Special fic WWV : การกลับมาของไอเลเดอร์ - Special fic WWV : การกลับมาของไอเลเดอร์ นิยาย Special fic WWV : การกลับมาของไอเลเดอร์ : Dek-D.com - Writer

    Special fic WWV : การกลับมาของไอเลเดอร์

    ผู้เข้าชมรวม

    1,807

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    1.8K

    ความคิดเห็น


    21

    คนติดตาม


    8
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 เม.ย. 54 / 20:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ประกาศเพิ่มเติม  หนูฟิลได้ทำการเปิดตอนยาวไว้สำหรับรีเควสเรียบร้อย ของเชิญนักอ่านทุกท่านไปรีเควสได้  ตอนนี้รับสามตอนเท่านั้น

                 
      “แอล”เมื่อไหร่กันที่ความสุขหายไป

                  “แอล”เมื่อไหร่กันที่ครอบครัวเหมือนไม่ใช่ครอบครัว

                  “แอล”ไม่ว่าเมื่อไหร่ตอนนี้ความอบอุ่นก็จากไปแล้ว วิหารเซนต์ดี้ที่มีแต่ความอบอุ่นแต่ทำไมผมถึงหนาวอย่างนี้ หนาวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

                  “แอล ทะ...ทำไม เธอถึงเป็นอย่างนี้นะ เราเหลือกันแค่สามคน ถ้าแอลยังเป็นอย่างนี้ ฉัน...ฉันจะอยู่ได้ยังไง ท่านพ่อก็ตายแล้ว”เอลเฟ่ย์เมื่อไหร่จะเข้าใจสักที ว่าผมเป็นผู้ชาย เฟอีสก็ด้วยเมื่อไหร่จะบอกเอลเฟ่ย์ผมพยายามอธิบายเท่าไหร่ๆก็มักจักถูกเฟอีสขัดเสมอ

                  “ไม่..”ไม่ ท่านพ่อยังไม่ตาย ผมยังเห็นท่านแม่คอยใช้พลังจากบ่อแสงฟื้นพลังให้ท่านพ่อตลอดท่านแม่จะตายไปได้ยังไง

                  ท่านแม่....คำที่เมื่อก่อนสามารถเรียกได้อย่างสนิทใจ แต่ตอนนี้ ท่านแม่คนก่อนได้ตายจากเราไปแล้วเหลือแต่ท่านพ่อผมสีเงินที่แสนเย็นชา ไม่มีอีกแล้วรอยยิ้มอันสดใสของท่านแม่ ไม่มีอีกแล้วตั้งแต่วันที่ท่านพ่อ...หายหน้าจากพวกเราไป

                  “ไม่? หมายความว่ายังไงเหรอแอล”เฟอีสที่สังเกตความผิดปกติแทรกเข้ามา

                  น่าเสียดายที่กรรมพันธ์คิดมาก ขี้ใจน้อย และปิดกั้นตนเองของสคาร์จทำหน้าที่ของมันได้ดีจนน่าปวดหัว แอล สคาร์จจึงได้สูญเสียจิตใจไปนับตั้งแต่ท่านแม่พาพวกเขามาปล่อยไว้ที่วิหารเทพเจ้าเซนต์ดี้อย่างเย็นชา

                  ถ้าถามว่าทำไมแอลถึงได้ไปรู้ความลับเหล่านี้มาได้เพราะไอเลเดอร์ชอบบอกแอลไว้ว่า ท่านแม่ชอบความจำสั้นและหลงๆลืมๆเสมอจึงจำเป็นต้องมีเวทย์ติดตามตัวไว้เสมอ  และไอเลเดอร์ก็สอนแอลให้รู้จักใช้เวทย์นี้  ทำให้แอลเห็นทุกภาพที่อินด์ได้ทำไปทั้งหมด ไม่ว่าอินด์จะไปไหน ขอแค่แอลอยากรู้ ภาพก็จะปรากฏขึ้นมา....

                  นั่นก็ทำให้แอลเป็นคนเดียวที่รู้ว่าอินด์ทำอะไรกับไอเลเดอร์และคอยมาเฝ้าอยู่ทุกวัน แต่ไม่เคยมาใส่ใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ทำให้แอลอดรู้สึกไม่ได้ว่า ท่านแม่ไม่ได้อยากดูแลพวกเรา แต่ทำเพียงเพราะสัญญาของท่านพ่อเท่านั้น และเพราะรู้เรื่องทุกอย่างมากเกินไปจึงทำให้แอล สคาร์จกลายเป็นสภาพเหมือนตุ๊กตาหมดลานมีเพียงดวงตาที่เลื่อนลอย รับรู้ทุกสิ่งแต่ไม่ยอมตอบรับ

                  สภาพในตอนนี้ของแอลจึงไม่ต่างไปกับไอเลเดอร์เลยแม้แต่น้อย แต่ถึงแอลจะอยู่ในสถานะวิกฤตขนาดนี้แล้ว แต่อินด์ก็ยังคงไม่รับรู้สิ่งใดทำเพียงแค่ล่าสังหาร D.M.B ต่อไปอย่างบ้าคลั่งเท่านั้นเอง

                  “ไม่ตาย...ท่านพ่อยังไม่ตาย”สิ้นประโยคนัยน์ตาของเอลเฟ่ย์กับเฟอีสก็มีความหวังเรืองรองขึ้นแม้เวลาจะล่วงเลยมาถึง สองปี สองปีกับการที่แอลทำตัวเป็นตุ๊กตาหมดลานและเอลเฟ่ย์กับเฟอีสที่ตัวเป็นเจ้าชายรอเจ้าหญิงนิทรา

                  +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                  ไอเลเดอร์  ไอเลเดอร์  ตอนนี้ผมฆ่ามันเกือบหมดแล้วนะ หึๆ คนที่เป็นต้นเหตุให้คุณต้องตายผมฆ่ามันเกือบหมดแล้ว   น่าแปลกนะ ผมกลับไม่ดีใจเลยแม้แต่น้อย ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะไม่มีคุณอยู่กับผมยังไงล่ะ  ผมต้องการคุณทุกวันนี้ก็ยังต้องการอยู่.....

                  ผมมาหาคุณทุกเช้าหวังว่าจะมีสักวันที่คุณจะตื่นขึ้นมายิ้มให้ผมแล้วถามผมว่า  เหนื่อยไหม? พอได้แล้วล่ะ ไม่ต้องทำอีกแล้ว ผมรู้นะว่าคุณไม่ได้ชอบที่ผมล้างแค้นฆ่าคนไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กอย่างนี้  เพราะฉะนั้นลุกขึ้นมาเถอะ ลุกขึ้นมาได้ไหม....

                  ทุกเช้าอินด์จะมาที่บ่อแสงของเทพเจ้าเซนต์ดี้ มาเพื่อพบกับคนที่เอาหัวใจของเขาไป   และกลับไปยังสภานักบวชโดยไม่ได้สนใจจะดูแลพวกเด็กๆเลยแม้แต่น้อย

                  เพราะสำหรับอินด์โลกที่ไม่มีไอเลเดอร์ก็ไร้ความหมาย  เขาน่ะได้ฝังความรู้สึกทุกอย่างไว้ใต้ส่วนลึกของขั้วหัวใจเพื่อรอไอเลเดอร์กลับมา เท่านั้น

                  แม้ว่าบางทีเขาอาจจะไม่ได้ต้องการเลยก็ตาม...

                  วันที่ไอเลเดอร์หมดสติ อินด์ไม่อยากจะใช้คำว่าตายเพราะตนเองเป็นคนหยุดเวลาของไอเลเดอร์ไว้เอง คำพูดที่ทำให้เขาเจ็บมากที่สุดก็คือคำว่า....ซาเฟียร์...

                  ชื่อพี่สาวเพียงคนเดียวของเขา พี่สาวที่เขาทั้งรักและเกลียดสุดหัวใจ เพราะพี่สาวเป็นเพียงคนเดียวที่ได้หัวใจของไอ ไปครอบครอง แม้กระทั่งพี่จะตายไปแล้ว ไม่มีสายลมของพี่แล้วแท้ๆ แต่ทำไมหัวใจของไอเลเดอร์ก็ยังไม่เหลือที่ว่างให้ผมเข้าไปแทรกได้เลยแม้แต่น้อย เพราะผมมันเป็นได้แค่คนสำคัญไม่ใช่คนรักใช่ไหม

                  ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็เป็นได้แค่คนสำคัญที่ไม่ใช่คนรักของพี่ไอเลเดอร์อยู่ดี ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครแทนที่พี่ได้เลย  ไม่มีเลย  ทุกครั้งที่ไอเลเดอร์ไปที่หลุมศพของลุต ไอเลเดอร์ก็จะคิดถึงพี่เสมอ ผมรับรู้ได้ทั้งๆที่ไม่เคยอยากรับรู้

                  ทำไม ไอเลเดอร์ทั้งๆที่ผมก็อยู่ตรงนี้ มองผมให้เป็นผม คุณจะรักผมสักนิดไม่ได้เลยหรือยังไง ผมน่ะไม่ว่าเมื่อไหร่ก็รักไอเลเดอร์หมดหัวใจแท้ๆ   รู้ไหมว่าทำไมตลอดมาผมถึงไม่ยอมใส่กำไลเทวฑูต

                  เพราะกำไลนั่นพี่เป็นคนใส่น่ะสิ  พี่ที่เป็นผู้หญิง พี่ที่ไอเลเดอร์รักสุดหัวใจ  ผมกลัวว่าถ้าให้ไอเลเดอร์เห็นกำไลไอเลเดอร์ก็จะคิดถึงพี่ผมถึงได้ไม่ใส่   แต่พอผมใส่กำไล คุณก็ชมว่าผมสวยมาก ตอนแรกผมดีใจแทบตายแต่พอรู้ว่ายังไง ไอ ก็คงหมายถึงพี่ไม่ใช่ผม ไม่ใช่ผมอยู่ดี แม้ว่าคำๆเดียวก่อนลาจากคุณก็ไม่ได้พูดกับผม ไม่ได้บอกคำที่ผมต้องการจากคุณ

                  ผมแค่ต้องการคำว่ารักเท่านั้นเอง ต้องการแค่คำนั้นจากไอเลเดอร์แต่คุณก็ไม่ได้พูด  จะว่าไปผมก็ยังไม่ได้บอกคุณนี่นะว่าผมรักคุณรักตั้งแต่วันแรกที่เราสัญญาจะทำพันธสัญญาปากเปล่ากัน เพราะคุณคนเดียวที่รักผมจากหัวใจ  ไม่ว่าผมจะทำตัวเลวร้ายเพียงใดก็มีเพียงคุณเท่านั้นที่คอยช่วยเหลือ คอยเป็นห่วงเป็นใยตลอด  แม้กระทั่งในวันที่ผมไม่เหลือใครคุณก็อยู่เคียงข้างผม  ผม ...ผม.....ผมรักคุณมากจริงๆ ตอนนั้นผมน่าจะตายพร้อมกับคุณ  แต่ผมก็ปล่อยให้คุณตายไม่ลง

                  ทำไมน่ะเหรอ  ก็เพราะคำที่คุณเรียกขานเป็นคำสุดท้าย...ซาเฟียร์....ผมทนไม่ได้ ทั้งๆที่คุณน่าจะตายอย่างมีความสุขแต่ทำไมผมถึงรู้สึกทนไม่ได้ ผมกลับกลัวอะไรบ้าๆ อย่างเช่นคุณจะมีความสุขกับพี่ในโลกวิญญาณผมถึงได้รั้งคุณไว้ในโลกนี้ต่อไป  ใครจะว่าผมว่าเห็นแก่ตัวก็ช่างแต่ว่าผมขอได้ไหม

                  วันนั้นที่ผมพูดกับพี่เวลลีแอน  ถึงชอบเขาไปก็ไม่ได้รับการตอบสนองหรอก.....ไม่ว่าใครก็เหมือนกัน ทั้งๆที่ผมก็เข้าใจแท้ๆ ทำไมถึงได้เจ็บอย่างนี้นะ เจ็บจริงๆ

                  ทำไมพระผู้เป็นเจ้าถึงต้องทำร้ายผมด้วยการพรากคนที่ผมรักทั้งหมดไป  ทั้งท่านแม่  ทั้งพี่สาว  ทั้งไอเลเดอร์

                  วันนี้อินด์ไม่ได้ไปยังสภานักบวชเหมือนเช่นเคย  วันนี้เป็นวันครบรอบวันที่ไอเลเดอร์หมดสติ เมื่อปีก่อนอินด์ก็จะมานอนร้องไห้กอดไอเลเดอร์อย่างเงียบ ปล่อยใจตัวเองให้คิดถึงวันเก่าๆ

                  “แอล แน่ใจเหรอว่าทางนี้”เสียงของเฟอีส

                  “อืม ทางนี้”เสียงของแอล

                  น่าแปลกนะสองปีแล้วที่เขาไม่ได้แยแสสนใจ แต่เด็กพวกนั้นก็ยังคงดูสดใสบริสุทธิ์อยู่เหมือนเดิม ผิดกับเขา ที่แค่ขาดไอเลเดอร์สนใจไป ผมกลับแปดเปื้อนถึงขนาดนี้ หึๆ ผมนี่มัน แต่ช่างเถอะเด็กพวกนั้นจะเล่นสนุกจนมาเจอที่นี่เข้าเขาก็ไม่สนหรอก เพราะถึงอย่างไรที่นี่ก็มีม่านลวงตากั้นบริเวณที่ไอเลเดอร์กับเขาอยู่ๆแล้ว ต่อให้โลกใบนี้แตกสลายก็จะมีเพียงผมกับเขาอยู่อย่างนี้ ม่านนี้เป็นม่านลวงตาที่ทรงพลังที่สุด

                  แต่ม่านลวงตาที่อินด์มั่นใจกลับไม่สามารถกั้นดวงตาของแอลได้เลยแม้แต่น้อย

                  “ไม่เห็นมีใครเลยแอล ไหนนายบอกว่าท่านพ่อนอนอยู่ในนี้ไง”เฟอีสต่อว่า

                  “พวกนายไม่เห็นเหรอ ม่านสีขุ่นที่ครอบอยู่ตรงนั้นน่ะ”เพราะแอลสืบเชื้อสายสคาร์จมาอย่างเหนียวแน่นจึงสามารถมองเห็นม่านลวงตาของอินด์ได้อย่างง่ายดาย แต่เอลเฟ่ย์กับเฟอีสกับต้องเพ่งอยู่นานจึงเห็นว่ามีม่านลวงตาเคลื่อนไหวอยู่อย่างเบาบางจริงๆ

                  ความจริงแล้วม่านลวงตาระดับสูงขนาดนี้ต่อให้เป็นสามตระกูลที่อัจฉริยะอย่างสคาร์จ ชิลเดอร์ลิส หรือนอร์แมน ก็ไม่มีทางที่จะเห็นได้ แต่เพราะคิดถึงจากหัวใจของเด็กน้อยทั้งสามที่ส่งผลให้เทพารักษ์เห็นใจยอมใช้แสงช่วยแสดงให้เห็นถึงม่านลวงตาที่กั้นระหว่างพวกไอเลเดอร์และเด็กน้อยทั้งสาม

                  “แล้วจะพังมันได้ยังไงล่ะ ดูยังไงนี่ก็เป็นเวทย์มนต์ชั้นสูงของท่านแม่นะ”คำถามที่ถูกตั้งโดยเฟอีสแต่ไม่มีใครตอบ

      เอลเฟ่ย์มองม่านสีที่เลือนลางอย่างพิจารณา  มือน้อยๆยื่นไปสัมผัสเพียงชั่วพริบตาม่านลวงตาก็สั่นสะท้านราวกับจะพังทลายลงมา

                  พอเห็นอย่างนั้นแอลกับเฟอีสก็เข้ามาทำแบบเดียวกันพริบตาเดียว ม่านลวงตาก็พังทลายลง เศษพลังของม่านเหมือนเศษแก้วที่ร่วงลงมาแตกกระเด็นไปทั่ว  

                  เอลเฟ่ย์ที่เห็นแอลอยู่ในอันตรายรีบผลักแอลออกไปแล้วเอาตัวเข้ารับแทนเศษแก้วบาดทั้งแขนและทะลุจากแผ่นหลังมาโผล่ด้านท้องอย่างน่ากลัว แต่สิ่งที่เอลเฟ่ย์ทำก็แค่ยิ้มและพยายามห้ามเลือดอย่างไร้ผม ม่านลวงตาที่แตกสลายจะไม่หายไปตราบใดที่เจ้าของพลังเวทไม่คลายออกแต่ตอนนี้อินด์ก็กำลังช๊อกกับภาพเมื่อครู่ที่ซ้อนทับกับเรื่องในอดีต จึงมิอาจช่วยเหลืออะไรได้

                  “เอลเฟ่ย์ เอลเฟ่ย์”แอลรีบวิ่งมาอย่างตื่นตระหนกฝ่ามือปล่อยแสงเยียวยาอย่างไม่สิ้นสุดแต่เอลเฟ่ย์ก็ยิ้มให้แอลอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มที่ซ้อนทับกับไอเลเดอร์  สีหน้าตื่นตระหนกของแอลที่ซ้อนทับกับตัวเองในอดีตทำให้อินด์รู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด

                  “เอลเฟ่ย์ เพราะผมแท้ๆเลย เพราะผมเคลื่อนไหวชักช้าเอลเฟ่ย์ถึงได้”แอลร้องไห้ออกมาอย่างไม่หยุดส่วนเฟอีสที่กระโดดถอยออกทันก็ตามมาช่วยใช้แสงแห่งการเยียวยากับเอลเฟ่ย์

                  “ใช้คำว่าผมได้ยังไง แอลเป็นผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ใช้คำว่าฉันสิ  คำว่าผมน่ะเป็นคำที่ท่านแม่ใช้แทนกับท่านพ่อนี่นา..งั้นที่แอลใช้คำว่าผมแสดงว่าแอลจะแต่งงานกับฉันแล้วน่ะสิ”แม้กระทั่งเวลาอย่างนี้เอลเฟ่ย์ก็ยังจะเล่น แต่คำพูดทีเล่นทีจริงนี้มีผลต่อพ่อลูกสคาร์จอย่างรุนแรง

                  “ก็ได้ ผมจะแต่งงานกับเอล แต่เอลผมเป็นผู้ชายนะ ผมเป็นผู้ชายจริงๆ เอลจะแต่งงานกับผมอยู่เหรอ”ตอนนี้แอลไม่มีเวลาไปสนใจอินด์หรือไอเลเดอร์หรือว่าอะไรแต่สิ่งที่เขาสนใจก็คือคำตอบของคนตรงหน้าต่างหาก

                  “ฮ่ะๆ ผู้ชายงั้นเหรอ นี่ฉันเข้าใจเธอ..นายผิดมาตลอดเลยล่ะสิ มิน่าท่านพ่อถึงได้บ่นว่าท่านแม่ตั้งชื่อให้นายผิดๆ  แต่นายไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะแต่งงานกับนาย จะแต่งงานกับนายแน่นอน”เอลเฟ่ย์ยิ้มอย่างจริงใจ

                  “เอลเฟ่ย์ ผะ...ผม...ผม...ผม”แอลรู้ดีว่าตอนนี้พลังชีวิตของเอลเฟ่ย์กำลังลดลงเรื่อยปากแผลใหญ่เกินไป กระจกจากม่านลวงตาของท่านแม่ก็ยังไม่คลาย  ตอนนี้ทุกอย่างกำลังแย่ ทำไมนะ ทำไม  ทำไมผมไม่มีพลังมากกว่านั้น

                  แอล เจ้าอยากได้พลังงั้นเหรอเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นมาในหัว

                  “ท่านพ่อเหรอครับ ท่านพ่อช่วยเอลเฟ่ย์ด้วย  ช่วยเอลเฟ่ย์ด้วยเถอะครับท่านพ่อ”แอลตะโกนเสียงจนเฟอีส สะดุ้ง แม้แต่อินด์ก็ยังรู้สึกตัว

                  ฉันให้พลังเจ้าได้ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเจ้าจะช่วยเอลเฟ่ย์ได้ แต่ตอนนี้มีเพียงเจ้าคนเดียวที่ได้ยินเสียงของฉัน  ฉันจำเป็นเพราะอินด์สูญเสียจิตใจไปแล้ว ตอนนี้อินดี้ไม่มีทางมาช่วยพวกเจ้าแน่นอนเอาล่ะร่ายมนต์เร็วเข้าต้องสลายม่านลวงตาออกไปแต่ยังไม่ทันที่แอลจะได้ร่ายมนต์ กระจกที่เป็นเหมือนดาบยักษ์แทงทะลุตัวของเอลเฟ่ย์ก็สลายไปเสียก่อนพร้อมกับพลังแสงที่เอ่อล้นเข้าเติมเต็มรอยแผลที่บาดเจ็บของเอลเฟ่ย์อย่างรวดเร็ว

                  แอลรีบเงยหน้าดูความช่วยเหลือ ปรากฏว่าอินด์เดินเข้ามาด้วยท่าทางมั่นคง ยื่นมือที่ปล่อยแสงแห่งการเยียวยาออกมาอย่างไม่หยุดมาหยุดอยู่ที่ปากแผล

                  “ไอเลเดอร์ ทำไมคุณถึงคุยกับแอลทำไมคุณถึงไม่คุยกับผม  ทำไมล่ะ”อินด์พึมพำแต่มือก็ยังไม่หยุดปล่อยแสง

                  “เพราะท่านแม่ไม่เคยเข้าใจท่านพ่อยังไงล่ะ”เฟอีสตอบ

                  “หมายความว่ายังไง”อินด์มองไปยังเฟอีสอย่างเย็นชา

                  “เพราะท่านแม่ไม่เคยเข้าใจท่านพ่อ  สิ่งที่ท่านพ่อต้องการก็แค่ให้ท่านแม่มีความสุข  ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนเดิม  แต่ท่านแม่กลับจมปลักอยู่กับความแค้นและโศกเศร้าจะให้ท่านพ่อคุยกับท่านแม่ได้ยังไง”เฟอีสตอกกลับมา

                  ใบหน้ามั่นใจนั่นเหมือนกับลุต ที่เคยเตือนสติเขาอย่างนี้

                  “ก็ผมไม่เข้าใจนี่นา ว่าทำไม  ทำไมคุณถึงต้องทำเพื่อคนอื่นถึงขนาดนั้น ทำไม ทำไมคุณไม่นึกถึงความรู้สึกของผมเลย ทำไมคุณถึงยังไม่เคยลืมสายลมของพี่แล้วมองสายลมของผมบ้าง ผมไม่เข้าใจนี่นา!!!”ความรู้สึกที่อัดแอ่นอยู่ถึงสองปีได้ระเบิดออกมาทั้งน้ำตา อินด์ไม่สามารถเก็บมันได้อีกต่อไป

                  “เพราะนายเป็นคนที่ฉันคิดว่าน่าจะเข้าใจมากที่สุดนี่นา”เสียงที่คิดถึง เสียงที่รอคอยมานานแสนนาน อินด์รีบหันหลังกลับ ไป ทำไมเวทย์หยุดเวลาถึงคลายออกได้  แอล!!

                  “ฉันขอโทษนะ ที่คิดไปว่านายน่าจะเข้าใจสิ่งที่ฉันทำแต่ว่าฉันก็ลืมคิดไปว่านายก็มีความรู้สึก มีเลือดเนื้อ ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆนะอินดี้”ไอเลเดอร์ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่งดงามที่สุดรอยยิ้มที่เจือด้วยความสงสาร

                  “ไอเลเดอร์ ไอเลเดอร์!!”แต่อินด์ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นโผเข้ากอดไอเลเดอร์ไม่ปล่อย ส่วนพวกเด็กๆที่เห็นพ่อของตัวเองฟื้นขึ้นก็กรูกันตามมา

                  “ท่านพ่อ ท่านพ่อ!!

                  “ฮือๆ ท่านพ่อ...ฮือๆ”ถึงจะเข้มแข็งยังไงแต่ทั้งเฟอีส แอลและเอลเฟ่ย์ก็เป็นเพียงแค่เด็กหกขวบ การที่พ่อผู้แสนอบอุ่นกลับมาทั้งสามจึงพร้อมใจกันร้องไห้ประสานเสียง

                  “อินด์นายใจร้ายมากนัก  ทิ้งให้ลูกต้องคอยอยู่อย่างโดดเดี่ยว  แล้วยังทิ้งเอลเฟ่ย์ให้ถูกแทงอย่างหมดท่าด้วย  ที่สำคัญ นายยังปล่อยให้แอลกับเอลเฟ่ย์ตกลงแต่งงานกันอีกด้วย”ไอเลเดอร์พูดยิ้มๆ ส่วนอินด์ก็สลัดคราบเย็นชาออกไปจนหมดสิ้น ไปกับน้ำตาที่ทะลักออกมาด้วยความรักและคิดถึง

                  “ผมขอโทษ...ผมขอโทษ”อินด์พร่ำบอกแต่คำๆนี้

                  “คนที่นายน่าจะพูดคำนี้ก็คือเด็กๆ เขารอคอยคำนี้มากว่าฉันเยอะ  ก็นายเป็นซะอย่างนี้แล้วฉันจะทิ้งนายไปอยู่กับซาเฟียร์ได้ยังไง”ไอเลเดอร์พูดพลางจ้องหน้าอินด์อย่างจริงจัง

                  “คุณได้ยินที่ผมพูดงั้นเหรอ”ไม่หรอก ไอเลเดอร์ได้ยินแม้กระทั่งสิ่งที่อินด์คิดด้วยซ้ำตอนสลบอยู่น่ะนะ

                  “อืม...รู้ไหมซาเฟียร์น่ะคืออดีตคนที่เคยถูกฉันรัก  แต่ว่าคนสำคัญที่ฉันรักที่สุดมีนายคนเดียวนะอินดี้  มีนายคนเดียว”

      จบแล้ว  ส่วนเรื่องจะเป็นตอนยาวไหมจะพิจารณาดูอีกทีนะจ๊ะ ดูเมนท์และผู้ชมก่อน

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×