ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมนี้ละ ผู้นำองค์กรชั่วที่ร้ายกาจที่สุด

    ลำดับตอนที่ #10 : ข้อบังคับแห่งองค์กรชั่ว ข้อที่ 9

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.31K
      16
      13 พ.ย. 56

     

    เสียงของโชดังจบ เทียน่า ยูกิ และเรียวรีบหลับตาลง มีเพียงนามิเท่านั้นที่ไม่ยอมทำตาม แถมเอยังพูดอีกว่า

                “ยูกิ เธอจะหลับตาทำไมกัน”

                “คุณไซมอนบอกให้หลับยังไงละ เธอก็รีบหลับตาเข้าเถอะ”ยูกิพูดออกมาทั้งที่หลับตา นามิหันไปมองโชอีกครั้งแต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไร บอลแสงก็เกิดระเบิดจนเกิดแสงสว่างจ้าส่องไปทั่วทั้งบริเวณ แสงนั้นอยู่ได้สักพัก ก่อนจะทำให้ทุกอย่างกลับสู่ความมืดมิด โชแน่ใจว่าทุกอย่างกลับคืนปกติแล้ว เขาก็บอกให้ทุกลืมตาขึ้น ยูกิจึงเห็นนามิที่เอามือปิดตาเนื่องจากแสงที่จ้าเกินไป เธอรีบเข้าไปดูอาการของนามิ แต่ไม่นานอาการของเธอก็ค่อยๆดีขึ้น เมื่อนามิเป็นปกติแล้ว เธอก็หันมามองโช พร้อมพูดว่า

                “นายรู้ว่าบอลแสงจะระเบิดด้วยหรือ?”

                โชยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดว่า”เปล่าครับ ผมไม่ทราบแม้แต่น้อย”

                “อ้าว! แล้วทำไมนายถึงได้บอกให้พวกยูกิหลับตาละ”

                “ คุณนามิคงรู้ใช่ไหมว่า ถ้ามนุษย์ต้องไปอยู่ในที่มืดโดยไม่มีแสงไฟในทันที ดวงตาของมนุษย์จะมองไม่เห็นอะไรเลย แต่พอเวลาผ่านไปดวงตาก็จะปรับตัวเข้ากับความมืด การที่ผมให้ทุกคนหลับตาเนื่องจากต้องการให้ทุกคนชินกับความมืดโดยเร็วก็เท่านั้นเอง แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา  

                “สรุปมามันบังเอิญซินะ”

                โชพยักหน้า นามิจึงพูดต่อว่า”นายนี้มันรอบคอบผิดกับหน้าตาเลยนะ”

                โชได้แต่ยิ้มรับ เพราะถ้าเถียงไปก็มีแค่จะทำให้โดนด่ามากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้เขาอยากจะไปให้พ้นจากยัยนี้เต็มแก่แล้ว โชที่คิดแบบนั้น เขาก็หันไปพูดกับยูกิว่า

                “ในเมื่อคุณยูกิพบกับคุณนามิแล้ว เอาเป็นว่าพวกเราแยกกันตรงนี้เถอะครับ”

                “อ้า ทำไมพวกเราไม่ไปด้วยกันละ คุณไซมอน”ยูกิพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าไม่อยากจะแยกจากโช

                โชไม่ตอบ เขามองไปที่นามิเพื่อให้เธอเป็นคนตัดสินใจ นามิได้แต่ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่พักใหญ่พร้อมพูดว่า

                “เอาเถอะ ถ้ายูกิอยากจะไปกับนาย ฉันก็จะไปด้วยก็แล้วกัน แต่ถ้าพวกฉันสอบตกขึ้นมา นายเตรียมตัวเจอดีได้เลย”

                โชถอนหายใจกับความเอาแต่อารมณ์ของนามิ เขาไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะสำหรับเขาแล้วการเถียงกับคนแบบนี้มีแต่ทำให้ตกต่ำลง ทางที่ดีที่สุดสำหรับรับมือคนแบบนี้คือเงียบเอาไว้ เดี๋ยวเขาก็เลิกบ่นไปเอง โชเปลี่ยนไปมองดาวบนท้องฟ้า จากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า

                “คุณยูกิครับ แผ่นพับที่คุณมีได้บอกไหมว่า อาคารที่พวกเรากำลังจะไปอยู่ทางทิศไหน”

                ยูกิเอาแผ่นพับขึ้นมาดูอีกครั้ง แต่ความมืดทำให้มองไม่เห็นอะไร โชได้แต่ยื่นไฟฉายให้กับเธอเพื่อใช้ส่องแผ่นพับ สักพักยูกิก็พูดว่า

                “ดูเหมือน อาคารที่พวกเราต้องไปจะอยู่ทางทิศเหนือ ถ้าระยะห่างบนแผ่นพับไม่ผิด ระยะทางจากจุดนี้ไปถึงอาคารแห่งนั้นก็น่าจะห่างกันไม่เกิน 5 กิโลค่ะ”

                “ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็คงต้องไปทางนี้ซินะ” โชพูดพร้อมชี้นิ้วไปทางซ้าย นามิได้แต่มองตามก่อนจะถามออกมาว่า

                “นายทราบได้ยังไงว่านั้นเป็นทิศเหนือ”

                “ผมสังเกตจากดาวเหนือที่อยู่บนท้องฟ้านะครับ ถ้าคุณนามิไม่เชื่อ คุณจะดูด้วยตาก็ได้ ดาวเหนืออยู่ทางโน้นไง”โชพูดจบก็ชี้ให้นามิเห็นดาวเหนือที่เขามองเมื่อสักครู่ นามิได้แต่หน้าเบ้เพราะเธอไม่รู้เลยว่าดาวดวงไหนคือดาวเหนือ

                จังหวะที่นามิทำหน้าอย่างนั้น เรียวก็เดินตรงเข้ามาจับไหล่ของโช ก่อนจะพูดว่า“สรุปว่าไปตามดาวเหนือก็พอซินะครับ ลูกพี่”

                “น่าจะใช่ “โชตอบออกมาแบบไม่เต็มเสียงนัก แต่ยังไม่ทันที่โชจะพูดอะไรต่อ เรียวตบอกตัวเอง พร้อมพูดว่า

                “ถ้าเช่นนั้นก็สบายมาก ผมชำนาญเรื่องเดินป่าเป็นที่สุด ผมขอเป็นคนนำทางเองก็แล้วกัน”

                ยังไม่ทันจะมีใครพูดอะไรออกมา เรียวก็จัดการเอาบัตรบางอย่างออกมาแสดงให้ทุกคนได้ดูพร้อมพูดว่า

                “นี้คือ ใบอนุญาตเดินป่า ที่ออกโดยสมาคมผู้รักการเดินป่าแห่งประเทศไทย ขอเพียงมีใบอนุญาตนี้ผมสามารถเดินป่าได้ทั่วทั้งประเทศไทยโดยไม่ต้องขออนุญาตเลยนะครับ”

                “อ้า”เสียงตกใจของยูกิ เทียน่าและนามิดังขึ้นพร้อมกัน โชเองก็แปลกใจไม่แพ้กัน สักพักเขาก็พูดอย่างยิ้มๆว่า

    ”เรียว นายก็มีดีเหมือนกันนะ คงต้องมองนายใหม่แล้วละ”

    เรียวทำท่ายืดอกรับทันที เทียน่ามองเรียว พร้อมพูดว่า”ถ้านายนำทางพวกเราไปถึงอาคารได้โดยปลอดภัย ฉันจะยอมมองนายใหม่ก็ได้นะ”

    “จริงนะ คุณเทียน่า”

    เทียน่าได้แต่พยักหน้ารับคำ เรียวจึงรีบเดินนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว นามิเองก็ดึงมือยูกิให้เดินตามเรียวไป โชเดินเข้ามาใกล้เทียน่าพร้อมพูดว่า

    “เรื่องที่พูดเมื่อกี้ น้องเอาจริงหรือ?”

    เทียน่ายิ้มก่อนจะพูดว่า”ใช่ค่ะ ถ้าเขาทำได้อย่างที่พูด หนูจะมองเขาใหม่ตามที่บอกไว้ โดยเปลี่ยนจากสัตว์เซลล์เดียวมาเป็นพวกตะไคร่น้ำก็แล้วกัน”

    โชถึงกับอึงจนพูดอะไรไม่ถูก เขาไม่คิดว่าเจ้าเรียวจะมีฐานะต่ำขนาดนั้นในสายตาของเทียน่า โชถอนหายใจพร้อมปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านเลยไป สักพักพวกโชก็เดินเข้าไปสมทบกับพวกยูกิ เรียวใช้ไฟฉายของโชในการส่องทางเดินโดยมีพวกโชเดินตามไปติดๆ เรียวจัดว่ายอมเยี่ยมสมราคาคุยเพราะเขามักจะบอกถึงรายละเอียดว่าต้นไม้นี้ชื่ออะไร และทำอะไรได้บ้าง แถมยังบอกถึงรอยเท้าสัตว์ ไม่ก็เสียงแปลกๆที่ได้ยินว่าเป็นเสียงของอะไร ดังนั้นตลอดเวลาที่เดินทางจึงไม่เหงาเลย (ออกจะรำคาญซะมากกว่า)

    โชเองก็ยอมรับว่าเรียวนำทางได้ดีจริงๆ แต่สีหน้าของโชกับกลุ้มใจมากขึ้นเพราะต้องแต่เดินเข้าป่ามา ทุกอย่างยังคงเป็นปกติจนน่าประหลาด เทียน่าที่เห็นโชทำหน้าแบบนั้น เธอก็พูดขึ้นมาว่า

     “พี่ค่ะ ทำไมพี่ถึงเครียดนัก ”

                “ทุกอย่างมันดูง่ายเกินไป แค่เดินผ่านป่า 5 กิโลในเวลาที่กำหนด ดูจะง่ายเกินไปสำหรับการสอบ น้องว่าแบบนั้นไหม ถ้าต้องการทดสอบแค่นี้ไม่เห็นต้องสร้างสถานการณ์อย่างในรอบที่ 3 เลย“

                “จริงค่ะ มันง่ายเกินไปจริงๆนั้นละ หรือว่าทางข้างหน้าจะมีกับดักวางเอาไว้ “

                “ไม่รู้ซิ แต่ที่มั่นใจได้ การทดสอบรอบนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ”

                “อ้า แล้วพวกเราต้องทำอย่างไงดีละค่ะ”เทียน่ารีบถามต่อทันที

                โชได้แต่มองเทียน่า พร้อมพูดว่า”ยัยตัวแสบ คนสอบคือเธอ ไม่ใช่พี่สักหน่อย แล้วทำไมเวลามีปัญหาทีไร เธอถึงได้โยนมาให้พี่แก้ทุกทีเลย ไม่รู้ละ การสอบรอบนี้เธอต้องหาทางแก้เอาเอง พี่จะไม่ช่วยอะไรอีกแล้ว”

                เทียน่าแลบลิ้น ก่อนจะพูดติดตลกว่า”โธ่ พี่ค่ะ ใครใช้ให้พี่เป็นเครื่องมือสารพัดประโยชน์ที่แก้ปัญหาได้ทุกอย่างละ หนูเลยใช้เพลินไปหน่อย”

                โชได้แต่ส่ายหน้า ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตามเรียวที่อยู่ด้านหน้าไป เทียน่าก็ได้แต่เดินตามไป

    หลังจากเข้าป่ามาได้ 30 นาที

              เรียวยังคงเดินนำหน้าโดยมีโชเดินตามประกบ ถนัดมาเป็นเทียน่าที่เดินห่างออกมาเล็กน้อย จากนั้นจึงเป็นพวกยูกิเดินตามมาเป็นการปิดท้าย เรียวเดินนำหน้าอย่างไม่หยุด จนกระทั้งเสียงของนามิดังขึ้นมาว่า

                “ช่วยช้าหน่อย ฉันจะเดินต่อไม่ไหวแล้ว”

                เรียวหันมามองนามิ ก่อนจะพูดออกมาว่า”ตอนนี้พวกเราก็เดินมาไกลพอสมควรแล้ว เอาเป็นว่าพวกเราหยุดพักหน่อยก็แล้วกัน”

                ยูกิ เทียน่าและนามิต่างพยักหน้าเห็นด้วย โชเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาเดินไปยืนใกล้ต้นไม้แห่งหนึ่ง ก่อนจะใช้ก้อนหินที่ตกอยู่ที่พื้นขีดต้นไม้ให้เป็นเครื่องหมายลูกศรเอาไว้ พร้อมคิดขึ้นมาว่า

                (ตอนนี้ขอทำสัญลักษณ์เอาไว้หน่อย เพื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยแก้ปัญหาให้ยัยตัวแสบได้ทัน)

                จังหวะเดียวกับที่โชทำแบบนั้น พวกยูกิและเทียน่าก็นั่งลงพักใกล้ต้นไม้อีกต้น ยูกิรีบเอาน้ำออกมาให้กับนามิ เทียน่าก็เอาอาหารแห้งที่พกมาให้กับเธอด้วย นามิรับน้ำและอาหารมาอย่างงงๆ เธอหันมามองเทียน่าพร้อมพูดขึ้นมาว่า

                “เธอคือ.... 

                “หนูยังไม่ได้แนะนำตัวเลย หนูชื่อ เทียน่า วิชัยชาญ ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ”

                “ฉัน นามิ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”นามิยิ้มออกมาอย่างเต็มฝืน เพราะแค่แรงจะพูดเธอยังไม่มีเลย

                “ยัยนามิ เรื่องแนะนำตัวเอาไว้ทีหลังเถอะ ท่าทางเธอจะเหนื่อยมากเลยนะ ตกลงว่ารอบที่แล้ว เธอไปเจออะไรมากันแน่ ทำไมเธอถึงได้แย่ขนาดนี้”

                “เหอๆ ฉันว่าอย่าพูดถึงมันเลย ยิ่งคิดยิ่งแค้นไอ้พวกชินโตริว”นามิพูดจบก็ยกน้ำในขวดขึ้นมาดื่ม ก่อนจะลงมือกินอาหารแห้งที่เทียน่าให้อย่างไม่เกรงใจใครเลย

                หลังจากพักผ่อนอยู่ได้พักใหญ่ ทุกคนก็ตัดสินใจเดินป่าต่อ แต่หลังจากเดินไปได้อีก 1 ชม.พวกเขาก็ยังไม่ถึงอาคารที่เป็นเป้าหมายเลย  ทุกคนเริ่มแสดงสีหน้าตรึงเครียดออกมา โดยเฉพาะเรียว ที่ดูจะตรึงเครียดยิ่งกว่าใคร โชเห็นท่าไม่ดี เขารีบขอให้ทุกคนหยุดพักอีกรอบ แต่การพักในครั้งนี้ไม่มีเสียงพูดคุยกันแบบในครั้งแรก ทุกคนต่างหยิบน้ำและอาหารแห้งขึ้นมากินเงียบๆ โชมองทุกคน ก่อนจะเดินไปหาต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆพร้อมหยิบหินขึ้นมาเขียนลูกศรเอาไว้อีกครั้ง หลังผ่านไปอีก 10 นาที สีหน้าของทุกคนก็เริ่มจะดีขึ้นตามลำดับ ไม่นานเทียน่าก็หันไปพูดกับเรียวว่า

                “นายเรียว อีกไกลไหมกว่าจะถึงอาคารที่เป็นจุดหมายนะ”

                เรียวพูดว่า”น่าจะใกล้ถึงแล้วนะครับ”

                “อย่ารอช้าเลยพวกเรารีบเดินต่อกันเถอะ”นามิรีบพูดออกมา แน่นอนว่าเทียน่า เรียว ยูกิต่างเห็นด้วย ส่วนโชไม่ได้พูดอะไร เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ซึ่งมันเป็นเวลา 20.40 น. จากนั้นเขาจึงเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าก่อนจะเดินตามไปสมทบกับทุกคน

                เรียวนำทุกคนเดินป่าต่อไป แต่หลังจากเดินมาได้อีกพักใหญ่ นามิก็โวยออกมาว่า”นี้นายเรียว ตกลงว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะไปถึงที่หมายนะ”

                เรียวไม่ตอบ เขาได้แต่พาทุกคนเดินต่อไปด้วยสีหน้าตรึงเครียด โชเห็นสีหน้าของเรียวเขาก็บอกให้ทุกคนพักอีกครั้ง เรียวถึงกับหันมามองเขาพร้อมพูดว่า

                “ไม่ได้ครับ นี้ใกล้จะถึงที่หมายแล้ว ถ้าจะพักก็ไปพักที่ตัวอาคารเถอะ”

                โชมองเรียว ก่อนจะย้ำอีกครั้งว่าให้ทุกคนพักทันที เรียวทำท่าจะค้าน แต่โชก็ชูโทรศัพท์ที่ใช้ดูนาฬิกาเมื่อ 30 นาทีก่อนให้กับเรียวได้ดู แล้วพูดออกมาว่า

                “เรียว ใจเย็นๆ ตอนนี้เพิ่งจะ 21.00 น. พวกเรายังมีเวลาอีก 3 ชม.กว่าจะถึงวันใหม่ นายไม่ต้องอารมณ์เสียไปหรอก ถึงยังไงพวกก็ต้องไปทันแน่นอน”

                เรียวมองโชด้วยสายตาที่บอกไม่ถูก สักพักเขาก็ยอมให้ทุกคนได้พักอีกครั้ง พวกเทียน่าแยกไปนั่งที่ต้นไม้ใกล้ ส่วนเรียวเดินไปนั่งบนก้อนหินที่อยู่ในบริเวณนั้น เขาเอามือทั้งสองข้างจับศีรษะด้วยสีหน้าที่ตรึงเครียด โชเดินไปเขียนลูกศรที่ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะกลับไปนั่งข้างเรียว เขาไม่ได้พูดหรือถามอะไร โชทำแค่หยิบขวดน้ำออกมาเปิดแล้วส่งให้กับเขา เรียวรับขวดน้ำมาดื่มไป 2 อึกโดยยังไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย โชเองก็ไม่พูด เขาหยิบอาหารแห้งที่เตรียมไว้มาแบ่งให้เรียวกิน พวกเขา 2 คนกินน้ำและอาหารแห้งอย่างเงียบๆ เมื่อทั้ง 2อย่างหมดลง โชจึงลุกขึ้นยืนพร้อมพูดว่า

                “พวกเรามาเป็นกลุ่มไม่ใช่มาคนเดียว ถ้ามีปัญหาอย่าเก็บไว้คนเดียวเลย ”

                โชพูดจบเขาก็เดินไปหาพวกเทียน่า เรียวได้แต่มองตาม สักพักเขาก็ลุกขึ้นเดินตามโชไป ทุกคนถูกเรียกมานั่งล้อมวงกันอีกครั้ง เรียวจึงพูดขึ้นมาว่า

                “ตอนนี้พวกเรากำลังหลงทางอยู่ครับ”

                “เอ๋!!”เสียงร้องของนามิ ยูกิ และเทียน่าดังขึ้น โชเป็นคนเดียวที่ดูเหมือนจะยังคงรักษาท่าทางอยู่ได้ สักพักเรียวก็พูดต่อว่า

                “ผมไม่ทราบว่าทำไมเป็นแบบนี้ ผมพยายามเดินไปทางทิศเหนือตามทิศที่ดาวเหนือปรากฏ ถ้าเป็นไปตามที่ผมคิดพวกเราน่าจะถึงที่หมายตอนก่อนพักรอบที่ 2 ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงยังหาไม่เจออาคารแห่งนั้นไม่เจอ สิ่งที่ผมพอจะสรุปได้คือพวกเราหลงทางนะครับ”

                “น่าแปลกนะ ถ้าพวกเราเดินตามดาวเหนือจริง มันไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด แล้วทำไมยังไม่ถึงที่หมายอีก หรือว่า การหาสถานที่ตั้งของอาคารแห่งนั้นจะเป็นการทดสอบในรอบนี้”เสียงเทียน่าดังขึ้น ยูกิ เรียวและนามิต่างเห็นด้วยกับความคิดนี้ มีเพียงโชที่ยังคงนิ่งเฉย

                “ถ้าเป็นการทดสอบหาของ มันก็เข้าทางฉันเลย เดี๋ยวฉันจะใช้พลังตาทิพย์หาให้เอง ดูซิว่าไอ้อาคารแห่งนั้นมันซ่อนอยู่ที่ไหน”นามิลุกขึ้นยืน ก่อนจะใช้ดวงตาจ้องมองไปรอบๆ สักพักเธอก็พูดว่า

                “ตรงนี้ไม่มีวี่แววเลย สงสัยคงต้องเดินดูรอบสักหน่อย พวกเธอก็มาช่วยกันหาหน่อยก็แล้วกัน”

                คำพูดตอนท้ายเป็นการพูดกับเทียน่าและยูกิเท่านั้น สักพักพวกเธอ 2 คนก็ลุกขึ้นยืน ทางด้านเรียวเองก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน เขาพูดออกมาว่า

                “ถ้าเช่นนั้นพวกเราแยกกันหาน่าจะเร็วกว่านะครับ เดี๋ยวผมจะรองไปหาทางด้านซ้าย พร้อมดูด้วยว่าจะมีอะไรช่วยบอกทางได้ไหม ส่วนพวกคุณลองไปหาทางด้านขวา ส่วนลูกพี่ก็.......”

                ยังไม่ทันที่เรียวจะพูดจบ โชก็พูดขึ้นว่า”เดี๋ยวผมจะคอยอยู่ตรงนี้ละกัน เพราะขืนไปกันหมด มีหวังกลับมารวมที่เดิมไม่ได้แน่ และดีไม่ดีอาจจะหลงป่ากันก็เป็นได้”

                “แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน “เรียวพูดออกมา แน่นอนว่านามิดูเหมือนจะไม่ชอบใจอยู่บ้าง ที่โชไม่ยอมทำอะไร แต่เธอก็ไม่กล้าพูดเนื่องจากถ้าให้โชมาช่วยเธอโดยให้ทิ้งยูกิ หรือเทียน่าให้อยู่ที่นี้คนเดียว นามิก็ไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น แต่ถ้าให้โชไปช่วยเรียว เธอก็กลัวจะหลงทางตามที่โชบอกจริงๆ ดังนั้นเธอจึงได้แต่ทำใจยอมรับในข้อเสนอนี้ 

                พอพวกนามิกับเรียวจากไปแล้ว โชสำรวจบริเวณที่เขาอยู่ พร้อมคิดขึ้นมาว่า(ดูท่าป่าแห่งนี้ต้องมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ และนั้นก็คือข้อสอบสำหรับด่านนี้ )

                โชเดินสำรวจไปรอบๆจนไปถึงต้นไม้ที่เขาทำลูกศรเอาไว้ หลังจากสำรวจบริเวณนั้นอยู่พักใหญ่ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา โชจึงเปลี่ยนไปพิงต้นไม้ที่เขียนลูกศรนั้นแทน โชถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาว่า

                “ไม่มีอะไร ดูท่าเราคงจะคิดผิดซะแล้วซิ “

                โชที่นั่งพิงต้นไม้อยู่นั้น เขาก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ซึ่งมันบอกว่าตอนนี้เป็นเวลา 22.00 น.เมื่อเห็นเวลาแล้ว เขาก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมคิดขึ้นว่า

                (เหลือเวลาอีก 2 ชม.ซินะ ถ้ายังหาคำตอบไม่ได้ ยัยเทียน่าคงเสียใจแย่ ไม่อยากให้เธอต้องสอบตกเลย เออ  ผู้เข้าสอบคนอื่นๆไม่รู้ว่าแก้ปริศนานี้ได้ไหมนะ เดี๋ยวซิ ทั้งเรากับไอ้เรียวต่างเดินตามดาวเหนือมายังทิศเหนือ เพราะมั่นใจว่าอาคารที่เป็นเป้าหมายอยู่ทางทิศเหนือ คนอื่นๆก็น่าจะรู้เหมือนกัน แต่ทำระหว่างเดินทางมาถึงไม่ได้เจอใครเลย จริงอยู่ที่พวกเราออกมาเป็นกลุ่มแรก แต่มันก็ไม่น่าจะทิ้งห่างจากคนอื่นๆมากนัก หรือว่า....)

                โชที่คิดได้ เขาหันไปมองลูกศรที่ขีดเอาไว้ โชจ้องมองต้นไม้นั้นอย่างละเอียดพร้อมก้มลงหาของบางอย่างในบริเวณนั้น จากนั้นเขาก็เดินไปหาต้นไม้ที่อยู่ใกล้กัน ก่อนจะทำแบบเดียวกันซ้ำไปมากับต้นไม้ในบริเวณนั้นแทบทุกต้น จนกระทั้งเขาพบก้อนหิน 3 ก้อนที่ที่มีรอยบิ่นที่ด้านใดด้านหนึ่ง โชรีบหันไปมองดาวเหนืออีกครั้ง ก่อนจะคิดว่า

                (ที่แท้การสอบรอบ 3 กับบอลแสงลูกนั้นมีไว้เพื่อแบบนี้เอง ช่างคิดจริงๆ)

    โช ยกมือซ้ายขึ้นมาตรงใบหน้า โดยเขาหันหลังมือออกและหันฝ่ามือเข้าหาใบหน้า จังหวะเดียวกัน โชยื่นนิ้วชี้ข้างขวาและนิ้วกลางข้างขวาไปแตะหลังมือข้างซ้าย ก่อนจะพูดออกมาว่า

    Chance สล็อต ออน!

    พอสิ้นเสียงและท่าทางของโช หลังฝ่ามือซ้ายก็ปรากฏวงกลมที่มีออร่าสีขาวล้อมรอบขึ้นมา ก่อนจะปรากฏตัวเลขโรมันสีเขียวอ่อนขึ้นกลางวงกลมนั้น  I(1) ออกมาหลังฝ่ามือ ไม่นานตัวเลขนั้นก็ทำการหมุนเปลี่ยนเป็นตัวเลข  II(2) .. III(3) ..IV(4)..V(5)...VI(6)...VII(7)... ไปเรื่อยๆเหมือนกับการหมุนรูเล็ต ไม่นานตัวเลขสีเขียวอ่อนก็หมุนเร็วขึ้น จนค่อยๆช้าลงและมาหยุดที่ IV(4) พอเลขโรมันมาหยุดที่ IV(4) เป็นออร่าสีขาวก็กลายเป็นสีเขียวเข้ม แต่ตัวเลขยังคงเป็นสีเขียวอ่อน โชที่เห็นออร่าเป็นสีเขียวเข้มแล้ว เขาก็ยิ้มพร้อมพูดว่า

    “ออกได้เยี่ยม นี้ละสิ่งที่ต้องการ”

                โชหลับตาก่อนจะชูมือซ้ายขึ้นเหนือหัว จากนั้นเขาก็กระแสลมอันแผวเบา เริ่มหมุนวนรอบตัวของเขาอย่างช้าๆ แม้จะขึ้นชื่อว่ากระแสลมแต่มันก็ไม่ต่างไม่จากลมที่มากระทบแก้ม สายลมค่อยแผ่ขยายวงกว้างออกไปจนครอบคลุมบริเวณที่ป่าทั้งหมด ตัวเลขโรมัน IV(4)ที่เป็นสีเขียวอ่อน ค่อยๆลดลงจนตัวเลขนั้นกลายเป็นตัวเลขที่ไม่มีสีอะไรอีกเลย เมื่อสีของตัวเลขหายไป กระแสลมอ่อนๆก็หยุดตาม สักพักตัวเลข IV(4) ก็หายไปจากหลังมือจนหมด โชถอนหายใจ ก่อนจะคิดว่า

                (เออ ทันเวลาพอดี นึกว่าจะหาไม่เจอซะแล้ว ช่างซ่อนตัวได้เก่งจริงๆ ทั้งที่อยู่ใกล้แค่นี้เอง ผู้ใช้พลัง Mind Control )

                ในขณะที่โชกำลังคิดอยู่นั้น พวกเทียน่าและเรียวก็เดินกลับมา โชได้แต่เดินกลับไปที่เดิม พวกเทียน่าและเรียวต่างมีสีหน้าตรึงเครียดอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะนามิดูจะแย่กว่าใคร สักพักโชก็มองเทียน่าเพื่อเป็นการถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น เทียน่าได้แต่พูดว่า

                “พี่นามิแค่เหนื่อยมากเกินไปหน่อยนะค่ะ“

                โชพยักหน้า พร้อมพูดว่า”แล้วไม่ทราบว่าได้ผลอย่างไงบ้าง”

                นามิไม่ตอบ เธอได้แต่ก้มหน้าลง ยูกิเห็นแบบนั้นจึงพูดขึ้นว่า”ไม่ได้ผลค่ะ พลัง Clairvoyance ตาทิพย์ของนามิไม่อาจจะมองเห็นตัวอาคารได้เลย”

                โชมองนามิ ก่อนจะคิดว่า(พลังตาทิพย์ แค่สามารถช่วยให้มองเห็นได้เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปเท่านั้น แต่ถ้าประสาททั้ง 5 โดนพลังMind Control บังคับอยู่ พลังตาทิพย์ก็ไร้ผลอยู่ดี)

                จังหวะที่โชกำลังคิดอยู่นั้น เทียน่าก็หันไปมองเรียว พร้อมถามว่า”ด้านของนายละเป็นอย่างไง”

                เรียวส่ายหน้า พร้อมพูดว่า”ทางผมก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ ผมทดลองเดินไปทุกทางเท่าที่ทำได้ แต่ดูเหมือนจะไม่เจออาคารที่พวกเรากำลังหาเลย”

                เทียน่าได้แต่นิ่งเงียบก่อนจะหันหน้าไปมองโชเหมือนจะบอกว่า พี่จะไม่ช่วยกันหน่อยเลยหรือ? โชได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ เทียน่าทำหน้ามุยลง สักพักยูกิก็หันไปมองโชพร้อมพูดว่า

                “คุณไซมอนไม่มีทางอะไรบ้างเลยหรือ?”

                โชไม่ตอบ เขาคิดขึ้นมาว่า(แบบนี้จะเอาไงดีนะ ไอ้ผมจะพูดออกไปตรงๆเลยก็ได้หรอก แต่ขืนทำอย่างนั้น มันจะเป็นการสบายเทียน่ามากเกินไปนะซิ ไหนจะสภาพของนามิและไอ้เรียวที่ทำท่าหมดอะไรตายอยากอีก ขืนไม่เรียกความหมั่นใจกลับมามีหวังไม่ต้องสอบต่อกันแล้ว)

                โชที่คิดแบบนั้น เขาก็แกล้งส่ายหน้าพร้อมพูดว่า”ไม่ครับ ครั้งนี้ผมเองก็จนปัญญา”

                คำพูดของโชทำเอายูกิ เรียว และนามิต่างหน้าเสียไปตามกัน มีเพียงเทียน่าที่มองโชต่างออกไป เธอคิดขึ้นว่า

                (ดูเหมือน พี่โชน่าจะแก้ปริศนาได้แล้วซินะ แต่กลับไม่ยอมใบ้อะไรเลย แบบนี้มันแย่ยิ่งกว่าไม่ช่วยอีก จำไว้เลย หนูจะไม่สนใจกับพี่อีกแล้ว )

                เทียน่าพูดจบ เธอก็สะบัดหน้าไปอีกทาง โชอมยิ้มขึ้นมา พร้อมคิดว่า(ดูทำเข้า ยัยน้องตัวแสบ ทั้งที่เป็นการสอบของตัวเองแท้ๆ กลับมางอนเพราะผมไม่ยอมช่วย ช่างเป็นเด็กไม่ยอมโตจริงๆ )

                โชที่คิดอย่างนั้น เขาแกล้งทำหน้าเครียด ก่อนจะพูดว่า”ในเมื่อไม่มีทางอื่น ผมว่าพวกเราลองเดินต่อไปอีกหน่อยดีไหม เพื่อพวกเราจะพบอะไรที่พอเป็นเบาะแสขึ้นมาบ้าง”

                “มันก็คงมีแต่ทางนั้นละครับ ลูกพี่”เรียวเห็นด้วยกับสิ่งที่โชพูด ส่วนพวกยูกิเองก็พยักหน้าเห็นด้วย มีเพียงเทียน่าเท่านั้นที่ไม่พูด หรือแสดงท่าทางยอมรับอะไรออกมา โชยิ้มก่อนพูดต่อว่า

                “เมื่อทุกคนเห็นด้วย ผมว่าให้ทุกคนนั่งพักต่อไปอีกสัก 10 นาทีแล้วค่อยออกเดินทางก็แล้วกัน”

                พวกเรียวต่างพยักหน้าเห็นด้วยอีกครั้ง สักพักโชก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะทำท่าเดินแยกตัวออกไป ยูกิที่เห็นจึงถามออกมาว่า

                “เออ คุณไซมอนจะไปไหนหรือคะ”

                โชยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดว่า”ผมจะไปยิงกระต่ายนะครับ ดูเหมือนว่าผมจะดื่มน้ำมากเกินไปนะ”

                ยูกิได้ยินอย่างนั้น เธอถึงกับก้มหน้าด้วยความอาย โชได้แต่เดินเข้าไปในจุดที่ไม่มีคนเห็น จากนั้นเขาก็มองรอบๆ ก่อนจะเจอต้นไม้ที่เป็นเป้าหมาย เขาเดินมาหยุดที่ต้นไม้นั้น เขาจะหันกลับไปดูจุดที่ทุกคนอยู่ เมื่อแน่ใจว่าทุกคนยังอยู่ที่จุดเดิม เขาจึงหันไปหาต้นไม้นั้นพร้อมพูดว่า

                “มีคนเคยบอกผมว่า ถ้าคุณคิดจะเดินป่า คุณจะต้องเคารพเจ้าป่าเจ้าเขาถึงจะปลอดภัยในการเดินทาง ผมจึงอยากขอใช้โอกาสนี้บนบานต่อต้นไม้ต้นนี้ ให้ต้นไม้ช่วยไปบอกเจ้าป่าเจ้าเขาที่กำลังดูพวกผมอยู่นั้น ให้ช่วยบอกทางออกที่แท้จริงให้กับพวกผมด้วย “

                โชหยุดเล็กน้อยเพื่อรออะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจึงพูดออกมาว่า”ต่อจากนี้ไปเป็นการพูดกับตัวผมเองนะครับ ถ้าท่านเจ้าป่าได้ฟังแล้วห้ามโกรธ หรือ ต่อว่าผมละ ผมไม่มีเจตนาลบหลู่ท่านเลย”

                สายลมอ่อนๆพัดมากระทบหน้าโช แต่เขาดูจะไม่สนใจเลย เขาพูดต่อว่า”ความจริงแล้ว ผมคิดว่าพวกผมยังไม่ได้เดินไปไหนเลย พวกผมยังคงอยู่ในจุดเดิมที่ออกจากเส้นทางใต้ดิน แถมป่าที่พวกผมสัมผัสได้นี้ก็เป็นแค่ภาพลวงตาที่ส่งตรงถึงสมองของพวกเรานั้นเอง ผู้ที่ทำแบบนี้ต้องชำนาญการใช้พลังสาย Mind Control อย่างแน่นอน“

                โชหยุดเล็กน้อยเหมือนเขากำลังรอให้ต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าพูดอะไรออกมา แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย โชจึงพูดต่อว่า

    ”คุณต้นไม้และท่านเจ้าป่าคงไม่รู้ซินะว่า พลัง Mind Control คือพลังอะไร มันเป็นพลังที่จะสามารถควบคุมจิตใจของสิ่งมีชีวิตอื่น รวมทั้งอาจจะสร้างภาพลวงตาขึ้นมาหลอกการเห็นของผู้อื่นได้ จนถึงอาจจะยิงภาพที่ผู้ใช้พลังคิดเข้าไปในสมองโดยตรงได้อีกด้วย สำหรับผู้ใช้พลังชั้นสูงอาจจะควบคุมประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้อื่นให้รู้สึกได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการก็ยังได้

                สายลมเริ่มแรงขึ้น แต่ต้นไม้ยังคงเดิม โชรีบพูดต่อว่า”แม้พลัง Mind Control จะเป็นพลังที่ยอดเยี่ยมแต่มันก็มีข้อเสียอย่างร้ายกาจ นั้นคือพลังนี้จะใช้กับคนที่มีพลังจิตแข็งกว่าตัวเองไม่ได้ ดังนั้นในห้องพักก่อนที่จะมาถึงสนามสอบนี้จึงจำเป็นต้องทำให้ผู้เข้าสอบอยู่ในสภาวะตรึงเครียดถึงขีดที่สุดเท่าที่จะทำได้ และการกังวลตลอดเวลาที่อยู่ในห้องพักจะทำให้บันทอนสมาธิได้เป็นอย่างดี เมื่อผ่านห้องพักนั้นมา ผู้เข้าสอบก็จะเจอกับป่าที่ไม่มีอะไรนอกจากความมืด ผมเชื่อว่าคงมีผู้เข้าสอบจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกกลัวกับสิ่งที่เห็น และเมื่อมีบอลแสงปรากฏขึ้นมา “

                โชหยุดพูดอีกครั้งเพื่อดูปฏิกิริยาของต้นไม้ แต่มันก็ยังไม่ปฏิกิริยาอะไรเหมือนเดิม สักพักเขาก็พูดต่อว่า    

                “การปรากฏของบอลแสงในความมืดมิด ผมเชื่อว่าคงมีผู้เข้าสอบไม่น้อยที่รู้สึกดีที่เห็นแสงนั้น แน่นอนว่าผมก็เป็น 1 ในคนพวกนั้นด้วย แต่ผมไม่คิดเลยว่าความโล่งใจในช่วงพริบตาจะเป็นเหตุทำให้ใครบางคนใช้พลังสะกดผู้เข้าสอบทั้งหมด และถ้าให้ผมเดาเหตุการณ์ต่อจากนั้นไม่ว่าบอลแสงที่ระเบิด หรือเสียงที่ประกาศให้ทุกคนได้ยิน ล้วนเกิดจากพลัง Mind Control ทั้งหมดนั้นเอง เออ ใครจะคิดว่าการเสียสมาธิเพียงเล็กน้อยจะทำให้ตัวเองต้องหลงป่านานกว่า 3 ชม. ผมนี้แย่จริงๆเลย ถ้าคุณต้นไม้เห็นใจคนโง่อย่างพวกผม คุณต้นไม้ช่วยไปบอกเจ้าป่าเจ้าเขาให้ปล่อยพวกผมออกไปจากเขาวงกตนี้ทีเถอะ ผมเบื่อจะเดินป่าแบบวนไว้วนมาแล้วครับ”

                โชพูดจบก็โค้งตัวให้กับต้นไม้ต้นนั้นอย่างสวยงาม พอโชจากไปแล้ว ต้นไม้ก็สั่นไว้เล็กน้อยเหมือนกับกำลังถอนหายใจให้กับสิ่งที่โชพูด แต่สักพักมันก็กลับเป็นปกติ ทางโชเมื่อเดินกลับมายังจุดเดิม พวกเรียวก็ได้เตรียมที่จะเดินทางต่อแล้ว สักพักเรียวก็พูดออกมาว่า

                “ลูกพี่ครับ ทำไมช้าจังเลย อย่าบอกนะว่านอกจากยิ่งกระต่ายแล้ว ลูกพี่ยังทำธุระหนักด้วยนะ”

                โชยิ้มแหยๆ ก่อนจะพูดว่า”มันก็ประมาณนั้นละ “

                “ยี้!! นายไปไกลๆเลยนะ ห้ามเข้าใกล้ฉันหรือยูกิอย่างเด็ดขาด”เสียงร้องของนามิดังขึ้นมา เธอดึงเอายูกิไปไว้ข้างกาย เทียน่าได้แต่มองโชอย่างบอกไม่ถูก จังหวะนั้นเองที่เรียวบอกให้ทุกออกเดินทางต่อไป นามิและยูกิรีบเดินไปคู่กับเรียว  โชที่เห็นเขาจึงคิดขึ้นว่า

                (เอาใจคิดดีนะ เรียวเป็นคนนำทาง ในขณะเดียวกันก็ให้นามิใช้พลังตาทิพย์ในการช่วยค้นหาเป้าหมาย หรือเส้นทางที่ซ่อนอยู่ ส่วนยูกิก็คอยใช้พลังรักษาเพื่อลดผลกระทบของพลังตาทิพย์ ส่วนเทียน่ากับผมก็คอยระวังสิ่งที่เข้ามา ช่างเป็นรูปแบบที่เหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้จริงๆ)

                จังหวะที่โชกำลังคิดแบบนั้น เทียน่าก็เดินเข้ามาใกล้ พร้อมกระซิบว่า”พี่ค่ะ ตกลงว่าพี่ไปทำอะไรมา"

                “อ้าว พี่ก็บอกไปแล้วนี้ว่าไปยิงกระต่ายมา แต่พอดีติดธุระหนักด้วย เลยจัดการพร้อมกันทีเดียวนะ”

                “แน่ใจว่าแค่นั้นจริงๆนะค่ะ”เทียน่าถามออกมาพร้อมใช้สายตาจ้องมองโชเพื่อจะจับผิด

                โชได้แต่ยิ้มพร้อมพูดว่า”แน่ซิ ถ้าไม่ใช่แบบที่พูดมา แล้วมันจะเป็นแบบไหนไปได้ น้องละหาทางออกจากป่าได้หรือยัง”

                “ยังเลยค่ะ พี่เล่นไม่ใบ้อะไรให้หนูรู้เลย แล้วหนูจะทราบได้อย่างไรกัน พี่ชายสุดเท่ พี่ชายสุดหล่อจนสาวหลงช่วยบอกหนูหน่อยว่าควรทำยังไงดีน้า”เทียน่าทำหน้าตาอ้อนอย่างสุดชีวิต

                โชดีดหน้าผากเทียน่าเบาๆ ก่อนจะพูดว่า”ยัยตัวแสบ อย่ามาอ้อนซะให้ยาก พี่ไม่หลงกลหรอก”

                “โธ่ พี่โช บอกหนูหน่อยซิ ใบ้สักนิดก็ยังดี นิดเดียวจริงๆ”เทียน่าพูดพร้อมพนมมือขอร้อง

                “ไม่ได้ พี่บอกแล้วไงว่ารอบนี้พี่จะไม่ช่วยแล้ว ดังนั้นอย่างมาข้อร้องให้ยากเลย”

                เทียน่าหน้ามุยลง ก่อนจะแลบลิ้นใส่โช พร้อมพูดว่า”แบ ถ้าพี่ไม่ช่วยหนูไม่ง้อก็ได้ คอยดูเถอะหนูจะใส่ไฟเรื่องของพี่กับพี่ยูกิ จนพี่ยูกิเลิกสนใจในตัวพี่เลย”

                โชได้แต่ยิ้ม ก่อนจะพูดว่า”ตามใจ พี่ไม่ห้าม”

                “เชอะ ”เทียน่าร้องออกมาก่อนจะวิ่งไปรวมกับพวกยูกิ โชได้แต่ส่ายหน้าให้กับน้องสาวที่ไม่ยอมโตสักที เขาหันไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาว่า

                “หวังว่าท่านเจ้าป่าจะยอมปล่อยพวกเราไปนะ ไม่เช่นนั้นคงต้องใช้เจ้านั้นในการเปิดทางแล้วละ”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×