ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Xeroth's Storage

    ลำดับตอนที่ #51 : [ AC ] [ Recreation I ] [ Homework ]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 49
      0
      19 มี.ค. 58

    การบ้าน #2

     

    ชื่อ – นามสกุล : จุติชาติ ไตรภพ

    ชื่อเล่น : เซียร์

    Dormitory : Topaz

    รหัสประจำตัว : ACT13

    สถานภาพการขาดส่งงาน 0

    การบ้านวิชา : นันทนาการ

    คำสั่ง : แสดงอะไรก็ได้เพื่อให้คนจำได้ว่าเราคือใคร

    สถานที่ส่ง : สวนแห่งการไล่ล่า

    ชื่ออาจารย์ผู้สอน : ศจ. แคนดี้

     

    ll ส่วนเนื้อหา ll

    ชื่อการแสดง : Leia
    ความหมายของการแสดงชุดนี้ : คุณเคยรู้สึกบ้างไหม ว่าสิ่งที่เคยเชื่อมัน รัก และเฝ้ามองมาตลอดเวลา มันคือสิ่งที่ลวงหลอก? คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ความรู้สึกเมื่อสิ่งที่เฝ้าหานั้นไม่มีแม้แต่ตัวตนจริงนั้นจะเป็นอย่างไร? การแสดงชุดนี้คือสิ่งที่สะท้อนความรู้สึกเหล่านั้นออกมา... ว่าไอการตายทั้งเป้น มันเป็ยยังไง...

    เริ่มการแสดง :
             ณ สถานที่แห่งนี้... สถานที่อันเปี่ยมไปด้วยความทรงจำเดิมๆ ของบุคคลที่ยืนอยู่นิ่งสงบท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาพร้อมกับเสื้อโค้ดประจำโดมโทปาซของนักเรียนชายพริ่วไหวไปตามสายลม... เซียร์ เลือกที่จะแสดงในช่วงเวลาที่พระจันทร์เต็มดวงและฟ้าเปิดเพื่อที่จะให้บรรยากาศนั้นงดงามยิ่งขึ้น หากแต่รอบกายเธอนั้นนอกจากเหล่านักเรียนจากสถาบันแล้ว กลับไม่มีสิ่งอื่นใดปรากฏอยู่อีกเลย

             "เคยรู้สึกบ้างไหม... ว่าสิ่งที่คุณเชื่อมั่นเฝ้าตามหามาตลอด... มันเป็นสิ่งที่ไร้ค่าโดยสิ้นเชิง..." เสียงเรียบๆ ของหญิงสาวเอ่ยขึ้นเบาๆ หากแต่ดังอย่างทั่วถึงทั้งสวน "เคยรู้สึกไหม... ว่าสิ่งที่รู้จัก สิ่งที่ค้นหา ไขว่คว้า และครอบครอง... มันเป็นเพียงมายาที่ลวงหลอกเราเพียงแค่นั้น..." เซียร์เอ่ยขึ้นต่อ และเงยหน้าขึ้นมาสบหน้ากับผู้ชม "คุณเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณเชื่อหรือเปล่า...."


             พรึ่บ

             จู่ๆ ทั้งสวนก็มืดมิดลง แสงยามราตรีเมื่อครู่เหมือนเป็นดั่งเรื่องโกหก รอบกายนั้นล้วนแต่ไร้ซึ่งสิ่งใด แม้แต่มือของตน ยังถูกกลืนหายไปกับความมืดมิด....

             แป๊ะ !

             ทันใดนั้น แสงสป๊อตไลท์ก็สาดส่องลงมายังกลางเวที ซึ่งบัดนี้เซียร์อยู่ในท่านั่ง และกำลังวาดบางอย่างลงบนผืนผ้าใบเบื้องหน้าเธอ... และนั่นดูเหมือนว่าจะเป็นรูปภาพของบุคคลคนหนึ่ง ทันใดนั้น...

     


     

             เสียงเปียโนบรรเลงออกมาจากที่ใดไม่อาจทราบได้ เหมือนดังเสียงนี้ก้องอยู่ภายในหัวของผู้ชมทุกคน 

             "ภาพของเธอ... ยังคงวนเวียนในหัวของฉันอยู่ตลอดเวลา..."

             เสียงของผ้ชายที่ไม่อาจทราบได้ว่าคือใครดังก้องขึ้น... หากแต่เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของผู้ที่อยู่ตรงกลางเวทีอย่างแน่นอน

             "ไม่ว่าจะหลับตา"

             "เพียงถ้อยคำเบาๆ เสียงของเธอไม่เคยเลือนหายไป"

             เสียงเพลงบรรเลงเปียโนเริ่มช้าลงพร้อมๆ กับรอบกายที่สว่างขึ้นช้าๆ พร้อมกับโครงสร้างของอาคารอะไรบางอย่างปรากฏออกมา... และที่นี่นั้นไม่ใช่สวนแห่งการไล่ล่าอีกต่อไปแล้ว... เซียร์ปล่อยพู่กันให้เลื่อนหลุดลงไปจากมือ ทันที่ที่พู่กันกระทบกับพื้น พู่กันและกระดานผ้าใบก็สลายหายไป...

             "ในทุกคราที่ฝัน ฉันยังได้ยินเธอ"

             "ดั่งเธออยู่ตรงนี้ ไม่เคยเลือนหายไป"

             "ภาพเธอในใจฉันที่เลือนลางจางหาย..."


             "จะระบายภาพนั้นด้วยน้ำตา"

             เซียร์ที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้ ได้ลุกขึ้นยืนมองเบื้องบนพร้อมๆ กับปากที่ขยับตามเนื้อเพลงแล้ว...



             "ไหลริน!"



             พรึ่บ!!

             ทั้งห้องสว่างขึ้นโดยฉับพลัน เผยสภาพของโบสถ์คริสต์ที่หรูหราตระการตาเป็นอย่างมาก สร้างความตะลึงงันให้แก่ผู้ชม

             "ดั่งมายาที่โอบกอดฉันไว้ ไขว่และคว่ามิอาจได้เธอมา สัมผัสก่อนที่คุ้นเคยแปลกไป แปรเปลี่ยนเป็นคำถามในใจ..."

             จู่ๆ ร่างของผู้หญิงในชุดเดรสสีดำก็ปรากฏขึ้น ไม่มีใครทราบเลยว่าเธอคือใคร มาจากไหน และเข้ามาได้อย่างไร อีกทั้งหน้าตาของเธอยังถูกแสงเงาบดบังไว้เช่นกัน... สิ่งที่พอทราบได้คือเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกับเซียร์พริ้วไหวไปตามการขยับร่างกายที่เธอนั้นเคลื่อนไหวไปตามท่วงทำนองเพลง

             "รอยยิ้มนั้นที่เธอให้ฉันไว้ กัดกินจนเป็นช่องว่างในใจ ภาพความสุขที่ฉันเคยวาดไว้ ถูกลบเลือนละเลงและสาดทับด้วยสีเทา..."

             ร่างอีกร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาที่มุมหนึ่งของโบสถ์ตรงข้ามกับร่างแรก เขาคือผู้ชายที่ใส่ชุดสูทสีดำที่มีเรือนผมสีน้ำตาลเข้มและใบหน้าที่ถูกซ่อนไว้เช่นเดียวกับร่างแรกก้าวเดินออกมาจากความมืด

             "หลงระเริงอยู่ในความฝัน ถ้อยคำโกหกทุกคำ ฉันพร่ำตะโกนว่าฉันรักเธอ..."

             ร่างที่สามปรากฏขึ้นในชุดเดรสสีดำเช่นเดียวกับร่างแรก หากแต่ผมของเธอนั้นโค้งเป็นลอนและใส่แว่นสายตาที่ซ่อนดวงตาเอาไว้เดินออกมาขนาบข้างกับเซียร์...

             

             "ได้ยินบ้างไหม!"




             สิ้นเสียง ทุกๆ ร่างบนเวทีพร้อมกับเซียร์ก็กู่ร้องประสานเสียง โดยคราวนี้มีร่างของคนเพิ่มมาอีก 5 คนจนรวมเป็นทั้งหมด 9 คนบนเวลที ทุกๆ ร่างขยับเข้ากับจังหวะทำนองเพลง ซ้ายขวานั้นสมมาตรกันโดยมีเซียร์ยืนอยู่ตรงกลาง ผายมือของตนไปยังเบื้องหน้าข้างหนึ่ง โบสถ์ที่เมื่อครู่ยังอยู่กลายหายไปกลายเป็นความมืดที่มีแสงสะท้อนดังน้ำเบื้องล่างแทน

             "เก็บเศษซากดวงใจของฉันที่สลาย คำว่ารักคำนั้นเหมือนดังอยู่แสนไกล เก็บความสุขเอาไว้ที่กำลังเลือนหาย ภาวนาให้เธอได้รับฟัง!"

             เซียร์ก้าวเดินมายังผู้ชมช้าๆ ด้วยท่วงท่าที่งดงามและแข็งแกร่งไปภายในตัว

             "หากว่าเธอได้ยินเสียงนี้ในใจฉัน หากว่าเธอไม่เป็นภาพลวงที่ฝันไป โปรดโอบกอดฉันไว้แม้โลกจะสลาย แค่มีเธอเท่านี้ก็เพียงพอ!"

             ฉับพลัน ร่างของคนทั้ง 8 นอกจากเซียร์ก็สลายเป็นเงาดำไป พร้อมๆ กับที่จู่ๆ มีเงาจำนวนมากกระโดดข้ามหัวผู้ชมทั้งหลายไปโดยมีเป้าหมายไปยังเซียร์ที่ในมือเธอคะตะนะสีดำเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบฟาดฟันร่างเงาของคนที่ทะลักอออกมาจากทุกๆ ทิศทางตามจังหวะเพลงที่คลอไปได้อย่างเหลือเชื่อ เงาสะท้อนจากคะตะนะแวววับเข้าตาของผู้ชม เป็นเหมือนดั่งการรำดาบที่สวยงาม

             "ดั่งมายาที่โอบกอดฉันไว้ รอยยิ้มนั้นเปื้อนไปด้วยน้ำตา รู้สึกเจ็บปวดข้างในจิตใจ เกินกล้ำกลืนถ้อยคำถูกสาดทับด้วยสีเทา"

             ร่างของคนทั้ง 8 ที่สลายไปก่อนหน้านี้ปรากฏตัวขึ้นมาทีละคนล้อมรอบเซียร์ที่ยังคงฟาดฟัดเงาที่เวลายิ่งผ่านไป เงานั้นยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย

             "เหมือนเวลาใกล้จะหมดลง พร้อมทุกลมหายใจ ทิ้งกายลงในห่วงสีดำ... สู่ความสิ้นหวังตรงนี้!"
             
             ฉับพลันร่างเงาก็ถาโถมจนมิด... และหายไปพร้อมกับร่างของเซียร์ที่ล้มลงแต่ยังใช้มือยันพื้นไว้ได้ คะตะนะหล่นข้างกาย หยดน้ำตาร่วงหล่นจากใบหน้าของหญิงสาว...

             "มันเป็นความจริงใช่ไหม..."

             เซียร์จับดาบขึ้นยันตัวแล้วมองขึ้นไปยังท้องฝ้าที่กลายเป็นช่วงกลางคืนและมีสายฝนโรยรายในสภาพที่อ่อนแรงและยังมีน้ำตาไหลรินอยู่...

             "ดวงตา... รอยยิ้มทุกอย่างที่เป็นของเธอ..."

             เซียร์เริ่มเดินไปข้างหน้า หากแต่ว่าไม่ได้เข้าใกล้ผู้ชมเลยแม้แต่น้อย... เมื่อเธอเดินอยู่กับที่พร้อมกับฉากที่เคลื่อนไหวตาม...

             "ภาพลวงตา... หรือว่าความฝัน..."

             จากเดิน กลายเป็นวิ่ง จากวิ่ง กลายเป็นพุ่งเข้าใส่... บัดนี้ เธอวิ่งไปม่หยุดอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าข้างหน้าจะมีเงาปรากฏขึ้นหรือไม่ก็ตาม เธอก็ใช้คะตะนะของเธอฟาดฟันมันจนสิ้นไป... ไม่มีอะไรขวางเธอได้อีกแล้ว...

             "ถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็ ฉันน่ะ... จะไม่ขอตื่นขึ้นมาอีกเลย!!"


             

             "เลอา!!!"




             วิ้ง!


             "หากอีกเสี้ยวนาทีโลกนี้จะจบลง หากอีกเพียงนาทีโลกนี้จะหายไป..."

             เสียงวิ้งแบบที่ได้ยินเวลาแก้วหูถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก ฉากกลับกลายเป็นสีขาวโล่ง...

             "หากคำภาวนานี้ไม่เคยส่งถึง ขอให้มันลบเลือนและหายไป..."

             ทั้งโลกนั้นเหมือนถูกหยุดนิ่ง มีเพียงแค่เซียร์ที่เหมือนถูกทำให้ช้าลงแบบภาพช้าในกล้องความเร็วสูง พร้อมๆ กับกระดาษจำนวนมหาศาลที่พริ้วไหวไปช้าๆ ...

             "หนึ่งรอยยิ้มที่เธอให้กันในวันนั้น หนึ่งความสุขที่เธอให้ฉันในวันวาน..."

              หากสังเกตดีๆ แล้ว กระดาษเหล่านั้นบันทึกข้อความและรูปภาพบางอย่างเอาไว้...

             "หากว่าสิ่งเหล่านี้นั้นเป็นเพียงความฝัน จะบอกลา และ..."

             และมากกว่านั้น ภาพเหล่านั้นบางภาพคือเหล่าผู้ที่ถูกกำจัดทิ้งเมื่อหลายปีก่อนของสถาบันแห่งนี้...



             "โปรดฆ่าฉันที!!"



             แล้วเวลาก็กลับมาเดินอีกครั้ง แสงว่างหายไปกลายเป็นโบสถ์ที่เดิม หากแต่นอกหน้าต่างนั้น กลางวันกลางคืนได้หมุนวนด้วยความเร็วสูงจนแทบจะเวียนหัว...



             "ยังคงมีภาพเธอทุกครั้งที่หลับตา ในทุกคราที่ฝันเธอยังไม่หายไป!"

              "หากภาพในใจฉันนั้นเป็นเพียงภาพลวง จะทำลายให้มันสลายไป!"



             เซียร์ค่อยๆ ทรุดตัวลงพิงกับโพเดียมของโบสถ์อย่างอ่อนล้า กระดาษที่ลอยอยู่ยังคงปลิวไปทั่วบริเวณ



             "ในวาระสุดท้ายถ้าเธอจะจากลา หนึ่งถ้อยคำสุดท้ายขอเธอโปรดรับฟัง!"

             "โปรดโอบกอดฉันไว้ เผาผลาญด้วยไฟนี้ ด้วยมือเธอปลดปล่อยฉันที!"



             รอบข้างนั้นเริ่มส่องสว่างโชตช่วงไปด้วยเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำลามมายังทั้งโบสถ์ เผาผลาญทุกสิ่่งทุกอย่างที่ขวางหน้า หากแตู่้ชมกลับไม่รู้สึกร้อนเลยเพียงสักนิด ก่อนที่เซียร์จะเงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมาพร้อมกับเงาอีก 8 เงาที่กำลังสลายไป
     

    "เลอา!"

    .
    .
    .
    .
    .


             เมื่อการแสดงจบลง ทุกๆ อย่่างก็กลับไปเป้นอย่างเดิม โบสถ์ที่ถูกเผา กลับกลายเป้นสวนแห่งการไล่ล่าท่ามกลางแสงจันทร์อีกครั้งหนึ่ง พร้อมๆ กับเซียร์ที่ลุกขึ้นยืนโค้งให้กับผู้ชม

             "ฉันเซียร์ จุติชาติ ไตรภพ จากโดมโทปาซ ขอฝากตัวไว้กับทุกๆ คนด้วย แล้วก็หวังว่าทุกคนจะชอบโชว์จากเทคโนโลยีแห่งโทปาซของฉันล่ะนะ!"


     

    (c) Chess theme


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×