร่างบางส่ายหัวไปมาก่อนยอมเอ่ยตอบ
“กูไปต่างจังหวัดมา”
“ไปกับใคร”
“ไปกับ...”
“แบมแบม”
ยังไม่ทันที่ร่างบางจะพูดจบเสียงทุ้มต่ำก็ดังขัดขึ้นเรียกสายตาทุกคู่ให้หันไปมอง
“พี่มาร์คสวัสดีค่ะ / ครับ”
ทุกคนในโต๊ะรีบเอ่ยทักทายรุ่นพี่ที่เดินเข้ามายังโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ และเมื่อเห็นรุ่นน้องเอ่ยทักทายมาร์คก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินตรงไปหาร่างบางที่นั่งมองมาที่เขาเช่นกัน
“มึงลืมหนังสือไว้บนรถ”
หนังสือเล่มหนาถูกยื่นไปให้ร่างบาง
“เออ..ลืมเลย”
แบมแบมเอื้อมมือไปรับเอาไว้
“แล้วลืมอะไรอีกรึเปล่า จะได้กลับไปเอา”
“ไม่น่านะ..”
ร่างบางเริ่มตรวจเช็คกระเป๋าก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปตอบอีกฝ่าย
“โอเค..ถ้าไม่ลืมอะไรแล้วงั้นกูไปก่อน ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ”
มาร์คเอ่ยเสียงนุ่มพร้อมกับยกมือขึ้นไปขยี้หัวทุ้ยเบาๆ
เรียกความสนใจจากผู้รวมโต๊ะได้ไม่น้อยทีเดียวโดยเฉพาะฮานะที่ยกยิ้มสูงอย่างเห็นได้ชัด
“พอแล้วหัวยุ่งหมดแล้ว”
แบมแบมเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะปัดมือมาร์คออก
“งั้นกูไปนะ แล้วเจอกันตอนเย็น”
มาร์คพูดทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนจะเดินผละออกไปอีกทาง
“ตายแล้วววว...นี่มันเกิดอะไรขึ้นรายงานพวกกูมาเดี๋ยวนี้นะอีแบม”
เมื่อมาร์คเดินจากไปไม่นานแมนนี่ที่เก็บอาการอยู่ก็โพลงออกมาแทบจะทันที
“จริงด้วย..อะไรยังไงเล่าด่วน”
แจนก็ไม่น้อยหน้ารีบถามออกมาเช่นกัน
“ก็ไม่มีอะไรนิ”
แบมแบมยักไหล่ส่งๆเหมือนไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่เพื่อนถามเท่าไหร่นัก
“จะไม่มีได้ไง ก็เห็นอยู่ว่ามีอย่ามาแอ๊บใสใส่พวกกูนะอีแบม”
แมนนี่เอ่ยออกมาอย่างไม่ยอมเช่นเคย
“ไอแบมก่อนที่มึงจะตอบอีแมนกูขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
เจแปนที่นั่งเงียบมาได้สักพักเอ่ยถามออกมา
“อะไร..”
“มึงรู้เรื่องที่พี่มาร์คมีแฟนรึเปล่า”
“รู้”
แบมแบมตอบออกมาด้วยท่าทีสบายๆ
“งั้นแฟนพี่มาร์คเป็นใคร เห็นอีแมนบอกว่าเรียนอยู่คณะเดียวกับพวกเรา”
เจแปนถามถามออกมาอีก
“พวกมึงแน่ใจนะว่าอยากรู้จริงๆ”
แบมแบมเอ่ยหยั่งเชิงขำๆ
“อีห่า..อย่าลีลาได้มั้ยกูยิ่งๆอยากรู้อยู่”
แมนนี่หลุดด่าออกมาด้วยความอยากรู้ที่มีมากขึ้นกว่าเดิม
“แฟนพี่มาร์คก็คือ”
แบมแบมยื่นหน้าเข้าไปกลางโต๊ะทำให้เพื่อนๆยื่นหน้าตามเข้าไปเช่นกัน
“คือใคร”
แจนถามออกมาเบาๆ
“คือ..”
แบมแบมยังคงกวนเพื่อนๆตามสไตล์ของตน
และนั้นทำให้เพื่อนๆเหล่ตามองมาทางเขาอย่างคาดโทษ
“คืออะไร..มึงรีบๆพูดสิ”
แมนนี่เร่งอีกฝ่ายให้รีบพูด
“กูว่าพวกมึงอย่ารู้ดีกว่า”
แบมแบมแกล้งเอนตัวกลับไปนั่งด้วยท่าทีปกติเรียกเสียงหัวเราะจากฮานะและยูคยอมได้ทันที
“อีเหี้ย...มึงจะมาทำให้พวกกูอยากแล้วจากไปแบบนี้ไม่ได้นะรีบๆบอกมาเร็วๆ”
แมนนี่โวยออกมาในที่สุด
“ใช่..มึงอย่ามาทำเป็นมีลับลมคมในกับพวกกูนะ พวกกูเป็นเพื่อนมึงนะอีแบม”
แจนเอ่ยเสริมทัพเช่นกัน
“ที่ไม่บอกเพราะจริงๆแล้วมึงก็ไม่รู้ใช่มั้ย”
เจแปนเองก็ดูเหมือนจะหัวเสียไม่น้อย
“พวกมึงจะอยากรู้ไปทำไม เรื่องไม่เป็นเรื่อง”
ร่างบางยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมกับเอ่ยออกไป
“ก็พวกกูข้องใจนิ”
“เราว่าแบมบอกไปเถอะ ยังไงพวกนี้ก็ไม่ยอมเลิกตื้อง่ายๆแน่”
ฮานะที่มองเหตุการณ์อยู่สักพักยืนหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูเล็กทำให้แบมแบมหันไปมองเธอพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เอางั้นเหรอ”
ร่างบางหันไปถามฮานะทำให้เธอพยักหน้าแทนคำตอบ
“กระซิบอะไรกัน..บอกมาเดี๋ยวนี่นะ ฮานะเดี๋ยวนี้แอบมีความลับกับเราใช่มั้ย”
แจนหันไปกระเง้ากระงอดใส่เพื่อนสาวทำให้ฮานะหลุดยิ้มออกมา
“ตกลงพวกมึงอยากรู้จริงๆใช่มั้ยว่าแฟนพี่มาร์คคือใคร”
แบมแบมพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจังผิดกับตอนแรก
“ใช่”
ทั้งสามผสานเสียงกันราวกับนัดกันมา
“เฮ้อ..งั้นกูจะบอกก็ได้
แต่ถ้ารู้แล้วห้ามโวยวายตกลงมั้ย”
“ทำไมพวกกูต้องโวยวายด้วย”
เจแปนถามออกมาด้วยท่าทีไม่เข้าใจ
“กูถามว่าตกลงมั้ย”
“เออๆๆ ตกลงก็ได้”
แมนนี่เอ่ยตอบขณะที่คนอื่นๆพยักหน้ารับ
“กูเอง”
“ห๊ะ !! มึงว่าไงนะ”
แมนนี่ถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจ
เช่นเดียวกับแจนและเจแปนที่หันมองหน้ากันด้วยความสงสัย
“กูบอกว่าแฟนพี่มาร์คคือ กูเอง...”
สิ้นเสียงทั้งสามคนก็ได้แต่มองมาที่เขาพร้อมกับอ้าปากค้างผิดกันยูคยอมที่หันมาหัวเราะใส่เขาเสียยกใหญ่
“จนได้นะมึง...”
ยูคยอมหันมาพูดกับเพื่อนขำๆ
“เดี๋ยวๆๆ มึงกำลังบอกพวกกูว่า มึงเป็นแฟนพี่มาร์คงั้นเหรออีแบม”
แมนนี่ถามซ้ำออกมาอีกครั้งอย่างไม่อยากเชื้อหูตนเอง
“เออ..กูเนี่ยแหละแฟนพี่มาร์ค”
แบมแบมหันไปยักคิ้วให้เพื่อนด้วยท่าทางกวนๆ
“แหกกก...ไปไงมาไงวะเนี่ย
ไหนมึงบอกพวกกูว่ามึงแมนเต็มร้อยไง”
“ก็ใช่ไง..ทำไมแมนแล้วมีแฟนเป็นผู้ชายไม่ได้รึไง”
แบมแบมยังคงเถียงออกไปอย่างนึกสนุก
เพราะตั้งแต่ที่มาร์คพาเขาไปทะเลคราวนี้มุมมองในการใช้ชีวิตของเขาก็ดูจะเปลี่ยนไปเยอะโดนเฉพาะเวลาถูกมองว่าเป็นเพศที่สาม
“กบฏแรงมาก
มึงกำลังทำลายสถาบันชาวเกย์รู้ตัวมั้ย”
“อย่าเว่อร์..กูแค่มีแฟนเป็นผู้ชายแต่ไม่ได้เป็นเกย์เว้ย”
“แล้วมันต่างกันยังไง
ที่สำคัญมึงกล้างาบท่านมาร์คตัดหน้ากูได้ไง อีเลวว”
“ถามกูมั้ยว่าใครงาบใคร”
“อี๋..พอเลยกูไม่อยากฟัง”
แจนเอ่ยขัดขึ้นทำให้ร่างบางหันไปมองขำๆ
“สรุปที่อีแมนได้ยินเด็กนิเทศษ์เม้ากันคือมึงสินะ”
“เด็กนิเทศที่ไหน”
แบมแบมถามออกมาด้วยท่าทีงงๆ
“ก็กูไปได้ยินชะนีนิเทศเม้ากันว่าพี่มาร์คมีแฟนแล้วน่ะสิ”
แมนนี่เลือกที่จะตอบออกมาแทน
“แล้วเขารู้ได้ไง”
“กูจะไปรู้เหรอ..มึงได้ไปทำบัดสีบัดเถลิงเอาไว้ที่ไหนรึเปล่าล่ะ”
“....”
สิ้นคำพูดของเพื่อนร่างบางก็ทำท่าครุ่นคิดจนคิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากัน
“อย่าบอกนะว่าไปทำไว้จริงๆ โอ๊ยยย..อีแบม”
แมนนี่โพลงออกมาเมื่อเห็นท่าทีครุ่นคิดของเพื่อน
“ก็มีบ้าง..แต่กูนึกไม่ออกวะว่าตอนไหน”
“พอๆๆ ไม่ต้องนึกแล้วกูล่ะปวดหัวกับมึงจริงๆ”
“ฮ่าๆๆ..มึงนี่ไม่ได้มีความอายเลยใช่มั้ย”
ยูคยอมเอ่ยขึ้นขำๆ
“อายทำเหี้ยไร เรื่องธรรมชาติ”
แบมแบมตอบออกมาเหมือนเรื่องที่เขากำลังพูดดูธรรมดาเสียเหลือเกิน
“โถ่ไม่น่าเลย..ท่านมาร์คของกูหลงผิดมาเอามึงได้ไงเนี่ย หมดกัน...”
แมนนี่ยกมือขึ้นกุมขมับก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนๆรวมโต๊ะ
ช่วงเย็นของวัน...
“จะกลับรึยัง”
มาร์คเดินเข้ามาหาร่างบางที่ยืนชู้ตบาสอยู่ในสนาม
“ขออีกแปปนึง”
แบมแบมหันมามองอีกฝ่ายนิดๆก่อนหันกลับไปสนใจแป้นบาสตรงหน้าอีกครั้ง
“เก็บแรงไว้ให้กูบ้างนะ”
มาร์คเอ่ยออกมาขำๆทำให้ร่างบางหันไปถลึงตาใส่ทันที
“ฮ่าๆๆ กลับเหอะกูหิวแล้ว ไปหาข้าวกินกัน”
มาร์คหลุดหัวเราะกับท่าทีของอีกฝ่ายก่อนจะออกปากชวนร่างบางไปหาอะไรกิน
“เออๆ งั้นไปกินพิซซ่ากันกูอยากกิน”
“โอเค..งั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเดียวกูรอข้างนอก”
“อืม..”
สิ้นเสียงร่างบางก็เดินตรงเข้าไปในห้องพักนักกีฬา
ส่วนมาร์คก็เดินไปนั่งรออีกฝ่ายที่สแตนภายในโรงยิม กริ๊งง..เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของมาร์คดังขึ้นเขาจึงหยิบออกมากดรับสาย
“ฮัลโหล”
( ฮัลโหล..ใช่มาร์ครึเปล่าจ๊ะ
นี่แม่ของแบมแบมเองนะ)
“ครับคุณน้า ผมมาร์คเองครับ”
( แม่จะโทรมาบอกเราว่า
วันมะรืนแม่จะบินไปแล้วนะ)
“ทำไมเร็วขึ้นล่ะครับ
ไหนคุณน้าบอกว่าจะมาอาทิตย์หน้า”
( พอดีได้หยุดเพิ่มแม่เลยเลื่อนไฟล์ทน่ะ
อีกอย่างแม่ก็คิดถึงแบมแบมด้วย )
“งั้นคุณน้าจะให้ผมไปรับกี่โมงดีครับ”
( จะมารับทำไม
แม่นั่งแท็กซี่ไปก็ได้เราบอกที่อยู่มาก็พอ )
“ผมไปรับดีกว่าครับ”
( ถ้างั้นมารับแม่ตอนแปดโมงเช้าไหวมั้ย )
“ได้ครับ..แล้วยังไงผมจะโทรหาอีกทีนะครับ
เดินทางปลอดภัยนะครับคุณน้า”
( ขอบใจมาร์คมากนะลูก งั้นแค่นี้นะจ๊ะ)
“ครับ..สวัสดีครับ”
ตู๊ดดด...สายถูกตัดไปจังหวะเดียวกับที่ร่างบางเดินออกมาจากห้องพักนักกีฬา
เมื่อเห็นดังนั้นมาร์คจึงเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วเดินไปหาอีกฝ่าย
พวกเขาแวะกินพิซซ่าตามที่ร่างบางต้องการพร้อมกับสั่งกลับมากินที่บ้านด้วยทั้งสองคนใช้ชีวิตเป็นแฟนกันอย่างเปิดเผยโดยไม่แคร์สายตาผู้คนที่มองทางพวกเขาอีกและแน่นอนว่าทั้งคู่รู้สึกดีกับสิ่งที่กำลังทำอยู่
สองวันต่อมา ณ สนามบิน
“กูออกมาทำธุระเดี๋ยวก็กลับแล้วอย่างอแงสิ กูทำโจ๊กไว้ให้แล้วถ้าหิวก็เอามาอุ่นกินก่อน”
มาร์คกรอกเสียงผ่านโทรศัพท์เครื่องหรูในมือและแน่นอนว่าปลายสายก็คงหนีไม่พ้นร่างบางที่นอนอยู่ที่ห้อง
“โอเคๆ..กูอนุญาติให้กินพุดดิ้งได้สองถ้วยแต่ต้องกินข้าวก่อนนะ รู้แล้ว..อืม งั้นแค่นี้นะ”
มาร์คกดวางสายพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มก็ตั้งแต่เริ่มคบกันมาจนถึงวันนี้ร่างบางรู้จักที่จะอ้อนเขามากขึ้น
ผิดจากเมื่อก่อนที่เอาแต่ด่าทอกันอยู่ตลอดเวลา
มาร์คก้าวลงจากรถมายืนด้านนอกพร้อมกับยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ตู๊ดด...
( ฮัลโหลมาร์คเหรอจ๊ะ )
“ครับ..คุณน้ารับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ”
( ใช่จ๊ะ...มาร์คมาถึงแล้วเหรอ )
“ครับ..คุณน้าจะให้ผมไปรอตรงไหนดีครับ”
( งั้นมารอตรงเกรท 3 ก็ได้จ๊ะเดี๋ยวแม่เดินไป
)
“ได้ครับ..ผมใส่เสื้อเชิ้ตสีดำนะครับ”
( โอเคจ๊ะ..แล้วเจอกันนะ)
“ครับ..”
มือหนากดวางสายก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด
“เอาว่ะ..สู้ๆเว้ยไอมาร์ค”
พูดจบเขาก็ก้าวเดินตรงไปยังเกรท 3 ทันทีโดยที่ไม่รู้เลยว่าอะไรบางอย่างกำลังจะเริ่มต้นขึ้นต่อจากนี้....
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
>>> TBC <<<
กลับมาแล้วค่ะหลังจากที่หายไปเคลียร์งานมหาโหดช่วงสิ้นเดือนมา TT ^ TT
ตอนนี้ดูเหมือนทุกคนจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่แล้วและก็ยอมรับกันได้ แต่อย่าพึ่งชะล่าใจไปนะคะ
งานช้างกำลังรอพี่มาร์คอยู่และงานนี้หินแน่นอน มาดูกันดีกว่าว่าลูกเขยกับแม่ยายจะลงเอยยังไง
หวังว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พี่มาร์คสุ้ๆนะ... ^ ^
ความคิดเห็น