ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้นล้อการเมือง

    ลำดับตอนที่ #1 : ผ่าบันทึกลับแอดมิดชั่น ภาคต้นกำเนิด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 506
      0
      2 เม.ย. 49

             ผ่าบันทึกลับแอดมิดชั่น ภาคต้นกำเนิด

             ทุกเหตุการณ์และทุกตัวละครล้วนแต่เป็นเรื่องสมมติขึ้นมั้งสิ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จริงใดๆทั้งนั้น
             หากท่านคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง หรือเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ แปลว่าท่านคิดมากไปแล้ว!

             **วันที่XเดือนXปี2546

             "นี่ก็จวนจะถึงการสอบเอนท์รอบสองแล้วสินะ" ชาย ร่างทึบหน้าตาคล้ายแพนตาก้อนท่าทางมีอำนาจเอ่ยปากกับข้าพเจ้า ในขณะที่เขาเอานิ้วแหวกมู่ลี่ออกไปเพื่อมองออกไปข้างนอกอย่างเรื่อยเปื่อย
             "ทำไมหรือครับ?" ผมพูดถามออกไปอย่างเคยปาก การเรียกพบเป็นการส่วนตัวเช่นนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดีของผมที่จะได้เลื่อนขั้นอีกสักขั้นสองขั้นก็ได้
             "การศึกษานี่สำคัญนะ" คนผู้นั้นเกริ่นออกมาอย่างเบาๆ
             "ครับ?"
             " ความรู้น่ะจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ตราบที่เรายังไม่ตาย แต่สถาบันที่เราได้ไปเรียนน่ะสำคัญยิ่งกว่า ทั้งชีวิตมีแค่โอกาสเดียว ผมเลยไม่อยากจะพลาดมันไป"
             "เอ่อ.... หมายความว่ากระไรครับ?" ผมสงสัยจริงๆ ผมไม่เข้าใจคำพูดของท่านเลยสักนิดเดียว
             " ลูกสาวผม อิ๋งอิ๋งน่ะเป็นความหวังที่เหลืออยู่ของผม เจ้าโอ๊กอ๊ากน่ะก็ไม่รักดีดันเอนท์ไม่ติดจนต้องไปเรียนที่มหาลัยเปิด ผมเลยหวังว่าลูกสาวคนนี้จะช่วยกู้หน้าผมได้บ้าง แต่...."
             ท่านถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะพูดต่อ
             "แต่เอนท์ครั้งแรกกลับได้คะแนนต่ำเสียนี่" พูดแล้วท่านก็ส่ายศีรษะไปมา
             "ท่านหมายความว่า...."
             " ผมมีทั้งอำนาจและเงินทอง แต่เสียดายมันใช้ได้แค่ได้ไทห์เท่านั้นและได้ไม่ทุกที่เสียด้วย พวกอาจารย์ที่ฬอจุราก็ท่าทางหัวแข็ง คงใช้เงินกับอำนาจฟาดหัวไม่ได้ง่ายๆ ความหวังก็เหลืออยู่ที่ท่านเท่านั้นล่ะนะ ท่านปลัดกระทรวง"

             ผม เริ่มเผยยิ้มออกมา ในที่สุดความหวังผมก็เป็นจริง โอกาสแห่งการสานสัมพันธ์กับท่านนายข"ทุจศิล"มาถึงแล้ว ผมไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ไปอย่างง่ายๆแน่
             "ครับ ผมจะจัดการให้เอง"

             วัน ต่อๆมาเอกสารที่ผมขอก็ถูกส่งมาถึงมือ ด้วยข้อมูลการเรียนของน้องอิ๋งอิ๋งที่เพิ่งได้มาผมจึงเริ่มหาช่องทางที่จะ ให้เค้าเอนท์ติดฬอจุราในทันที
             " อ้ายหย๋า! ทำไมโง่อย่างงี้ฟะ!" ผมอุทานเป็นภาษาบ้านเกิด ด้วยคะแนนสอบแค่นี้ หากน้องอิ๋งอิ๋งยังไม่สามารถทำคะแนนได้มากขึ้นอีกเป็นสองเท่า น้องอิ๋งอิ๋งคงไม่มีทางเอนท์ติดที่นี่แน่ๆ

             แต่โชคดีผลการเรียนของน้องอิ๋งอิ๋งอยู่ในเกณฑ์ดี ผมจึงหาช่องทางช่วยในเรื่องนี้แทน

             แต่เมื่อเทียบดูแล้ว ต้องใช้คะแนนGPA และ PR อย่างน้อยถึง50%ของคะแนนทั้งหมดถึงจะสอบผ่านได้ชัวร์ๆ
             "เอาวะ! ตายเป็นตาย!" ผมท่องอยู่ในใจ มันไม่มีทางเลือกซะแล้ว ถึงจะเสี่ยงแต่ก็ต้องยอม เพื่ออนาคตของผมเอง

             ดังคาด เหล่าผู้ปกครองโต้ตอบกลับออกมาอย่างรุนแรง ตอนแรกผมก็กะจะดื้อแพ่งดันทุรังทำไปอยู่แล้วล่ะนะ แต่พอเจอกับข้อแย้งข้อหนึ่งเข้า....
             "ปกติ จะเปลี่ยนวิธีการเอนท์ใหม่ ต้องบอกล่วงหน้าสี่ปีไม่ใช่หรือคะ?"

             มีด้วยเหรอวะ? ทำไมกรูไม่เห็นรู้เรื่องเลย?

             วันคืนผ่านไปจนกระทั่งการสอบรอบสองใกล้มาถึง
             ผม ตัวสั่นงกๆเพราะคิดวิธีการโกง... ไม่ใช่สิ วิธีการช่วยเหลือน้องอิ๊งอิ๊งไม่ออกแล้ว อุตส่าห์รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะแต่กลับทำไม่ได้ อนาคตของผมต้องจบแล้วแน่ๆ
             แต่แล้ว โอกาสก็มาถึง!

             ข้อสอบ! ใช่! ผมต้องเซ็นรับรองข้อสอบด้วยนี่นา! นี่แหละโอกาสล่ะ!
    ว่าแล้วก็โกงแบบดื้อๆเลยครับ ตอนมันมาถึงมือผมอ้างว่าจะขอเก็บไปตรวจสอบสักหน่อยแล้วก็คว้าเก็บกลับบ้านทันที

             คืนเดียวก็พอ แค่มีเครื่องซีร็อค วันต่อมาผมจึงเอากลับนำมาคืนแล้วทำว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

             "คุณทำอย่างงี้ได้ยังไง!" ท่านนายขพูดเสียงตวาดมาหาผมในโทรศัพท์
             "ผมทำไปเพื่อน้องอิ๋งอิ๋งครับ ถึงผมจะต้องตายผมก็ไม่เสียใจ เพราะอย่างน้อย ผมก็ทำให้ความฝันของน้องอิ๋งอิ๋งสมหวังแล้ว" น้ำเน่าจริงๆ ไม่รู้ผมพูดออกไปได้ยังไง
             " ไม่เป็นไรๆ ผมจะช่วยคุณเอง แต่ คงต้องย้ายออกจากกระทรวงนี้สักหน่อยล่ะ เพื่อกลบเกลื่อนข่าว ว่าแต่... กระทรวงใหม่เอาอะไรดีล่ะ? วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม หรือ ไอซีทีดีล่ะ? "



    ------------------------




             **วันที่XเดือนXปี2547

             ทั้งๆที่เป็นปีแรกที่ผมได้ทำงานเป็นปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แต่ท่านนายขก็กลับเรียกหาผมเป็นการส่วนตัว มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่นะ?
    ผมเปิดประตูไปอย่างช้าๆ แอร์ในห้องนี้เย็นมาก ในห้องก็มืดสนิทอีกต่างหาก

             ข้างมู่ลี่อีกฟากหนึ่งของห้อง ชายร่างท้วมที่มีรูปหน้าเป็นแพนตาก้อนยืนอยู่ที่นั่น

             "มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ" ผมถามออกไปอย่างสุภาพ พร้อมกับหมอบคลานเข้าไป
             ท่านผู้นั้นกระแอมมาครั้งหนึ่งแล้วพูดอย่างเบาๆว่า....

             "การศึกษานี่สำคัญนะ รู้ไหม?"



    จบ.... ติดตามต่อภาคสอง

             ปล **วันที่XเดือนXปี2549 น้องอิ๋งอิ๋ง ลาออกจากฬอจุราไปเรียนต่อที่อังกฤษ เนื่องจากต้องการลี้ภัยทางการเมือง


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×