คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #53 : Level_51
“พีทใช่มั้ย ???”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีที่เดินมาถึงสนามบาสซึ่งตอนนี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า
“ครับ..พี่มาร์คใช่มั้ยครับ”
มาร์คพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำอีกฝ่ายเข้าไปด้านในที่มีนักกีฬากำลังฝึกซ้อมกันอยู่และเมื่อทุกคนหันมาเห็นมาร์คก็รีบก้มหัวทักทายก่อนที่ฮันบินจะวิ่งเข้ามาหาทั้งสองคน
“หวัดดีครับเฮีย ผมนึกว่าช่วงนี้เฮียจะไม่เข้ามาซะอีก”
ฮันบินเอ่ยทักทายพี่รหัสของตนทันที
“กูมารับเมียและก็มีเรื่องต้องเคลียร์นิดหน่อยเลยแวะเข้ามา”
“แหม..เดี๋ยวนี้เรียกเมียเต็มปากเต็มคำเชียวนะ ว่าแต่ซ้อไปไหนซะล่ะไม่เห็นมาด้วยกัน”
ฮันบินแซวขำๆพร้อมกับชะโงกหาร่างบางที่น่าจะมาพร้อมรุ่นพี่ของตน
“เดี๋ยวก็มา มึงไปซ้อมต่อไป ส่วนนายตามฉันมา”
มาร์คเอ่ยตอบด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
ทำให้ฮันบินหรี่ตามองตามรุ่นพี่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปก่อนที่เขาจะเดินกลับไปซ้อมตามเดิม
ส่วนพีทก็เดินตามมาร์คไปนั่งยังสแตนด้านข้างสนาม
“พูดกูมึงไม่ถือใช่มั้ย”
มาร์คที่นั่งลงก่อนเอ่ยออกมาพร้อมกับมองไปทางสนาม
“ตามสบายครับ
ว่าแต่พี่เรียกผมมามีอะไรรึเปล่า”
“ก็แค่มีเรื่องที่ยังคาใจนิดหน่อย ว่าแต่มึงติดต่อไอแอลได้มั้ย”
“ไม่ได้ครับ..พี่เขาเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว”
“แล้วมึงไปเจอมันได้ยังไง”
“ผมไปดักเจอเขาน่ะ
แต่พี่อย่าบอกเรื่องนี้กับเจ๊แพทนะผมขี้เกียจฟังเจ๊บ่น”
“รู้ว่าไอแพทต้องบ่นแล้วจะทำไปทำไม เจ็บไม่จำว่างั้น”
มาร์คหันมามองน้องชายเพื่อนพร้อมกับเอ่ยออกมาไม่จริงจังนัก
เพราะยังไงเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่แล้ว
“พี่รู้เรื่องผมด้วยเหรอ”
“อืม..ไอแพทเล่าให้ฟัง แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่กูต้องเข้าไปยุ่งนิจริงมั้ย”
“เฮ้อ..ผมรู้ว่ามันฟังดูโง่ที่ทำอย่างงั้นแต่ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้จริงๆวะพี่”
“ก็นะ..”
มาร์คยักไหล่ส่งกลับไปก่อนจะนั่งมองไปที่สนามพร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง
“ไอฮันบิน !!!”
แล้วอยู่ๆมาร์คก็ตะโกนเรียกรุ่นน้องที่เล่นอยู่ในสนามทำให้ฮันบินหันมามองอีกฝ่ายทันที
“ว่าไงเฮีย”
ฮันบินหยุดยืนก่อนขานรับ
“ไอบ๊อบไปไหน”
“ไปดูดบุหรี่มั้ง..เดี๋ยวมันก็มา”
“ถ้ามันมาให้เดินมาหากูหน่อย”
มาร์คพูดแค่นั้นก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด
“คือ..ผมขอถามอะไรพี่หน่อยได้มั้ย”
เสียงพูดทำให้มาร์คผละจากโทรศัพท์ในมือและหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ว่า..”
“พี่เป็นแฟนกับไอเด็กปากเสียนั่นจริงๆเหรอ”
“หึ..พูดแบบนี้แสดงว่าเจอมันแผงฤทธิ์เข้าให้แล้วล่ะสิ”
“ก็..นิดหน่อย”
“เออ..กูเป็นแฟนมัน แล้วมึงไม่ต้องกลัวหรอกนะถ้าเรื่องที่มึงพูดเป็นความจริง กูก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน”
มาร์คเอ่ยเสียงเครียดก่อนจะหันไปเห็นรุ่นน้องที่เขาต้องการเจอตัวกำลังเดินเข้าประตูมา
“ไอบ๊อบ..เฮียมาร์คเรียกหาวะ”
และทันทีที่บ๊อบบี้เดินไปสมทบกับเพื่อนในสนามฮันบินก็รีบวิ่งมาบอกทันที
“เรียกกูเนี่ยนะ”
บ๊อบบี้ชี้ตัวเองด้วยสีหน้างงๆ
“เออ..เขานั่งรอมึงอยู่ที่สแตนนั้นไง”
ฮันบินพยักเพยินหน้าไปทางสแตนที่มาร์คและพีทนั่งอยู่
“แล้วนั้นใครวะ”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่กูว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ กูเห็นเฮียหน้าเครียดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
“เออๆ งั้นเดียวกูไปหาเขาก่อน”
บ๊อบบี้พูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนเดินไปหามาร์คที่นั่งมองมาทางเขา
“ลมอะไรหอบมาครับเฮียมาร์คสุดหล่อ”
และทันทีที่เขาเดินไปถึงสแตนการทักทายกวนๆตามสไตล์ก็ถูกส่งออกมา
“กูมีอะไรให้มึงช่วยหน่อย”
มาร์คไม่รอช้าเอ่ยสิ่งที่ต้องการกับรุ่นน้องทันที
“อั๊ยยะ..ท่าทางพายุจะเข้า เฮียถึงขั้นออกปากขอให้ผมช่วย”
บ๊อบบี้พูดออกมาด้วยท่าทีขำๆ
“อย่าพึ่งกวนตีน เพื่อนมึงที่ชื่อดินเป็นน้องรหัสไอแอลใช่มั้ย”
มาร์คถามสิ่งที่อยากรู้ออกไป
“ใช่..”
บ๊อบบี้พยักหน้ารับ
“งั้นมึงโทรหามันให้กูหน่อย”
“เฮียมีอะไรกับมันเหรอ”
บ๊อบบี้ถามขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรตามที่รุ่นพี่บอก
“กูไม่มีอะไรกับมันแต่มีกับพี่รหัสมัน
มึงบอกมันให้ติดต่อไอแอลให้กูหน่อย กูมีเรื่องอยากคุยด้วย”
“พี่แอลกลับมาแล้วเหรอเฮีย”
“เออ..”
มาร์คตอบห้วนๆ
บ๊อบบี้จึงกดโทรไปหาเพื่อนตามที่มาร์คต้องการ เขารอสายไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ
“ฮัลโหล..ไอดิน พี่แอลกลับมาจากจีนแล้วใช่มั้ย แล้วมึงติดต่อพี่เขาได้มั้ย...อ้าวเหรอ”
บ๊อบบี้หันมามองมาร์คก่อนจะพูดแบบไม่มีเสียงว่าแอลอยู่กับดินตอนนี้
“งั้นเอามานี่ กูคุยเอง”
สิ้นเสียงโทรศัพท์ในมือก็ถูกมาร์คหยิบไปทันที
“ฮัลโหล ไอดิน..กูมาร์คนะ ตอนนี้ไอแอลอยู่กับมึงใช่มั้ย งั้นกูขอคุยกับมันหน่อย”
มาร์คนั่งรอสายไม่นานแอลก็มารับสายแทน
( ฮัลโหล..)
เสียงแอลดังขึ้นหลังจากรุ่นน้องมาบอกว่ามีคนอยากคุยกับเขา
“ไอแอล..กูมาร์คนะ”
มาร์คตอบกลับเสียงเรียบ
( มาร์ค ??? )
แอลเอ่ยทวนก่อนเงียบไปเพราะดูเหมือนจะจำอีกฝ่ายไม่ได้
“มาร์คประธานชมรมบาส”
มาร์คเอ่ยขยายความอีกนิด
( อ๋อ..มีอะไรรึเปล่า
เห็นดินมันบอกว่านายอยากคุยกับฉัน )
“ตอนนี้ว่างมั้ย..มาเจอกันหน่อยสิ”
( มีเรื่องด่วนเหรอ )
“ใช่..ด่วนมาก”
มาร์คเริ่มกดเสียงต่ำอย่างห้ามไม่อยู่
( งั้นขอเวลาแปปนึงได้มั้ย พอดีฉันประชุมกับรุ่นน้องอยู่
)
“ได้..กูจะรออยู่ที่สนามบาส
เสร็จเมื่อไหร่ก็มาแล้วกัน”
( โอเค.. )
สิ้นเสียงแอลก็กดตัดสายไป มาร์คจึงยื่นโทรศัพท์คืนให้บ๊อบบี้
“เฮียมีอะไรกับพี่แอลเหรอ”
บ๊อบบี้ถามสิ่งที่อยากรู้ออกไปทันที
“ไม่มีอะไร มึงไปซ้อมไป”
มาร์คเลือกที่จะตอบเลี่ยงๆเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดมากนัก
“ถ้าเฮียว่างั้นผมก็จะไม่ถามต่อ
แต่ถ้ามีเรื่องอะไรเฮียเรียกพวกผมได้เลยนะ”
“เออ..ไปได้แล้ว”
บ๊อบบี้พยักหน้ารับก่อนจะเหลือบมองพีทที่นั่งนิ่งมองมาที่เขาเช่นกัน
“งั้นผมไปนะ”
บ๊อบบี้พูดขึ้นก่อนเดินผละออกไปในจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์ของมาร์คดังขึ้น
มือหนารีบกดรับสายทันทีที่เห็นว่าเป็นเบอร์ของร่างบาง
( มึงอยู่ไหน.. )
แบมแบมกรอกเสียงฝ่ายโทรศัพท์ทันทีที่มาร์คกดรับ
“เสร็จแล้วเหรอ”
( อืม..พึ่งเสร็จเนี่ย
แล้วนี่อยู่ไหนเห็นฮานะบอกว่ามึงให้กูโทรหา )
“อยู่สนามบาส”
( ไปทำอะไรที่สนาม )
“ก็มานั่งรอมึงไง ถ้าเสร็จเรื่องแล้วก็เดินมาและกัน
งั้นแค่นี้นะ”
( เดี๋ยว.. )
“อะไร”
( มึงเป็นอะไร )
แบมแบมที่จับพิรุธได้เอ่ยถามเสียงเรียบ
“.....”
มาร์คเลือกที่จะเงียบแทนคำตอบ
“มึงอย่ามาเงียบใส่กูแบบนี้นะมาร์ค
เป็นอะไรก็พูด”
“มาก่อนแล้วค่อยคุยกัน แค่นี้นะ..”
พูดจบมาร์คก็กดตัดสายไป
เอาจริงๆเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เขาเชื่อใจร่างบางน้อยลงเพราะเขามั่นใจว่าแบมแบมไม่ได้ชอบผู้ชาย
แต่ในเมื่อมีพยานรู้เห็นแถมยังยืนยันเต็มเสียงว่าเขาถูกหลอก เขาจึงต้องการได้ยินจากปากทุกฝ่ายว่าความจริงคืออะไร
และเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง มาร์คเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนจะนั่งมองไปยังสนามที่รุ่นน้องกำลังซ้อมกันอยู่
ส่วนพีทก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นค่าเวลาเพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับรุ่นพี่ด้านข้างเช่นกัน
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆแบมแบมก็เดินมาถึงบริเวณสนามบาสพร้อมๆกับแอลที่เดินมาเจอร่างบางบริเวณหน้าทางเข้า
“แบมแบม..”
แอลเอ่ยเรียกชื่อรุ่นน้องก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
“อ้าว..พี่แอล มาทำไรแถวนี้พี่ แล้วนั้นขาเป็นไงบ้างดีขึ้นรึยัง”
แบมแบมถามกลับไปเพราะสนามแบดจะอยู่อีกฟากของคณะทำให้เขาแปลกใจที่เห็นรุ่นพี่ที่นี่
“เริ่มดีขึ้นแล้ว ว่าแต่นายมาทำอะไรล่ะ”
“ผมนัดแฟนไว้ พี่เถอะมาทำอะไร คอร์ดแบดอยู่อีกฟากไม่ใช่เหรอ”
“พอดีเพื่อนนัดมาคุยน่ะ นายจะเข้าไปมั้ยจะได้ไปพร้อมกันเลย”
แอลเสนอขึ้นด้วยท่าทีปกติผิดกับร่างบางที่เริ่มรู้สึกแปลกๆเพราะรุ่นพี่นักแบดคนนี้ไม่น่าจะมีเพื่อนอยู่ที่นี่
หรือเขาจะคิดมากไปเอง แบมแบมสลัดความคิดนั้นทิ้งก่อนพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับแอล
“มากันแล้ว..ถ้าพี่ไม่เชื่อที่ผมพูด ก็ดูเอาเองแล้วกัน”
อยู่ๆพีทก็พูดขึ้นมาพร้อมกับพยักเพยินหน้าไปทางประตูซึ่งตอนนี้มีแบมแบมและแอลเดินคุยกันเข้ามาด้านใน
มาร์คที่หันไปมองตามที่รุ่นน้องบอกถึงกับกัดฟันกรอดเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังเริ่มเดือดขึ้นทีละนิด
“ทีนี้พี่เชื่อผมรึยัง”
พีทยังคงเอ่ยย้ำในสิ่งที่เขาเคยพูด
แต่มาร์คก็ยังคงนั่งนิ่งและมองไปที่คนทั้งคู่โดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
“มาแล้วเหรอครับซ้อแบม”
เสียงแซวดังมาจากบ๊อบบี้ที่หันมาเห็นร่างบางเข้าพอดี
“ตลกและพี่บ๊อบ ซ้อเซ้ออะไร ไร้สาระวะ”
ร่างบางหยุดเดินและหันไปตอบโต้บ๊อบบี้ขำๆ ผิดกับแอลที่ยืนตัวแข็งทือเมื่อหันไปเห็นพีทที่นั่งอยุ่กับมาร์คบนสแตน
“แบมแบม..พะ พี่ว่าพี่ไปก่อนดีกว่า”
แอลเอ่ยเสียงสั่นๆทำให้แบมแบมหันไปมองรุ่นพี่ทันที
“ทำไมอ่ะพี่ ไม่ไปหาเพื่อนแล้วเหรอ”
“คือ...พี่”
แอลเอ่ยตอบตะกุกตะกัก ทำให้แบมแบมเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นมือเรียวยกขึ้นจับไหล่รุ่นพี่เบาๆเพราะเขารู้สึกว่าอีกฝ่ายดูตัวสั่นจนเห็นได้ชัด
“แบมแบม !!!”
และแล้วเสียงทุ้มต่ำก็ดังก้องไปทั่วสนามบาส
ทำให้ร่างบางหันไปมองก่อนจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างมากขึ้น
“เป็นเรื่องจนได้สินะ..”
แบมแบมเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเครียดๆเมื่อเห็นพีทนั่งอยุ่ข้างๆมาร์คบนสแตน ร่างบางจึงปล่อยมือจากรุ่นพี่ก่อนหันไปมองบนสแตนด้วยสีหน้านิ่งๆ
“มึงมาทำเหี้ยอะไรที่นี่ไม่ทราบ”
ร่างบางเอ่ยถามกลับไปพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้สแตนที่มาร์คและพีทนั่งอยู่ แบมแบมเดินไปหยุดยืนด้านหน้าก่อนจะวางประเป๋าลงและหันไปมองพีทด้วยสายตาแข็งกร้าว
“ถ้าจะมาเคลียร์กับกูก็ลงมา”
ร่างบางหันไปพูดกับพีทที่มองลงมาที่เขาเช่นกัน
“แบมแบม”
มาร์คเอ่ยปามอีกฝ่าย แต่มีเหรอที่ร่างบางจะฟังเขายังคงจ้องหน้าพีทไม่วางตา
“หึ..ก่อนจะเคลียร์กับกูมึงเคลียร์กับพี่เขาก่อนดีกว่ามั้ง”
พีทเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเยาะทำให้ร่างบางทำท่าจะพุงขึ้นไปกระชากอีกฝ่ายลงมาถ้าไม่ติดว่าแอลเดินเข้ามารั้งแขนเรียวเอาไว้ซะก่อน โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำดังกล่าวกำลังทำให้มาร์คหงุดหงิดมากขึ้น
“อย่ามีเรื่องเลยนะ แบมแบม”
แอลเอ่ยห้าม
ร่างบางจึงหันไปมองรุ่นพี่ก่อนจะมองมือที่จับเขาอยู่และรีบหันกลับไปมองมาร์คที่เริ่มหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ทำให้แบมแบมรีบเอามือรุ่นพี่ออกไปจากแขนทันที
“ไอแอล..”
มาร์คที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นในที่สุด
“ว่าไง..มีเรื่องด่วนอะไรก็รีบๆพูดเถอะมาร์ค ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นาน”
แอลพูดขึ้นพร้อมกับเหลือบมองพีทไปด้วย
“กลับมาจากจีนนานรึยัง”
“กลับมาได้สองอาทิตย์แล้ว”
“กลับมาแค่สองอาทิตย์ ก็หาแฟนได้แล้วมึงนี่ยังสเน่ห์แรงไม่เปลี่ยนเลยนะ”
มาร์คยกยิ้มมุมปากผิดกับอีกสามคนที่เริ่มหน้าเครียดโดยเฉพาะแบมแบมที่จ้องหน้ามาร์คเขม่ง
“มาร์ค คือเรื่องนั้น..”
ร่างบางที่เริ่มจับใจความอะไรบางอย่างได้พยายามจะอธิบายแต่มาร์คก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
“อย่าพึ่งขัด..กูยังคุยกับไอแอลไม่จบ”
มาร์คมองร่างบางเล็กน้อยก่อนหันไปสนใจแอลอีกครั้ง
“คะ..ใครบอกนาย”
แอลถามกลับไปบ้าง
“ไอพีท..”
มาร์คชี้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างซึ่งตอนนี้กำลังมองไปที่แอลไม่วางตาเช่นกัน
“พี่เป็นคนบอกผมเองนี่ครับ ว่ามันเป็นแฟนใหม่พี่”
พีทเอ่ยขึ้นพร้อมกับพยักเพยินหน้าไปที่ร่างบาง
“กะ..ก็ใช่ แต่”
“งั้นสรุปว่ามึงเป็นแฟนกัน กูเข้าใจถูกมั้ย”
มาร์คลุกขึ้นยืนหลังจากพูดจบก่อนจะค่อยๆเดินลงไปหาร่างบางที่ตอนนี้ยืนกำมือเข้าหากันจนแน่น
“คือ..แบบว่า”
แอลเอ่ยตะกุกตะกักเขาไม่รู้ว่ามาร์คต้องการอะไร แต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย
“ตอบพี่มาร์คไปสิครับพี่แอล ตอบเหมือนที่พี่บอกผมไง”
พีทเอ่ยกดดันออกมาอีก ทำให้แอลเริ่มเหงื่อตกเพราะกำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“มึงไม่ต้องตอบกูก็ได้ แต่มึงรู้อะไรมั้ยไอแอล”
มาร์คพูดขึ้นก่อนจะยกแขนขึ้นไปกอดคอร่างบางเอาไว้พร้อมกับจ้องแอลเขม่ง ทำให้แอลที่หันไปมองทั้งสองคนเริ่มกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ระ..รู้อะไร”
“ก็รู้ว่าไม่ควรมายุ่งกับของๆคนอื่น เพราะคนที่มึงบอกว่าเป็นแฟนมึง คือ เมียกู !!!”
ร่างหนาเอ่ยเสียงกร้าวพร้อมกับเน้นคำอย่างชัดเจน
ทำให้แอลสะดุ้งโหยงและมองหน้ามาร์คกับแบมแบมสลับกันไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...
50%
“มะ..เมื่อกี้ นายว่ายังไงนะ”
แอลเอ่ยถามออกมาหน้าตาตื่น
“กูบอกว่า แบมแบมเป็นเมียกู คราวนี้มึงได้ยินชัดพอมั้ย”
มาร์คเอ่ยออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ขณะที่แบมแบมได้แต่ยืนนิ่งเงียบไม่ได้พูดโต้แย้งใดๆ
“รู้แบบนี้แล้วมึงมีอะไรอยากบอกกูมั้ยไอแอล”
มาร์คปล่อยมือออกจากคอร่างบางก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แอลมากขึ้น
“คือ..ฉัน”
แอลเอ่ยตะกุกตะกักพร้อมกับมองเลยไปที่ร่างบางเพื่อขอความช่วยเหลือ
“กูถามว่ามีอะไรจะบอกกูมั้ย !!!”
มาร์คตะโกนก้องก่อนจะพุงเข้าไปกระชากคอเสื้อแอลอย่างแรงจนแว่นของอีกฝ่ายล่วงลงไปบนพื้น
“เฮ้ย..!!!”
พีทอุทานขึ้นพร้อมกับรีบวิ่งพรวดพราดลงมาหาแอลทันที
เช่นเดียวกับร่างบางที่วิ่งเข้าไปรั้งมาร์คเอาไว้
“เงียบทำเหี้ยไร..พูดมา”
มาร์คที่ตอนนี้ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เอ่ยคาดคันแอลอีกครั้งโดยไม่สนใจร่างบางและพีทที่พยายามห้ามตนเอง
ส่วนแอลก็เริ่มหน้าซีดตัวสั่นเขาทำได้เพียงแค่เม้มปากเข้าหากันจนดูซีดเผือดไปหมด
“เฮ้ยพี่..ใจเย็นดิวะ ปล่อยพี่แอลก่อน”
พีทที่พยายามดันมาร์คออกไปเอ่ยเสียงเครียด
“มึงจะพูดหรือไม่พูดไอแอล”
มาร์คกดเสียงต่ำอย่างเหลืออดและยังคงไม่สนใจใครจนในที่สุดหมัดหนักๆก็ถูกส่งออกไป แต่ดีที่พีทไหวตัวทันและรีบกระชากแอลออกมา
ก่อนจะพุ่งเข้าไปต่อยมาร์คทำให้ร่างหนาเซถอยหลังไปหลายก้าวมือหนาถูกยกขึ้นมาจับปลายคางพร้อมกับสายตาวาวโรจน์ที่ส่งไปยังรุ่นน้องต่างคณะ
“สัส...มึงกล้าต่อยแฟนกูเหรอ !!!”
แต่ก่อนที่มาร์คจะเข้าไปจัดการกับน้องชายเพื่อนร่างบางที่ยืนอยู่ด้านหลังก็พุ่งตัวเข้าไปหาพีทเสียแล้ว
พลั่ก..
แบมแบมวิ่งเข้าไปถีบเข้ากลางลำตัวของพีททำให้อีกฝ่ายล้มลง
ก่อนจะขึ้นไปคร่อมร่างสูงและเริ่มปล่อยหมัดออกไป และแน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทำให้คนทั้งสนามหันมามองทางพวกเขาเป็นตาเดียว
“หยุดนะ..ฉันบอกให้หยุดไง”
แอลรีบควานหาแว่นที่พื้นขึ้นมาใส่ก่อนจะเข้าไปห้ามทั้งคู่แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเมื่ออารมณ์เกรียวกราดกำลังครอบงำพวกเขาในตอนนี้
“เหี้ยแล้วไง”
ฮันบินที่หันไปเห็นอุทานออกมาด้วยสีหน้าเครียดๆก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปดูโดยมีบ๊อบบี้วิ่งตามไปติดๆ
“ไอแบมหยุด..”
มาร์คตะโกนก้องก่อนจะรีบเข้าไปห้ามร่างบาง
มือหนาพยายามรั้งตัวแบมแบมให้ลุกออกมาจากพีทแต่ร่างบางกลับสะบัดตัวออกและพุ่งเข้าใส่พีทอีกครั้งและแน่นอนว่าพีทก็ไม่ได้ปล่อยให้ร่างบางกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเขาตอบโต้กลับมาร่างบางจึงโดนอีกฝ่ายเล่นงานเช่นกันและเมื่อหมัดของพีทโดนเข้าที่หน้าของร่างบางอารมณ์เดือดก็ยิ่งปะทุมากขึ้นเพราะเลือดอุ่นๆเริ่มซึ่มออกมาบริเวณมุมปากอิ่ม
แบมแบมยกมือขึ้นแตะมุมปากก่อนจะรับรู้ได้ถึงเลือดที่ไหลออกมา
“เหี้ยเอ้ยย...อย่าอยู่เลยมึง”
ร่างบางมองเลือดที่ติดมือออกมาก่อนจะประกาศกร้าวและปล่อยหมัดใส่คนตรงหน้าไม่ยั้ง
ทั้งคู่ตะลุมบอนกันไปมาจังหวะเดียวกับที่ฮันบินและบ๊อบบี้วิ่งมาถึงจึงรีบเข้าไปช่วยมาร์คแยกทั้งสองคนออกจากกัน
“ปล่อยกู..กูจะฆ่ามัน ปล่อยดิวะ”
แบมแบมดิ้นไปมาอย่างแรงระหว่างที่บ็อบบี้กับมาร์คช่วยกันแยกร่างบางออกจากพีทได้สำเร็จ
ขณะเดียวกันฮันบินก็รีบดันพีทให้ถอยห่างออกไปโดยมีแอลเข้ามาช่วยอีกแรง
“ปล่อยมันมา..คิดว่ากูกลัวมึงรึไง”
พีทก็ตะโกนกลับไปอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“มาร์คปล่อยกู..วันนี้ถ้าไม่ได้ฆ่ามันอย่าเรียกกูว่าแบมแบมเลย ปล่อย..”
แบมแบมยังคงสะบัดตัวไปมาไม่หยุดจนมาร์คต้องรวบตัวร่างบางเอาไว้ทั้งตัวโดยมีบ๊อบบี้ยืนระวังอยู่ไม่ห่าง
“หยุด...กูบอกให้หยุดไงแบมแบม”
มาร์คกดเสียงต่ำก่อนจะออกแรงกอดรัดอีกฝ่ายมากขึ้นทำให้ร่างบางหยุดดิ้นในที่สุด
“พีทหยุด !!!”
แอลเองก็เอ่ยห้ามพีทที่ยังคงสะบัดตัวไปมาไม่เลิกก่อนจะ เพี๊ยะ !!! ใบหน้าของพีทหันไปตามแรงตบของแอล
“หยุดบ้าได้แล้ว..”
พีทนิ่งไปทันที
ก่อนจะค่อยๆหันกลับมามองแอลที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำตาไหลออกมาอาบสองแก้ม
“หยุดสักที..ฮรึก พอแล้ว”
แอลสะอื้นจนตัวโยนพร้อมกับมองหน้าพีทไปด้วย
“พี่มาตบผมทำไม มันต่อยผมก่อนพี่ก็เห็น”
พีทเถียงกลับไปและมองแอลด้วยสายตาไม่เข้าใจ
“ก็มึงต่อยแฟนกูก่อน”
แบมแบมรีบเถียงออกไปทำให้แอลหันกลับมามองร่างบาง
“แต่พี่มาร์คจะต่อยพี่แอล กูก็ต้องช่วยเขาไม่ถูกรึไง”
พีทก็ยังเถียงกลับไปอย่างไม่ยอมจนร่างบางทำท่าจะพุงเข้าหาร่างสูงอีกครั้ง
“พอ..เลิกกัดกันได้แล้ว ส่วนมึงไอแอลเล่ามาให้หมดว่านี่มันเรื่องเหี้ยอะไร ทำไมมึงถึงมาเป็นแฟนเมียกูได้”
มาร์คเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเหยียบพร้อมกับมองไปที่แอลที่ยังยืนร้องไห้ไม่หยุด
“ฮรึก..ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับแบมแบมทั้งนั้น เขาก็แค่เดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดีฉันเลยพูดแบบนั้นออกไป ขอโทษด้วยที่ทำให้เข้าใจผิด”
แอลที่พอจะสงบลงบ้างแล้วเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองร่างบางและมาร์คสลับกันไปมาด้วยใบหน้าสำนึกผิด
“ทำไม...พี่ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรพี่แอล เกลียดผมมากรึไงถึงต้องทำขนาดนี้”
พีทรู้สึกเหมือนโดนตีแสกกลางหน้าเมื่อรู้ว่าถูกอีกฝ่ายหลอก
“ฉันไม่ได้เกลียดนาย ไม่เคยเกลียด”
แอลรีบหันไปพูดกับพีททันที
“ถ้าไม่เกลียดแล้วพี่ทำไปทำไม อยากเห็นผมทรมานมากนักใช่มั้ย สนุกสินะที่ปั่นหัวผมได้”
พีทเริ่มโวยวายออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ขณะที่แอลส่ายหน้าไปมาก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาอีกครั้ง
“ไม่ใช่...มันไม่ใช่แบบนั้น”
“ไม่ใช่แบบนั้นแล้วแบบไหน
เกลียดผมก็พูดออกมาตรงๆดีกว่า”
“ฉัน..ไม่ได้”
แอลยังพูดไม่ทันจบร่างบางที่ยืนดูอยู่ก็โพลงออกมาอย่างเหลืออด
“พี่แอล..ผมว่าพี่บอกๆมันไปเหอะวะ มันจะได้เลิกโง่เป็นควายสักที”
แบมแบมผละออกมาจากมาร์คก่อนเดินเข้าไปใกล้แอลมากขึ้น
“แต่..”
แอลเห็นดังนั้นจึงมีท่าทางอึกอัก
“ถ้าพี่ไม่พูด..ผมพูดเอง”
แบมแบมพูดแค่นั้นก่อนหันไปหาพีทที่จ้องมาที่เขาไม่วางตา
“กูก็ไม่ได้อยากเสือกหรอกนะ แต่กูสงสารพี่เขาที่ต้องมาโดนแบบนี้ มึงรู้มั้ยว่าทำไมพี่เขาถึงเอากูมาอ้างว่าเป็นแฟนใหม่ของเขา”
แบมแบมเอ่ยเสียงเข้มพร้อมกับจ้องพีทกลับไป
“ก็เพราะคนที่บ้านมึงโทรมาอาระวาทพี่เขาไง”
กึก..พีทชะงักไปก่อนจะหันไปมองแอลที่ยืนก้มหน้าก้มตาไม่กล้าเงยหน้ามามองเขา
“จริงรึเปล่าพี่แอล”
พีทเอ่ยเสียงเครียด
“พี่แอล...ผมถามว่าจริงมั้ย !!!”
พีทถามออกไปอีกครั้งทำให้แอลพยักหน้ารับนิดๆ และนั้นทำให้พีทรีบเดินเข้าไปหาแอลทันที
“แล้วทำไมพี่ไม่บอกผม”
พีทจับแอลให้เงยหน้ามามองตนเอง
“คือ..ฉัน”
แต่แอลก็ยังคงก้มหน้าก้มตา
ในขณะที่มาร์คยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้านิ่งๆและไม่ได้พูดอะไร
“สรุปคือกูไม่ได้เป็นแฟนพี่แอล เข้าใจตรงกันทุกคนนะ”
ร่างบางพูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก่อนจะเดินกลับไปหามาร์คที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“จะกลับได้รึยัง..”
แบมแบมเดินไปหยุดตรงหน้ามาร์คก่อนเอ่ยเสียงเหวี่ยงๆ
“ก็ไปสิ..”
เมื่อได้ยินดังนั้นร่างบางก็เดินออกไปจากสนามทันที มาร์คมองตามอีกฝ่ายไปเล็กน้อยแล้วจึงหันกลับมามองทุกคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นพร้อมกับพูดบางอย่างออกมา
“ไอแอลกูไม่สนหรอกนะว่ามึงจะมีปัญหาอะไรกับใคร แต่มึงไม่มีสิทธิ์ลากคนของกูไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ และกูขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่าของๆกูใครก็ห้ามแตะ จำไว้ !!!”
เสียงทุ้มประกาศกร้าวก่อนจะเดินตามร่างบางออกไปโดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่รุ่นน้องทั้งสองคนที่ยืนมองหน้ากันงงๆ
มาร์ครีบเดินตามร่างบางออกมาด้านนอกแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเดินไวกว่าที่คิด
เขาจึงรีบสาวเท้าตามร่างบางไปจนถึงหนูแดงที่จอดอยู่ไม่ไกล
“เปิดดิ..”
แบมแบมพูดขึ้นเมื่อเห็นมาร์ค มือหนาจึงกดรีโมทเปิดรถตามที่อีกฝ่ายต้องการ
แบมแบมเข้าไปนั่งด้านในทันทีก่อนจะตามมาด้วยเสียงปิดประตูรถที่ดังสนั่นไปทั่วลานจอด
“เฮ้อ..”
มาร์คยืนมองอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และเดินเข้าไปนั่งในรถเช่นกัน
ร่างหนาสตาร์ทหนูแดงแล้วขับออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร ตลอดทางพวกเขาไม่ได้คุยอะไรกันจะมีก็เพียงเสียงถอนหายใจเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ในที่สุดหนูแดงก็เลี้ยวเข้าไปจอดภายในคอนโดและเมื่อรถจอดสนิทร่างบางก็ลงจากรถและเดินขึ้นห้องโดยไม่สนใจมาร์ค
“คนที่ควรโกรธต้องเป็นกูไม่ใช่เหรอวะ”
มาร์คพูดกับตัวเองก่อนจะดับเครื่องและตามร่างบางขึ้นไปบนห้อง มาร์คเปิดตูประเข้าไปในห้องก่อนเดินไปยังห้องนอนที่ร่างบางอยู่ตอนนี้
“แบมแบม”
มาร์คเปิดประตูห้องนอนก็พบว่าร่างบางกำลังสำรวจใบหน้าของตนอยู่หน้ากระจก
“....”
เงียบแบมแบมไม่แม้แต่จะหันมามองอีกฝ่าย
“ออกมานี่หน่อย เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
มาร์คพูดทิ้งไว้แค่นั้นแล้วเดินออกไปจากห้องนอน
ร่างบางจึงหันไปมองอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจและเดินตามมาร์คออกมาด้านนอก
“มานั่งนี่..”
มาร์คที่นั่งอยู่บริเวณห้องนั่งเล่นเรียกร่างบางให้เดินไปหาตน
แบมแบมยืนมองนิ่งๆก่อนจะเดินไปนั่งตามที่อีกฝ่ายบอก
“มีอะไร..”
แบมแบมเอ่ยถามเสียงเรียบทันทีที่นั่งลงข้างๆมาร์ค
“เข้าไปต่อยไอพีททำไม”
มาร์คหันไปมองร่างบางพร้อมกับถามออกไป
“แล้วทำไมกูจะต่อยมันไม่ได้”
“กูไม่ได้บอกว่าต่อยไม่ได้
แค่ไม่อยากให้ทำ มึงคิดว่ากูชอบเหรอที่เห็นมึงมีเรื่องกับคนอื่น”
“แต่มันกวนตีนกูก่อน กูไม่ผิด อีกอย่างมันต่อยมึง ไม่มีใครทำมึงเจ็บได้นอกจากกูจำไว้นะมาร์ค”
ร่างบางเอ่ยเสียงแข็งทำให้มาร์คเขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นพร้อมกับจับร่างบางให้หันหน้ามาหาตน
“แล้วมึงรู้มั้ยว่าอะไรเจ็บกว่าการโดนไอพีทต่อย”
มาร์คยกมือขึ้นไปแตะบริเวณมุมปากที่เริ่มบวมของร่างบางพร้อมกับมองตาร่างบางไปด้วย
“ก็การเห็นมึงมีแผลแบบนี้ไง ทีหลังอย่าทำอีก”
ปลายนิ้วหนาลูบบริเวณแผลเบาๆ
“มึงไม่รู้หรอกว่ากูต้องข่มอารมณ์ขนาดไหนไม่ให้เข้าไปฆ่าไอพีท
มึงเจ็บกูก็เจ็บ ถ้ามึงห่วงกูจริงอย่าทำแบบนั้นอีก ตกลงมั้ย”
มาร์คพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“กูจะพยายาม”
แบมแบมหลุบตาลงต่ำก่อนจะเอ่ยตอบเสียงแผ่ว
“แล้วเรื่องไอแอล..”
มาร์คเกริ่นออกมา
“มันไม่มีอะไรจริงๆนะเว้ย กูก็แค่โดนเอาชื่อไปอ้าง”
แบมแบมรีบโผลงออกมาทันที
“กูรู้”
มาร์คตอบพร้อมกับรั้งร่างบางให้ขึ้นมานั่งบนตักของตน แบมแบมจึงขยับตัวไปตามแรงดึงก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักตามที่มาร์คต้องการ แขนเรียวถูกยกไปพาดบนไหล่หนาด้วยความเคยชิน
“กูรู้ว่ามึงไม่ทำแบบนั้นหรอก มึงรักกูจะตาย”
มาร์ครั้งเอวร่างบางเข้ามากอดพร้อมกับยกยิ้มนิดๆ
“อย่ามั่นหน้าให้มากมาร์ค ต้วน
ระวังเถอะสักวันกูจะแอบมีกิ๊ก”
“ก็เอาสิ แต่ซ่อนดีๆนะ เพราะถ้ากูจับได้คงศพไม่สวยเท่าไหร่”
มาร์คเอ่ยออกไปพร้อมรอยยิ้มร้าย
“น่ากลัวตายอ่ะ”
ร่างบางเบะปากใส่มาร์คด้วยความหมั่นไส้
ทำให้มาร์คอดที่จะยกมือขึ้นไปบีบจมูกรั้นๆตรงหน้าไม่ได้
“ไหนก้มลงมาให้กูดูแผลหน่อยดิ เจ็บมากมั้ย”
มาร์คพูดขึ้นพร้อมกับจับใบหน้าของอีกฝ่ายโน้มลงมา เขาพินิจแผลบริเวณมุมปากอิ่มเล็กน้อยก่อนจะ แผลบ..ลิ้นร้อนถูกส่งออกไปเลียตรงแผลเบาๆทำให้ร่างบางผละออกมาทันที
“ทำบ้าอะไรเนี่ย..สกปรก”
แบมแบมรีบใช้หลังมือเช็ดมุมปาก
พร้อมกับจ้องมาร์คเขม่ง
“สกปรกตรงไหน น้ำลายกูออกจะสะอาด”
มาร์คยกยิ้มก่อนจะรั้งหัวทุ้ยให้ก้มลงมาอีกครั้ง แต่แบมแบมกลับขืนหัวเอาไว้
“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว”
ร่างหนาเอ่ยขำๆก่อนจะยื่นหน้าขึ้นไปจูบบริเวณมุมปากอิ่มและเป่าเบาๆ
“เพี้ยง...หายเจ็บนะครับเมีย”
รอยยิ้มโชว์เขี้ยวเผยให้เห็นทำให้ร่างบางหลุดยิ้มออกมาเช่นกัน
“ปัญญาอ่อน..”
แบมแบมเอ่ยขำๆก่อนจะก้มลงไปประกบปากอิ่มเข้ากับปากได้รูปด้านล่างลิ้นเล็กถูกส่งออกไปหยอกล้ออีกฝ่ายพร้อมกับแขนเรียวที่ออกแรงกอดรอบคอของมาร์คมากขึ้น
“เชี่ย..แสบแผลวะ”
ร่างบางทำหน้าเหยเกทันทีที่ผละออกจากอีกฝ่าย
“แสบเหรอ..งั้นมานี่เดียวกูทายาให้ แต่ก่อนทายากูของสำรวจหาแผลอื่นก่อนแล้วกัน จะได้ทาทีเดียวเลย”
พูดจบมือหนาก็ลวงเข้าไปในเสื้อของร่างบางอย่างถือวิสาสะพร้อมกับมองใบหน้าหวานด้วยสายตาหยาดเยิ้ม
“หาเรื่องเอากูสิไม่ว่า”
แบมแบมยกยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน
“ถ้ารู้งั้นก็ช่วยให้ความรวมมือในการสำรวจหาบาดแผลครั้งนี้ด้วย เพราะกูจะสำรวจอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมไม่ให้หลุดรอดสายตาไปได้เลยหล่ะ”
มาร์คยกยิ้มร้ายส่งไปให้ร่างบางก่อนจะรั้งใบหน้าหวานลงมาประกบจูบอีกครั้ง...
++++++++++++++++++++++++++++++++++
>>> TBC <<<
ในที่สุดเรื่องของแอลก็กระจ่างสักที ถึงจะดูวุ่นวายไปหน่อยก็ตาม
และงานนี้คงต้องชื่นชมพี่มาร์คที่เชื่อในตัวแบมแบมและไม่ตัดสินอะไรโดยใช้อารมณ์
ถึงพี่เขาจะขี้หึงและหวงเมียมากแต่ก็เป็นคนมีเหตุผลพอที่จะถามหาความจริงก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป
ส่วนเลเวลหน้าเรามาดูพี่มาร์คสำรวจหาบาดแผลกันดีกว่าว่าจะ 'แซ่บ' ได้ขนาดไหน ห้ามพลาดนะคะ >///<
#ฟิคลองของ
ความคิดเห็น