ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ RE-Write ] Try..!!! { MarkBam } // THE END

    ลำดับตอนที่ #53 : Level_51

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.68K
      170
      16 ก.ค. 59



    “พีทใช่มั้ย ???” 

    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีที่เดินมาถึงสนามบาสซึ่งตอนนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า



    “ครับ..พี่มาร์คใช่มั้ยครับ” 

    มาร์คพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำอีกฝ่ายเข้าไปด้านในที่มีนักกีฬากำลังฝึกซ้อมกันอยู่และเมื่อทุกคนหันมาเห็นมาร์คก็รีบก้มหัวทักทายก่อนที่ฮันบินจะวิ่งเข้ามาหาทั้งสองคน



    “หวัดดีครับเฮีย ผมนึกว่าช่วงนี้เฮียจะไม่เข้ามาซะอีก” 

    ฮันบินเอ่ยทักทายพี่รหัสของตนทันที



    “กูมารับเมียและก็มีเรื่องต้องเคลียร์นิดหน่อยเลยแวะเข้ามา”



    “แหม..เดี๋ยวนี้เรียกเมียเต็มปากเต็มคำเชียวนะ ว่าแต่ซ้อไปไหนซะล่ะไม่เห็นมาด้วยกัน” 

    ฮันบินแซวขำๆพร้อมกับชะโงกหาร่างบางที่น่าจะมาพร้อมรุ่นพี่ของตน



    “เดี๋ยวก็มา มึงไปซ้อมต่อไป ส่วนนายตามฉันมา” 

    มาร์คเอ่ยตอบด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ทำให้ฮันบินหรี่ตามองตามรุ่นพี่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปก่อนที่เขาจะเดินกลับไปซ้อมตามเดิม  ส่วนพีทก็เดินตามมาร์คไปนั่งยังสแตนด้านข้างสนาม



    “พูดกูมึงไม่ถือใช่มั้ย” 

    มาร์คที่นั่งลงก่อนเอ่ยออกมาพร้อมกับมองไปทางสนาม



    “ตามสบายครับ ว่าแต่พี่เรียกผมมามีอะไรรึเปล่า”



    “ก็แค่มีเรื่องที่ยังคาใจนิดหน่อย ว่าแต่มึงติดต่อไอแอลได้มั้ย”



    “ไม่ได้ครับ..พี่เขาเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว”



    “แล้วมึงไปเจอมันได้ยังไง”



    “ผมไปดักเจอเขาน่ะ แต่พี่อย่าบอกเรื่องนี้กับเจ๊แพทนะผมขี้เกียจฟังเจ๊บ่น”



    “รู้ว่าไอแพทต้องบ่นแล้วจะทำไปทำไม เจ็บไม่จำว่างั้น” 

    มาร์คหันมามองน้องชายเพื่อนพร้อมกับเอ่ยออกมาไม่จริงจังนัก เพราะยังไงเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่แล้ว



    “พี่รู้เรื่องผมด้วยเหรอ”



    “อืม..ไอแพทเล่าให้ฟัง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่กูต้องเข้าไปยุ่งนิจริงมั้ย”



    “เฮ้อ..ผมรู้ว่ามันฟังดูโง่ที่ทำอย่างงั้นแต่ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้จริงๆวะพี่”



    “ก็นะ..” 

    มาร์คยักไหล่ส่งกลับไปก่อนจะนั่งมองไปที่สนามพร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง



    “ไอฮันบิน !!!” 

    แล้วอยู่ๆมาร์คก็ตะโกนเรียกรุ่นน้องที่เล่นอยู่ในสนามทำให้ฮันบินหันมามองอีกฝ่ายทันที



    “ว่าไงเฮีย” 

    ฮันบินหยุดยืนก่อนขานรับ



    “ไอบ๊อบไปไหน”



    “ไปดูดบุหรี่มั้ง..เดี๋ยวมันก็มา”



    “ถ้ามันมาให้เดินมาหากูหน่อย” 

    มาร์คพูดแค่นั้นก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด



    “คือ..ผมขอถามอะไรพี่หน่อยได้มั้ย” 

    เสียงพูดทำให้มาร์คผละจากโทรศัพท์ในมือและหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ



    “ว่า..”



    “พี่เป็นแฟนกับไอเด็กปากเสียนั่นจริงๆเหรอ”



    “หึ..พูดแบบนี้แสดงว่าเจอมันแผงฤทธิ์เข้าให้แล้วล่ะสิ”



    “ก็..นิดหน่อย”



    “เออ..กูเป็นแฟนมัน แล้วมึงไม่ต้องกลัวหรอกนะถ้าเรื่องที่มึงพูดเป็นความจริง กูก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน” 

    มาร์คเอ่ยเสียงเครียดก่อนจะหันไปเห็นรุ่นน้องที่เขาต้องการเจอตัวกำลังเดินเข้าประตูมา



    “ไอบ๊อบ..เฮียมาร์คเรียกหาวะ” 

    และทันทีที่บ๊อบบี้เดินไปสมทบกับเพื่อนในสนามฮันบินก็รีบวิ่งมาบอกทันที



    “เรียกกูเนี่ยนะ” 

    บ๊อบบี้ชี้ตัวเองด้วยสีหน้างงๆ



    “เออ..เขานั่งรอมึงอยู่ที่สแตนนั้นไง” 

    ฮันบินพยักเพยินหน้าไปทางสแตนที่มาร์คและพีทนั่งอยู่



    “แล้วนั้นใครวะ”



    “กูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่กูว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ กูเห็นเฮียหน้าเครียดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”



    “เออๆ งั้นเดียวกูไปหาเขาก่อน” 

    บ๊อบบี้พูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนเดินไปหามาร์คที่นั่งมองมาทางเขา



    “ลมอะไรหอบมาครับเฮียมาร์คสุดหล่อ” 

    และทันทีที่เขาเดินไปถึงสแตนการทักทายกวนๆตามสไตล์ก็ถูกส่งออกมา



    “กูมีอะไรให้มึงช่วยหน่อย”

    มาร์คไม่รอช้าเอ่ยสิ่งที่ต้องการกับรุ่นน้องทันที



    “อั๊ยยะ..ท่าทางพายุจะเข้า เฮียถึงขั้นออกปากขอให้ผมช่วย”

    บ๊อบบี้พูดออกมาด้วยท่าทีขำๆ



    “อย่าพึ่งกวนตีน เพื่อนมึงที่ชื่อดินเป็นน้องรหัสไอแอลใช่มั้ย” 

    มาร์คถามสิ่งที่อยากรู้ออกไป



    “ใช่..” 

    บ๊อบบี้พยักหน้ารับ



    “งั้นมึงโทรหามันให้กูหน่อย”



    “เฮียมีอะไรกับมันเหรอ” 

    บ๊อบบี้ถามขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรตามที่รุ่นพี่บอก



    “กูไม่มีอะไรกับมันแต่มีกับพี่รหัสมัน มึงบอกมันให้ติดต่อไอแอลให้กูหน่อย กูมีเรื่องอยากคุยด้วย”



    “พี่แอลกลับมาแล้วเหรอเฮีย”



    “เออ..” 

    มาร์คตอบห้วนๆ บ๊อบบี้จึงกดโทรไปหาเพื่อนตามที่มาร์คต้องการ เขารอสายไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ



    “ฮัลโหล..ไอดิน พี่แอลกลับมาจากจีนแล้วใช่มั้ย  แล้วมึงติดต่อพี่เขาได้มั้ย...อ้าวเหรอ” 

    บ๊อบบี้หันมามองมาร์คก่อนจะพูดแบบไม่มีเสียงว่าแอลอยู่กับดินตอนนี้



    “งั้นเอามานี่ กูคุยเอง” 

    สิ้นเสียงโทรศัพท์ในมือก็ถูกมาร์คหยิบไปทันที



    “ฮัลโหล ไอดิน..กูมาร์คนะ ตอนนี้ไอแอลอยู่กับมึงใช่มั้ย งั้นกูขอคุยกับมันหน่อย” 

    มาร์คนั่งรอสายไม่นานแอลก็มารับสายแทน



    ( ฮัลโหล..) 

    เสียงแอลดังขึ้นหลังจากรุ่นน้องมาบอกว่ามีคนอยากคุยกับเขา



    “ไอแอล..กูมาร์คนะ” 

    มาร์คตอบกลับเสียงเรียบ



    ( มาร์ค ???

    แอลเอ่ยทวนก่อนเงียบไปเพราะดูเหมือนจะจำอีกฝ่ายไม่ได้



    “มาร์คประธานชมรมบาส” 

    มาร์คเอ่ยขยายความอีกนิด



    ( อ๋อ..มีอะไรรึเปล่า เห็นดินมันบอกว่านายอยากคุยกับฉัน )



    “ตอนนี้ว่างมั้ย..มาเจอกันหน่อยสิ”



    ( มีเรื่องด่วนเหรอ )



    “ใช่..ด่วนมาก” 

    มาร์คเริ่มกดเสียงต่ำอย่างห้ามไม่อยู่



    ( งั้นขอเวลาแปปนึงได้มั้ย พอดีฉันประชุมกับรุ่นน้องอยู่ )



    “ได้..กูจะรออยู่ที่สนามบาส เสร็จเมื่อไหร่ก็มาแล้วกัน”



    ( โอเค.. ) 

    สิ้นเสียงแอลก็กดตัดสายไป มาร์คจึงยื่นโทรศัพท์คืนให้บ๊อบบี้



    “เฮียมีอะไรกับพี่แอลเหรอ” 

    บ๊อบบี้ถามสิ่งที่อยากรู้ออกไปทันที



    “ไม่มีอะไร มึงไปซ้อมไป” 

    มาร์คเลือกที่จะตอบเลี่ยงๆเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดมากนัก



    “ถ้าเฮียว่างั้นผมก็จะไม่ถามต่อ แต่ถ้ามีเรื่องอะไรเฮียเรียกพวกผมได้เลยนะ”



    “เออ..ไปได้แล้ว” 

    บ๊อบบี้พยักหน้ารับก่อนจะเหลือบมองพีทที่นั่งนิ่งมองมาที่เขาเช่นกัน



    “งั้นผมไปนะ” 

    บ๊อบบี้พูดขึ้นก่อนเดินผละออกไปในจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์ของมาร์คดังขึ้น มือหนารีบกดรับสายทันทีที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของร่างบาง



    ( มึงอยู่ไหน.. ) 

    แบมแบมกรอกเสียงฝ่ายโทรศัพท์ทันทีที่มาร์คกดรับ



    “เสร็จแล้วเหรอ”



    ( อืม..พึ่งเสร็จเนี่ย แล้วนี่อยู่ไหนเห็นฮานะบอกว่ามึงให้กูโทรหา )



    “อยู่สนามบาส”



    ( ไปทำอะไรที่สนาม )



    “ก็มานั่งรอมึงไง ถ้าเสร็จเรื่องแล้วก็เดินมาและกัน งั้นแค่นี้นะ”



    ( เดี๋ยว.. )



    “อะไร”



    ( มึงเป็นอะไร ) 

    แบมแบมที่จับพิรุธได้เอ่ยถามเสียงเรียบ



    “.....” 

    มาร์คเลือกที่จะเงียบแทนคำตอบ



    “มึงอย่ามาเงียบใส่กูแบบนี้นะมาร์ค เป็นอะไรก็พูด”



    “มาก่อนแล้วค่อยคุยกัน แค่นี้นะ..” 

    พูดจบมาร์คก็กดตัดสายไป เอาจริงๆเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เขาเชื่อใจร่างบางน้อยลงเพราะเขามั่นใจว่าแบมแบมไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่ในเมื่อมีพยานรู้เห็นแถมยังยืนยันเต็มเสียงว่าเขาถูกหลอก เขาจึงต้องการได้ยินจากปากทุกฝ่ายว่าความจริงคืออะไร และเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง มาร์คเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนจะนั่งมองไปยังสนามที่รุ่นน้องกำลังซ้อมกันอยู่ ส่วนพีทก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นค่าเวลาเพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับรุ่นพี่ด้านข้างเช่นกัน เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆแบมแบมก็เดินมาถึงบริเวณสนามบาสพร้อมๆกับแอลที่เดินมาเจอร่างบางบริเวณหน้าทางเข้า



    “แบมแบม..” 

    แอลเอ่ยเรียกชื่อรุ่นน้องก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย



    “อ้าว..พี่แอล มาทำไรแถวนี้พี่ แล้วนั้นขาเป็นไงบ้างดีขึ้นรึยัง” 

    แบมแบมถามกลับไปเพราะสนามแบดจะอยู่อีกฟากของคณะทำให้เขาแปลกใจที่เห็นรุ่นพี่ที่นี่



    “เริ่มดีขึ้นแล้ว ว่าแต่นายมาทำอะไรล่ะ”



    “ผมนัดแฟนไว้ พี่เถอะมาทำอะไร คอร์ดแบดอยู่อีกฟากไม่ใช่เหรอ”



    “พอดีเพื่อนนัดมาคุยน่ะ นายจะเข้าไปมั้ยจะได้ไปพร้อมกันเลย” 

    แอลเสนอขึ้นด้วยท่าทีปกติผิดกับร่างบางที่เริ่มรู้สึกแปลกๆเพราะรุ่นพี่นักแบดคนนี้ไม่น่าจะมีเพื่อนอยู่ที่นี่ หรือเขาจะคิดมากไปเอง แบมแบมสลัดความคิดนั้นทิ้งก่อนพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับแอล



    “มากันแล้ว..ถ้าพี่ไม่เชื่อที่ผมพูด ก็ดูเอาเองแล้วกัน” 

    อยู่ๆพีทก็พูดขึ้นมาพร้อมกับพยักเพยินหน้าไปทางประตูซึ่งตอนนี้มีแบมแบมและแอลเดินคุยกันเข้ามาด้านใน มาร์คที่หันไปมองตามที่รุ่นน้องบอกถึงกับกัดฟันกรอดเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังเริ่มเดือดขึ้นทีละนิด



    “ทีนี้พี่เชื่อผมรึยัง” 

    พีทยังคงเอ่ยย้ำในสิ่งที่เขาเคยพูด แต่มาร์คก็ยังคงนั่งนิ่งและมองไปที่คนทั้งคู่โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา



    “มาแล้วเหรอครับซ้อแบม” 

    เสียงแซวดังมาจากบ๊อบบี้ที่หันมาเห็นร่างบางเข้าพอดี



    “ตลกและพี่บ๊อบ ซ้อเซ้ออะไร ไร้สาระวะ” 

    ร่างบางหยุดเดินและหันไปตอบโต้บ๊อบบี้ขำๆ ผิดกับแอลที่ยืนตัวแข็งทือเมื่อหันไปเห็นพีทที่นั่งอยุ่กับมาร์คบนสแตน



    “แบมแบม..พะ พี่ว่าพี่ไปก่อนดีกว่า” 

    แอลเอ่ยเสียงสั่นๆทำให้แบมแบมหันไปมองรุ่นพี่ทันที



    “ทำไมอ่ะพี่ ไม่ไปหาเพื่อนแล้วเหรอ”



    “คือ...พี่” 

    แอลเอ่ยตอบตะกุกตะกัก ทำให้แบมแบมเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นมือเรียวยกขึ้นจับไหล่รุ่นพี่เบาๆเพราะเขารู้สึกว่าอีกฝ่ายดูตัวสั่นจนเห็นได้ชัด



    “แบมแบม !!!” 

    และแล้วเสียงทุ้มต่ำก็ดังก้องไปทั่วสนามบาส ทำให้ร่างบางหันไปมองก่อนจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างมากขึ้น



    “เป็นเรื่องจนได้สินะ..” 

    แบมแบมเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเครียดๆเมื่อเห็นพีทนั่งอยุ่ข้างๆมาร์คบนสแตน ร่างบางจึงปล่อยมือจากรุ่นพี่ก่อนหันไปมองบนสแตนด้วยสีหน้านิ่งๆ



    “มึงมาทำเหี้ยอะไรที่นี่ไม่ทราบ” 

    ร่างบางเอ่ยถามกลับไปพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้สแตนที่มาร์คและพีทนั่งอยู่ แบมแบมเดินไปหยุดยืนด้านหน้าก่อนจะวางประเป๋าลงและหันไปมองพีทด้วยสายตาแข็งกร้าว



    “ถ้าจะมาเคลียร์กับกูก็ลงมา” 

    ร่างบางหันไปพูดกับพีทที่มองลงมาที่เขาเช่นกัน



    “แบมแบม” 

    มาร์คเอ่ยปามอีกฝ่าย แต่มีเหรอที่ร่างบางจะฟังเขายังคงจ้องหน้าพีทไม่วางตา



    “หึ..ก่อนจะเคลียร์กับกูมึงเคลียร์กับพี่เขาก่อนดีกว่ามั้ง” 

    พีทเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเยาะทำให้ร่างบางทำท่าจะพุงขึ้นไปกระชากอีกฝ่ายลงมาถ้าไม่ติดว่าแอลเดินเข้ามารั้งแขนเรียวเอาไว้ซะก่อน โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำดังกล่าวกำลังทำให้มาร์คหงุดหงิดมากขึ้น



    “อย่ามีเรื่องเลยนะ แบมแบม” 

    แอลเอ่ยห้าม ร่างบางจึงหันไปมองรุ่นพี่ก่อนจะมองมือที่จับเขาอยู่และรีบหันกลับไปมองมาร์คที่เริ่มหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทำให้แบมแบมรีบเอามือรุ่นพี่ออกไปจากแขนทันที



    “ไอแอล..” 

    มาร์คที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นในที่สุด



    “ว่าไง..มีเรื่องด่วนอะไรก็รีบๆพูดเถอะมาร์ค ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นาน” 

    แอลพูดขึ้นพร้อมกับเหลือบมองพีทไปด้วย



    “กลับมาจากจีนนานรึยัง”



    “กลับมาได้สองอาทิตย์แล้ว”



    “กลับมาแค่สองอาทิตย์ ก็หาแฟนได้แล้วมึงนี่ยังสเน่ห์แรงไม่เปลี่ยนเลยนะ” 

    มาร์คยกยิ้มมุมปากผิดกับอีกสามคนที่เริ่มหน้าเครียดโดยเฉพาะแบมแบมที่จ้องหน้ามาร์คเขม่ง



    “มาร์ค คือเรื่องนั้น..” 

    ร่างบางที่เริ่มจับใจความอะไรบางอย่างได้พยายามจะอธิบายแต่มาร์คก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน



    “อย่าพึ่งขัด..กูยังคุยกับไอแอลไม่จบ” 

    มาร์คมองร่างบางเล็กน้อยก่อนหันไปสนใจแอลอีกครั้ง



    “คะ..ใครบอกนาย” 

    แอลถามกลับไปบ้าง



    “ไอพีท..” 

    มาร์คชี้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างซึ่งตอนนี้กำลังมองไปที่แอลไม่วางตาเช่นกัน



    “พี่เป็นคนบอกผมเองนี่ครับ ว่ามันเป็นแฟนใหม่พี่” 

    พีทเอ่ยขึ้นพร้อมกับพยักเพยินหน้าไปที่ร่างบาง



    “กะ..ก็ใช่ แต่”



    “งั้นสรุปว่ามึงเป็นแฟนกัน กูเข้าใจถูกมั้ย” 

    มาร์คลุกขึ้นยืนหลังจากพูดจบก่อนจะค่อยๆเดินลงไปหาร่างบางที่ตอนนี้ยืนกำมือเข้าหากันจนแน่น



    “คือ..แบบว่า” 

    แอลเอ่ยตะกุกตะกักเขาไม่รู้ว่ามาร์คต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย



    “ตอบพี่มาร์คไปสิครับพี่แอล ตอบเหมือนที่พี่บอกผมไง” 

    พีทเอ่ยกดดันออกมาอีก ทำให้แอลเริ่มเหงื่อตกเพราะกำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับเหตุการณ์ตรงหน้า



    “มึงไม่ต้องตอบกูก็ได้ แต่มึงรู้อะไรมั้ยไอแอล” 

    มาร์คพูดขึ้นก่อนจะยกแขนขึ้นไปกอดคอร่างบางเอาไว้พร้อมกับจ้องแอลเขม่ง ทำให้แอลที่หันไปมองทั้งสองคนเริ่มกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก



    “ระ..รู้อะไร”




    “ก็รู้ว่าไม่ควรมายุ่งกับของๆคนอื่น เพราะคนที่มึงบอกว่าเป็นแฟนมึง คือ เมียกู !!!” 

    ร่างหนาเอ่ยเสียงกร้าวพร้อมกับเน้นคำอย่างชัดเจน ทำให้แอลสะดุ้งโหยงและมองหน้ามาร์คกับแบมแบมสลับกันไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...





    50%





    “มะ..เมื่อกี้ นายว่ายังไงนะ” 

    แอลเอ่ยถามออกมาหน้าตาตื่น



    “กูบอกว่า แบมแบมเป็นเมียกู คราวนี้มึงได้ยินชัดพอมั้ย” 

    มาร์คเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ขณะที่แบมแบมได้แต่ยืนนิ่งเงียบไม่ได้พูดโต้แย้งใดๆ



    “รู้แบบนี้แล้วมึงมีอะไรอยากบอกกูมั้ยไอแอล” 

    มาร์คปล่อยมือออกจากคอร่างบางก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แอลมากขึ้น




    “คือ..ฉัน” 

    แอลเอ่ยตะกุกตะกักพร้อมกับมองเลยไปที่ร่างบางเพื่อขอความช่วยเหลือ



    “กูถามว่ามีอะไรจะบอกกูมั้ย !!!” 

    มาร์คตะโกนก้องก่อนจะพุงเข้าไปกระชากคอเสื้อแอลอย่างแรงจนแว่นของอีกฝ่ายล่วงลงไปบนพื้น



    “เฮ้ย..!!!” 

    พีทอุทานขึ้นพร้อมกับรีบวิ่งพรวดพราดลงมาหาแอลทันที เช่นเดียวกับร่างบางที่วิ่งเข้าไปรั้งมาร์คเอาไว้



    “เงียบทำเหี้ยไร..พูดมา”

    มาร์คที่ตอนนี้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เอ่ยคาดคันแอลอีกครั้งโดยไม่สนใจร่างบางและพีทที่พยายามห้ามตนเอง ส่วนแอลก็เริ่มหน้าซีดตัวสั่นเขาทำได้เพียงแค่เม้มปากเข้าหากันจนดูซีดเผือดไปหมด



    “เฮ้ยพี่..ใจเย็นดิวะ ปล่อยพี่แอลก่อน” 

    พีทที่พยายามดันมาร์คออกไปเอ่ยเสียงเครียด



    “มึงจะพูดหรือไม่พูดไอแอล” 

    มาร์คกดเสียงต่ำอย่างเหลืออดและยังคงไม่สนใจใครจนในที่สุดหมัดหนักๆก็ถูกส่งออกไป แต่ดีที่พีทไหวตัวทันและรีบกระชากแอลออกมา ก่อนจะพุ่งเข้าไปต่อยมาร์คทำให้ร่างหนาเซถอยหลังไปหลายก้าวมือหนาถูกยกขึ้นมาจับปลายคางพร้อมกับสายตาวาวโรจน์ที่ส่งไปยังรุ่นน้องต่างคณะ



    “สัส...มึงกล้าต่อยแฟนกูเหรอ !!!” 

    แต่ก่อนที่มาร์คจะเข้าไปจัดการกับน้องชายเพื่อนร่างบางที่ยืนอยู่ด้านหลังก็พุ่งตัวเข้าไปหาพีทเสียแล้ว



    พลั่ก..



    แบมแบมวิ่งเข้าไปถีบเข้ากลางลำตัวของพีททำให้อีกฝ่ายล้มลง ก่อนจะขึ้นไปคร่อมร่างสูงและเริ่มปล่อยหมัดออกไป และแน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทำให้คนทั้งสนามหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียว



    “หยุดนะ..ฉันบอกให้หยุดไง” 

    แอลรีบควานหาแว่นที่พื้นขึ้นมาใส่ก่อนจะเข้าไปห้ามทั้งคู่แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่ออารมณ์เกรียวกราดกำลังครอบงำพวกเขาในตอนนี้



    “เหี้ยแล้วไง” 

    ฮันบินที่หันไปเห็นอุทานออกมาด้วยสีหน้าเครียดๆก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปดูโดยมีบ๊อบบี้วิ่งตามไปติดๆ



    “ไอแบมหยุด..” 

    มาร์คตะโกนก้องก่อนจะรีบเข้าไปห้ามร่างบาง มือหนาพยายามรั้งตัวแบมแบมให้ลุกออกมาจากพีทแต่ร่างบางกลับสะบัดตัวออกและพุ่งเข้าใส่พีทอีกครั้งและแน่นอนว่าพีทก็ไม่ได้ปล่อยให้ร่างบางกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเขาตอบโต้กลับมาร่างบางจึงโดนอีกฝ่ายเล่นงานเช่นกันและเมื่อหมัดของพีทโดนเข้าที่หน้าของร่างบางอารมณ์เดือดก็ยิ่งปะทุมากขึ้นเพราะเลือดอุ่นๆเริ่มซึ่มออกมาบริเวณมุมปากอิ่ม แบมแบมยกมือขึ้นแตะมุมปากก่อนจะรับรู้ได้ถึงเลือดที่ไหลออกมา



    “เหี้ยเอ้ยย...อย่าอยู่เลยมึง” 

    ร่างบางมองเลือดที่ติดมือออกมาก่อนจะประกาศกร้าวและปล่อยหมัดใส่คนตรงหน้าไม่ยั้ง ทั้งคู่ตะลุมบอนกันไปมาจังหวะเดียวกับที่ฮันบินและบ๊อบบี้วิ่งมาถึงจึงรีบเข้าไปช่วยมาร์คแยกทั้งสองคนออกจากกัน



    “ปล่อยกู..กูจะฆ่ามัน ปล่อยดิวะ” 

    แบมแบมดิ้นไปมาอย่างแรงระหว่างที่บ็อบบี้กับมาร์คช่วยกันแยกร่างบางออกจากพีทได้สำเร็จ ขณะเดียวกันฮันบินก็รีบดันพีทให้ถอยห่างออกไปโดยมีแอลเข้ามาช่วยอีกแรง



    “ปล่อยมันมา..คิดว่ากูกลัวมึงรึไง” 

    พีทก็ตะโกนกลับไปอย่างไม่ยอมเช่นกัน



    “มาร์คปล่อยกู..วันนี้ถ้าไม่ได้ฆ่ามันอย่าเรียกกูว่าแบมแบมเลย ปล่อย..” 

    แบมแบมยังคงสะบัดตัวไปมาไม่หยุดจนมาร์คต้องรวบตัวร่างบางเอาไว้ทั้งตัวโดยมีบ๊อบบี้ยืนระวังอยู่ไม่ห่าง



    “หยุด...กูบอกให้หยุดไงแบมแบม” 

    มาร์คกดเสียงต่ำก่อนจะออกแรงกอดรัดอีกฝ่ายมากขึ้นทำให้ร่างบางหยุดดิ้นในที่สุด



    “พีทหยุด !!!” 

    แอลเองก็เอ่ยห้ามพีทที่ยังคงสะบัดตัวไปมาไม่เลิกก่อนจะ เพี๊ยะ !!! ใบหน้าของพีทหันไปตามแรงตบของแอล



    “หยุดบ้าได้แล้ว..” 

    พีทนิ่งไปทันที ก่อนจะค่อยๆหันกลับมามองแอลที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำตาไหลออกมาอาบสองแก้ม



    “หยุดสักที..ฮรึก พอแล้ว” 

    แอลสะอื้นจนตัวโยนพร้อมกับมองหน้าพีทไปด้วย



    “พี่มาตบผมทำไม มันต่อยผมก่อนพี่ก็เห็น” 

    พีทเถียงกลับไปและมองแอลด้วยสายตาไม่เข้าใจ



    “ก็มึงต่อยแฟนกูก่อน” 

    แบมแบมรีบเถียงออกไปทำให้แอลหันกลับมามองร่างบาง



    “แต่พี่มาร์คจะต่อยพี่แอล กูก็ต้องช่วยเขาไม่ถูกรึไง” 

    พีทก็ยังเถียงกลับไปอย่างไม่ยอมจนร่างบางทำท่าจะพุงเข้าหาร่างสูงอีกครั้ง



    “พอ..เลิกกัดกันได้แล้ว ส่วนมึงไอแอลเล่ามาให้หมดว่านี่มันเรื่องเหี้ยอะไร ทำไมมึงถึงมาเป็นแฟนเมียกูได้” 

    มาร์คเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบพร้อมกับมองไปที่แอลที่ยังยืนร้องไห้ไม่หยุด



    “ฮรึก..ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับแบมแบมทั้งนั้น เขาก็แค่เดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดีฉันเลยพูดแบบนั้นออกไป ขอโทษด้วยที่ทำให้เข้าใจผิด” 

    แอลที่พอจะสงบลงบ้างแล้วเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองร่างบางและมาร์คสลับกันไปมาด้วยใบหน้าสำนึกผิด



    “ทำไม...พี่ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรพี่แอล เกลียดผมมากรึไงถึงต้องทำขนาดนี้” 

    พีทรู้สึกเหมือนโดนตีแสกกลางหน้าเมื่อรู้ว่าถูกอีกฝ่ายหลอก



    “ฉันไม่ได้เกลียดนาย ไม่เคยเกลียด” 

    แอลรีบหันไปพูดกับพีททันที



    “ถ้าไม่เกลียดแล้วพี่ทำไปทำไม อยากเห็นผมทรมานมากนักใช่มั้ย สนุกสินะที่ปั่นหัวผมได้” 

    พีทเริ่มโวยวายออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ขณะที่แอลส่ายหน้าไปมาก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอีกครั้ง



    “ไม่ใช่...มันไม่ใช่แบบนั้น” 



    “ไม่ใช่แบบนั้นแล้วแบบไหน เกลียดผมก็พูดออกมาตรงๆดีกว่า”



    “ฉัน..ไม่ได้” 

    แอลยังพูดไม่ทันจบร่างบางที่ยืนดูอยู่ก็โพลงออกมาอย่างเหลืออด



    “พี่แอล..ผมว่าพี่บอกๆมันไปเหอะวะ มันจะได้เลิกโง่เป็นควายสักที” 

    แบมแบมผละออกมาจากมาร์คก่อนเดินเข้าไปใกล้แอลมากขึ้น



    “แต่..” 

    แอลเห็นดังนั้นจึงมีท่าทางอึกอัก



    “ถ้าพี่ไม่พูด..ผมพูดเอง” 

    แบมแบมพูดแค่นั้นก่อนหันไปหาพีทที่จ้องมาที่เขาไม่วางตา



    “กูก็ไม่ได้อยากเสือกหรอกนะ แต่กูสงสารพี่เขาที่ต้องมาโดนแบบนี้ มึงรู้มั้ยว่าทำไมพี่เขาถึงเอากูมาอ้างว่าเป็นแฟนใหม่ของเขา” 

    แบมแบมเอ่ยเสียงเข้มพร้อมกับจ้องพีทกลับไป



    “ก็เพราะคนที่บ้านมึงโทรมาอาระวาทพี่เขาไง” 

    กึก..พีทชะงักไปก่อนจะหันไปมองแอลที่ยืนก้มหน้าก้มตาไม่กล้าเงยหน้ามามองเขา



    “จริงรึเปล่าพี่แอล” 

    พีทเอ่ยเสียงเครียด



    “พี่แอล...ผมถามว่าจริงมั้ย !!!” 

    พีทถามออกไปอีกครั้งทำให้แอลพยักหน้ารับนิดๆ และนั้นทำให้พีทรีบเดินเข้าไปหาแอลทันที



    “แล้วทำไมพี่ไม่บอกผม” 

    พีทจับแอลให้เงยหน้ามามองตนเอง



    “คือ..ฉัน” 

    แต่แอลก็ยังคงก้มหน้าก้มตา ในขณะที่มาร์คยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่งๆและไม่ได้พูดอะไร



    “สรุปคือกูไม่ได้เป็นแฟนพี่แอล เข้าใจตรงกันทุกคนนะ” 

    ร่างบางพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก่อนจะเดินกลับไปหามาร์คที่ยืนอยู่ด้านหลัง



    “จะกลับได้รึยัง..” 

    แบมแบมเดินไปหยุดตรงหน้ามาร์คก่อนเอ่ยเสียงเหวี่ยงๆ



     “ก็ไปสิ..” 

    เมื่อได้ยินดังนั้นร่างบางก็เดินออกไปจากสนามทันที มาร์คมองตามอีกฝ่ายไปเล็กน้อยแล้วจึงหันกลับมามองทุกคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นพร้อมกับพูดบางอย่างออกมา



    “ไอแอลกูไม่สนหรอกนะว่ามึงจะมีปัญหาอะไรกับใคร แต่มึงไม่มีสิทธิ์ลากคนของกูไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ และกูขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่าของๆกูใครก็ห้ามแตะ จำไว้ !!!” 

    เสียงทุ้มประกาศกร้าวก่อนจะเดินตามร่างบางออกไปโดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่รุ่นน้องทั้งสองคนที่ยืนมองหน้ากันงงๆ มาร์ครีบเดินตามร่างบางออกมาด้านนอกแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเดินไวกว่าที่คิด เขาจึงรีบสาวเท้าตามร่างบางไปจนถึงหนูแดงที่จอดอยู่ไม่ไกล



    “เปิดดิ..” 

    แบมแบมพูดขึ้นเมื่อเห็นมาร์ค มือหนาจึงกดรีโมทเปิดรถตามที่อีกฝ่ายต้องการ แบมแบมเข้าไปนั่งด้านในทันทีก่อนจะตามมาด้วยเสียงปิดประตูรถที่ดังสนั่นไปทั่วลานจอด



    “เฮ้อ..” 

    มาร์คยืนมองอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และเดินเข้าไปนั่งในรถเช่นกัน ร่างหนาสตาร์ทหนูแดงแล้วขับออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร ตลอดทางพวกเขาไม่ได้คุยอะไรกันจะมีก็เพียงเสียงถอนหายใจเป็นครั้งคราวเท่านั้น ในที่สุดหนูแดงก็เลี้ยวเข้าไปจอดภายในคอนโดและเมื่อรถจอดสนิทร่างบางก็ลงจากรถและเดินขึ้นห้องโดยไม่สนใจมาร์ค



    “คนที่ควรโกรธต้องเป็นกูไม่ใช่เหรอวะ” 

    มาร์คพูดกับตัวเองก่อนจะดับเครื่องและตามร่างบางขึ้นไปบนห้อง มาร์คเปิดตูประเข้าไปในห้องก่อนเดินไปยังห้องนอนที่ร่างบางอยู่ตอนนี้



    “แบมแบม” 

    มาร์คเปิดประตูห้องนอนก็พบว่าร่างบางกำลังสำรวจใบหน้าของตนอยู่หน้ากระจก



    “....” 

    เงียบแบมแบมไม่แม้แต่จะหันมามองอีกฝ่าย



    “ออกมานี่หน่อย เรามีเรื่องต้องคุยกัน” 

    มาร์คพูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วเดินออกไปจากห้องนอน ร่างบางจึงหันไปมองอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจและเดินตามมาร์คออกมาด้านนอก



    “มานั่งนี่..” 

    มาร์คที่นั่งอยู่บริเวณห้องนั่งเล่นเรียกร่างบางให้เดินไปหาตน แบมแบมยืนมองนิ่งๆก่อนจะเดินไปนั่งตามที่อีกฝ่ายบอก



    “มีอะไร..” 

    แบมแบมเอ่ยถามเสียงเรียบทันทีที่นั่งลงข้างๆมาร์ค



    “เข้าไปต่อยไอพีททำไม” 

    มาร์คหันไปมองร่างบางพร้อมกับถามออกไป



    “แล้วทำไมกูจะต่อยมันไม่ได้”



    “กูไม่ได้บอกว่าต่อยไม่ได้ แค่ไม่อยากให้ทำ มึงคิดว่ากูชอบเหรอที่เห็นมึงมีเรื่องกับคนอื่น”



    “แต่มันกวนตีนกูก่อน กูไม่ผิด อีกอย่างมันต่อยมึง ไม่มีใครทำมึงเจ็บได้นอกจากกูจำไว้นะมาร์ค” 

    ร่างบางเอ่ยเสียงแข็งทำให้มาร์คเขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นพร้อมกับจับร่างบางให้หันหน้ามาหาตน



    “แล้วมึงรู้มั้ยว่าอะไรเจ็บกว่าการโดนไอพีทต่อย” 

    มาร์คยกมือขึ้นไปแตะบริเวณมุมปากที่เริ่มบวมของร่างบางพร้อมกับมองตาร่างบางไปด้วย



    “ก็การเห็นมึงมีแผลแบบนี้ไง ทีหลังอย่าทำอีก” 

    ปลายนิ้วหนาลูบบริเวณแผลเบาๆ



    “มึงไม่รู้หรอกว่ากูต้องข่มอารมณ์ขนาดไหนไม่ให้เข้าไปฆ่าไอพีท มึงเจ็บกูก็เจ็บ ถ้ามึงห่วงกูจริงอย่าทำแบบนั้นอีก ตกลงมั้ย” มาร์คพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง


    “กูจะพยายาม” 

    แบมแบมหลุบตาลงต่ำก่อนจะเอ่ยตอบเสียงแผ่ว



    “แล้วเรื่องไอแอล..” 

    มาร์คเกริ่นออกมา



    “มันไม่มีอะไรจริงๆนะเว้ย กูก็แค่โดนเอาชื่อไปอ้าง” 

    แบมแบมรีบโผลงออกมาทันที



    “กูรู้” 

    มาร์คตอบพร้อมกับรั้งร่างบางให้ขึ้นมานั่งบนตักของตน แบมแบมจึงขยับตัวไปตามแรงดึงก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักตามที่มาร์คต้องการ แขนเรียวถูกยกไปพาดบนไหล่หนาด้วยความเคยชิน


    “กูรู้ว่ามึงไม่ทำแบบนั้นหรอก มึงรักกูจะตาย” 

    มาร์ครั้งเอวร่างบางเข้ามากอดพร้อมกับยกยิ้มนิดๆ



    “อย่ามั่นหน้าให้มากมาร์ค ต้วน ระวังเถอะสักวันกูจะแอบมีกิ๊ก”



    “ก็เอาสิ แต่ซ่อนดีๆนะ เพราะถ้ากูจับได้คงศพไม่สวยเท่าไหร่” 

    มาร์คเอ่ยออกไปพร้อมรอยยิ้มร้าย



    “น่ากลัวตายอ่ะ” 

    ร่างบางเบะปากใส่มาร์คด้วยความหมั่นไส้ ทำให้มาร์คอดที่จะยกมือขึ้นไปบีบจมูกรั้นๆตรงหน้าไม่ได้



    “ไหนก้มลงมาให้กูดูแผลหน่อยดิ เจ็บมากมั้ย” 

    มาร์คพูดขึ้นพร้อมกับจับใบหน้าของอีกฝ่ายโน้มลงมา เขาพินิจแผลบริเวณมุมปากอิ่มเล็กน้อยก่อนจะ แผลบ..ลิ้นร้อนถูกส่งออกไปเลียตรงแผลเบาๆทำให้ร่างบางผละออกมาทันที



    “ทำบ้าอะไรเนี่ย..สกปรก” 

    แบมแบมรีบใช้หลังมือเช็ดมุมปาก พร้อมกับจ้องมาร์คเขม่ง



    “สกปรกตรงไหน น้ำลายกูออกจะสะอาด” 

    มาร์คยกยิ้มก่อนจะรั้งหัวทุ้ยให้ก้มลงมาอีกครั้ง แต่แบมแบมกลับขืนหัวเอาไว้



    “โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” 

    ร่างหนาเอ่ยขำๆก่อนจะยื่นหน้าขึ้นไปจูบบริเวณมุมปากอิ่มและเป่าเบาๆ



    “เพี้ยง...หายเจ็บนะครับเมีย” 

    รอยยิ้มโชว์เขี้ยวเผยให้เห็นทำให้ร่างบางหลุดยิ้มออกมาเช่นกัน



    “ปัญญาอ่อน..” 

    แบมแบมเอ่ยขำๆก่อนจะก้มลงไปประกบปากอิ่มเข้ากับปากได้รูปด้านล่างลิ้นเล็กถูกส่งออกไปหยอกล้ออีกฝ่ายพร้อมกับแขนเรียวที่ออกแรงกอดรอบคอของมาร์คมากขึ้น



    “เชี่ย..แสบแผลวะ” 

    ร่างบางทำหน้าเหยเกทันทีที่ผละออกจากอีกฝ่าย



    “แสบเหรอ..งั้นมานี่เดียวกูทายาให้ แต่ก่อนทายากูของสำรวจหาแผลอื่นก่อนแล้วกัน จะได้ทาทีเดียวเลย” 

    พูดจบมือหนาก็ลวงเข้าไปในเสื้อของร่างบางอย่างถือวิสาสะพร้อมกับมองใบหน้าหวานด้วยสายตาหยาดเยิ้ม



    “หาเรื่องเอากูสิไม่ว่า” 

    แบมแบมยกยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน



    “ถ้ารู้งั้นก็ช่วยให้ความรวมมือในการสำรวจหาบาดแผลครั้งนี้ด้วย เพราะกูจะสำรวจอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมไม่ให้หลุดรอดสายตาไปได้เลยหล่ะ” 

    มาร์คยกยิ้มร้ายส่งไปให้ร่างบางก่อนจะรั้งใบหน้าหวานลงมาประกบจูบอีกครั้ง...

     




    ++++++++++++++++++++++++++++++++++


    >>> TBC <<<


    ในที่สุดเรื่องของแอลก็กระจ่างสักที ถึงจะดูวุ่นวายไปหน่อยก็ตาม

    และงานนี้คงต้องชื่นชมพี่มาร์คที่เชื่อในตัวแบมแบมและไม่ตัดสินอะไรโดยใช้อารมณ์

    ถึงพี่เขาจะขี้หึงและหวงเมียมากแต่ก็เป็นคนมีเหตุผลพอที่จะถามหาความจริงก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป

    ส่วนเลเวลหน้าเรามาดูพี่มาร์คสำรวจหาบาดแผลกันดีกว่าว่าจะ 'แซ่บ' ได้ขนาดไหน ห้ามพลาดนะคะ >///<


    #ฟิคลองของ



     

     

     








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×